Share

Chapter 10 "นะ..." 2

last update Last Updated: 2024-12-07 10:50:26

“พ่อแม่ผมถูกคลุมถุงชน”

ชวินทร์เล่าเสียงเรียบ อีกมือหนึ่งรินไวน์จากขวดลงแก้ว

“แต่ท่านก็อยู่ด้วยกันดี เป็นแบบเพื่อนมากกว่า พ่อมีบ้านเล็กบ้านน้อยบ้าง แต่กฎเหล็กเลยคือห้ามมีลูก”

เขาเล่าโดยไม่ปิดบัง

“แม่โน้ตนี่ใจกว้างดี เป็นฉันทนไม่ได้แน่ ถ้ามีคนอื่นก็หย่าเหอะ ให้จบๆ เรื่องไป อย่ามาคาราคาซัง”

คนฟังขำอารมณ์เดือดเกินคาดของเธอ

“ดาวขี้หึงนี่”

“คนรักกันไม่ยอมหรอก”

พูดแล้วแทบกัดลิ้นตัวเอง

“ฉันไม่ได้หมายถึงแม่โน้ต ไม่ได้รักพ่อโน้ตนะ”

เธอออกตัว หลังจากคิดได้ว่าพูดอะไรพลาดไป

“ผมเข้าใจ ทั้งสองคนแฮปปี้ดี ดาวไม่ต้องห่วงหรอก”

ชวินทร์ชินเสียแล้วกับบรรยากาศเย็นชาบางครั้งระหว่างพ่อกับแม่ จนบางทีคิดว่าความรักอาจจะไม่เคยเกิดขึ้นกับทั้งสองเลย คนของเขามาเก็บโต๊ะ แต่ชวินทร์เอามือปิดปากแก้ว ส่ายหน้าให้รู้ว่าไม่ต้องเก็บไวน์เขา

“ฟังเพลงกันหน่อยไหม”

“ไม่เอาอ่ะ เพลงสมัยนี้ฉันไม่คุ้น”

“พูดเหมือนคนแก่ แค่ผ่านไปหกปีเอง”

ชวินทร์ต่อไอโฟนกับลำโพงบนโต๊ะไม้สีเข้มติดผนัง เขาเปิดเพลงเบริ์ด ธงชัย แมคอินไตย

“โน้ตยังเก็บเอ็มพีสามเพลงนี้ไว้อีกเหรอ”

“เดี๋ยวนี้เขาฟังเพลงผ่านระบบสตรีมมิ่งกันแล้วเธอ”

เขาล้อ เพลงพี่เบริ์ดจังหวะสนุก จนอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าตามทำนอง ส่วนชวินทร์นั้น ลุกขึ้นเต้นตามแบบเก้ๆ กังๆ ท่าผิดบ้างถูกบ้างจนเธอหลุดขำ เขาเมามากจริงๆ นั่นแหละ

จากนั้นเพลงเปลี่ยนเป็นเพลงเศร้าจากนักร้องรุ่นเธอยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ทำให้ย้อนหวนไปสู่วันเวลาในอดีต

“เพลงนี้โน้ตเคยเล่นเปิดหมวกใต้ตึกคณะนี่”

เธอสะดุดเมื่อเสียงกีตาร์อะคูสติคเพลงต่อมาดังขึ้น

“ที่เราระดมทุนไปออกค่ายต่างจังหวัดไง จำได้ไหม”

ไม่พูดเปล่า ชวินทร์ยังทำท่าดีดกีต้าร์ประกอบ การเข้าค่ายตอนอยู่ปีสอง เขาเป็นพี่สันทนาการรูปหล่อ ขณะเธอช่วยหั่นผักอยู่ในครัว

“แล้วจำไอ้กอล์ฟได้ไหม ที่มันไปกินเหล้าดองยากับคนในหมู่บ้าน เมาจนเดินตกบ่อปลา”

เป็นเรื่องขบขันของคนทั้งค่าย ขณะเดียวกันก็โดนอาจารย์สวดยับเรื่องให้ระวังความประพฤติ

“คิดถึงสมัยนั้นเนอะ”

“ฮื่อ”

วันเวลาที่เขากับเธอเป็นเพียงเพื่อน วันเวลาที่เธอแอบรักเขาข้างเดียว แค่อยู่ในห้องเรียนเดียวกัน เขาเรียกชื่อเธอผ่านๆ เนตราก็ปลื้มใจแทบแย่แล้ว

เสียงเพลงยุคเธอและเขายังบรรเลงต่อเนื่อง ต่างคนต่างนั่งฟังกันเงียบๆ ซึมซาบความสดใสและขื่นหวานของวัยเยาว์ที่ไม่อาจหวนคืน

“ฉันไปนอนละนะ”

เพลงเศร้าประเภทแอบรักอีกเพลงหนึ่งจบลง เนตราจำต้องลา มิเช่นนั้นอาจมีน้ำตาซึมอีกรอบ เพราะเนื้อเพลงตรงกับชีวิตเธออย่างจัง

“ยังไม่ดึกเลย อยู่คุยกันก่อน หรือจะดูหนังก็มีนะ”

เจ้าบ้านชวน ไม่อยากให้ราตรีนี้จบลงเร็วนัก

“ไม่ล่ะ วันนี้เพลีย เจอทั้งแดดทั้งลมทะเล”

เธอยิ้มบาง อ้างเหตุผลเหมาะๆ

“ผมไปส่ง”

เขายืดตัวขึ้นเต็มความสูง ชวินทร์คอแข็งมาก ขนาดดื่มไปค่อนขวดยังยืนตรง หน้าไม่แดงซักนิด มีแค่เสียงที่ทุ้มต่ำกว่าปรกติ

“บ้านหลังแค่นี้เอง ฉันไม่เดินหลงหรอก”

เนตราก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเช่นกัน

“ผมอยากไปส่งดาวที่ห้องแค่นั้นเอง”

เขาเดินมาใกล้ ไออุ่นบางเบากรุ่นกำจายจากตัว ชวินทร์ตัวหอม แม้อยู่ในชุดเดิมตั้งแต่เช้า ภายในช่องท้องเธอบีบรัดน้อยๆ เอ...หรือว่าวิญญาณเจ้าปูอาหารเย็นแอบแกล้งเธอ

“นะ...”

ดวงตายาวรีดำสนิททอดมา เนตราใจอ่อนยวบ ไม่เคยเห็นเขาทำแบบนี้

“ตามใจ นี่บ้านโน้ตนี่”

เธอหลบดวงตานั้นเสีย ก้าวเดินนำหน้า

“อาหารเย็นอร่อยไหม”

ชวินทร์ชวนคุย

“อร่อย น้ำจิ้มแซ่บมาก”

“ฝีมือผมเอง”

“จริงอ่ะ”

“ก็เล่าแล้วไงว่าตอนอยู่อเมริกาผมทำอาหารไทยกินเอง”

เธอนึกภาพเขาโขลกพริกแล้วอดยิ้มไม่ได้ หนุ่มมาดดีกับครกสากในครัว

“ขำอะไร”

“โน้ตอยู่ในครัวนี่คงแปลกน่าดู”

“ผมยังเคยทำสปาเก็ตตี้ให้ชิมเลย คุณบอกว่าอร่อย สปาเก็ตตี้เบคอนมะเขือเทศกับสวีทเบซิล ดาวไม่ชอบซอสแบบครีมข้นๆ”

เนตราจำไม่ได้ แต่เรื่องที่เธอไม่ชอบซอสครีมนี่คือเรื่องจริง มีแต่คนในครอบครัวที่รู้ ด้วยแม่เป็นคนทำให้ทาน และยามเป็นนักศึกษาเธอไม่มีเงินพอจะไปกินอาหารหรูหราเช่นนี้กับเพื่อน

“โน้ตทำอาหารให้ฉันกินบ่อยเหรอ”

“นานๆ ที ถ้าว่าง”

“วันหยุดเราชอบทำอะไรกัน”

“ขับรถเที่ยว ดาวชอบดูวิว ธรรมชาติ ชอบทะเลมากกว่าภูเขา” ยิ่งเขาเล่ามา ก็ยิ่งถูก เขารู้รสนิยมเธอจริงๆ ด้วย ทั้งสองขึ้นมาจนถึงหน้าห้องเธอ

“ราตรีสวัสดิ์นะ”

เนตรายิ้มให้เขานิดหนึ่ง แล้วหันหลัง กำลังจับลูกบิดประตู มือแข็งแรงยื่นมาทับมือไว้ เธอหันมา ตั้งใจจะถามว่าทำเช่นนี้ทำไม

ชวินทร์โน้มตัวมาใกล้ ใบหน้าห่างกันเพียงคืบ ก่อนจะแนบสนิทด้วยริมฝีปาก เธอตาโตมือตกไปอยู่ข้างตัว ลิ้นอ่อนนุ่มชำแรกผ่านเข้าทักทาย

แม้พยายามถอยห่าง แต่ยิ่งคนรุกไล่ยังพยายามต่อ ชวินทร์ปิดกั้นลมหายใจเธอ สูบเอาทั้งหมดเป็นของเขา

เนตราสติกลับคืน ส่งเสียงอู้อี้ประท้วง มือยกขึ้นผลักอกกว้างที่แข็งเหมือนกำแพงให้ถอยห่าง ทว่าชวินทร์ชิมรสนุ่มหวานจนเพลิน รู้สึกตัวอีกที คู่กรณีก็มือตกผล็อย เนื้อตัวอ่อน

“ดาว”

“ฉันหายใจไม่ออก”

เธอละล่ำละลักสูดอากาศให้เต็มปอด

“หายใจทางจมูกสิ อย่าใช้ปาก”

ชวินทร์ที่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกผิดอะไรเลยบอก เนตราสูดลมหายใจลึก

“บอกแล้วไง อย่ารุ่มร่าม”

“แค่จูบเอง คืนนี้ดาวน่ารักเป็นพิเศษ”

เนตราหน้าร้อน ไม่กี่ครั้งนักที่มีคนชมเธอเช่นนี้ โดยเฉพาะคนหล่ออย่างชวินทร์

“ไม่ใช่จูบแรกของเราเสียหน่อย”

คนพูดตาปรอย มองริมฝีปากบางสีระเรื่ออย่างเว้าวอน

“แต่ฉันจำอะไรไม่ได้นี่”

“งั้นผมจะช่วยเตือนความทรงจำให้”

 ชวินทร์โน้มใบหน้ามาจูบต่อ เธอพยามแย่งชิงริมฝีปากตัวเองกลับมา ดูเหมือนจะไม่ได้ผล ยิ่งขยับ ชวินทร์ยิ่งเข้ามาล้ำลึก

ในเมื่อปากโดนครอบครอง เธอจำต้องเปลี่ยนมาหายใจทางจมูก แล้วก็ดีขึ้นอย่างที่เขาบอกจริงๆ แหละ ลิ้นเขาสำรวจไปทั่วโพรงปาก สลับกับยั่วเย้าให้เธอออกมาค้นหาเขา ทีแรกเนตรากล้าๆ กลัวๆ

เขาเชื้อเชิญเธอเข้าหา โดยการแทรกมือใต้กลุ่มผม ประคองศีรษะเธอตั้งขึ้น อำนวยความสะดวกให้เธอกับเขาใกล้ชิดกันมากขึ้น

เนตราไม่เคยจูบกับใครนอกจากชวินทร์ เธอจึงไม่อาจบอกได้ว่าเขาจูบเก่งหรือไม่ รู้แต่ว่าตอนนี้เธอวาดแขน โอบลำคอเขา ดวงตาหลับพริ้มเหมือนตกอยู่ในความฝัน

“ดาวอยู่กับผมคืนนี้...นะ”

เนตราไม่อาจต้านเสียงกระซิบนี้ได้ เลือดสาวทั่วกายแล่นพล่าน เธอรู้สึกเหมือนในคืนนั้น คืนที่เขาเป็นของเธอและเธอเป็นของเขา

ชวินทร์ผลักบ้านประตูออกด้วยแรงเท่าที่มี เขาดันเธอไปที่เตียง ปลดกระดุมเสื้อออก มือเนตราก็ซุกซนขยับเข้าไปในเสื้อเขา สัมผัสเนื้อแท้ที่แข็งแรงและแน่นตึง

“อยากถอดให้ผมเหรอ”

เขาหัวเราะหึๆ หลังปอกเปลือกเธอออก เหลือเพียงชั้นในตัวจ้อย

“ผมตามใจดาวเลย”

ชวินทร์เคลื่อนริมฝีปากลงสู่ลำคอเธอ จุมพิตความหอมหวานของวัยสาว

เนตราแกะกระดุมเสื้อเขาออกด้วยมือสั่นระริก เขารีบช่วย โดยการสะบัดมันไปอีกทางหลังจากกระดุมเม็ดสุดท้ายหลุดจากรังดุม เนตรารู้สึกถึงอากาศเย็นปะทะผิวยามชั้นในถูกปลดออกแล้ว

ปลดล็อกซิปกางเกงรูดลง ทั้งเขาและเธอก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า เขาจูบเธอทุกส่วนสัด วัดขนาดส่วนเว้าโค้งด้วยมือของตัวเอง รวมถึงส่วนลึกลับในกาย ที่แม้แต่เธอเองยังไม่เคยสัมผัส เนตราเรียกชื่อเขาเสียงโหย

ชวินทร์ทำให้เธอต้องการ ...อยากให้เขามาเติมเต็ม สัมผัสเขาเร่าร้อนแต่ไม่รุนแรง ครั้งแรกเริ่มทักทายให้กายเธอผ่อนคลาย

ก่อนค่อยทวีความต้องการของเขาให้หนักขึ้น ...หนักขึ้น จูบแล้วจูบเล่าที่เขาบรรจงมอบให้เธอสุขไปกับเขา อ้อมกอดแข็งแกร่งที่รัดเธอไว้

ปลายปทุมถันที่เสียดสีความแข็งแรง เนตราลืมหมดสิ้นทุกเหตุและผล เธอรู้อย่างเดียวว่าวินาทีนี้ ชวินทร์เป็นของเธอ และเธอเป็นของเขา อย่างเต็มใจโดยไม่มีการบังคับ

หากนี่เป็นฝัน คงจะเป็นฝันดีที่สุดในชีวิตเธอเลย เนตราคิดก่อนสติจะดับวูบไปพร้อมการครอบครองรอบสุดท้ายจากกายเขา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ดาวคะนึงรัก   Chapter 54 ‘You’ re my everything’ 2

    “ไม่เจอกันกี่ปีนะ หกปีแล้วใช่ไหม นายเป็นยังไงบ้าง”ฟลุ๊คถามไถ่เริ่มต้นบทสนทนา“ก็ดี ฉันดูแลกิจการครอบครัว”“ถามจริงกับดาวนี่ นายกะจริงจังกับเขานานขนาดไหน”นิ้วเรียวแกร่งที่กำลังจะกดปุ่มเลือกกาแฟจากตู้ชะงัก ดวงตาฟลุ๊คแสดงความไม่เชื่อใจฉายชัด“ถามอย่างนี้มีเคืองนะเว้ย มาต่อยกันดีกว่า”ชวินทร์มองหน้าอีกฝ่ายหมิ่นๆ“ไม่เอาล่ะ ขืนต่อยนายดาวจะพาลโกรธฉัน ฉันกับพวกสาวๆ เป็นห่วงดาว ถ้านายคิดจะเล่นๆ กับเขาก็พอได้แล้ว”เขาพุ่งตัวมา สองมือกระชากคอเสื้อฟลุ๊ค เพื่อนเนตราดาวเตี้ยกว่าเขานิดหน่อย จึงกลายเป็นต้องเขย่งเท้า“อย่าพูดหมาๆ แบบนี้อีก”ชวินทร์กัดฟันกรอด“พูดเรื่องจริงต่างหาก เมื่อหกปีก่อนตอนดาวเสียใจก็มีพวกฉันนี่แหละที่อยู่ปลอบใจ ตอนนั้นนายยังไปง้อแจงอยู่เลย” อีกฝ่ายไม่กลัวเขาเสียด้วย คิดว่าเป็นไงเป็นกัน ถ้าต้องมีเรื่องก็พร้อม“เออ เรื่องตอนนั้นฉันยอมรับผิด แต่ตอนนี้ไม่เหมือนตอนนั้น ฉันจริงใจกับดาว”“ฉ

  • ดาวคะนึงรัก   Chapter 53 ‘You’ re my everything’ 1

    ชวินทร์กลับบ้านตอนห้าโมงเย็น เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุด เตรียมไปเฝ้าเนตรา คนรับใช้รีบรายงานเขาทันทีว่ารัชนีรออยู่ในห้องนั่งเล่น มีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขา“อาการเขาเป็นยังไงบ้าง เด็กคนนั้นที่ชื่อดาวน่ะ”เนตราเล่าว่าโดนไล่ออก ชวินทร์ไปไล่เบี้ยกับฉัตรบรรณ พบว่าคำสั่งมาจากฉวีวรรณ ฉัตรบรรณรอคุยกับมารดาช่วงเช้า แต่ท่านก็เลี่ยงด้วยเหตุผลไม่สบายสองหนุ่มวิเคราะห์กันว่ามารดาทั้งสองรวมหัวกันเล่นงานเนตรา เขาไม่แปลกใจนักที่ท่านรู้เรื่องเธอเข้าโรงพยาบาล“ฟื้นแล้วครับ ยังปวดหัวนิดหน่อย เพราะซ้ำรอยแผลที่เคยแตกเดิม”รัชนีพยักหน้า“แน่ใจแล้วเหรอกับคนนี้น่ะ แม่เห็นเขาหาแต่เรื่องเดือดร้อน เสียชื่อเสียง”“แล้วคนยังไงละครับที่คุณแม่ชอบ แบบแจงหรือเจมี่”ดวงตาภายใต้คิ้วเข้มวาวขึ้นทันใด เมื่อนึกถึงสิ่งสองคนนั้นทำ“อย่าประชดแม่นะ”นางเอ็ด แต่ลูกชายไม่สน“ถ้าเป็นดาว เขาจะไม่ทำให้ใครเจ็บตัว ว่าร้ายใครก็ไม่เคย”“ลูกตีค่าผู้หญิงคนนี้สูงไปหรือเปล่า”

  • ดาวคะนึงรัก   Chapter 52 สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม 3

    “ใครกันมาแต่ไก่โห่”บิดาตวาดด้วยอารมณ์กำลังขึ้น คนรับใช้หน้าเสีย“เขาบอกว่าเป็นลูกน้องเฮียไช้ค่ะ” ชื่อที่ได้ยินทำเอาชะงัก“คุณยังติดต่อกับไอ้เสี่ยนั่นอยู่เหรอ”ภรรยาเบ้ปากอย่างรังเกียจ“ไหนว่าคืนเงินที่ยืมมันหมดไปแล้วไง”สามีหลบตา เดินออกประตูไปหาแขกที่มิได้เต็มใจต้อนรับ“คุณเดี๋ยวก่อนสิ กลับมาพูดกันก่อน!”มารดาดุลยาร้องไล่หลัง“ใครมาหาพ่อคะแม่”“เสี่ยเจ้าของบ่อนที่พ่อแกไปยืมเงินไงล่ะ”นางตอบเสียงสะบัด“ไหนคุณพ่อบอกว่าเล่นพนันนิดๆ หน่อยๆ ไงคะ”บิดาเธอชอบแบบนี้ ท่านมีเพื่อนก้วนที่เล่นกันประจำ โดยเล่าว่ากินเงินกันขำๆ“นิดหน่อยกับผีล่ะสิ เป็นหนี้เสี่ยนั่นทีเป็นสิบล้าน ถามทีไรก็บอกแต่ว่าคืนแล้ว นี่ไม่รู้รอบใหม่เอามาอีกเท่าไร”ดุลยาอึ้งกับความจริงในฐานะครอบครัวที่ยอบแยบมากกว่าที่คิด“พ่อแกก็เป็นแบบนี้ บริหารงานรึก็ไปไม่รอด ญาติคนอื่นก็รอจะฮุบบริษัท”มาร

  • ดาวคะนึงรัก   Chapter 51 สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม 2

    “แล้วนี่ละพี่”ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเข้ามาพร้อมโทรศัพท์มือถือเครื่องคุ้นตา“ทั้งไลน์ที่ส่งให้คุณเจมี่ คุณแจง ทั้งรูปถ่าย”ฉัตรบรรณรับมาสไลด์ดูช้าๆ ชัดๆ พร้อมกับคิ้วที่ค่อยๆ ขมวดเข้าหากัน ภิรมย์เหงื่อแตกอ้าปากพะงาบๆ“อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะคุณแปง คือ...”“รูปนี้ของผมกับดาวมาอยู่ในกล้องพี่ได้ยังไง”ชายหนุ่มเปิดรูปที่เขาปลอบเนตรดาวในวันที่เธอร้องไห้“...พี่เซฟรูปมาจากที่เขาแชร์กันมา”โธ่เอ๋ย! เธอน่าจะตั้งรหัสโทรศัพท์ตั้งแต่แรก เป็นผลจากความกลัวจำไม่ได้ ประมาทว่าจะไม่มีใครยุ่งกับของตัว“แล้วในไลน์ล่ะ”ฉัตรบรรณกดไปดูแอปพลิเคชั่นแชทสุดฮิตในทันใด แชทกลุ่มเจมิลลากับดุลยาปักหมุดไว้บนสุด เขาไล่สายตาตามบทสนทนาทุกบรรทัด ดุลยาเป็นตัวเสี้ยม ภิรมย์เป็นลูกคู่ ช่วยกันวางแผนบงการให้เจมิลลาไปทำเรื่องต่างๆ“ยังมีที่ไปปั่นเฟซอีกค่ะ”เจ้านายกดปิดหน้าจอ เพราะข้อมูลเพียงแค่นี้ก็เพียงพอต่อการตัดสินใจแล้ว“พี่ไปเซ็นใบลาออกที่เอชอาร์ได

  • ดาวคะนึงรัก   Chapter 50 สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม 1

    ชื่อสายเรียกเข้าจากจอมือถือทำดุลยาสะดุ้ง เธอสูดหายใจลึกรวบความกล้าส่งเสียงรับ“ไงคะโน้ต”“คุณแสบมากนะ ทำร้ายคนที่ผมรัก”...คนที่ผมรัก ยิ่งทำใจดุลยาร้อนรุ่ม แต่เธอไม่ใช่เด็กสาวอ่อนวัย จนกรีดร้องเก็บอารมณ์โกรธเกรี้ยวไว้ไม่อยู่“แจงไม่ได้ทำอะไรนะ แค่อยู่ในเหตุการณ์เฉยๆ เจมี่ต่างหากเป็นคนลงมือ เขาหึงคุณแปง”“แล้วใครล่ะที่คอยยุเขา คุณไม่ใช่เหรอ”“อย่ามากล่าวหากันนะ!”ดุลยาไม่เคยทำอะไรผิด ทุกอย่างเพราะสถานการณ์บังคับ หรือไม่ก็กดดันจนเธอต้องตัดสินใจทำอย่างนั้น หญิงสาวหาเหตุผลเข้าข้างตนเองได้เสมอ“ไปสอบสวนเจมี่โน่น”“ผมทำแน่”เขาย้ำเยือกเย็น แต่ดุลยาใจดีสู้เสือทำไม่กลัว“แล้วคุณจะได้รู้ว่าเจมี่เพ้อเจ้อขนาดไหน เขาน่ะเด็กเลี้ยงแกะตัวจริง เรียกร้องความสนใจ รู้เรื่องความแสบของเจมี่สมัยอยู่อเมริกาไหม”“ผมไม่อยากฟังจากคุณ จะคุยกับเจ้าตัวเอง”อย่างน้อยดุลยาก็ปล่อยพิษที่เรียกว่าความค้างคาใจไว้ให้เขาแล้ว

  • ดาวคะนึงรัก   Chapter 49 จะไม่ปล่อยเธอไปไหน 2

    เนตรากะพริบตาปริบๆ เห็นเท้าตนกำลังยืนอยู่บนพื้นที่นุ่มมาก สีขาวและบางเบาเรี่ยข้อเท้า ราวอยู่บนเมฆ ลมอ่อนพัดโชย กลิ่นสดชื่นเหมือนฝนตกใหม่ เธอกำลังก้าวขาไปข้างหน้าเรื่อยๆ ตรงหน้าปรากฎคนคู่หนึ่ง“พ่อคะ...แม่”เธอวิ่งถลาเข้าไปหา เหมือนเวลาเด็กอนุบาลมีพ่อแม่มารับหลังเลิกเรียน ท่านทั้งสองโอบกอดเนตราอย่างอบอุ่น น้ำตาเธอไหลพรากอย่างไม่อาย“หนูคิดถึงพ่อแม่ที่สุด”หญิงสาวบอกอู้อี้กับปกเสื้อพ่อ ซึ่งชื้นด้วยน้ำตา จำได้ว่าตัวนี้สวมให้กับมือก่อนนำร่างท่านบรรจุโลง“พ่อกับแม่ไม่ได้ไปไหน เราอยู่กับลูกเสมอในความทรงจำ”แม่ยิ้มละไม มือลูบศีรษะเธอด้วยความรัก“หนูอยากอยู่กับพ่อแม่”การที่ได้เห็นทั้งสองแบบนี้ แสดงว่าชีวิตเธอดับไปแล้วแน่ และที่นี่คงเป็นสวรรค์ แม้ไม่มีนางฟ้า เทวดา ไม่มีทิพยวิมาน แต่ขอแค่มีพ่อแม่ลูก แค่นั้นก็พอแล้ว“ยังจ้ะดาว ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน”เนตราเงยหน้ามองแม่แบบเหวอๆ ท่านยกนิ้วแตะริมฝีปาก“หนูต้องเจอเรื่องต่างๆ อีกเยอะแยะ เข้มแข็

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status