“ก็แค่แมวป่วยตัวหนึ่งล่ะวะ” การุณย์ส่ายหน้ากับท่าทีสิ้นฤทธิ์ของหญิงสาว เขาเริ่มลงมือปลดเสื้อผ้าออกจากร่างสาวโดยการฉีกเสื้อยืดจนขาดหลุดจากร่างบางลวงตาเป็นลำดับแรก เรือนร่างขาวนวลเนียนใต้เสื้อยืดมอซอทำให้หนุ่มใหญ่ตาลุกวาว โนมเนื้อก้อนอวบใต้เสื้อชั้นในสีซีดกลางเก่ากลางใหม่ทำให้เขากลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกใหญ่
“น่าเจี๊ยะเหมือนกันนะเรา ยายเด็กปากดี” หนุ่มใหญ่เจ้าสำราญผู้ผ่านสังเวียนรักมาโชกโชนยิ้มมุมปาก เขาสอดมือลงใต้แผ่นหลังเนียน เพียงมือเดียวก็ปลดตะขอเสื้อชั้นในผืนจ้อยที่ห่อหุ้มเต้าทรวงสาวได้อย่างง่ายดาย เขาใช้สองมือฉีกจนมันขาด ก่อนโยนทิ้งอย่างไม่ไยดี ก้อนเนื้อเด้งหยุ่นดีดตัวทันทีหลังหลุดจากพันธนาการ ภาพตรงหน้าทำให้หัวใจหนุ่มใหญ่เต้นตึกตักราวกับเด็กหนุ่มเพิ่งเห็นนมสาวครั้งแรก
“ตัวเล็กแต่นมใหญ่” การุณย์รำพึง สายตาจับจ้องนมสาวอย่างตื่นตาตื่นใจ เขารู้สึกน้ำลายสอ ต่อมน้ำลายราวกับถูกเปิดก๊อก มันไหลออกมาจนเต็มกระพุ้งแก้ม
“หนาว...” เสียงแหบพร่าของคนที่ถูกเขาเปลื้องผ้าท่อนบนออกจนเกลี้ยงดึงสติการุณย์ให้เข้าที่เข้าทาง เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ กลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก ลูกกระเดือกแล่นขึ้นลงเป็นลอนๆ
“รู้แล้วล่ะน่า” การุณย์พูดเสียงติดรำคาญ รีบหลุบตาลงต่ำ เขาปลดกระดุมกางเกงออกอย่างรวดเร็ว แม้มือจะสั่นน้อยๆ แต่คนที่เคยถอดกางเกงสาวมานับไม่ถ้วนก็ทำเวลาได้ดีเลยทีเดียว
“เชี่ย! สวย...สวยมาก” การุณย์อยากจะบ้าตาย เรือนร่างของยายตัวประกันปากดีทำให้เขาใจสั่น เนินเนื้อโหนกนูนทำให้เขาน้ำลายหก จนต้องยกหลังมือขึ้นเช็ดมุมปาก หนุ่มใหญ่สูดน้ำลายกลืนลงคออีกครั้ง
“พี่ชายเธอเอาลูกสาวฉัน ฉันเห็นฉันจับแค่นี้ถือว่ายังปรานีเธอนะมะเฟือง” การุณย์ยิ้มมุมปาก ไม่รู้สึกผิดใดๆกับอาหารตาที่เจ้าตัวไม่เต็มใจให้ใครมอง เขาเปิดน้ำอุ่นใส่อ่างแล้วเริ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างเย้ายวน ผิวเนื้อสาวเนียนลื่นมือ เต้าทรวงนุ่มหยุ่นเต็มอุ้งมือใหญ่ เม็ดทับสีสวยแข็งเป็นไตกระตุ้นเร้าสัญชาตญาณความเป็นชายให้ตื่นตัว การุณย์ขบกรามแน่น ฝืนบังคับมือให้ลูบไปยังส่วนอื่นบนร่างคนป่วย แต่เขาคงคิดผิด เพราะยิ่งลูบลงต่ำ ผ่านหน้าท้องที่หดเกร็งหนีมือหยาบ หัวใจแกร่งก็ยิ่งเต้นระรัว
“เธอมีแฟนหรือยังมะเฟือง” การุณย์ถามเบาๆ แต่เหมือนเขาจะถามตัวเองมากกว่า ใครว่ามีแต่เด็กอยากรู้อยากเห็นไปทุกเรื่อง ผู้ใหญ่อย่างเขาก็อยากรู้อยากเห็นเหมือนกัน การุณย์กลั้นหายใจในตอนที่เลื่อนมือลงทาบเนินสาว หัวใจหนุ่มใหญ่เต้นโครมคราม เขากลั้นหายใจ แล้วกดนิ้วกลางแทรกลงตรงรอยปริของกลีบเนื้ออวบ ปลายนิ้วสากจ่อชิดร่องรักสาว เขาออกแรงกดอีกนิด…
“เสี่ยคร้าบ! หมอมาแล้วคร้าบ!”
เสียงเรียกของไอ้เชิดมาพร้อมกับเสียงเคาะประตูปึงปัง ทำให้การุณย์รีบดึงมือออกจากจุดน่าหวาดเสียว ชายหนุ่มถอนหายใจแรง เขาลุกขึ้นยืนข้างอ่างอาบน้ำ คว้าเอาผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่บนราวข้างผนัง แล้วหันกลับมานั่งลงแกะเสื้อที่ใช้มัดมือเธอออก
การุณย์อุ้มร่างหญิงสาวออกมาจากห้องน้ำ ซับตัวเธอด้วยผ้าเช็ดตัวจนแห้ง ก่อนวางลงบนเตียง แล้วดึงผ้าห่มปิดร่างกายให้ตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงคอ
“ฉันว่าเรามีบางอย่างที่ต้องตกลงกันแล้วล่ะมะเฟือง” การุณย์ยืนมองใบหน้าขาวซีดอย่างหมายมาด รอให้เธอรักษาตัวให้หายดีเสียก่อน เขามีข้อเสนอให้เธอต้องทำตาม ถ้าเธอไม่อยากให้พี่ชายเธอกลายเป็นศพบนภู เธอต้องยอมรับมันแน่นอน
เป็นเวลาสามวันที่มะเฟืองนอนซมเพราะพิษไข้ หญิงสาวนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา จะมีก็เฉพาะตอนเข้าห้องน้ำที่เธอต้องลุกขึ้นจากเตียง โดยมีป้าประไพและเหมียวผลัดกันมาคอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
ล่วงเข้าวันที่สี่ มะเฟืองลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการที่ดีขึ้น เธอไม่จับไข้หนาวสั่นเหมือนที่ผ่านมา อุณหภูมิร่างกายปกติ แต่ยังมีอาการวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย หญิงสาวค่อยๆลุกขึ้นนั่ง กวาดสายตามองไปรอบห้อง
“ตื่นแล้วเหรอมะเฟือง” เหมียวหญิงสาววัยสามสิบต้นๆเดินถือชามข้าวต้มเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นว่ามะเฟืองฟื้นแล้วจึงถามไถ่ด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร
“พี่ไฟอยู่ไหน” มะเฟืองถามเหมียวด้วยเสียงแหบพร่า หญิงสาวผู้ที่ดูแลเธอมาตั้งแต่นอนซมเพราะพิษไข้วางชามข้าวต้มลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง
“ห่วงตัวเองก่อนเถอะ” เหมียวหันมาว่าเสียงดุแล้วส่ายหน้า หญิงสาวนั่งลงบนเตียง ช่วยพยุงร่างที่โงนเงนให้นั่งพิงหัวเตียง
“พี่ไฟอยู่ไหน” มะเฟืองยังถามถึงแต่พี่ชาย
“อยู่บนภูกับคุณตัวจิ๋วโน่นแหละ เสี่ยยังไม่ได้ตามขึ้นไป” เหมียวตอบแล้วหันไปเทน้ำใส่แก้วนำมาให้มะเฟืองดื่ม
“ดื่มน้ำก่อน เสียงไม่มียังจะถามหาพี่ชายอยู่ได้” มะเฟืองรับน้ำจากคนหวังดีแต่ปากร้ายมาจิบเล็กน้อย
“แสดงว่าพี่ไฟยังปลอดภัยดี” คนป่วยยิ้มออกมาเป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่ผ่านมา
“ปลอดภัยดี จะมีก็แต่มะเฟืองนี่แหละเป็นไข้หนัก รีบๆกินข้าวซะ แล้วก็กินยาที่พี่เตรียมไว้ให้ด้วย จะได้รีบๆหาย กินเองได้ใช่ไหม” มะเฟืองพยักหน้าน้อยๆ
“ได้จ้ะ ขอบคุณพี่เหมียวมากนะจ๊ะ”
“ไม่เป็นไร พี่ไปก่อนนะ จะไปบอกเสี่ยว่ามะเฟืองฟื้นแล้ว” เหมียวพูดจบก็ลุกขึ้นก้าวฉับๆออกไปจากห้อง ทิ้งให้คนป่วยที่ยังมีอาการมึนงงได้แต่มองตาม จะเรียกรั้งไว้เพื่อถามข้อมูลอื่นๆก็ไม่ทันแล้ว
ด่วนพิเศษ2“เฮีย ลูกหลับหรือยังจ๊ะ” มะเฟืองเดินเช็ดปลายผมออกมาจากห้องน้ำ เอ่ยถามสามีที่รับหน้าที่กล่อมลูกชายวัยขวบเศษอยู่บนเตียง“ชู่ว์! เบาๆสินังหนู กว่าไอ้มะเขือม่วงจะหลับได้ เฮียแทบกระอักเลือดนะ”“เฮี้ย! เอาอีกแล้วนะ เรียกลูกแบบนี้อีกแล้ว เดี๋ยวเถอะ” มะเฟืองพาดผ้าเช็ดตัวไว้ที่ราวหน้าห้องน้ำ หญิงสาวเดินมาที่เตียงแล้วส่งสายตาดุให้สามี“เฮียเขยิบไปหน่อย หนูจะเอาตัวอ้วนไปนอนเตียงเด็ก” เมื่อสามีขยับเปิดทางให้ มะเฟืองจึงช้อนอุ้มเจ้าตัวอ้อนแนบอก แล้วอุ้มไปวางเตียงเด็กซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเตียงใหญ่การุณย์มองตามบั้นท้ายเมียด้วยสายตาหวานฉ่ำหยาดเยิ้ม วันนี้เขาเร่งเคลียร์งาน รีบขึ้นมาหาเมียกับลูก หลังจากที่สามวันที่ผ่านมาลูกหลับก่อนเจอหน้าเขาตลอด“ป๊าพาเล่นซนจนเพลียใช่ไหมเนี่ย หลับไม่รู้เรื่องเลย เจ้าตัวอ้วน” มะเฟืองดึง
การุณย์ทอดถอนใจอย่างมีความสุข เสียวกระสันจนทะลุทุกสวรรค์ชั้นฟ้า หนุ่มใหญ่ยิ้มให้คนที่คลานคร่อมร่างของตนขึ้นมาจนใบหน้าเสมอกัน เขากอบใบหน้านวลไว้ด้วยสองมือ ใช้นิ้วโป้งข้างหนึ่งไล้เบาๆบนริมฝีปากอิ่มสีเรื่อ “เก่ง” คำชมของสามีทำให้มะเฟืองยิ้มหวาน ก้มลงจุ๊บเบาๆบนริมฝีปากหยักได้รูป “เฮียสอนมาดี” คำพูดของคนอยู่เป็นส่งผลให้เธอได้รับรางวัลเป็นจูบหวานๆอีกหนึ่งยก “ให้เฮียเลียบ้าง” เสียงบอกกระเส่าสั่น ลิ้นสากแลบเลียริมฝีปากของตนอย่างหื่นกระหาย มะเฟืองพลิกกายลงนอนหงาย รอกระทั่งสามีมานั่งอยู่หว่างขาเรียว หญิงสาวจึงเปิดอ้ากลีบสาว ด้วยการกางขาออกจนสุดแล้วชันเข่าขึ้น สองมือวางทาบเนินนาง แบะอ้าออกให้
“พูดอะไรกัน วาสนงวาสนาอะไร เป็นเมียเฮีย อยากไปไหนก็จะได้ไป ขอแค่บอก” “หนูอยากไปดาวอังคาร เฮียพาไปได้ไหม” มะเฟืองเงยหน้าขึ้นถามสามี หญิงสาวยิ้มล้อเลียนเจ้าเล่ห์ เสี่ยเจ๋งส่ายหน้ายิ้มน้อยๆ “ดาวอังคารไกลไป พาไปไม่ได้หรอก แต่ถ้าไปสวรรค์ชั้นเจ็ดล่ะก็ เฮียพาไปได้ทุกที่ทุกเวลา” “อุ๊ย! เฮีย!” มะเฟืองอุทานตกใจ เมื่อสามีย่อตัวลงอุ้มเธอแนบอก หญิงสาวรีบคล้องลำคอแกร่งไว้แน่น เธอกลัวตก “ป่ะ! ไปทัวร์สวรรค์ชั้นเจ็ดกันเถอะ” ร่างอวบอิ่มของคุณแม่ยังสาวถูกวางลงอย่างทะนุถนอมบนเตียงกว้าง มะเฟืองสบสายตากับสามี
การุณย์กอบใบหน้าเมียด้วยมือสองข้าง ค่อยๆจับให้เธอหันมามองหน้าเขา “ไม่อยากได้ลูกชายเหรอ” น้ำเสียงทุ้มถามด้วยความเป็นกังวล “ไม่เกี่ยวกับลูกสักหน่อย จะลูกสาวหรือลูกชายหนูก็รัก เพราะเขาเป็นลูกของหนู” เมื่อเมียยอมเปิดปากพูดด้วย การุณย์ก็ยิ้มได้ “แล้วทำไมต้องทำหน้าหงิกงอ ไม่สวยเลย” “ไม่สวยก็ไม่ต้องมารัก” “อ้าว! เป็นงั้นไป” คนถูกเมียงอนหัวเราะในลำคอ ดวงตาคู่งามตวัดมองไม่พอใจ&
“กว่าจะได้นอนกอดกันแบบนี้ก็เล่นเอาเกือบตายเนอะ” มะไฟบ่นไม่จริงจัง กรุณาหัวเราะคิก หญิงสาวจุ๊บคางสามีเบาๆ“แต่เราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว” กรุณาเบียดกายเข้าหาความอบอุ่นจากร่างกำยำ มะไฟโอบกอดร่างสาวแน่นขึ้นอีกนิด“ใช่ เราได้อยู่ด้วยกันแล้ว และพี่จะไม่มีวันปล่อยมือจากตัวจิ๋วเด็ดขาด พี่สัญญา”กรุณาหลับตาลงด้วยความอุ่นใจในอ้อมกอดสามี แม้เรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาจะดูวุ่นวายและโหดร้ายในบางช่วง แต่สุดท้ายแล้ว วันนี้เธอก็ได้ใช้ชีวิตคู่กับคนรัก และป๊าของเธอก็มีคนที่รักและรักท่านมาอยู่ข้างกาย เส้นทางความรักของเธอกับพี่ไฟนั้นยาวนานหลายปี กว่าจะลงเอยกันได้แบบสวยงาม แต่เส้นทางความรักของป๊ากับมะเฟืองนั้นเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ เป็นเส้นทางรักสายด่วน...ด่วนพิศวาส-จบบริบูรณ์-ด่วนพิเศษ 1&nbs
“ทำไมยังไม่นอน” เพราะสังเกตมาพักใหญ่แล้วว่า ช่วงหลังๆนี่มะเฟืองนอนเร็วมาก และหลับลึก แบบปลุกยังไงก็ไม่ตื่นด้วย ท่าทางเธอก็เหนื่อยๆ เขาเลยไม่อยากกวนเท่าไร ปล่อยให้เธอนอนสบายมาหลายคืนแล้ว “รอเฮียนั่นแหละ” ปากขยับพูด แต่ตาจะปิดอยู่รอมร่อ การุณย์หัวเราะในลำคอ เขาเดินไปนั่งลงใกล้เธอ โอบเอาร่างแน่งน้อยมากอด แล้วจุ๊บเหม่งเบาๆ “ง่วงก็นอน เดี๋ยวเฮียอาบน้ำก่อน จะมานอนกอดนะ” มะเฟืองพยักหน้ารับ หญิงสาวเอนกายลงนอนอย่างว่าง่าย เธอพร้อมหลับเต็มที่ การุณย์กลับออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าเมียรักหลับไปซะแล้ว เขารีบสวมกางเกงขายาวผ้าฝ้าย เปลือยท่อนบน ปิดไฟทุกดวง แล้วคลานขึ้นเตียงไปนอนกอดเมีย มะเฟืองรับรู้