“ตายแล้วเหรอ จะได้เอาไปฝัง” การุณย์นั่งลงข้างร่างสาวที่นอนตะแคงกอดตัวเองอยู่ ดวงตาของเธอปิดสนิท ผมยาวเปียกน้ำฝนดูยุ่งรุงรัง ผิวเนื้อสาวเปรอะเปื้อนขะมุกขะมอม เสื้อผ้าก็เปียกชื้นไม่น่าสบายตัวเอาเสียเลย
“มะเฟือง...” เมื่อคนที่ถูกเขาเยาะเย้ยไม่กระดุกกระดิก แถมยังไม่โต้ตอบปากดีเหมือนเมื่อวาน การุณย์เริ่มเอะใจ เขายื่นมือไปจับหัวไหล่มนแล้วเขย่าเบาๆ
“ล่ะ ตัวร้อนจี๋เลย” การุณย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาเพิ่งนึกได้ว่าให้คนเอาตัวหญิงสาวมาไว้ที่นี่หลังจากเลยเวลาเที่ยงของอีกวันแล้ว เขาจึงตามมาดูให้แน่ใจว่าเธอยังอยู่ที่นี่หรือเปล่า เพราะตราบใดที่ยังไม่ได้ตัวพี่ชายเธอ เขาก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไปไหนเด็ดขาด แต่สภาพของหญิงสาวตอนนี้ทำให้เขาหงุดหงิดชะมัด
“ยายเด็กบ้าเอ๊ย! ฉันจับเธอมาเป็นตัวประกันนะ ไม่ได้จับมาเป็นตัวปัญหา” หนุ่มใหญ่บ่นอย่างหัวเสีย
“ยุ่งยากชิบเป๋ง” การุณย์บ่นเซ็งๆ ก่อนช้อนอุ้มเอาร่างสาวมาแนบอกแล้วพาเดินออกมาจากบ้านพักหลังโทรม ซึ่งแถวนี้เป็นที่พักลูกน้องของเขาทั้งแถบ เวลานี้เป็นเวลาพักเที่ยงเสียด้วย สายตาหลายคู่จึงเมียงมองมาทางเจ้านายที่กำลังอุ้มตัวประกันสาวด้วยความสงสัย
“มองอะไร มีอะไรก็ไปทำกัน ไป!” แค่เสียงตวาด ลูกน้องและคนงานต่างก็ผลุบหายเข้าบ้านใครบ้านมันทันที
การุณย์อุ้มร่างสาวตรงไปยังบ้านหลังใหญ่ เมื่อก้าวเข้าไปในบ้าน เขาก็เรียกหาป้าประไพเพื่อให้มาช่วยดูแลมะเฟือง
“ป้าประไพ! ป้าประไพ!” เสียงเรียกเจือด้วยน้ำโหทำให้ไอ้เชิดรีบวิ่งเข้ามาหา ถึงแม้คนที่เสี่ยเรียกหาจะไม่ใช่เขาก็ตาม
“เสี่ยมีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ” ไอ้เชิดรีบกระตือรือร้นถาม แต่เมื่อการุณย์หันกลับมา เขาได้เห็นว่าเจ้านายอุ้มมะเฟืองอยู่ ไอ้เชิดก็ต้องหน้าเสียด้วยความตกใจ
“เอ่อ...เสี่ยจะพามะเฟืองไปไหนครับ ให้ผมช่วยอุ้มไหมครับ”
“มึงไม่ต้อง! ไปเรียกป้าประไพมาให้กู!” ไอ้เชิดหดมือที่กำลังจะยื่นไปรับร่างมะเฟืองกลับมาแนบลำตัวทันที เมื่อถูกตวาดลั่น
“ป้าประไพไปซื้อของสดในอำเภอครับ”
“แล้วนังเหมียวเมียมึงล่ะ” ปกติแล้วการุณย์อนุญาตให้เพียงป้าประไพและเหมียวเท่านั้นเข้ามาดูแลความเรียบร้อยในบ้านหลังใหญ่ ในส่วนของลูกน้องผู้ชายก็จะมีเพียงแค่ไอ้เชิดที่เข้าออกได้ แต่ไอ้เชิดก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้ขึ้นข้างบนเด็ดขาด
“เหมียวไปช่วยป้าประไพซื้อของครับ” คำตอบของไอ้เชิดทำให้การุณย์พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ
“เออดี! เวลากูจะเรียกใช้หายหัวกันไปหมด”
“ผมอยู่ครับเสี่ย ให้ผมช่วยได้นะครับ” ไอ้เชิดอ้อมแอ้มบอกอย่างกริ่งเกรง
“เสือก! มึงโทรตามหมอที่สถานีอนามัยให้กูหน่อย บอกว่ากูให้มาตรวจคนป่วย เป็นไข้สูง ตัวร้อน ไม่ได้สติ” การุณย์สั่งแล้วหันหลังเดินขึ้นบ้าน
“เอ่อ...เสี่ยจะพามะเฟืองไปนอนบนบ้านเหรอครับ” ไอ้เชิดถามอย่างแปลกใจ
“ไปทำตามที่กูสั่ง” การุณย์พูดโดยไม่หันกลับไปมองลูกน้อง เป็นสัญญาณที่ทำให้ไอ้เชิดรู้ว่าเจ้านายไม่พอใจที่เขาเซ้าซี้ เขาจึงรีบวิ่งออกจากบ้านไปทำตามที่ได้รับคำสั่ง แม้จะยังงงๆก็ตามที
การุณย์อุ้มร่างคนไร้สติเดินตรงไปยังห้องน้ำหลังจากใช้เท้าปิดประตูโครมใหญ่ ห้องนี้เป็นห้องนอนที่ใช้รับรองแขก แต่วันนี้เขาใช้มันรับรองตัวประกันปากดี เพราะหากจะทิ้งให้นอนอยู่บ้านพักคนงาน ก็กลัวว่าจะตายเสียก่อนได้ตัวพี่ชายของเธอ
“...พี่ไฟ พี่ไฟจ๋า พี่อยู่ไหน หนูหนาว” มะเฟืองเพ้อเบาๆเพราะพิษไข้ เสียงแหบแห้งของเธอทำให้การุณย์เบาใจขึ้นมานิดหน่อยว่า เธอไม่ได้จับไข้ใกล้ตายอย่างที่เขาคิด
“ยังพูดได้ แสดงว่ายังไม่ตายง่ายๆหรอก” การุณย์วางร่างมะเฟืองลงในอ่างอาบน้ำ ป้าประไพกับเหมียวไม่อยู่ ก็ต้องเป็นเขาแล้วล่ะที่ต้องจัดการยายตัวประกันปากดีให้อยู่ในสภาพที่ดีกว่านี้ ไม่อย่างนั้นยายนี่มีหวังเป็นปอดบวมตายแน่ๆ หนุ่มใหญ่ถอนหายใจแรง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ระหว่างความรู้สึกโมโหที่ต้องมาดูแลหญิงสาว กับความรู้สึกลุ้นระทึกกับสิ่งที่ตัวเองกำลังจะได้เห็นอันไหนมันมากกว่ากัน
“ช่วยไม่ได้นะ เธอเปียกไปทั้งตัว และทั้งบ้านก็ไม่มีใครอยู่ เธอต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า” การุณย์พูดจบก็เริ่มลงมือถอดเสื้อผ้าออกจากร่างสาว
“อื๊อ! ไม่ถอด หนาว” การุณย์จุ๊ปากอย่างขัดใจ เมื่อคนป่วยงอแง
“จะจัดการให้นอนสบายตัว จะได้ไม่ด่วนตายไปก่อนเจอหน้าพี่ชาย ยังจะมาสะบัดสะบิ้งเล่นตัวนะ ตัวก็เล็กยังกะกระรอก จะมีอะไรน่าดูนักเชียว ฮึ!”
“ฮื้อ!” เสียงครางขัดใจดังขึ้นเบาๆ แต่คนที่กึ่งรู้ตัวกึ่งมึนเบลอเพราะพิษไข้ไม่สามารถลืมตาขึ้นได้ มะเฟืองรับรู้อย่างเลือนราง เหมือนใครสักคนจะถอดเสื้อผ้าเธอ สัญชาตญาณหวงเนื้อหวงตัวทำให้เธอยกมืออันไร้เรี่ยวแรงขึ้นปัดป้อง
“ยายเด็กบ้าเอ๊ย! จะขัดขืนทำซากอะไร ฉันไม่ได้จะข่มขืนเธอนะโว้ย” การุณย์เริ่มมีน้ำโห เขาจับข้อมือบางสองข้างไว้แน่นด้วยมือเดียว มองหน้าคนที่นอนไร้เรี่ยวแรงอยู่ในอ่างด้วยสายตา
“ต้องมัดไว้ใช่ไหม ถึงจะสงบ ก็ได้!” เสี่ยขี้โมโหปล่อยมือของหญิงสาว เขาแกะกระดุม ถอดเสื้อเชิ้ตของตนออก แล้วนำไปมัดมือของมะเฟืองไว้อย่างแน่นหนา
ด่วนพิเศษ2“เฮีย ลูกหลับหรือยังจ๊ะ” มะเฟืองเดินเช็ดปลายผมออกมาจากห้องน้ำ เอ่ยถามสามีที่รับหน้าที่กล่อมลูกชายวัยขวบเศษอยู่บนเตียง“ชู่ว์! เบาๆสินังหนู กว่าไอ้มะเขือม่วงจะหลับได้ เฮียแทบกระอักเลือดนะ”“เฮี้ย! เอาอีกแล้วนะ เรียกลูกแบบนี้อีกแล้ว เดี๋ยวเถอะ” มะเฟืองพาดผ้าเช็ดตัวไว้ที่ราวหน้าห้องน้ำ หญิงสาวเดินมาที่เตียงแล้วส่งสายตาดุให้สามี“เฮียเขยิบไปหน่อย หนูจะเอาตัวอ้วนไปนอนเตียงเด็ก” เมื่อสามีขยับเปิดทางให้ มะเฟืองจึงช้อนอุ้มเจ้าตัวอ้อนแนบอก แล้วอุ้มไปวางเตียงเด็กซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเตียงใหญ่การุณย์มองตามบั้นท้ายเมียด้วยสายตาหวานฉ่ำหยาดเยิ้ม วันนี้เขาเร่งเคลียร์งาน รีบขึ้นมาหาเมียกับลูก หลังจากที่สามวันที่ผ่านมาลูกหลับก่อนเจอหน้าเขาตลอด“ป๊าพาเล่นซนจนเพลียใช่ไหมเนี่ย หลับไม่รู้เรื่องเลย เจ้าตัวอ้วน” มะเฟืองดึง
การุณย์ทอดถอนใจอย่างมีความสุข เสียวกระสันจนทะลุทุกสวรรค์ชั้นฟ้า หนุ่มใหญ่ยิ้มให้คนที่คลานคร่อมร่างของตนขึ้นมาจนใบหน้าเสมอกัน เขากอบใบหน้านวลไว้ด้วยสองมือ ใช้นิ้วโป้งข้างหนึ่งไล้เบาๆบนริมฝีปากอิ่มสีเรื่อ “เก่ง” คำชมของสามีทำให้มะเฟืองยิ้มหวาน ก้มลงจุ๊บเบาๆบนริมฝีปากหยักได้รูป “เฮียสอนมาดี” คำพูดของคนอยู่เป็นส่งผลให้เธอได้รับรางวัลเป็นจูบหวานๆอีกหนึ่งยก “ให้เฮียเลียบ้าง” เสียงบอกกระเส่าสั่น ลิ้นสากแลบเลียริมฝีปากของตนอย่างหื่นกระหาย มะเฟืองพลิกกายลงนอนหงาย รอกระทั่งสามีมานั่งอยู่หว่างขาเรียว หญิงสาวจึงเปิดอ้ากลีบสาว ด้วยการกางขาออกจนสุดแล้วชันเข่าขึ้น สองมือวางทาบเนินนาง แบะอ้าออกให้
“พูดอะไรกัน วาสนงวาสนาอะไร เป็นเมียเฮีย อยากไปไหนก็จะได้ไป ขอแค่บอก” “หนูอยากไปดาวอังคาร เฮียพาไปได้ไหม” มะเฟืองเงยหน้าขึ้นถามสามี หญิงสาวยิ้มล้อเลียนเจ้าเล่ห์ เสี่ยเจ๋งส่ายหน้ายิ้มน้อยๆ “ดาวอังคารไกลไป พาไปไม่ได้หรอก แต่ถ้าไปสวรรค์ชั้นเจ็ดล่ะก็ เฮียพาไปได้ทุกที่ทุกเวลา” “อุ๊ย! เฮีย!” มะเฟืองอุทานตกใจ เมื่อสามีย่อตัวลงอุ้มเธอแนบอก หญิงสาวรีบคล้องลำคอแกร่งไว้แน่น เธอกลัวตก “ป่ะ! ไปทัวร์สวรรค์ชั้นเจ็ดกันเถอะ” ร่างอวบอิ่มของคุณแม่ยังสาวถูกวางลงอย่างทะนุถนอมบนเตียงกว้าง มะเฟืองสบสายตากับสามี
การุณย์กอบใบหน้าเมียด้วยมือสองข้าง ค่อยๆจับให้เธอหันมามองหน้าเขา “ไม่อยากได้ลูกชายเหรอ” น้ำเสียงทุ้มถามด้วยความเป็นกังวล “ไม่เกี่ยวกับลูกสักหน่อย จะลูกสาวหรือลูกชายหนูก็รัก เพราะเขาเป็นลูกของหนู” เมื่อเมียยอมเปิดปากพูดด้วย การุณย์ก็ยิ้มได้ “แล้วทำไมต้องทำหน้าหงิกงอ ไม่สวยเลย” “ไม่สวยก็ไม่ต้องมารัก” “อ้าว! เป็นงั้นไป” คนถูกเมียงอนหัวเราะในลำคอ ดวงตาคู่งามตวัดมองไม่พอใจ&
“กว่าจะได้นอนกอดกันแบบนี้ก็เล่นเอาเกือบตายเนอะ” มะไฟบ่นไม่จริงจัง กรุณาหัวเราะคิก หญิงสาวจุ๊บคางสามีเบาๆ“แต่เราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว” กรุณาเบียดกายเข้าหาความอบอุ่นจากร่างกำยำ มะไฟโอบกอดร่างสาวแน่นขึ้นอีกนิด“ใช่ เราได้อยู่ด้วยกันแล้ว และพี่จะไม่มีวันปล่อยมือจากตัวจิ๋วเด็ดขาด พี่สัญญา”กรุณาหลับตาลงด้วยความอุ่นใจในอ้อมกอดสามี แม้เรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาจะดูวุ่นวายและโหดร้ายในบางช่วง แต่สุดท้ายแล้ว วันนี้เธอก็ได้ใช้ชีวิตคู่กับคนรัก และป๊าของเธอก็มีคนที่รักและรักท่านมาอยู่ข้างกาย เส้นทางความรักของเธอกับพี่ไฟนั้นยาวนานหลายปี กว่าจะลงเอยกันได้แบบสวยงาม แต่เส้นทางความรักของป๊ากับมะเฟืองนั้นเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ เป็นเส้นทางรักสายด่วน...ด่วนพิศวาส-จบบริบูรณ์-ด่วนพิเศษ 1&nbs
“ทำไมยังไม่นอน” เพราะสังเกตมาพักใหญ่แล้วว่า ช่วงหลังๆนี่มะเฟืองนอนเร็วมาก และหลับลึก แบบปลุกยังไงก็ไม่ตื่นด้วย ท่าทางเธอก็เหนื่อยๆ เขาเลยไม่อยากกวนเท่าไร ปล่อยให้เธอนอนสบายมาหลายคืนแล้ว “รอเฮียนั่นแหละ” ปากขยับพูด แต่ตาจะปิดอยู่รอมร่อ การุณย์หัวเราะในลำคอ เขาเดินไปนั่งลงใกล้เธอ โอบเอาร่างแน่งน้อยมากอด แล้วจุ๊บเหม่งเบาๆ “ง่วงก็นอน เดี๋ยวเฮียอาบน้ำก่อน จะมานอนกอดนะ” มะเฟืองพยักหน้ารับ หญิงสาวเอนกายลงนอนอย่างว่าง่าย เธอพร้อมหลับเต็มที่ การุณย์กลับออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าเมียรักหลับไปซะแล้ว เขารีบสวมกางเกงขายาวผ้าฝ้าย เปลือยท่อนบน ปิดไฟทุกดวง แล้วคลานขึ้นเตียงไปนอนกอดเมีย มะเฟืองรับรู้
การุณย์ให้มะไฟเรียนรู้งานทุกอย่างที่ควรรู้ เพื่อจะได้นำไปใช้งานจริงในวันที่เขาจะเปิดร้านใหม่ให้ที่ต่างอำเภอ ตามที่เคยตกลงกันไว้ ซึ่งชายหนุ่มก็ขยันขันแข็งทำงาน และเรียนรู้ทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ “ทำไมมะเฟืองไม่ท้องบ้างนะ” คนอยากมีลูกอีกคนหันไปถามภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ คิ้วเข้มขมวดมุ่นสงสัย “เฮียทำไม่เป็นมั้ง” มะเฟืองว่ายิ้มๆ คนถูกสบประมาทแทบสำลักน้ำที่ยกขึ้นจิบ การุณย์หันมาสบตาแม่ตัวดีอย่างคาดโทษ มะเฟืองมองเมินสายตาของสามี เธอหันไปพูดกับพี่ชายต่อโดยไม่สนใจเขาอีก “พี่ไฟไปทำงานเถอะ หนูจะอยู่เป็นเพื่อนตัวจิ๋วให้เอง ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ” “ตัวจิ๋วอยู่กับมะเฟืองก็ได้ ตัวจิ๋วแพ้แค
“ตรงนี้ก็หอม” การุณย์เลื่อนใบหน้าลงไปจนถึงกลุ่มไหมเหนือเนินสาว เขาสูดดมเสียงดังฟอด มะเฟืองบิดตัวหนี ทุบตีบ่าบึกบึนไปหลายที ทว่าคนอยากมอบกายถวายตัวให้เมียไม่ระคายผิวแม้แต่น้อย“อื้อ! เฮีย! ยังไม่ได้ล้าง” เพราะมันผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชนเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา น้ำสวาททั้งของเขาและเธอปนเปกันอยู่ตรงนั้น มะเฟืองจึงรีบเอ่ยห้ามอย่างตกใจ“ไม่ล้างก็หอม กระดองเต่าน้อย” การุณย์การันตีความหอมด้วยการสูดดมเสียงดังฟอดอีกครั้ง มะเฟืองอ่อนอกอ่อนใจที่จะห้ามปราม หญิงสาวประชดเขาด้วยการกางขาออกสุด การุณย์หัวเราะพอใจ ประชดแบบนี้เขาชอบ“หอมอีกสิ” อายซะที่ไหน ก็ในเมื่อเตือนไม่ฟัง เธอก็ทำประชดเสียเลยดวงตาคู่คมจับจ้องดอกไม้บานฉ่ำในระยะประชิด มองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ สวย น่าหลงใหล และเขาก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้น และตอนนี้ก็ไม่คิดจะโงหัวขึ้นด้วยการุณย์ฝังใบหน้าลงบนผืนเนื้อสาว มันเปียกโชก ชุ่มฉ่ำ แต่เนื้ออ่อนสาวก็หวานละมุนลิ้น กลิ่นสาบสาวก็ยวนใจ ปาดเ
“อ้วกออกมาก็ได้” มะเฟืองทำท่าจะล้วงคออ้วกจริงๆ การุณย์ดึงมือเธอไว้แทบไม่ทัน“หนูกินไปแล้ว” การุณย์ย้ำอีกครั้ง มะเฟืองมองหน้าคนขี้งกด้วยสายตาดุ“คิดไว้ก่อนแล้วใช่ไหม” มะเฟืองมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง เขาเป็นพ่อค้าที่ไม่ยอมขาดทุนอะไรเลยจริงๆ“อย่ามาใส่ร้ายเฮีย” การุณย์พูดยิ้มๆ“กินไปกี่คำน้า” คนขี้งกทำท่าคิดคำนวณ ใบหน้าหล่อเหลากวนไม้กวนมือเหลือเกิน“ไม่รู้ ไม่ได้นับ” มะเฟืองดึงมือกลับมา ขยับตัวห่างจากเขา หญิงสาวสะบัดหน้าหนีงอนๆ การุณย์ขยับตาม โน้มใบหน้ากระซิบชิดใบหูขาว คำกระซิบบอกของเขา เล่นงานหัวใจสาวให้เต้นโครมคราม ใบหน้าร้อนผะผ่าว และยิ้มหวานเอียงอายน่ารัก การุณย์กระซิบบอกเสียงทุ้มสะกดใจสาวว่า“เฮียคิดราคาเหมาแล้วกัน ราคาเท่าหัวใจของมะเฟือง จ่ายมาซะดีๆ”บทจะหวานก็หวานปานน้ำตาลจะหยด มะเฟืองผู้ไม่ประสาตามไม่ทันคารมหนุ่มใหญ่ หญิงสาวได้แต่นั่งนิ่งเขินอาย ใบ