“เพียงขวัญ เพียงขวัญ ทางนี้จ้า”มะนาวหรือเจ้มะนาวที่ใครๆในคลับแห่งนี้เรียกกันหล่อนเป็นผู้จัดการของคลับแห่งนี้หรือจะเรียกตรงๆก็เป็นแม่เล้าคอยหาเด็กสาวๆให้กับเหล่าอาเสียหรือคนมีตังค์ที่มาเที่ยวหาความสนุกนั่นเอง
เพียงขวัญเมื่อได้ยินเสียงเธอเรียกก็เดินไปตามเสียงเรียกนั้น
“สวัสดีค่ะพี่มะนาว นี่ค่ะชุดของพี่ที่เอาไปตัดไว้แม่บอกให้ขวัญเอามาส่งค่ะ”
“ขอบใจจ๊ะขวัญ นี่จ๊ะเงินฝากบอกแม่ด้วยนะว่าว่างๆพี่จะแวะไปอุดหนุนอีก อ๋อขวัญเรื่องงานพิเศษที่เธอถามพี่ตกลงว่ายังอยากทำอยู่ไหม”
“ขอบคุณพี่มะนาวมากนะค่ะที่ช่วยหางานให้ขวัญเรื่องหางานพิเศษคือตอนนี้ขวัญได้งานแล้วค่ะ เป็นงานเกี่ยวกับการแสดงโชว์ใต้น้ำตามอควาเรียมค่ะ งั้นขวัญขอตัวกลับก่อนนะค่ะพี่มะนาว” เพียงขวัญขอตัวกลับ เธอรู้สึกเหมือนมีคนจ่องมองเธออยู่ หญิงสาวได้มองสำรวจไปรอบๆภายในห้องที่มีแสงไฟสลัวซึ่งเปิดเพลงเสียงดังมีทั้งชายและหญิงนั่งดื่มกินนัวเนียกันอยู่หลายคู่ ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็แต่งตัวชะผู้หญิงอย่างเธอมองแล้วยังต้องกลืนน้ำลายเลย จากนั้นเพียงขวัญก็หันหลังก้าวออกจากประตูคลับไปโดยมีสายตาของใครอีกคนที่จ้องมองลงมาที่เธอ เจ๊มะนาวมองดูหญิงสาวตรงหน้าที่เดินออกไปด้วยความชื่นชมและเสียดายเพียงขวัญเพราะเธอเป็นเด็กสาวนิสัยดีหน้าตาสะสวยถึงขั้นสวยมากกกกเลยก็ว่าได้ถ้าเธอได้มาทำงานที่คลับนี่คงเรียกแขกได้เยอะทีเดียว
“มึงมองอะไรวะ”ไมเคิ้ลถามเพื่อนหลังจากเห็นขุนเขาเอาแต่มองลงไปข้างล่างอย่างใจจดใจจอจากนั้นไมเคิ้ลก็มองตามสายตาของเพื่อนก็เจอกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่กับเจ๊มะนาวซึ่งเขาก็ไม่เคยเจอเธอเลยและเธอก็ไม่ใช่พนักงานของคลับอย่างแน่นอนเพราะถ้าเป็นพนักงานเขาต้องรู้จัก
"มึงสนใจผู้หญิงคนนั้นหรือวะ"
"จะบ้าเหรอ... กูแค่มองเฉยๆ"
"นั่นแน...สายตามึงแปลกๆนะโว้ยกูไม่เคยเห็นมึงจะสนใจและมองผู้หญิงคนไหนด้วยสายตาแบบนี้เลย" ไมเคิ้ลพูดพร้อมกับอมยิ้ม
ขุนเขาเองก็รู้สึกแปลกใจที่เขามีความรู้สึกบางอย่างกับผู้หญิงคนนี้เขามองผู้หญิงคนนี้ทั้งที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนแต่ด้วยใบหน้าที่สะสวยของเจ้าหล่อนมันยังติดตาตรึงใจของเขาทั้งๆ ที่หล่อนแค่แต่งตัวด้วยชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์แต่มันสามารถดึงดูดความสนใจรบกวนโสตประสาทของเขาทั้งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน ไม่ใช่เขาไม่เคยเจอผู้หญิงสวยๆแต่เขาเจอมาเยอะแต่เขากลับไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้เลย
“เปล่ากูแค่คิดอะไรเพลินๆ”แต่ภาพของผู้หญิงที่เพิ่งเดินออกไปกับมีอิทธิพลกับร่างกายของเขาเป็นอย่างมาก นานแล้วที่เขาไม่ได้นอนกลับผู้หญิงคนไหนเลย
“บ้าซิบ คิดอะไรวะก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง”ขุนเขาสบถอยู่ในลำคอ
“กูกลับแล้วโว้ยวันนี้กูเหนื่อยวะอยากกลับไปพักผ่อน” ว่าแล้วชายหนุ่มก็รีบลุกเดินออกไป
“เฮ้ยมึงจะกลับจริงๆเนี่ยไอขุนเขา กูมีเรื่องที่จะคุยกับมึงตั้งเยอะอย่าพึ่งรีบไปซิวะ ”ไมเคิ้ลส่งเสียงเรียกตามคนที่พึ่งลุกเดินออกไปโดยไม่มีทีท่าที่จะฟังเสียงของคนที่อยู่ข้างหลัง
คอนโดหรู
เสียงประตูเปิดพร้อมกับขุนเขาที่เดินเข้ามาให้ห้องพักหรูที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน
“ต้นกลับไปได้แล้ววันนี้ฉันจะค้างที่นี้”
“ครับนาย”ต้นลูกน้องคนสนิทมองผู้เป็นนายปกติแล้วเขาจะไปค้างที่บ้านมีนานๆครั้งที่เขาจะพักที่คอนโดหรูแห่งนี้วันนี้มองดูแล้วผู้เป็นนายคงจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไร...
ขุนเขาถอดสูทราคาแพงโยนไปที่โซฟาก่อนจะนั่งลงและรู้สึกหงุดหงิดเรื่องที่แม่ชอบหาผู้หญิงมาให้เขา ขณะเดียวกันภายในหัวของเขาตอนนี้มันมีภาพของสาวน้อยคนหนึ่งเข้ามาวนเวียนอยู่ตลอดเวลาจนเขาเองก็รู้สึกแปลกใจทั้งๆที่เขาไม่เคยเจอและรู้จักหล่อนมาก่อนเขาถอนหายใจอย่างแรงเพื่อสะบัดอารมณ์เหมือนคนึกหานั้นออกไปและลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวตรงเข้าไปยังห้องน้ำจากนั้นไม่นานก็กลับออกมาเปลี่ยนชุดข่มตานอนบนที่นอนหรูที่มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเคยเข้ามาค้างเลยซักครั้งนอกจากเพื่อนสนิทอย่างไมเคิ้ล เช้าวันใหม่เพียงขวัญได้ถูกเรียกตัวไปพบกับทีมที่เธอจะทำงานด้วย ชาญลูกพี่ลูกน้องของอนงค์พาเพียงขวัญเข้าไปพบกับหัวหน้าทีมผู้เป็นคนรับงานและเป็นคนฝึกเตรียมความพร้อมทุกอย่างให้กับทีมเพราะการเป็นนางเงือกโชว์คนที่จะทำได้ต้องมีทักษะในการว่ายน้ำดำน้ำกลั้นหายใจใต้น้ำได้และมีไหวพริบในการเอาตัวรอดซึ่งเพียงขวัญเธอถือว่ามีคุณสมบัติทุกอย่างเพราะเธอชอบว่ายน้ำมาตั่งแต่เด็กแม่จึงส่งเธอเรียนว่ายน้ำทำให้เธอว่ายน้ำเก่ง“ขวัญนี่คุณ ณดลหัวหน้าทีมของเรา”ชาญแนะนำเพียงขวัญกับหัวหน้าทีม
“สวัสดีค่ะ”เพียงขวัญยกมือไหว้
“สวัสดีครับ....เพียงขวัญ....” ณดลเงยหน้าขึ้นมองสายตาเขาชะงักไปนิดหนึ่ง หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเธอสวยสวยมากทีเดียว ใบหน้ารูปไข่ ผิวขาว ดวงตากลมโต หุ่นบางร่างเล็กแต่ได้สัดส่วน จนทำให้เขามองค้างไปนิดหนึ่ง จากนั้นเขาก็พูดกับเธอ
“ชาญคงจะพูดรายละเอียดเกี่ยวกับงานให้เธอฟังอย่างคร่าวๆแล้วใช่ไหม ผมขอทบทวนอีกครั้งนะงานของพวกเราคือการแต่งตัวเป็นนางเงือกแล้วก็ไปโชว์ว่ายน้ำในอควาเรียม หรือตามงานอีเว้นต์ต่างๆโดยจะเป็นการทำท่าทางสวยๆใต้น้ำโชว์ลีลาให้คนดูตื่นตาตื่นใจเหมือนกับได้พบนางเงือกตัวจริงในเทพนิยาย เพราะฉะนั้นงานของเราจึงมีความเสี่ยงเพราะเราต้องแสดงโชว์ใต้น้ำ แต่คุณไม่ต้องเป็นห่วงเรามีทีมงานคอยช่วยเหลือตลอดไม่ว่าจะเป็นบนบกหรือใต้น้ำเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา”
“ค่ะ คุณ ณดล ขอบคุณมากนะค่ะที่รับขวัญเข้าทำงานที่นี่ ขวัญจะตั้งใจทำให้ดีี่สุดค่ะ"
"อือ...ที่นี่เราอยู่กันแบบพี่แบบน้องขวัญเรียกฉันว่าพี่ เหมือนกับคนอื่นๆก็ได้"
“ค่ะพี่ณดล”
“วันนี้พี่จะให้เราเรียนฝึกทักษะท่าทางกับทีมของเราก่อนเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเวลาแสดงจะได้ไม่มีปัญหาอะไร”
“ค่ะ”
เพียงขวัญเธอมีทักษะและพรสวรรค์ด้านว่ายน้ำอยู่แล้วทำใหเธอเรียนและฝึกเพียงแค่นิดเดียวก็ทำให้เธอสามารถทันเพื่อนร่วมทีม
ณดล “ทุกคนช่วงนี้ตอนเย็นใคร่ที่ว่างๆก็เข้ามาฝึกกันนะเพราะมีคนติดต่องานมาให้เราไปแสดงโชว์งานเปิดตัวอควาเรียมใหม่ของห้างสรรพสินค้าใหญ่ของตะกูลลิ้มวัฒนกูลในวันเสาร์หน้า เพราะฉะนั้นช่วงนี้เราคงต้องซ้อมกันหนักหน่อยเพื่อโชว์ฝีมือการแสดงครั้งนี้ให้ทุกคนเห็นว่าเราคือที่หนึ่งในประเทศ ” ณดลมองมาหาเพียงขวัญ
“งานนี้พี่จะให้ขวัญลงโชว์คู่กับพี่ เตรียมตัวให้พร้อมนะ..... ”
“ค่ะ”
“เอาละทุกคนสำหรับวันนี้พอแค่นี้แยกย้ายกันกลับได้แล้ว”
ทุกคนแยกย้ายกันกลับหมดแล้วเพียงขวัญเดินมารอเรียกรถกลับบ้านระหว่างนั้น มีรถสปอตหรูวิ่งมจอดข้างเธอและปลดกระจกปะตูลงแล้วมองมาที่เธอ
“ขวัญ จะกลับบ้านเหรอขึ้นมาซิพี่่จะไปส่ง”ณดลเรียกหญิงสาว
“ไม่เป็นไรค่ะขวัญเรียกรถกลับเองได้ พี่กลับก่อนเลยค่ะ”
“ขึ้นมาเถอะน่าเร็วพี่มีเรื่องจะคุณกับเราด้วย”เพียงขวัญมองรถที่จอดอยู่ข้างหลังรถของณดลเพราะถ้าขืนเธอไม่รีบขึ้นรถของเขาตอนนี้รถข้างหลังคงได้บีบแตรไล่แน่ แน่ คิดแล้วหญิงสาวก็รีบเปิดประตูก้าวขึ้นรถ ณดลยิ้มแล้วขับรถออกไประหว่างทางเพียงขวัญรู้สึกได้ว่าณดลเป็นคนนิสัยดี เป็นผู้ชายที่หล่อดูดีมากทีเดียวณดลยังไม่มีแฟน ซึ่งเท่าที่หล่อนฟังจากชาญลูกพี่ลูกน้องของอนงค์บอกว่าที่บ้านของณดลทำธุรกิจเกี่ยวกับด้านอสังหาริมทรัพย์ หลังจากเขาได้เดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศและได้เห็นการแสดงโชว์นางเงือกทำให้เขาชื่นชอบและหลงไหลจนทำให้เขาได้ตั้งทีมนางเงือกโชว์และจ้างครูสอนจากต่างประเทศมาช่วยสอนเทคนิคต่างๆให้ ฝึกฝนจนชำนาญ ถึงแม้ว่าเขาจะตั้งทีมนางเงือกขึ้นมาแต่เขาก็ไม่ทิ้งงานประจำที่ต้องคอยไปบริหารธุรกิจต่อจากที่บ้าน เพียงขวัญมองหน้า ณดล ด้วยสายตาชื่นชม
หญิงสาวลุกเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดนอนที่ถูกเตรียมไว้เพื่อเธอโดยเฉพาะชุดนอนสายเดี่ยวสีขาวพริ้วบางแทบจะปิดอะไรเธอไม่ได้เลยเธอเข้าใจในความคิดของผู้ใหญ่ที่เลือกชุดนี้ไว้ให้เธอ ก่อนจะรีบเดินเข้าห้องน้ำและล็อคประตูทันทีหัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะเธอจะทำยังไงดี แต่เธอกับเขาแต่งงานกันแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่เขาจะ.....กับเธอ ใช่เขามีสิทธิ์ในตัวเธอ แค่คิดใบหน้านวลก็เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีหญิงสาวรีบสลัดความคิดนี้ออกไปก่อนและรีบจัดการอาบน้ำให้เสร็จและหยิบชุดนอนมาใส่แต่ชุดมันบางมากจนเธอต้องมองหาอะไรมาปิดมันเอาไว้เพราะคงไม่เป็นการดีแน่ถ้าเธอจะใส่ชุดนี้ออกไปให้เขาเห็นเขาคงจะคิดว่าเธออ่อยเขาแน่นอนและแล้วสายตาก็แลไปเห็นเสื้อคลุมแขวนอยู่เธอจึงหยิบมาสวมทับชุดนอนไว้ เมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาเธอก็ต้องรู้สึกชาวูบไปทั้งตัวเมื่อเห็นสายตาคมที่จ่องมองมาที่เธอด้วยสายตาเจ้าเลห์เขายิ้มที่มุมปากทำเอาเธอร้อนวูบไปทั้งตัว เธอเดินอ้อมมายังอีกฝั่งของเตียงนอนจากนั้นก็ค่อยๆนั่งลงสายตาชำเลืองมองดูชายหนุ่มก่อนจะล้อมตัวลงนอนแล้วรีบดึงเอาผ้าห่มมาคลุมร่างกายของเธอเอาไว้จนมิดถึงคอขุนเขามองอาการของหญิงสาวแล้
ขุนเขามองหน้าเพียงขวัญสายตาที่เขามองมาเหมือนจะคาดโทษเธอไว้และสลับกับมองหน้าของ ณดล ชัดๆที่ตอนนี้จ่องเขาอยู่ สายตาคมจ่องตอบเช่นกัน ณดลมองหน้าเจ้าบ่าวเขม็งไม่ยอมแพ้เหมือนกัน ณดลทำทีเหมือนกับว่าตนเหนือกว่าขุนเขาเพราะเขารู้จักเพียงขวัญมาก่อนที่เธอจะมาแต่งงาน"คุณมีอะไรสำคัญคุยกับภรรยาของผมอย่างนั้นหรือครับถึงต้องหลบมาคุยกันสองต่อสองในที่ลับตาคนแบบนี้"ขุนเขาพูดเสียงเข้มปนดุมองหน้าณดลและหันกลับมามองหน้าเพียงขวัญ"เออ..คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะนี่พี่ ณดลพี่เขาก็แค่มาแสดงความยินดีด้วยก็แค่นั้นเองค่ะ""ขอโทษด้วยนะครับพอดีเรื่องที่ผมคุยกับขวัญเรารู้กันแค่สองคนไม่สามารถให้คนอื่นรับรู้ด้วยได้" ฌดล พูดด้วยน้ำเสียงที่ทำให้คนฟังเข้าใจไปได้หลายทาง ขุนเขาเดินไปหาหญิงสาวที่ตอนนี้ทำหน้าไม่ถูกที่ได้ยิน ณดล พูดออกไปอย่างนั้น ขุนเขาเมื่อเดินมาถึงหญิงสาวก็ใช้มือโอบไหล่ดึงหญิงสาวเข้ามาประชิดตัวก่อนจะโน้มหน้าคมมาเกือบจะชนแก้มพร้อมใบหน้ายกยิ้มและพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเข้มจริงจังอย่างผู้เหนื่อกว่าว่าเขามีสิทธิ์ในตัวเธอ"แต่ผมกับภรรยาเราสองคนอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าเราก็จะกลายเป็นคนๆเดียกันแล้วเราคงไม่มีเรื่องอะไรต้อง
"คุณ..นี่คุณปล่อยปล่อยฉันเดินเองได้" ขุนเขาไม่ฟังเสียงของเธอเขาใช้แรงดึงให้เธอเดินตามเขามายังร้านอาหารซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านเพชรเท่าไหร่นัก"นั่งลงแล้วไม่ต้องพูดอะไรฉันหิวแล้ว" ขุนเขาจับเธอนั่งเก้าอี้แล้วเขาก็เดินอ้อมมานั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอเขาสั่งอาหารโดยไม่สนใจอีกฝ่ายที่ตอนนี้กำลังทำหน้าหงิกหน้างอด้วยความไม่พอใจในความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย เมื่ออาหารยกมาเสิร์ฟ เขาสั่งอาหารมาเยอะแยะราวกับกินกันหลายคนเธอมองหน้าเขาที่ตั้งหน้าตั้งตาทานอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่สนใจเธอเลย"นี่คุณทำไหมสั่งมาเยอะแยะขนาดนี้กินกันแค่สองคนเองแล้วจะกินหมดไหมเนี่ย""ก็ผมหิวกินๆไปเถอะ ไม่หมดเดียวเขาก็เทให้หมามันกิน" ชายหนุ่มพูดโดยไม่สนใจเธอเขายังคงตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเอร็ดอร่อย"คุณนี่...ออ..ฉันลืมไปว่าคุณรวยแค่นี้ขนหน้าแข่งคุณคงไม่ล่วงหรอก....พวกคนรวยใช้เงินยังกับใบไม้"เธอพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันจนคนฟังต้องเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมกับอมยิ้มพอใจกับท่าทางของหญิงสาวทานข้าวเสร็จเขาชวนเธอไปดูหนังต่อแต่เธอไม่ยอมไปบอกอยากกลับบ้านเขาเลยต้องตามใจเพราะไม่อยากจะบังคับเธอเกินไปทั้งที่จริงแล้วเขาอยากทำความรู้จักและใกล้ชิดกับเธอให้มากก
บ้านอัครเดช"ขวัญ มาหาย่าซิลูก""ค่ะคุณย่า มีอะไรหรือเปล่าค่ะ""เดียววันนี้ประมาณสี่โมงเช้า คุณขุนเขาโทรศัพท์มาบอกว่าจะมารับหนูไปลองชุดแต่งงานเตรียมตัวไว้ด้วยนะ""ค่ะ..คุณย่าบอกเขาได้ไหมค่ะว่าขวัญจะไปเองแค่บอกสถานที่มาไม่ต้องให้เขามารับขวัญก็ได้ ""คุณขุนเขาบอกจะมารับเองให้หนูรออยู่ที่บ้าน ย่าว่าหนูทำตามที่เขาบอกเถอะลูก""ค่ะคุณย่า"ไม่นานรถสปอร์ตคันหรู สีดำ ก็มาจอดอยู่หน้าบ้าน ชายหนุ่มใบหน้าคมเข้ม หล่อเหลาราวเทพบุตรก็ก้าวลงจากรถการแต่งตัวในวันสบายๆที่ไม่เป็นทางการด้วยเสื้อเชิตราคาแพงสีฟ้าครามแขนยาวพับมาครึ่งแขนเผยให้เห็นกล้ามแขนที่แข็งแรงและสีผิวขาวอย่างคนรักสุขภาพนิ้วเรียวงามราวกับผู้หญิงบนข้อมือใส่นาฬิกายี้ห้อดังเสื้อทับในกางเกงพร้อมเข็มขัดหนังราคาแพง แค่การแต่งตัวธรรมดาสำหรับชายหนุ่มแต่ไม่ธรรมดาสำหรับใครหลายๆคน มันทำให้ชายหนุ่มยิ่งดูดี ดูเนียบไร้ที่ติเลยจริงๆ สาวใช้ที่เดินมาต้อนรับมองชายหนุ่มด้วยสายตาชื่นชมก่อนจะพาเข้าไปในบ้านเมื่อถึงห้องรับแขกคุณพิศมัยและคุณวิโรจน์ก็นั่งรออยู่แล้ว"สวัสดีครับ" ขุนเขายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความเคารพแต่ท่างทางของเขายังคงดูน่าเกรงขาม"สวัสดีครับ
วิโรจน์เรียกเพียงขวัญมาพบที่ห้องทำงานและเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพียงขวัญฟังเพียงขวัญเมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมดตอนแรกเธอคิดปฏิเสธแต่คิดดูดีๆแล้วเธอก็ไม่อยากเห็นธุรกิจของพ่อล้มละลายท่านเป็นผู้มีพระคุณทั้งส่งเสียเธอเรียนจนจบและยังช่วยเหลือดูแลรักษาแม่ของเธอเป็นอย่างดีเธอจึงยอมตกลงที่จะแต่งงานกับขุนเขาคนที่พ่อบอกว่าเขาจะช่วยเหลือธุรกิจของครอบครัวทุกอย่าง"แน่ใจหรือลูกว่าลูกจะยอมแต่งงานกับคุณขุนเขาจริงๆ ถ้าลูกไม่เต็มใจก็ปฏิเสธได้นะพ่อไม่บังคับ แล้วพ่อจะคิดหาวิธีอื่นแก้ไขก็ได้ลูก""ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อขวัญตัดสินใจแล้วค่ะ คุณพ่อบอกทางนั้นได้เลยว่าเรายินดีทำตามข้อตกลง ""ขอบใจมากนะลูก ลูกสาวของพ่อน่ารักพ่อเชื่อว่าคุณขุนเขาต้องรักเอ็นดูลูกสาวของพ่อแน่นอนและที่สำคัญพ่อคิดว่าเขาเป็นคนดี" วิโรจน์พูดพร้อมทั้งใช้มือข้างหนึ่งลูบหัวของเพียงขวัญเบาๆด้วยความรักความเอ็นดูเพียงขวัญมองหน้าของพ่อด้วยใบหน้าที่บ่งบอกให้รู้ว่าเธอเต็มใจยอมแต่งงานจริงๆหลังจากคุยกับพ่อเสร็จเพียงขวัญก็ขอกลับไปหาแม่ที่บ้านเพื่อเยี่ยมท่านซึ่งคุณวิโรจน์ก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอต้องการไปหาแม่ตอนไหนก็ได้ใจจริงแล้วเขาอยากจะรับทั้งมาลีมาอยู่ด้วยก
"กูว่าช่วงนี้มึงอารมณ์ดีเป็นพิเศษหวะ" ไมเคิ้ลถามเพื่อนเพราะเขารู้สึกแปลกๆ"ก็ไม่มีอะไรกูก็เหมือนเดิม""ไม่จริงมัง..มีเรื่องอะไรรึเปล่าที่กูยังไม่รู้หรือตกข่าวบอกกูมาชะดีๆ"ขุนเขานึกถึงคำพูดของเขากับแม่เมื่อหลายวันก่อน"แม่กับพ่อก็อายุมากแล้วไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้อุ้มหลานเหมือนคนอื่นๆเขาไหม ถ้าลูกไม่ชอบหนูวิภา ลูกก็หาผู้หญิงที่ถูกใจซักคนมาแต่งงานด้วยแม่กับพ่อจะได้อุ้มหลานชะที ""ถ้าผมบอกคุณแม่ว่าตอนนี้ผมเจอผู้หญิงที่ถูกใจแล้วหละคุณแม่จะไปสู่ขอให้ผมได้ไหมครับ""จริงหรือลูกใครกันลูกสาวบ้านไหนบอกแม่มาซิลูก"คุณสุดามีสีหน้าตื่นเต้น"ลูกสาวคนโตของคุณวิโรจน์ อัครเดชกับภรรยาเก่าเธอชื่อเพียงขวัญครับ ผมอยากแต่งงานกับเธอถ้าไม่ใช่เธอผมก็ไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น" คำพูดที่มุ่งมั่นมั่นคงและแฝงไว้ด้วยต้องได้เท่านั้น"ลูกสาวคนโตของคุณวิโรจน์แม่เหมือนจะเคยเจอครั้งหนึ่งตอนที่เธอไปออกงานกับคุณวิโรจน์เธอก็สวยน่ารักดีนะ แต่ว่าลูกเคยเจอและคุยกันเหรอ""เปล่าครับผมก็แค่เคยเจอเธอและเคยคุยกันครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว..." ขุนเขาบอกกับผู้เป็นแม่"อ้าว...แล้วแบบนี้ลูกสองคนยังไม่รู้จักกันเลยแล้วจะให้แม่ไปขอแล้วถ้าเกิด