ในชีวิตนี้ กานต์ไม่เคยคิดหรือฝันถึงเรื่องราวความรักแบบนี้มาก่อน เขาไม่เคยสนใจหรือแม้แต่คาดคิดเกี่ยวกับความรักของเพศเดียวกัน และตลอดเวลาที่ผ่านมา กานต์ก็ไม่เคยมีแฟน แม้จะมีสาวๆ มากมายมารายล้อมและสนใจในตัวเขา แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกอะไรแบบที่กำลังเกิดขึ้นกับธนินตอนแรก ความรู้สึกของเขาที่มีต่อธนินเป็นเพียงความแปลกใจ แต่เมื่อธนินบังคับให้เขาตกเป็นของเขา มันก็เหมือนกับประตูบานใหม่ในโลกใบนี้เปิดออก ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กานต์กลับสั่นไหวไปกับทุกๆ การกระทำของธนิน ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การสัมผัส หรือแม้กระทั่งแค่สายตาที่เขาส่งมา มันทำให้หัวใจของกานต์เต้นรัว รู้สึกถึงความรู้สึกที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เป็นความสับสนที่ทำให้เขารู้สึกทั้งหวั่นไหวและยอมรับในเวลาเดียวกันแต่แล้วชะตากลับพาให้กานต์ได้พบกับหนุ่มหล่ออีกคนที่บุคลิกแตกต่างจากธนินโดยสิ้นเชิง สิธา หมอหนุ่มผู้มีบุคลิกอ่อนโยน สูงใหญ่ หล่อขาวสะอาด มารยาทดีและสุภาพ ในขณะที่ธนินดิบเถื่อน รุนแรง และเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง มีความต้องการและเรียกร้องจากกานต์อย่างไม่รู้จักพอ การพบกับสิธาเหมือนเป็นการค้นพบมุมใหม่ของชีวิต ที่ทำให้กานต์รู้สึ
กานต์ลืมตาขึ้นในตอนสายของอีกวัน แสงแดดยามเช้าส่องผ่านม่านบางๆ เข้ามาในห้อง เขารู้สึกถึงความเมื่อยล้าและเจ็บแปลบในบางส่วนของร่างกาย แต่เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน เขาก็หน้าแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว "ดีนะที่วันนี้เป็นวันหยุด" กานต์พึมพำเบาๆเขาพยายามลุกขึ้นจากเตียง แม้ร่างกายจะยังคงอ่อนล้าจากคืนที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อน ธนินทำให้เขาไม่ได้นอนเลยทั้งคืน กานต์ยังรู้สึกถึงสัมผัสรุนแรงที่ธนินฝากไว้ในทุกส่วนของร่างกาย เขาถอนหายใจเบาๆ พยายามเรียกสติกลับมาและจัดการตัวเองให้พร้อมสำหรับวันใหม่ที่เริ่มต้นขึ้นแล้วกานต์เดินไปเข้าห้องน้ำ ตาลุกวาวทันทีเมื่อเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก รอยจ้ำแดงๆ กระจายไปทั่วร่างขาวเนียนของเขา สัญลักษณ์ที่ธนินฝากไว้ด้วยแรงดูดรุนแรงนั้นยังคงชัดเจนใบหน้าของกานต์บึ้งตึงทันที “ไอ้บ้าธนิน...” เขาคิดในใจอย่างหงุดหงิด หน้าแดงขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นร่องรอยที่เต็มไปทั่วตัว ราวกับเครื่องหมายแสดงความเป็นเจ้าของกานต์ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด "แล้วจะหาเสื้อผ้าอะไรมาใส่เนี่ย..." เขาบ่นกับตัวเอง ก่อนจะเริ่มมองหาวิธีปกปิดร่องรอยเหล่านั้น แม้จะรู้ดีว่ามันยากแค่ไหนที่จะซ่อนมันทั้งหมดจ
เมื่อธนินมาส่งกานต์ที่สำนักงาน ความเงียบแผ่ปกคลุมในรถ ทั้งที่ภายนอกดูเหมือนสงบ แต่ภายในใจของกานต์กลับยังร้อนรุ่มไม่หาย ความทรงจำจากบทรักเอาแต่ใจของธนินที่เพิ่งผ่านไปยังคงก้องในหัวของเขา ร่างกายเขายังรู้สึกถึงสัมผัสที่รุนแรงและทิ้งร่องรอยแห่งความปรารถนาไว้ กานต์หันหน้าหลบสายตาของธนินที่มองมา รู้สึกอับอายและไม่กล้าเงยหน้าขึ้น แม้ในใจจะยังสั่นไหวและคิดวนเวียนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขากัดริมฝีปากตัวเองเบา ๆ พลางพยายามปรับลมหายใจให้เป็นปกติ แต่ความร้อนผ่าวในร่างยังไม่จางหาย ธนินเหลือบมองกานต์ที่นั่งข้าง ๆ ด้วยรอยยิ้มบางที่แฝงไปด้วยความพึงพอใจ เขารู้ดีว่ากานต์ยังสั่นไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ราวกับรอยจูบและสัมผัสที่เขามอบให้ยังคงอยู่กับกานต์อย่างชัดเจนใบหน้าของกานต์ที่ยังไม่หายจากความร้อนรุ่มและความกระตือรือร้นจากบทรักที่พวกเขามีร่วมกัน เขารู้สึกอิ่มเอมและพอใจจากการครอบครอง แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ยังไม่รู้สึกถึงความพอใจที่เต็มที่ ธนินมองกานต์ด้วยสายตาที่ลึกล้ำ ยิ้มมุมปากเล็กน้อยขณะเอื้อมมือมาปลดล็อกประตูฝั่งกานต์ ท่าทางของเขาดูอ้อยอิ่งเหมือนจะอยากยื้อเวลาช่วงนี้ให้นานขึ้น กานต์เบือนหน้าหนีหลบสา
หลังจากคืนนั้นที่กระท่อม ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปในตัวกานต์ เขารู้สึกหวั่นไหวทุกครั้งที่เห็นธนิน ไม่ว่าจะเป็นแค่ภาพท่อนบนเปลือยเปล่าที่โชว์แผงอกแข็งแรง กล้ามเนื้อที่ขยับเคลื่อนตัวตามจังหวะการหายใจ รอยสักขนาดใหญ่บนผิวสีแทนที่ดูมีเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ สิ่งเหล่านี้ตามหลอกหลอนจิตใจของกานต์อยู่เรื่อยมา แม้เขาจะพยายามหนีความรู้สึกนั้น แต่มันกลับชัดเจนมากขึ้นทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดธนิน วันนี้ก็เช่นกัน ธนินใช้หน้าที่เป็นข้ออ้างบังคับให้กานต์มาด้วย ทั้งสองนั่งอยู่ในรถจี๊บเปิดประทุนที่ขับลัดเลาะไปตามทางป่ากว้าง เสียงเครื่องยนต์ดังกลบความเงียบระหว่างทั้งคู่ แต่กานต์ไม่สามารถหยุดความคิดวุ่นวายในหัวได้ ทุกครั้งที่ธนินหันมา หรือแม้แต่ขยับตัวเพียงเล็กน้อย กานต์ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองแผงอกกว้างที่ดูแข็งแกร่ง อยู่ๆ ธนินก็ตัดสินใจจอดรถกลางป่าโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ กานต์รู้สึกหัวใจเต้นระรัว มือที่จับกันไว้บนตักอยู่นั้นสั่นเล็กน้อย เขาพยายามหาคำถามเพื่อเติมเต็มความเงียบ แต่เสียงของตัวเองกลับแผ่วเบาอย่างน่าตกใจ“ทำไม... ทำไมคุณจอดรถตรงนี้?” กานต์ถามออกไป น้ำเสียงสั่นน้อยๆธนินไม่ได้ตอบในทันที เขาหันมามองกาน
ธนินยืนอยู่ใต้ฝักบัวขนาดใหญ่ น้ำไหลลงมาที่แผงอกกว้าง ร่างสูงใหญ่ของเขาเต็มไปด้วยมัดกล้ามแข็งแรง ผิวสีแทนเป็นประกายเมื่อสะท้อนแสงจากน้ำ สายน้ำที่ไหลลงมาตามแนวกล้ามเนื้อของเขา คลึงเคล้าไปตามแผงอกที่กว้างและรอยสักที่ประดับอยู่บนร่างกายของเขา การเคลื่อนไหวของน้ำกระทบเส้นกล้ามเนื้อที่ชัดเจนและกระชับทำให้แต่ละลอนของน้ำไหลลงไปตามร่างกายเขาดูเซ็กซี่อย่างยิ่ง น้ำเย็นที่ไหลลงมาจากฝักบัวทำให้ผิวเขาเปล่งประกายและสัมผัสถึงความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้ออย่างชัดเจน กล้ามท้องของเขาเป็นแนวลอนชัดเจน บ่งบอกถึงความแข็งแรงและความเพรียวบาง ธนินยกมือขึ้นเช็ดน้ำจากใบหน้าและเสยผมออกจากหน้าผาก น้ำไหลจากเส้นผมไปตามลำคอและตกลงบนแผงอก การเคลื่อนไหวนี้ทำให้รู้สึกถึงความร้อนที่ยังคงอยู่ในตัวเขา แม้ว่าจะมีน้ำเย็นกระทบก็ตาม เขาเสยผมของตัวเองที่ยังเปียกชื้น น้ำที่ไหลลงมาทำให้ผมของเขาติดกับใบหน้าและคอ ปล่อยให้หยดน้ำไหลลงมาตามใบหน้าและคอ ทำให้ผิวของเขาดูเย้ายวนใจ ดวงตาของเขาเป็นประกาย สื่อถึงความอดกลั้นและความร้อนแรงที่ยังไม่สามารถระบายออกมาได้ ชายหนุ่มพยายามควบคุมตัวเอง รู้สึกถึงความต้องการที่รุนแรง……………………………………………
ผ่านไปเกือบสองอาทิตย์แล้ว กานต์ฟื้นตัวจนหายดี คืนนี้เป็นคืนพิเศษที่มีงานเลี้ยงวันเกิดของมิ่งที่จัดขึ้นที่สำนักงาน คนงานมากมายต่างพากันมาเข้าร่วมงาน บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เสียงหัวเราะ ร้องเพลง และการดื่มกินรอบกองไฟมิ่งนั่งชิดกับกานต์ หัวเราะพูดคุยและดื่มอย่างไม่ขาดสาย เสียงเพลงและเสียงหัวเราะของพวกเขาดังขึ้นเรื่อย ๆ แต่ท่ามกลางความครึกครื้นนั้น บางคนกลับไม่รู้สึกสนุกไปด้วย ธนินยืนมองภาพนั้นจากที่ห่างออกมา ความโกรธเริ่มก่อตัวขึ้นในใจเขา เขามองเห็นมิ่งที่นั่งใกล้ชิดกับกานต์มากเกินไป และท่าทางที่เป็นกันเองระหว่างพวกเขาทำให้เขารู้สึกไม่พอใจนายหัวลมออกหูแล้ว ความอิจฉาและความโกรธที่ถูกกักเก็บมานานเริ่มปะทุขึ้นในใจของเขา เขาไม่สามารถทนดูภาพนั้นได้อีกต่อไป ความคิดก็แล่นเข้ามาในหัวทันที “คงต้องรีบรวบหัวรวบหางซะแล้วสินะ” เขาคิดในใจ รู้สึกถึงความจำเป็นที่จะต้องทำอะไรบางอย่าง ก่อนที่มิ่งจะคิดไม่ซื่อกับกานต์ ความใกล้ชิดและการหยอกล้อกันระหว่างมิ่งและกานต์ทำให้ธนินรู้สึกไม่สบายใจ เขารู้ดีว่าตัวเองจะต้องลงมือก่อนที่อะไรจะเกินควบคุมไปมากกว่านี้ และแล้วภาพต่อไป กานต์ที่เริ่มเมาได้ที่ คุย