”พี่ชาย สร้อยคอของคุณดูไม่ปลอมไปหน่อยเหรอ? มันมีมูลค่าเพียงสามสิบเหรียญเท่านั้น ดูสิ มันเริ่มจะซีดแล้วด้วย”ชายร่างใหญ่ตกตะลึงและโกรธจัดในทันทีการได้รับความเคารพเป็นสิ่งสำคัญที่นักเลงควรจะมี และวิลเลียมก็โรยเกลือลงบนบาดแผลของชายคนนั้นอย่างโจ๋งครึ่มชายร่างใหญ่หันกลับมาและคว้าคอเสื้อของวิลเลียม “เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ?”“สร้อยคอของคุณมันเป็นของปลอม แต่ของฉันเป็นของแท้แน่นอน และมันก็มีมูลค่าถึงหนึ่งแสนแปดหมื่น มาแลกกันเถอะ”ชายร่างใหญ่ก็มึนงงหลังจากที่เขาสวมสร้อยคอปลอมบนคอของเขาแล้ว วิลเลียมก็รู้สึกเบาจนแทบจะลอยได้ เขากลับมายังพื้นที่ด้านล่างเวที พร้อมกับใบหน้าของเขาที่ยังคงซีดเซียวเฮเลนรีบถามด้วยความเป็นห่วงว่า “วิลล์ คุณเป็นอะไรไป? คุณรู้สึกไม่สบายเหรอ? เร็วเข้านั่งลงและดื่มชาก่อน”“ผมไม่เป็นอะไรครับป้า” วิลเลียมส่ายหัว เขาจ้องมองไปที่ไทร์ด้วยความกลัว ไทร์ที่ยังคงจุ่มชิ้นเนื้อลงในหม้อไทร์บังเอิญเหลือบมองกลับไปที่เขาอย่างเย็นชา จนทำให้ขนบนผิวหนังของวิลเลียมลุก“ป้าครับ ผมว่าบราเธอร์ไทร์กับวินนี่เฟรดเข้ากันได้ดีเลยทีเดียว”เฮเลนอึ้งไปเลย“จริงครับป้า ดูสิ ว่าพวกเขารักกั
อีธานโบกมืออย่างไม่เต็มใจ และแสดงท่าทีที่จะไม่ปฏิบัติตามอย่างชัดเจน “คุณไอริส ฉันรู้ว่าคุณไม่เห็นด้วยกับคุณวินนี่เฟรด แต่ให้ฉันพูดเถอะ ได้โปรดอย่าคิดที่จะลองทำอะไรตลก ๆ กับโครงการนี้เลย หากมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น คุณจะไม่สามารถรับผลที่ตามมาได้”หลังจากนั้น อีธานหันหลังเพื่อที่จะเดินจากไป “ฉันจะแสร้งทำเป็นว่าวันนี้ไม่ได้ยินเรื่องนี้ แต่ฉันไม่อยากเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นอีก มิฉะนั้น อย่าโทษถ้าหากว่าฉันจะรายงานเรื่องคุณกับท่านประธาน”อีธานจากไปโดยไม่หันกลับมามอง แต่แล้วเมื่อเขาไปถึงทางออก ไอริสก็เริ่มหัวเราะตามหลังเขา เสียงหัวเราะของเธอทำให้อีธานรู้สึกเหมือนมีหนามทิ่มแทงเข้าไปที่หนังศรีษะของเขา“อีธาน ลินซ์ ตาแก่งี่เง่า อย่าปฏิเสธข้อเสนอที่อ่อนโยนเพื่อบทลงโทษที่โหดร้ายจะดีกว่า ฉันรู้ดีว่าคุณทำอะไรในบริษัทมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา หยุดพยายามทำตัวชอบธรรมต่อหน้าฉัน ถ้าฉันไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับคุณ ฉันจะมาขอความช่วยเหลือจากคุณทำไม”อีธานแสดงท่าทีลังเลในขณะที่เขาหันไปมองไอริส เขาตระหนักว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเหมือนวิญญาณชั่วร้าย หากใครไม่ทำชั่วในระหว่างวัน พวกเขาจะไม่กลัวผีมาเคาะประตูบ้านในตอนกลางคืน และอีธ
ในขณะนั้น ไทร์รู้สึกเหมือนถูกแทงในส่วนที่ละเอียดอ่อนที่สุดของหัวใจ แม่ยายของเขาได้จำนำสินสอดทองหมั้นของเธอไปเพียงเพื่อซื้อรถให้ลูกสาวของเธอ“พรุ่งนี้ฉันจะไปเอากำไลคืนมา” ไทร์กล่าววินนี่เฟรดยิ้มอย่างขมขื่นอีกครั้ง “คิดว่ามันจะเป็นไปได้เหรอ? ภูมิหลังทางครอบครัวทางคุณยายของฉันค่อนข้างแข็งแกร่ง ดังนั้นสินสอดทองหมั้นของแม่จึงมีคุณภาพอยู่บ้าง ฉันได้ยินมาว่ากำไลของเธอมีมูลค่าราว ๆ หลายหมื่นเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว เก็บมาหลายปีตอนนี้คงมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนแล้ว ฉันไม่มีเงินมากมายขนาดนั้นหรอก แต่ต้องขอบคุณนะ ที่ตอนนี้ฉันมีโครงการใหญ่อยู่ในมือ และรายการที่ผลิตได้ถูกส่งต่อไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป อีกไม่นาน สมิธกรุ๊ปจะจ่ายเงินให้เรา ฉะนั้นเมื่อถึงเวลานั้นลองคิดหาหนทางอีกที”ไทร์หัวเราะเยาะอยู่ในใจ พอได้เงินกำไลนั้นก็อาจจะหายไปแล้วเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ไทร์ส่งแบลร์ไปโรงเรียนแล้ว เขาโทรหาเจด ลอเรล ผ่านเส้นสายของเจด เขาพบว่ากำไลที่แม่ยายของเขาจำนำไป และได้รับกลับคืนด้วยเงินสดในระหว่างนั้นเจดได้อธิบายสถานการณ์ของวิลเลียมให้ไทร์ฟัง ไทร์แค่ยิ้มออกมา เขาไม่นึกถึงเหตุการณ์นั้นด้วยซ้ำ เป็นเรื่องธรรม
ไทร์และวินนี่เฟรดต่างงุนงง คนรุ่นเก่าวัดสถานะของรถด้วยขนาดงั้นเหรอ? เฮเลนดูไม่แฮปปี้อย่างเห็นได้ชัด ไทร์ฉันบอกให้นายซื้อรถคันใหญ่ แล้วทำไมได้คันนี้แทน?พลัมเป่าเปลือกเมล็ดแตงโมลงบนพื้นก่อนที่จะสังเกตเห็นว่าโลโก้เบนซ์มีความคล้ายคลึงกับมิตซูบิชิ เธอขึ้นเสียงและเริ่มเยาะเย้ยอีกครั้ง “เฮเลน ลูกเขยของเธอใช้ได้จริง ๆ ดูโลโก้นั่นสิ รถของเรามีโลโก้ที่คล้ายกัน พวกมันทั้งสองมีสามง่าม แต่ดูของฉันสิ มันหนาเหมือนใบไผ่ ส่วนของเธอเป็นเหมือนเข็ม”ขณะนั้น ไทร์และวินนี่เฟรดที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกได้ถึงเส้นเลือดที่กำลังแข็งในตัวของพวกเขาเฮเลนกลับกระทืบเท้าด้วยความโกรธ “นายมันไร้ค่า แค่ทำให้มันถูกต้องมันยากหนักเหรอ? มันน่าขายขี้หน้าไหม! เฮเลนจากไปด้วยความโกรธ ขณะที่วินนี่เฟรดและไทร์วิ่งไล่ตามเธออย่างรวดเร็วพร้อมกับสีหน้าที่ยังงุนงงที่บ้าน เฮเลนโกรธอยู่นาน วินนี่เฟรดต้องการจะอธิบายให้เธอฟังแต่ถูกไทร์ห้ามไว้ ผ่านไปครู่หนึ่ง ความโกรธของเฮเลนสงบลง จากนั้นเธอเดินไปหาไทร์ “นี่ไทร์ ที่ฉันตะหวาดนายไปก่อนหน้านี้ นายอย่าเก็บมาใส่ใจเลย”ไทร์รู้สึกประหลาดใจ เขาไม่เคยคิดว่าแม่ยายของเขาจะขอโทษเขาด้วยความเต็ม
ในสายตาของวินนี่เฟรด โจเซฟ ซี เป็นผู้อาวุโสที่มีความสามารถและกล้าหาญอยู่เสมอ นอกจากนี้ ในช่วงหกปีที่ผ่านมา ที่ตระกูลซีทั้งหมดไม่ว่าจะใกล้หรือไกลดูหมิ่นเธอ มีเพียงโจเซฟเท่านั้นที่มีคุณค่าต่อวินนี่เฟรด และให้ความช่วยเหลือครอบครัวของเธออย่างมาก ดังนั้น โจเซฟจึงเป็นผู้อาวุโสที่วินนี่เฟรดนับถืออย่างมาก ตอนนี้โรงงานของโจเซฟใกล้จะล้มละลาย วินนี่เฟรดจึงไม่สามารถยืนดูอยู่เฉยๆ ได้“คุณปู่สี่ ฉันแน่ใจว่าคุณมาหาฉันเพราะคุณได้ยินมาว่าฉันรับผิดชอบการทำงานร่วมกันกับสมิธกรุ๊ป ใช่ไหม” "ใช่" โจเซฟพยักหน้า “วินนี่เฟรด ถ้าไม่ใช่เพราะว่าปู่ไม่มีที่อื่นให้หันไปหา ปู่ก็คงไม่กล้าที่จะมาหาเธอ โครงการที่เธอทำอยู่ตอนนี้ควรจะเกินสิบล้านทุกเดือนตามคำสั่งซื้อ เธอช่วยให้พื้นที่ส่วนเล็ก ๆ แก่โรงงานของฉันทำได้ไหม”วินนี่เฟรดเงียบไปครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าคุณปู่สี่ของเธอดูซีดเซียวแค่ไหน เธอจึงปวดใจ “คุณปู่สี่ ฉันไม่มีปัญหากับมันจริง ๆ แต่เรื่องนี้ยังต้องได้รับการอนุมัติจากคุณปู่ ทำไมคุณไม่ไปกับฉันเพื่อพบคุณปู่และคุยกับเขาเรื่องนี้ล่ะ เมื่อสองสามปีก่อน เมื่อครอบครัวของเรามีปัญหา ทั้งหมดต้องขอบคุณความเอื้ออาทรของคุณปู่
เรื่องของโจเซฟ ซี เป็นเพียงฉากเล็ก ๆ ที่สักพักก็ถูกลืม โรงงานของโจเซฟจะล้มละลายหรือไม่นั้นไม่มีใครสนใจ แม้ว่าวินนี่เฟรดต้องการช่วยเหลือโจเซฟจริง ๆ แต่เธอยังคงมองไม่เห็นหนทางที่จะช่วยเหลือเขา ซีกรุ๊ปไร้ความเห็นอกเห็นใจ ชีวิตการทำงานยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน วินนี่เฟรดทำงานหนักกว่าที่ผ่านมา โครงการชุดแรกได้ส่งมอบให้กับสมิธกรุ๊ป เป็นที่เรียบร้อย และสมิธกรุ๊ปก็รองรับเครื่องหมายการค้าอย่างถูกต้อง เพื่อการส่งออกสู่ตลาดเพื่อจำหน่ายผลการตอบรับนั้นยอดเยี่ยม ไม่ว่าคุณภาพหรือสไตล์จะเป็นอย่างไร ทุกอย่างได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ดังคำกล่าวที่ว่า ก้าวแรกมักจะยากที่สุดเสมอ ด้วยการเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยม ต่อจากนี้ไปทุกอย่างจะเริ่มผ่อนคลายมากขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้โครงการของวินนี่เฟรด ที่ดำเนินไปอย่างราบรื่น ไทร์ได้จัดโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารพิเศษในช่วงสุดสัปดาห์ แด่วันที่หน้าจดจำในตอนบ่ายของวันนั้น ครอบครัวที่มีสมาชิกทั้งห้าคนกำลังเพลิดเพลินกับอาหารกลางวัน บางทีอาจเป็นเพราะอารมณ์ดีของเธอ เฮเลนไม่ได้ดูถูกไทร์แล้ว แต่กลับชมเชยอาหารของเขาแทน พ่อตาของเขาถึงกับเปิดขวดไว
วินนี่เฟรดไม่มีโอกาสมากพอที่จะอธิบายความจริงจากการใส่ร้ายของอีธาน ชายคนนี้ใช้การลาออกเป็นข้ออ้างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เพื่อให้เปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบโครงการและไล่วินนี่เฟรดออกจากบริษัท ด้วยวิธีนี้ ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับวินนี่เฟรด เรื่องการจงใจนำเข้าผ้าคุณภาพต่ำเพื่อผลกำไรด้วยหลักฐานที่หนาแน่น มันคงยากสำหรับเธอที่จะอธิบายตัวเอง "ถูกต้อง คนแบบนี้ควรถูกไล่ออกจากบริษัท” “และข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นและคำตำหนิจากสมิธกรุ๊ป วินนี่เฟรดจะต้องเป็นคนรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว” “ต่อให้พวกเขาต้องการส่งเธอเข้าคุกก็ตาม!” เจ้าหน้าที่บริหารของซีกรุ๊ปแสดงความคิดเห็น ไม่มีใครเข้าข้างวินนี่เฟรดและมีข้อข้องใจสำหรับปัญหานี้เลย วินนี่เฟรดรู้สึกหลงทาง คนพวกนี้เป็นใคร? คนพวกนี้จำนวนมากเป็นญาติสนิทของเธอ แต่ทำไมพวกเขาแต่ละคนต้องการให้เธอจบสิ้นมากขนาดนี้? “คุณปู่...” “อย่ามาเรียกฉันว่าปู่!” จอร์จขึ้นเสียง “โครงการนี้ไอริสจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราว วินนี่เฟรดกลับไปและไตร่ตรองเรื่องนี้ซะ หากสมิธกรุ๊ปต้องการฟ้องเธอขึ้นมาจริง ๆ และส่งเธอเข้าคุก เธอต้องโทษตัวเธอเอง ฉันไล่เธอออก!” การประชุมจบลง จอร์จเดินผ่านวินนี่เ
เพี้ยะ!...อีธานตบหน้าเฮเลนอย่างหนัก ทันใดนั้น ลายนิ้วมือห้านิ้วสีแดงเลือด ก็ปรากฏขึ้นที่แก้มของเธอเฮเลนตกตะลึง เธอไม่เคยคิดว่าอีธานจะโจมตีผู้หญิงอย่างเธอ “ไอ้สัตว์ร้าย นายรู้สึกผิดแล้วใช่ไหม? ฉันจะเอาคืนอย่างสาสม!” เมื่อพูดจบ เฮเลนก็รีบวิ่งเข้าหาอีธาน ราวกับว่าเธอบ้าคลั่งไปแล้วอย่างไรก็ตาม อีธานส่งยิ้มแปลก ๆให้เธอและก้าวถอยหลัง ข้างหลังเขา ทันใดนั้นชายร่างใหญ่สองคนก็ปรากฏตัวขึ้นผัวะ... ชายที่แข็งแกร่งคนหนึ่งเตะเข้าที่ท้องของเฮเลน เธอล้มลงด้วยอาการปวดเกร็งทันทีชายคนนั้นชี้มาที่เธอและด่าว่า “เธอมันอวดดี ไสหัวไปซะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าเธอ!”เฮเลนเริ่มรู้สึกกลัว ชายสองคนนี้ดูเหมือนพวกอันธพาล ซึ่งจริง ๆ แล้วพวกเขาก็เป็นอันธพาลอย่างที่คิด หลังจากที่อีธานรับสินบนของไอริสและใส่ร้ายวินนี่เฟรด เขารู้อยู่แล้วว่าจะมีคนมาที่บ้านของเขาเพื่อสร้างปัญหา ดังนั้นเขาจึงใช้เงินไปจ้างบอดี้การ์ดสองคนนี้ แน่นอน พวกเขาได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาทำงานคุ้มเงินอีธานจุดบุหรี่ที่อยู่ในมือและจ้องเฮเลนอย่างโอหังพร้อมยิ้ม “เธอคิดว่าเธอเป็นใตน ถึงมาที่นี่และประณามฉัน? ก็ได้ฉันจะบอกให้ว่า ฉันเป็นคนใส่ร้ายวินนี่เฟรด แ