Home / เมือง / ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ / บทที่ 7 ไม่ว่าเธอจะอยู่ทึ่ไหน ฉันก็จะขออยู่เคียงข้างเธอ

Share

บทที่ 7 ไม่ว่าเธอจะอยู่ทึ่ไหน ฉันก็จะขออยู่เคียงข้างเธอ

Author: บัณฑิตติดบ้าน
การกระทำของไอริสเป็นการดูถูกเหยีดยหยามอย่างมาก อย่างไรก็ตามจอร์จกำลังหลงไหลไปกับชิ้นส่วนของโสมป่า ที่เขานั้นไม่เคยตั้งใจจะใช้เงินซื้อมันมา มันเหมือนกับว่าเขายินยอมอย่างเงียบ ๆ กับกระทำของไอลิส

วินนี่เฟรดงุนงง หยั่งรากลึกไปถึงแก่นและรู้สึกกระวนกระวาย นั่นมันคือของขวัญที่เธอและไทร์พิถีพิถันเลือกมาสำหรับจอร์จ แต่ของพวกนั้นกลับถูกมองว่าเป็นขยะ

"กินข้าวกันเถอะ" เมื่อทุกคนมาถึง จอร์จก็ประกาศว่าได้เวลาเริ่มรับประทานอาหาร

ทั้งตระกูลนั่งลง วินนี่เฟรดและไทร์ได้นั่งโต๊ะร่วมกับจอร์จ เธอนั้นคือเชื้อสายโดยตรงของครอบครัวสมาชิกตระกูลซีดังนั้นมันจีงเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะนั่งตรงนี้

อย่างไรก็ตาม สักพักหนึ่งหลังจากที่พวกเขานั่งลง ไอริสเอามือมาบังปิดจมูกในท่าทางเสียดสี ขณะเธอบ่น "ทำไมโต๊ะนี้มันมีกลิ่นสาปแปลก ๆ ? กลิ่นเหมือนกับถังขยะ"

ทันใดนั้นทุกคนต่างมองไปที่ไทร์ การกล่าวขึ้นมาลอย ๆ แบบนี้ มันชัดเจนที่หมายถึงว่าไทร์นั้นเป็นขอทาน และไม่มีใครอยากจะร่วมโต๊ะอาหารกับขอทาน

"วินนี่เฟรด พาไทร์ไปกับเธอและไปกินตรงนู้น" จอร์จกล่าวและชี้ไปที่โต๊ะเล็ก ๆ นั่นมันเป็นโต๊ะของเหล่าคนรับใช้เพื่อรับประทานอาหาร

วินนี่เฟรดขุ่นเคืองแต่ไม่ได้กล่าวอะไร และนำไทร์ไปนั่งที่โต๊ะเล็ก ๆ ถึงอย่างไรเธอก็ชินชากับการถูกกลั่นแกล้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเธอเป็นกังวลกับความรู้สึกของไทร์มากกว่า "ไทร์ถ้านายรู้สึกว่านี่มันมากเกินไป นายกลับไปก่อนก็ได้"

ไทร์ยักไหล่อย่างเรียบเฉย และกล่าว "ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน ฉันก็จะอยู่เคียงข้างเธอ"

จากนั้นจอร์จก็ดื่มอวยพรให้กับทราวิส มันคือการแสดงถึงความเคารพที่ดีที่มีให้กับอนาคตหลานเขย ในทางกลับกันเทียบกับไทร์ที่ไม่ได้รับความสนใจอยู่ที่โต๊ะเล็ก แม้กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลซี ยังมีสีหน้าที่หยามเหยียด

หลังจากดื่มไวน์ไปไม่กี่รอบ จอร์จก็กล่าวถามไปที่ลูกชายคนโต แจ็คสัน "แจ็คสัน ฉันได้ยินมาว่าชายผู้ที่ใช้เงินเป็นสิบล้านเพื่อครอบครองศูนย์กลางเมืองนั้น ได้มาอยู่ที่นี่ในเมืองคานห์ มันคือเรื่องจริงเหรอ?"

แจ็คสันรีบพยักหน้า "ใช่แล้วครับคุณพ่อ ผมก็ได้ยินข่าวเหมือนกัน"

"ฉันคิดได้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อวาน ฉันกระทั่งได้ยินว่าเจ้าของใหม่เป็นชายหนุ่ม เขาจะต้องเป็นนายน้อยที่รวยล้นฟ้าผู้มาจากสมาคมใหญ่ในชนบท"

ชายหนุ่มและรวยล้นฟ้า! ในคำกล่าวถึงนี้ต่างทำให้หญิงสาวพึมพัมอุทานออกมา แม้กระทั่งไอลิสก็ยังมีดวงตาเป็นประกาย ในตอนนี้พวกเขาอยากจะเห็นหน้านายน้อยผู้ซึ่งใช้เงินสิบล้านซื้อศูนย์กลางเมืองได้อย่างง่ายดาย

จอร์จถาม "ศูนย์กลางเมืองนั้นมันจะเปิดให้นักลงทุนต่างประเทศลงทุนเร็ว ๆ นี้ไหม?"

แจ็คสันพยักหน้าและกล่าว "ใช่ หากเรามีคุณสมบัติได้เข้ารับเลือก เราก็สามารถใช้ช่องทางนั้นเพื่อค้นหาพันธมิตรที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นหากทำได้สำเร็จภายในห้าปี กลุ่มเครือซีของเราจะบรรลุมาตรฐานสากล"

หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น ทั้งตระกูลซีก็ปลาบปลื้มใจมีเพียงไทร์ที่นั่งถอนหายใจอยู่มุมห้อง มันเป็นเพียงแค่ศูนย์กลางของเมืองเล็ก ๆ และเป็นจุดเล็ก ๆ ภายในพื้นที่ เพียงแค่เท่านี้ก็ทำให้คนเหล่านี้ตื่นเต้นกันใหญ่โต พวกเขานั้นเป็นเพียงแค่มดปลวกจริง ๆ

"แต่คุณพ่อ ทั่วทั้งเมืองคานห์และหลาย ๆ บริษัทเครื่องแต่งกาย จากทางใต้ต่างให้ความสนใจไปที่ศูนย์กลางเมือง มันคงจะไม่ง่ายสำหรับ กลุ่มเครือซีที่จะได้ถือครองสิทธินั้น"

ความจริงก็คือภายในเมืองคานห์ กลุ่มเครือซีก็เป็นแค่เพียงบริษัทเครื่องแต่งกายชั้นสอง มันมีบริษัทเครื่องแต่งกายมากมายภายในเมืองคานห์ที่เป็นคู่แข่ง หากพวกเขารวมทั้งจังหวัดและทางใต้เข้าด้วยกัน มันก็จะมีมากเกินไป หากตระกูลซีอยากจะเฉิดฉายขึ้นมาก็คงเป็นเรื่องยาก

"ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม กลุ่มเครือซี ก็คือบริษัทท้องถิ่น ดังนั้นเราจึงมีข้อได้เปรียบอยู่บ้าง ในอีกไม่กี่วัน ศูนย์กลางเมืองจะเป็นเจ้าภาพจัดงานการลงทุนเพื่อประกาศคุณสมบัติ ไม่แน่ว่าเจ้าของคนใหม่ก็อาจจะไปร่วมงานที่นั่นด้วยตัวเอง พวกเธอแต่ละคนมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างที่เราจะหาทางติดต่อกับเจ้าของเพื่อที่เราจะได้พบเจอกันเป็นการส่วนตัว"

ทุกคนในตระกูลซีต่างคอตก พวกเขาเป็นเพียงแค่มดปลวกเมื่อเทียบกับชายผู้รวยล้นฟ้า ใครจะไปสามารถหาทางติดต่อกับเขาได้?

หนึ่งในการตอบสนองพวกเขาต่างชายตามองไปที่ทราวิส จอร์จเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงนี้คือก็เพราะมีบางอย่างอยู่ในหัว เป้าหมายหลักของเขาก็คือจะให้ทราวิสช่วยเหลือพวกเขาในเรื่องนี้ ทราวิสนั้นเป็นนายน้อยแห่งตระกูลเจนเซ่น สำนักเภสัชสมุนไพรร้อยปี สถานะและชื่อเสียงของพวกเขาในเมืองคานห์นั้นไกลห่างจาก กลุ่มเครือซี พวกเขาแทบจะกลายเป็นบริษัทชั้นนำแล้ว

อย่างไรก็ตามทราวิสนั่งนิ่งเงียบอยู่ท่ามกลางสถานะการณ์ที่ตึงเครียด เขาไม่ได้กล่าวอะไรสักคำ มันเหมือนราวกับว่าเขาไม่ได้มีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือ

จอร์จนั้นรู้สึกร้อนรน แต่เขานั้นเป็นคนโอหังเขาไม่อยากจะเอยปากถามทราวิสเป็นการส่วนตัว และดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนแผน เขาหันมาหาไอลิส ผู้ซึ่งนั่งอยู่ด้านข้าง ทราวิสและกล่าว "ไอริส เธอทำได้ดีมากในแผนกปฏิบัติการสำหรับไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฉันได้ยินมาว่าเธออยากจะขึ้นเป็นผู้จัดการในแผนกนั้น จริงหรือเปล่า?"

ไอริสพยักหน้าในทันที "ใช่ค่ะ คุณปู่ ฉันคิดว่าความสามารถของฉันคงจะเหมาะสมอย่างมากกับตำแหน่งนั้น"

"แต่ประสบการณ์ของเธอก็ยังเล็กน้อย หากเธอเข้ารับตำแหน่งนั้นในตอนนี้ มันอาจจะมีบางคนที่คัดค้าน ถึงอย่างไรถ้าหากเธอสามารถครอบครองสิทธิในศูนย์กลางเมืองมาได้ในครั้งนี้ มันก็คงจะเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป"

แน่นอนว่าไอริสนั้นเข้าใจความหมายในสิ่งที่จอร์จต้องการจากคำพูดของเขา เขาพยายามที่จะให้เธอไปยุยงทราวิสให้ช่วยเหลือ

หลังจากกล่าวสิ่งนั้น จอร์จรู้สึกว่าเขาแสดงออกมาโจ่งแจ้งเกินไป เขาจึงรีบกล่าวเสริม "ฉันไม่ได้พูดถึงเพียงแค่ไอริส แต่หมายถึงทุกคนทั้งหมดที่นี่ สำหรับใครก็ตามที่ทำให้เราได้สิทธิในนั้น ฉันจะอนุญาตให้เลื่อนขั้น ไปสู่ตำแหน่งที่พวกเธออยากจะทำ ตราบเท่าที่ยังอยู่ในความสามารถของพวกเธอ"

หลังจากเขากล่าวเช่นนี้ดวงตาของแต่ละคนส่องเป็นประกาย นี่มันเป็นโอกาสชั้นเลิศ เพื่อที่จะได้ขึ้นเงินเดือนและเลื่อนขั้น แต่ภายในพริบตาเดียวแสงประกายก็ต้องดับวูบลงในดวงตาพวกเขา พวกเขารู้ตัวดีว่าไม่มีเส้นสายที่จะไปจังจองสิทธิในศูนย์กลางเมือง นี่มันชัดเจนว่าเป็นวธีที่ชายชรากล่าวใช้เพื่อกู้หน้าของตัวเองและปกปิดให้กับไอลิส

ในเวลาเดียวกัน ไทร์สังเกตุเห็นความปราถนาบนสีหน้าของวินนี่เฟรด อย่างไรก็ตามมันปรากฏขึ้นมาแค่ชั่วครู่ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง จากการสำรวจของเขาไทร์ก็เข้าใจได้ทันทีอย่างง่ายดายว่าวินนี่เฟรดกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ "วินนี่เฟรด เธอมีตำแหน่งอะไรอยู่ในบริษัท?"

วินนี่เฟรดตอบ "ฉันคือหัวหน้าทีมในแผนกออกแบบ"

"อะไรที่อยู่เหนือไปกว่าหัวหน้าทีมออกแบบ?"

"ก็ต้องเป็นประธานแผนกสิ"

เทียร์ยิ้มแฉ่ง "เอาล่ะ วินนี่เฟรดเธออยากขึ้นไปเป็นประธานแผนกไหม?"

"ขึ้นไปเป็นประธานแผนก..." วินนี่เฟรดขนลุก แน่นอน ว่าเธอต้องจะเลื่อนตำแหน่งแต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร? วินนี่เฟรดได้ทำงานยืดหยุ่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและมีความสามารถที่โดดเด่น เธอนั้นมีคุณสมบัติเพรียบพร้อมที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกแต่จอร์จไม่เคยที่จะให้โอกาสเธอ เพราะเธอเป็นที่น่าอับอายของตระกูลซี

"ไทร์เบาเสียงลงหน่อย อย่าพูดจาไร้สาระ" วินนี่เฟรดกล่าวกับไทร์ ด้วยสีหน้าร้อนรน เธอกลัวว่าจะมีคนได้ยิน เพราะว่าถ้าหากมีใครได้ยินเข้า ก็คงจะถูกล้อเลียนอีกรอบ

อย่างไรก็ตามไทร์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เขากล่าวต่อ "วินนี่เฟรด เธอก็ได้ยินคุณปู่พูดไว้ชัดเจนแจ่มแจ้ง นี่มันก็แตกต่างกันเพียงแค่ขั้นเดียวจากหัวหน้าทีม ไปเป็นประธานแผนก มันก็คงจะถือได้ว่าเป็นการเลื่อนขั้นที่สมเหตุผล"
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 240 ราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ตายแล้ว

    เมื่อไทร์ได้ยินข่าวนี้ สีหน้าของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ราวกับว่าเขารู้มาตลอด “ต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอ?” ไทร์พึมพำกับตัวเองก่อนจะตอบว่า “ผ่อนคลาย ทำสิ่งที่พวกนายต้องทำต่อไป แค่ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” “แต่บราเธอร์ไทร์” เดรก ทัคเกอร์กล่าว “ฉันจะจัดการเอง” ในตอนท้ายของการโทร เดรกไม่กล้าพูดอะไรอีก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงวางสายเท่านั้น ในยุคนี้ ที่วิธีการกระจายข้อมูลได้รับการพัฒนาเป็นอย่างดี ข้อมูลต่าง ๆ สามารถแพร่กระจายไปทั่วประเทศได้ทันที บุคคลสำคัญของเมืองคานห์มีการติดต่อทางธุรกิจกับเมืองไพร์มไม่น้อยและหลายคนยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ดังนั้น เมื่อข่าวการเสียชีวิตของกษัตริย์แห่งเซาท์ริเวอร์แพร่กระจายไปทั่วเมืองไพร์ม เมืองคานห์ก็จะได้รับข่าวคราวเช่นกัน หลังจากการโทรครั้งแรกจากเดรก ไทร์ยังได้รับสายจากบุคคลอื่น เช่น โนอาห์ ลี, แซคเคอรี่ สมิธ, โดนัลด์ ลูอิส, และเจด ลอเรล อย่างต่อเนื่อง แต่ละคนต่างก็ดูวิตกกังวลและเป็นห่วงไทร์ เหตุการณ์นี้ร้ายแรงเกินไป เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการตายของราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ คาร์สัน ยอร์ก ไทร์ได้ให้คำตอบกับบุคคลสำคัญในเมืองคานห์เหล่านี้แบบเดี

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 239 หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง

    ถึงตอนนี้ มีเพียงคาร์สัน ยอร์ก ไทร์ ซัมเมอร์และเจมสัน ซิงค์ ซึ่งรับผิดชอบการเทไวน์ข้าง ๆ พวกเขาเท่านั้น ที่ถูกทิ้งไว้ในห้องอาหาร “ไทร์ อย่าไปสนใจเธอเลย ผู้หญิงคนนั้นเป็นแบบนั้นเสมอมา คุณป้าเควลซ์ของคุณจะให้ความกระจ่างแก่เธอเอง ถ้าเธอพยายามจะรบกวนคุณอีก ผมจะเป็นคนดูแลเธอเอง” คาร์สันกล่าว ไทร์ยิ้มและตอบ “ไม่เป็นไรคุณลุงยอร์ก” “มาเถอะ วันนี้เราใช้โอกาสดี ๆ นี้เพื่อดื่มกัน” คาร์สันหันไปหาเจมสัน “เจมสัน ไปที่ห้องเก็บไวน์และหยิบไวน์ขวดเก่าที่ฉันเก็บไว้มา คืนนี้ไทร์และฉันจะดื่มจนกว่าเราจะเมากันไปข้างหนึ่ง” เจมสันพยักหน้าทันทีก่อนจะรีบไปที่ห้องเก็บไวน์ เมื่อเขาจากไป มีเพียงคาร์สันและไทร์เท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้ในห้องอาหาร ในขณะนั้น คาร์สันที่ยิ้มแย้มแจ่มใสในตอนแรก ใบหน้าของเขาแสดงถึงความจริงจังออกมาชั่วครู่ก่อนที่รอยยิ้มของเขาจะกลับคืนมา เพียงชั่วพริบตานั้น ไทร์ก็เข้าใจความหมายของเขาทันที คาร์สันขยับแก้วไวน์ต่อหน้าเขา เขาใช้ไวน์หนึ่งหยดจากแก้วของเขาเขียนลงบนโต๊ะอย่างรวดเร็วว่า 'หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง' ขณะที่เขาเขียน เขาพูดต่อว่า “ไทร์ ผมต้องขอบคุณคุณ ที่รักษาป้าเควลซ์ของคุณให้หายดี

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 238 ฉันโกรธเคืองมาก

    ไทร์ ซัมเมอร์และคอนนี่ ยอร์กจึงนั่งลงด้วยกัน ในขณะที่พ่อบ้านเจมสันยืนอยู่ข้าง ๆ พวกเขาเพื่อรินเครื่องดื่ม “พี่ชายที่รัก คุณแม่ของฉันดีกับคุณมาก ฉันมักจะขอให้เธอทำอาหารเหล่านี้ แต่เธอไม่ทำอาหารให้ฉันเลย เมื่อคุณอยู่ที่นี่ เธอกำลังแสดงทักษะการทำอาหารทั้งหมดของเธอให้คุณเห็น ในที่สุดฉันก็สามารถได้ทานอาหารเหล่านี้” จะว่าไปแล้ว คอนนี่ไม่ได้สนใจภาพลักษณ์ของเธอเลย เธอคว้าปีกไก่จากบนโต๊ะแล้วเคี้ยวมันทันที สีหน้าของคาร์สัน ยอร์กมืดลงในทันทีและเขาก็ตะคอกเธอ “ดูเธอทำ แขกของเธอยังไม่ได้เริ่มรับทานเลย แต่เธอกำลังกินอาหารด้วยมือเปล่า วางมันลงเดี๋ยวนี้ มารยาทของเธออยู่ไหนหมด?” เธอไม่สะทกสะท้านกับคำดุว่าของพ่อของเธอ คอนนี่ยังคงเคี้ยวไก่ของเธอต่อไป เธอคว้าอีกอันหนึ่งใส่ในชามของไทร์ และเคี้ยวในขณะที่เธอพูดว่า “พี่ชายที่รัก คุณก็กินด้วยสิ ฝีมือการทำอาหารของคุณแม่ของฉันยอดเยี่ยมมาก” ไทร์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย พฤติกรรมของหญิงสาวคนนี้แตกต่างจากใบหน้าที่งดงามของเธอ คาร์สันไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรกับลูกสาวของเขา ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ถอนหายใจ “ไทร์ คุณไม่ต้องไปสนใจเธอ เธอไม่เป็นกุลสตรีเอาซะเลย” เขาส่งสายตา

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 237 สร้างความบาดหมาง

    ไทร์ ซัมเมอร์รู้สึกหนาวไปที่กระดูกสันหลังของเขา ผู้หญิงสมัยนี้ตรงไปตรงมาขนาดนี้ได้ยังไง? อันที่จริง ตั้งแต่ที่ วินนี่เฟรดเข้ามาในชีวิตเขา ไทร์ก็ไม่ได้สนใจผู้หญิงคนอื่นอีกเลย แต่ถ้าเขาได้พบกับคอนนี่ ยอร์กก่อนวินนี่เฟรด บางทีเขาอาจจะถูกดึงดูดโดยผู้หญิงที่สวยและงดงามคนนี้แทน ถึงแม้ว่า ไทร์จะได้พบกับหญิงสาวผู้มั่งคั่งและเจ้าหญิงผู้งดงามมากมายและเขายังได้พบกับคนดังระดับโลกมานับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีใครที่สวยได้เท่าคอนนี่ผู้นี่ ผู้หญิงคนนี้เป็นผลงานชิ้นเอกที่แกะสลักและสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยพระเจ้า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไทร์มีเพียงแค่วินนี่เฟรดเท่านั้น รถคาดิลแลคของเขามุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ยอร์ก ในขณะที่ เจย์ เบลด ถูกทิ้งให้ยืนแข็งทื่ออยู่เช่นนั้น เขายังคงตะลึงงันในขณะที่เขาจ้องไปที่รถคาดิลแลคที่พุ่งออกไปด้วยดวงตาที่แดงก่ำ เปลวเพลิงแห่งความโกรธแผดเผาหัวใจของเขา ลูกน้องของเข้าเดินเข้ามาหาเขาและถามด้วยความเป็นห่วงว่า “บราเธอร์เจย์ คุณโอเคไหม?” ผัวะ… เจย์ปล่อยหมัดเข้าที่ท้องของลูกน้อง ชายผู้นั้นรู้สึกได้ถึงตะคริวที่หน้าท้องและเขาก็ล้มลงกับพื้นแล้วจับหน้าท้องเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด “แม่ง

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 236 ฉันจะแต่งงานกับคุณคนเดียวเท่านั้น

    เมื่อพูดถึงคาร์สัน ยอร์ก ใบหน้าของเจย์ เบลดก็กระตุกเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะเป็นนายน้อยซาร์แห่งเมืองไพร์ม แต่เขาก็ต้องเกรงกลัวคาร์สัน ยอร์ก ที่เป็นราชาแห่งเซาท์ริเวอร์อยู่มาก ในเวลานี้ เขาตาบอดอย่างสิ้นเชิงเพราะความรักที่เขามีต่อคอนนี่ ยอร์ก เขาเห็นไทร์เป็นคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา เมื่อคาร์สันเชิญไทร์ไปทานอาหารเย็น เจย์รู้สึกว่าตำแหน่งของเขาถูกคุกคาม เมื่อจิตนาการถึงคอนนี่และไทร์ ที่กำลังมีความสุขอยู่ด้วยกัน มันบีบคั้นหัวใจของเขาและจุดประกายความโกรธของเขา เขาไม่สามารถทนเห็นมันได้ “ไทร์ ซัมเมอร์! ฉันไม่สนใจว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าแกยังกล้าที่จะเข้ามาเหยียบเมืองไพร์มอีก ฉันจะฆ่าแก!” เมื่อมองดูท่าทางที่คุกคามของเจย์ ไทร์กลับคิดว่ามันไร้สาระ “ฉันไม่ได้สนใจมิสยอร์กของนาย ขอร้องเถอะเจย์ อย่ามายุ่งกับฉัน” ไทร์ไม่สนใจคนเหล่านี้ในขณะที่เขากลับไปที่รถคาดิลแลคของเขา พวกเขาโชคดีที่เป็นคนของคาร์สัน ยอร์ก ถ้าไม่เช่นนั้น ไทร์จะไม่เมตตาพวกเขาอย่างแน่นอน “ฉันไม่สน ว่าแกจะสนใจเธอหรือเปล่า แต่เธอต้องการแต่งงานกับแก และนั่นคือความกังวลของฉัน! ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย กลับเมือง

  • ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ   บทที่ 235 ไสหัวไปจากเมืองไพร์ม

    “นายบอกว่า ระหว่างนายกับคอนนี่ ยอร์ก ไม่มีอะไรไม่ใช่เหรอ? ทำไมพ่อของเธอถึงชวนนายไปที่นั่น? ไม่น่าแปลกใจที่นายจะมั่นใจมาก ๆ ว่าบริษัทต่าง ๆ ในเมืองไพร์มจะต้องมาอ้อนวอนเรา ใครจะรู้ว่านายกำลังคิดที่จะทยานขึ้นไปด้วยความช่วยเหลือจากตระกูลยอร์ก” ไทร์ ซัมเมอร์ขมวดคิ้ว วินนี่เฟรดแสดงออกถึงพฤติกรรมแปลก ๆ ไม่เหมือนวินนี่เฟรดคนเดิม เธอกลายเป็นคนไร้เหตุผล บางทีคอนนี่ ยอร์กอาจจะโดดเด่นเกินไป ด้วยหน้าตาที่ดูดีและภูมิหลังของตระกูลที่โดดเด่นของเธอ ที่ทำให้วินนี่เฟรดต้องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา สิ่งนี้เกิดขึ้น เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งห่วงใยผู้ชายของเธออย่างแท้จริง ซึ่งหมายความว่าไทร์ ซัมเมอร์ มีจุดที่ลบไม่ออกอยู่ในหัวใจของวินนี่เฟรด ซี “ฉันจะโกรธถ้าเธอยังเป็นแบบนี้ต่อไป วินนี่เฟรด” วินนี่เฟรดถอนหายใจและเปลี่ยนทัศนคติของเธอในทันใด เธอหัวเราะ "ฉันแค่ล้อเล่น! แต่ว่าแบลร์กับฉัน เราจะไม่ไปกับนาย คาร์สัน ยอร์ก อาจจะต้องการเชิญนายคนเดียวเท่านั้น” “เขาไม่ใช่คนแบบนั้น” ไทร์ตอบตามสัญชาตญาณ แต่แล้ว จู่ ๆ ความตระหนักก็แวบเข้ามาในใจของเขา เฉกเช่นแสงแวววาบจากสวรรค์ หรือเพื่อให้แม่นยำยิ่งขึ้น สัมผัสที่หก ที

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status