แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: moonlight -mini
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-20 15:30:13

บทที่ 7

“อ้ายเฉิน”

น้องสาวที่เดินอย่างรวดเร็วเข้าไปในเรือนโดยไม่ได้หยุดฟังคำเรียกทำให้คนเป็นพี่ชายกังวล เชียงเชียงที่เดินไม่ทันเจ้านายของตนจึงตกเป็นเหยื่อให้กับหลี่เม่าพี่ชายของหญิงสาว

“เจ้า! เชียงเชียงน้องข้าเป็นอะไรกัน” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงกดดัน เพราะรู้ว่าอ้ายเฉินนางมีเรื่องให้กังวลเยอะและก็ไม่ค่อยบอกออกมาจึงต้องบังคับคนใกล้ตัวนางเช่นนี้ บางทีมันอาจจะทำให้รู้เรื่องราวที่ควรรู้ได้บ้าง

“คือว่า...คุณหนูไปเจอเข้ากับท่านเจ้าเมืองเจ้าคะ”

หลี่เม่ากำมือแน่น “แล้วมันทำอะไรน้องข้าหรือไม่” ชายหนุ่มถามด้วยอารมณ์ แต่คำตอบที่ไม่มีอะไรกลับทำให้เขาโกรธยิ่งกว่า

“คือท่านเจ้าเมืองไม่มองคุณหนูด้วยซ้ำ” นางเลี่ยงที่จะบอกความจริงทั้งหมด

ฟันคมกัดปากจนเลือดออก “มันถือว่าตนเองเป็นขุนนางจึงดูถูกน้องสาวข้าถึงเช่นนี้ ช่างเถอะหย่าออกมาแล้วก็ถือเป็นบุญของอ้ายเฉิน เจ้าก็ไปยกขนมใหม่ของโรงเตี๊ยมมาให้นางลองกินเถอะ เผื่ออารมณ์จะได้ดีขึ้นบ้าง”

เชียงเชียงรับคำเจ้านายและจัดการนำขนมที่ว่าไปให้กับคุณหนูของนาง แม้จะแต่งงานและหย่ามาแล้ว แต่นางก็ตั้งใจจะอยู่เคียงข้างคุณหนูของนางเสมอ ต่อให้สถานะของอีกฝ่ายจะเป็นฮูหยินหรือคุณหนูนางก็ไม่สนทั้งนั้น

“ขนมใหม่เจ้าค่ะคุณหนู”

อ้ายเฉินยกยิ้มก่อนจะหยิบขนมขึ้นมากัด “อร่อยดี แต่มีรสขมหน่อย ๆ” เชียงเชียงทำหน้าไม่เข้าใจ “ลองชิมดูสิ”

เชียงเชียงยิ้มและหยิบขนมขึ้นมากิน รสชาติที่ว่าแม้จะหอมหวานแต่กลับขมติดปลายลิ้นหน่อย ๆ “เป็นขนมที่รสชาติแปลก แต่ขายดีมากเลยนะเจ้าคะ”

“คงเป็นเพราะมันรสชาติเหมือนความรักกระมัง”

หวานอมปนขม แต่ก็ยังกัดกินและกลืนมันลงคอ 

ขณะเดียวกันคนในจวนท่านเจ้าเมืองก็ไปซื้อขนมออกใหม่จากโรงเตี๊ยมในตลาด “อะไรหรือ”

หยางพ่านชุนละสายตาออกจากม้วนรายงานต่าง ๆ ที่ต้องจัดการ หันมาถามพ่อบ้านที่ติดตามกันมานาน

“ขนมน่ะขอรับ เห็นนายท่านไม่ได้กินอาหารเท่าไร คิดว่ากินขนมหวานสักหน่อยคงจะรู้สึกดีขึ้น”

หยางพ่านชุนพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไปเถอะ วางเอาไว้ตรงนั้นข้าจะกินทีหลัง” เจ้าเมืองหนุ่มยังคงนั่งทำงานต่อไปพักใหญ่กว่าเขาจะหยิบขนมเข้าปาก แต่แล้วก็เกิดความรู้สึกแปลก ๆ

“รสชาติแปลกยิ่งนัก” และมันทำให้เขานึกถึงเรื่องของตัวเองกลับฮูหยินที่ทำให้เขาต้องกระอักกระอ่วนไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับการพบปะที่ตระกูลใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในเวลาอีกไม่นานที่จะถึงนี้

หยางพ่านชุนหายใจเข้าลึก เขาไม่รู้ว่ามันผิดพลาดที่ตรงไหนกันแน่ หรือบางทีมันอาจจะผิดตั้งแต่แรกแล้วก็เป็นได้ “ช่างเถอะ” ชายหนุ่มถอนหายใจหนักก่อนจะกลับไปทำงานต่อ

วันเวลาผ่านไปความเสียใจของหลี่อ้ายเฉินค่อย ๆ จาง ทั้งเรื่องสูญเสียบุตรชายในชาติก่อนหรือในความฝันนางก็ไม่อาจจะรู้ได้ แต่เพราะคิดว่าเรื่องราวยังไม่เกิดขึ้นจึงไม่ได้เสียใจ ความเสียใจที่จากหยางพ่านชุนมาก็จางลงมากแล้วเช่นเดียวกัน กระนั้นทุกครั้งที่ยังเจอคนของจวนเจ้าเมือง หรือแม้แต่ตัวของอดีตสามีอย่างหยางพ่านชุนก็ยังรู้สึกกระอักกระอ่วนทุกครั้ง

หยางพ่านชุนยังคงเป็นเจ้าเมือนแสนดีของชาวเมือง อย่าว่าแต่คนอื่นเลย นางเองถ้าพูดกันตามตรงในฐานะของชาวเมืองก็ชื่นชมในความฉลาดและเอาใจใส่ของชายหนุ่มไม่ต่างจากคนอื่นเหมือนกัน

แต่เพราะครั้งหนึ่งเคยเป็นคนข้างกายของอีกฝ่าย และรับรู้ดีว่าความห่วงใยและใส่ใจเหล่านั้นไม่ได้มีเพื่อคนในครอบครัว ไม่ว่าจะนาง บุตรชาย หรือบิดามารดาของนาง ความห่วงใยเหล่านั้นคงมีเอาไว้เพื่อคนอื่นเพียงเท่านั้น หลี่อ้ายเฉินยิ้มเยาะตนเอง ที่ช่วงนี้นางคิดถึงอดีตสามีมากก็คงเพราะใกล้ถึงช่วงเวลาที่อันตรายของอีกฝ่ายกระมัง

“ปล่อยวางเถอะอ้ายเฉิน” หญิงสาวเอ่ยกับตนเอง ถึงกระนั้นนางก็รู้ว่าคงจะทิ้งความรู้สึกกังวลนี้ไปง่าย ๆ ไม่ได้ อีกไม่นานหยางพ่านชุนจะต้องเดินทางไปตระกูลหลักเหมือนที่ทำในทุก ๆ ปี ซึ่งกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้คนที่เคยถูกเจ้าเมืองหนุ่มขัดขวางการกระทำผิดวางแผนชั่วร้ายหมายจะจัดการเขา

“ก็ได้แต่หวังว่าท่านจะรอดก็แล้วกัน” หลี่อ้ายเฉินพูดอย่างไม่ใส่ใจ แต่ในใจก็ยังเป็นกังวลจนแทบไม่ได้แตะอาหาร

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจไม่ให้เหลือรัก   บทที่ 41

    บทที่ 41หลังจากการสอบสิ้นสุด จอหงวนใหม่ก็ถูกย้ายมาเป็นเจ้าเมือง แน่นอนว่าคนคนนั้น คือคนที่ทั้งเมืองแห่งนี้รู้จักดี เพราะคือบุตรชายของอดีตเจ้าเมือง ในยุคบิดาทำดีมาเช่นไร ยุคบุตรชายก็ทำดีไม่ต่างกัน เพียงแต่เพราะเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาและยังโสดแถมอายุก็ยังน้อยกว่ายามที่บิดาของตนมาเป็นเจ้าเมืองเสียอีก จึงยิ่งทำให้บรรดาคุณหนูทั้งหลายต่างหมายปองเจ้าเมืองหนุ่มผู้นี้ไม่ต่างจากสมัยบิดาและยิ่งทุกคนรู้ว่าชายหนุ่มยังไม่ปักใจรักใคร่ใครเป็นพิเศษแล้ว ก็ต่างหวังว่าตนเองอาจจะมีสิทธิ์ แต่ดูเหมือนเชื้อจะไม่ทิ้งแถว ลูกไม้ย่อมไม่ตกไกลต้น เจ้าเมืองหนุ่มเอาแต่ทำงานจนบรรดาแม่นางทั้งหลายต่างเมินหน้าหนี“นิสัยเสียนี้ลูกดันไปเหมือนท่านได้อย่างไรกัน” เสียงตำหนิไม่จริงจังจากมารดา เสี่ยวชิงเพียงแค่ส่งยิ้มรับหยางพ่านชุนไม่ได้มองว่านี่ไม่ดี “เขายังเด็กกว่าข้า ทั้งยังไม่มีคนรัก อาจจะเหมือนข้าวัยเยาว์ที่เอาแต่อ่านตำราเพื่อสอบมากกว่า ที่สำคัญเพราะอาชิงใช้ความรักของพวกเราเลี้ยงมา เจ้าเห็นหรือไม่ ถึงเขาจะไม่กลับมาจวนทุกวันเพราะนอนที่จวนเจ้าเมือง แต่ก็กลับมาทุกอาทิตย์ หากเขามีคนรักข้าก็เชื่อว่าเขาจะทำได้ดี อีกทั้

  • ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจไม่ให้เหลือรัก   บทที่ 40

    บทที่ 40“แม่ไม่อยากให้เจ้าไปเมืองหลวงเลย” วันเวลาผ่านไปยามนี้เสี่ยวชิงเป็นหนุ่มแล้ว แต่เพราะความสนิทสนมในครอบครัวจึงทำให้อ้ายเฉินตัดใจให้ลูกจากไปไกลตาได้ยาก “เจ้าก็ให้ลูกไปเถอะ เขาจะไปสอบเพื่อจะกลับมาเป็นเจ้าเมืองแทนข้าไม่ดีหรือ” เรื่องนั้นย่อมเป็นเรื่องดีแต่การต้องจากบุตรชายเกือบสามปีและถ้าสอบได้อาจจะนานกว่านั้นทำให้น้ำตาของอ้ายเฉินไหล“เจ้าไปเถอะเสี่ยวชิง ยื้อกันไว้เช่นนี้วันนี้ก็คงไม่ได้ไป” อาการของภรรยาในวันนี้ทำให้หยางพ่านชุนอดคิดไปถึงเรื่องราวในอดีตไม่ได้ ถึงจะแทบตัดพ่อตัดลูกไปแล้วแต่อย่างไรก็ยังคงแอบคิดถึงตอนเขาไปที่ใดก็ตามมีเพียงท่านพ่อบ้านที่ตอนนี้ชราเต็มทีแล้วพอนึกได้ว่าอีกฝ่ายจะจากไปในเวลาอันใกล้นี้ก็ส่งจดหมายไปขอบคุณ แม้ชางเกิงจะหลงผิดไปบ้าง แต่ชางเกิงก็เป็นคนที่ดูแลเขามาตลอด หยางพ่านชุนส่งคนไปรับชายชรากลับมาอยู่ที่จวนเจ้าเมืองกับเขาอีกครั้ง ตอนนี้ชางเกิงคงชรามากแล้วคงไม่สามารถทำอะไรภรรยาของเขาได้อีก อีกทั้งอำนาจในจวนเจ้าเมืองตอนนี้ล้วนเป็นของภรรยาเขา“ภรรยารัก ลูกไปเพื่อความเจริญนะ เหมือนที่ท่านพ่อที่ท่านพี่ของเจ้าต้องเดินทางไกลไปหาสินค้าแปลก ๆ มาขาย” อ้ายเฉินพยักหน้

  • ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจไม่ให้เหลือรัก   บทที่ 39

    บทที่ 39หลี่อ้ายเฉินกลับมาดูแลสามีของนางที่จวน เรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้นางเกือบลืมเรื่องก่อนหน้านี้ที่คุยกับบิดา“ข้ากังวลแทบแย่คิดว่าท่านจะเป็นอะไรไปแล้ว” หยางพ่านชุนดึงคนรักเข้ามากอด “ข้าจะไม่ทำอะไรไม่ระวังตัวเช่นนี้อีก ครั้งนี้เพราะเด็กคนนั้นเขาเหมือนเสี่ยวชิงมากจริง ๆ ข้าที่กำลังกังวลหลาย ๆ เรื่องอยู่จึงเผลอกระโดดตามเด็กไป และที่จริงตอนแรกมันก็ไม่อันตราย แต่หลังจากข้าส่งเด็กขึ้นมาฝายก็พังทำให้น้ำไหลแรง จนดึงขึ้นฝั่งไม่ได้” หลี่อ้ายเฉินมองสามีด้วยสายตาไม่พอใจ“เมื่อก่อนก็ทำตัวเสี่ยงตายเช่นนี้ใช่หรือไม่” แม้จะอยากตอบว่าไม่แต่เขาก็ทำเช่นนั้นจริง ๆ “ท่านพี่ต้องนึกว่าที่จวนมีข้ากับลูกรออยู่สิเจ้าคะ จะได้ระมัดระวังตัวเองมากกว่่านี้” หยางพ่านชุนเห็นภรรยาเป็นห่วงก็รู้สึกผิดเหมือนกัน “ต่อไปข้าจะระวังตัวตลอดเจ้าไม่ต้องกังวลใจไป ที่จริงเรื่องนี้ข้าไม่ต้องไปดูเองก็ได้ แต่ไหน ๆ ก็ผ่านไปเลยแวะดูไม่นึกว่าจะมีปัญหา”“ของหลาย ๆ อย่างทำเอาไว้แล้วก็ต้องหาคนเฝ้า หาคนบูรณะ ไม่เช่นนั้นก็พังไปตามเวลา” แม้จะรู้ข้อที่ภรรยาบอกเป็นอย่างดี แต่พอมีเรื่องยุ่งหลาย ๆ อย่างจึงลืมที่จะส่งคนไปดูแลเป็นพิเศษ “ท่านพ

  • ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจไม่ให้เหลือรัก   บทที่ 38

    บทที่ 38“สามีของลูกเขาเป็นอะไรหรือเปล่าช่วงนี้เขาดูแปลก ๆ ไปนะ” บิดาของอ้ายเฉินถามบุตรสาว เพราะเป็นคนที่ทำการค้าจึงมองคนต่างจากคนอื่น และสัมผัสได้ไวกว่า“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เหมือนว่าเขายังคงติดอยู่กับความผิดครั้งก่อน” อ้ายเฉินพูดออกไปคล้ายจะเป็นการคาดเดาแต่จริง ๆ นางรู้ว่านี่แหละคือต้นตอของปัญหาในจิตใจของสามีของนางแม้ว่าหยางพ่านชุนจะทำทุกอย่างได้ดีแล้ว แต่ก็ยังมีความรู้สึกส่วนหนึ่งที่อีกฝ่ายยังทิ้งไปไม่ได้“คุยกันบ้างหรือยังลูก เกี่ยวกับเรื่องครั้งก่อน” มารดาเอ่ยถามด้วยเสียงอ่อนโยนอ้ายเฉินพยักหน้า “แน่นอนเจ้าค่ะ หลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ยังคงรู้สึกผิดอยู่ดี” คนเป็นพ่อได้ฟังก็ไม่รู้จะทำอย่างไร อีกอย่างเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องที่หนักอกหนักใจทั้งบุตรสาวและลูกเขยนั่นคืออะไร “ลองเปิดใจคุยรายละเอียดกันดูอีกครั้ง แม้ว่าจะทำให้เจ็บแต่นั่นก็สามารถช่วยทำให้แผลที่มีสมานได้” มารดาเอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แม้นางจะพูดน้อย นิ่งสงบในทุกเรื่อง แต่ยามใดที่ติดใจและสงสัย นางก็จะเรียกสามีมาคุยจนกว่าจะเข้าใจกัน ไม่เคยปล่อยผ่านให้เรื่องราวข้ามคืนเลยสักครั้ง จึงรักษาชีวิตคู่ที่สงบสุขมาได้จนถึ

  • ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจไม่ให้เหลือรัก   บทที่ 37

    บทที่ 37หลังจากอ้ายเฉินคลอดลูกคนแรกจวนทั้งสองก็ถูกทุบกำแพงเพื่อเปิดหากันตอนนี้หยางพ่านชุนถือว่าบิดาของภรรยากับพี่ชายภรรยาเป็นคนในครอบครัวมากกว่า ตระกูลใหญ่ของเขาซะอีก หลังจากเรื่องวุ่นวายต่าง ๆ ผ่านไป เขาก็ไม่ได้กลับไปร่วมพิธีไหว้บรรพบุรุษที่เมืองหลวงอีกเลย แม้จะรู้สึกผิดแต่หากต้องเสี่ยงชีวิตลูกเมียเขายอมที่จะเป็นคนอกตัญญูวันเวลาหมุนผ่านไปจนเสี่ยวชิงโตจนวิ่งได้ เป็นบุตรชายของพวกเขามาเกิดใหม่อย่างแน่นอนเพราะใบหน้าที่คงยังเหมือนเดิมทุกประการ แต่นิสัยกลับไม่เหมือนเดิมแม้แต่น้อย คงเป็นเพราะการเลี้ยงดูและลุงกับท่านตาที่ตามใจจนบางทีหยางพ่านชุนก็กลัวบุตรชายคนโตจะเสียคนและตอนนี้พวกเขาไม่ได้มีบุตรชายเพียงแค่คนเดียวแต่ยังมีบุตรสาวอย่างอี้อี้ด้วย เสี่ยวชิงเป็นพี่ชายที่ดีคอยดูแลน้องสาว ไม่ได้เหงาโดดเดี่ยวเหมือนชาติก่อน ความสัมพันธ์ของครอบครัวตอนนี้ไม่ได้เหมือนกับชาติก่อน ทุกคนต่างมีรอยยิ้มให้กัน และอยู่กันอย่างมีความสุข อะไรที่ไม่ดีก็ถูกตัดไปจากชีวิต พ่อบ้านที่เคยช่วยเหลือหยางพ่านชุนมาตั้งแต่เด็กก็ถูกส่งกลับไปอยู่ที่เมืองหลวง เขาจ้างคนใหม่ให้คอยดูแลคุณหนูและคุณชายน้อยต่อไปเด็กทั้งสองไม่เคยได

  • ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจไม่ให้เหลือรัก   บทที่ 36

    บทที่ 36การปราบโจรได้ทำให้การค้าในเมืองคึกคักขึ้นเพราะไม่ต้องกลัวว่าจะถูกปล้นระหว่างเดินทางข้ามเมือง ทุกอย่างค่อย ๆ เป็นไปในทางที่ดีขึ้น เรื่องนี้ทำให้ทั้งตระกูลหลี่ และเจ้าเมืองอย่างหยางพ่านชุนเจริญก้าวหน้าขึ้นไปอีก ต่างจากตระกูลใหญ่ของเจ้าเมืองหนุ่มที่หลังจากชิงเอ๋อร์กลับไปที่ตระกูลตน บิดาของเขาและบิดาของหญิงสาวก็ไม่ติดต่อกันอีกเนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นกับบุตรสาวทางตระกูลใหญ่ที่มักจะชอบใช้วิธีรวมหมู่รวมก๊ก พอพันธมิตรหลักไม่อยู่ซะแล้ว คนอื่น ๆ ก็เริ่มหนีหน้า จากที่เคยกร่างได้ก็ต้องหลบอยู่แต่ในมุมของตนเอง เพราะถึงทุกคนจะรู้ว่ามีบุตรชายเป็นเจ้าเมืองและเป็นถึงขุนนางขั้นสามแต่ใคร ๆ ก็รู้ว่าทั้งสองไม่ถูกกัน นั่นไม่ใช่เพราะใครแต่เพราะความปากมากของบิดาของหยางพ่านชุนเอง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเอ่ยกับสหายสนิทว่าเขาไม่ได้คาดหวังกับบุตรชายคนนี้ อีกทั้งเขายังไม่ใช่คนโปรดและตอนที่หยางพ่านชุนได้ดี ก็ไม่เห็นขุนนางเฒ่าผู้นี้จะเอาเรื่องของบุตรชายมาโอ้อวดซึ่งแปลกจึงทำให้ทุกคนคิดว่าเรื่องที่บาดหมางกันนั้นคงจะเป็นจริง แน่ ๆถึงแม้ว่ายามนี้หยางพ่านชุนจะกลับมาทำงานเป็นเจ้าเมืองเหมือนเดิมแล้ว แต่เขาก็ยังคงมาพ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status