แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: moonlight -mini
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-21 15:30:49

บทที่ 8

“หลายวันมานี่คุณหนูจับที่แขนบ่อย ๆ เจ็บหรือปวดหรือเจ้าคะข้าจะได้หายามานวดให้”

หลี่อ้ายเฉินส่ายหน้า ที่นางจับเพราะความทรงจำในชาติก่อนย้อนกลับมาในทุกคืน ช่วงเวลาใกล้ ๆ นี่ หรือบางทีอาจจะเกิดไปแล้ว นางจำวันเวลาที่แน่นอนไม่ได้ แต่คงจะก่อนวันที่จะไหว้บรรพชนไปไม่กี่วัน

การเดินทางของนางที่ต้องเดินทางไปกับสามีเจ้าเมืองอย่างหยางพ่านชุนกลับไปยังตระกูลเดิมที่อยู่เมืองหลวง เป็นที่รับรู้กันโดยทั่ว ทำให้คนร้ายรู้ว่าควรจะดักจัดการชายหนุ่มที่ไหน

หลี่อ้ายเฉินจำได้แม่นยำเพราะมันคือความทรงจำในชีวิตก่อนของนาง หลังจากออกมาจากจวนเจ้าเมืองได้ไม่นานนักไม่ถึงวันด้วยซ้ำ ระหว่างที่คนงานกำลังจะสร้างกระโจมเพื่อพักในตอนกลางคืนก็ถูกโจรดักซุ่มโจมตีจากคนที่แต่งตัวเหมือนกับโจรป่า

คนเหล่านั้นต้องการที่จะกำจัดเจ้าเมืองหนุ่มผู้ซื่อสัตย์ภักดี ที่ขัดแข้งขัดขาพวกมันไม่ให้ได้ทำมาหากิน

แน่นอนว่าโจรป่าที่ไม่รู้ว่าถูกจ้างมาหรือเปล่าเหล่านั้นเกือบจะทำสำเร็จอยู่แล้ว หากไม่เกิดเรื่องบางอย่างขึ้นก่อน

“ไม่เป็นอะไรหรอก แค่คิดถึงแผลเก่า”

เชียงเชียงทำหน้าสงสัย “แผล แต่คุณหนูไม่เคยมีแผลตรงนั้นนี่เจ้าคะ”

รอยยิ้มเศร้าปรากฏบนใบหน้าทำให้เชียงเชียงไม่กล้าถามอะไรอีกกลัวว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอดีตสามีของหญิงสาว และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ

“เช่นนั้นข้าไปเตรียมของว่างให้คุณหนูดีกว่านะเจ้าคะ”

หลี่อ้ายเฉินพยักหน้า หลังจากเชียงเชียงออกไปนางก็ติดอยู่ในภวังค์ ที่หยางพ่านชุนไม่บาดเจ็บจนถึงชีวิตก็เพราะนางเอาตัวของนางไปรับลูกธนูที่หลุดจากศรกำลังพุ่งตรงมาหาคนที่นางรัก อ้ายเฉินยกมือขึ้นจับแขนอีกครั้ง ความเจ็บหลอก ๆ มันยังปรากฏขึ้นทุกครั้งที่นางคิดถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และเรื่องเหตุการณ์นั้นจึงทำให้รู้ว่านางตั้งครรภ์

 “ฮูหยินกำลังตั้งครรภ์อ่อน ๆ ขอรับท่านเจ้าเมือง เป็นโชคดีมากที่ธนูเข้าที่แขนไม่ได้เข้าที่อกที่ห่างไปไม่ถึงครึ่งฉื่อ”

หลี่อ้ายเฉินที่ได้รู้ข่าวว่าตัวเองกำลังจะมีลูกก็ดีใจเป็นอย่างมากแต่คงไม่ใช่กับสามีของนาง เพราะอีกฝ่ายทำหน้าเฉย ๆ ติดไปในทางกังวลด้วยซ้ำ จนตัวนางเองไม่กล้าจะเอ่ยอะไรออกไป

“แต่บาดแผลสะอาดไม่มีพิษไม่ต้องกังวลว่าจะกระทบกระเทือนไปยังครรภ์”

อ้ายเฉินยิ้มกว้างและกำลังจะหันไปบอกกับสามีว่าดีจังเลยนะเจ้าคะ แต่ก็ต้องหุบยิ้มและเก็บคำนั้นเอาไว้ แต่ลูกปลอดภัยก็ดีแล้ว นางในตอนนั้นพยายามบอกตัวเอง

“คุณหนูของว่างมาแล้วเจ้าค่ะ”

อ้ายเฉินสะดุ้งโหยงออกจากภวังค์

“คุณหนูกำลังคิดอะไรอยู่หรือเจ้าคะถึงได้ตกใจเช่นนั้น”

อ้ายเฉินส่ายหน้า “ไม่มีอะไรหรอก ช่วงนี้ด้านนอกมีข่าวอะไรแปลก ๆ หรือน่าตกใจบ้างหรือไม่” แม้จะทำเป็นไม่สนใจแต่สุดท้ายก็ยังแอบเป็นห่วงอยู่ดี

“ก็ไม่เห็นมีอะไรนะเจ้าคะ”

นางพยักหน้ารับ “ข้าขออยู่คนเดียวสักพักเถอะ เจ้าก็หาเวลาพักบ้าง”

รอยยิ้มของเชียงเชียงเป็นอะไรที่เยียวยาจิตใจของอ้ายเฉินได้เป็นอย่างดี เพราะสาวใช้คนนี้ทุ่มเทให้นางมาโดยตลอด และอยู่เคียงข้างเสมอ

"ท่านจะรู้สึกอย่างไรถ้าเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นจริง ๆ ข้าไม่อยากเสียท่านไป ขณะเดียวกันก็ไม่อยากให้ท่านกลับมา ข้าสับสนเหลือเกิน"

บรรยากาศในห้องกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง แต่ในใจของหลี่อ้ายเฉินกลับเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ นางรู้สึกถึงความอ่อนแอที่ตนเองมี

หลี่อ้ายเฉินนั่งอยู่ในห้องรับแขก หัวใจของนางเต็มไปด้วยความกังวล นางพยายามทำใจให้สงบและสวดภาวนาให้หยางพ่านชุน

ทางด้านหยางพ่านชุนก็รู้สึกหนักใจ เขาไม่อยากเดินทางกลับไปที่บ้านหลักเลยแม้แต่น้อย หาสาเหตุมากมายมาบอกว่าติดงานก็แล้ว แต่อยู่ดี ๆ ท่านแม่ที่ไม่เคยยอมให้เปลี่ยนวันเคารพบรรพชนกลับบอกว่าไม่เป็นอะไร อยากให้มาพร้อมหน้าพร้อมตา

“ท่านแม่ต้องรู้แล้วเป็นแน่ เรื่องของอ้ายเฉิน” ชายหนุ่มเอ่ยบอกกับพ่อบ้านที่เป็นอีกคนที่น่าจะรู้นิสัยของมารดารเขาดีที่สุด

“คงเป็นเช่นนั้นขอรับนายท่าน จะให้ปฏิเสธไปเหมือนเดิมไหมขอรับ” พ่อบ้านเสนอ

หยางพ่านชุนสายหน้า “จะมีประโยชน์อะไร ต่อให้ปฏิเสธท่านแม่ก็คงไม่ยอม ก็เตรียมคนเตรียมของให้พร้อม ข้าจะเดินทางเหมือนอย่างเคย”

พ่อบ้านลังเลนิดหน่อยก่อนจะถาม “ก่อนหน้านี้นายท่านให้เตรียมรถม้าแต่ไม่มีฮูหยินแล้ว”

หยางพ่านชุนถอนหายใจหนัก “ข้าจะขี่ม้าไป”

"ข้าหวังว่าท่านจะปลอดภัย" นางคิดกับตัวเอง การเดินทางของเจ้าเมืองมิใช่ความลับ เมื่อเห็นขบวนเดินทางของหยางพ่านชุนที่ใหญ่กว่าคราที่เขาเดินทางกับนางในชาติก่อนมากนัก แม้ในแวบแรกจะนึกแปลกใจแต่ก็ไม่ได้คิดมาก เพราะจากที่กวาดสายตาดูทุกคนแต่งกายเป็นเพียงชาวบ้านเท่านั้น ในขณะที่นางแอบมองดูหยางพ่านชุนที่ขี่ม้าออกจากเมือง นางได้แต่สวดภาวนาให้เขาปลอดภัย แม้ในใจจะรู้สึกถึงความไม่แน่นอน เพราะนางรู้ดีว่ากำลังจะเกิดสิ่งใดขึ้น และขอให้หยางพ่านชุนรอดจากอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น แม้ครั้งนี้จะไม่มีนางปกป้องเขาเอาไว้ก็ตาม

เพราะนางรู้อยู่แล้วว่าการเดินทางครั้งนี้อย่างไรเขาก็ไปไม่ถึงเมืองหลวง และไม่ได้ไปพบปะบิดามารดาดั่งที่ตั้งใจเอาไว้ เนื่องจากในชีวิตที่แล้วเกิดเหตุโจรปล้นขึ้นมาเสียก่อน และเมื่อไม่มีนางรับคมธนูแทนแล้ว ไม่รู้ว่าจะเป็นอันตรายถึงชีวิตเขาหรือไม่

หลี่อ้ายเฉินนั่งนิ่งเงียบอยู่ในห้องรับแขกเพียงลำพัง หัวใจของนางยังคงสั่นไหวจากการพบหยางพ่านชุนที่แอบยืนส่งเขาที่หน้าประตูเมือง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
ซ้อหวัง มาดามต้วน
สรุปคือยังตัดใจจากผัวไม่ได้ แล้วมาทำเคียดแค้นนางเอกขาดผัวไม่ได้
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจไม่ให้เหลือรัก   บทที่ 41

    บทที่ 41หลังจากการสอบสิ้นสุด จอหงวนใหม่ก็ถูกย้ายมาเป็นเจ้าเมือง แน่นอนว่าคนคนนั้น คือคนที่ทั้งเมืองแห่งนี้รู้จักดี เพราะคือบุตรชายของอดีตเจ้าเมือง ในยุคบิดาทำดีมาเช่นไร ยุคบุตรชายก็ทำดีไม่ต่างกัน เพียงแต่เพราะเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาและยังโสดแถมอายุก็ยังน้อยกว่ายามที่บิดาของตนมาเป็นเจ้าเมืองเสียอีก จึงยิ่งทำให้บรรดาคุณหนูทั้งหลายต่างหมายปองเจ้าเมืองหนุ่มผู้นี้ไม่ต่างจากสมัยบิดาและยิ่งทุกคนรู้ว่าชายหนุ่มยังไม่ปักใจรักใคร่ใครเป็นพิเศษแล้ว ก็ต่างหวังว่าตนเองอาจจะมีสิทธิ์ แต่ดูเหมือนเชื้อจะไม่ทิ้งแถว ลูกไม้ย่อมไม่ตกไกลต้น เจ้าเมืองหนุ่มเอาแต่ทำงานจนบรรดาแม่นางทั้งหลายต่างเมินหน้าหนี“นิสัยเสียนี้ลูกดันไปเหมือนท่านได้อย่างไรกัน” เสียงตำหนิไม่จริงจังจากมารดา เสี่ยวชิงเพียงแค่ส่งยิ้มรับหยางพ่านชุนไม่ได้มองว่านี่ไม่ดี “เขายังเด็กกว่าข้า ทั้งยังไม่มีคนรัก อาจจะเหมือนข้าวัยเยาว์ที่เอาแต่อ่านตำราเพื่อสอบมากกว่า ที่สำคัญเพราะอาชิงใช้ความรักของพวกเราเลี้ยงมา เจ้าเห็นหรือไม่ ถึงเขาจะไม่กลับมาจวนทุกวันเพราะนอนที่จวนเจ้าเมือง แต่ก็กลับมาทุกอาทิตย์ หากเขามีคนรักข้าก็เชื่อว่าเขาจะทำได้ดี อีกทั้

  • ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจไม่ให้เหลือรัก   บทที่ 40

    บทที่ 40“แม่ไม่อยากให้เจ้าไปเมืองหลวงเลย” วันเวลาผ่านไปยามนี้เสี่ยวชิงเป็นหนุ่มแล้ว แต่เพราะความสนิทสนมในครอบครัวจึงทำให้อ้ายเฉินตัดใจให้ลูกจากไปไกลตาได้ยาก “เจ้าก็ให้ลูกไปเถอะ เขาจะไปสอบเพื่อจะกลับมาเป็นเจ้าเมืองแทนข้าไม่ดีหรือ” เรื่องนั้นย่อมเป็นเรื่องดีแต่การต้องจากบุตรชายเกือบสามปีและถ้าสอบได้อาจจะนานกว่านั้นทำให้น้ำตาของอ้ายเฉินไหล“เจ้าไปเถอะเสี่ยวชิง ยื้อกันไว้เช่นนี้วันนี้ก็คงไม่ได้ไป” อาการของภรรยาในวันนี้ทำให้หยางพ่านชุนอดคิดไปถึงเรื่องราวในอดีตไม่ได้ ถึงจะแทบตัดพ่อตัดลูกไปแล้วแต่อย่างไรก็ยังคงแอบคิดถึงตอนเขาไปที่ใดก็ตามมีเพียงท่านพ่อบ้านที่ตอนนี้ชราเต็มทีแล้วพอนึกได้ว่าอีกฝ่ายจะจากไปในเวลาอันใกล้นี้ก็ส่งจดหมายไปขอบคุณ แม้ชางเกิงจะหลงผิดไปบ้าง แต่ชางเกิงก็เป็นคนที่ดูแลเขามาตลอด หยางพ่านชุนส่งคนไปรับชายชรากลับมาอยู่ที่จวนเจ้าเมืองกับเขาอีกครั้ง ตอนนี้ชางเกิงคงชรามากแล้วคงไม่สามารถทำอะไรภรรยาของเขาได้อีก อีกทั้งอำนาจในจวนเจ้าเมืองตอนนี้ล้วนเป็นของภรรยาเขา“ภรรยารัก ลูกไปเพื่อความเจริญนะ เหมือนที่ท่านพ่อที่ท่านพี่ของเจ้าต้องเดินทางไกลไปหาสินค้าแปลก ๆ มาขาย” อ้ายเฉินพยักหน้

  • ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจไม่ให้เหลือรัก   บทที่ 39

    บทที่ 39หลี่อ้ายเฉินกลับมาดูแลสามีของนางที่จวน เรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้นางเกือบลืมเรื่องก่อนหน้านี้ที่คุยกับบิดา“ข้ากังวลแทบแย่คิดว่าท่านจะเป็นอะไรไปแล้ว” หยางพ่านชุนดึงคนรักเข้ามากอด “ข้าจะไม่ทำอะไรไม่ระวังตัวเช่นนี้อีก ครั้งนี้เพราะเด็กคนนั้นเขาเหมือนเสี่ยวชิงมากจริง ๆ ข้าที่กำลังกังวลหลาย ๆ เรื่องอยู่จึงเผลอกระโดดตามเด็กไป และที่จริงตอนแรกมันก็ไม่อันตราย แต่หลังจากข้าส่งเด็กขึ้นมาฝายก็พังทำให้น้ำไหลแรง จนดึงขึ้นฝั่งไม่ได้” หลี่อ้ายเฉินมองสามีด้วยสายตาไม่พอใจ“เมื่อก่อนก็ทำตัวเสี่ยงตายเช่นนี้ใช่หรือไม่” แม้จะอยากตอบว่าไม่แต่เขาก็ทำเช่นนั้นจริง ๆ “ท่านพี่ต้องนึกว่าที่จวนมีข้ากับลูกรออยู่สิเจ้าคะ จะได้ระมัดระวังตัวเองมากกว่่านี้” หยางพ่านชุนเห็นภรรยาเป็นห่วงก็รู้สึกผิดเหมือนกัน “ต่อไปข้าจะระวังตัวตลอดเจ้าไม่ต้องกังวลใจไป ที่จริงเรื่องนี้ข้าไม่ต้องไปดูเองก็ได้ แต่ไหน ๆ ก็ผ่านไปเลยแวะดูไม่นึกว่าจะมีปัญหา”“ของหลาย ๆ อย่างทำเอาไว้แล้วก็ต้องหาคนเฝ้า หาคนบูรณะ ไม่เช่นนั้นก็พังไปตามเวลา” แม้จะรู้ข้อที่ภรรยาบอกเป็นอย่างดี แต่พอมีเรื่องยุ่งหลาย ๆ อย่างจึงลืมที่จะส่งคนไปดูแลเป็นพิเศษ “ท่านพ

  • ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจไม่ให้เหลือรัก   บทที่ 38

    บทที่ 38“สามีของลูกเขาเป็นอะไรหรือเปล่าช่วงนี้เขาดูแปลก ๆ ไปนะ” บิดาของอ้ายเฉินถามบุตรสาว เพราะเป็นคนที่ทำการค้าจึงมองคนต่างจากคนอื่น และสัมผัสได้ไวกว่า“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เหมือนว่าเขายังคงติดอยู่กับความผิดครั้งก่อน” อ้ายเฉินพูดออกไปคล้ายจะเป็นการคาดเดาแต่จริง ๆ นางรู้ว่านี่แหละคือต้นตอของปัญหาในจิตใจของสามีของนางแม้ว่าหยางพ่านชุนจะทำทุกอย่างได้ดีแล้ว แต่ก็ยังมีความรู้สึกส่วนหนึ่งที่อีกฝ่ายยังทิ้งไปไม่ได้“คุยกันบ้างหรือยังลูก เกี่ยวกับเรื่องครั้งก่อน” มารดาเอ่ยถามด้วยเสียงอ่อนโยนอ้ายเฉินพยักหน้า “แน่นอนเจ้าค่ะ หลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ยังคงรู้สึกผิดอยู่ดี” คนเป็นพ่อได้ฟังก็ไม่รู้จะทำอย่างไร อีกอย่างเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องที่หนักอกหนักใจทั้งบุตรสาวและลูกเขยนั่นคืออะไร “ลองเปิดใจคุยรายละเอียดกันดูอีกครั้ง แม้ว่าจะทำให้เจ็บแต่นั่นก็สามารถช่วยทำให้แผลที่มีสมานได้” มารดาเอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แม้นางจะพูดน้อย นิ่งสงบในทุกเรื่อง แต่ยามใดที่ติดใจและสงสัย นางก็จะเรียกสามีมาคุยจนกว่าจะเข้าใจกัน ไม่เคยปล่อยผ่านให้เรื่องราวข้ามคืนเลยสักครั้ง จึงรักษาชีวิตคู่ที่สงบสุขมาได้จนถึ

  • ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจไม่ให้เหลือรัก   บทที่ 37

    บทที่ 37หลังจากอ้ายเฉินคลอดลูกคนแรกจวนทั้งสองก็ถูกทุบกำแพงเพื่อเปิดหากันตอนนี้หยางพ่านชุนถือว่าบิดาของภรรยากับพี่ชายภรรยาเป็นคนในครอบครัวมากกว่า ตระกูลใหญ่ของเขาซะอีก หลังจากเรื่องวุ่นวายต่าง ๆ ผ่านไป เขาก็ไม่ได้กลับไปร่วมพิธีไหว้บรรพบุรุษที่เมืองหลวงอีกเลย แม้จะรู้สึกผิดแต่หากต้องเสี่ยงชีวิตลูกเมียเขายอมที่จะเป็นคนอกตัญญูวันเวลาหมุนผ่านไปจนเสี่ยวชิงโตจนวิ่งได้ เป็นบุตรชายของพวกเขามาเกิดใหม่อย่างแน่นอนเพราะใบหน้าที่คงยังเหมือนเดิมทุกประการ แต่นิสัยกลับไม่เหมือนเดิมแม้แต่น้อย คงเป็นเพราะการเลี้ยงดูและลุงกับท่านตาที่ตามใจจนบางทีหยางพ่านชุนก็กลัวบุตรชายคนโตจะเสียคนและตอนนี้พวกเขาไม่ได้มีบุตรชายเพียงแค่คนเดียวแต่ยังมีบุตรสาวอย่างอี้อี้ด้วย เสี่ยวชิงเป็นพี่ชายที่ดีคอยดูแลน้องสาว ไม่ได้เหงาโดดเดี่ยวเหมือนชาติก่อน ความสัมพันธ์ของครอบครัวตอนนี้ไม่ได้เหมือนกับชาติก่อน ทุกคนต่างมีรอยยิ้มให้กัน และอยู่กันอย่างมีความสุข อะไรที่ไม่ดีก็ถูกตัดไปจากชีวิต พ่อบ้านที่เคยช่วยเหลือหยางพ่านชุนมาตั้งแต่เด็กก็ถูกส่งกลับไปอยู่ที่เมืองหลวง เขาจ้างคนใหม่ให้คอยดูแลคุณหนูและคุณชายน้อยต่อไปเด็กทั้งสองไม่เคยได

  • ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจไม่ให้เหลือรัก   บทที่ 36

    บทที่ 36การปราบโจรได้ทำให้การค้าในเมืองคึกคักขึ้นเพราะไม่ต้องกลัวว่าจะถูกปล้นระหว่างเดินทางข้ามเมือง ทุกอย่างค่อย ๆ เป็นไปในทางที่ดีขึ้น เรื่องนี้ทำให้ทั้งตระกูลหลี่ และเจ้าเมืองอย่างหยางพ่านชุนเจริญก้าวหน้าขึ้นไปอีก ต่างจากตระกูลใหญ่ของเจ้าเมืองหนุ่มที่หลังจากชิงเอ๋อร์กลับไปที่ตระกูลตน บิดาของเขาและบิดาของหญิงสาวก็ไม่ติดต่อกันอีกเนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นกับบุตรสาวทางตระกูลใหญ่ที่มักจะชอบใช้วิธีรวมหมู่รวมก๊ก พอพันธมิตรหลักไม่อยู่ซะแล้ว คนอื่น ๆ ก็เริ่มหนีหน้า จากที่เคยกร่างได้ก็ต้องหลบอยู่แต่ในมุมของตนเอง เพราะถึงทุกคนจะรู้ว่ามีบุตรชายเป็นเจ้าเมืองและเป็นถึงขุนนางขั้นสามแต่ใคร ๆ ก็รู้ว่าทั้งสองไม่ถูกกัน นั่นไม่ใช่เพราะใครแต่เพราะความปากมากของบิดาของหยางพ่านชุนเอง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเอ่ยกับสหายสนิทว่าเขาไม่ได้คาดหวังกับบุตรชายคนนี้ อีกทั้งเขายังไม่ใช่คนโปรดและตอนที่หยางพ่านชุนได้ดี ก็ไม่เห็นขุนนางเฒ่าผู้นี้จะเอาเรื่องของบุตรชายมาโอ้อวดซึ่งแปลกจึงทำให้ทุกคนคิดว่าเรื่องที่บาดหมางกันนั้นคงจะเป็นจริง แน่ ๆถึงแม้ว่ายามนี้หยางพ่านชุนจะกลับมาทำงานเป็นเจ้าเมืองเหมือนเดิมแล้ว แต่เขาก็ยังคงมาพ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status