บทที่ 2 ครอบครัวปิงปิง
ในช่วงเย็น พ่อ แม่ และพี่ชายก็มาหาเธอ ครอบครัวของเธอมีทั้งหมด 5 คน ไม่นับรวมปู่ย่าลุงป้าทั้งหลาย นับแค่ครอบครัวของเธอจริง ๆ พ่อของเธอคือ หลิวชวน อายุ 38 ปี แม่เธอคือ ลู่ฟางเหนียง อายุ 36 ปี นี่คือครอบครัวของเธอที่หนังสือไม่ได้กล่าวถึงเลย กล่าวถึงแค่พวกเธอสามคนพี่น้องที่พอจะมีชื่ออยู่ในหนังสือเล่มนั้น แต่ไม่มีบทบาทอย่างอื่น มีหน้าที่แค่ตายเท่านั้น…
"ยังปวดหัวอยู่ไหม... หมอบอกพรุ่งนี้ก็กลับได้แล้วนะ"
"ไม่ปวดแล้วค่ะ แต่ยังเจ็บหัวและเจ็บตัว" ปิงปิงตอบแม่ของเธอ
"ต่อไปก็ระวังให้มาก อย่าวิ่งจนตัวเองต้องเจ็บตัว จำที่พ่อบอกด้วยล่ะ" หลิวชวนพูดแล้วเข้ามาลูบหัวของลูกสาวเบา ๆ
ลูกสาวคนเล็กของเขาชอบวิ่งชอบซนทั้งที่เริ่มโตแล้ว แต่ก็ยังทำตัวและเล่นแบบเด็ก ๆ เขาต้องคอยห้ามปรามอยู่ตลอด
"พ่อ... วันนี้เหนื่อยไหมคะ" ปิงปิงรู้ตัวว่าต้องโดนบ่นแน่ ๆ เลยต้องออดอ้อนไว้ก่อนเผื่อจะช่วยได้
"หึ... ช่างรู้จักเอาตัวรอด" หลิวชวนหัวเราะกับท่าทางลูกสาวคนเล็ก
"ต้องโดนไม้ถึงจะเข็ด" ฟางเหนียงเริ่มขู่ลูกสาวที่ซนจนตัวเองเจ็บตัว
พอทุกคนเห็นท่าทางของปิงปิงก็อดยิ้มและหัวเราะไม่ได้ อาจเพราะลูกสาวคนเล็กของบ้านนี้มีหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูมาก ไม่ว่าจะผิวพรรณ หน้าตาที่จิ้มลิ้มดูน่ารักน่าเอ็นดูมากกว่าสวย ส่วนลูกสาวคนโตจะดูสวยมากกว่าน่ารัก ลูกชายก็เหมือนกัน หน้าตาดูดีหล่อเหลา
"พ่อคะ... ตัวร้ายเป็นแบบไหนได้บ้าง" ปิงปิงถามพ่อนี่แหละ พ่ออายุเยอะกว่าทุกคน ต้องหาตัวร้ายได้แน่ ๆ
"พ่อไม่ต้องตอบน้องสาวหรอก วันนี้น้องสาวถามแต่เรื่องตัวร้ายทั้งวันเลย" อิงอิงคิดว่าตอบไปแล้วน้องจะเลิกถาม แต่ก็ยังมาถามพ่ออีก
"อยากรู้ไปทำไม... หืม" หลิวชวนถามลูกสาว
"ต้องทำแบบไหนถึงจะเป็นตัวร้ายที่ฆ่าคนได้ แล้วตัวร้ายทำอะไรได้บ้าง"
"เรียกหมอมาตรวจน้องเพิ่มไหมครับ" พี่ชายเห็นน้องสาวถามวนไปวนมา เขากลัวหัวน้องสาวกระแทกอย่างแรง เพื่อความสบายใจควรให้หมอมาตรวจอีกรอบก่อนกลับบ้าน
พี่ชายยกมือมาจับหัวน้องสาวแล้วโคลงไปโคลงมา จังหวะนั้นทำให้ปิงปิงเวียนหัวเลยเอามือขึ้นไปจับมือพี่ชายไว้ ทำให้ปิงปิงถึงกับตาโตอ้าปากค้าง
"ปวดหัวเหรอ พี่ชายจับเบา ๆ เองนะปิงปิง"
"ไม่ปวด แต่ปิงปิงเห็น... "
"แม่ว่านอนได้แล้ว พักให้เยอะ ๆ พรุ่งนี้เช้าจะได้กลับบ้านได้" ฟางเหนียงต้องบอกให้รีบนอน ไม่อย่างนั้นก็หยอกล้อเล่นกันอยู่ตรงนี้ไม่ได้พักสักที
"ทุกคนนอนที่ไหนกันคะ" ปิงปิงสงสัยเพราะที่นี่เป็นห้องรวม มีคนไข้อยู่ครบทุกเตียง แล้วครอบครัวเธอนอนที่ไหนกัน
"ข้างนอกมีเก้าอี้ และวันนี้แม่เตรียมเสื่อมาปูนอนข้างนอก ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวก็เช้าแล้ว" ฟางเหนียงก็ยังเป็นคนที่บอกลูกสาว เมื่อคืนก็พากันนอนบนเก้าอี้ข้างนอก เพราะลูกสาวคนเล็กยังไม่ฟื้นเลยต้องเฝ้ากันทั้งคืน
"ทุกคนต้องนอนลำบากเพราะปิงปิง"
"นอน ๆ เจ้าตัวแสบ พรุ่งนี้จะได้กลับบ้านพร้อมกัน" หลิวชวนรีบบอกให้ลูกสาวรีบนอน
"พ่อคะ... ขอจับมือก่อน"
"จับมือแล้วทำหน้านิ่วคิ้วขมวดทำไม" หลิวชวนยื่นมือให้ลูกสาวจับ แต่พอให้จับมือแล้ว ลูกสาวกลับมีท่าทีแปลก ๆ
"นอน ๆ อย่าเพิ่งจับ พรุ่งนี้ค่อยจับ" เป็นแม่อีกตามเคยที่มาบอกให้ปิงปิงรีบนอน
ปิงปิงเลยต้องแกล้งหลับตาและใช้ความคิดเกี่ยวกับเรื่องตัวร้าย ต้องร้ายขนาดไหนถึงมาฆ่าเธอได้ แล้วทำไมถึงต้องฆ่าเธอด้วย ปิงปิงกำลังคิดว่าเธอไปทำอะไรให้ใครหรือเปล่า เท่าที่จำได้เธอก็ไม่มีศัตรูที่ไหนที่พอจะให้มาฆ่ากันได้ คนที่เกลียดเธอนับเป็นตัวร้ายด้วยไหม ปิงปิงใช้ทั้งสมองและความคิดอย่างหนักแต่ก็คิดไม่ออก และเพราะฤทธิ์ยาเลยทำให้เธอเผลอหลับทั้งที่สมองยังทำงานอยู่…
"ไหนจะค่าเรียน ค่ารักษา เลิกเรียนแล้วออกมาช่วยงานจะได้ไม่ก่อเรื่อง"
"ย่าเหนื่อยไหมคะ... เอาน้ำไหมคะ"
ปิงปิงยืนฟังย่าบ่นตั้งแต่กลับจากโรงพยาบาลจนถึงตอนนี้ ขาเธอเริ่มแข็งแล้ว และเธออยากเข้าห้องน้ำมากแต่ไปไหนไม่ได้ ต้องรอให้ย่าอนุญาตก่อน ไม่อย่างนั้นย่าจะไม่บ่นแค่เธอ แต่จะลามไปถึงพ่อแม่พี่ชายพี่สาวของเธออีก เธอเลยยอมให้ย่าบริหารปาก ถามว่าปิงปิงได้ฟังที่ย่าบ่นไหม ปิงปิงก็ได้ยินนะ มันเหมือนวิ่งผ่านเข้ามาหูซ้ายแล้ววิ่งออกไปทางหูขวาทันทีเลย...
"ยอกย้อนเก่งที่สุด หมดเงินหมดทองเพราะแกเท่าไรแล้ว"
"ย่า... ทำไมย่าถึงชอบบ่นปิงปิง คนอื่นใช้เงินเยอะกว่าปิงปิงตั้งเยอะ ทำไมไม่เรียกมาบ่นแบบนี้บ้าง"
เฉินเฉินยืนฟังมานานแล้ว น้องสาวเขาโดนเรียกมาว่ามาด่าตลอดไม่ว่าจะผิดเล็กน้อย หรือที่เขาเข้าใจคืออันไหนที่ย่าไม่พอใจจะผิดหรือถูกก็จะโดนเรียกมาแบบนี้ตลอด บ้านนี้คนอยู่สิบกว่าคน ส่วนมากผู้หญิงจะโดนด่าและใช้งานหนักว่าผู้ชาย ทั้งที่ผู้ชายมีแรงมากกว่าผู้หญิง อย่างพี่สาวเขาก็เหมือนกัน โดนย่าใช้งานตลอด ผิดกับพวกผู้ชายที่ย่าบอกให้ตั้งใจเรียน
"อาเฉิน อ่านหนังสือเสร็จแล้วเหรอ"
"เปล่าครับ ผมมาตามน้องไปกินยา"
"เออ ๆ ไปไกล ๆ จะไปไหนก็ไป! "
เมื่อพี่ชายมาช่วยชีวิต ปิงปิงก็รีบเดินออกมา เธออยากให้พ่อกับแม่แยกไปอยู่ที่อื่น เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพราะว่าเธอโดนบ่นประจำหรอกนะ แต่เธอสงสารแม่และพี่สาวที่ต้องคอยทำงานทั้งข้างนอกแล้วยังจะมาทำงานบ้านอีกด้วย บ้านหลังนี้ไม่ได้มีแค่ปู่กับย่า ยังมีลุงใหญ่กับครอบครัว และมีลุงรองกับครอบครัวอีก ปู่กับย่ามีลูกชาย 3 คน ทุกคนอยู่รวมกันในบ้านหลังนี้ พ่อของเธอเป็นคนสุดท้องและทำงานหนักกว่าลุงใหญ่เสียอีก ส่วนพี่สาวกับแม่ต้องซักผ้าให้คนทั้งบ้าน พี่สาวเธอถึงอยากให้พ่อกับแม่แยกบ้าน แต่พี่สาวบอกว่าต้องใช้เงิน ปิงปิงเลยคิดว่าจะต้องหาเงินมาช่วยพ่อกับแม่ให้แยกบ้านให้ได้!
ตอนพิเศษ"โอ๊ย!! ไม่ไหวแล้ว!! " ปิงปิงเริ่มโวยวายเสียงดัง เนื่องจากตอนนี้เธอเริ่มเจ็บท้องคลอดแล้ว"ฟู่ ๆ ๆ หายใจลึก ๆ นะ" จุนหานกำลังพยายามปลอบใจเพื่อให้ภรรยาใจเย็นลงตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมห้องคลอด เนื่องจากท้องนี้ต้องใช้หมอต่างชาติมาทำการผ่าตัดคลอด พยาบาลได้ฉีดยาเพื่อทำให้ภรรยาของเขาหลับแล้ว แต่ภรรยาของเขายังไม่หลับและยังไม่สลบ ไม่รู้เพราะยายังไม่ออกฤทธิ์หรือเพราะความเจ็บปวดที่มากเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาเริ่มเสียงดังโวยวาย"ไม่เอาแล้ว มันเจ็บ ฮือ ๆ ๆ ๆ " ปิงปิงเริ่มร้องไห้และเริ่มโวยวายเสียงดัง จุนหานจึงต้องคอยกอดและปลอบใจ พร้อมกับส่งสายตากดดันเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ทำงานไม่ทันใจเขาเอาเสียเลย จุนหานค่อย ๆ ลูบหลังคนที่เจ็บท้องเพื่อปลอบโยนจนคนตัวเล็กที่บ่นพึมพำเสียงเบาลงเรื่อย ๆ จนเงียบไป หมอไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปข้างในห้องผ่าตัด แต่จุนหานยืนยันที่จะเข้าไป เขาไม่มีทางปล่อยให้ภรรยาคลอดเพียงลำพังแน่นอน หมอที่ต้องรีบทำการผ่าคลอดก็ต้องยอมและทำงานด้วยอาการเกร็ง เพราะจุนหานมองอย่างไม่ละสายตา ทำให้หมอต้องรีบผ่าคลอดให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นต้องตกอยู่ในสถานการณ์กดดันจากญาติคนไข้เป็นเวลานานแน่น
บทที่ 51 บทส่งท้ายวันนี้คือวันแต่งงานของปิงปิง เธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัว ต้องบอกว่าแทบไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเธอต้องดูแลว่าที่เจ้าบ่าวของเธอที่ตอนนี้อาการหนักพอสมควร เหตุเกิดจากเขาอีกนั่นแหละ เธอเลยไม่ค่อยสงสารเขาสักเท่าไร"ไหวไหมคะ" ปิงปิงถามแม่ฟางเหนียงที่เข้ามาดูว่าเธอแต่งตัวเสร็จหรือยัง เพราะทางบ้านหยางจ้างช่างแต่งหน้าแต่งตัวไว้ทั้งหมด เธอมีหน้าที่แค่ยืนนิ่ง ๆ หรือนั่งนิ่ง ๆ ให้เขาแต่งตัวให้เท่านั้นเอง"ก็ยังอาเจียนออกมาตลอด" ฟางเหนียงพูดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ที่เห็นคนนิ่ง ๆ แบบจุนหานมีอาการแบบนี้"ปิงปิงไม่ค่อยสงสารเขาเท่าไรหรอกค่ะ" เธอพูดตามที่คิด"แหม! ยัยขี้เหร่! ใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันทรมานมากแค่ไหน" เล่อเล่อที่นั่งกินผลไม้อยู่รีบออกตัวอย่างแรง เพราะสองคนนี้มีอาการอย่างเดียวกัน"กินเยอะ ๆ นะแม่หมา... " ปิงปิงเอามือลูบท้องนูน ๆ ของเพื่อนที่หมอบอกว่าท้องได้ประมาณสามเดือนแล้ว"ไม่ต้องห่วงเรื่องกินของฉัน... ฉันกำลังสงสัยว่าตกลงจัดพิธีแบบไหนเนี่ย! จะแบบโบราณก็ไม่ใช่ จะแบบต่างชาติก็ไม่ใช่" เล่อเล่อมองดูงานที่ถูกจัดในโรงแรม แขกทุกคนก็นอนกันที่นี่ทั้งหมด"ตอนงานหมั้นเขาตามใจ
บทที่ 50ปิงปิงถูกเคี่ยวกรำทั้งวันทั้งคืนเกือบทั้งอาทิตย์ ไม่ได้ออกจากห้องไปไหน แม้แต่ตอนกินข้าวก็ยังต้องอยู่แต่ในห้อง บทลงโทษนี้ทำให้เธอลุกไม่ไหว แถมในช่วงวันแรก ๆ เธอระบมไปทั้งตัว เหมือนจะมีไข้ ไอ้คนใจร้ายก็ให้เธอกินยา แต่แทนที่จะได้นอนพัก เขากลับทำให้เธอเหมือนโดนดูดพลังออกไปจนหมด พี่ชายหานต้องเป็นคนอุ้มเธอไปอาบน้ำและแต่งตัว เขาทำให้เธอแทบทุกอย่าง..."ให้ปิงปิงกลับบ้านได้ไหมคะ" ปิงปิงพูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่"ไม่อยากลุกจากเตียงใช่ไหม" จุนหานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดขึ้น"ปิงปิงไม่ได้ออกจากห้องนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ พ่อต้องเป็นห่วงแน่นอน เล่อเล่อด้วย ต้องเป็นห่วงแน่ ๆ และที่สำคัญ ปิงปิงต้องไปเรียน""รีบกิน เรื่องพวกนั้นจัดการให้แล้ว""เรื่องไหน... จัดการยังไงคะ" "พ่อจ้าวยังไม่กลับ เล่อเล่ออยู่บ้านคู่หมั้น ส่วนเรื่องวิทยาลัยแจ้งไปแล้วว่าช่วงนี้กำลังเตรียมงานแต่ง เลยไม่ได้เข้าเรียน"จุนหานจัดการทุกอย่างโดยเป็นคนสั่งให้ลูกน้องดำเนินการ ส่วนเรื่องงานแต่ง เขาเป็นคนไปบอกครอบครัวของเขาให้เตรียมจัดงานได้เลย ถ้าอยากอุ้มหลานเร็ว ๆ ให้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะช่วงนี้เขาไม่
บทที่ 49ปิงปิงยังคงนอนนิ่งเหมือนกับเล่อเล่อที่ยังหลับสนิท หมอเข้ามาตรวจร่างกายจนละเอียดก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ คนอื่น ๆ ของตระกูลจ้าวต่างก็ออกไปส่งแขก เนื่องจากหมดเวลาเลี้ยงรับรองแล้ว พวกเขายังทำทุกอย่างตามปกติ แม้แต่คนสามคนที่หายไปก็ไม่มีคนสงสัยเลยหลังจากส่งแขกแล้วก็เหลือแค่คนตระกูลจ้าวกับหยางจุนหานที่กำลังรอฟังเรื่องราวที่เขาไม่รู้ เขาเลยต้องปล่อยให้ปิงปิงนอนอยู่ในห้องรับรองกับเล่อเล่อสองคน แล้วสั่งให้คนเฝ้าไว้ ถ้าปิงปิงตื่นแล้วให้รีบแจ้งเขาทันที ก่อนที่เขาและจ้าวหลิวหยางจะพากันเดินไปที่ห้องโถงของตระกูลจ้าว"คงมีแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้" หลิวหยางพูดขึ้นระหว่างที่เดินไป"บางทีก็แปลกใจ... แทนที่จะบอกพวกเรา ทำไมถึงไม่บอก ชอบทำอะไรที่เสี่ยงอันตราย หากตื่นขึ้นมา ผมขออนุญาตลงโทษปิงปิงในการทำผิดครั้งนี้ด้วยนะครับ" จุนหานรีบบอกทันที"ได้!! ครั้งนี้มันเสี่ยงถึงชีวิต ลงโทษได้เลย พ่อจะไม่อยู่บ้าน... เพราะถ้าอยู่คงทำใจไม่ได้" หลิวหยางยอมให้จุนหานลงโทษลูกสาวเขา ต่อไปจะได้ไม่ต้องทำอะไรเสี่ยงแบบนี้อีก เขาคิดว่าจุนหานคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงถึงขั้นซ้อมลูกสาวเขาแน่นอน แต่จะลงโทษแบบไหน เขาก็ไม่อยากร
บทที่ 48เวลาเดียวกันนั้น จ้าวหลิวหยางได้พาคนทั้งสามเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน ตอนนี้ห้องนี้ไม่ใช่ห้องต้องห้ามแล้ว ตั้งแต่ที่ลูกสาวของเขาเข้าไป เขาหวังว่าหนึ่งในสามคนนี้จะเป็นคนที่พวกเขาตามหา"นายท่านครับ" เสียงดังออกมาจากทางเดินอีกมุมหนึ่ง ก่อนที่จ้าวหลิวหยางจะให้คนทั้งสามเดินเข้าไปในห้องลับนั้นก่อน"เข้าไปกันได้เลย... สำรวจได้ตามสบาย" หลิวหยางหันไปบอกทั้งสามคน"ถ้าอย่างนั้นพวกผมเข้าไปก่อนนะครับ" เติ้งคุนเป็นคนบอกกับหลิวหยางทันที เขาก็อยากเห็นว่าในนั้นมีอะไรบ้าง โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีง่าย ๆ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแผน แต่เขาก็ยังอยากจะเข้าไปดูห้องนั้นอยู่ดีทั้งสามคนเดินเข้าไปที่ห้องลับ โดยมีจ้าวหลิวหยางยืนมองคนทั้งสาม แต่ที่แปลกคือกู้ฟางเซียนไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ พอสองคนนั้นเข้าไปแล้ว ประตูก็ปิดสนิททันที กู้ฟางเซียนพยายามเปิดแล้วก็เปิดไม่ได้ จึงหันไปทางจ้าวหลิวหยางอย่างสงสัย"มันเปิดไม่ได้" กู้ฟางเซียนพูดขึ้นทันที"ไปเอากุญแจมา" หลิวหยางหันไปบอกคนสนิท... ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าต้องไปตามหยางจุนหานมาด้วยแต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือประตูมันล็อก เหมือนตอนที่ลูกสาวเขาเข้าไปครั้งแรก ซึ่งมันเริ่มไม่เป็
บทที่ 47หลังจากได้พูดคุยวางแผนกันแล้ว ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เพราะต้องรอยืนยันก่อนว่าคนคนนั้นคือใคร ซึ่งหน้าที่นั้นตกเป็นของพี่ชายหาน ตอนนี้เธอมีหน้าที่เรียน ช่วยงานเล่อเล่อ และไปทำงานกับพี่ชายหาน ส่วนมากยังเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างจากเดิมคือ พ่อจ้าวกับพี่ชายหานไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งอยู่กับเธอตลอด เพราะพวกเขาคิดว่ายังไงคนคนนั้นก็พยายามเข้าหาเธออย่างแน่นอน โดยเฉพาะพี่ชายหานที่ให้คนมาคอยตามดูแลเธอตลอดเวลาจนเธอกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย แต่ถ้าจะไปไหน พวกเขาจะไปเป็นเพื่อน จากตอนแรกที่รู้สึกอึดอัด หลัง ๆ เธอเริ่มชินแล้ว..."พูดถึงนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ... พี่ชายหานยังไม่รู้ว่าเป็นคนไหนอีกเหรอ" เล่อเล่อที่กำลังนั่งวาดแบบเครื่องประดับเพื่อจะส่งโรงงานผลิตเงยหน้าหันมาคุยกับเพื่อน"รู้แล้ว... แต่ต้องรอเวลาและต้องใจเย็น ๆ " ปิงปิงบอกไปตามความจริง ตอนนี้แค่รอเวลาเท่านั้น รอให้เหยื่อมาติดเบ็ด มองเหมือนพวกเขาปล่อยไปนานเกินไป แต่จริง ๆ พวกเขาแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดีและเสียหายน้อยที่สุดเลยไม่รีบร้อน เหยื่อจะได้หลงเชื่อว่าทางเราไม่ระแคะระคายเรื่องพวกนี้ พอทางนั้นชะล่า