บทที่ 8 น้องอ้วนปิงปิง
เมื่อได้ยินที่เพื่อนบอกแล้ว ปิงปิงถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แต่ไม่ลืมจดรายละเอียดที่ได้มา กลัวได้แต่รายละเอียดก็ต้องจด เพื่อชีวิตที่เหลือเวลาเพียงน้อยนิดนี้ เธอต้องใจกล้าเข้าไว้ "ตอนฉันวิ่งหนี ฉันไปเจออะไรมาด้วย" เล่อเล่อขยับเข้าใกล้เพื่อนแล้วกระซิบเสียงเบา "อะไร... ยังไง" ปิงปิงก็ไม่น้อยหน้า กระซิบตอบกลับเบากว่า "ฉันเห็นพี่สาวเธอยืนคุยกับผู้ชาย ถ้าฉันมองไม่ผิด ฉันเห็นเขาจับมือกันด้วย" "จับมือด้วยเหรอ แล้วผู้ชายเป็นใคร เห็นหน้าไหม" ปิงปิงถามกลับ "ถ้าพวกผู้ใหญ่มาเห็นเป็นเรื่องแน่ ฉันไม่เห็นหน้า เห็นแค่ด้านข้าง ฉันโดนพี่จุนหานลากมาหาเธอเนี่ยแหละ แต่ฉันเห็นพวกพี่จุนหานมองไปทางที่พี่สาวเธอยืนอยู่พักหนึ่ง ก่อนออกมา" "เธอห้ามบอกคนอื่นเรื่องพี่อิงอิงนะ" ปิงปิงกลัวเพื่อนเธอเผลอหลุดปากเหลือเกิน "ไม่หลุดหรอก ฉันเห็นไม่ชัดด้วย ถ้าฉันเห็นชัดอาจหลุด" เรื่องที่ไม่มั่นใจ หากหลุดไปอาจมีเรื่องมาหาตัวได้ เธอไม่กล้าเสี่ยง มันอันตรายเกินไป เล่อเล่อไม่หลุดกับเรื่องที่ยังไม่มั่นใจแน่นอน "นั่นแหละ ชัดไม่ชัดก็ห้ามหลุด เธอว่าพี่จุนหานจะรู้จักกับพี่สาวฉันไหม และเมื่อกี้เขาเรียกทั้งชื่อทั้งแซ่ฉันเต็ม ๆ เลยนะ" "น่าคิด... พี่สาวเธอสวย ใคร ๆ ก็รู้จัก แต่หน้าแบบเนี่ย ๆ ไม่น่าจะมีใครรู้จัก" เล่อเล่อเอานิ้วมาจิ้มหน้าผากเพื่อนไปด้วยแล้วพูดไปด้วย "ก็จริง นักเรียนโรงเรียนเรามีตั้งเยอะ บางคนยังไม่รู้เลยว่าฉันเป็นน้องสาวพี่อิงอิงกับพี่เฉินเฉิน" "เรื่องนั้นช่างมัน เอาเรื่องที่เธอไปเจอมาดีกว่า กลุ่มนั้นน่ากลัวมากรู้ไหม มีคนเคยเห็นทั้งตบทั้งกระทืบและเอาน้ำที่ใช้ถูพื้นแล้วเทใส่ด้วย แล้วรู้ไหมใครเป็นคนโดน... เล่ามาให้หมด" "เห็นแต่รุมตบและด่ากันลั่น กระทืบไหมไม่แน่ใจ มันชุลมุนไปหมด ส่วนน้ำสาดไม่เห็นนะ และพี่คนที่โดนฉันก็ไม่รู้จัก คนกลุ่มนั้นเป็นใคร มีชื่อในสมุดไหม" "มี... เอาสมุดมา เดี๋ยวฉันเขียนรายละเอียดให้" หลังเลิกเรียน สองสาวเตรียมตัวกลับบ้านพร้อมกัน พวกเธอเดินคุยเรื่องต่าง ๆ ที่เจอมาในวันนี้จนมาถึงประตูหน้าโรงเรียน ก็เจอนักเรียนกลุ่มใหญ่ที่ยืนเต็มประตูทางออก ทั้งสองต้องค่อย ๆ เดินเลี่ยงตามช่องทางเดินที่ว่างเพื่อออกให้พ้นประตูโรงเรียน จนกระทั่ง "ปิงปิง" ปิงปิงได้ยินคนเรียกชื่อก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นพี่ชาย เธอจำเสียงได้ เลยรีบหันไปยิ้มกว้างทั้งที่ยังไม่เห็นพี่ชาย "พี่อิงอิงยังไม่ออกมา น้องกลับบ้านไปก่อน พี่จะไปตามเอง" เฉินเฉินรอบอกน้องสาวก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในโรงเรียน ปิงปิงได้ฟังที่พี่ชายบอก เธอก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวันและนึกถึงเรื่องที่เล่อเล่อเห็น หวังว่ามันจะไม่เกี่ยวข้องกันหรอกนะ "ปิงปิง... ดูนั่น" เล่อเล่อชี้บอกให้เพื่อนรีบหันมาดู ปิงปิงเลยหันไปมองในทิศทางที่เพื่อนบอก เธอเห็นพี่จุนหานเดินตามพี่สาวกับพี่ชายเธออยู่ห่าง ๆ ไม่ใช่แค่พี่จุนหานหรอก ต้องบอกว่าทั้งกลุ่มของพี่เขานั่นแหละที่เดินตามมา ปิงปิงขมวดคิ้วใช้ความคิด ความสามารถพิเศษที่เธอมีจะช่วยอะไรได้บ้างไหม หรือว่าคนกลุ่มนี้จะเป็นคนกลั่นแกล้งพี่ของเธอ พอคิดได้แบบนั้นแล้ว เธอเลยลากเล่อเล่อมาหลบตรงที่มีคนเยอะ ๆ เพื่อไม่ให้พี่ของเธอเห็นว่าเธอยังไม่ได้กลับบ้าน "หลบทำไม" เล่อเล่อกระซิบถาม "สงสัยไงเลยหลบ" พอเห็นว่าพี่สาวพี่ชายเดินไปแล้ว เธอเลยมองไปทางกลุ่มพี่จุนหานที่กำลังเดินข้ามถนนไปอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงเรียน เธอกำลังคิดว่ามันจะคุ้มไหมถ้าเธอเข้าไปหาพี่จุนหานแล้วแกล้งถามอะไรเขา พอเขาเผลอเธอก็แตะตัวพี่เขา ถ้าทำแบบนั้นเธอจะตายก่อนกำหนดไหม... "เล่อเล่อ เธอกลับไปก่อนไป" ปิงปิงตัดสินใจไล่เพื่อนกลับก่อน "ก็กลับด้วยกันนั่นแหละ ฉันไม่รีบ เธอไปไหนฉันไปด้วย" เล่อเล่อรู้ว่ายัยเพื่อนตัวดีจะไปทำเรื่องสนุก ๆ มีเหรอที่เธอจะพลาด "เคยได้ยินว่ากลุ่มพี่จุนหานฆ่าคนบ้างไหม" พอรู้ว่าสลัดเล่อเล่อไม่พ้นก็ไปเสี่ยงตายด้วยกันนี่แหละ "ไม่เคยได้ยินนะ ได้ยินแต่ถูกซ้อมจนต้องหามเข้าโรงพยาบาล เธอจะเข้าไปหาเหรอ" "อื้อ... เธอล่ะกลัวไหม" "ไม่... ว่าแต่ จะเข้าไปทำไม" มีเพื่อนไปด้วยจะกลัวทำไม แต่ถ้าคนเดียว เล่อเล่อขอลา ไม่ไปเด็ดขาด! "อยากรู้ก็ต้องถามไม่ใช่เหรอ" "จะบ้า! ก็บอกอยู่ว่าเขาไม่ชอบให้ใครถาม... ขี้เหร่ไม่พอยังจะโง่อีก! " "จะไปด้วยไหม ถ้าไม่ไปก็กลับบ้านไปเลย" ปิงปิงตัดความรำคาญ "ถ้าเธอทำให้ฉันต้องเข้าโรงพยาบาลนะ เธอตายแน่ยัยปิงปิง" ปิงปิงหัวเราะเพื่อนของเธอ ทำเป็นขู่เธอ พอไล่ให้กลับก็ไม่ยอมกลับ มีแต่จะตามไปด้วย "ไม่ต้องห่วง เราจะไปนอนโรงพยาบาลด้วยกัน" พอปิงปิงพูดจบก็พากันหัวเราะคิกคัก ถ้าพวกเธอได้นอนโรงพยาบาลด้วยกันมันจะสนุกขนาดไหน... ทั้งสองตัดสินใจเดินเข้าไปในกลุ่มคนอันตราย ปิงปิงคิดว่าไหน ๆ อีกไม่กี่เดือนเธอก็ตายแล้ว ถ้ามันช่วยพี่เธอได้เธอก็อยากทำ และถ้าเธอได้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวร้ายมา เธออาจรอดก็ได้ ใครจะไปรู้ มีแต่ได้กับได้ ส่วนเล่อเล่อนั้นคิดแค่ว่ามันต้องสนุกแน่ ๆ เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ผู้คนต้องจดจำ ไม่มีใครใจกล้าเท่าพวกเธอสองคนอีกแล้ว ทั้งสองต่างคิดไปคนละแบบ แต่พอได้ยินคำพูดทักทาย ปิงปิงก็อยากเข้าไปตะกุยหน้าไอ้คนที่มันพูดทันที… "ว่าไง น้องอ้วนปิงปิง" ................................................................ ฉายาน้องอ้วนมาแล้วนะ จะมีฉายาอื่นอีกไหมหนอ....ตอนพิเศษ"โอ๊ย!! ไม่ไหวแล้ว!! " ปิงปิงเริ่มโวยวายเสียงดัง เนื่องจากตอนนี้เธอเริ่มเจ็บท้องคลอดแล้ว"ฟู่ ๆ ๆ หายใจลึก ๆ นะ" จุนหานกำลังพยายามปลอบใจเพื่อให้ภรรยาใจเย็นลงตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมห้องคลอด เนื่องจากท้องนี้ต้องใช้หมอต่างชาติมาทำการผ่าตัดคลอด พยาบาลได้ฉีดยาเพื่อทำให้ภรรยาของเขาหลับแล้ว แต่ภรรยาของเขายังไม่หลับและยังไม่สลบ ไม่รู้เพราะยายังไม่ออกฤทธิ์หรือเพราะความเจ็บปวดที่มากเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาเริ่มเสียงดังโวยวาย"ไม่เอาแล้ว มันเจ็บ ฮือ ๆ ๆ ๆ " ปิงปิงเริ่มร้องไห้และเริ่มโวยวายเสียงดัง จุนหานจึงต้องคอยกอดและปลอบใจ พร้อมกับส่งสายตากดดันเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ทำงานไม่ทันใจเขาเอาเสียเลย จุนหานค่อย ๆ ลูบหลังคนที่เจ็บท้องเพื่อปลอบโยนจนคนตัวเล็กที่บ่นพึมพำเสียงเบาลงเรื่อย ๆ จนเงียบไป หมอไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปข้างในห้องผ่าตัด แต่จุนหานยืนยันที่จะเข้าไป เขาไม่มีทางปล่อยให้ภรรยาคลอดเพียงลำพังแน่นอน หมอที่ต้องรีบทำการผ่าคลอดก็ต้องยอมและทำงานด้วยอาการเกร็ง เพราะจุนหานมองอย่างไม่ละสายตา ทำให้หมอต้องรีบผ่าคลอดให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นต้องตกอยู่ในสถานการณ์กดดันจากญาติคนไข้เป็นเวลานานแน่น
บทที่ 51 บทส่งท้ายวันนี้คือวันแต่งงานของปิงปิง เธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัว ต้องบอกว่าแทบไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเธอต้องดูแลว่าที่เจ้าบ่าวของเธอที่ตอนนี้อาการหนักพอสมควร เหตุเกิดจากเขาอีกนั่นแหละ เธอเลยไม่ค่อยสงสารเขาสักเท่าไร"ไหวไหมคะ" ปิงปิงถามแม่ฟางเหนียงที่เข้ามาดูว่าเธอแต่งตัวเสร็จหรือยัง เพราะทางบ้านหยางจ้างช่างแต่งหน้าแต่งตัวไว้ทั้งหมด เธอมีหน้าที่แค่ยืนนิ่ง ๆ หรือนั่งนิ่ง ๆ ให้เขาแต่งตัวให้เท่านั้นเอง"ก็ยังอาเจียนออกมาตลอด" ฟางเหนียงพูดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ที่เห็นคนนิ่ง ๆ แบบจุนหานมีอาการแบบนี้"ปิงปิงไม่ค่อยสงสารเขาเท่าไรหรอกค่ะ" เธอพูดตามที่คิด"แหม! ยัยขี้เหร่! ใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันทรมานมากแค่ไหน" เล่อเล่อที่นั่งกินผลไม้อยู่รีบออกตัวอย่างแรง เพราะสองคนนี้มีอาการอย่างเดียวกัน"กินเยอะ ๆ นะแม่หมา... " ปิงปิงเอามือลูบท้องนูน ๆ ของเพื่อนที่หมอบอกว่าท้องได้ประมาณสามเดือนแล้ว"ไม่ต้องห่วงเรื่องกินของฉัน... ฉันกำลังสงสัยว่าตกลงจัดพิธีแบบไหนเนี่ย! จะแบบโบราณก็ไม่ใช่ จะแบบต่างชาติก็ไม่ใช่" เล่อเล่อมองดูงานที่ถูกจัดในโรงแรม แขกทุกคนก็นอนกันที่นี่ทั้งหมด"ตอนงานหมั้นเขาตามใจ
บทที่ 50ปิงปิงถูกเคี่ยวกรำทั้งวันทั้งคืนเกือบทั้งอาทิตย์ ไม่ได้ออกจากห้องไปไหน แม้แต่ตอนกินข้าวก็ยังต้องอยู่แต่ในห้อง บทลงโทษนี้ทำให้เธอลุกไม่ไหว แถมในช่วงวันแรก ๆ เธอระบมไปทั้งตัว เหมือนจะมีไข้ ไอ้คนใจร้ายก็ให้เธอกินยา แต่แทนที่จะได้นอนพัก เขากลับทำให้เธอเหมือนโดนดูดพลังออกไปจนหมด พี่ชายหานต้องเป็นคนอุ้มเธอไปอาบน้ำและแต่งตัว เขาทำให้เธอแทบทุกอย่าง..."ให้ปิงปิงกลับบ้านได้ไหมคะ" ปิงปิงพูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่"ไม่อยากลุกจากเตียงใช่ไหม" จุนหานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดขึ้น"ปิงปิงไม่ได้ออกจากห้องนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ พ่อต้องเป็นห่วงแน่นอน เล่อเล่อด้วย ต้องเป็นห่วงแน่ ๆ และที่สำคัญ ปิงปิงต้องไปเรียน""รีบกิน เรื่องพวกนั้นจัดการให้แล้ว""เรื่องไหน... จัดการยังไงคะ" "พ่อจ้าวยังไม่กลับ เล่อเล่ออยู่บ้านคู่หมั้น ส่วนเรื่องวิทยาลัยแจ้งไปแล้วว่าช่วงนี้กำลังเตรียมงานแต่ง เลยไม่ได้เข้าเรียน"จุนหานจัดการทุกอย่างโดยเป็นคนสั่งให้ลูกน้องดำเนินการ ส่วนเรื่องงานแต่ง เขาเป็นคนไปบอกครอบครัวของเขาให้เตรียมจัดงานได้เลย ถ้าอยากอุ้มหลานเร็ว ๆ ให้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะช่วงนี้เขาไม่
บทที่ 49ปิงปิงยังคงนอนนิ่งเหมือนกับเล่อเล่อที่ยังหลับสนิท หมอเข้ามาตรวจร่างกายจนละเอียดก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ คนอื่น ๆ ของตระกูลจ้าวต่างก็ออกไปส่งแขก เนื่องจากหมดเวลาเลี้ยงรับรองแล้ว พวกเขายังทำทุกอย่างตามปกติ แม้แต่คนสามคนที่หายไปก็ไม่มีคนสงสัยเลยหลังจากส่งแขกแล้วก็เหลือแค่คนตระกูลจ้าวกับหยางจุนหานที่กำลังรอฟังเรื่องราวที่เขาไม่รู้ เขาเลยต้องปล่อยให้ปิงปิงนอนอยู่ในห้องรับรองกับเล่อเล่อสองคน แล้วสั่งให้คนเฝ้าไว้ ถ้าปิงปิงตื่นแล้วให้รีบแจ้งเขาทันที ก่อนที่เขาและจ้าวหลิวหยางจะพากันเดินไปที่ห้องโถงของตระกูลจ้าว"คงมีแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้" หลิวหยางพูดขึ้นระหว่างที่เดินไป"บางทีก็แปลกใจ... แทนที่จะบอกพวกเรา ทำไมถึงไม่บอก ชอบทำอะไรที่เสี่ยงอันตราย หากตื่นขึ้นมา ผมขออนุญาตลงโทษปิงปิงในการทำผิดครั้งนี้ด้วยนะครับ" จุนหานรีบบอกทันที"ได้!! ครั้งนี้มันเสี่ยงถึงชีวิต ลงโทษได้เลย พ่อจะไม่อยู่บ้าน... เพราะถ้าอยู่คงทำใจไม่ได้" หลิวหยางยอมให้จุนหานลงโทษลูกสาวเขา ต่อไปจะได้ไม่ต้องทำอะไรเสี่ยงแบบนี้อีก เขาคิดว่าจุนหานคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงถึงขั้นซ้อมลูกสาวเขาแน่นอน แต่จะลงโทษแบบไหน เขาก็ไม่อยากร
บทที่ 48เวลาเดียวกันนั้น จ้าวหลิวหยางได้พาคนทั้งสามเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน ตอนนี้ห้องนี้ไม่ใช่ห้องต้องห้ามแล้ว ตั้งแต่ที่ลูกสาวของเขาเข้าไป เขาหวังว่าหนึ่งในสามคนนี้จะเป็นคนที่พวกเขาตามหา"นายท่านครับ" เสียงดังออกมาจากทางเดินอีกมุมหนึ่ง ก่อนที่จ้าวหลิวหยางจะให้คนทั้งสามเดินเข้าไปในห้องลับนั้นก่อน"เข้าไปกันได้เลย... สำรวจได้ตามสบาย" หลิวหยางหันไปบอกทั้งสามคน"ถ้าอย่างนั้นพวกผมเข้าไปก่อนนะครับ" เติ้งคุนเป็นคนบอกกับหลิวหยางทันที เขาก็อยากเห็นว่าในนั้นมีอะไรบ้าง โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีง่าย ๆ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแผน แต่เขาก็ยังอยากจะเข้าไปดูห้องนั้นอยู่ดีทั้งสามคนเดินเข้าไปที่ห้องลับ โดยมีจ้าวหลิวหยางยืนมองคนทั้งสาม แต่ที่แปลกคือกู้ฟางเซียนไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ พอสองคนนั้นเข้าไปแล้ว ประตูก็ปิดสนิททันที กู้ฟางเซียนพยายามเปิดแล้วก็เปิดไม่ได้ จึงหันไปทางจ้าวหลิวหยางอย่างสงสัย"มันเปิดไม่ได้" กู้ฟางเซียนพูดขึ้นทันที"ไปเอากุญแจมา" หลิวหยางหันไปบอกคนสนิท... ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าต้องไปตามหยางจุนหานมาด้วยแต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือประตูมันล็อก เหมือนตอนที่ลูกสาวเขาเข้าไปครั้งแรก ซึ่งมันเริ่มไม่เป็
บทที่ 47หลังจากได้พูดคุยวางแผนกันแล้ว ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เพราะต้องรอยืนยันก่อนว่าคนคนนั้นคือใคร ซึ่งหน้าที่นั้นตกเป็นของพี่ชายหาน ตอนนี้เธอมีหน้าที่เรียน ช่วยงานเล่อเล่อ และไปทำงานกับพี่ชายหาน ส่วนมากยังเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างจากเดิมคือ พ่อจ้าวกับพี่ชายหานไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งอยู่กับเธอตลอด เพราะพวกเขาคิดว่ายังไงคนคนนั้นก็พยายามเข้าหาเธออย่างแน่นอน โดยเฉพาะพี่ชายหานที่ให้คนมาคอยตามดูแลเธอตลอดเวลาจนเธอกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย แต่ถ้าจะไปไหน พวกเขาจะไปเป็นเพื่อน จากตอนแรกที่รู้สึกอึดอัด หลัง ๆ เธอเริ่มชินแล้ว..."พูดถึงนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ... พี่ชายหานยังไม่รู้ว่าเป็นคนไหนอีกเหรอ" เล่อเล่อที่กำลังนั่งวาดแบบเครื่องประดับเพื่อจะส่งโรงงานผลิตเงยหน้าหันมาคุยกับเพื่อน"รู้แล้ว... แต่ต้องรอเวลาและต้องใจเย็น ๆ " ปิงปิงบอกไปตามความจริง ตอนนี้แค่รอเวลาเท่านั้น รอให้เหยื่อมาติดเบ็ด มองเหมือนพวกเขาปล่อยไปนานเกินไป แต่จริง ๆ พวกเขาแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดีและเสียหายน้อยที่สุดเลยไม่รีบร้อน เหยื่อจะได้หลงเชื่อว่าทางเราไม่ระแคะระคายเรื่องพวกนี้ พอทางนั้นชะล่า