 INICIAR SESIÓN
INICIAR SESIÓN“บ้านใครถึงก่อนนะ”
“บ้านรินค่ะ”
“ขึ้นข้างหลังเลย”
เป็นการบอกกลาย ๆ ว่าเชิญขวัญต้องขึ้นนั่งข้างหน้า เขาเปิดประตูให้เธอก่อนจะเปิดประตูหลังให้เกศริน แม้ว่าใจจะเต้นแปลก ๆ เชิญขวัญกลั้นข่มความรู้สึกไว้ ใจชื้นเล็กน้อยเพราะมีเพื่อนนั่งไปด้วยครึ่งทาง
อัคนินทร์ดึงบุหรี่ออกจากปากยัดใส่กระเป๋ากางเกงขณะเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ ไม่ลืมโบกมือให้เพื่อนก่อนขึ้นรถ
“รถเฮียหินสวยมากเลยค่ะ” เกศรินส่งเสียงขึ้นมาจากเบาะหลัง เมื่อชายหนุ่มพารถเคลื่อนออกจากห้าง
“ขอบคุณครับ” เขามองอีกฝ่ายผ่านกระจกมองหลัง สาวน้อยมีท่าทางขัดเขินแต่ก็พยายามหาเรื่องมาคุยด้วย ผิดกับอีกคนที่นั่งเงียบ มองถนนตลอดเวลา จนเขาอดยิ้มมุมปากไม่ได้
“รถหรู ๆ แบบนี้ขับยากไหมคะ”
“ถ้าขับรถเป็นก็ไม่ยากหรอก คันไหน ๆ ก็เหมือนกัน”
“รินขับเป็นค่ะ แต่ยังไม่มีใบขับขี่”
“สิบแปดแล้วนี่”
“ยังไม่ครบเดือนค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะสอบได้หรือเปล่า”
สาวน้อยเริ่มพูดคล่องขึ้นเมื่อหนุ่มรุ่นพี่คุยด้วย เธอชวนเขาคุยไปตลอดจนรถถึงบ้านพัก
“ขอบคุณนะคะเฮียหิน”
“ครับ”
อัคนินทร์พยักหน้ารับไหว้จากสาวน้อยวัยสิบแปด รอกระทั่งเธอเดินเข้าไปในตึกเขาจึงเคลื่อนรถออก เอ่ยถามคนที่นั่งเงียบมาตลอดทาง
“หมู่บ้านไหนนะ”
“เกษมสินวิลล่าค่ะ”
“หมู่บ้านอะไรนะ”
เชิญขวัญหันไปมองหน้าคนถามทันที เสียงเธอก็ไม่ได้เบาสักหน่อย เอ่ยย้ำทีละคำชัด ๆ
“เกษม-สิน-วิล-ล่า-ค่ะ”
“อ้อ เกษมสินวิลล่านี่เอง”
ชายหนุ่มรุ่นพี่หันมาทวนคำสีหน้ายิ้ม ๆ พอเขารับรู้ เธอก็หันไปมองถนนเหมือนกลัวว่าเขาจะพาไปเส้นทางอื่น ตาคมปรายมองแก้มนวล ดันลิ้นกับกระพุ้งแก้ม ด้วยความนึกสนุก เขาเพิ่มความเร็วรถมากขึ้น ถึงจุดหนึ่งที่มีถนนแยกหลายสาย มือหักพวงมาลัยไปถนนเส้นอื่นทันที
“เลี้ยวทำไมคะ” เด็กสาวหน้าตื่น ถามเสียงดังทันที
“อ้าว ไม่ใช่ไปทางนี้เหรอ”
“ตรงไปเมื่อกี้อีกนิดก็ถึงแล้ว” เชิญขวัญค่อย ๆ ขยับเข้าหาประตูรถอย่างแนบเนียน มองหนุ่มรุ่นพี่ด้วยสายตาระแวดระวัง ใจเต้นกระหน่ำ ทั้งที่พยายามนึกปลอบใจตัวเองในแง่ดีว่า อัคนินทร์คงไม่ทำเรื่องไม่ดีกับเธอหรอก
“ไม่มีที่กลับรถด้วย”
คนตีหน้าซื่อมองซ้ายมองขวาหาที่กลับรถ นอกจากจะไม่มีแล้ว ถนนเส้นดังกล่าว ยิ่งขับไปเรื่อย ๆ สองข้างทางมีแต่ทุ่งหญ้าป่ากกเป็นบริเวณกว้าง
“ไม่มีรถสวนมาสักหน่อย กลับรถเลยสิคะ กลับไปจุดที่เลี้ยวมาเมื่อกี้”
“ไม่ได้หรอกครับ พี่ติดแบล็กลิสต์อยู่ ขืนทำผิดกฎจราจรโดนยึดใบขับขี่พอดี”
ใครจะมาส่องพฤติกรรมเขากลางป่ากกแบบนี้เล่า!
เชิญขวัญอยากตะโกนใส่หน้าหล่อเหลาที่ยามนี้กำลังทำให้เธออกสั่นขวัญแขวน คำพูดเขามันตอแหลชัดเจน อัคนินทร์ทำให้เธอใจกระตุกวาบ เมื่อจู่ ๆ รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วเบนเข้าจอดข้างทาง
หน้าคมเข้มนั้นก็หันมามองเธอด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ
“กลัวเหรอ”
ใครไม่กลัวก็บ้าแล้ว คนเพิ่งรู้จักกันวันนี้เอง
“พี่ดูดเก่งแต่รับรองไม่กัดหรอก”
สาวน้อยเม้มปาก คำพูดสองแง่สองง่ามทำให้คิดดีไม่ได้ เธอกอดกระเป๋าแนบอกแน่น ใจเต้นครึกโครม น้ำตาแทบร่วงอยู่รอมร่อแล้ว เสียงที่เอ่ยออกมาจึงสั่นเครือ
“วุ้นจะโทรให้พ่อมารับถ้าเฮียไม่สะดวกไปส่ง”
“แล้วไม่กลัวว่าพ่อจะสงสัยเหรอ ทำไมน้องวุ้นถึงอยู่กับพี่ตามลำพังในที่เปลี่ยวแบบนี้”
อัคนินทร์หัวเราะในลำคอเบา ๆ สนุกกับท่าทางหนูกลัวแมว หนูตัวจ้อยที่แทบจะร้องไห้เต็มแก่ เชิญขวัญอ่านง่ายมาก อึดอัด กลัว หวาดระแวง อย่างตอนนี้เธอกำลังกลัวเขาแต่ก็ทำใจดีสู้
“ฮะ... เฮีย...เฮียหินแกล้งวุ้นทำไม”
เขาหัวเราะเสียงดังมากขึ้น เคาะนิ้วกับพวงมาลัย หรี่ตาคมมองใบหน้ารูปไข่
“ห้ามเรียกเฮีย ไม่ชอบ”
“คนอื่นก็เรียก เพื่อนเฮีย...เอ่อ เพื่อนพี่ก็เรียก”
“ช่างคนอื่น น้องวุ้นเรียกว่าพี่พอแล้ว”
ชายหนุ่มขยับนั่งเอนหลังพิงเบาะ ลดกระจกรถลงจนสุดก่อนจะหยิบบุหรี่มาใส่ปากและจุดไฟ เขาอัดนิโคตินเข้าปอดหนัก ๆ ก่อนจะปล่อยควันออกมาทางจมูก
เชิญขวัญมองท่าทางเถื่อน ๆ นั้นด้วยใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ มองซ้ายมองขวาก็มีแค่ความมืดสลัว ไม่มีรถผ่านมาสักคัน หรือต่อให้มีผ่านมา เธอยังไม่รู้เลยว่าจะกล้าโบกขอความช่วยเหลือหรือเปล่า กลัวโดนอย่างที่กำลังโดนอยู่ตอนนี้
“ฮัดชิ้ว!”
กลิ่นบุหรี่บางส่วนอวลอยู่ในรถ เด็กสาวที่ไม่คุ้นชินกับมันเก็บกลั้นอาการคัดจมูกไม่ไหว
“โทษที” อัคนินทร์กดกระจกฝั่งสาวน้อยลง ทำให้ลมพัดเข้ามาจากฝั่งนั้นไล่ควันออกไปทางเขา “ปกติกินข้าวแล้วชอบดูดบุหรี่น่ะ”
“มันไม่ดีนะคะ”
ได้ยินคนกลัวเขาจะแย่แล้วยังอุตส่าห์เตือน อัคนินทร์กดยิ้มตรงมุมปากข้างที่เธอมองไม่เห็น ตาคมมองตรงไปยังความมืดเบื้องหน้า พาดข้อมือกับกระจกเพื่อเคาะเถ้าบุหรี่
“กลัวพี่แล้วอยากให้พี่เป็นติวเตอร์ให้ทำไม”
เชิญขวัญไม่ใช่เพิ่งกลัว เขาสังเกตเห็นว่าเธอกลัวเขาตั้งแต่ตอนกินสุกี้แล้ว
“ก็...ก็เพื่อน ๆ อยากให้พี่เป็น”
“น้องวุ้นไม่อยาก”

“คนเลว”“ไม่ยอมบอกไม่หยุดนะ”เธอไม่น่าถูกเขาล่อลวงเลย หลังจากถูกบังคับให้อยู่กับอัคนินทร์มาสามวัน โทรศัพท์ถูกยึดติดต่อใครไม่ได้และไม่ได้ไปทำงาน ป่านนี้เธออาจถูกขึ้นบัญชีดำแล้ว“บอกชื่อมา” อัคนินทร์เอ่ยถามเสียงนุ่มด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่เร่งรัดด้วยการพาเจ้าเหินลอยเล่นไปมาช้า ๆเชิญขวัญเม้มปากแน่น ทำท่าไม่ยอมเปิดปากชายหนุ่มหัวเราะร่วน เริ่มเพิ่มความเร็วอีกครั้ง ทิ้งตัวลง แล้วพุ่งขึ้นฟ้า ตีลังกาสามตลบ จนคนในอ้อมแขนกรี๊ดลั่นจนหูแทบแตก“บอกแล้ว ยอมแล้ว ปาลิน... ปาลิน ศุภาสิน”เธอได้แต่ร่ำร้องขอโทษรุ่นน้องเพื่อนสนิทในใจ ขืนไม่ยอมพูด เธอได้อ้วกแตกในไม่กี่วินาทีนี้แน่อัคนินทร์กระชับอ้อมกอด พาร่างนุ่มที่สั่นไปทั้งตัวหมุนร่อนลงช้า ๆ จนเท้าแตะพื้นน้ำ วางเธอลงยืน โอบกอดไว้ไม่ปล่อยกำปั้นเล็ก ๆ ระดมทุบตัวเขาไปทั่ว หน้าสวยแดงก่ำด้วยความโกรธและกลัว“คนเลว คุณมันเลวจริง ๆ ปล่อยฉันเลยนะ”“ตอนแรกใครอยากเล่น”“ใครให้เล่นผาดโผนขนาดนี้ล่ะ” ตอนเห็นเครื่องเล่นครั้งแรก เธออยากเล่นเพราะเคยเธอเห็นสาว ๆ ในคลิปวิดีโอลอยตัวสวย ๆ ไม่ใช่ตีลังกา หมุนรอบทิศจนหัวหมุนแบบนี้ชายหนุ่มหัวเราะลอดลำคอเบา ๆ ฉวยจังหวะที่ปากส
เพราะนอนไม่หลับ เชิญขวัญจึงออกมานั่งเล่นบนระเบียงริมน้ำในตอนเช้ามืด ปล่อยให้อากาศเย็น ๆ ลูบไล้ผิวกาย ถึงอากาศจะเย็นไปสักหน่อย เธอไม่คิดจะกลับเข้าห้องด้านในอีกคนที่นอนไม่หลับ เพราะเฝ้ามองเจ้าของร่างนุ่มมาตลอด เดินมาหยุดอยู่ด้านหลังคนตัวบางที่นั่งกอดเข่าเจ่าจุกอัคนินทร์สบถคำหยาบคายออกมา ก่อนกระชากร่างเล็กให้หันกลับมาเผชิญหน้า“บางทีถ้าเธอแทงฉันคืนสักแผลสองแผล อาจทำให้รู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ”มีดแหลมคมเล่มหนึ่งถูกยัดใส่มือบาง ก่อนจะถูกจับกดลงบนอกกระด้างเปล่าเปลือยเชิญขวัญตาโต จุดที่ปลายมีดปักลงคืออกด้านซ้าย เลือดสีสดซึมออกมาให้เห็น ขณะที่หัวใจเธอกระตุกวาบด้วยความสับสนและใจหายเธอพยายามสะบัดมือออกจากการจับกุม ขืนแรงเต็มที่ไม่ให้กดปลายมีดลงไปมากกว่านั้น จมูกอบอวลด้วยกลิ่นเหล้าจากลมหายใจอุ่น“คุณเป็นบ้าหรือไง”เธอสับสนทำตัวไม่ถูกเรื่องพ่อก็จริง แต่ไม่เคยคิดจะฆ่าใครอัคนินทร์หัวเราะเสียงเครียด ยอมปล่อยมือบาง เธอก็ขว้างมีดเล่มนั้นทิ้ง ระดมกำปั้นทุบตีกายแกร่งไม่เลือกที่“กี่ครั้งที่ฉันต้องช่วยชีวิตคุณไว้ แล้วคุณยังกล้ายัดเยียดให้ฉันเป็นฆาตกรอย่างนั้นเหรอ คนบ้า ไอ้บ้า เอาหัวสมองส่วนไหนคิด เลว
ที่นี่ไกลจากรชานันทร์พอสมควร“คุณไม่มีงานทำหรือไง คอยวอแวฉันอยู่ได้”อัคนินทร์ทอดสายตามองวงหน้าเนียนสวยนิ่งนาน นึกถึงรายงานที่ได้จากลูกน้อง“ผู้หญิงที่อุ้มท้องลูกเฮียตุลย์คือใคร”คำถามแรกที่เขาเปิดมาทำเอาเชิญขวัญชะงัก“ฉัน... จะไปรู้ได้ยังไง”ค่ำคืนนี้อัคนินทร์ดูเคร่งขรึมกว่าทุกวัน นัยน์ตาคมจ้องเธอเขม็ง เชิญขวัญหายใจไม่ทั่วท้องร่างสูงจะขยับเข้ามาใกล้ โน้มตัวลงเท้ามือทั้งสองกับพนักโซฟาที่หญิงสาวนั่งอยู่ กักเธอเอาไว้ในวงแขน ลมหายใจอุ่นรินรดหน้างาม ตาจ้องสบตา“เธอคงไม่อยากให้เฮียตุลย์มาเค้นเรื่องนี้เองหรอกใช้มั้ยวุ้น” เขาเองก็ไม่อยาก ทางที่ดีสุดคือ เค้นเธอด้วยตัวเอง“เธอไม่แปลกใจเลยนะ ตอนฉันถามเรื่องลูกเฮียตุลย์ นั่นก็ยืนยันได้ว่า เธอเป็นหนึ่งคนที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ นอกจากไอ้เตกับอาจารย์หมอที่ตายไปแล้ว”เชิญขวัญเมินหลบแววตาคมกริบที่เหมือนจะมองทะลุไปถึงหัวใจเธอได้“ตอนนั้นเธอเป็นนักศึกษาแพทย์ฝึกงานนี่นะใช่มั้ย”“ถ้ารู้ดีขนาดนั้น จะมาคาดคั้นฉันทำไม ทำไมไม่ไปถามคุณเตโชล่ะ”“ฉันชอบคาดคั้นเธอมากกว่า”หน้าคมก็โน้มลงใกล้อีก ปลายจมูกโด่งสวยคลอเคลียแก้มนุ่ม “ฉันให้เวลาเธอสามวัน หวังว่าฉันจะได้ค
ทว่า เธอคิดผิด เมื่ออีกฝ่ายตักเข้าปากอย่างไม่เดือดร้อน มิหนำซ้ำดูท่าเอร็ดอร่อยเสียอีก“ส้มตำเผ็ด ๆ ทำให้ตาสว่างดีเหมือนกัน”เชิญขวัญเบ้ปาก และลงมือกินบ้างโดยไม่รักษาภาพลักษณ์อะไรทั้งนั้นอัคนินทร์อมยิ้มกับท่าทางเหมือนเด็กโดนขัดใจของเธอ รู้เต็มอกว่าเธออยากแกล้งแต่เขาก็ยอม จริงอยู่ว่าอาหารพวกนี้ไม่ค่อยได้กินแต่ใช่ว่าเขาจะกินไม่ได้ชายหนุ่มหยิบทิชชูยื่นไปเช็ดมุมปากสวยเมื่อเห็นว่ามีเม็ดข้าวติดอยู่“กินเลอะเป็นเด็ก”“ฉันยังเด็กอยู่นี่”“จริงเหรอ”สายตาชนิดหนึ่งที่มองมาทำให้เชิญขวัญหน้าร้อน เธอถลึงตาใส่ ตัดสินใจเอ่ยถามสิ่งที่ค้างคาใจ“คุณจะวุ่นวายกับฉันไปถึงเมื่อไหร่”“วุ้น” อัคนินทร์หยิบไก่ทอดที่ฉีกเอาแต่เนื้อไปวางบนจานหญิงสาว “แทนตัวเองว่าวุ้นสิ น่ารักดี”“กรุณาตอบให้ตรงคำถามด้วย”เธออยากรู้ว่าเขาจะวอแวเธอไปถึงเมื่อไหร่ จู่ ๆ ก็เข้ามาข่มขู่บังคับ ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเมื่อท่าทางสาวเจ้าเอาจริงเอาจัง อัคนินทร์ยื่นมือไปเกลี่ยเส้นผมที่ถูกลมพัดมาระหน้าสวยออก มองสบตากันตรง ๆ“ไม่รู้สิ ตอนนี้ยังไม่คิด”ได้ยินคำตอบ เชิญขวัญก็อยากตะกุยหน้าหล่อ ๆ ให้ลายพร้อยนัก อีกฝ่ายยังอุตส่าห์โน้มหน้าเข้ามาพ
“เรื่องคืนบรรลัยนั่นทำกูเหนื่อยแทบอ้วก หยุดสักเดือนยังน้อยไปเลยเฮีย”ตุลายอมให้ อคิน กันต์กลทีย์ มือหนึ่งด้านการขุดค้นความลับของใครต่อใครปล่อยข้อมูลส่วนตัวออกสู่ตลาดมืดก็เพื่อล่อพวกมดปลวกที่จ้องกัดแทะเขามาตลอดให้เผยตัว พวกมันรวบรวมสมัครนักฆ่ามาเพื่อกำจัดเขาที่บ้านพักหรูหราริมทะเลสาบ นั่นคือคืนแดงเดือดที่อัคนินทร์พูดถึง มีคนตายนับร้อยทั้งฝ่ายนั้นและฝ่ายของพวกเขา และแผนการนั้น กลับทำให้ความลับหนึ่งเผยออกมา เรื่องเกี่ยวกับสายเลือดของตุลาที่เกิดจากการทำกิฟต์ ซึ่งเป็นเรื่องเดียวที่อคินสืบไม่ได้ ไม่มีข้อมูลว่าใครคือแม่ของเด็ก ตุลามีความสงสัยว่าเด็กคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ เจ้านายและพี่ชายบุญธรรมของเขาจึงร้อนใจบุกไปหาคนที่รับผิดชอบ นั่นก็คือเตโชเขาคงไม่ยอมโผล่หัวมาหาอีกฝ่าย ถ้าวุ้นแสนหวานจะไม่หลบหนีออกมาทำงานทั้งที่เขายังกักตัวเธอไว้ไม่ครบอาทิตย์เก่งกล้าขนาดนั้น เขาน่าจะจัดหนักจนเธอลุกจากเตียงไม่ไหวให้รู้แล้วรู้รอดไป“อย่างมึงนะจะหยุดสักเดือน แค่สามวันมึงก็คันมือคันตีนออกไปวิ่งไล่เชือดคนเล่นแล้ว กูยังแปลกใจทำไมคราวนี้มึงหายหัวไปเกือบอาทิตย์ได้”อัคนินทร์ไม่ตอบ เขาเป็นแบบนั้นจริง ตลอดหลายปีมานี
กำปั้นเล็ก ๆ เหวี่ยงจะฟาดอกกว้าง อัคนินทร์จับไว้ทัน เธอยกอีกมือมาจะตี เขาก็จับไว้ กดลงกับที่นอนเหนือศีรษะเล็ก ยิ้มเยือนชั่วร้าย“จำได้ไหม ฉันเคยบอกเธอไว้ว่าไง”“อะไร”“เมื่อไหร่ที่ฉันกลับมาทวงเธอคืน ฉันจะขังเธอไว้ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน”ใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ไม่คิดว่าอัคนินทร์จะจำเรื่องนั้นได้ เธอขึงตาวาววับ กลับได้รอยยิ้มยียวนเจ้าเล่ห์ร้าย“อยากร้ายแล้วเหรอ” คำถามเจือความรื่นรมย์ ตาคมเปล่งประกายร้อนแรง “ได้สิ แสดงความร้ายกาจได้เต็มที่เลยนะ แม่มดน้อย”แล้วเชิญขวัญก็ต้องอุทาน เมื่อถูกพลิกตัวขึ้นคร่อมทับร่างหนาอย่างรวดเร็ว สองมือถูกรั้งขึ้นไปเหนือหัวเขา ยึดไว้ด้วยมือแกร่งข้างหนึ่ง คนใต้ร่างก็หยัดสะโพกขึ้นส่งความเข้มขึงที่เริ่มเหยียดขยายซุกไซ้ซอกขาเธอ เธอสยิวซ่าน ยกสะโพกหนีทันที“ไม่!” เธอจะไม่ยอมอัคนินทร์หัวเราะร่วนตาพราว จับเอวบางดึงลงต่ำกระทั่งปลายความเป็นชายจดจ่อรวงช่อแสนหวาน ผลักดันความแข็งขึงสอดแทรกสู่กายงามทันทีเชิญขวัญเบิกตาโต เสียววาบที่นวลช่อ ปั่นป่วนในช่องท้อง ช่อสาวปริตึงเต็มแน่น เธอยังคิดจะเด้งร่างหนี แต่ถูกจับแน่น อัคนินทร์ชันท่อนขาแกร่งขึ้น แล้วขยับสะโพกขึ้นบดเบียดกร








