 INICIAR SESIÓN
INICIAR SESIÓNสาวน้อยทำหน้าไม่ถูกเมื่อหน้าคมหันกลับมามอง ดวงตาคมกริบคู่นั้นตรึงตัวเธอไว้
“วุ้นไม่...”
“งั้นพี่ไม่ทำก็ได้สิ” เขาแทรกขึ้น ส่งบุหรี่เข้าปาก
“ไม่ได้นะคะ พี่หินรับปากแล้ว ยกเลิกไม่ได้นะ”
อารามตกใจ กลัวว่าอีกฝ่ายจะยกเลิกสัญญา เชิญขวัญผวาเข้าไปเกาะแขนแกร่งเขย่า ถ้าเพื่อน ๆ รู้ว่าเขายกเลิกเพราะเธอ ต้องเฉ่งเธอแน่ อีกอย่างเธอไม่อยากให้เพื่อนต้องพลาดโอกาสดี ๆ ไป จริงอยู่ว่าการเรียนพิเศษช่วยให้พวกเธอมีความรอบรู้มากขึ้น แต่จะดีกว่าไหมถ้ามีคนคอยแนะนำเพิ่มเติม
อัคนินทร์มองหน้าใสที่เปลี่ยนจากความกลัวเป็นความกังวลถึงขั้นกล้ามาเกาะแขนเขา ลืมว่าต้องรักษาระยะห่าง
“วุ้นก็อยากให้พี่ช่วยติวให้...นะคะ อย่ายกเลิกเลย”
“พี่จะได้อะไร”
“คะ?”
ชายหนุ่มอัดบุหรี่เข้าปอดลึก ๆ ดีดก้นกรองทิ้ง หันไปพ่นควันออกนอกหน้าต่างรถ ก่อนหันกลับมามองเด็กสาว
“ถ้าพี่ยอมเป็นติวเตอร์ให้พวกเรา พี่จะได้อะไร”
“แล้วพี่หินต้องการอะไรล่ะ” เธอจำได้ตอนอยู่ร้านอาหาร เขาพูดเหมือนไม่ต้องการเงินเป็นค่าจ้าง แล้วจะให้พวกเธอตอบแทนด้วยอะไร
ครั้นสบตาคมกริบที่ทอประกายเรืองรองยากจะอ่านความหมาย อัคนินทร์หลุบตาลงมองมือเธอที่จับท่อนแขนเขาไม่ปล่อย
“อุ๊ย!”
สาวน้อยกระตุกมือออกรวดเร็ว ถอยออกห่างไปเบียดตัวกับประตูอีกครั้ง
ท่าทางพวกนั้นสร้างความขบขันให้กับคนมอง
อัคนินทร์หัวเราะลอดลำคอเบา ๆ โน้มตัวเข้าไปใกล้ วงหน้าใสแตกตื่น เบียดตัวเองจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกับประตู
“ดีจังเวลามีคนกลัวแบบนี้”
“ทำให้คนอื่นกลัวแล้วสนุกนักเหรอคะ”
“ก็สนุกนะ หน้าตื่น ๆ ของเธอมันน่ามองมาก มีแต่สาว ๆ กระโจนเข้าหาพี่ บางทีก็รู้สึกว่าน่าเบื่อ”
“ละ...หลงตัวเองที่สุด”
“วุ้นไม่อยากหลงพี่บ้างเหรอ”
คนอะไรหน้าด้านหน้าทนจริง ๆ สาวน้อยอยากจะร้องไห้ให้รู้แล้วรู้รอด
“วะ วุ้นอยากกลับบ้านแล้ว”
“ไม่อยากรู้แล้วเหรอว่าพี่ต้องการอะไรเป็นของตอบแทน”
เชิญขวัญกอดกระเป๋าแน่น เม้มปากที่สั่นระริกไว้ เธอไม่เคยมีแฟนก็จริง แต่ท่าทางคุกคามที่อัคนินทร์กำลังทำอยู่ตอนนี้ เธอจะคิดในแง่ดีได้ยังไง
เจอกันไม่กี่ชั่วโมง เขากลับพาเธอมาจอดรถที่เปลี่ยว ลลิตาจะรู้ไหมว่า เพื่อนของธัญธรคนนี้ไว้ใจไม่ได้สักนิด
สาวน้อยไม่ตอบ นัยน์ตาไหวระริกฉาบเคลือบด้วยน้ำใส
อัคนินทร์ยอมถอยกลับไปดี ๆ
“ข้อแรก ห้ามเรียกพี่ว่าเฮียเหมือนพวกนั้น”
“...”
“ข้อสอง หลังติวเสร็จต้องให้พี่มาส่งบ้านทุกครั้ง”
“ทะ ทำไมล่ะ”
“รับผิดชอบมั้ง น้องวุ้นเป็นผู้หญิงกลับบ้านมืดค่ำมันอันตราย ดูอย่างคืนนี้ ถ้าไม่ใช่พี่เจอคนไม่ดีน้องวุ้นคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง คงไม่มีใครมาจอดรถดูดบุหรี่เฉย ๆ หรอก”
เชิญขวัญตาโตมองคนดีตรงหน้า เขาช่างกล้าพูดออกมาได้
“ตกลงหรือเปล่า”
ข้อแรกเธอไม่ติดหรอก แค่เรียกเขาว่า ‘พี่’ ไม่ได้ลำบากอะไร แต่ข้อสองนี่สิ ทำไมต้องตั้งเงื่อนไขแบบนั้น แล้วเขาจะแกล้งเธออีกหรือเปล่า
“ให้เวลาตัดสินใจหนึ่งคืนแล้วกัน เอามือถือมา”
ตาคมที่มองมานิ่ง ๆ แต่กดดันทำให้เชิญขวัญไม่กล้าปฏิเสธ หยิบมือถือจากกระเป๋าออกมาปลดล็อกแล้วส่งให้เขา
อัคนินทร์กดโทรเข้าเบอร์ของตนเอง ถือวิสาสะแอดเป็นเพื่อนกับเธอในช่องทางโซเชียลไว้ด้วย
“พี่เปลี่ยนใจละ ตกลงหรือไม่ตกลง ตอบมาตอนนี้เลย”
แบบนี้ก็ได้เหรอ?
สาวน้อยเผลอค้อนขวับ ดูท่าว่าถ้าไม่ได้คำตอบ เธอต้องติดอยู่กับเขาแบบนี้ทั้งคืนหรือเปล่า
“วุ้นมีทางเลือกด้วยเหรอ”
“มีสิ เลือกตกลงไง”
สุ้มเสียงห้าวกลั้วหัวเราะ เขายอมส่งมือถือคืนให้ พอเธอรับก็ยื่นมือข้างนั้นไปวางบนศีรษะเล็ก สาวน้อยสะดุ้งตกใจ ย่นคอหลบเต็มที่ หากเขาก็เพียงกดฝ่ามือเบา ๆ
“ขอโทษที่แกล้ง ใครใช้ให้เราน่ารักน่าแกล้งล่ะ”
เป็นความผิดเธออย่างนั้นเหรอ...
เชิญขวัญมึนงงทำตัวไม่ถูก คนขี้แกล้งก็พารถออกจากจุดนั้น ใจเธอเริ่มชื้นขึ้นมาแต่ก็ต้องลุ้นใจตุ้มต่อมว่าอัคนินทร์จะพาเธอกลับบ้านจริงไหม
ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถยนต์สุดหรูก็เคลื่อนเข้ามาจอดหน้าบ้านเดี่ยวสองชั้นหลังกะทัดรัด เธอหันไปยกมือไหว้เขาตามมารยาท อุบอิบขอบคุณแล้วรีบลงจากรถจนแทบเป็นกระโจน
อัคนินทร์มองตามร่างบางในชุดนักเรียนมอปลายที่วิ่งแนบเข้าบ้านจนผมหางม้าปลิว มุมปากได้รูปยกยิ้ม ตาคมหรี่มองตามร่างบางอย่างหมายมาดบางอย่าง เห็นเธอเข้าบ้านเรียบร้อยจึงพารถออกเพื่อกลับบ้านตนเอง
ขณะเดียวกัน สาวน้อยยิ้มแหยให้แม่ที่นั่งดูละครหลังข่าว
“แม่จะสี่ทุ่มครึ่งแล้วยังไม่นอนเหรอคะ”
แม่ของเธอเป็นครู สอนอยู่ในโรงเรียนเดียวกับที่เธอเรียน ท่านจะนอนก่อนสามทุ่มเสมอเพื่อตื่นเช้าแล้วรีบไปโรงเรียน
“ลูกสาวยังไม่กลับแล้วแม่จะหลับได้ยังไงล่ะฮึ” จริญญาบีบแก้มลูกสาวที่เข้ามากอดอย่างหยอกเย้า ก่อนจะลุกไปปิดทีวี ล็อกบ้านแล้วควงแขนลูกสาวคนเดียวขึ้นชั้นบน
“ขอโทษค่ะแม่ พอดีเมาท์กันเพลินไปหน่อย อีกอย่างนะแม่ ต่อไปนี้บางวันที่เลิกเรียนพิเศษแล้ว วุ้นจะติวกับเพื่อนต่อ อาจจะกลับค่ำหน่อยนะคะ”
“ให้แม่ไปรับไหม”

“คนเลว”“ไม่ยอมบอกไม่หยุดนะ”เธอไม่น่าถูกเขาล่อลวงเลย หลังจากถูกบังคับให้อยู่กับอัคนินทร์มาสามวัน โทรศัพท์ถูกยึดติดต่อใครไม่ได้และไม่ได้ไปทำงาน ป่านนี้เธออาจถูกขึ้นบัญชีดำแล้ว“บอกชื่อมา” อัคนินทร์เอ่ยถามเสียงนุ่มด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่เร่งรัดด้วยการพาเจ้าเหินลอยเล่นไปมาช้า ๆเชิญขวัญเม้มปากแน่น ทำท่าไม่ยอมเปิดปากชายหนุ่มหัวเราะร่วน เริ่มเพิ่มความเร็วอีกครั้ง ทิ้งตัวลง แล้วพุ่งขึ้นฟ้า ตีลังกาสามตลบ จนคนในอ้อมแขนกรี๊ดลั่นจนหูแทบแตก“บอกแล้ว ยอมแล้ว ปาลิน... ปาลิน ศุภาสิน”เธอได้แต่ร่ำร้องขอโทษรุ่นน้องเพื่อนสนิทในใจ ขืนไม่ยอมพูด เธอได้อ้วกแตกในไม่กี่วินาทีนี้แน่อัคนินทร์กระชับอ้อมกอด พาร่างนุ่มที่สั่นไปทั้งตัวหมุนร่อนลงช้า ๆ จนเท้าแตะพื้นน้ำ วางเธอลงยืน โอบกอดไว้ไม่ปล่อยกำปั้นเล็ก ๆ ระดมทุบตัวเขาไปทั่ว หน้าสวยแดงก่ำด้วยความโกรธและกลัว“คนเลว คุณมันเลวจริง ๆ ปล่อยฉันเลยนะ”“ตอนแรกใครอยากเล่น”“ใครให้เล่นผาดโผนขนาดนี้ล่ะ” ตอนเห็นเครื่องเล่นครั้งแรก เธออยากเล่นเพราะเคยเธอเห็นสาว ๆ ในคลิปวิดีโอลอยตัวสวย ๆ ไม่ใช่ตีลังกา หมุนรอบทิศจนหัวหมุนแบบนี้ชายหนุ่มหัวเราะลอดลำคอเบา ๆ ฉวยจังหวะที่ปากส
เพราะนอนไม่หลับ เชิญขวัญจึงออกมานั่งเล่นบนระเบียงริมน้ำในตอนเช้ามืด ปล่อยให้อากาศเย็น ๆ ลูบไล้ผิวกาย ถึงอากาศจะเย็นไปสักหน่อย เธอไม่คิดจะกลับเข้าห้องด้านในอีกคนที่นอนไม่หลับ เพราะเฝ้ามองเจ้าของร่างนุ่มมาตลอด เดินมาหยุดอยู่ด้านหลังคนตัวบางที่นั่งกอดเข่าเจ่าจุกอัคนินทร์สบถคำหยาบคายออกมา ก่อนกระชากร่างเล็กให้หันกลับมาเผชิญหน้า“บางทีถ้าเธอแทงฉันคืนสักแผลสองแผล อาจทำให้รู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ”มีดแหลมคมเล่มหนึ่งถูกยัดใส่มือบาง ก่อนจะถูกจับกดลงบนอกกระด้างเปล่าเปลือยเชิญขวัญตาโต จุดที่ปลายมีดปักลงคืออกด้านซ้าย เลือดสีสดซึมออกมาให้เห็น ขณะที่หัวใจเธอกระตุกวาบด้วยความสับสนและใจหายเธอพยายามสะบัดมือออกจากการจับกุม ขืนแรงเต็มที่ไม่ให้กดปลายมีดลงไปมากกว่านั้น จมูกอบอวลด้วยกลิ่นเหล้าจากลมหายใจอุ่น“คุณเป็นบ้าหรือไง”เธอสับสนทำตัวไม่ถูกเรื่องพ่อก็จริง แต่ไม่เคยคิดจะฆ่าใครอัคนินทร์หัวเราะเสียงเครียด ยอมปล่อยมือบาง เธอก็ขว้างมีดเล่มนั้นทิ้ง ระดมกำปั้นทุบตีกายแกร่งไม่เลือกที่“กี่ครั้งที่ฉันต้องช่วยชีวิตคุณไว้ แล้วคุณยังกล้ายัดเยียดให้ฉันเป็นฆาตกรอย่างนั้นเหรอ คนบ้า ไอ้บ้า เอาหัวสมองส่วนไหนคิด เลว
ที่นี่ไกลจากรชานันทร์พอสมควร“คุณไม่มีงานทำหรือไง คอยวอแวฉันอยู่ได้”อัคนินทร์ทอดสายตามองวงหน้าเนียนสวยนิ่งนาน นึกถึงรายงานที่ได้จากลูกน้อง“ผู้หญิงที่อุ้มท้องลูกเฮียตุลย์คือใคร”คำถามแรกที่เขาเปิดมาทำเอาเชิญขวัญชะงัก“ฉัน... จะไปรู้ได้ยังไง”ค่ำคืนนี้อัคนินทร์ดูเคร่งขรึมกว่าทุกวัน นัยน์ตาคมจ้องเธอเขม็ง เชิญขวัญหายใจไม่ทั่วท้องร่างสูงจะขยับเข้ามาใกล้ โน้มตัวลงเท้ามือทั้งสองกับพนักโซฟาที่หญิงสาวนั่งอยู่ กักเธอเอาไว้ในวงแขน ลมหายใจอุ่นรินรดหน้างาม ตาจ้องสบตา“เธอคงไม่อยากให้เฮียตุลย์มาเค้นเรื่องนี้เองหรอกใช้มั้ยวุ้น” เขาเองก็ไม่อยาก ทางที่ดีสุดคือ เค้นเธอด้วยตัวเอง“เธอไม่แปลกใจเลยนะ ตอนฉันถามเรื่องลูกเฮียตุลย์ นั่นก็ยืนยันได้ว่า เธอเป็นหนึ่งคนที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ นอกจากไอ้เตกับอาจารย์หมอที่ตายไปแล้ว”เชิญขวัญเมินหลบแววตาคมกริบที่เหมือนจะมองทะลุไปถึงหัวใจเธอได้“ตอนนั้นเธอเป็นนักศึกษาแพทย์ฝึกงานนี่นะใช่มั้ย”“ถ้ารู้ดีขนาดนั้น จะมาคาดคั้นฉันทำไม ทำไมไม่ไปถามคุณเตโชล่ะ”“ฉันชอบคาดคั้นเธอมากกว่า”หน้าคมก็โน้มลงใกล้อีก ปลายจมูกโด่งสวยคลอเคลียแก้มนุ่ม “ฉันให้เวลาเธอสามวัน หวังว่าฉันจะได้ค
ทว่า เธอคิดผิด เมื่ออีกฝ่ายตักเข้าปากอย่างไม่เดือดร้อน มิหนำซ้ำดูท่าเอร็ดอร่อยเสียอีก“ส้มตำเผ็ด ๆ ทำให้ตาสว่างดีเหมือนกัน”เชิญขวัญเบ้ปาก และลงมือกินบ้างโดยไม่รักษาภาพลักษณ์อะไรทั้งนั้นอัคนินทร์อมยิ้มกับท่าทางเหมือนเด็กโดนขัดใจของเธอ รู้เต็มอกว่าเธออยากแกล้งแต่เขาก็ยอม จริงอยู่ว่าอาหารพวกนี้ไม่ค่อยได้กินแต่ใช่ว่าเขาจะกินไม่ได้ชายหนุ่มหยิบทิชชูยื่นไปเช็ดมุมปากสวยเมื่อเห็นว่ามีเม็ดข้าวติดอยู่“กินเลอะเป็นเด็ก”“ฉันยังเด็กอยู่นี่”“จริงเหรอ”สายตาชนิดหนึ่งที่มองมาทำให้เชิญขวัญหน้าร้อน เธอถลึงตาใส่ ตัดสินใจเอ่ยถามสิ่งที่ค้างคาใจ“คุณจะวุ่นวายกับฉันไปถึงเมื่อไหร่”“วุ้น” อัคนินทร์หยิบไก่ทอดที่ฉีกเอาแต่เนื้อไปวางบนจานหญิงสาว “แทนตัวเองว่าวุ้นสิ น่ารักดี”“กรุณาตอบให้ตรงคำถามด้วย”เธออยากรู้ว่าเขาจะวอแวเธอไปถึงเมื่อไหร่ จู่ ๆ ก็เข้ามาข่มขู่บังคับ ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเมื่อท่าทางสาวเจ้าเอาจริงเอาจัง อัคนินทร์ยื่นมือไปเกลี่ยเส้นผมที่ถูกลมพัดมาระหน้าสวยออก มองสบตากันตรง ๆ“ไม่รู้สิ ตอนนี้ยังไม่คิด”ได้ยินคำตอบ เชิญขวัญก็อยากตะกุยหน้าหล่อ ๆ ให้ลายพร้อยนัก อีกฝ่ายยังอุตส่าห์โน้มหน้าเข้ามาพ
“เรื่องคืนบรรลัยนั่นทำกูเหนื่อยแทบอ้วก หยุดสักเดือนยังน้อยไปเลยเฮีย”ตุลายอมให้ อคิน กันต์กลทีย์ มือหนึ่งด้านการขุดค้นความลับของใครต่อใครปล่อยข้อมูลส่วนตัวออกสู่ตลาดมืดก็เพื่อล่อพวกมดปลวกที่จ้องกัดแทะเขามาตลอดให้เผยตัว พวกมันรวบรวมสมัครนักฆ่ามาเพื่อกำจัดเขาที่บ้านพักหรูหราริมทะเลสาบ นั่นคือคืนแดงเดือดที่อัคนินทร์พูดถึง มีคนตายนับร้อยทั้งฝ่ายนั้นและฝ่ายของพวกเขา และแผนการนั้น กลับทำให้ความลับหนึ่งเผยออกมา เรื่องเกี่ยวกับสายเลือดของตุลาที่เกิดจากการทำกิฟต์ ซึ่งเป็นเรื่องเดียวที่อคินสืบไม่ได้ ไม่มีข้อมูลว่าใครคือแม่ของเด็ก ตุลามีความสงสัยว่าเด็กคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ เจ้านายและพี่ชายบุญธรรมของเขาจึงร้อนใจบุกไปหาคนที่รับผิดชอบ นั่นก็คือเตโชเขาคงไม่ยอมโผล่หัวมาหาอีกฝ่าย ถ้าวุ้นแสนหวานจะไม่หลบหนีออกมาทำงานทั้งที่เขายังกักตัวเธอไว้ไม่ครบอาทิตย์เก่งกล้าขนาดนั้น เขาน่าจะจัดหนักจนเธอลุกจากเตียงไม่ไหวให้รู้แล้วรู้รอดไป“อย่างมึงนะจะหยุดสักเดือน แค่สามวันมึงก็คันมือคันตีนออกไปวิ่งไล่เชือดคนเล่นแล้ว กูยังแปลกใจทำไมคราวนี้มึงหายหัวไปเกือบอาทิตย์ได้”อัคนินทร์ไม่ตอบ เขาเป็นแบบนั้นจริง ตลอดหลายปีมานี
กำปั้นเล็ก ๆ เหวี่ยงจะฟาดอกกว้าง อัคนินทร์จับไว้ทัน เธอยกอีกมือมาจะตี เขาก็จับไว้ กดลงกับที่นอนเหนือศีรษะเล็ก ยิ้มเยือนชั่วร้าย“จำได้ไหม ฉันเคยบอกเธอไว้ว่าไง”“อะไร”“เมื่อไหร่ที่ฉันกลับมาทวงเธอคืน ฉันจะขังเธอไว้ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน”ใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ไม่คิดว่าอัคนินทร์จะจำเรื่องนั้นได้ เธอขึงตาวาววับ กลับได้รอยยิ้มยียวนเจ้าเล่ห์ร้าย“อยากร้ายแล้วเหรอ” คำถามเจือความรื่นรมย์ ตาคมเปล่งประกายร้อนแรง “ได้สิ แสดงความร้ายกาจได้เต็มที่เลยนะ แม่มดน้อย”แล้วเชิญขวัญก็ต้องอุทาน เมื่อถูกพลิกตัวขึ้นคร่อมทับร่างหนาอย่างรวดเร็ว สองมือถูกรั้งขึ้นไปเหนือหัวเขา ยึดไว้ด้วยมือแกร่งข้างหนึ่ง คนใต้ร่างก็หยัดสะโพกขึ้นส่งความเข้มขึงที่เริ่มเหยียดขยายซุกไซ้ซอกขาเธอ เธอสยิวซ่าน ยกสะโพกหนีทันที“ไม่!” เธอจะไม่ยอมอัคนินทร์หัวเราะร่วนตาพราว จับเอวบางดึงลงต่ำกระทั่งปลายความเป็นชายจดจ่อรวงช่อแสนหวาน ผลักดันความแข็งขึงสอดแทรกสู่กายงามทันทีเชิญขวัญเบิกตาโต เสียววาบที่นวลช่อ ปั่นป่วนในช่องท้อง ช่อสาวปริตึงเต็มแน่น เธอยังคิดจะเด้งร่างหนี แต่ถูกจับแน่น อัคนินทร์ชันท่อนขาแกร่งขึ้น แล้วขยับสะโพกขึ้นบดเบียดกร








