 INICIAR SESIÓN
INICIAR SESIÓN“ไม่เป็นไรค่ะแม่ เดี๋ยวยายเบลล์มาส่ง วันไหนวุ้นกลับค่ำจะบอกแม่ก่อนนะคะ”
“โอเคจ้ะ พิชิตข้อสอบเข้าเรียนหมอให้ได้นะ”
เชิญขวัญซบหน้ากับแขนแม่อย่างอ้อน ๆ พลางขอโทษแม่ในใจที่โกหกท่านบางเรื่อง
“มัวอ้อนอยู่นี่แหละ ไปอาบน้ำเข้านอนได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้ไม่ตื่นสาย”
“ค่า”
เธอกอดแม่อีกรอบ ก่อนจะผละเข้าห้องส่วนตัว เก็บกลั้นความรู้สึกบางอย่างไว้ แม่ไม่ได้แค่รอเธอหรอก แต่คืนนี้พ่อยังไม่เข้าบ้าน แม่เลยนอนไม่หลับ
พ่อของเธอมีอาชีพราชการทำงานในเขต วัน ๆ มีงานนอก งานราช กินเลี้ยงอะไรต่าง ๆ จนบางทีเธอสงสัยว่าคนอื่นที่ทำงานแบบเดียวกับพ่อ เป็นเหมือนกันไหม
ครืด...ครืด... เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นเตือน เชิญขวัญหยิบขึ้นมาดู แล้วต้องใจกระตุกกับข้อความสั้น ๆ ส่งมาจากคนที่เพิ่งกลับไป
‘ฝันดี’
เธอจะฝันดีได้ยังไง ถูกเขาป่วนประสาทมาหยก ๆ ยังจะส่งข้อความมาย้ำเตือนให้นึกถึงชั่วโมงที่ผ่านมาอีก ผู้ชายอะไรร้ายแบบนี้
สนุกเกอร์คลับ...
“กว่าจะเสด็จมาได้นะเฮียมึง ไปส่งน้องเขาถึงไหนวะ” นิพิฐพนธ์เงยหน้าขึ้นจากโต๊ะผ้าสักหลาดทันทีที่เห็นเพื่อนรุ่นพี่มาถึง
ร้านสนุกเกอร์แห่งนี้มีโต๊ะไว้บริการสองแบบ คือแบบห้องรวม มีโต๊ะหลายตัวตั้งเรียงกัน มุมห้องมีชุดโซฟาให้นั่งพักดื่ม แบบที่สองเป็นห้องส่วนตัว และเป็นห้องที่กลุ่มของอัคนินทร์เลือกมาเล่นคืนนี้ ภายในห้องนอกจากเพื่อนสามแล้ว ยังมีสาวสวยที่ทำงานในร้านมาคอยรินเหล้า หยิบลูกขึ้นมาตั้งบนโต๊ะ และเคล้าคลอหยอกเย้ากับหนุ่ม ๆ อย่างเอาใจ
อัคนินทร์ทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวใหญ่ สาวสวยคนหนึ่งก็หยิบเหล้ามาเทลงแก้ว ครั้นเธอจะผสมมิกเซอร์ เขาโบกมือห้าม สาวสวยขยับเข้ามาใกล้พลางยิ้มหวานเพื่อส่งแก้วให้ เขาคว้าแก้วมากระดกเพียว ๆ เขาชอบห้องส่วนตัวแบบนี้ คนไม่พลุกพล่านและไม่ต้องสนว่าจะถูกใครเขม่น ไม่ได้กลัวหรอกแต่เขารำคาญ
“ถามไม่ตอบ คงไม่ได้ไปทัวร์สวรรค์ชั้นเจ็ดเหมือนไอ้ธัญมันหรอกนะไอ้เฮีย” อนวัทย์สัพยอกแล้วหัวเราะร่วน
“ชั้นเจ็ดพ่อง”
ส่วนอีกคนที่ถูกพาดพิงก็ยื่นมือมาตบศีรษะเพื่อนไปหนึ่งดอก สาวงามจึงพากันหัวเคาะคิกคัก
“โอ๊ย ไอ้เหี้ยธัญมันเจ็บนะโว้ย”
“มึงมันปากหมาถึงว่าไม่มีใครเอา” ธัญธรยกนิ้วกลางให้เพื่อนด้วย เขาเองก็แค่ไปส่งลลิตาที่คอนโดที่เธอพักอยู่ ขึ้นไปส่งแค่สิบนาทีจะถึงสวรรค์ชั้นไหนกัน
“โด่ มึงเองก็อยากเสือกเรื่องเฮียหินเหมือนกันล่ะน่า”
“กูมีเรื่องไรให้พวกมึงเสือก แค่ไปส่งน้อง ๆ เขาแค่เนี๊ยะ”
“สาบานดิเฮียว่าไม่ได้เล็งน้องวุ้นอยู่”
“เห็นเดี๋ยวคีบกุ้ง เดี๋ยวคีบหมูให้น้องมัน แถมคีบให้กูด้วย แม่งนึกแล้วขนลุกว่ะ ผีห่าตัวไหนดลใจให้เฮียมึงเทกแคร์สาวขนาดนี้วะ”
อัคนินทร์ส่ายหน้าระอาไอ้พวกชอบจับผิด
“กูก็แค่เห็นเด็กมันเขิน ๆ กลัวจะกินไม่ทันพวกมึงแค่นั้นเอง”
แค่พูดถึง วงหน้าสวยใสกระจ่างตาก็ผุดขึ้นมาในหัว กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวเธออวลอยู่ปลายจมูก เด็กอะไรน่ากินฉิบ!
“เป็นคนดีเหลือเกิน” อนวัทย์ลากเสียงยียวนก่อนจะก้มลงแทงลูกกลม ๆ บนโต๊ะ
“ไม่เป็นคนดีจะรับเป็นติวเตอร์ให้น้อง ๆ เหรอวะไอ้นัท มึงนี่พูดไม่คิด” ธัญธรเอ่ยกลั้วขำ ขณะยืนรอให้เพื่อนเล่นพลาด “กูนี่แทบจะกราบตีนมันตอนขอให้ไปสอนที่โรงเรียนแค่วันเดียว”
“มึงพูดมาก็ดี จ่ายเงินค่าสอนกูหรือยังไอ้ธัญ”
“อ้าว ไหนมึงบอกเงินไม่ใช่ปัญหาไง”
“มึงเปลี่ยนไปใส่กระโปรงเหมือนน้องๆ เขาดิ กูจะได้ไม่ทวงไงไอ้ห่า กูทำงานต้องได้เงินสิวะ โอนมาด้วย แล้วเมื่อไหร่จะจบเกม”
อัคนินทร์สาดเหล้าลงคออีกแก้ว ไม่สนเสียงสรรเสริญจากธัญธรและไม่สนสาวสวยที่เบียดร่างกายหอมกรุ่นเข้ามาแนบชิด ครู่เดียวโทรศัพท์แจ้งเตือนเงินเข้า เขาชูแก้วให้เพื่อนเป็นการขอบคุณ ก่อนจะกระดกทีเดียวหมด จากนั้นจึงลุกจากโซฟา เดินไปที่โต๊ะ จัดการรวบลูกขึ้นมาตั้งใหม่ โดยไม่สนเสียงโวยวายของคนที่กำลังจะชนะอย่างอนวัทย์
“โอ๊ย เดิมพันกู”
“ถือว่าโมฆะไป”
“ไอ้เฮีย กูจะได้เงินเดิมพันอยู่แล้ว”
“เอาใหม่ ตาละแสน” อัคนินทร์ยักไหล่ เริ่มเปิดก่อนคนแรก “ใครจะแข่งกะกู”
“แม่ง เชื่อมันเลย” อนวัทย์ที่เพิ่งจะชวดเดิมพันบ่น เขาลงเป็นคู่แข่งอีกฝ่ายด้วยความแค้นใจ
ธัญธรกับนิพิฐพนธ์กอดคอกันหัวเราะร่วน ถูกใจที่ไม่ต้องเสียเงิน สมัครใจจิบเหล้านั่งดูโดยมีสาวสวยคลอเคล้าอยู่ใกล้
“ว่าแต่ เฮียไม่สนน้องวุ้นจริงอะ ถ้ามึงไม่สนกูจีบนะโว้ย เด็กอะไรสวยน่ารักมากเลย” อนวัทย์ถามขึ้นในช่วงหนึ่ง
“ตีนกูนี่”
คำตอบของหนุ่มรุ่นพี่ทำให้สามหนุ่มหัวเราะก๊าก
“ชอบบอกชอบเฮอะ”
“พนันกันไหม ไอ้เฮียมันจะได้แอ้มน้องวุ้นเมื่อไหร่”
“พวกมึงไม่มีอะไรจะเล่นกันหรือไง” อัคนินทร์ยกไม้คิวชี้หน้านิพิฐพนธ์ เขาแทงลูกพลาดเพราะไอ้พวกนี้มันเอาแต่พูดถึงสาวน้อยคนนั้น ทำให้เสียสมาธิ
“กูว่าน้องมันไม่สนหรอก ดูกลัว ๆ มึงด้วยนะไอ้เฮีย” อนวัทย์พูดไล่หลัง เมื่ออีกฝ่ายเดินไปนั่งจิบเหล้า

“คนเลว”“ไม่ยอมบอกไม่หยุดนะ”เธอไม่น่าถูกเขาล่อลวงเลย หลังจากถูกบังคับให้อยู่กับอัคนินทร์มาสามวัน โทรศัพท์ถูกยึดติดต่อใครไม่ได้และไม่ได้ไปทำงาน ป่านนี้เธออาจถูกขึ้นบัญชีดำแล้ว“บอกชื่อมา” อัคนินทร์เอ่ยถามเสียงนุ่มด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่เร่งรัดด้วยการพาเจ้าเหินลอยเล่นไปมาช้า ๆเชิญขวัญเม้มปากแน่น ทำท่าไม่ยอมเปิดปากชายหนุ่มหัวเราะร่วน เริ่มเพิ่มความเร็วอีกครั้ง ทิ้งตัวลง แล้วพุ่งขึ้นฟ้า ตีลังกาสามตลบ จนคนในอ้อมแขนกรี๊ดลั่นจนหูแทบแตก“บอกแล้ว ยอมแล้ว ปาลิน... ปาลิน ศุภาสิน”เธอได้แต่ร่ำร้องขอโทษรุ่นน้องเพื่อนสนิทในใจ ขืนไม่ยอมพูด เธอได้อ้วกแตกในไม่กี่วินาทีนี้แน่อัคนินทร์กระชับอ้อมกอด พาร่างนุ่มที่สั่นไปทั้งตัวหมุนร่อนลงช้า ๆ จนเท้าแตะพื้นน้ำ วางเธอลงยืน โอบกอดไว้ไม่ปล่อยกำปั้นเล็ก ๆ ระดมทุบตัวเขาไปทั่ว หน้าสวยแดงก่ำด้วยความโกรธและกลัว“คนเลว คุณมันเลวจริง ๆ ปล่อยฉันเลยนะ”“ตอนแรกใครอยากเล่น”“ใครให้เล่นผาดโผนขนาดนี้ล่ะ” ตอนเห็นเครื่องเล่นครั้งแรก เธออยากเล่นเพราะเคยเธอเห็นสาว ๆ ในคลิปวิดีโอลอยตัวสวย ๆ ไม่ใช่ตีลังกา หมุนรอบทิศจนหัวหมุนแบบนี้ชายหนุ่มหัวเราะลอดลำคอเบา ๆ ฉวยจังหวะที่ปากส
เพราะนอนไม่หลับ เชิญขวัญจึงออกมานั่งเล่นบนระเบียงริมน้ำในตอนเช้ามืด ปล่อยให้อากาศเย็น ๆ ลูบไล้ผิวกาย ถึงอากาศจะเย็นไปสักหน่อย เธอไม่คิดจะกลับเข้าห้องด้านในอีกคนที่นอนไม่หลับ เพราะเฝ้ามองเจ้าของร่างนุ่มมาตลอด เดินมาหยุดอยู่ด้านหลังคนตัวบางที่นั่งกอดเข่าเจ่าจุกอัคนินทร์สบถคำหยาบคายออกมา ก่อนกระชากร่างเล็กให้หันกลับมาเผชิญหน้า“บางทีถ้าเธอแทงฉันคืนสักแผลสองแผล อาจทำให้รู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ”มีดแหลมคมเล่มหนึ่งถูกยัดใส่มือบาง ก่อนจะถูกจับกดลงบนอกกระด้างเปล่าเปลือยเชิญขวัญตาโต จุดที่ปลายมีดปักลงคืออกด้านซ้าย เลือดสีสดซึมออกมาให้เห็น ขณะที่หัวใจเธอกระตุกวาบด้วยความสับสนและใจหายเธอพยายามสะบัดมือออกจากการจับกุม ขืนแรงเต็มที่ไม่ให้กดปลายมีดลงไปมากกว่านั้น จมูกอบอวลด้วยกลิ่นเหล้าจากลมหายใจอุ่น“คุณเป็นบ้าหรือไง”เธอสับสนทำตัวไม่ถูกเรื่องพ่อก็จริง แต่ไม่เคยคิดจะฆ่าใครอัคนินทร์หัวเราะเสียงเครียด ยอมปล่อยมือบาง เธอก็ขว้างมีดเล่มนั้นทิ้ง ระดมกำปั้นทุบตีกายแกร่งไม่เลือกที่“กี่ครั้งที่ฉันต้องช่วยชีวิตคุณไว้ แล้วคุณยังกล้ายัดเยียดให้ฉันเป็นฆาตกรอย่างนั้นเหรอ คนบ้า ไอ้บ้า เอาหัวสมองส่วนไหนคิด เลว
ที่นี่ไกลจากรชานันทร์พอสมควร“คุณไม่มีงานทำหรือไง คอยวอแวฉันอยู่ได้”อัคนินทร์ทอดสายตามองวงหน้าเนียนสวยนิ่งนาน นึกถึงรายงานที่ได้จากลูกน้อง“ผู้หญิงที่อุ้มท้องลูกเฮียตุลย์คือใคร”คำถามแรกที่เขาเปิดมาทำเอาเชิญขวัญชะงัก“ฉัน... จะไปรู้ได้ยังไง”ค่ำคืนนี้อัคนินทร์ดูเคร่งขรึมกว่าทุกวัน นัยน์ตาคมจ้องเธอเขม็ง เชิญขวัญหายใจไม่ทั่วท้องร่างสูงจะขยับเข้ามาใกล้ โน้มตัวลงเท้ามือทั้งสองกับพนักโซฟาที่หญิงสาวนั่งอยู่ กักเธอเอาไว้ในวงแขน ลมหายใจอุ่นรินรดหน้างาม ตาจ้องสบตา“เธอคงไม่อยากให้เฮียตุลย์มาเค้นเรื่องนี้เองหรอกใช้มั้ยวุ้น” เขาเองก็ไม่อยาก ทางที่ดีสุดคือ เค้นเธอด้วยตัวเอง“เธอไม่แปลกใจเลยนะ ตอนฉันถามเรื่องลูกเฮียตุลย์ นั่นก็ยืนยันได้ว่า เธอเป็นหนึ่งคนที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ นอกจากไอ้เตกับอาจารย์หมอที่ตายไปแล้ว”เชิญขวัญเมินหลบแววตาคมกริบที่เหมือนจะมองทะลุไปถึงหัวใจเธอได้“ตอนนั้นเธอเป็นนักศึกษาแพทย์ฝึกงานนี่นะใช่มั้ย”“ถ้ารู้ดีขนาดนั้น จะมาคาดคั้นฉันทำไม ทำไมไม่ไปถามคุณเตโชล่ะ”“ฉันชอบคาดคั้นเธอมากกว่า”หน้าคมก็โน้มลงใกล้อีก ปลายจมูกโด่งสวยคลอเคลียแก้มนุ่ม “ฉันให้เวลาเธอสามวัน หวังว่าฉันจะได้ค
ทว่า เธอคิดผิด เมื่ออีกฝ่ายตักเข้าปากอย่างไม่เดือดร้อน มิหนำซ้ำดูท่าเอร็ดอร่อยเสียอีก“ส้มตำเผ็ด ๆ ทำให้ตาสว่างดีเหมือนกัน”เชิญขวัญเบ้ปาก และลงมือกินบ้างโดยไม่รักษาภาพลักษณ์อะไรทั้งนั้นอัคนินทร์อมยิ้มกับท่าทางเหมือนเด็กโดนขัดใจของเธอ รู้เต็มอกว่าเธออยากแกล้งแต่เขาก็ยอม จริงอยู่ว่าอาหารพวกนี้ไม่ค่อยได้กินแต่ใช่ว่าเขาจะกินไม่ได้ชายหนุ่มหยิบทิชชูยื่นไปเช็ดมุมปากสวยเมื่อเห็นว่ามีเม็ดข้าวติดอยู่“กินเลอะเป็นเด็ก”“ฉันยังเด็กอยู่นี่”“จริงเหรอ”สายตาชนิดหนึ่งที่มองมาทำให้เชิญขวัญหน้าร้อน เธอถลึงตาใส่ ตัดสินใจเอ่ยถามสิ่งที่ค้างคาใจ“คุณจะวุ่นวายกับฉันไปถึงเมื่อไหร่”“วุ้น” อัคนินทร์หยิบไก่ทอดที่ฉีกเอาแต่เนื้อไปวางบนจานหญิงสาว “แทนตัวเองว่าวุ้นสิ น่ารักดี”“กรุณาตอบให้ตรงคำถามด้วย”เธออยากรู้ว่าเขาจะวอแวเธอไปถึงเมื่อไหร่ จู่ ๆ ก็เข้ามาข่มขู่บังคับ ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเมื่อท่าทางสาวเจ้าเอาจริงเอาจัง อัคนินทร์ยื่นมือไปเกลี่ยเส้นผมที่ถูกลมพัดมาระหน้าสวยออก มองสบตากันตรง ๆ“ไม่รู้สิ ตอนนี้ยังไม่คิด”ได้ยินคำตอบ เชิญขวัญก็อยากตะกุยหน้าหล่อ ๆ ให้ลายพร้อยนัก อีกฝ่ายยังอุตส่าห์โน้มหน้าเข้ามาพ
“เรื่องคืนบรรลัยนั่นทำกูเหนื่อยแทบอ้วก หยุดสักเดือนยังน้อยไปเลยเฮีย”ตุลายอมให้ อคิน กันต์กลทีย์ มือหนึ่งด้านการขุดค้นความลับของใครต่อใครปล่อยข้อมูลส่วนตัวออกสู่ตลาดมืดก็เพื่อล่อพวกมดปลวกที่จ้องกัดแทะเขามาตลอดให้เผยตัว พวกมันรวบรวมสมัครนักฆ่ามาเพื่อกำจัดเขาที่บ้านพักหรูหราริมทะเลสาบ นั่นคือคืนแดงเดือดที่อัคนินทร์พูดถึง มีคนตายนับร้อยทั้งฝ่ายนั้นและฝ่ายของพวกเขา และแผนการนั้น กลับทำให้ความลับหนึ่งเผยออกมา เรื่องเกี่ยวกับสายเลือดของตุลาที่เกิดจากการทำกิฟต์ ซึ่งเป็นเรื่องเดียวที่อคินสืบไม่ได้ ไม่มีข้อมูลว่าใครคือแม่ของเด็ก ตุลามีความสงสัยว่าเด็กคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ เจ้านายและพี่ชายบุญธรรมของเขาจึงร้อนใจบุกไปหาคนที่รับผิดชอบ นั่นก็คือเตโชเขาคงไม่ยอมโผล่หัวมาหาอีกฝ่าย ถ้าวุ้นแสนหวานจะไม่หลบหนีออกมาทำงานทั้งที่เขายังกักตัวเธอไว้ไม่ครบอาทิตย์เก่งกล้าขนาดนั้น เขาน่าจะจัดหนักจนเธอลุกจากเตียงไม่ไหวให้รู้แล้วรู้รอดไป“อย่างมึงนะจะหยุดสักเดือน แค่สามวันมึงก็คันมือคันตีนออกไปวิ่งไล่เชือดคนเล่นแล้ว กูยังแปลกใจทำไมคราวนี้มึงหายหัวไปเกือบอาทิตย์ได้”อัคนินทร์ไม่ตอบ เขาเป็นแบบนั้นจริง ตลอดหลายปีมานี
กำปั้นเล็ก ๆ เหวี่ยงจะฟาดอกกว้าง อัคนินทร์จับไว้ทัน เธอยกอีกมือมาจะตี เขาก็จับไว้ กดลงกับที่นอนเหนือศีรษะเล็ก ยิ้มเยือนชั่วร้าย“จำได้ไหม ฉันเคยบอกเธอไว้ว่าไง”“อะไร”“เมื่อไหร่ที่ฉันกลับมาทวงเธอคืน ฉันจะขังเธอไว้ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน”ใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ไม่คิดว่าอัคนินทร์จะจำเรื่องนั้นได้ เธอขึงตาวาววับ กลับได้รอยยิ้มยียวนเจ้าเล่ห์ร้าย“อยากร้ายแล้วเหรอ” คำถามเจือความรื่นรมย์ ตาคมเปล่งประกายร้อนแรง “ได้สิ แสดงความร้ายกาจได้เต็มที่เลยนะ แม่มดน้อย”แล้วเชิญขวัญก็ต้องอุทาน เมื่อถูกพลิกตัวขึ้นคร่อมทับร่างหนาอย่างรวดเร็ว สองมือถูกรั้งขึ้นไปเหนือหัวเขา ยึดไว้ด้วยมือแกร่งข้างหนึ่ง คนใต้ร่างก็หยัดสะโพกขึ้นส่งความเข้มขึงที่เริ่มเหยียดขยายซุกไซ้ซอกขาเธอ เธอสยิวซ่าน ยกสะโพกหนีทันที“ไม่!” เธอจะไม่ยอมอัคนินทร์หัวเราะร่วนตาพราว จับเอวบางดึงลงต่ำกระทั่งปลายความเป็นชายจดจ่อรวงช่อแสนหวาน ผลักดันความแข็งขึงสอดแทรกสู่กายงามทันทีเชิญขวัญเบิกตาโต เสียววาบที่นวลช่อ ปั่นป่วนในช่องท้อง ช่อสาวปริตึงเต็มแน่น เธอยังคิดจะเด้งร่างหนี แต่ถูกจับแน่น อัคนินทร์ชันท่อนขาแกร่งขึ้น แล้วขยับสะโพกขึ้นบดเบียดกร








