เช้าวันต่อมา...
ไทเกอร์ขยี้ตาตื่นขึ้นมาก็พบกับความว่างเปล่า หันซ้ายแลขวาก็ไม่มีแม้แต่เงาของหญิงสาว ตอนนี้เป็นเวลา 10 โมงกว่าแล้ว ซึ่งเขานัดเพื่อนไว้ในเวลา 9:00 น. แต่ก็ช่างเหอะคนมันง่วงนี่นา ส่วนเพนตี้เธอก็น่าจะไปเรียนแล้วแหละเพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาไปตี 2 กว่า มันน่าจับลงโทษซะให้เข็ดถ้าไม่ติดว่าเกรงใจแล้วก็นะ หึหึ
เขาขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงนอน หยิบผ้าเช็ดตัวจากนั้นก็เข้าไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาให้สะอาดสดชื่น ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีก็ทำธุระทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย หยิบกระเป๋ากุญแจรถออกจากคอนโดเพื่อไปขึ้นรถตรงลานจอด วันนี้เขามีเรียนในช่วงบ่าย แต่ที่ไปเช้าก็ไปนั่งเฝ้าคนรักก่อน เพราะยังไงเธอก็ต้องมากินข้าวที่ตึกวิศวะ และแน่นอนว่ายัยแว่นตัวดีเป็นคนพามานั่นเอง
ตู้ดดดดดด
โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น ใช้มือควานหาโทรศัพท์ซึ่งเขาวางไว้ตรงเกะข้าง ๆ หาสักพักก็เจอ และตอนนี้รถจอดติดไฟแดงพอดีเขาจึงกดรับสายก่อน
"มีไรวะ"
(ไอ้ไทเกอร์มึงอยู่ไหน พวกกูอยู่โรงอาหารใต้ตึกเนี่ย)
"เออกูจะถึงแล้ว"
(เค! ช้าฉิบหายเลยมึงอะ กูจะให้มึงดูโปรเจคให้หน่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ)
เขากดวางสายก่อนจะเร่งรีบขับออกไปทันที และเพียงไม่นานก็มาถึงหน้าตึกวิศวะ ขับรถเข้าไปจอดตรงลานจอดก่อนจะรีบตรงไปยังโรงอาหาร
"ไงมึง ช้าสัส ไหนนัดกูไว้ 9:00 น. เก้าโมงพ่องมึงสินี่มัน 11 โมงแล้ว"
ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะขยับตัวนั่งลง ยักไหล่ไม่ได้แคร์ที่เพื่อนด่าแม้แต่น้อย
"เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อยก็เลยตื่นสาย ไหนเอางานมึงมาดูดิ"
ปอร์เช่เบ้ปากใส่ก่อนจะยื่นไอแพดไปให้เขาดู ไทเกอร์รับมาถือไว้ในมือก่อนจะเลื่อนดู
"ไหน ๆ มึงก็ว่างแล้วไปซื้อข้าวให้กูหน่อยสิ"
"มาสายไม่พอใช้กูไปอี๊ก ดีนะมึงเนี่ย"
ไทเกอร์ได้ยินแบบนั้นก็ยักคิ้วใส่เพื่อนอย่างกวนประสาท ใครให้มาใช้งานเขาล่ะก็ต้องแลกเปลี่ยนกันหน่อย
"ขอบคุณมากเพื่อนรัก ข้าวมันไก่ไม่เอาหนังพิเศษด้วยเมื่อคืนกูใช้แรงเยอะไปหน่อย"
ปอร์เช่ทำหน้าอารมณ์เสียก่อนจะเดินออกไปทำตามที่เพื่อนร้องขอ พอดีว่าเขาเป็นคนเรียนเก่งและฉลาด เพื่อนก็ต้องง้อเป็นธรรมดาแหละ
เขาละสายตาจากไอแพดเงยหน้าขึ้นก็เจอกับเพนตี้ ซึ่งตอนนี้เธอกำลังนั่งดูดน้ำอยู่กับเพื่อนซึ่งก็คือยัยแว่น ส่วนไอ้ปอร์เช่ตอนนี้กำลังคบกับยัยแว่นอยู่ ก็มันอยากได้เบอร์น้องมะปรางไง เขาก็เลยให้ข้อแลกเปลี่ยนมันนิดหน่อย เอาจริงนะเขาเห็นหม้อแกงแอบชอบไอ้ปอร์เช่มาตั้งแต่ปี 1 เขาก็เห็นมาตลอดแหละ เห็นใจยัยนั่นก็เลยยุให้ไอ้ปอเช่จีบ ไอ้บ้านี่ก็บ้าจี้เล่นด้วยซะงั้น ก็เลยช่วยไม่ได้แหละ
"พี่ไทเกอร์จ๋าคิดถึงจังเลยค่ะ ไม่ไปหาจ๋าบ้างเลยจะงอนแล้วนะ"
นั่นไงงานเข้าอีกแล้ว เอาจริงเขาไม่ได้ยุ่งกับผู้หญิงหน้าไหนทั้งนั้นเลยนานพอสมควรเลย ตั้งแต่ที่จีบเพนตี้เขาแทบไม่ยุ่งกับใครเลย แล้วตอนนี้เพนตี้ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามจ้องมองมาทางเขาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ เอ๊ะ! หรือว่าเธอเริ่มหึงเขากันนะ
"คือพี่ไม่ค่อยว่างน่ะ อีกอย่างที่มีผู้หญิงที่รักและอยากจะแต่งงานด้วยแล้ว พี่เลิกเจ้าชู้แล้วครับ"
เขาตะโกนเสียงดังให้ได้ยินทั่วทั้งโรงอาหาร รวมถึงผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วย และเมื่อพูดจบก็เหลือบสายตาหันไปมองเพนตี้ที่ตอนนี้ยิ้มออกมาหน้าแดงก่ำ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำหน้าเหมือนนางยักษ์จะกินเลือดเขาอยู่แล้ว
"คนอย่างพี่ไทเกอร์เนี่ยนะคะจะจริงใจกับใคร จะไม่เชื่อหรอกค่ะ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครคะ"
เขาอมยิ้มกรุ้มกริ่มกว่าจะหันไปมองเมียลับ ๆ ที่เธอยังไม่ต้องการเปิดเผย
"บอกไม่ได้เป็นความลับ แต่จ๋ารู้ไว้แค่ว่าพี่รักเธอมากและจะมั่นคงกับคนนั้นคนเดียว"
และเมื่อจบประโยคคำพูดของเขา ผู้หญิงที่นั่งฝั่งตรงข้ามก็สำลักน้ำทันทีจนเขาถึงกับหลุดขำออกมา สงสัยจะได้ยินชัดเลยสินะ ก็ดีเพราะเขากำลังแสดงความบริสุทธิ์อยู่
"ถ้าไม่บอกชื่องั้นสาก็ไม่เชื่อ งั้นเอาแบบนี้แล้วกันนะคะพี่ไทเกอร์"
จู่ ๆ จ๋าก็ขยับตัวลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะเอามือมาวางบนไหล่ของเขา จากนั้นก็โน้มใบหน้าเข้ามากระซิบข้างหู
"ถ้าเกิดว่าผู้หญิงคนนั้นลีลาไม่เด็ด มาหาจ๋านะคะ จ๋าว่างเสมอสำหรับพี่ไทเกอร์"
พูดจบก็หัวเราะออกมาในลำคอก่อนจะเดินออกไปทันที เล่นเอาเขากลืนน้ำลายดังอึก น้องจ๋านี่ตัวท็อปเลยนะเว้ย แม่ง! เฮ้ย! ไม่ได้ดิเขามีเมียแล้วนะ เพนตี้ เพนตี้ เพนตี้ จะต้องท่องชื่อนี้ไว้ให้ขึ้นใจ ตอนนี้เขาเป็นคนดีรักเมียคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะมีผู้หญิงคนไหนเข้ามาเขาก็จะไม่ว่อกแว่ก เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็เงยหน้าขึ้นไปสบตากับเพนตี้ ซึ่งตอนนี้เธอจ้องมองมาทางเขาตาขวาง ก็ลืมไปว่าเธออยู่ตรงนี้ เชี่ยแล้วไง! จะโดนโกรธไหมเนี่ย ถ้าคิดได้แบบนั้นก็รีบกดเข้าไปยังข้อความแชท
ไทเกอร์ : เพนจ๋ามันไม่มีอะไรทั้งนั้นเลยนะจ๊ะ แฮะ!
เพนตี้ : ร้อนตัว
ไทเกอร์ : เปล๊า! เปล่าน้า
เพนตี้ : เรื่องของนาย!
ไทเกอร์ : ชิ~ แสดงอารมณ์บ้างก็ได้นะ หึง หวง ก็แสดงออกมาเถอะ อย่างน้อยจะได้ดีใจ
ทางด้านของเพนตี้วันนี้เธอมากินข้าวที่ตึกวิศวะ เอาตามความจริงก็คือมาทุกวันเพราะยัยเพื่อนตัวดีเนี่ยแหละ หลงผู้ชายตามมามองหน้าเขาทุกวัน ตั้งแต่แอบชอบจนตอนนี้ได้คบกันแล้ว แต่เธอแปลกใจอยู่อย่างหนึ่งว่าจู่ ๆ ปอร์เช่ก็เปลี่ยนใจมาจีบเพื่อนเธอซะอย่างนั้น ทั้งที่อุตส่าห์แอบชอบมาตั้งแต่ปี 1 จะว่ามันแปลกอยู่นะ หรือว่าเธออาจจะคิดมากไปเอง
"แว่นฉันไปก่อนนะคืนนี้จะไลน์หา"
เพนตี้เท้าคางมองหน้าเพื่อนที่ตอนนี้ดูอินเลิฟสุด ๆ
"ฉันดีใจนะที่แกมีความสุข ขอให้มันรักแกจริง ๆ นะหม้อแกง"
ประโยคถัดมาเธอเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา กลัวเหลือเกินว่าหมอนั่นจะมีแผนการอะไรบางอย่าง แต่ถ้าเพื่อนมีความสุขเธอก็โอเค
"ขอบใจแกมากนะ ถ้างั้นเราไปเรียนกันเถอะจะได้กลับบ้านกัน"
"อืม"
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เดินทางออกจากโรงอาหารของตึกวิศวะ ลงไปยังตึกคณะมนุษยศาสตร์เพื่อเข้าเรียนในช่วงบ่าย...
และในที่สุดงานมงคลก็มาถึง เป็นงานแต่งงานระหว่างไทเกอร์และเพนตี้ ส่วนคู่ของหนูนิดและเพนเฮาส์จะแต่งงานทันทีหลังจากที่ฝ่ายหญิงเรียนจบ ครอบครัวสุขสันต์ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลอีกในตอนนี้เจ้าบ่าวกำลังนั่งรอเจ้าสาวอยู่ในห้องที่ทางออแกไนซ์จัดไว้ให้ และฤกษ์มงคลเวลา 9:09 น. จะมีพิธีสวมแหวนแต่งงานระหว่างทั้งคู่ ซึ่งตอนนี้เจ้าสาวก็เดินเข้ามากับเพื่อนอีกคนซึ่งก็คือหม้อแกง"สวยมาก!""เจ้าสาวสวยมาก!"ทุกคนร้องว้าวออกมาด้วยความตื่นเต้น เจ้าสาวดูมีน้ำมีนวลสวยงามที่สุด ภายในงานนี้ไม่มีใครที่โดดเด่นไปกว่าเธออีกแล้ว ช่างกล้องรัวชัตเตอร์กันอย่างเพลิดเพลิน หม้อแกงพาเพื่อนสนิทไปนั่งตรงที่ทางออแกไนซ์จัดเตรียมไว้ ก่อนจะเดินออกมาหาชายคนรักที่ยืนอยู่ไม่ห่าง"เพนสวยจังเลยค่ะ"และเมื่อหญิงสาวมานั่งลงตรงหน้า ชายหนุ่มก็เอ่ยชมไม่หยุด ตัวเธอเองก็รู้สึกเขินไม่น้อย ตลอดทางที่เดินเข้ามามีแต่เสียงซุบซิบพูดคุยกันว่าเธอดูสวยเหมือนเจ้าหญิง"ไทเกอร์ก็หล่อเหมือนกันนะ""แน่นอนอยู่แล้ว นี่ใครไทเกอร์เลยนะ"ทั้งสองคนจ้องมองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข บรรยากาศตลบอบอวนไปด้วยความอบอุ่น เจ้าบ่าวสวมแหวนเพชร 15 กะรัตให้คนรักบนน
เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที พยาบาลก็ถือชาร์จอะลูมิเนียมเดินเข้ามาหาคุณหมอพร้อมจะยื่นมาให้เขาตรงหน้า"ผลการตรวจออกมาเรียบร้อยแล้วค่ะ""เป็นยังไงบ้างครับหมอ"ไทเกอร์ลุ้นเป็นอย่างมาก เขากำมือคนรักของตัวเองไว้แน่น รอดูว่าผลการตรวจจะเป็นไปอย่างที่คาดหวังหรือเปล่า เอาจริงตื่นเต้นมากเลยนะ เขาอยากมีลูกกับเพนตี้ใจจะขาด ครอบครัวอบอุ่นสมบูรณ์ดีที่สุดในชีวิตเลย"ผลการตรวจออกมาแล้วนะครับ คุณเพนตี้กำลังตั้งครรภ์ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ"และเมื่อผลการตรวจออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ ไทเกอร์และคุณแม่ก็ลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นก่อนจะสวมกอดกันด้วยความดีใจเป็นอย่างมาก ส่วนคนที่ท้องก็จ้องมองไปยังทั้งสองคนก่อนจะส่ายหน้ายิ้ม ๆ"เย้! เมียผมท้องแล้วครับแม่ เพนตี้ท้องแล้วโว้ยยยย"หญิงสาวหัวเราะขำ ๆ กับท่าทีของชายคนรัก เล่นใหญ่ทั้งแม่และลูกเลย สงสัยจะอยากมีหลานมากจริง ๆ"ถ้าอย่างนั้นเรารีบเดินทางไปที่เชียงรายเถอะ ไปสู่ขอหนูเพนตี้กัน ถ้าเกิดว่าทางนั้นรู้ว่ากำลังท้องต้องตื่นเต้นมากแน่เลย""รีบไปกันเถอะครับแม่ ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะครับเอาไว้เดี๋ยวผมจะพาภรรยามาฝากครรภ์ที่นี่""ยินดีมากเลยครับ เดี๋ยวหมอให้ยาบำรุงไปก่อน ถ้าพร้อม
ในตอนนี้เพนเฮาส์ได้กลับมาจากโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดินทางไปเจอกับครอบครัวของหนูนิด และแอบบอกว่าเป็นเพื่อนรักของไทเกอร์ จึงทำให้ครอบครัวของหนูนิดไว้ใจ เพราะเป็นเพื่อนรักของหลานชาย แถมเขายังโทรมายืนยันว่าเพนเฮาส์เป็นคนดี เรื่องราวจึงจบลงอย่างง่ายดายส่วนไทเกอร์เขาเปลี่ยนวันหยุดมาให้ตรงกับวันหยุดของเพนตี้ และวันนี้เขาพาคนรักมากินบุฟเฟ่ต์ทะเลพรีเมี่ยมตามที่สัญญาเอาไว้ ว่าแต่บุฟเฟ่ต์บ้าอะไรก็ไม่รู้ราคาหัวละตั้ง 4,990 บาท กินแล้วมันลอยได้หรือยังไง"เมียจ๋ากินเยอะ ๆ เลยนะ"เขานั่งแกะกุ้งล็อบสเตอร์ให้กับเพนตี้ เอาอกเอาใจสารพัด และตอนนี้เธอกินไปแล้วสองตัว ขนาดตัวโคตรใหญ่ยังงงเลยว่ากินไปได้ยังไง"ทำไมเกอร์ไม่กินล่ะ""เห็นที่รักกินก็อิ่มแล้วช่วงนี้ดูอุดมสมบูรณ์นะเรา มีน้ำมีนวลขึ้นเยอะเลย"หญิงสาววางกุ้งล็อบสเตอร์ลงก่อนจะจ้องมองไปยังชายหนุ่มด้วยใบหน้าหงุดหงิด"เกอร์กำลังบอกว่าเพนอ้วนเหรอ"หญิงสาวเท้าสะเอวจ้องหน้าคนรักอย่างเอาเรื่อง กล้าดียังไงมาบอกว่าเธอดูอุดมสมบูรณ์ ทั้งที่ความหมายคือการบอกว่าเธออ้วน ไทเกอร์ได้ยินแบบนั้นก็รีบปฏิเสธพัลวัน"ไม่ใช่ หมายถึงว่าเมียจ๋าสวยขึ้นไงจ๊ะ อึ๋มขึ้นด้วย
ทางด้านของเพนเฮาส์เขาเพิ่งจะได้สติ ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า เมื่อเห็นใบหน้าของคนรักอยู่ตรงหน้าก็ตกใจรีบขยับตัวลุกขึ้นจนตัวเองเจ็บตัวรีบกุมขมับเพราะรู้สึกปวดหัว หนูนิดเห็นแบบนั้นก็ตกใจ รีบขยับตัวลุกขึ้นประคองชายหนุ่มเอาไว้ก่อนจะเอ็ดเขาเสียงไม่ดังมากนัก"อย่าเพิ่งลุกสิคะเดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก""หนูนิดให้อภัยพี่แล้วใช่ไหม แล้วตอนนี้พี่อยู่ที่ไหน"เขากุมขมับตัวเองเอาไว้ หันไปมองโดยรอบด้วยความมึนงง ก่อนหน้านี้จำได้ว่าตัวเองอยู่ที่คอนโด ดื่มเหล้าเมาทั้งวันทั้งคืน ตอนนั้นกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ว่าหลังจากนั้นก็ภาพตัดไปเลย"อยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ พี่ไทเกอร์บอกว่าพี่เพนเฮาส์จะได้ผ่าตัด แต่ดูจากสภาพในตอนนี้... อย่าบอกนะคะว่าพี่ทั้งสองคนโกหกหนูนิด"ตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่ากำลังโดนหลอกอยู่ เพราะสภาพของคุณที่จะเข้าห้องผ่าตัดไม่น่าจะเป็นแบบนี้ เธอเตรียมจะลุกขึ้นออกไปแต่ทว่าชายหนุ่มก็ดึงรั้งตัวเข้าหาก่อนจะโอบก่อนเอาไว้แน่น"อย่าทิ้งพี่ไปเลยนะ พี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีหนูนิด""แล้วทำไมพี่ถึงทิ้งหนูนิดได้ละคะ"หญิงสาวเอ่ยถามกลับไปซึ่งทำเอาชายหนุ่มอึ้งไปไม่น้อยเหมือนกัน ตัวเองยังทิ้งไปโดยไม่สนใจไยดี ทีแบ
ทั้งสองคนเห็นประตูถูกเปิดออกและมีคุณหมอเดินออกมาพร้อมกับพยาบาล ก็รีบขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งเข้าไปหาทันที"หมอคะ พี่ชายหนูเป็นยังไงบ้างคะ"เธอเอ่ยถามคุณหมอเสียงสั่น ไทเกอร์กุมมือคนรักเอาไว้ หันมามองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาให้กำลังใจกันและกัน"ตอนนี้ไม่เป็นอะไรมากแล้วครับ คนไข้พักผ่อนน้อยร่างกายอ่อนแรงมาก จนหกล้มหัวหัวแตกตอนนี้หมอทำแผลให้เรียบร้อยแล้วไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง"เธอได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอที่ช่วยเหลือพี่ชายของเธอ"ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ"คุณหมอยิ้มให้กับทั้งสองคนก่อนจะเดินออกไปทันที เขาเหลือบสายตามองคนรักก่อนจะส่งยิ้มไปให้"ไม่ร้องแล้วนะ""อื้ม ขอบคุณนะคะที่ช่วยพาพี่เพนเฮาส์มาส่งโรงพยาบาล"เขาอมยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจากกุมมือพาเธอเดินออกไปจากหน้าห้องฉุกเฉิน เดี๋ยวอีกสักพักพยาบาลน่าจะพาเพนเฮาส์ขึ้นไปยังห้อง VIP"ก็พี่เขยนี่นาต้องช่วยอยู่แล้ว"หญิงสาวหันหลังกลับไปมองยังประตูห้องฉุกเฉิน ก่อนจะทำหน้าเศร้าหมองเพราะรู้สึกสงสารพี่ชาย"หนูนิดก็ใจแข็งจริง ๆ เลย ไม่รู้จะช่วยพี่เพนเฮาส์ยังไงแล้ว"ไทเกอร์กินมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะหยิบโทรศัพท์
ในเวลานี้เขาไม่รู้จะทำยังไงต่อก็เลยคิดว่าออกไปหาหญิงสาวในตอนนี้เลยจะดีกว่า อยู่กับแม่เดี๋ยวก็ได้ทะเลาะกันอีก เรื่องเก่าตั้งนานมาแล้วขุดมาพูดอยู่ได้ ทั้งแม่ทั้งเพื่อนเลย เฮ้อ"ถ้างั้นผมไปหาเพนนะครับ""เหมือนว่าหนูเพนตี้จะออกไปพื้นที่กับไกด์นะลูก"เขาที่กำลังจะเดินออกไปต้องหยุดชะงัก แล้วหันกลับมามองใบหน้าของคุณแม่ด้วยความสงสัย"ทำไมถึงให้เพนตี้ออกพื้นที่ครับ""ก็หนูเพนตี้ขอแม่ออกไปเองจะห้ามได้ยังไงล่ะ"คุณแม่พิงโซฟาก่อนจะหันมามองใบหน้าของลูกชายพร้อมกับยิ้มออกมา เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะไปตามตัวที่ไหนก็เลยคิดว่าการอยู่กับแม่น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด"งั้นผมรอตรงนี้ก็ได้""ตามสบายจ้ะ"สามชั่วโมงต่อมา...เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานของคุณแม่ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นขยี้ตาของตัวเองก่อนจะลืมตาขึ้นมองว่าใครกำลังเข้ามา อากาศมันเย็นไปหน่อยก็เลยเผลอหลับไป และเมื่อเขาเห็นประตูถูกเปิดออกก็ยิ้มออกมาทันทีเมื่อเห็นใบหน้าของคนรักกำลังเดินเข้ามา"น้าลีเรียกหนูเหรอคะ""จ๊ะ มีคนมาหาน่ะ"เขาเห็นคนรักก็รีบขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งไปสวมกอดเธอทันทีด้วยความคิดถึง"ทำไมไม่รับโทรศัพท์เกอร์ ทักไลน์ไปก็ไม่ตอบ คอนโดก็