แชร์

ห้องที่ถูกรื้อค้น

ผู้เขียน: ซินโฟร์เน่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-03 09:50:50

“เรื่องนั้น เรียบร้อยใช่ไหม”

เดย์ดึงรั้งไนท์เอาไว้ ก่อนจะกระซิบถามเบา ๆ ปล่อยให้แสงเหนือเดินนำเข้าร้านอาหารไป

“เอ่อ วันนี้อาจจะคีบไม่ได้ตุ๊กตา แต่กูกับมึงได้แสงเหนือกลับคอนโดแน่ ๆ”

            เสียงหัวเราะแสนเจ้าเล่ห์ของทั้งคู่ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา พร้อมกับหัวใจที่กำลังเต้นระรัว มันเต็มไปด้วยความคาดหวัง ราวกับการรอคอยที่ยืดเยื้อมานานกำลังจะสิ้นสุดลง

หลังจากมื้อเย็นจบลง ทั้งสามเดินกลับมาที่ลานจอดรถ เพื่อพาแสงเหนือกลับไปส่งที่หอพัก โดยมีไนท์เป็นคนขับและมีแสงเหนือนั่งอยู่ที่เบาะหลังเหมือนเคย เสียงเพลงดังคลอเบา ๆ จากในรถทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นและผ่อนคลายมากขึ้น

“วันนี้สนุกมากเลยค่ะ แล้วก็ขอบคุณสำหรับหนังสือนะคะ”

แสงเหนือยังคงพูดเจื้อยแจ้วเสียงใส พลางเอนหลังพิงเบาะอย่างผ่อนคลาย ดวงตากลมใสยังเจือแววความสนุกสดใส จากตอนเล่นตู้คีบตุ๊กตาไม่จางหาย

“เสียดายที่พวกพี่คีบตุ๊กตาให้เหนือไม่ได้ แต่ครั้งหน้าพี่จะไม่พลาดเลยสัญญา”

เดย์เอ่ยเสียงนิ่ง พร้อมยกยิ้มที่มุมปากอย่างมั่นใจ เพราะเขาได้แอดไลน์เจ้าของตู้เพื่อสั่งตู้คีบตุ๊กตามาส่งที่คอนโดไว้เรียบร้อย ครั้งหน้าเขาจะต้องฝึกมือ แล้วพาคนตัวเล็กกลับไปคีบตุ๊กตาด้วยกันอีกครั้ง ถึงตอนนั้นเขาจะต้องคีบตุ๊กตาได้แน่นอน

เสียงเครื่องยนต์ดับลง พร้อมรถหรูสีดำเคลื่อนตัวมาจอดสนิทตรงลานหน้าหอพักเล็ก ๆ ที่มีผู้คนไม่ค่อยพลุ่งพล่านมากนัก

“ถึงแล้วค่ะ เหนือไปก่อนนะคะ”

แสงเหนือพูดบอกกับทั้งสองคนพลางหันไปยิ้มให้ ดวงตากลมโตทอประกายระยิบระยับจนคนมองแทบละสายตาไม่ได้

“เดี๋ยวพี่กับไอ้ไนท์ขึ้นไปส่ง” เดย์พูดเสียงเรียบแต่แฝงน้ำหนักของความห่วงใย

“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจแย่แล้ว”

“หนังสือตั้งเยอะ จะขนขึ้นไปคนเดียวได้ยังไง ขึ้นไปด้วยเถอะ ดึกแล้วมันไม่ปลอดภัย”

ไนท์ที่นั่งอยู่ด้านหลังพวงมาลัยเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ แต่มั่นคงบ่งบอกว่าเขาจริงจังและไม่ยอมให้เธอขึ้นไปคนเดียวเพียงลำพัง ทำเอาหญิงสาวชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างยอมจำนน เพราะมันก็จริงอย่างที่คนตัวโตบอก เธอไม่มีทางยกหนังสือทั้งหมดนี้ด้วยตัวเดียวได้แน่นอน

“ก็ได้ค่ะ”

ทั้งสามคนเดินเคียงกัน เข้าไปในอาคารสีขาว เสียงรองเท้ากระทบพื้นดังสะท้อน ไปตามทางเดินที่สว่างด้วยหลอดไฟนีออน แสงเหนือเดินนำหน้าพวกเขาเล็กน้อย ปล่อยให้สองแฝดตามมาด้านหลังในระยะไม่ห่างกันมากนัก

เดย์และไนท์เดินต่อไปเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร สายตาคมทอดมองแผ่นหลังบางตรงหน้าลุ้นระทึก ยิ่งเข้าใกล้ประตูห้องพักของเธอมากเท่าไหร่ หัวใจของพวกเขาก็บีบรัดตัวด้วยความตื่นเต้น กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

เสียงสแกนคีย์การ์ดดังขึ้นก่อนประตูจะถูกเปิดออก เผยให้เห็นห้องที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมสะอาด อ่อนโยนไม่ต่างจากกลิ่นกายของเจ้าของห้อง

“เอ๊ะ?”

เรียวคิ้วบางขมวดเข้าหากันด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดใจ เพราะประตูห้องที่ควรจะปิดล็อกเอาไว้ มันกลับไม่ได้ปิดสนิทอย่างที่มันควรจะเป็น

แสงเหนือเดินเข้าไปในห้องช้า ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสำรวจไปรอบ ๆ ห้องทุกอย่างในห้องที่เคยเป็นระเบียบเรียบร้อยกลับถูกรื้อค้นจนข้าวของกระจัดกระจาย จนกระทั่งปลายเท้าเผลอเตะเข้ากับบางสิ่งที่กลิ้งอยู่กับพื้น

ลิ้นชักโต๊ะทำงานเปิดออก เอกสารกองเกลือนเต็มพื้น ผ้าคลุมเตียงถูกดึงออกจนยับยู่ยี่ แม้แต่ประตูตู้เสื้อผ้าก็แง้มออกเหมือนมีใครเพิ่งเข้ามาค้นหาอะไรบางอย่าง

“พะ…พี่เดย์…พะ...พี่ไนท์”

เสียงลมหายใจของเธอเริ่มติดขัด เนื้อตัวสั่นไหวด้วยความรู้สึกหวาดกลัว จนเสียงร้องเรียกสั่นเครือ ฟังแทบไม่เป็นภาษา คนตัวโตทั้งสองคนที่อุ้มกล่องลังรีบเดินเข้ามาหาทันที

“เหนือ?”

ไนท์มองแสงเหนือยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าซีดเผือด ดวงตากลมโตสั่นระริกด้วยความตกใจและหวาดกลัว หยาดน้ำตาเอ่อคลอเต็มใบหน้า

“ชะ ช่วยด้วยค่ะ มีคนเข้ามา มีโจรเข้าห้องเหนือ”

ร่างสูงไม่รอช้า วงแขนแกร่งดึงโอบรวบร่างบางมาไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะกวาดตามองทั่วห้องทันที แล้วส่งต่อคนตัวเล็กให้เดย์ดูแล

“หนูไปอยู่กับไอ้เดย์ก่อน พี่จะจัดการตรงนี้เอง”

“มึงไปเหอะ กูอยู่เหนือเอง”

ไนท์ส่งยิ้มบาง ๆ ให้กับคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดของเดย์อย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินสำรวจพื้นที่รอบ ๆ ห้อง มือหนาของไนท์เอื้อมไปแตะขอบประตูตู้เสื้อผ้าใบเล็กสีน้ำตาลที่ถูกเปิดออก

สิ่งที่วางกองตรงหน้าทำเอาเขานึกโมโห ที่คนพวกนั้นรื้อค้นจนชุดชั้นในลายลูกไม้หลากสีของแสงเหนือออกกองอยู่ตรงหน้า สองมือกำหมัดแน่น สูดลมหายใจเข้าไปจนสุดปอดแล้วถอนหายใจออกมาช้า ๆ อย่างใจเย็น เพื่อระงับอารณ์และความโกรธ

แต่เขาก็พูดอะไรออกมาไม่ได้ นอกจากข่มความไม่พอใจเอาไว้แล้วแสร้งเดินสำรวจทุกอย่างภายในห้องต่อไป

“พวกมันไปแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว”

เขาพูดเสียงเรียบแต่หนักแน่น ก่อนจะปรายตามองฝาแฝดของตัวเองเพื่อส่งสัญญาณบอกให้รู้ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี แล้วแยกตัวออกไปแล้วกดส่งข้อความหาใครบางคนที่เขาเพิ่งโทรหาก่อนหน้านี้ เพราะเขาย้ำนักย้ำหนาอย่ายุ่งกับของใช้ส่วนตัว ‘แล้วนี่พวกมันทำงานยังไงถึงมายุ่งกับชุดชั้นในของแสงเหนือได้’

“เหนือ เช็กก่อนมีอะไรหายหรือเปล่า”

หญิงสาวพยักหน้ารับเบา ๆ เธอทำเพียงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องอีกครั้ง เพื่อมองหาบางสิ่ง บางอย่างที่มีความหมายต่อความรู้สึกมากกว่าสิ่งของมีค่า แต่ไม่ว่าจะหันไปทางไหนเธอก็มองหาสิ่งนั้นไม่เจอ

“รูปของเราสามคนตอนเด็กที่วางบนหัวเตียงหายไปค่ะ”

ทั้งสองแฝดสบตากัน แววตาอบอุ่นเมื่อครู่หายไปอย่างสิ้นเชิง หลงเหลือเพียงความเงียบงัน และแรงกดดันที่แผ่กระจายออกมาจนความรู้สึกอึดอัดปกคลุมไปทั่วห้อง

เดย์ยกมือขึ้นเสยผมตัวเอง เพื่อระงับอารมณ์ ไม่รู้ว่าไอ้ไนท์สั่งคนของที่บ้านยังไง ถึงทำรูปของพวกเขาสมัยเด็กหายไปด้วย ก่อนพูดเสียงกดต่ำออกมา เพื่อพาร่างบางกลับคอนโดตัวเองไม่งั้นเขาคงได้หลุดระเบิดอารมณ์จนความแตกแน่ ๆ

“คืนนี้เหนือไปอยู่คอนโดพี่ก่อน”

“แต่...”

“ไม่มีแต่ครับ ที่นี่ตอนนี้อันตรายเกินไปที่เหนือจะอยู่คนเดียว”

 น้ำเสียงเขาแน่วแน่จนหญิงสาวต้องเงียบไป ไนท์หันมามองพี่ชายตัวเอง ก่อนเอ่ยขึ้นสมทบคำพูดนั้นให้มีน้ำหนักมากขึ้น

“เราไม่รู้ว่าคนที่ทำจะหวนกลับมาอีกไหม เพราะฉะนั้นตอนนี้หนูอยู่คนเดียวไม่ได้”

แสงเหนือเม้มปากแน่น ก่อนจะพยักหน้ารับช้า ๆ ดวงตายังคงสั่นไหวและเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาสีใส

“เก็บของที่จำเป็น แล้วไปกับพี่นะครับ”

“แต่พวกชุดชั้นในไม่ต้องเอาไปนะ พวกมันเห็นหมดแล้วพี่ไม่ชอบ”

“ค่ะ?”

คนตัวเล็กหันกลับไปมองตามเสียงของไนท์อีกครั้ง ในขณะที่กำลังจะเดินออกมาไปพร้อมกับแฝดคนพี่ ด้วยความขวยเขินและความแปลกใจ ที่อยู่ ๆ เขาก็พูดถึงเรื่องชุดชั้นในของเธอ ก่อนจะผละตัวออกจากเดย์ด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลนไปเก็บของใช้ส่วนตัวที่ไม่ควรให้ใครเห็น หลังจากที่เริ่มตั้งสติได้

“ไอ้ไนท์มัน มัน...มันหมายถึงว่ามันคงใส่ไม่ได้ เพราะ...เพราะ เพราะมันสกปรกหมดแล้ว พวกมันคงรื้อค้นเหยียบของใช้ไปทั่ว”

เดย์ได้แต่ถลึงสายตาใส่ฝาแฝดตัวเอง ที่เกือบจะแสดงพิรุธออกมาจนแสงเหนือจับได้ เพราะถ้าคนตัวเล็กเกิดเอะใจ หรือสังเกตเห็นขึ้นมาเพียงเล็กน้อย สถานการณ์ที่พวกเขาสร้างขึ้นคงพังลงไม่เป็นท่า

“ใช่ ๆ พี่แค่จะบอกว่ามันสกปรก ไม่ต้องเอาอะไรไปหรอกเดียวพี่ซื้อให้ใหม่”

“เก็บแค่ของใช้ที่จำเป็น ส่วนรูปของเราพี่จะให้คนมาหาให้อีกที”

ดวงตาคมยังจับจ้องไปที่ข้าวของในห้องที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วห้อง ก่อนจะหันมาสบตากับแสงเหนือ เธอพยักหน้าเบา ๆ อย่างว่าง่ายก่อนจะเก็บของที่สำคัญใส่กระเป๋าตัวเองทันที

เธอพยายามไม่มองสภาพห้องอีก เพียงแค่คิดว่ามีใครบางคนเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต มันก็บีบรัดความรู้สึกของเธอก็จนแทบหายใจไม่ออก

“ไปกับพี่ครับ”

ไนท์เดินไปหยุดที่ประตู สายตาคมกวาดมองทุกมุมห้อง ราวกับต้องการจดจำรายละเอียดที่เกิดขึ้นไว้ทั้งหมด เพื่อกลับไปเช็กบิลกับคนของตัวเองที่ทำงานไม่ได้เรื่อง

เมื่อทั้งสามลงมาถึงลานจอด รถยนต์หรูสีดำเคลื่อนออกไปจากหอพักอย่างเงียบงัน ภายในรถไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ

“เหนือจะได้กลับมาอยู่ที่นี่อีกไหมคะ”

เสียงของเธอยังคงสั่นไหว แม้จะรู้คำตอบดีแก่ใจว่าเธอคงต้องย้ายออกจากที่นี่ เพราะทั้งสองคนคงไม่ยอมให้เธอได้อยู่ต่อ รวมถึงตัวเธอเองก็ไม่มั่นใจว่าจะมีความกล้ามากพอจะอยู่ที่นี่ทั้ง ๆ ที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้หรือไม่

“ไม่ต้องคิดมาก เดียวพวกพี่ช่วยหนูหาที่พักใหม่เอง แต่คืนนี้หนูไปอยู่กับพี่ชั่วคราวก่อนเพื่อความปลอดภัย” ไนท์ตอบสั้น ๆ

“พี่เห็นด้วยกับไอ้ไนท์ ยังไงความปลอดภัยก็ต้องมาก่อน”

เสียงของเดย์เรียบอ่อนลงจากเมื่อครู่ แต่ยังคงแฝงความหนักแน่นอยู่ในทุกถ้อยคำ แสงเหนือหลุบตาลงเล็กน้อย ปลายนิ้วยังสั่นไหว ขณะกำชายกระโปรงไว้แน่น จนสองแฝดอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดที่ทำให้ความสดใสของเธอหายไป

“เอาไว้พี่จะชดเชยเรื่องแย่ ๆ วันนี้ให้นะครับ”

“พี่ก็เหมือนกัน”

เสียงของเดย์เอ่ยบอกกับร่างบาง ตามมาด้วยเสียงของไนท์ ทำเอาแสงเหนือมองกลับมาด้วยมึนงงที่ทั้งสองคนพูดออกมาแบบนั้น แต่ก็คิดว่าเป็นเพราะพวกเขาเป็นห่วงและอยากชดเชยความรู้สึกให้เธอกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยที่ไม่รู้เลยว่าการชดเชยที่พวกเขาหมายถึงไม่ใช่แค่ชดเชยที่เธอเจอเรื่องน่าตกใจ แต่มันรวมถึงเรื่องที่พวกเขาทำวันนี้ด้วย

“ค่ะ…”

คำตอบเบาแผ่วหลุดจากริมฝีปาก เธอเงยหน้าขึ้นช้า ๆ แล้วพยักน้อย ๆ เป็นเชิงยอมรับ ก่อนจะเบือนสายตาออกไปนอกหน้าต่าง ภายในรถเงียบสนิทจนได้ยินเพียงเสียงเครื่องยนต์เดินเบา ๆ กับเสียงลมหายใจที่ยังไม่สม่ำเสมอของเธอเอง

ดวงตากลมโตทอดมองไฟถนนเรียงรายทอดผ่านใบหน้าซีดขาวของเธอ ที่ถูกแต่งแต้มด้วยแสงสีส้มอุ่นจากไฟริมทาง พอผ่านไปไม่นานดวงตากลมโตที่ยังสั่นระริกก็ค่อย ๆ เริ่มสงบลง ลมหายใจเริ่มคงที่มากขึ้นทีละนิด

ไนท์และเดย์เหลือบมองจากกระจกมองหลัง เห็นร่างเล็กที่เอนตัวพิงกระจก ดวงตาเหม่อมองแสงไฟที่พาดผ่านไปทีละดวง

ทว่าแสงเหนือกลับไม่รู้เลยว่า สายตาของคนทั้งสองที่มองมาหาเธอผ่านกระจกมองหลัง มันเต็มไปด้วยความตั้งใจบางอย่าง ที่มากกว่าคำว่า รัก

ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาสองคนทำมันจะมากเกินไปหรือเปล่า แต่วันนี้พวกเขาตัดสินใจแล้วว่าจะทำและจะยอมรับสิ่งที่ตามมา และเขาจะชดเชยให้เธอแน่นอนไม่ว่าผลจะออกเป็นแบบไหน และอีกไม่นานเขาจะเป็นฝ่ายยอมรับความผิดที่ก่อขึ้นด้วยตัวเองแน่นอน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ต้องรักแสงเหนือ   พายุที่ถาโถม

    “มึงจะมายืนดูคลิปโป๊ เหี้ยอะไรตอนนี้”เดย์หันกลับไปถามแฝดของตัวเองที่กำลังขมวดคิ้วมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ในระหว่างที่พวกเขากำลังรอขนมและเครื่องดื่มอย่างชาเขียวปั่นกับเค้กแครอทของโปรดแสงเหนือที่ต้องมาซื้อเป็นประจำ“ดูคลิปเหี้ยอะไร กูดูพิกัดแสงเหนือ กูว่ามันแปลก ๆ ว่ะ”เดย์ที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของตัวเองขึ้นมาทันที ก่อนจะเปิดดูพิกัดและการเคลื่อนไหวของแสงเหนือที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ“เหนือไปทำอะไรที่ตึกนิเทศ”เรียวคิ้วหนาของเดย์และไนท์ ขมวดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ ความรู้สึกสงสัยและความร้อนใจก่อตัวขึ้นมาทันที เพราะคนตัวเล็กไม่เคยไปไหนมาไหนโดยที่ไม่บอกพวกเขาแบบนี้สักครั้ง“ไอ้ซัน เครื่องดื่มกับขนมของแสงเหนือกูไว้ก่อนนะ เดียวมาเอา”“มีอะไรวะ”“กูจะรีบไปหาแสงเหนือ”ไนท์บอกกับเพื่อนสนิทตัวเองที่เป็นเจ้าของร้านคาเฟ่แห่งนี้ แม้ชื่อและกรรมสิทธิ์จะเป็นของหญิงสาวรุ่นน้องอย่างไอริสก็ตาม ก่อนจะพากันวิ่งออกไปด้วยท่าทางร้อนรน เพราะสัญชาตญาณของเขามันกำลังบอกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับแสงเหนือแน่นอนตึกเก่าคณะนิเทศ“ยะ อย่าเข้ามานะ”“ชูว์ ไม่ต้องร้อง มันไม่ได้มีอะไรน่ากลัวเลยคนส

  • ต้องรักแสงเหนือ   กลัวจับใจ

    แสงเหนือยังคนก้มหน้าดูบางสิ่งบนหน้าจอไอแพดอย่างตั้งอกตั้งใจ หลังจากมีการแจ้งยกคลาสในช่วงบ่าย ทำให้เธอต้องมานั่งรอฝาแฝดที่ใต้ตึกพร้อมกับเพื่อนสนิทอย่างน้ำอุ่นที่อาสามานั่งรอเป็นเพื่อน“เหนือกำลังดูอะไรอยู่เหรอ”“อ้อ เหนือดูสูตรน้ำแซนวิส ว่ามีแบบไหนน่าสนใจบ้าง เมื่อคืนพวกพี่เขาบอกว่าอยากทานนะ”หญิงสาวตอบกลับเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้มสดใสอย่างไม่ได้ใส่ใจ แต่ใบหน้ากลับเห่อร้อนจนเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ หลังจากพูดออกไปตามความคิดตัวเอง ก็อดจะนึกถึงตอนที่เขาร้องขอให้เธอทำแซนวิสให้ทานไม่ได้“แซนวิสเหรอ” “อือ”น้ำอุ่นที่ยังคงจ้องมองใบหน้าที่แดงระเรื่อของเพื่อนสนิท พร้อมความรู้สึกคับแค้นเต็มอก ที่ดูเหมือนว่าเธอจะทนไม่ไหวอีกต่อไป แค่ได้เห็นใบหน้านั่น เธอก็พอเดาออก ถึงที่มาคำขอนั่นว่ามันเกิดขึ้นในช่วงเวลาไหน เพราะไม่งั้นคนตรงหน้าเธอ คงไม่หน้าแดงระเรื่อแบบนี้หรอกหากแต่ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ ทำไมคนที่สมหวังต้องเป็นแสงเหนือเพียงแค่คนเดียว ทำไมคนนั้นถึงไม่ใช่เธอ ทำไมต้องเป็นหญิงสาวธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้พิเศษอะไร ไม่รู้แม้กระทั่งความหมายของคำคำนั้นสุดท้ายน้ำอุ่นจึงได้ตัดสินใจส่งข้อความออกไปหาใครบางคนแ

  • ต้องรักแสงเหนือ   จำได้

    “เหนือจะมีความสุขมากกว่าเดิมครับ พี่สัญญา”“อ่าส์ พี่เดย์ขามันเสียว”เรียวนิ้วแกร่งขยับเข้าออกช้า ๆ จากหนึ่งเปลี่ยนมาเป็นสองนิ้ว เพื่อค่อย ๆ ให้คนตัวเล็กได้ปรับตัว รับแก่นกายที่มีขนาดใหญ่ของเขาสายตาคมมองสบตาอย่างรู้กัน ไนท์ถอดถอนตัวตนแกร่งของตัวเองออก แล้วทาบริมฝีปากหนาประกบเข้ามาแทนที่ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคนตัวเล็กขณะมือหนายังทำหน้าที่กอบกุมก้อนเนื้อนุ่มนิ่มแล้วบีบเคล้นอย่างเพลินมือ ก่อนจะปรายตามองคู่แฝดของตัวเองที่บีบชโลมลำแกร่งด้วยเจลหล่อลื่นจนเปียกชุ่ม“อื้มมมมมมมมมม”เสียงหวีดร้องดังออกมาในลำคอ แม้ในขณะที่ริมฝีปากยังถูกทาบปิดอยู่ หยาดน้ำตาลเอ่อคลอทันที เมื่อร่างสูงดันแท่งเอ็นร้อนเข้าไปในรูรักด้านหลังที่ปิดสนิทช้า ๆ จนสุดลำ“อ่า ตอดเอ็นพี่แทบขาดแล้วยัยตัวเล็ก”“…”ร่างแกร่งเป่าผ่อนลมหายใจออกทางปาก เพื่อระบายความเสียวกระสันที่ทำเอาขนลุกไปทั้งตัว แล้วปล่อยในรูรักตอดรัดเอ็นร้อนที่กดแช่ค้างไว้จนปวดหนึบ“พี่อยากให้เหนือเห็นหน้าตัวเองตอนนี้จัง ว่ามันยั่วเอ็นพี่แค่ไหน”ไนท์ผละริมฝีปากออกช้า ๆ หลังจากที่เห็นร่างบางเริ่มปรับตัวได้ ก่อนจะกดจูบซับน้ำตาที่เอ่อคลอ เพื่อปลอบประโลมอย่างอ่

  • ต้องรักแสงเหนือ   มากกว่าหนึ่ง

    “ถ้างั้น พี่ ๆ ช่วยเหนือเปลี่ยนชุดนี้ให้หนูหน่อยได้ไหมคะ หนูอยากใส่มันกับพี่สองคน”เสียงเธอสั่นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ทั้งที่เธอก็พยายามบังคับน้ำเสียงพูดให้ดูเป็นปกติ แต่คนฟังกับยกยิ้มที่มุมปากอย่างถูกใจ“งั้นพี่คงต้องขอดูแล้วละ ว่าในกล่องนั้นนอกจากชุดแล้วมันมีอะไรให้พี่เล่นบ้าง”น้ำเสียงต่ำของไนท์ลากยาว จนคำสุดท้ายคล้ายคำล้อเลียน สายตาของเขามันเต็มไปด้วยอารมณ์และความต้องที่ฉายออกมาอย่างชัดเจนแสงเหนือกลืนน้ำลายเฮือก รู้สึกถึงจังหวะการบีบรัดตัวของหัวใจตัวเอง ที่เต้นแรงจนแทบหลุดออกมาจากอกเธอขยับตัวถอยหลังช้า ๆ ด้วยความประหม่าจนแผ่นบางติดชิดขอบเตียง เพราะมันคือครั้งแรกที่เธอเป็นฝ่ายเชิญชวนพวกเขาก่อน“เหนือรู้ไหม ว่าพอพูดแบบนี้ มันเหมือนเหนือกำลังยั่วพี่”เสียงทุ้มต่ำราบเรียบ แต่แฝงแรงปรารถนาในทุกถ้อยคำ ทำให้หัวใจเธอสั่นไหวไม่เป็นจังหวะ“รู้ค่ะ แล้วพวกพี่ไม่อยากรักหนูเหรอ”“เปลี่ยนชุดค่ะ แล้วหนูก็คลานมาหาพี่”คนตัวเล็กลุกขึ้นยืน ก่อนจะค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทีละชิ้น ทั้งที่ดวงตากลมโตยังคงมองไปยังร่างสูงอย่างไม่คิดจะหลบสายตาในเมื่อเธออยากมัดใจเขา ถึงมันจะน่าอา

  • ต้องรักแสงเหนือ   เปลี่ยนชุด

    หลายวันต่อมา สายฝนโปรยบาง ๆ เคล้ากับสายลมเย็นของปลายเดือน แสงเหนือยังคงใช้ชีวิตเหมือนปกติ ตื่นแต่เช้า ออกไปเรียน กลับมาทำอ่านหนังสือ จิบชาเขียวแก้วโปรด และพูดเสียงหวานนุ่มทุกครั้งที่ฝาแฝดโทรมาหา แต่ถึงอย่างนั้น เดย์กับไนท์ก็เริ่มจับสังเกตได้ถึงบางอย่างที่ ไม่ปกติ อย่างเช้าวันนี้ เมื่อนิติบุคคลโทรขึ้นมาแจ้งว่ามีพัสดุมาส่งดังขึ้นเป็นครั้งที่สาม เพื่อขออนุญาตนำของขึ้นไปส่ง ก่อนที่เดย์จะเป็นฝ่ายเดินไปเปิดประตูด้วยความสงสัย“พัสดุของคุณแสงเหนือครับ เซ็นรับตรงนี้เลยครับ”เด็กส่งของยื่นกล่องกระดาษสีน้ำตาลขนาดกลางมาให้ พร้อมใบเซ็นชื่อ เพียงแต่สิ่งที่เขาเห็นทำเอาต้องขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความแปลกใจทันที ก่อนจะรับของสิ่งนั้นมา“ขอบคุณครับ”เดย์เลิกคิ้ว สายตากวาดมองกล่องพัสดุสีน้ำตาลที่รับมาใบตรงหน้า เป็นอีกครั้งที่พัสดุปริศนาชิ้นนี้ที่ไม่มีชื่อร้านหรือสัญลักษณ์อะไรทั้งนั้น มีเพียงสติ๊กเกอร์เขียนตัวเล็ก ๆ ว่า ของใช้ส่วนตัว โปรดอย่าเปิดโดยพลการ“ของเหนืออีกแล้ว?”เขาพึมพำในลำคอ ตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดมาก แต่ช่วงหลายวันมานี้ที่คอนโดของเขามีพัสดุมาส่งแทบทุกวัน ทั้งตอนเช้า และตอนเย็น และทุกครั้งมันจะไ

  • ต้องรักแสงเหนือ   ไฟริษยา

    เสียงเครื่องยนต์ต่ำของ Porche Panamera 4E ดังสะท้อนก้องในลานจอดรถหลังคณะวิศวะฯ ขณะที่ทุกสายตาพากันหันมามองตามด้วยความสนใจรถยนต์หรูราคาเกือบสิบล้านที่ใครหลายคนหมายปองและใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของ หากแต่ครั้งนี้มันกลับไม่ใช่แค่รถที่ทุกคนกำลังสนใจ แต่กลับพ่วงด้วยเจ้าของรถ อย่างฝาแฝดแห่งวิศวะแสงเหนือในชุดนิสิตเรียบร้อยสะอาดตา เธอก้าวลงอย่างระมัดระวัง ข้าง ๆ แฟนหนุ่มทั้งสองคนเดย์ และ ไนท์ เปิดประตูลงมายืนรออยู่ก่อนพร้อมเอกสารเรียนของเธอ ทว่าในมือของทั้งคู่ยังถือถุงใส่รองเท้าคัทชูและแก้วชาเขียวที่เธอชอบติดมือมาให้อย่างใส่ใจท่ามกลางสายลมยามเช้า พัดผ่านสนามหญ้าเบา ๆ ขณะที่ทั้งสามคนเดินเคียงข้างกันไปยังตึกคณะแพทย์“เดียวเลิกเรียนพี่มารับนะครับ”ไนท์พูดเสียงเรียบแต่แฝงความอบอุ่น ก่อนจะย่อตัวลงตรงหน้าเธอ แล้ววางรองเท้าคัทชูสีดำคู่เล็กตรงปลายเท้า ให้เธอเปลี่ยนจากรองเท้าผ้าใบเป็นรองเท้าคู่ที่เหมาะกับชุดนิสิตมากกว่า“ขอบคุณค่ะ”เสียงหวานของคนตัวเล็กเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ ด้วยความเขินอาย ทำให้หัวใจคนมองอ่อนยวบกับความน่ารักสดใสนั้น“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นหอมแก้มพี่สักทีได้ป่ะ”เดย์พูดแทรกขึ้นด้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status