บนโซฟาขนาดคิงไซส์ภายในห้องนอนกว้าง ชายร่างสมส่วนนั่งยกมือพิงพนักด้ายหลัง มืออีกข้างหยิบแก้วไวน์ราคาแพงขึ้นจิบ สายตาทอดมองกรอบรูปภาพขนาดกลางที่ถูกตั้งไว้บนโต๊ะเบื้องหน้า จ้องเข้าไปนัยตาของหญิงสาวในรูปพร้อมใช้ความคิด ก่อนจะมีเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังก้อนขึ้นมาขัดสมาธิ
ตริ้ง! คนหล่อละสายตาจากกรอบรูปสุดหวงมามองข้อความแจ้งเตือนอยู่บนโทรศัพท์ก็พบกับแชทของหญิงสายที่มีชื่อขึ้นต้นว่าพิชชา มือหนาวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูสิ่งด้านใน (คอนโดพิชต้อนรับคุณเสมอนะคะ อดีตที่รัก) เดนนิสเกิดขำออกมาเบาๆในลำคอ ดูก็รู้ว่าเมื่อตอนเย็นคงจะจงใจให้เขาไปส่งเพราะอยากบอกโลเคชั่นที่อยู่อย่างอ้อมๆ เพื่อเชิญชวนเขาขึ้นห้อง “หึ…ใครมันจะไปกัน..” ละสายตาจากโทรศัพท์กลับไปมองรูปภาพตรงหน้า กำลังจะวางมือถือลงไว้ดังเดิม ทว่าต้องหยิบขึ้นมาดูใหม่ เมื่อมีเสียงข้อความที่ถูกส่งเข้ามาเพิ่มดังแจ้นขึ้นอีกครา (อ่านแล้วไม่ตอบ ไม่เป็นไรค่ะ งั้นฝันดีนะคะคุณว่าที่สามี จุ๊บ) พิชชาส่งข้อความทิ้งท้ายพร้อมอิโมจิปากแดงที่บ่งบอกถึงคำว่าจุ๊บ ”ก็ยังเหมือนเดิมแฮะ แต่ที่เปลี่ยนไปก็คือ..หึ! เก่งขึ้นนิ…“ นิ้วยาวแตะลงบนริมฝีปาก นึกคิดถึงรสจูบเมื่อตอนกลางวัน นำพาเขาเข้าไปในภวังค์ ก่อนเสียงดังด้านนอกจะดึงเขาหลุดออกจากจินตนาการ ก๊อก ก๊อก ก๊อก! “เดนขาาาา” คนหล่อหันหน้าไปมองที่ประตู ฟางฟางลากเสียงยาวอยู่หน้าห้อง คงจะยืนเคาะประตูจนเมื่อย กว่าร่างสูงจะลุกขึ้นไปเปิด ก็พบกับสีหน้าออดอ้อนของหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าห้องพร้อมแก้วนมที่ดูเหมือนเพิ่งจะถูกอุ่นมา เมื่อพบควันอ่อนๆที่ลอยขึ้นจากแก้ว แต่เขาไม่ได้สนใจสิ่งนั้น ตอนนี้สิ่งที่เขามองก็คือเรือนร่างของหญิงสาว ที่อยู่ในชุดนอนกระโปรงสั้นสีดำลูกไม้ เผยให้เห็นถึงจุกนมสีนํ้าตาลที่กำลังแข็งเป็นก้อน ส่วนล่างเองก็คงไร้สิ่งขวางกั้น มีเพียงชุดนอนแสนบางที่คลุมเรือนร่างไว้ “ฟางเอานมมาให้ค่ะ”มืออวบยื่นแก้วนมให้คนตรงหน้า สายตามองอ่อยขั้นสุด เธอทำเช่นนี้เป็นประจำ แล้วก็รู้ว่าเขาไม่เคยปฏิเสธ ”หึ..ผมอยากกินนมอย่างอื่นมากกว่า“ เผยยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ สายตาจับจ้องอยู่บนสองเต้า ผู้หญิงคนนี้ช่างเก่งเสียจริง ทำตัวยั่วสวาทได้ทุกเวลา แต่ทำหน้าทำตาใสซื่อไร้เดียงสา ทั้งที่ผ่านเรื่องแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน “งั้น… เริ่มเลยมั้ยคะ” แก้วนมถูกวางลงอย่างไม่ไยดี รีบทิ้งตัวเข้ามาแนบกับแผ่นอกแกร่ง มือสองข้างคล้องลำคอหนา กำลังจะดันเขาเข้าไปในห้อง แต่ถูกอีกฝ่ายกล่าวตัดบทการกระทำขึ้นมาเสียก่อน “ไปห้องอื่น” “ก็ได้ค่ะ..”ฟางฟางหน้าเจื่อน เมื่อแผนการไม่สำเร็จ เพียงแค่อยากจะเข้าไปนอนบนเตียงเขาสักครั้ง.. เดนนิสเริ่มทนไม่ไหว สอดมือเข้าไต้ขาอวบ ยกร่างเธอขึ้น รีบสาวเท้าเดินไปอีกห้อง เมื่อร่างอวบถูกวางลงบนเตียงก็รีบแยกขาตัวเองออกกว้าง พร้อมดันนิ้วแหย่รูสวาทยั่วอารมณ์คนมอง “อื้มมม ใส่เข้ามาเลยค่ะเดนขาาาา” เดนนิสรีบกระโจนเข้าไปไซร้ซอกคอหญิงสาว มืออีกข้างกำจัดสิ่งขวางกั้นส่วนล่างของตนออกอย่างชำนาญ “อื้อออฟางไม่ไหวแล้วค่ะเดน”ฟางฟางร้องขอเหมือนใจจะขาด เมื่ออารมณ์ความหยากกำลังครอบงำไปทั่วทั้งตัว “ใจเย็นสิ…”เดนนิสดีดตัวขึ้น หยิบถุงยางออกมาสวมใส่ด้วยความรีบร้อน ทำคนมองคิ้วขมวด “เดนไม่อยากมีลูกหรอคะ” ทุกครั้งที่มีอะไรกัน เขาไม่เคยที่จะลืมป้องกัน แม้อารมณ์เงี่ยนจะครอบงำสมองจนแทบขาดสติ เป็นสิ่งที่ฟางฟางไม่ค่อยจะพอใจ “ผมมีลูกกับเมียเท่านั้น” “!!!”คำพูดเขาทำเอาคนถามหน้าเจื่อนลงทันที แต่มันคือความจริงที่มาจากใจ หญิงสาวไม่ค่อยจะอยากยอมรับมัน พยายามมาตั้งนานแต่ก็ไม่เคยเลื่อนสถานะจากคู่นอนขึ้นมาเป็นคนรู้ใจเสียที “แต่ว่า—-อ๊าาา!” อ้าปากกำลังจะสวนกลับ แต่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจ จับแกนเสียบเข้าไปทางช่องสวาทที่เปิดรับเขาอย่างเต็มที่ “อ่าาาส์..” “อ๊าาอ่าาาอ๊ะะะ ด..เดนขาาา โอ้ยยยด..ดีมากค่ะอ๊าาา” ฟางฟางครางเสียงดังลั่น แหกขาออกกว้าง รองรับแรงกระแทกจากชายหนุ่มอย่างเต็มเปี่ยม เพียงแค่เขาเสียบแท่งเอ็นใหญ่เข้ามาก็ทำเธอลืมอารมณ์ความแค้นลงไปในชั่วพริบตา ปัก ปัก ปัก ปัก ปักๆ “โอ้ยยอ๊าาาส..เสียวจังเลยค่ะเดนอ๊าาส์” ชายหนุ่มไม่สนใจ กระหนำแทงเข้าออกตามอารมณ์ความเงี่ยนที่ลุกแล่นอยู่ภายใน เมื่อรู้ว่าหญิงไต้ร่างเป็นคนยังไง แม้จะถูกแทงทั้งรูหน้ารูหลัง ก็คงจะมีแต่ความชอบใจ “ซี๊ดดดดดส์…”ชายหนุ่มเปร่งเสียงครางออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเพิ่งแรงกระแทกเข้าไปอย่างบ้าครั่ง ขยับเอวสอบรัวเร็วจนถึงจุดสุดยอด หญิงไต้ร่างแหกขาออกจนสุด รองรับมันอย่างชอบใจ ครางเสียงดังลั่นทั่วห้อง นํ้าเงี่ยนค่อยๆไหลออกมาเต็มรู เมื่อชายหนุ่มถอดแท่งเอ็นใหญ่ออก ก่อนจะถอดสิ่งป้องกันที่เต็มไปด้วยนํ้าเมือกเหนียวออก เขาปามันทิ้งลงในถังขยะอย่างไม่ไยดี ดึงกางเกงขึ้นมาสวมใส่ดังเดิม ในขณะที่คนบนเตียงรีบดีดตัวลุกขึ้นมามองสายตาอ้อน “คืนนี้นอนกับฟางได้มั้ยคะเดน..“ ”ผมเคยบอกคุณไปแล้ว“เดนนิสไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอ กล่าวจบหันหลังเดินออกไปอย่างไร้เยื่อไย ทำคนฟังเปร่งเสียงกรี๊ดออกมาดังลั่นด้วยความโมโห ”อร๊ายยยย!!กรี๊ดดดด คอยดูเถอะ!“วันนึงผู้ชายคนนี้ต้องรักเธอหัวปักหัวปลำ นั่นคือเป้าหมายของตน นับตั้งแต่วันที่เธอก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้..เช้ารุ่งวันต่อมา ในยามที่หญิงสาวยังคงหลับไหล เธอไม่รู้ตัวเลยว่าชายคนรักอุ้มเธอขึ้นรถมาด้วย จนถึงท่าเรือไปยันเกาะแห่งหนึ่ง พอลืมตาตื่นก็พบกับเจ้าตัวที่นอนอยู่ในห้องที่ไม่เคยคุ้นตา ทว่าสิ่งแปลกรอบตัวไม่ได้ทำให้เธอเป็นกระวนกระวาย เมื่อมองไปแล้วมีเขานอนกอดอยู่ข้างกาย เวลานี้เธอรับรู้ได้เลยว่าเขาคือพื้นที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับตัวเอง ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็ถึงเวลาที่ชายผู้หลับไหลอยู่ในอ้อมกอดหญิงสาวลืมตาตื่น จึงพาคนน้องออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก ทันไดเปิดประตูออกมา ดวงตาคู่สวยเปร่งประกายทันที เมื่อวิวด้านหน้าคือกลางทะเลใหญ่ บนพื้นนํ้ามีเงาของท้องฟ้าสีประกายอากาศบริสุทธิ์ที่ห่างหายมานานแตะเข้าปลายจมูก พิชชารีบเดินต้อนออกไปยืนอยู่กลางแจ้งของมุมหนึ่งบนเรือ ซึ่งมีพร้อมทั้งที่นอนอาบแดด หรือแม้กระทั่งสระว่ายนํ้าในตัว หญิงสาวรีบเดินไปยืนสูดเอาอากาสสดชื่นเข้าปอด มองไปยันวิวด้านหน้าที่ใครได้เห็นก็นำพาแต่ความสงบเจ้าสู่จิตใจ ”อื้มมม สงบสุขที่สุดดด“ ร่างระหงสูดเอาอากาศเข้าเต็มปอด ด้วยรอยยิ้มหวานที่แต่งแต้มบนใบหน้า บ่งบอกว่าเธอพึงพอใจกับมันขนาดไหน ”ขนาดนั้นเชียวหรอพิชชา หื้ม” ชายที่เดินตามหลังมาอดที
“ฉันบอกว่าไม่โอเคไง ไม่รับคนนี้ ไปหาคนใหม่มา!” พิชชาสั่งเสียงลั่น กอดอกมองหน้าสองคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง บ่งบอกว่าเธอไม่ได้ล้อเล่น ทำเอาชายลูกน้องในสูทดำเหงื่อตกทำตัวไม่ถูก เมื่อผู้เป็นนายเองเอาแต่เงียบ คนที่ออกคำสั่งก็เปรียบเสมือนเจ้านายคนที่สอง ส่วนเลขาสาวที่ยังไม่ทันได้เริ่มทำงานก็กำลังจะถูกไล่ออกนั้นแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด “ว่าไงนะคะ!” แนนนี่กัดฟันถาม ผู้หญิงคนนี้คงเป็นแค่เด็กที่ผู้เป็นนายเลี้ยงดูไว้ล่ะสิ มาทำเป็นใช้อำนาจหยิ่งยโส รอให้ตนได้ขึ้นเป็นว่าที่นายหญิงของตระกูลนี้เมื่อไหร่เถอะ จะเอาคืนให้ไม่เหลือแม้แต่ที่ซุกหัวนอนปลายเท้าเลยทีเดียว “ฉันไม่พูดซํ้า” เรียวแขนสองข้างยกขึ้นกอดอกพรางยักคิ้วใส่คนมองข้างนึง เป็นการกวนประสาทที่ได้ผลดีเลยแหละ เมื่อเห็นอีกฝ่ายตอบสนองด้วยสีหน้าที่แดงแปร๊ดดั่งระเบิ่ดจะลงนั่นแล้วก็สาแก่ใจ ยิ่งนึกอยากจะกลั่นแกล้งคนที่คิดแต่จะแย่งผัวชาวบ้าน ใบหน้านวลซบลงบนแผงอกแกร่ง ในขณะที่แววตายังคงจับจ้องอยู่บนหน้าซิลิโคนนั่นไม่ละเลือน “คุณเดนนิสคะ—“เมื่อรอให้เจ้านายปริปากช่วยแต่เขากลับเอาแต่เงียบ จึงตัดสินใจเป็นคนกล่าวเรียกเขาหวังจ
“กรี๊ดดดด!” เสียงกรี๊ดดังสนั่นทั่วห้อง ในขณะที่ในหัวกำลังมีเสียงเรียกจากชายคนหนึ่งดังเข้ามาแทรก ดั่งว่ากำลังร้องเรียกสติให้กลับคืน “พิชชา… พิชชา… น้องเป็นอะไรพิชชา!” “ฮึกกก!” หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความเหนื่อย ร่างกายเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดออกมา ดั่งกับว่าไปตบตีกับใครมา เมื่อดวงตาเบิ่กกว้างขึ้นสิ่งแรกที่เห็นคือใบหน้าที่คุ้นเคยกำลังโน้มเข้าไกล้เธอพรางเอ่ยเรียกชื่อไม่หยุด ”พิช—-“ เพี๊ยะ!!! คำเรียกยังไม่ทันพ้นคอ ใบหน้าหล่อก็ถูกฝ่ามือเล็กฟาดเข้ามาเต็มแรงจนหันไปตามแรงตบ ทันไดนั้นทั้งความสับสนและอารมณ์หลายอย่างรีบแล่นเข้าสู่โสทประสาท ”ไอ้เดนนิส!!“ ในขณะที่มือหนากำลังกุมพวงแก้มตัวเองพรางครุ่นคิดกับการกระทำของแฟนสาวยังไม่ทันไร ก็มีหมอนใบใหญ่ถูกฟาดเข้าใส่รัวๆจนต้องยกแขนกั้นด้วยความตกใจ “โอ้ยๆ ที่รัก อะไรของน้องเนี่ยโอ้ยย มาตีพี่ทำไม”มือหนารีบคว้าหมอนใบใหญ่ออกจากมืออีกคนเมื่อ พอตั้งตัวได้แล้วมองหน้าแฟนสาวก็เห็นเธอเบ้ปากนํ้าตาคลอเอ่อ ยิ่งนำพาคนมองตกใจกับสิ่งที่เห็น ”พิชชา.. น้องเป็นอะไรครับ หื้อ? ไหนบอกพี่สิ” แม้จะไม่รู้ถึงเหตุผล ทว่าเวลานี้สิ่งเดียวที่สามารถปลอบประโลมแฟนส
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นต่อเนื่องกันเป็นสามครั้ง เรียกความสนใจจากเจ้าของห้องที่นั่งหน้าเครียดทำงาน ก่อนจะส่งเสียงอนุญาตให้คนที่ยืนรอบคำตอบอยู่ด้านนอกได้เข้ามา ประตูเปิดออกนำพาสองคนเดินเข้ามาหยุดอยู่เบื้องหน้าโต๊ะทำงานของประธานบริษัท ทว่าคนที่นั่งอยู่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นให้ความสนใจเลย จนลูกน้องต้องเป็นฝ่ายเอ่ยแจ้งจุดประสงค์ที่มาเยือน “บอสครับ นี่คือเลขาคนใหม่ที่จะเข้ามาทำงานแทนคุณพิ้งค์ชั่วคราวครับ เนื้องจากเธอลาป่วย” แดนกล่าวแจ้งผู้เป็นเจ้านายอย่างเป็นทางการ ก่อนหญิงสาวในชุดรัดรูปเข้าทรงสีแดงสดจะกล่าวแนะนำตัวเองเมื่อเดนนิสเงยหน้าขึ้นให้ความสนใจ “สวัสดีค่ะคุณเดนนิส ฉันแนนนี่ค่ะ เรียกแนนเฉยๆก็ได้ค่ะจะได้สะดวก มีอะไรเรียกใช้แนนได้ตลอดเวลาเลยนะคะ” เลขาสาวคนใหม่พูดเสียงละมุน สิ้นสุดบทพูดไม่ลืมที่จะยิ้มหวานให้กับเจ้าชายมาดนิ่งตรงหน้าไปหนึ่งฉาก “อืม ไม่มีอะไรแล้วก็แยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว” คนฟังไม่ได้มีพิธีกงการอะไรมาก หากเข้ามาทำธุระเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ เมื่อสิ่งตรงหน้าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ขอเพียงแค่ทำงานได้ไม่ตกบกพร่อง พูดเสร็จก้มหน้าทำงานต่อไม่แม้แต่จะให้ควา
“แล้วหลังจากคืนนั้น พี่ก็หาน้องเจอจริงๆ”หญิงสาวอมยิ้มภูมิใจ เมื่อนึกถึงอดีตที่ผ่านมาของเขาและเธอ มันอาจจะเป็นการพบเจอที่แปลก แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี “ถ้าพี่หาน้องไม่เจอ พี่จะคว้าน้องมาครอบครองได้ยังไงล่ะ”เดนนิสกล่าวปนขำเบาๆ เด็กสาวที่กล้าเข้ามาท้าทายเขาคืนนี้ กลายเป็นว่าที่ภรรยาเขาอย่างเต็มตัวแล้วในวันนี้ “ถ้าคืนนั้นพี่เป็นพวกโรคจิต น้องคงแย่” คนพูดยํ้า หากแต่เธอโชคไม่ดีแล้วไปเจอกับคนอื่นที่ไม่ใช่เขาคงไม่มีชะตากรรมแบบนี้ “เพราะยังไงน้องก็เชื่อในความโชคดีของตัวเองไงคะ“รอยยิ้มหวานประกบบนใบหน้านวล ก่อนหญิงสาวจะหันหลังเดินก้าวเข้าไปในซอยมืดนั้น โดยมีฝีเท้ายาวคอยก้าวตามหลังอย่างติดๆ “ยังเหมือนเดิมเลยแฮะ เหมือนจะไม่ค่อยมีคนมา” สายตากวาดมองรอบๆแล้วยังคงรับสัมผัสได้ถึงบรรยากาศเดิมดั่งคืนนั้น แม้จะมืดจนน่ากลัวทว่ากลับมีบางสิ่งที่เรียกว่าความสวยงามปนเปรือ “คงไม่มีใครกล้ามาในที่แบบนี้แล้วแหละ นอกจากคนพิเรนอย่างน้อง” เสียงชายหนุ่มดังลอดเข้ามาจากแผ่นหลัง นำพาคนสวยหันมองเจ้าของคำพูดด้วยสีหน้าหมั่นไส้ “แหม พูดอย่างกับพี่ไม่มาเนาะ ถ้าจะพิเรนคงเป็นพี่มากกว่า” คนตัวเล็กแขวะกลับอย่างไม่ยอ
“ที่นี่….” ชายหนุ่มพึมพำออกมาเสียงเบาพรางหันกลับมามองหญิงคนรักอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “อื้ม พี่จำได้มั้ย ตอนที่เราเจอกันครั้งแรก” พิชชาพยักหน้าเบาๆผลอยยิ้มหวานให้กับชายที่ยืนมองหน้าเธอ นึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ครั้งแรกที่เธอได้พบกับผู้ชายคนนี้ เมื่อไม่กี่ปีก่อน พิชชาเป็นเดินตามถนนอย่างไร้จุดหมาย เมื่อรู้สึกว่าชีวิตช่วงนี้มีแต่ความน่าเบื่อ เมื่อเดินเข้ามาถึงซอยหนึ่ง สายตาจึงจับจ้องเข้ากับชายร่างโปร่งคนหนึ่งที่ยืนพิงผนังสูบบุหรี่ด้วยท่าทางหล่อเหลานั่น เธอไม่เคยพบกับใครที่สูบบุหรี่ได้หล่อเท่เท่าชายคนนี้มาก่อน แม้จะไม่เห็นรูปร่างเขาชัดเนื่องจากความมืด ทว่าแสงไฟอ่อนๆที่ส่องเข้าไปเผยให้เห็นถึงใบหน้าคมคายจมูกโด่งเป็นสันนั่นทำให้เธอสัมผัสได้ว่าเขาคือเทพบุตร ด้วยนิสัยดื้อรั้นของหญิงสาวเป็นสิ่งที่พาเธอเดินเข้าไปหาชายคนนั้นในซอยที่มืดเปลี่ยวได้อย่างไม่มีความเกรงกลัว “น่าเบื่อชะมัด” ควันบุหรี่ถูกเป่าออกมากระจัดกระจาย ในขณะที่คนสูบกำลังพึมพำถึงความเบื่อหน่ายของชีวิต เสียงฝีเท้าที่เดินไกล้เข้ามาดึงให้เขาเหลือบไปสนใจ สายตาคมจ้องเข้ากับใบหน้านวลของผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูสีหน้าเบื่อหน่ายไม่แพ้กับตน เส