9.สี่หนุ่มสี่มุม
ผับ storm
ตรีภพให้คนขับรถที่บ้านมาส่งที่ผับของเพื่อนสนิท เขาไม่ได้ขับรถมาเอง เขื่อไอ้พวกนั้นมันเตรียมซัฟอกเขาจนขาวสะอาดแน่นอน ไม่เมางานเลี้ยงไม่มีทางแยกวง
กลุ่มเขาที่คบกันมาตั้งแต่เรียนด้วยกันที่อเมริกา พาทิส วายุ และอาทิตย์ เขาทั้งสี่คนถูกทางบ้านส่งไปเรียนเมืองนอกเพื่อกลับมาบริหารบริษัท เรียนด้วยกัน กินเหล้า เที่ยวผู้หญิง หัวหกก้นขวิดมาด้วยกัน มือหนาเปิดประตูห้อง VVIP เข้ามาก็ส่ายหัวรัวๆ เพราะสายตาทุกคนในห้องจับจ่อมาทางเขาทันทีที่เปิดประตู
“โหว ว่าจะเสด็จ รอกูปิดร้านเลยไหม” วายุทักเพื่อนรักทันที
“เอาน่า มันคงเพิ่งขอเมียออกจากบ้านได้ เพื่อนเพิ่งแต่งงานมึงอย่าไปว่ามันเลย” อาทิตย์แหย่เพื่อนรักเจ้าบ่าวป้ายแดง
“ขอเมียก็เหี้ยล่ะ” ตรีภพทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างพาทิศที่นั่งจิบน้ำอำพันอยู่คนเดียว ต่างจากอีกสองหนุ่มที่มีสาวสวยนุ่งน้อยห่มน้อยในวงแขน
“เอ้า! อะไรยังไง “วายุสัพยอกเพื่อนแล้วหันไปสั่งให้สาวๆ ออกไปก่อน เรื่องที่จะคุยค่อนข้างส่วนตัว ถึงทั้งสองสาวจะเป็นเด็กในร้านเขา เชื่อใจได้ แต่กันไว้ดีกว่า
ทันที่ไปสาวๆ ออกจากห้องไป วายุก็เปิดประเด็นทันที
“ไอ้พามันเล่าแล้วแต่กูไม่ค่อยเชื่อเท่าไรว่ะ น้องวีทั้งสวยทั้งนิสัยดี ถึงเวลามึงจะหย่าได้หร๊อ”
“กูไม่ได้รักวี ทำไมพอถึงเวลาแล้วกูจะหย่าไม่ได้ว่ะ”
“มึงต้องมีลูกกับวีด้วยไม่ใช่หรอถึงจะหย่าได้” พาทิศนึงถึงเงื่อนไขที่คุณป้าเสนอให้มันจนยอมแต่ง นอกจากเรื่องสุขภาพของท่านก็เรื่องหลานด้วย
“กูไม่รู้แม่กูคิดอะไร ถ้ากูมีลูกกับวีแล้วจะยอมให้หย่า โดยไม่ขัดขวางใดๆ ทั้งสิ้น” ตรีภพคว้าแก้วเหล้าที่พาทิศยื่นมาให้ยกดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว
“เออถ้าถึงขั้นมีลูกด้วยกัน ถึงไม่รักมันก็ต้องผูกพันกันมั้งล่ะว่ะ แล้วมึงกับน้องวีก็โตมาด้วยกันไม่ใช่หรอ” อาทิตย์รีบเสริม
“พวกมึงว่าแม่ไอ้ภพแปลกๆ ป่าวว่ะ บังคับให้แต่งกับน้องวี และต้องมีลูกกับน้องวีเท่านั้น พอคลอดลูกก็หย่าได้เลย บทจะง่ายก็ง่ายเกิ๊น”
“เห้ย ไอ้วามึงอย่าคิดไปขนาดนั้น คุณป้าแกอาจจะเห็นว่าถ้ามีลูกด้วยกันคงเห็นแก่ลูกแล้วก็ไม่หย่ากันก็ได้ พอๆๆ เปลี่ยนเรื่อง วันนี้เลี้ยงต้อนรับไอ้ภพมัน อย่ามาคุยเรื่องเครียดๆ เลย ตามสาวๆ มาชงเหล้าดีกว่า ชงเองแม่งแสบคอ” พาทิศรีบดึงทุกคนออกจากเรื่องวีรดา เพราะตอนนี้หน้าของตรีภพเรื่องบึ้งตึง
พอสาวๆ เข้ามาในห้องบรรยากาศก็คลายความกดดัน สี่หนุ่มต่างพลัดกันเล่าถึงวีรกรรมการใช้ชีวิตที่โชกโชนเคล้าเสียงหัวเราะของสาวๆ
ตรีภพโซซัดโซเซเข้ามาในห้องนอน กว่าจะยอมแยกย้ายกันกลับได้ ไม่ได้กินเหล้าพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้หลายปีเอาซะแทบจะหมดสภาพ ร่างหนาเดินมาถึงข้างเตียงฝั่งที่วีรดานอนอยู่ ใบหน้านวลลออซุกหมอนลมหายใจสม่ำเสมอคงจะหลับไปซักพักแล้ว ทุกครั้งที่กลับมาเยี่ยมบ้านเขาจะกลับมาแค่ช่วงสั้นๆ อยู่เมืองไทยไม่เกิน 1 อาทิตย์และพยายามหลบเลี่ยงการเจอวีรดา เรียบจบก็ขอทำงานหาประสบการณ์ที่นู้นก่อน หากคุณพ่อไม่สั่งให้กลับมาเขาคงอยู่อีกหลายปี มือหนาค่อยๆ ลูบไล้แก้มนวล เขาเคยหอมแก้มนี้แต่ก่อนมันกลมนุ่มเหมือนซาลาเปา เขารักเธอไม่ได้อีกแล้ว ที่ไอ้วายุพูดไม่ใช่เขาไม่คิดตาม ขนาดคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องน้ารดายังมองว่ามันแปลก ให้เขาแต่งงานกับวีรดาอย่างมีความสุขมันเป็นไปไม่ได้ ไหนจะให้หย่าทันทีที่คลอดหลานให้อีก
“ทำไมน้องวีต้องเป็นลูกของน้ารดาด้วย”
วีรดาค่อยๆ ลืมตาหลังจากที่แน่ใจว่าคนเมาหลับไปแล้ว เธอยังไม่นอน พอเห็นแท็กซี่จนที่หน้าประตูรั้ว เธอก็รับกลับห้องแกล้งนอนหลับเพราะไม่อยากประทะฝีปากกับเขา
“เหอะ สภาพ” วีรดามองคนที่เมาหลับด้วยความสมเพช ตรีภพนอนกองอยู่ที่พื้นข้างเตียงเธอ ทั้งกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่คละคลุ้งจนแสบจมูก ปล่อยให้นอนทั้งแบบนี้ก็ไม่ได้อีก เมื่อตัดสินใจได้แล้วจึงลุกไปเข้าห้องน้ำเตรียมอุปกรณ์มาเช็ดตัวให้คนเมา ตรีภพเมาจนทิ้งร่าง กว่าวีรดาจะปล้ำเช็ดตัวแล้วลากขึ้นเตียงสำเร็จเล่นเอาเหงื่อซึม ชุดนอนใหม่ เนื้อตัวสะอาด ขาดแค่ปะแป้งเด็กให้เท่านั้นล่ะ เธอยืนมองผลงานชิ้นโบว์แดงที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ที่ตรีภพพูดก่อนจะหลับไปเธอได้ยินชัดทุกคำ เธอยังจำคืนเข้าหอได้ที่เขาบอกว่าเกลียดแม่เธอ ‘แม่ดาของวีไปทำอะไรให้คุณภพเกลียดค่ะ’ เธอคิดเท่าไรก็คิดไม่ออกว่าแม่ของเธอทำไรให้ตรีภพเกลียดได้ถึงขนาดเกลียดเธอที่เป็นลูกของแม่ด้วย
อยู่ๆมายกลูกชู้เป็นลูกรักแถมพวงตำแหน่งสะใภ้อีก
เออ คุณหญิงแม่หล่อนแปลกๆ จริงๆ ด้วยค่ะ
วันนี้อัพ 2 ตอน พรุ่งนี้งดอัพนะคะ
56.ไม่อาจหายใจร่วมกันได้ จบบริบูรณ์วีรดา ค่อยๆ ก้าวเดินเข้าในรั้วคฤหาสน์ชินณรงค์ ความทรงจำมากมายที่เกิดขึ้นที่นี่ วันแรกที่เธอก้าวเข้าเมื่อ 20ปี ก่อนเธอจำได้ดี วันที่เสียเสาหลักของครอบครัว แม่ดาจูงมือน้อยๆ ของเธอเดินผ่านรั้วสีทองเข้ามาใน กว่าจะเดินมาถึงตัวตึกเล่นเอาเด็กอายุเพียง 5 ขวบอย่างวีรดาเหงื่อซึม แต่เธอไม่ร้องโยเย ไม่งอแง เพราะรู้ดีว่าแม่พามาหาที่พึ่งพิง หากไม่ได้เข้าทำงานที่นี่ เธอกับแม่อาจต้องอดตาย อดมื้อกินมื้อมาหลายวันแล้ว ไม่นึกเลยว่าที่พึ่งพิงสุดท้ายกลับกลายเป็นที่ตายของแม่เธอ“วี” คุณหญิงปานวาดวิ่งออกมารับวีรดา หลังจากที่ยามหน้าประตูบอกว่าวีรดากลับมาแล้ว“วี วีให้อภัยแม่นะ แม่ผิดไปแล้วลูก ให้แม่ทำอะไรก็ได้ ขอแค่วีกลับมา”“เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ แดดร้อน” วีรดาพยักหยักหน้าเรียกให้คนที่มากับเธอตามเข้าตึกไปด้วยเธอไม่ได้มาเพียงลำพัง พี่ชาติและพี่มุกขอตามมาด้วยไม่งั้นจะไม่ให้มา เธอจึงยอมวีรดานั่งลงบนโซฟา แจ้งคุณหญิงปานวาดว่าต้องการคุยกับทุกคนของชินณรงค์ เธอนั่งรออย่างใจเย็น รอ รอจนทุกคนมาครบ“วี” ตรีภพวิ่งเข้ามาสวมกอดทันทีที่เห็นหน้าเธอ เขาแทบจะเหาะกลับบ้าน ที่เธอยอมกลับมา
55.สุดท้ายผ่านไปเกือบสามเดือนที่วีรดาหายตัวไป ตรีภพมาทำงานด้วยสภาพร่างกายไม่ต่างจากศพ เขาโหมงานหนัก ทั้งเลขาอย่างมุกมณีก็ลาออก เลขาคนใหม่ก็ทำงานยังไม่คล่อง ทำให้เหนื่อยอีกเท่าตัวตรีภพเปิดรูปภาพในโทรศัพท์ขึ้นดู เดือนแรกที่เธอหายไปเขาให้นักสืบหยุดตามหาเธอ เพราะละอายใจกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่แล้วในที่สุดเขาก็ทนความคิดถึงไม่ไหว จึงให้ตามหาเธออีกครั้ง เขาไม่ได้ไปหาไปหาเธอ เพียงเฝ้ามองเธออยู่ห่างๆ เท่านั้น แค่อยากรู้ว่าเธอสบายดีมั้ย ไม่เคยคิดที่จะตามเธอกลับมา ผิดกับคุณแม่ ที่อยากให้เขาพาเธอกลับมา คุณแม่ยังเชื่อมั่นว่าวีรดารักเขา หากเขาออกปากคุยกับเธอให้อภัย โดยนิสัยของวีรดาต้องยอมอภัยให้เธอยิ่งถ้าเขาทำให้เธอท้องได้ หลานจะทำให้วีรดาไม่ทิ้งครอบครัวชินณรงค์ไปไหน เขาจึงทำได้เพียงแค่บอกว่ายังหาวีรดาไม่เจอข่าวลือว่าวีรดาย้ายออกจากคฤหาสน์ จนถึงขั้นว่าตรีภพกับวีรดาเลิกลากันแล้ว เหตุจากมือที่สามทำเอาพริมาเนื้อเต้น ในที่สุดเวลาของเธอก็มาถึง ตอนนี้เธอไม่สามารถใช้ชีวิตหรูหราแบบเก่าได้อีกต่อไป คุณปู่ตัดเงินกงสีเธอจริงๆ เพราะตรีภพสั่งหยุดโครงปูเเลยมโนว่าเป็นเพราะเธอ เธอพยายามอธิบายแล้วว่าไม่เค
54.หมด 2สิ้นเสียงสุชาติ ก็เกิดความชุนละมุน คุณหญิงปานวาดหมดสติไป ตรีภพต้องปล่อยมือวีรดาเพื่ออุ้มคุณหญิงขึ้นรถ ขับบึ่งไปโรงพยาบาลทันทีโชคดีที่ท่านแต่เป็นลมหมดสติไป พอวางใจเรื่องคุณแม่แล้ว เขาจึงให้คุณพ่อเฝ้าดูอาการของคุณแม่รีบขับรถกลับบ้าน เพราะเขาโทรหาก็ปิดเครื่อง ข้อความไปก็ไม่อ่าน เมื่อถึงบ้านกลับไม่เจอคนที่ตามหา วีรดา สุชาติแม้แต่ลุงชม ก็หายไปโดยไม่ได้เอาอะไรไปด้วยเลย ข้าวของเสื้อผ้าอยู่ครบทุกชิ้นตรีภพตัดสินใจโทรพาพาทิศให้ถามจากพรนับพันให้ที่ ซึ่งก็ไม่ไเ้คำตอบ พรนับพันก็ติดวีรดาไมด้เหมือนกันเวลาผ่านไป จากวัน เป็นอาทิตย์ จนคุณหญิงออกจากโรงพยาบาล วีรดาก็ยังไม่ติดต่อกลับ จนตรีภพทนไม่ไหว ถามตรีดนัย“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับคุณพ่อ ที่ผมเงียบ เพราะผมรอได้ยินจากปากคุณพ่อเอง แต่จนแล้วรอเล่าจนจะบ้าตายอยู่แล้วคุณพ่อก็เงียบ เมียผมหายไปกับไอ้ชาติทั้งคน”ในเมื่อปิดไม่ได้อีกต่อไป ตรีดนัยจึงพาตรีภพออกมานั่งที่สวนเพื่อบอกความจริงทั้งหมดตรีภพนั่งฟังสิ่งที่คุณพ่อเล่าตั้งแต่ต้นจนจบ ดวงตาค่อยๆ แดงก่ำ“ทำไม คุณพ่อกับคุณแม่ทำกับวีแบบนี้”“มันเป็นอุบัติเหตุ” ตรีดนัยพูดเพียงสั้นๆ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้
53.หมด 1สุชาติขับรถเข้ามาภายในคฤหาสน์ เข้าเดินมุ่งหน้าไปยังตัวตึกอย่างไม่ลังเล ตอนบอกเรื่องนี้กับวี เขาจำเป็นต้องยืนอยู่ข้างๆ เธอ“ชาติจะไปไหนเหรอ”“ผมมีธุระคุณกับน้องวีครับ” สุขาติหลบสายตาคุณตรีดนัย เขาเริ่มกลัวผู้ชายคนนี้“ชาติ เรื่องมันผ่านไปนานแล้ว บ่อยให้มันถูกลืมไปกับกาลเวลาได้มั้ย ฉันของร้อง ฉันรู้ว่าที่ขอมันมากไป มันเป็นแค่อุบัติเหตุ อย่าไปเรื้อฟื้นมันอีกเลย” ลูกน้องโทรมาแจ้งว่า มือปืนที่จ้างวานทำงานไม่สำเร็จ มีคนไปช่วยจอมพลเอาไว้ในเมื่อวีรดาอยู่บ้าน แสดงว่าคนที่ช่วยคงเป็นสุชาติ และคงรู้เขทั้งหมดจากจอมพลแล้ว“น้องวีแค่ต้องการรู้ความจริง ให้น้องวีดูหลักฐานทั้งหมดแล้วตัดสินใจเองเถอะครับว่าเป็นอุบัติเหตุหรือเปล่า”“ทำไมที่ผ่านมา ฉันไม่แอะใจซักนิด ว่าวีกับชาติ สืบเรื่องดามาตลอด” ถ้าเขาแอะใจซักนิด เขาคงปิดปากจอมพลตั้งแต่ในคุกไปแล้ว“ทำไมครับ ถ้าคุณรู้คุณจะฆ่าปิดปากพยานบุคคลแบบที่ทำวันนี้เหรอครับ”“นายออกไปจากบ้านฉันซะ ก่อนที่ฉันจะให้คนมาลากนายกับพ่อออกไป” ตรีดนัยย่างสามขุมประชิดตัวสุชาติ แววตาแข็งกร้าว เขาพูดจริง หากยังไม่หยุดเขาคงไม่แต่ไล่ออกจากบ้านไป“วี วี ได้ยินพี่มั้ย วีออกมา
52.ปิดไม่ได้อีกต่อไป 3จอมพล หนีหัวซุกหัวซุก จากเดิมตั้งใจไปเข้าหาคุณหญิงปานวาดเพื่อข่มขู่ของเงินเพิ่ม แต่กลับถูกคนของตรีดนัยตามล่า เขาคาดไม่ถึงว่าคนที่จิตใจดีแบบตรีดนัยแล้วคุณหญิงปานวาด จะกล้าลงมือเหี้ยมโหดได้ขนาดนี้ หากมือปืนไม่ยิงพลาด วันนี้เขาคงได้ไปเยี่ยมยมบาลแล้ว จอมพลยกมือไหว้ชายหนุ่มตรงหน้า“ขอบคุณที่ช่วยลุงเอาไว้”“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รู้ว่าใครปองร้ายคุณลุง แต่ที่ผมช่วยในวันนี้ ผมหวังประโยชน์” นักสืบแจ้งว่าเจอจอมพลแล้ว เขาจึงรีบขับรถมาหา คาดไม่ถึงว่ารถของจอมพลกำลังถูกประกบไล่ยิง“ผมไม่อ้อมค้อมก็แล้วกัน ผมกำลังสืบเรื่องน้ารดา คนที่ประสบอุบัติเหตุตกบันไดในคฤหาสน์ชินณรงค์เมื่อสิบกว่าปีก่อน ผมกับวีรดาลูกสาวของคนตาย วีจะให้เงินคุณลุง 1 ล้าน แลกกับคุณลุงต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้นทั้งหมด”จอมพลกลืนน้ำลาย ดูจากที่ตรีดนัยส่งมือปืนมาคงไม่ต้องการเจรจาและถูกเขาขู่เอาเงินแน่นอน หากไม่หนีไปคงไม่มีชีวิตรอด “ผมจะมั่นใจได้ยังไงว่า คุณจะไม่ฆ่าผม”“ถ้าคิดแบบนั้นคงไม่เสี่ยงเข้ามาช่วย”จอมพลพยักหน้า พอสุชาติโทรศัพท์มาอัดวีดีโอ จอมพลจึงเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมด “ผมเป็นรุ่นน้องที่เรียนมหาวิทยาลัย
51.ปิดไม่ได้อีกต่อไป 2ข้อศึเท้าหัวเข่าทั้งสองข้าง มือหนากุมขมับ สุชาติหลังจากที่วีรดาให้หาข้อมูลพนักงานที่ชื่อจอมพล ด้วยอำนาจหน้าที่ของรองผู้จัดการแผนกบุคคลทำให้เขาเขาถึงข้อมูลพนักงานได้ไม่อยาก ในเมื่อรู้ชื่อขนาดนั้นแล้ว สุชาติคิดว่าเรื่องมันจะง่ายดาย เขาไม่พบพนักงานชื่อจอมพล ชื่อใกล้เคียง อายุราวๆ 50 ไม่มีเลย เขามั่นใจส่าวีรดาไม่มีทางจำผิด จึงสืบเรื่องการทุจริตเมื่อ สิบกว่าปีก่อน พบว่าพนักถูกพ้นสภาพและดำเนินคดีความ เขาจึงนั่งงมเข็มโดยการให้นักสืบหาผู้ต้องหาที่ชื่อจอมพล ที่ถูกตัดสินคดีในข้อหา ลักทรัพย์นายจ้าง ในระยะเวลา 10-15 ปีที่แล้วใช้เวลาอยู่หลายวันในที่สุดนักสืบก็ส่งข่าวกลับมา นายจอมพล อัสสะ ถูกตัดสินจำคุก 13 ปี 6 เดือน เพิ่งพ้นโทษเมื่อต้นปีที่แล้ว ข้อมูลนี้ไม่น่าหนักใจเท่าอีกเรื่อง นักสืบเข้าไปหามูลวีรดาได้มาอย่างง่ายดาย แต่ข้อมูลของน้ารดากลับได้มาอย่างยากลำบาก เพิ่งถึงมือเขาสดๆ ร้อนเมื่อกี้อีกนี้เอง หลังอ่านจบ สุชาติถึงกับต้องนั่งกุมขมับ เขาไม่คิดจะปิดบัง แต่ก็ยังไม่พร้อมจะบอกเธอตอนนี้เช่นเดียวกัน ขอเวลาเขาอีกหน่อย ขอหลักฐานเพิ่มเติมอีกซักนิด จริงๆ เขาพอจะเดาสาเหตุการตายของน้า