แชร์

ทนให้ถึงที่สุด!

ผู้เขียน: พิมพ์พิรดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-28 13:39:23

บ่ายวันหนึ่งที่คุณผู้หญิงมีแขกคนสำคัญมาเยือน เด็กหญิงจึงต้องหลบมุมไปทางสวนหลังบ้านแทน แต่ดูเหมือนมาช้าไป ที่นั่งเล่นประจำของเธอตอนนี้ถูกยึดไปทำเป็นร้านขายข้าวแกง โดยมีแม่ค้าตัวน้อย และลูกค้าเพียงคนเดียวคือลูกชายเจ้าของบ้าน จนทำให้คนเดินผ่านอดหยุดมองอย่างสนใจไม่ได้

“อ้าว...นั่นเด็กคนที่เจอวันก่อนนี่คะพี่เพชร”

“น่ารำคาญชะมัด” พีรภัทรเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ ทำเอาคนฟังถึงกับหน้าสลด รีบก้มหน้างุดๆ จะเดินหนี

“อ้าว จะรีบไปไหนล่ะ ถ้าไม่มีอะไรทำก็มาเล่นด้วยกันสิ” คำชวนนั้นทำเอาคนถูกชวนถึงกับสะดุ้งสุดตัว

“น้องเฟื่องไปชวนเขาทำไม” เสียงแข็งๆ ทักท้วง แทบไม่มองหน้าคนที่เอ่ยถึงด้วยซ้ำ

“ทำไมล่ะคะพี่เพชร เราเล่นแค่สองคนไม่สนุกหรอก” เด็กหญิงเฟื่องตะวันประท้วง อันที่จริงเล่นสองคนก็สนุกดีอยู่หรอก ถ้าเพียงแต่คนตัวโตที่รับบทเป็นลูกค้าคนเดียวนั้นจะเต็มใจเล่นด้วย 

“ถ้าอยากเล่นกับเขานักก็เล่นไปคนเดียวแล้วกัน พี่จะเข้าบ้านล่ะ” พีรภัทรลุกพรวดพราดจะเดินหนี

“เดี๋ยวสิคะพี่เพชร รอเฟื่องด้วย” เฟื่องตะวันรีบลุกตาม แต่เพราะขาเป็นเหน็บชา ทำให้เธอหงายหลังผึ่งก้นจ้ำเบ้าทันที ด้วยความเจ็บปนตกใจทำให้เจ้าตัวแผดเสียงร้องจ้า คนอยู่ใกล้จึงรีบเข้ามาช่วยด้วยความหวังดี แต่แล้ว...

“หยุดนะ นั่นแกจะทำอะไรคุณเฟื่องน่ะ” เสียงตวาดนั้นทำให้ศุภิสราสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะก็ถูกกระชากจนกระเด็นหงายหลัง ศีรษะไปโขลกกับก้อนหินที่พื้นเข้าอย่างจังจนเลือดซึมออกมาจากขมับ

 “พี่แก้วจ๋า น้องเฟื่องจะไปหาคุณแม่”

“ดีค่ะ เดี๋ยวเราไปฟ้องคุณแม่กับคุณป้ากัน คราวนี้แกได้เจ็บตัวสมใจแน่ คอยดู” คนพูดได้ทีหันมาชี้หน้าศุภิสราอย่างหมายมาด ก่อนอุ้มเด็กหญิงอีกคนเข้าบ้านทันที

“โอย...” คนตัวเล็กครางออกมาเบาๆ พยายามจะใช้ชายเสื้อซับเลือดที่ศีรษะตนอย่างทุลักทุเล

“เอ้า ใช้นี่สิ!” คนเจ็บสะดุ้ง มองมือที่ยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้อย่างลังเล จนอีกฝ่ายอดไม่ไหวเลยยื่นมือมาช่วยเสียเอง ความอ่อนโยนของอีกฝ่ายนั้นทำให้หัวใจดวงน้อยพองโตจนเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว 

“เข้าไปใส่ยาในบ้านดีกว่า อ้าว...ทำไมยิ้มได้ ไม่เจ็บแล้วหรือ” พีรภัทรถามอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นคนเจ็บมองมาที่ตนก็เริ่มรู้สึกตัว รีบเก๊กท่า “เอาล่ะ ถ้าไม่เจ็บงั้นฉันจะเข้าบ้านล่ะ”

“เดี๋ยวค่ะ คุณเพชร!” เจ้าของชื่อชะงักกึกหันขวับ “ขะ...ขอบคุ...”

“คุณเพชรคะ คุณเพชร คุณแม่ให้หาค่ะ” ยังไม่ทันที่เด็กหญิงจะได้เอ่ยจบ ก็มีคนเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน

“รู้แล้ว” เด็กชายทำเสียงหน่าย รีบเข้าบ้านไปโดยไม่เหลียวหลังมามองคนเจ็บอีก  

“นี่อย่ามัวมาทำสำออย คุณผู้หญิงก็เรียกเธอเข้าไปเหมือนกัน” ศุภิสราสูดหายใจลึกเตรียมตัวรับศึกหนักอีกตามเคย

แล้วทุกสิ่งก็เป็นไปตามคาด! ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องรับแขก คุณพราวพิไลก็ตวัดมองผู้มาใหม่อย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ส่วนคนทำตัวเป็นบ่างช่างยุนั่งทำเป็นประคบประหงมใกล้ๆ ลูกสาวของคุณนิภาพรคู่กรณี แต่กลับไร้เงาของผู้อยู่ในเหตุการณ์อีกคน 

 “เห็นแก้วว่าเราแกล้งผลักคุณเฟื่องล้มจริงหรือ” ดวงตาสีอ่อนแลเห็นคนฟ้องที่ลอยหน้ายั่วโทสะ

“ไม่จริงค่ะ คุณเฟื่องล้มเพราะขาเธอเป็นเหน็บต่างหาก”

“โกหก!  แก้วเห็นกับตาค่ะว่ามันผลักคุณหนูเฟื่อง” เรื่องราวถูกบิดเบือนไปโดยสิ้นเชิง หากที่เหลือเชื่อคือคนฟังความกลับคล้อยตามโดยไม่มีการซักถามใดๆ อีก 

“แก้วไปหยิบไม้เรียวมาทีซิ” แม่สาวใช้ตัวดีรีบยื่นไม้เรียวที่เตรียมไว้ส่งให้เจ้านายทันที

“ไม่เอาน่า พราว อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เลยนะ” คุณนิภาพรขอร้อง

“ได้ยังไง คนทำผิดก็ต้องโดนลงโทษ ไม่กำราบไว้แต่ตอนนี้อีกหน่อยมันคงทำร้ายฉันกับคนในบ้านแน่” ศุภิสราเม้มปากแน่น เมื่อเห็นไม้เรียวที่สงวนไว้ลงโทษตัวเธอเองโดยเฉพาะ

“กอดอกเดี๋ยวนี้ แก้วจับไว้ซิ” คนถูกสั่งยิ้มกริ่มสมใจ ก่อนกางนิ้วจิกเล็บไปที่ต้นแขนของเด็กหญิงผู้อาภัพอย่างแรง ศุภิสรากัดฟันแน่น เมื่อได้ยินเสียงหวดไม้เรียวหนักๆ ที่ขาอ่อนของตัวเอง 

“เพียะ!” ร่างน้อยสะดุ้งเฮือกด้วยความเจ็บปวด ภายในจิตใจบอบช้ำแสนสาหัส แต่ต้องกัดฟันทน หัวใจต่างหากที่ถูกเฆี่ยนจนเป็นแผลเหวอะหวะ ศุภิสราได้แต่พร่ำบอกกับตัวเองในใจ อดทนไว้นะ อย่าร้องนะ ทนให้ถึงที่สุด!

“ทำอะไรกันน่ะ!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทรายเทียมเพชร   แฟนที่ไหนอีกล่ะ

    “เอ๊ะ ทำอะไรของคุณน่ะ” หญิงสาวแหวใส่ พยายามดันศีรษะของอีกฝ่ายออกจากตัก แต่ฝ่ายนั้นกลับรวบมือน้อยเข้ามากุมไว้“หนุนตักไง ไม่เห็นเหรอ” คำตอบยั่วประสาท พลางยิ้มประจบ ไม่ทำให้อีกฝ่ายหลงคารม“ไปนั่งไกลๆ เลยนะ”“บังเอิญพี่ไม่ชอบอยู่ไกลหัวใจซะด้วยสิ” พีรภัทรยิ้มขำกับสำนวนลิเกของตัวเองทั้งที่เมื่อก่อนเคยล้อเพื่อสนิทอย่างเหนือฟ้าที่มักชอบใช้มุกเสี่ยวๆ จีบหญิง หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่กล้าพูดอะไรเลี่ยนๆ แบบนี้ออกมา แต่ตอนนี้ไม่รู้เป็นอะไร เขาถึงได้อยากจะพูดจาภาษาดอกไม้กับผู้หญิงตรงหน้า อะไรกันนะที่เปลี่ยนเขาให้เป็นไปได้ถึงเพียงนี้“โธ่ ทูนหัวจ๋า เมื่อไหร่จะหายโกรธสักที พี่ต้องทำยังไง หืม บอกมาเถิดนะคนดี”“ถ้าคุณจะกรุณา ก็พาดิฉันกลับบ้านเสียสิคะ” หญิงสาวตอบเสียงเย็นชา“ไม่กรุณา!” เสียนกวนๆ สวนทันควันเช่นกัน“เอ๊ะ” ศุภิสราร้อง พลางหันขวับเห็นคนพูดลอยหน้ากวนโมโหก็พยายามข่มอารมณ์ “ ถ้างั้นก็ให้ฉันยืมโทรศัพท์โทรบอกพี่โทกับคนที่บ้านสักนิดได้ไหมคะ พวกเขาจะได้ไม่เป็นห่วง”ชื่อของศัตรูหมายเลขหนึ่งทำให้คนฟังฉุนกึก ทำหน้าง้ำ “ ก็บอกแล้วไง ถ้าถึงเวลาจะพาไปส่งเอง”“ก็แล้วฉันต้องรอถึงเมื่อไหร่ล่ะคะ” คนฟังขึ้น

  • ทรายเทียมเพชร   เพียงเพราะคำว่า... รัก... คำเดียว

    พีรภัทรคลี่ยิ้มออกมาได้ รู้สึกเบาใจขึ้นเป็นกอง ให้โดนโกรธโดนทุบแบบนี้ยังดีกว่าโดนเมินล่ะ เพราะอย่างน้อยการโกรธก็ยังถือว่ามีเยื่อใยเหลืออยู่ แต่ดูเหมือนเยื่อใยจะหนักเอาการอยู่สักหน่อยเพราะกว่าเธอจะเลิกทุบ เขาก็แทบจะน่วมคามือ ร่างบางหอบสะท้านด้วยความเหนื่อย มือยังสั่นริกๆ อยากจะทุบให้เขาตายคามือสาสมใจ“หิวหรือยังจ๊ะ” ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนเรื่องทันควัน“ไปกินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวค่อยกลับมาทุบต่อนะ ไม่หนีหรอกน่า สัญญาจะอยู่ให้ทุบทั้งชีวิตเลยก็ยังได้” เสียงออดอ้อนเอาใจ ยิ่งทำให้คนฟังคันไม้คันมือขึ้นมาอีก พีรภัทรไม่รอช้ารีบรวบข้อมือน้อยฉุดลากเข้าบ้าน ก่อนที่เขาจะตายคามือเธอจริงๆ กลิ่นอาหารหอมฉุยโชยชายทำให้คนโมโหเริ่มรู้สึกท้องร้องขึ้นมาตงิดๆ เพิ่งนึกได้ว่ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เมื่อวาน แถมใช้พลังงานไปเยอะเลยเกิดหิวก็เป็นได้ คนตัวโตราวกำแพงขยับจัดแจงให้เธอนั่ง แล้วบริการเสิร์ฟอาหารต่างๆ ให้อย่างเอาอกเอาใจข้าวต้มเละๆ ในถ้วยน้อยวางลงตรงหน้า พร้อมเครื่องเคียงที่มีเพียงผักกาดดองกระป๋องหั่นเล็กบ้างใหญ่บ้าง กับปลากระป๋อง และไข่เค็มหั่นเป็นซีกๆ ไม่เท่ากัน แต่ก็พอดูออกว่าคนทำคงพยายามอย่างสุดฝีมือท

  • ทรายเทียมเพชร   สิ่งที่เป็นไปไม่ได้จะจำไว้ทำไม

    “พอกันที เลิกคิดได้แล้ว” ศุภิสราบอกกับตัวเองอย่างเด็ดเดี่ยว พลางรวบรวมเรี่ยวแรงอันน้อยนิดพยุงตัวเองลุกขึ้น ครั้งแรกล้มแปะลงไปเพราะขาเป็นเหน็บชา หากเธอพยายามยันตัวลุกอย่างทุลักทุเลจนได้ แล้วจัดการล้างหน้าล้างตา สมองรู้สึกปลอดโปร่งขึ้น แต่หัวใจยังคงหนักอึ้งไม่คลาย ถ้าควักหัวใจออกมาล้างได้คงดี เธอจะได้ล้างสิ่งที่ติดค้างในความรู้สึกให้หมดๆ ไปเสียจะได้ไม่เจ็บอีก แต่มันก็ไม่อาจทำได้ สาวน้อยส่องกระจกทอดถอนใจ มือบางแตะที่จี้ ‘หัวใจเพชร’ ดวงน้อยที่ลำคอระหงอย่างเจ็บปวด ก่อนตัดใจปลดออกจากคอตนเองวางลงบนอ่างล้างหน้านั้น ลืมเสียเถิด สิ่งที่เป็นไปไม่ได้จะจำไว้ทำไม ถึงไม่มีเขาเธอก็มีคนอีกมากมายที่รักเธอ ทั้งคุณพ่อคุณแม่ ไหนจะพี่โทรินทร์ที่คอยห่วงใยเธอเรื่อยมา ป่านนี้ทุกคนคงตามหาเธอวุ่นวาย คนเหล่านั้นต่างหากที่เธอควรสนใจ ส่วน‘คนอื่น’นั้นจะคิดยังไง รู้สึกยังไงก็ช่างเขา จากนี้ไปเธอจะไม่อยากรู้อีกต่อไปหญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกใจสงบขึ้น ในห้องนั้นปราศจากเงาของบุรุษที่คอยก่อกวนหัวใจ หรือเขาจะหนีกลับไปเสียแล้วก็เป็นได้ เธอพยายามเมินไม่มองไปที่เตียงนอนอันยับยู่ยี่เพราะเหตุการณ์เมื่อเช้า ท้าย

  • ทรายเทียมเพชร   แค่คำว่า... รัก... สั้นๆ เท่านี้ก็พูดออกมาไม่ได้

    “คุณมีแฟนอยู่แล้ว แต่ยังมาทำกับแบบนี้กับผู้หญิงอื่นอีกเพื่ออะไร” คราวนี้คนฟังถึงกับผงะด้วยความตกตะลึงราวกับถูกค้อนทุบหัวหนักๆ จนมึนชา พูดอะไรไม่ออก“ดิฉันเป็นคน มีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึก ไม่ใช่ของเล่นที่คุณจะมาทำอะไรตามอำเภอใจยังไงก็ได้ คุณทำแบบนี้กับฉันทำไม หรือเห็นว่าฉันเป็นผู้หญิงใจง่าย เป็นคนหน้าด้านที่ชอบแย่งแฟนคนอื่น” ปลายเสียงสั่นสะท้านด้วยความหวั่นไหวพร่างพรูระบายความน้อยเนื้อต่ำใจออกมา“จะแกล้งทรมานฉันไปถึงเมื่อไหร่กันถึงจะสาแก่ใจคนใจร้ายอย่างคุณ” น้ำตาหยดหนึ่งกลิ้งลงมาจากลูกแก้วคู่งามที่แสนเศร้า ก่อนที่เจ้าตัวจะปิดตานิ่ง เม้มปากแน่น แสดงท่าทีหมางเมินออกมาอย่างชัดเจน จนทำให้ชายหนุ่มใจหายวาบรีบคว้าตัวเธอขึ้นมากอดไว้แนบแน่น เพราะกลัวจะต้องสูญเสียเธอไป รู้สึกปวดร้าวในอกจนเกินพรรณนา“พี่ไม่เคยคิดอย่างนั้น ไม่เคย...” เสียงร้อนรนพร่ำบอก พลางโยกร่างน้อยที่สั่นสะท้านไปมาเบาๆ ราวกับขับกล่อมให้สงบ“ถ้าไม่ได้คิดอย่างนั้น แล้วคุณคิดยังไงกับฉันกันแน่” คำถามนั้นซัดชายหนุ่มให้จนมุมในบัดดล “พะ... พี่ระ... เอ่อ” พีรภัทรขยับจะพูดอะไรบางอย่างออกมา หากพอเห็นนัยน์ตากลมใสแป๋วที่จ้องเขม็งรอคอยคู่น

  • ทรายเทียมเพชร   อยากครอบครองเป็นเจ้าของ

    พอขาดคำชายหนุ่มก็จัดการลงโทษ ‘แบบนี้’ ด้วยการกดจูบที่ริมฝีปากของเธออีกครั้ง หากคราวนี้เนิ่นนานและดูดดื่มยิ่งกว่าคราวแรกหลายเท่านัก ศุภิสรารู้สึกวิงเวียน สะบัดร้อนสะบัดหนาวเหมือนจะจับไข้ ในท้องมีผีเสื้อนับร้อยๆ ตัวกำลังกระพรือปีกบินว่อนอย่างร่าเริง บางครั้งเหมือนกำลังล่องลอยไปในปุยเมฆนุ่มๆ บางครั้งก็รู้สึกเหมือนถูกคนจอมเจ้าเล่ห์แกล้งกระชากลงมาด่ำดิ่งในห้วงน้ำลึกจนอึดอัดหมือนกำลังจมน้ำขาดอากาศหายใจ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่ยอมให้เขาป่วนหัวใจเล่นแบบนี้สมองสั่งให้หยุด แต่ร่างกายกับไม่ยอมร่วมมือเอาเสียเลย ผู้ชายแปลกหน้าที่แสนเจ้าเล่ห์ แสนเอาแต่ใจ บางทีก็แสนร้ายกาจจนน่ากลัว แต่บทจะอ่อนหวานก็แสนหวานล้ำเหนือใคร แล้วแบบไหนคือตัวจริงของเขากันแน่นะ อสูรร้าย หรือเทพบุตรในคราบซาตานการลงโทษที่แสนหวานปนขมปร่าที่เขามอบให้ปลุกเมล็ดพันธุ์ในหัวใจอ่อนหวานขึ้นมาทีละน้อยๆ จนก่อเกิดเป็นรูปเป็นร่างที่เธอไม่อยากจะยอมรับ ดอกไม้ดอกหนึ่งที่ชื่อว่า ‘รัก’ กำลังผลิในหัวใจจนเต็มดวงเป็นไปไม่ได้! เธอจะรู้สึกลึกซึ้งกับคนที่เพิ่งรู้จัก เพิ่งเห็นหน้ากันไม่กี่ครั้งแบบนี้ได้อย่างไรหญิงสาวรู้สึกสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ

  • ทรายเทียมเพชร   เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรถ้าไม่มีเธอ

    คนที่บอกว่าตัวเองง่วงแสนง่วง หากในความจริงแล้วเขากลับไม่ได้นอนหลับเลยสักงีบเดียว ในความมืดสลัว ดวงตามันปลาบทอประกายหวานระยับทอดมองดวงหน้าหวานของคนที่กำลังหลับสนิทโดยอาศัยไออุ่นจากอ้อมอกของเขา ราวกับจะซึมซับทุกภาพและความรู้สึกลงในความทรงจำ เผื่อในวันที่ต้องลาจากกันไปอย่างน้อยเขาจะได้ใช้ความทรงจำแสนหวานนี้เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงหัวใจตนในวันที่ไม่มีเธอเคียงใกล้แสงเงินแสงทองระยับค่อยๆ แทรกผ่านเข้ามาทีละน้อย ทำให้ความงามละออกระจ่างตาตรงหน้ายิ่งปรากฏชัดเจนขึ้น ดวงหน้าใสดูอ่อนเยาว์บอกถึงความพิสุทธิ์ ผิวขาวละออราวขึงด้วยแพรละเอียดซับเลือดฝาดของวัยสาวสะพรั่งน่าสัมผัส ทั้งดวงตาที่ยังหลับพริ้มประดับด้วยแพขนตายาวเฟื้อยราวกับตุ๊กตาจนเขาอยากจะลองเอานิ้วกรีดเล่น ปากนิดจมูกหน่อยดูจิ้มลิ้มน่ารักน่าเอ็นดูนักหนา หากที่เขาไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อนคือรอยลักยิ้มบุ๋มน่ารักตรงข้างแก้มทั้งสองของเธอ อาจเพราะเจ้าตัวมักทำหน้าอมทุกข์อยู่เสมอ และตัวต้นเหตุที่ปล้นรอยยิ้มสวยๆ นี้ไปก็คงหนีไม่พ้น... เขา... นี่เองชายหนุ่มรู้ดีว่าตัวเองใจร้ายใจดำกับคนตัวเล็กตลอดมา ทั้งพูดให้เจ็บช้ำ ทั้งแกล้งสารพัด ทั้งเคยผลักไสไล่ส่ง หรือแ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status