“แจ้งตำรวจเหรอครับ!” พีรภัทรอุทานตกใจ นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า เด็กคนนั้นหายตัวไป หลังจากถูกแม่ของเขาไล่กวดทำร้าย รอยเลือดที่เหลือทิ้งไว้ที่บ้านนั่นเป็นหลักฐานยืนยัน ถ้า... เธอเกิดบาดเจ็บหรือเป็นอันตรายขึ้นมาจริงๆ ก็แปลว่าแม่ของเขาต้องมีส่วนเป็นต้นเหตุสิ แล้วถ้าเกิดเป็นเช่นนั้นจริงล่ะก็ แม่ของเขาก็อาจต้องโทษในข้อหาทำร้ายร่างกาย หรือร้ายสุด... พยายามฆ่า! ชายหนุ่มลูบหน้า คลึงขมับหนักๆ ครุ่นคิดถึงผลต่างๆ ที่จะตามมาไหนจะบิดาที่ตอนนี้นอนป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาล ถ้าคุณไกรภพได้รู้ข่าวว่าคนโปรดหายตัวไปมีหวังอาการคงทรุดหนัก แล้วถ้ายิ่งรู้ว่าแม่ของเขาอาจต้องโทษเพราะเป็นต้นเหตุทำร้ายเธออีกคนล่ะก็ มีหวังพ่อของเขาคงไม่รอด แล้วคนเป็นลูกอย่างเขาจะทนเห็นพ่อตายไปต่อหน้า แถมแม่ทั้งคนยังอาจต้องมาติดคุกติดตารางได้หรือ แน่นอนว่าเขาทนไม่ได้แน่ ให้เขายอมตายหรือรับโทษเองเสียยังดีกว่าเป็นไหนๆ ยังไงเขายอมให้แม่ติดคุกไม่ได้เด็ดขาด!“ไม่ได้! เราจะแจ้งความไม่ได้นะครับ” คนฟังชะงักกึก มองคนพูดอย่างฉงน“อ้าว! ทำไมล่ะครับ”“ได้โปรดช่วยรับปากผม ไม่ว่ายังไงก็ตาม อย่าให้เรื่องนี้ถึงตำรวจได้ไหมครับ” ชายหนุ่มค
“ผมว่าคุณควรรีบไปหาหมอเสียก่อนนะครับ เลือดออกเยอะแบบนั้นระวังจะแย่เอา” คนมากวัยกว่าเสนอ แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าปฏิเสธความหวังดี พลางยกแขนปาดเลือดที่กำลังไหลย้อยผ่านหางตาออกอย่างไม่ไยดี“ไม่เป็นไรครับ แผลแค่นี้ไกลหัวใจ” พอคนพูดนึกถึงเจ้าของดวงหน้าเศร้าๆ ที่กำลังสร้างแผลกลางใจเขาด้วยการหายตัวไปทิ้งไว้แต่เลือดให้ดูต่างหน้า หัวใจก็พลันปวดหนึบขึ้นมาทั้งๆ ที่ปากบอกว่าเกลียดชังเหลือแสน แต่ก็ยังอยากหาเหตุตามตอแยทุกเมื่อเชื่อวัน ทั้งๆ ที่บอกว่าไม่อยากเห็นหน้า แต่ก็ยังอุตส่าห์หาเรื่องราวีต่างๆ นานา และทั้งๆ ที่เป็นคนเอ่ยปากขับไสไล่ส่งให้เธอไปพ้นๆ เองจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่พอเธอหายตัวไปจริงๆ ใจเจ้ากรรมของเขาก็กลับเป็นฝ่ายทุรนทุรายจนแทบทนไม่ไหว ต้องรีบแล่นมาหาเพียงเพราะคิดว่าเธอผู้นั้นหลบลี้ภัยมาที่บ้านของไอ้หมอตัวแสบที่ตนไม่เคยถูกชะตาด้วย หวังแค่เพียงว่าจะได้เจอคนหน้าหวาน ให้รู้ว่าเธอยังปลอดภัยดีก็เท่านั้นเอง แต่พอได้มาเห็นปฏิกิริยาโมโหถึงขั้นอาละวาดรุนแรงของหนุ่มเจ้าของบ้าน จนเขาไม่ทันตั้งรับแบบนั้น ก็ทำให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้มาที่นี่อย่างที่คิด พีรภัทรรู้สึกราวกับหัวใจถูกแขวนไว้บนความผิดหวัง เขาได
ไยเขาจะไม่รู้หัวใจลูกชายตัวเองว่าคิดอย่างไรกับเด็กสาวผู้นั้น ความผูกพันย่อมไม่อาจสร้างกันได้ในชั่ววันเดียว แต่โทรินทร์กลับผูกหัวใจตัวเองไว้กับศุภิสราอย่างเหนียวแน่นจนยากจะคลาย ซึ่งเขาและครอบครัวต่างรู้ดีและไม่มีใครคิดรังเกียจเดียจฉันท์สาวน้อยผู้อาภัพคนนั้นความรักนั้นเป็นสิ่งสวยงาม แต่ก็แฝงด้วยหนามแหลมคมเสมอ ดวงตาของผู้ผ่านโลกมาก่อนแลไปบนบ้านของตนอย่างหนักใจ แม้รู้ซึ้งอยู่เต็มอกว่าทางรักครั้งนี้ของลูกชายต้องพบเจอขวากหนามใหญ่แน่ แต่คนเป็นพ่อก็จนปัญญาไม่รู้ว่าจะห้ามปรามหัวใจลูกชายได้อย่างไร ทนายความหนุ่มใหญ่ก็ได้แต่หวังเพียงว่า... โทรินทร์จะเข้มแข็งพอจะรับมืออุปสรรคที่อาจต้องเจอในวันข้างหน้าได้พอขึ้นไปบนบ้านตัวเอง คุณพงศ์เอกก็ต้องกลุ้มใจอีกรอบ เมื่อเจอผลงานที่ลูกชายตัวดีทิ้งไว้ให้ แถมแม่ลูกสาวจอมแสบที่เขาอุตส่าห์สั่งกำชับให้กันตัวแขกแยกขึ้นมาบนบ้านก็กลับมาล่องหนไปอีกคน ปล่อยให้แขกหนุ่มนั่งรอตามยถากรรมเพียงลำพังทนายหนุ่มใหญ่ปรายตาไปทางประตูห้องนอนลูกสาวที่ปิดสนิทเหมือนเป็นการบอกให้รู้กลายๆ ว่าไม่ต้อนรับพ่อหนุ่มหล่อผู้เป็นต้นเหตุให้เพื่อนรักของเธอหายตัวไป คนเป็นพ่อย่อมรู้ดีว่าบทแม่ลูกสา
“อะไร? เอ่อ... อะไรก็รีบพูดมาสิโว้ย อ้ำอึ้งทำไม” คนมุทะลุคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายกระชากเข้ามาถามเสียงดัง ทำเอาคนเป็นพ่อและน้องสาวตกใจต้องรีบเข้ามาช่วยรั้งตัวออกมาแทบไม่ทัน“เจ้าโท อย่าเสียมารยาทกับแขก” คุณพงศ์เอกรีบปรามเสียงดุ “ผมต้องขอโทษแทนโทรินทร์ด้วยนะครับ”“ว่าไงล่ะ น้องทรายทำไม บอกมาเซ่” คนถูกอายัติตัวถามเหย็งๆ“คืออย่างนี้ครับ เมื่อเช้าที่บ้านเกิดเรื่อง เอ่อ... นิดหน่อย แล้ว...” คนเล่าสูดหายใจลึกทำเป็นไม่สนใจอาการบ้าเลือดของคุณหมอหนุ่ม“มีรอยเลือดที่พื้นเต็มไปหมด แล้วทรายก็หายตัวไป! ผมเกรงว่า...”ยังไม่ทันขาดคำ หมัดหนักๆ ก็เสยเข้าที่ปลายคางคนพูดที่ไม่ทันระวังเปรี้ยงเข้าให้ จนร่างสูงใหญ่ทรุดไปกองคลุกฝุ่นที่พื้นทันที พีรภัทรสะบัดศีรษะไปมาอย่างมึนๆ รู้สึกได้ถึงของเหลวรสฝาดที่ริมฝีปากตัวเอง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะตั้งตัว โทรินทร์ที่สะบัดตัวหลุดจากการเกาะกุมของพ่อและน้องไม่ฟังความใดๆ เข้าอัดหมัดหนักๆ ซัดเข้าใส่คนเป็นแขกจนนับคะแนนแทบไม่ทัน“แก... ต้องเป็นแกใช่ไหม แกทำอะไรน้องทรายของฉัน อย่าอยู่เลย นี่แหน่ะ”“พี่โท!” “เจ้าโท!”สองเสียงแหกปากร้องขึ้นแทบพร้อมกันอย่างตกตะลึง พอได้สติก็รีบเข้าไปยื
เวลาเดียวกันที่บ้านบุรณากรณ์ก็ต้องพบกับความโกลากลวุ่นวายครั้งใหญ่ เมื่อจู่ๆ ก็มีรอยเลือดปริศนาปรากฏอยู่กลางบ้านโดยไม่ทราบสาเหตุ พีรภัทรมองคราบเลือดกองใหญ่ที่พื้นและเลือดที่หยดเป็นทางไปจนถึงประตูด้วยความประหลาดใจ ก่อนกราดมองทุกคนในบ้านก็ไม่พบว่ามีใครในบ้านได้รับบาดเจ็บถึงขั้นเลือดตกยางออกแม้สักคนเดียว และพอสอบถามทุกคนในบ้านก็ได้แต่ส่ายหน้าไม่รู้เรื่อง แล้วเลือดเจ้ากรรมนี่เป็นของใครกันเล่า พลันภาพเหตุชุลมุนเมื่อเช้าก็แวบเข้ามาในสมอง ดวงตาคมเบิกกว้าง หรือว่าจะเป็นของ... คิดได้เท่านั้นร่างสูงใหญ่ก็ผลุนผลันวิ่งไปทางเรือนเล็กหลังบ้านทันที ขอร้องล่ะ อย่าให้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย ขออย่าให้เป็นเธอ อย่าให้เป็นเลือดของเธอ...แล้วคำขอร้องของเขาก็ไม่เป็นผล!“คุณทรายไม่อยู่ที่ห้องค่ะ หาทั่วบ้านแล้วก็ไม่เจอเลย ไม่รู้ไปไหน” แม่อบละล่ำละลักบอก สีหน้าเหยเกเหมือนจะร้องไห้“แน่ใจว่าหาทั่วแล้วเหรอครับ ที่สวนล่ะครับ ห้องน้ำ ห้องครัว หรือว่าออกไปข้างนอก” คนตัวสูงรัวยิบ รู้สึกหัวใจกำลังจะขาดรอนๆ ทุกทีๆ เมื่อเห็นหญิงมากวัยส่ายหน้าแทนคำตอบ“ไม่จริง! ต้องอยู่สิ เราต้องช่วยกันตามหา ช่วยตามหาอีกที เด็กคนนั้นต้องอย
แม้เขาจะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุมาก่อนก็เถอะ แต่การกระทำที่เหี้ยมโหดแบบนั้น ถ้าไม่มีมูลเหตุจูงใจมากพอ คนทำก็คงจะใจร้ายหรือไม่ก็เป็นโรคจิตแน่ๆ เดชะบุญที่เขาเผอิญเข้าไปเห็นเหตุการณ์นั้นเข้าเสียก่อน ไม่เช่นนั้นป่านนี้เด็กสาวผู้อาภัพก็อาจยังนอนจมกองเลือดอยู่อย่างนั้น ดีไม่ดีเธออาจจะ... แค่คิดเท่านี้ก็รู้สึกหนาวสะท้านจับขั้วหัวใจแล้ว ‘แกมันก็เหมือนแม่แก ผู้หญิงร่าน เลี้ยงไม่เชื่อง สะเออะใฝ่สูงทั้งๆ ที่ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิด... ’ คำหยามเหยียดของผู้หญิงใจยักษ์คนนั้นชวนให้นึกสงสัยคร้ามครัน เท่าที่เขาเห็นเด็กสาวคนนั้นไม่น่ามีอะไรที่ใกล้เคียงกับข้อกล่าวหาร้ายกาจนั่นสักนิด แล้วอะไรกันเล่าที่ทำให้เธอถูกประณามเช่นนั้น ด้วยความสงสัยบุรุษวัยกลางคนจึงรีบต่อสายหาคนสนิทของตนทันที“คุณชาติเหรอ ผมเอง คุณช่วยมาพบผมที่โรงพยาบาล... ตอนนี้ได้ไหม อ้อ แล้วคุณช่วยติดต่อนักสืบให้ผมด้วย เอาที่มือดีที่สุด เก่งที่สุด เรื่องค่าใช้จ่ายไม่เกี่ยง ผมมีเรื่องอยากให้ช่วยนิดหน่อย ขอวันนี้นะ เท่านี้ก่อนนะเดี๋ยวผมโทรหาอีกที” เขารีบวางสายลงทันที เมื่อเห็นประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก ชายวัยกลางคนก็ปราดเข้าไปสอบถามอาการด้วยความเป็นห่ว