LOGIN06 แต่คนที่เจ็บกว่าก็คือผม!
@คฤหาสน์ของอคิราห์ “ว่าไงนะ เมื่อวานลูกเจอปรางปรีญางั้นหรอ!!” เสียงพีรพลบิดาของอคิราห์อุทานด้วยความตกใจเพราะไม่ได้ยินชื่อนี้ผ่านหูมาเกือบห้าปีแล้ว “ครับ ผมก็เพิ่งรู้ว่าเธอทำงานอยู่ที่บริษัทของไอ้ปรเมศ” “ห้าปีแล้วนะที่พ่อไม่ได้เจอหนูปราง ว่าแต่เธอ…เอ่อ…ยังสบายดีใช่ไหม” “ถ้ายังไม่ตายงั้นก็แสดงว่าสบายดีครับ” อคิราห์ตอบเสียงห้วนๆด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ทั้งๆที่ครอบครัวของปรางปรีญาทำถึงขนาดนี้แต่ทำไมทุกคนยังรักและเอ็นดูเธอ ปรางปรีญาหลอกให้เขารัก หลอกให้เขาไว้ใจ แต่สุดท้ายก็หักหลังกันได้ลงคอ ไม่มีใครรับรู้ถึงความเจ็บปวดของเขาบ้างเลยหรอ “ไม่คิดว่าหนูปรางจะอยู่ใกล้แค่ปลายจมูกนี่เอง ทำไมไม่ชวนน้องมาทานข้าวที่บ้านล่ะ” “พ่อครับ! ปรางปรีญาทำกับผมขนาดนี้ แต่พ่อยังอยากให้เธอมาทานข้าวที่บ้าน นี่พ่อลืมไปแล้วหรอว่าครอบครัวของเธอทำอะไรกับเราไว้” “แต่เรื่องมันก็ผ่านมาถึงห้าปีแล้ว บางทีหนูปรางอาจจะไม่มีส่วนรู้เห็นเลยก็ได้” “ทำไมจะไม่รู้ เพราะปรางปรีญานั่นแหละที่เป็นคนดึงรินรดาเข้ามา จนทำให้ครอบครัวของคณลุงต้องเลิกลากับภรรยา หลานๆของผมกลายเป็นเด็กกำพร้า พวกมันวางแผนการนี้มานานแล้วโดยการส่งปรางปรีญาเข้ามา” อคิราห์พูดด้วยความเจ็บแค้นใจ ไม่คิดว่าครั้งหนึ่งจะเสียรู้ให้กับหญิงสาวหน้าซื่อตาใส “ทุกครั้งที่ปรางปรีญามาบ้านเรา รินรดาก็จะชอบมาด้วย จนแอบไปได้เสียกับคุณลุง งั้นก็แสดงว่ามันสองคนจงใจจะทำเรื่องแบบนี้ตั้งแต่แรก” “เรื่องนั้นพ่อรู้” พรีพลถอนหายใจพรืดใหญ่ด้วยความเหนื่อยใจ เขาเห็นปรางปรีญามาตั้งแต่เด็กๆ รู้ดีว่าหญิงสาวไม่ใช่คนแบบนั้นแน่นอน แต่อคิราห์นี่สิเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น และจำฝังใจไปหมดซะทุกเรื่อง พ่อของปรางปรีญาโกงเงินในบริษัทก็จริง แต่เขาก็ไม่อยากให้เด็กๆทั้งสองต้องเลิกรากันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง เขารู้ว่าอคิราห์เสียใจที่ต้องปล่อยมือจากปรางปรีญา เพราะหลังจากเลิกกันก็เห็นลูกชายควงผู้หญิงเป็นว่า เปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าแทบทุกเดือนเหมือนต้องการจะลืมปรางปรีญา แต่เขาเชื่อว่าต่างฝ่ายต่างก็บาดเจ็บจากความรักเช่นกัน ดูก็รู้ว่าปรางปรีญาก็รักอคิราห์มาก “แต่มันจบไปนานแล้วนะโซ่ พ่อรู้ว่าโซ่ยังไม่ลืมหนูปราง” “ทำไมผมต้องจำ ผมไม่ได้รักปรางปรีญาแล้ว อดีตมันก็คืออดีต ผมไม่มีทางกลับไปรักคนที่หักหลังผมหรอกครับ” “ตั้งแต่เลิกกับหนูปราง พ่อก็ไม่เคยเห็นโซ่คบกับใครจริงๆจังๆสักคน บางครั้งพ่อก็อยากให้ลูกๆทั้งสองกลับมาคบกัน” “ฝันไปเถอะ! ที่ผมเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยๆไม่ใช่เพราะยังรักปรางปรีญา แต่ผมรักสนุกต่างหาก ผู้หญิงแบบนั้นไม่มีทางทำอะไรผมได้หรอก” “ถ้าไม่ได้รักหนูปรางแล้ว งั้นก็เป็นฝั่งเป็นฝาสักที พ่ออยากอุ้มหลาน” “ตอนนี้ผมยังไม่เจอคนที่ใช่ครับ” “ก็หนูแพรขวัญไง พ่อเห็นโซควงเธอออกงานบ่อยๆ แสดงว่าโซ่เลือกคนนี้ใช่ไหม” “…” อคิราห์นิ่งงันทันที เขาคบหากับแพรขวัญได้สองเดือนกว่าๆแล้ว เจอกันครั้งแรกช่วงที่หญิงสาวเดินทางไปออกอีเวนต์ที่ต่างประเทศ ตอนแรกกะว่าจะควงเล่นๆ แต่แพรขวัญดันอยากมีตัวตน ตามไปออกงานกับเขาแทบทุกงาน ทำให้นักข่าวหลายสำนักประโคมข่าวว่าเขากำลังปลูกต้นรักกับแพรขวัญ หลังจากนั้นบรรดาผู้หญิงในสต็อกก็ค่อยๆหายไปทีละคนสองคน กลายเป็นว่าตอนนี้เขากระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ “อย่าบอกนะว่ากับหนูแพรขวัญโซ่ก็ไม่จริงจังเหมือนกัน” “ไม่รู้สิครับ ผมยังไม่พร้อมมีครอบครัว” “ถ้าไม่ได้รัก ไม่ได้จริงจังกับหนูแพรขวัญ ก็อย่าไปให้ความหวังเธอ โซ่ก็รู้ว่าพ่อของหนูแพรขวัญเป็นนักการเมืองระดับประเทศ พ่อไม่อยากมีปัญหากับใคร” พรีพลเตือนด้วยความเป็นห่วงเพราะเขาดูออกว่าแพรขวัญจริงจังกับอคิราห์ แต่ลูกชายของเขานี่สิ ไม่รู้ว่าจะทำตัวเป็นคาสโนว่าไปถึงไหน “ส่วนเรื่องหนูปรางก็เหมือนกัน เรื่องมันจบไปแล้ว พ่อไม่ได้ติดใจอะไรแล้วแหละ” “พ่อจบแต่ผมไม่จบไงครับ” “โซ่คิดจะทำอะไร” “หึ!” มุมปากหยักกระตุกยิ้มชั่วร้าย แววตาคมกริบฉายชัดถึงความเกลียดเข้ากระดูกดำ “ก็แค่จะสั่งสอนให้มันรู้ซะบ้าง ว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก” “แต่เราเป็นคนเลิกกับน้องไม่ใช่หรอ พ่อรู้ว่าหนูปรางเองก็เสียใจเหมือนกันที่เลิกกับโซ่….โซ่เป็นฝ่ายทิ้งเธอก่อนนะ” “ที่ผมต้องเลิกกับเธอเพราะอะไรพ่อก็น่าจะรู้ดี ปรางปรีญาไม่ได้รักผม เธอคบกับผมเพื่อผลประโยชน์ ผมได้ยินเต็มสองหูว่าเธอไม่ได้รักผมเลย….ไม่ได้รักตั้งแต่แรก!” “ไม่เชื่อ พ่อไม่เชื่อเด็ดขาดว่าหนูปรางไม่ได้รักโซ่ ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่ๆ” “คนที่รู้เรื่องนี้ดีที่สุดก็คือตัวผมเอง...” อคิราห์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างคับแค้นใจ “ไม่มีใครรู้ว่าเหตุการณ์ในคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีแค่ผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้” เพราะมันคือวันที่ทำให้เขาต้องปล่อยมือจากปรางปรีญาทั้งๆที่ยังรักเธอหมดหัวใจ เธอไม่ใช่ผู้หญิงใสซื่ออย่างที่หลายคนคิด เบื่องหลังคงไม่ต่างอะไรจากนางมารร้าย ใช้หน้าตาหลอกล่อให้ผู้ชายหลงกล ….และหนึ่งในนั้นก็คือเขา “โซ่อย่าไปทำน้องเลยนะ เรื่องมันก็จบมานานแล้ว น้องเองก็เจ็บเหมือนกัน” “แต่คนที่เจ็บมากกว่าก็คือผม” ดวงตาแดงก่ำตวัดมองคนเป็นพ่อ พร้อมกับเอ่ยเสียงสั่นเครือออกมาอย่างคับแค้นใจ “ผมจะทำให้เธอเจ็บเหมือนที่ผมเคยเป็น!!” --------------------50 รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง@เช้าวันถัดมาปรางปรีญารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบร่างของอคิราห์ยืนกวาดเศษใบไม้อยู่หน้าบ้าน นี่มันบ้านของเธอนะ เขามีสิทธิ์อะไรมายุ่งวุ่นวาย เพราะนี่มันไม่ใช่ที่ของเขา“ตื่นแล้วหรอ” อคิราห์ที่ยืนกวาดเศษใบไม้อยู่หน้าบ้าน เงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้หญิงสาวที่กำลังยืนตาจ้องเขม่งอยู่บนบ้านเมื่อวานเห็นว่าเศษใบไม้กองอยู่ที่หน้าบ้านของปรางปรีญาเยอะมาก วันนี้เลยตั้งใจตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำความสะอาดหน้าบ้านให้เธอ เผื่อมีสัตว์มีพิษซุกอยู่ในกองใบไม้ ปรางปรีญาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามไม่สนใจอีกฝ่ายและกำลังจะก้าวลงจากบ้านเพื่อไปเก็บดอกไม้ ด้วยความหวังดี อคิราห์รีบวางไม้กวาดและกำลังจะก้าวเข้าไปประคองร่างเล็กลงมาจากบันได ขันทองที่อยู่ในมือของปรางปรีญาก็ขว้างมาโดนศีรษะของเขาอย่างแรงปึก!“โอ้ยย!! ปรางตีพี่ทำไม”“ฉันเดินเองได้ ไม่ต้องมายุ่ง!” ปรางปรีญากระแทกเสียงใส่ อคิราห์จำเป็นต้องก้าวหลบออกจากบันไดเพื่อให้หญิงสาวเดินลงได้สะดวก ปรางปรีญาเดินไปก้มเก็บขันที่เพิ่งเขวี้ยงใส่คนหน้าด้านขึ้นมา แล้วเดินหลบไปยังสวนดอกไม้ แต่อคิราห์ก็ยังไม่ลดละความพยายาม เดินตา
49 เธอเปลี่ยนไปอคิราห์รีบหอบเอาร่างอันแสนบอบช้ำกลับมาที่บ้านพัก ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพมีรอยแดงเพราะถูกน้ำร้อนลวก ปรางปรีญาเล่นสาดน้ำร้อนใส่เหมือนเขาเป็นหมาเลย โชคดีที่โดนแค่ท่อนแขน ไม่อย่างนั้นคงเสียโฉมไปแล้ว ปรเมศที่นั่งรออคิราห์อยู่ที่หน้าบ้าน ตกใจเมื่อเห็นพื่อนสนิทกลับมาในสภาพไม่ปกติ“นะ...นั่นมึงไปทำอะไรมา ทำไมถึงได้กลับมาในสภาพ...เอ่อ...เหมือนหมาถูกน้ำร้อนลวก”“เมียกูเอาน้ำร้อนสาด” เขาตอบสั้นๆ แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หวายบริเวณหน้าบ้าน กว่าจะพาตัวเองกลับมาได้ ทุลักทุเลพอสมควร ตอนนี้อาการปวดแสบปวดร้อนเริ่มปะทุขึ้น ท่อนแขนบวมแดงคล้ายกำลังจะพุพอง“ไปทำอีท่าไหนเขาถึงสาดน้ำร้อนใส่”“ก็แค่บุกเข้าไปในบ้านเขาเฉยๆ ไม่คิดว่าปรางปรีญาจะกล้าทำขนาดนี้”“โชคดีแค่ไหนแล้วที่น้องเขาไม่สาดใส่หน้ามึง ไม่งั้นคงได้บินไปศัลยกรรมที่เกาหลี แต่จะว่าไป สาดใส่หน้าก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องเอาหน้าหล่อๆไปหลอกฟันใครอีก”“พอเถอะ แค่นี้กูก็เจ็บปวดมากพอแล้ว อย่าให้กูต้องเจ็บกับคำพูดของมึงอีกเลยเพื่อน”“มึงรู้อะไรไหม กูโครตสะใจเลยที่มึงโดนซะบ้าง ปากเก่งมาตั้งนาน สุดท้ายเอาตัวไม่รอด” ปรเมศเค้นหัวเราะออกมาเ
48 มาทางไหนกลับไปทางนั้น“นี่มันอะไร” ปรางปรีญามองจดหมายฉบับนั้นด้วยความงุนงง แต่ก็พอจะเดาออกว่าเป็นลายมือของใคร“น้าของปรางเขียนจดหมายฉบับนี้ไว้ก่อนที่ท่านจะเสีย”ปรางปรีญารับจดหมายไปไล่อ่านด้วยความตกใจ เนื้อหาในจดหมายบอกถึงค่ำคืนที่เธอได้ไปขอร้องให้รินรดาเลิกยุ่งกับราเชษ“แสดงว่าคืนนั้นปรางแค่โกหกน้าดาใช่ไหม ปรางไม่ได้หลอกพี่จริงๆใช่ไหม”“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าวันนั้นฉันพูดอะไรกับน้าดา” ปรางปรีญาเงยหน้าถาม“พอพี่รู้เรื่องน้าดากับอาเชษ พี่ตั้งใจขับรถไปหาปรางที่บ้านเพราะอยากไปถามให้แน่ใจ แต่พี่ดันไปได้ยินเรื่องที่ปรางพูดกับน้าดาพอดี”“คืนนั้น…คุณไปหาฉันที่บ้านหรอ” ปรางปรีญาส่งจดหมายกลับ พร้อมเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าวันนั้นอคิราห์ไปหาเธอที่บ้าน“ใช่ พี่ตั้งใจไปหาปราง และพี่ก็ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดที่ปรางคุยกับน้าดา ตอนนั้นพี่เสียใจมากที่ได้ยินเรื่องแบบนี้ พี่นั่งร้องไห้อยู่เงียบๆคนเดียว ทั้งๆที่พี่ควรจะเดินเข้าไปถามปราง แต่พี่ก็ดันเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน พอรู้อะไรแบบนั้นมันก็เริ่มทำให้พี่มองปรางเปลี่ยนไป”“…” ปรางปรีญานิ่ง ยืนฟังอีกฝ่ายด้วยสีหน้านิ่งเรียบไร้ความ
47 ดวงใจดวงเดิมก็อก…ก็อก…เสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะการนอนของอคิราห์ ชายหนุ่มลืมตาขึ้น พลิกตะแคงร่างด้วยความหงุดหงิดเพราะเมื่อสักครู่กำลังนอนหลับฝันหวาน…ฝันว่าได้นอนกอดปรางปรีญากับลูกอคิราห์หยัดกายลุกขึ้นนั่ง ถอนหายใจพรืดใหญ่ ยกมือขยี้ผม สีหน้าบอกบุญไม่รับ เขาไม่อยากเปิดประตูออกไปแล้วเจอภาพของปรเมศกำลังจู๋จี๋กับศรุตา เพราะมันทำให้เขาคิดถึงปรางปรีญามากขึ้นจนไม่อาจทนดูภาพพวกนั้นได้ทำไมถึงไม่มีเมียให้นอนกอดแบบนี้บ้าง เห็นแล้วก็นึกอิจฉาไม่ได้จริงๆ“อะไร” อคิราห์เปิดประตูออกมา ตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ“กูมีข่าวดีจะบอก”“ข่าวอะไรของมึง”“เดี๋ยวให้ตาเป็นคนบอกดีกว่า”“ถ้างั้นพวกมึงก็กลับไปเถอะ ขัดจังหวะการนอนของกูจริงๆ” อคิราห์ปิดประตูใส่ แต่ถูกปรเมศดึงกลับมาเหมือนเดิม “ไหนมึงบอกว่าอยากเจอเมีย”“ก็อยากเจอ แต่มันไม่เจอไง”“แล้วถ้าเจอล่ะ”“มึงว่าอะไรนะ” อคิราห์ถามกลับอย่างรวดเร็ว“วันนี้ตาไปเดินตลาดแล้วบังเอิญเจอปรางปรีญา”“ว่ายังไงนะ ทะ…ที่ไหน!!” อคิราห์ตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่ หัวใจที่เคยห่อเหี่ยวไปนานถึงเจ็ดเดือนกลับมาเต้นโครมครามอีกครั้ง “ท้ายหมู่บ้าน”อคิราห์เดินทางมาที่บ้า
46 บังเอิญเจอ ปรเมศใช้เวลาขับรถแค่สองชั่วโมงนิดๆ ในที่สุดก็มาถึงจังหวัดกาญจนบุรี ศรุตาที่ตอนนี้ท้องแก่ใกล้คลอดเดินออกจากบ้านพักตากอากาศเพื่อมารอรับสามีกับเพื่อนสนิทอย่างอคิราห์ อคิราห์ก้าวลงจากรถพร้อมกันกับปรเมศ ศรุตารีบวิ่งเข้ามาสวมกอดสามี ทำให้ชายหนุ่มไม่สามารถทนดูภาพนั้นต่อได้ รีบเบือนหน้าหนีด้วยความเจ็บปวดหัวใจเพราะมันทำให้เขานึกถึงปรางปรีญาทุกทีที่เห็น ศรุตากับปรางปรีญาน่าจะตั้งท้องไล่เลี่ยกัน ป่านนี้ก็คงท้องแก่ใกล้คลอดแล้วไปอยู่ที่ไหนกันนะปรางปรีญา ฉันอยากดูแลเธอกับลูกเหลือเกิน“ลมอะไรหอบโซ่มาถึงที่นี่” ศรุตาเอ่ยแซวเพื่อนสนิท หล่อนได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของสามี ไม่คาดคิดว่าคาสโนว่าตัวพ่อจะตกอยู่ในสภาพนี้“ไม่รู้สิ อาจจะลมบ้าหมู” เขาตอบด้วยสีหน้าเศร้าๆ พยายามไม่มองศรุตากับปรเมศที่กำลังยืนจู๋จี๋กัน พวกมันจะรู้หรือเปล่าว่าเขาไม่อยากเห็นภาพนี้ เห็นแล้วเจ็บใจทุกทีเพราะคิดถึงเมีย“ตาคิดว่าโซ่น่าจะเป็นบ้าจริงๆ ดูสภาพโซ่ในตอนนี้สิ ไม่ใช่คุณอคิราห์ที่ตาเคยรู้จักด้วยซ้ำ”“เอาน่า เราอย่าไปตอกย้ำมันเลยนะ” ปรเมศเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเพื่อนสนิท “ผมว่าเราเข้าบ้านกัน
45 มิตรแท้ไม่มีคำว่าปลอบใจ...เจ็ดเดือนต่อมา...“ไงเพื่อน ลมอะไรหอบมึงมาหากูถึงที่นี่” ปรเมศเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่กำลังเดินเข้ามาในบ้าน ช่วงนี้เขากับเพื่อนไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่เพราะอีกฝ่ายงานยุ่ง“ลมคิดถึงเมีย”“เมียคนไหน” ปรเมศชอบแซวแบบนี้เป็นประจำ ใจหนึ่งก็นึกสงสาร อีกใจก็สมน้ำหน้า ทำกับเขาไว้เยอะ ก็ไม่แปลกที่เขาจะไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา“เมียกูมีคนเดียวเว้ย!”“ไม่รู้สิ ตอนนั้นเห็นมึงคบหลายคน”“อย่าเพิ่งกวนประสาทกูไอ้เมศ ตอนนี้กูอารมณ์ไม่ค่อยดี” อคิราห์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตรงข้ามกับปรเมศ ก่อนจะยกมือก่ายหน้าผากเหมือนคนหมดอาลัยกับชีวิต ปรเมศเห็นภาพนี้จนชินแล้ว บางวันก็เมาหัวราน้ำจนคนในครอบครัวเอื้อมระอา เพราะพักหลังๆอคิราห์แทบไม่เป็นผู้เป็นคน “กูก็เห็นมึงอารมณ์ไม่ดีทุกวันนั่นแหละเพื่อน”“จะไปอารมณ์ดีได้ยังไง นี่ก็ผ่านมาเกือบเจ็ดเดือนแล้ว กูยังหาเมียไม่เจอเลย”“แล้วนักสืบที่มึงจ้างวานว่ายังไงบ้าง”“ไม่เจอ ทั้งๆที่เป็นนักสืบฝีมือดีที่สุดของเมืองไทย แต่ทำไมถึงยังหาปรางปรีญาไม่เจอวะ”“กูเคยบอกมึงแล้วไงเพื่อน ถ้าเชื่อกูตั้งแต่ตอนนั้น มึงก็คงไม่เสียปรางปรีญาไปแบบนี้หรอก ตอนมี







