พายุไม่ได้รอฟังว่าเหนือเมฆจะตอบอะไรกลับมาเพราะเขาเพียงพูดในสิ่งที่ควรพูดเท่านั้น
ทันทีที่มาถึงโรงพยาบาลพายุก็ใช้หน้าที่การงานของตัวเองติดต่อคุณหมอเฉพาะด้านเพื่อจะได้ตรวจร่างกายของพราวดาวอย่างละเอียด
“ผลเอกซเรย์ได้แล้วค่ะคุณหมอ” นางพยาบาลยื่นผลตรวจร่างกายพราวดาวมาให้พายุซึ่งจากผลตรวจไม่พบความผิดปกติใดๆ นอกจากอาการบาดเจ็บที่ขาที่ยังไม่หายดี
“แปลก...”
“อะไรที่ว่าแปลกเหรอคุณหมอ” คุณหมอวัยวุฒิสูงกว่าและเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองโดยตรงเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายหลุดประโยคลอยๆ ออกมาอย่างใช้ความคิด
“ผมขอปรึกษาอะไรคุณหมอหน่อยได้ไหมครับ” สีหน้าของพายุมีความลำบากใจฉายชัด สิ่งที่เขากำลังจะพูดเป็นเรื่องส่วนตัวของดาราดังที่จะให้คนอื่นรู้ไม่ได้เพราะอาจจะกระทบกับงานหรือชื่อเสียง คุณหมอผู้มีทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิสูงกว่ารู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายจะพูดเรื่องสำคัญจึงได้สั่งให้พยาบาลออกไปรอด้านนอก
“ทีนี้มีอะไรก็ว่ามาเลย” เจ้าของห้องเอ่ยอย่างเป็นกันเอง แม้งานในโรงพยาบาลจะล้นมือแต่เรื่องข่าวสารบ้า
พายุคือคนที่คอยอยู่ข้างพราวดาวเสมอเรื่องนี้เหนือเมฆรับรู้มาโดยตลอดแม้ว่าพวกเขาทั้งสามคนจะเติบโตมาด้วยกันแต่ถ้าเทียบกันแล้วพายุดูจะเข้าอกเข้าใจพราวดาวมากกว่าเพียงแต่ช่วงหลังๆมานี้คนสายตาเฉียบคมอย่างเจ้าของบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่รู้สึกว่าอีกฝ่ายจะดูเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนเกินขอบเขต ถ้าไม่รู้ว่าผู้หญิงที่พายุมีใจให้คือน้ำค้างแม่เลขาหน้าห้องของเขาคงจะคิดว่าคุณหมอแอบมีใจให้คนไข้แน่ๆและถ้ามันเป็นอย่างที่ชายหนุ่มคิดเล่นๆล่ะก็…ยังนึกภาพไม่ออกเลยว่าลิ้นกับฟันจะเข้ากันด้วยวิธีไหน“เอางั้นก็ได้” อ่ะอ้าว! แม่นักเขียนได้แต่โอดครวญอยู่ในใจเพราะดันคาดหวังไว้สูงว่าพ่อพระเอกของเธอจะยืนยันที่จะไปส่งให้ได้“คุณพยาบาลครับ” พายุส่งเสียงออกไปด้านนอกนางพยาบาลจึงรีบขานรับพร้อมกับยืนรอคำสั่ง“ช่วยพาญาติคนไข้ออกไปด้วยครับตอนนี้คนไข้ของผมจำเป็นต้องพักผ่อน” พายุถือโอกาสใช้ตำแหน่งหน้าที่ไล่เหนือเมฆให้กลับทางอ้อม จนเจ้าของบริษัทต้องหมายหัวคุณหมอผู้ถืออำนาจเด็ดขาดเอาไว้ก่อนจะหันไปพูดกับดาราสาวคนสนิทพร้อมกับเล่นหูเล่นตา&ldqu
แม้จะพยายามเข้าข้างตัวเองทั้งปัดความรับผิดชอบไปให้เจ้าของร่างกายแต่หากคิดตามหลักความเป็นจริงแล้วตัวละครอย่างพราวดาวที่เธอเป็นคนยัดเยียดอุปนิสัยเองกับมือ ไม่มีทางจะทำเรื่องแบบนี้กับพายุอย่างแน่นอนครั้นจะให้ยอมรับออกไปว่าเธอเองที่ยอมให้เขาจูบอย่างว่าง่ายแถมยังเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบในตอนนั้น มันก็เสียชั้นเชิงน่ะสิ“อย่าบอกนะว่าเธอจะปฏิเสธ” คิ้วหนาขมวดขึ้นขณะชั่งใจ เขาเป็นฝ่ายเริ่มก่อนก็จริงแต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธเขาไม่ใช่เหรอ“ใช่ ฉันขอปฏิเส…” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างพร้อมกันนั้นเสียงหวานก็ถูกกลืนหายกลับลงไปในลำคอเมื่อริมฝีปากหนากดทับริมฝีปากอิ่มแนบแน่นทั้งยังสอดลิ้นเข้าไปตักตวงเอาความหวานหอม ราวกับทุกอย่างที่อยู่ในโพรงปากเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวความรู้สึกคุ้นเคยนี่มันอะไรกันแน่นะ“พ่ะ…พอ” นีรชาฉวยจังหวะชั่วอึดใจที่พายุถอนริมฝีปากออกไปสั่งให้เขาหยุดการกระทำอันจาบจ้วงนี้ทว่าเจ้าของนัยน์ตาสีรัตติกาลเพียงแค่อยากรู้อะไรบางอย่างพอถูกสั่งให้หยุดคำพูดไม่รื่นหูจึงถูกกลืนหายอีกครั้งเปลือกตาสวยปิดลง
พายุไม่ได้รอฟังว่าเหนือเมฆจะตอบอะไรกลับมาเพราะเขาเพียงพูดในสิ่งที่ควรพูดเท่านั้นทันทีที่มาถึงโรงพยาบาลพายุก็ใช้หน้าที่การงานของตัวเองติดต่อคุณหมอเฉพาะด้านเพื่อจะได้ตรวจร่างกายของพราวดาวอย่างละเอียด“ผลเอกซเรย์ได้แล้วค่ะคุณหมอ” นางพยาบาลยื่นผลตรวจร่างกายพราวดาวมาให้พายุซึ่งจากผลตรวจไม่พบความผิดปกติใดๆ นอกจากอาการบาดเจ็บที่ขาที่ยังไม่หายดี“แปลก...”“อะไรที่ว่าแปลกเหรอคุณหมอ” คุณหมอวัยวุฒิสูงกว่าและเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองโดยตรงเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายหลุดประโยคลอยๆ ออกมาอย่างใช้ความคิด“ผมขอปรึกษาอะไรคุณหมอหน่อยได้ไหมครับ” สีหน้าของพายุมีความลำบากใจฉายชัด สิ่งที่เขากำลังจะพูดเป็นเรื่องส่วนตัวของดาราดังที่จะให้คนอื่นรู้ไม่ได้เพราะอาจจะกระทบกับงานหรือชื่อเสียง คุณหมอผู้มีทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิสูงกว่ารู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายจะพูดเรื่องสำคัญจึงได้สั่งให้พยาบาลออกไปรอด้านนอก“ทีนี้มีอะไรก็ว่ามาเลย” เจ้าของห้องเอ่ยอย่างเป็นกันเอง แม้งานในโรงพยาบาลจะล้นมือแต่เรื่องข่าวสารบ้า
“อยู่ที่นี่กันเองเหรอคะพอดีว่าใกล้จะได้เวลาแล้วไม่ทราบคุณหมอพร้อมหรือยังคะ” ในสถานการณ์อันน่าอึดอัดใจปกคลุมทั่วทั้งบริเวณนี้นุชจรีก็เดินมาตามคนสองคนที่พึ่งทำเรื่องอย่างนั้นกันจึงต้องรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ“พร้อมแล้วครับ”“งั้นเชิญคุณหมอกับน้องพราวเลยนะคะ” นุชจรีสังเกตเห็นว่าทั้งคู่มีอากัปกิริยาแปลกๆ แต่เธอก็ไม่ได้คิดจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว พนักงานสาวเดินนำทั้งคู่จนมาถึงสถานที่ถ่ายทำทีมงานของเหนือเมฆจัดฉากทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้วแต่เมื่อเห็นพรีเซนเตอร์ดาราดังกลับเข้ามา ทุกคนก็พากันทำสีหน้าลำบากใจ เนื่องจากสิบนาทีก่อนหน้านี้ลูกค้าพึ่งจะโทรมาแจ้งผ่านตัวแทนที่ส่งมาดูการถ่ายทำโฆษณาว่าอยากให้พราวดาวเดินพรีเซนต์เพื่อให้เข้ากับสรรพคุณอวดอ้างของตัวยา จากทีแรกแค่ให้ยืนพูดและนั่งคุยกับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ“ลูกค้าอยากให้เน้นเดิน” เนตรนภาเดินเข้ามาหาพราวดาวด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจนัก“อ้าว เหรอคะ”“แค่เนี๊ยเหรอ” คนนิสัยอย่างพราวดาวน่าจะต้องโวยวายหรือต่อว่าอะไรบ้างเพราะการปรับเปลี่ยนที
“ฉันไม่ใช่…” เมื่อรู้ตัวว่าเผลอหลุดปากในสิ่งที่ไม่ควรพูดแม้นักเขียนก็ถึงกับใบ้รับประทาน“ไม่ใช่อะไร” มีบางอย่างที่ทำให้พายุเกิดความคืบแคลงสงสัย หลายครั้งที่เขารู้สึกว่าพราวดาวดูเปลี่ยนไปจากเดิม"ว่าไงเธอไม่ใช่อะไร" สายตาคมจ้องอย่างคาดคั้นในขณะที่นีรชาไม่ต่างจากคนที่วิ่งเข้าหาทางตันของกำแพงสูงชัน อะไรกัน เธอกำลังจะถูกพายุรู้ความจริงเข้าแล้วเหรอ!ราวกับโชคเข้าข้างเมื่อคนหลุดมาจากอีกมิติถึงทางตันพระเอกนิยายของเธอก็เปิดประตูเข้ามาช่วยชีวิตโดยมีหญิงสาวร่างเล็กหน้าตาสะสวยคนหนึ่งตามมาด้วย“เห็นคนของฉันบอกว่าให้นายมาท่องบทในนี้ฉันเลยเข้ามาดูเผื่อมีอะไรให้ช่วย” อยากจะคิดแบบนั้นแต่เท่าที่สายตาแหลมคมมองเข้ามาภายในห้องเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิ“ไม่ต้องถึงมือเจ้าของบริษัทอย่างนายหรอกเรื่องพวกนี้ฉันขอให้พราวช่วยแล้วและพราวก็ช่วยฉันได้เยอะด้วย” แม้ว่าเหนือเมฆรู้เรื่องแกล้งเป็นแฟนกันของทั้งคู่แต่พายุก็อยากแสดงให้เห็นว่าเขากับพราวดาวยังสนิทกันดีไม่สิ เขากำลังบอกว่าระหว่างเขากับพราวดาวยังราบรื่นดี
"พ่ะ...พายุ" เสียงหวานเอ่ยขึ้นในลำคอเบาๆ กว่าหลายวินาที่นีรชามองไปที่อีกฝ่าย ตั้งแต่วันแถลงข่าวและวันที่ถูกพายุมัดมือชกให้ทำสัญญาเป็นแฟนวันนี้เป็นวันแรกที่ทั้งคู่ได้เจอกันแต่ก็ใช่ว่าแม่นักเขียนสาวในร่างพราวดาวสวยสง่าจะดีอกดีใจเนื้อเต้นเพราะคนที่เธออยากเห็นหน้าจวนใจจะขาดรอนๆ คือบอสหนุ่มสุดหล่ออย่างเหนือเมฆต่างหาก"นี่มันอะไรกันคะคุณเอกอย่าบอกนะว่าคุณหมอที่คุณบอกเมื่อกี้คือคุณหมอพายุ" เนตรนภาได้พูดแทนความสงสัยของนีรชาไปหมดแล้วแม้จะเทียบไม่ได้กับอาการตกใจของเธอ"ใช่ครับ คุณหมอพายุเป็นหมอคนนึงที่ร่วมในการวิจัยผลิตภัณฑ์ยาดังนั้นคุณพราวไม่ต้องกังวลเลยนะครับว่าจะกระทบชื่อเสียงเพราะผมได้ข่าวมาว่าคุณหมอพายุเก่งไม่แพ้คุณหมอไพโรจน์เสียที่อายุน้อยกว่า ทำงานกับแฟนอาจจะเกร็งๆ หน่อยนะครับ" ประโยคหลังเหมือนครีเอทีฟหนุ่มจงใจจะพูดให้พราวดาวได้ยินคนเดียว"ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องเสียเวลานะครับ" ทันทีที่ก้าวมาหยุดอยู่เบื้องหน้าของทุกคนด้วยความมีมารยาทเป็นทุนเดิมพายุจึงโค้งศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อกล่าวขอโทษทีมงานเป็นอันดับแรกคุณหมอผู้สง่าผ่าเผยเดินผ่านครีเอทีฟหนุ่มไปยืนข้างกายดาราสาวคนสนิทซึ่งดูเหมือนว่าแม่ดา