ด้านนักข่าวสายบันเทิงพอรู้ว่าพราวดาวฟื้นก็มารอทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาข่าวดาราสาวประสบอุบัติเหตุ ถูกจับตามองเป็นอย่างมากเพราะมีคนในปล่อยข่าว
สาเหตุที่ทำให้ดาวร้ายเกือบเอาชีวิตไม่รอดเป็นเพราะเข้าไปเป็นมือที่สามระหว่างเจ้าของบริษัทโฆษณาชื่อดังกับเลขาคนสนิท
การพาดหัวข่าวเป็นไปในทางด้านลบมากกว่าจะเป็นการเห็นอกเห็นใจที่ดาราสาวประสบอุบัติเหตุคราวนี้ เพราะผู้ชายที่ถูกดึงเข้ามาเป็นต้นเหตุมีคนรักอยู่แล้วแต่คนที่กลุ้มใจเห็นจะมีแค่ผู้จัดการส่วนตัวเท่านั้น
เนตรนภาต้องคอยตอบคำถามนักข่าวตั้งแต่วันแรกที่พราวดาวเข้าโรงพยาบาลแถมยังต้องคอยรับสายแก้ต่างจากเจ้าของโฆษณาหลายตัวที่พราวดาวเป็นพรีเซนเตอร์อยู่
"โอ๊ยอะไรกันนักกันหนา"เนตรนภาทิ้งตัวลงเก้าอี้พลางถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ตั้งแต่เช้าแล้วกระมังที่เธอรับโทรศัพท์ไม่ได้หยุดหย่อน ใจหนึ่งก็อยากจะต่อว่าให้คนของตัวเองแต่นิสัยดื้อรั้นอย่างพราวดาวพูดไปก็เหมือนละลายน้ำพริกลงแม่น้ำ
นับตั้งแต่วันที่เนตรนภาเข้ามารับหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวพราวดาวเชื่อฟังเธอมาตลอดยกเว้นก็แต่เรื่องของเหนือเมฆเท่านั้นที่พอคุยกันทีไรแม่ดาราก็ทำเป็นเข้าหูซ้ายออกหูขวา
ที่ทุกครั้งเนตรนภายอมเพราะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวเลยไม่อยากจะตีกรอบมากเกินไปแต่ครั้งนี้เห็นทีเธอจะปล่อยผ่านไม่ได้เสียแล้ว
"กับคุณเหนือน่ะจะเอายังไง" เนตรนภารู้ว่าพราวดาวแค่แกล้งนอนเลยตั้งใจพูดให้ได้ยินโดยที่เธอไม่รู้ว่าความจริงนีรชาที่ได้มาอยู่ในร่างตัวละครในนิยายของตัวเองยังไม่รู้จะจับต้นชนปลายอย่างไรเลยแกล้งทำเป็นหลับใส่
"พราว" น้ำเสียงปนความไม่พอใจทำให้นีรชายอมเอาหน้าที่ซุกอยู่ในผ้าห่มออกมา
เอาวะ ฉันรู้จักพราวดาวดีกว่าใครแค่สวมรอยเป็นๆไปก่อนก็ไม่น่าจะยากเย็นอะไร อย่างน้อยก็ดีกว่าให้บอกความจริงออกไปเพราะพนันเลยว่าไม่มีใครยอมฟังเรื่องเหลือเชื่อแบบนี้แน่นอน
"เดี๋ยวเรื่องก็เงียบเองแหละเชื่อพราวสิ"นีรชาเห็นดาราในโลกของเธอมีข่าวฉาวไม่เว้นแต่ละวันเลยเลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจแต่สถานการณ์ของพราวดาวในตอนนี้เนตรนภาไม่เห็นด้วยที่คนของเธอจะคิดอะไรง่ายๆ
"พี่ว่าพราวต้องแถลงข่าว"
"ถึงกับต้องแถลงข่าวเลยเหรอ" แค่พรีเซ้นงานหน้าห้องให้อาจารย์ฟังยังพูดตะกุกตะกักเลย
"ก็ใช่น่ะสิเห็นเป็นเรื่องเล็กหรือไงเดี๋ยวถ้าคุณหมอพายุมาตรวจพี่จะขอให้พราวออกจากโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด" เนตรนภาออกความเห็นค่อนไปทางคำสั่งคนเอาแต่ใจอย่างพราวดาวอธิบายอะไรไปก็ไม่มีทางฟังหรอก
ทีแรกนีรชาว่าจะไม่ยอมแต่พอนึกว่าถ้าเป็นพราวดาวเธอต้องรีบให้เปิดแถลงข่าวแน่เลยยอมเออออห่อหมก
“ดูนี่”
“อะไรเหรอคะ” นีรชาหลี่ตามองสมาร์ทโฟนที่เนตรนภาส่งให้ดู
“ยังจะถามว่าอะไรอีกก็ผลงานของเธอไง เป็นไงคราวนี้สมใจหรือยัง” ผู้จัดการสาวถามแกมประชด หากพราวดาวไม่หึงหวงจนตามเหนือเมฆไปก็คงจะไม่ต้องมานอนเจ็บตัวแบบนี้และที่แย่ไปกว่า...คือการที่พราวดาวถูกคนในสังคมตราหน้าว่าเป็นมือที่สามของคนอื่น
พอได้ฟังนีรชาถึงนึกขึ้นมาได้ ใช่ เธอเป็นคนวางเนื้อเรื่องว่าให้นางร้ายตามไปขัดขวางความรักของพระเอกนางเอกแต่ใครจะไปคิดว่าบทน้ำเน่าที่วางเอาไว้จะเป็นหลุมขุดฝังตัวเอง
“พราวผิดเองค่ะ” นีรชายอมรับผิดในฐานะที่เธอเป็นคนแต่งนิยายเรื่องนี้ขึ้นมา ป่านนี้ไม่รู้ว่าอรรถพลผู้เป็นพ่อและคนบนโลกความจริงจะเป็นยังไงที่อยู่ๆเธอก็หายตัวมาแบบนี้
“คิดได้ตอนนี้จะช่วยอะไรได้พี่เคยเตือนพราวแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้หยุดแล้วสุดท้ายเป็นยังไงไหนจะนักข่าวอีก รู้ไหมตอนนี้นักข่าวดักรอทำข่าวพราวตั้งแต่เมื่อวานยังไม่ไปไหนเลย” เนตรนภาว่าอย่างหัวเสียตราบใดที่ยังไม่มีการแถลงข่าวเรื่องฉาวโฉ่คงไม่มีทางจบลงง่ายๆ
ในระหว่างที่ทั้งสองคนต่างคนต่างกำลังเครียดประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา
“คุณหมอมาพอดีเลยค่ะ” เนตรภาปรับสีหน้าเป็นรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาคือพายุ ผู้ชายที่เธอแอบรักมาตลอด
“มีอะไรเหรอครับ” เจ้าของร่างสูงเดินตรงมาที่เตียงผู้ป่วยด้วยสีหน้าเรียบเฉยอย่างเคยถึงแม้คุณหมอจะดูออกว่าผู้จัดการของดาราสาวคงจะมีเรื่องทำให้หมออย่างเขาลำบากใจเป็นแน่
“คืออย่างนี้นะคะคุณหมอคือเนตรอยากถามว่าพราวจะออกจากโรงพยาบาลได้วันไหนคะ” ไม่ใช่ว่าเนตรนภาจะไม่เป็นห่วงคนของตัวเอง แต่ตอนนี้อาการโดยรวมของพราวดาวก็ดีขึ้นมากแล้วถึงแม้จะยังเดินเหินไม่สะดวกแต่เธอก็อยากให้พราวดาวกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านมากกว่า
“ถึงภายนอกจะดูไม่ได้เป็นอะไรแล้วแต่ยังจำเป็นต้องพักรักษาตัวอยู่ที่นี่ก่อนครับ” พายุเข้าใจที่เนตรนภาอยากให้พราวดาวออกจากโรงพยาบาล แต่ด้วยจรรยาบรรณของการเป็นศัลยแพทย์และความห่วงใยในฐานะเพื่อนสนิทเขาจึงอยากให้พราวดาวอยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิด
“แต่ว่า”
“รออีกสักอาทิตย์เถอะครับถ้าเห็นสมควรว่าออกได้ไม่ผมจะทำเรื่องออกให้” พายุใช้ความเป็นหมอเจ้าของคนไข้ออกคำสั่งเพราะเขารู้ว่าเนตรนภากำลังจะพูดอะไร แม้ว่าพราวดาวจะรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์แต่อาการโดยรวมก็ยังวางใจไม่ได้อยู่ดี
“วันนี้เป็นยังไงเจ็บหรือรู้สึกผิดปกติรงไหนหรือเปล่า” พายุหันไปถามคนไข้ของเขา นีรชาส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“แล้วขาล่ะเป็นยังไงยังรู้สึกเจ็บเหมือนเมื่อเช้าอยู่ไหม” คุณหมอถามต่อ
“ยังช่วยตัวเองไม่ได้ค่ะเมื่อกี้ไปเข้าห้องน้ำก็ให้เนตรพาไป” เนตรนภาตอบแทนเพราะคนถูกถามเอาแต่ปิดปากเงียบ
“ดูจากอาการแล้วน่าเป็นห่วงนะครับ”
“ทำไมคะหรือว่าคุณหมอตรวจเจอความผิดปกติตรงไหนเหรอคะ” เนตรนภาตกใจที่อยู่ๆพายุก็พูดแบบนี้ การบอกว่าอาการของพราวดาวน่าเป็นห่วงถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนเป็นผู้จัดการส่วนตัว
“ก่อนอื่นเลยผมอาจจะต้องพาไปเช็กสมองอีกทีเพราะปกติเด็กของคุณเนตรต้องพูดมากกว่านี้นะครับ” คุณหมออธิบายพลางจ้องคนไข้
“นี่พายุนายหาว่าฉันเป็นบ้าเหรอ” นีรชาถลึงตาใส่คนเป็นหมอที่สรรหาคำพูดคำจามาว่าให้คนอื่นได้อย่างหน้าตาย
“แบบนี้สิค่อยสมเป็นเธอหน่อย” รอยยิ้มที่ปรากฏมุมปากทำให้คนฟังโมโหมากกว่าเดิม
“ฉันเป็นยังไงไม่ทราบยะ” หากตอนนี้เป็นพราวดาวตัวจริงเสียงจริงก็คงจะถามคำถามเดียวกัน
“ก็เป็นยัยดาราขี้วีนแล้วก็หลงตัวเองไง” พายุวางปลายปากกาจิ้มลงไปที่หน้าผากเล็กส่วนเจ้าตัวนั้นเผยรอยยิ้มที่มุมปากอีกครั้งก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกไปจากห้องทันที
“ไอ้หมอบ้าอย่าให้ฉันหายนะ โอ๊ย” นีรชาลืมว่าตัวเองยังเจ็บอยู่จึงลุกขึ้นกะว่าจะสั่งสอนพระรองของเธอสักหน่อยแต่ร่างกายดันไม่เข้าข้างเอาซะเลย
“ระวังหน่อยสิเดี๋ยวขาก็ได้หักจริงๆหรอก” เนตรนภาว่าอย่างเหนื่อยใจ ทั้งที่เป็นเพื่อนกันแท้ๆแต่พายุกับพราวดาวก็ไม่เคยพูดจากันดีๆเกินสามคำ
หลายวันต่อมาอาการโดยรวมดีขึ้นพายุเลยอนุญาตให้พราวดาวกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้แต่ก็กำชับแล้วกำชับอีกว่าช่วงนี้อย่าพึ่งรับงานโดยเด็ดขาด
ขนาดว่าเนตรนภาปิดข่าวดีแล้วแต่เรื่องที่ดาราสาวออกจากโรงพยาบาลก็รู้ไปถึงหูนักข่าวอยู่ดี เนตรนภาประสานกับทางโรงพยาบาลให้ช่วยพาออกไปเพราะยังไม่อยากให้พราวดาวพูดอะไรก่อนถึงวันแถลงข่าว
เนตรนภาออกอุบายหลอกล่อนักข่าวโดยที่เธอแต่งตัวคล้ายพราวดาวแล้วแยกกันไปอีกทางซึ่งก็ได้ผล...นักข่าวสายบันเทิงจากทั่วทุกสำนักพากันแห่ตามเนตรนภาไป
นีรชาที่อยู่ในร่างพราวดาวหลบออกไปอีกทางโดยการช่วยเหลือของบุคลากรของโรงพยาบาล ดูเหมือนจะราบรื่นแต่พอนีรชาหนีมาถึงตรงทางออกดันไปเจอกลุ่มแอนตี้พราวดาวดักรออยู่
“นั่นไงพราวดาวออกมาโน่นแล้ว ไปเร็ว” หนึ่งในแอนตี้แฟนที่ไม่ชอบพราวดาวตะโกนขึ้นกลุ่มคนเกือบยี่สิบชีวิตจึงกรูเข้าไปแล้วพากันปาไข่ไก่ดิบๆใส่ดาราสาวด้วยความเกลียดชัง พร้อมกับคำด่าทอแรงๆเหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาที จนนีรชาและบุคลากรของโรงพยาบาลอีกสองคนต้านไม่ไหว เนื้อตัวของพราวดาวเลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยกลิ่นคาวของไข่ที่ปาใส่ไม่หยุด
นีรชาไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยว่าคนที่เธอยัดเยียดชีวิตให้เป็นไปตามความต้องการของตัวเองต้องมาเผชิญกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้ ไม่เคยเข้าใจว่าการเป็นคนถูกเกลียด ถูกด่าทอด้วยคำรุนแรงรู้สึกแย่เพียงใด
กระทั่งที่แม่นักเขียนเจอเข้ากับตัวเองถึงรู้ว่ากว่าที่พราวดาวจะผ่านอะไรๆมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ในสายตาของแอนตี้แฟนกลุ่มนี้พราวดาวคือดาราที่ขยันสร้างแต่ข่าวฉาวทำตัวไม่สมกับเป็นคนของประชาชนแต่ที่คนเหล่านี้ทนไม่ได้จนต้องออกมารวมตัวกัน เป็นเพราะพราวดาวทำตัวเป็นมือที่สามของคนอื่นซึ่งเป็นเรื่องอ่อนไหวและเปราะบางที่คนในสังคมทุกวันนี้ยอมรับไม่ได้
“อย่าครับขอร้องหยุดเถอะครับ” บุคลากรของโรงพยาบาลตะโกนห้ามทุกคนแต่คนกลุ่มนี้ก็ไม่ยอมหยุดหนำซ้ำยังพากันรุมดาราสาวมากกว่าเดิมเนื้อตัวของพราวดาวเต็มไปด้วยไข่ดิบเหม็นคาวโดยที่นีรชาไม่สามารถจะตอบโต้หรือมีช่องว่างให้พูดอะไรแก้ต่าง
“ถ้าพวกคุณยังไม่หยุดใช้ความรุนแรงผมจะแจ้งความจับพวกคุณทุกคนข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้แล้ว” ในความชุลมุนวุ่นวายมีเสียงจากใครคนหนึ่งดังขึ้นและประโยคเมื่อครู่ทำให้กลุ่มแอนตี้แฟนของพราวดาวพากันหันไปมองแล้วพบว่าเจ้าของหัวกฎหมายไม่ใช่ใคร
หากแต่เป็นคุณหมอของโรงพยาบาลแห่งนี้หนำซ้ำคนที่ได้ชื่อว่าเป็นศัลยแพทย์ยังเอาตัวเข้ามาบังดาราสาวจนใบหน้าและเสื้อกาวน์สีขาวเปรอะเปื้อนและเหม็นคาวไปหมด
“ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกคุณจะมาทำอะไรได้ตามอำเภอใจและพวกคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาตัดสินคนอื่นจากข่าวมั่วๆพวกนั้นเพราะสิ่งที่พวกคุณทำมันคือการพยายามยัดเยียดความผิดให้ผู้หญิงคนหนึ่งโดยที่พวกคุณยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรด้วยซ้ำเพราะฉะนั้นพราวดาวสามารถเอาผิดพวกคุณได้นะครับแล้วถ้ายังไม่หยุดผมจะแจ้งตำรวจตอนนี้เลย ว่าไงครับ” พายุจ้องไปยังทุกคนสีหน้าและคำพูดที่เต็มไปด้วยหลักกฎหมายของเขาทำให้กลุ่มแอนตี้ยอมหยุด
"ไปกันเถอะ" น้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับพาดาราสาวฝ่าฝูงชนออกมาเนื้อตัวพราวดาวสั่นเทาเพราะตั้งแต่เกิดมานีรชาไม่เคยเจออะไรแบบนี้
"พ่ะ...พายุ" เสียงหวานเอ่ยขึ้นในลำคอเบาๆ กว่าหลายวินาที่นีรชามองไปที่อีกฝ่าย ตั้งแต่วันแถลงข่าวและวันที่ถูกพายุมัดมือชกให้ทำสัญญาเป็นแฟนวันนี้เป็นวันแรกที่ทั้งคู่ได้เจอกันแต่ก็ใช่ว่าแม่นักเขียนสาวในร่างพราวดาวสวยสง่าจะดีอกดีใจเนื้อเต้นเพราะคนที่เธออยากเห็นหน้าจวนใจจะขาดรอนๆ คือบอสหนุ่มสุดหล่ออย่างเหนือเมฆต่างหาก"นี่มันอะไรกันคะคุณเอกอย่าบอกนะว่าคุณหมอที่คุณบอกเมื่อกี้คือคุณหมอพายุ" เนตรนภาได้พูดแทนความสงสัยของนีรชาไปหมดแล้วแม้จะเทียบไม่ได้กับอาการตกใจของเธอ"ใช่ครับ คุณหมอพายุเป็นหมอคนนึงที่ร่วมในการวิจัยผลิตภัณฑ์ยาดังนั้นคุณพราวไม่ต้องกังวลเลยนะครับว่าจะกระทบชื่อเสียงเพราะผมได้ข่าวมาว่าคุณหมอพายุเก่งไม่แพ้คุณหมอไพโรจน์เสียที่อายุน้อยกว่า ทำงานกับแฟนอาจจะเกร็งๆ หน่อยนะครับ" ประโยคหลังเหมือนครีเอทีฟหนุ่มจงใจจะพูดให้พราวดาวได้ยินคนเดียว"ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องเสียเวลานะครับ" ทันทีที่ก้าวมาหยุดอยู่เบื้องหน้าของทุกคนด้วยความมีมารยาทเป็นทุนเดิมพายุจึงโค้งศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อกล่าวขอโทษทีมงานเป็นอันดับแรกคุณหมอผู้สง่าผ่าเผยเดินผ่านครีเอทีฟหนุ่มไปยืนข้างกายดาราสาวคนสนิทซึ่งดูเหมือนว่าแม่ดา
ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเนตรนภาสั่งให้พราวดาวเก็บตัวอยู่แต่ในคอนโดเพราะกลัวว่าถ้าออกไปข้างนอกอาจจะเจอนักข่าวแล้วจะถูกถามถึงเรื่องที่พึ่งให้สัมภาษณ์ไปการเปิดตัวแฟนแบบสายฟ้าแล๊บทำเอาทั้งคนในและนอกวงการต่างก็พากันพูดถึงส่งผลให้ภาพลักษณ์ของพราวดาวดีขึ้นแต่ก็ยังมีกระแสด้านลบอยู่บ้างโดยเฉพาะกลุ่มแอนตี้ที่ก่อนหน้านี้เคยบุกไปทำร้ายดาราสาวถึงโรงพยาบาลพวกเขาพากันขุดคุ้ยหาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าระหว่างพราวดาวกับคุณหมอที่ทำตัวเป็นพระเอกขี่ม้าขาวแท้ที่จริงแล้วก็แค่การเล่นละครฉากหนึ่ง“พรุ่งนี้พี่จะมารับตอนสิบโมงนะ” เนตรนภาเห็นสมควรว่าพราวดาวคงต้องกลับมารับงานได้แล้วหลังจากที่พักรักษาตัวมาเป็นเดือน แม้ว่าดาราดังอย่างเธอจะทำประกันอุบัติเหตุเอาไว้แต่ก็ยังมีส่วนต่างที่ต้องจ่ายเพิ่มเนตรนภาเลยให้พราวดาวหยุดงานนานกว่านี้ไม่ได้เพราะพราวดาวยังต้องผ่อนคอนโดผ่อนรถไหนจะต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว“ไปไหน”“ก็ไปทำงานไง” เนตรนภาตวัดสายตาด้วยสีหน้าประหลาดใจ หรือพราวดาวจะยังไม่พร้อมทำงาน ผู้จัดการสาวจึงได้นั่งลงถาม“ไหนว่าขาดีขึ้นเยอะแล้วไงพี่ก็เห็นพราวเดินเองได้แล้วนี่” งานที่ต้องไปถ่ายพรุ่งนี้เป็นโฆษณาตัวหนึ่งซึ่งเ
“อะไรนะ” นีรชาไม่คิดว่าคุณหมอพายุผู้ไร้เล่ห์เหลี่ยมจะใช้วิธีการเจ้าเล่ห์แบบนี้มัดมือชก พ่อพระรองผู้แสนดีไม่มีพิษมีภัยเห็นทีจะเป็นแค่ตัวละครไร้ตัวตนที่อยู่ในนิยายซะล่ะมั้งแต่ในขณะที่นีรชากำลังจะโวยวายต่อประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาโดยเจ้าของบริษัทโฆษณาอย่างเหนือเมฆ เขาตั้งใจจะมาพูดเรื่องการแถลงข่าววันนี้ นีรชาเห็นเหนือเมฆมาเลยรีบซ่อนสัญญาเข้าไปไว้ใต้หมอนเพราะไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้โดยเฉพาะพ่อพระเอกในฝันของเธอแม้ว่าการเป็นแฟนกันหลอกๆระหว่างเธอกับพายุอาจจะปกปิดคนใกล้ชิดได้ยากแต่เธอก็ไม่อยากให้เหนือเมฆหรือแม้แต่ผู้จัดการส่วนตัวรู้เรื่องสัญญาอยู่ดี“ฉันพึ่งได้ดูข่าวเธอแล้วก็รีบมาเลย” ประธานหนุ่มหรือพ่อพระเอกของแม่นักเขียนเปิดประตูเข้ามาด้วยท่าทางร้อนใจแต่ก่อนจะพูดธุระสำคัญสายตาก็ไปปะทะเข้ากับสายตาของพายุแม้การอยู่ของอีกฝ่ายไม่ได้ทำให้เขาแปลกใจเท่าไหร่แต่คุณหมอผู้ที่ปกติแล้วจะงานรัดตัวทั้งวันไม่น่าจะมีเวลามานั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ห้องคนอื่น แต่เรื่องที่ทำให้เขาทั้งคู่จ้องหน้ากันนิ่งราวกับกำลังส่งกระแสจิตคงจะเป็นสาเหตุมาจากประเด็นร้อนที่พึ่งเกิดขึ้นวันนี้“แกอยู่ด้วยก็ดีแล้ว” เหนือเมฆเป็นฝ่ายเ
“สัญญาการเป็นแฟนหลอกๆ ระหว่างฉันกับเธอไง” ใช่ว่าจะไม่เข้าใจแต่ที่เธอต้องหันไปถามเป็นเพราะข้อความที่พายุอ้างว่าเป็นสัญญามันดูจะริบรอนอิสรภาพเกินไป“สัญญาเนี่ยนะ”“ใช่ สัญญาลองอ่านดูสิ” นีรชาถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะก้มลงอ่านข้อความเหล่านั้นให้ถี่ถ้วน“ข้อหนึ่ง ฝ่ายเอสามารถมานอนค้างห้องของฝ่ายบีได้อย่างน้อยอาทิตย์ละสองครั้งข้อสอง ฝ่ายเอสามารถไปหาเวลาที่ฝ่ายบีไปทำงานได้ทุกที่อย่างไม่มีข้อยกเว้นข้อสาม เวลาอยู่ในที่สาธารณะฝ่ายบีต้องวางตัวหรือปฏิบัติเสมือนฝ่ายเอเป็นคนรัก ข้อนี้หมายรวมถึงความใกล้ชิดอย่างเช่นการจับมือ หอมแก้ม โอบกอด หากมากกว่านี้ต้องขึ้นอยู่ที่ความเหมาะสมและความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายหรือขึ้นอยู่กับสถานการณ์บังคับข้อสี่ หากฝ่ายบีจะไปหาฝ่าเอในที่ทำงานสามารถไปได้ทุกเมื่อแต่ฝ่ายบีจะต้องมีสิ่งของติดมือไปด้วย ของสิ่งนั้นจะเป็นอะไรแล้วแต่ฝ่ายบีจะเห็นสมควรข้อห้า หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตกหลุมรักอีกฝ่ายจะถือว่าสัญญาฉบับนี้เป็นโมฆะซึ่งจะมีผลบังคับใช้ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงข้อหก สัญญาฉบับนี้มีอายุหกเดือนนับจากวันที่ทำสัญญาหลังจากครบหกเดือนทั้งสองฝ่ายจะเป็นอิสระโดยลดสถานะกลับไปเป็นเหมือนเดิม
“นายเป็นบ้าเหรอพายุทำไมถึงบอกว่าคบกับพราวดาวอยู่” พอพ้นสายตาของนักข่าวนีรชาก็ต่อว่าให้พระรองของเธอไปทันทีและเป็นคำพูดที่ออกมาจากความรู้สึกตัวเองไม่ใช่ต่อว่าแทนเจ้าของร่าง“ฉันก็ช่วยเธอไง” พายุเข้าใจที่ถูกอีกฝ่ายต่อว่าจึงตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“ช่วย ช่วยให้เรื่องมันวุ่นวายกว่าเดิมน่ะสิ” นีรชายังคงใช้อารมณ์ ที่แม่นักเขียนเป็นห่วงไม่ใช่เรื่องโกหกนักข่าวแต่เธอเป็นห่วงเนื้อเรื่องในนิยายมากกว่าเพราะพล็อตเรื่องที่วางเอาไว้พระรองผู้อ่อนโยนและแสนดีอย่างพายุจะต้องอยู่อย่างไร้คู่ไปตลอดชีวิตหรือต่อให้เขาคิดอยากมีคู่ขึ้นมาก็ต้องเป็นผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่นางร้ายของเธอแต่หากจะพูดให้ถูกประเด็นเรื่องที่ทำให้แม่นักเขียนร้อนใจจนต้องแสดงอาการโวยวายเป็นเพราะตัวเองดันมาอยู่ในร่างของพราวดาวต่างหากโอกาสทองที่จะได้ใกล้ชิดสนิทสนมชายหนุ่มในฝันอย่างเหนือเมฆ ไม่จบเห่หรอกเหรอ“ฉันเนี่ยนะทำให้เรื่องมันยุ่งกว่าเดิม” พายุชี้หน้าตัวเองเมื่อยัยดาราเอาแต่โทษเขาไม่หยุด“ก็ใช่น่ะสินายไปบอกนักข่าวแบบนั้นทำไม รู้ไหมว่าหลังจากนี้ไปนายจะถูกดึงเข้ามาในชีวิตของพราว….เอ่อ...ของฉัน” นีรชาร้อนใจเกือบจะเผลอพูดชื่อนางร้ายของเธอออ
"ผมกับคุณพราวตอนนี้เราสองคนกำลังคบกันอยู่ครับและคนที่คุณพราวขับรถไปหาคืนนั้นก็คือผม” เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกระลอก ในขณะที่สายตาคมภายใต้กรอบแว่นตามองไปยังเบื้องหน้าด้วยความสุขุมแม้ว่าพายุไม่ใช่ดาราหรือคนเด่นคนดังแต่เขาเป็นศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งผู้ปรากฏตัวคล้ายไม่ได้รับเชิญทำให้บรรดานักข่าวพากันงงเป็นไก่ตาแตกเพราะก่อนหน้านี้พราวดาวมีข่าวกับนักธุรกิจหนุ่มดังนั้นแล้วการที่จู่ๆ พายุออกมาเปิดเผยความสัมพันธ์จึงเป็นประเด็นร้อนที่ทั้งนักข่าวและคนที่รับชมไลฟ์สดอยู่ในขณะนี้ต่างก็พากันให้ความสนใจ“แล้วทำไมคุณหมอพึ่งออกมาพูดครับ” ความจริงนักข่าวชายผู้นี้อยากถามว่า หากที่พูดมาเป็นความจริงควรจะออกมาพูดตั้งแต่ทีแรกนอกเสียจากว่าเรื่องที่พูดมันมีเบื้องลึกเบื้องหลัง“ที่ผ่านมาคุณพราวเป็นข่าวกับคุณเหนือเมฆมาตลอดในขณะที่ทุกคนรับรู้ว่าคุณหมออคือเพื่อนสนิทของคุณพราวการที่วันนี้คุณหมอออกมาบอกกำลังคบอยู่กับคุณพราวแบบนี้สังคมจะยิ่งตั้งข้อสงสัยไหมคะ” นักข่าวหญิงผู้นี้เป็นนักข่าวสายบันเทิงช่องดังช่องหนึ่งที่เล่นข่าวพราวดาวกับเหนือเมฆตั้งแต่แรกเริ่มเธอจึงไม่เชื่อว่าพราวดาวจะคบอยู่กับพายุจริงๆทว่าคำถาม