Share

รักษาคนแปลกหน้า

Author: zuey
last update Last Updated: 2025-11-23 23:34:32

“ไปเสียได้ก็ดี นิยายเรื่องนี้มันยังไงกันแน่ผู้หญิงคนนี้เป็นแค่ตัวประกอบในนิยาย กลับมีคนรักเป็นตัวเป็นตน นางเป็นตัวประกอบแบบไหนกัน”

ลู่หยวนซีคิดอย่างสงสัย ก่อนส่งเสียง ฮึ! ออกมาเบาๆ จากนั้นจึงออกเดินอีกครั้ง วันนี้นางมีโอกาสเข้าไปในอำเภอครั้งแรกตั้งแต่ที่เข้ามาอยู่ในร่างนี้ วันนี้ต้องซื้อของจำเป็นกลับไปมากหน่อย เพราะคงไม่มีโอกาสได้มาที่นี่บ่อยนัก

“ว้าว!!! ไม่คิดว่าอำเภอถงอันจะเจริญขนาดนี้ ไม่ต่างจากเมืองใหญ่ๆ ที่เคยเห็นในซีรีส์เลยนะเนี่ย ข้อดีของการเข้ามาในนิยายเรื่องนี้คงมีแค่เรื่องที่ได้มาทัวร์แบบไม่ต้องเสียเงินจ้างไกด์กระมัง”

นางเอ่ยคำศัพท์ที่ไม่มีใครเข้าใจออกมาอย่างลืมตัว ลู่หยวนซีเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้อย่างสนุกสนาน หลังจากนำเครื่องประดับที่ร่างเดิมแอบยักยอกเอาไว้ไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินแล้ว นางก็เดินเข้าร้านขายชุดของบุรุษทันที ลู่หยวนซีซื้อชุดสำหรับสวมด้านในหกชุด ชุดด้านนอกหกชุด จากนั้นก็ไปหาซื้อข้าว แป้งขาว เครื่องปรุงและเนื้อสัตว์เพื่อเป็นเสบียง

หลังจากซื้อทุกอย่างที่คิดว่าจำเป็น นางก็เดินเข้าไปในซอยเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านจากนั้นจึงเก็บทุกอย่างที่ซื้อมาเข้าไปในช่องว่างที่ได้รับมาจากระบบ

“ช่องว่างนี่สะดวกไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากบ้าผู้ชายแล้วอย่างน้อยเจ้าระบบนั่นก็ยังมีข้อดีอยู่บ้าง”

ลู่หยวนซีเดินตัวปลิวออกมาจากซอยเล็กแห่งนั้น ก่อนเดินตรงไปยังร้านขายสมุนไพรที่ตั้งอยู่ใจกลางอำเภอถงอัน เมื่อมองจากไกลๆ จะมองเห็นป้ายหน้าร้านเขียนเอาไว้ว่าจี้หมิงถัง ด้านหน้ามีชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังยืนมุงอยู่ ลู่หยวนซีอยู่ด้านหลังสุดทำให้มองไม่เห็นว่าพวกเขากำลังมุงดูอะไร จึงลองสะกิดคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเบาๆ

“นี่พี่ชาย พวกท่านกำลังมุงดูอะไรอยู่อย่างนั้นหรือ”

ชายวัยกลางคนที่ถูกดึงจึงได้หันกลับมา เมื่อเห็นใบหน้าของลู่หยวนซีชายผู้นั้นก็ใบหน้าเห่อแดงขึ้นมาทันที เขาบิดตัวไปมาท่าทางเอียงอาย ลู่หยวนซีที่กำลังรอฟังคำตอบมองเขาด้วยท่าทางสงสัย

“ท่านเองก็ไม่รู้อย่างนั้นหรือว่าพวกเขากำลังมุงดูอะไร”

ชายวัยกลางคนได้สติกลับมาหลังจากที่นางถามขึ้นอีกครั้ง เขากระแอมไออย่างประหม่าเล็กน้อย ก่อนตอบคำถามของนาง

“กะ...ก็มีคนถูกธนูยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่หมอที่จี้หมิงถัง บอกว่ารักษาให้เขาไม่ได้แต่คนที่พามาก็ไม่ยอม ทั้งสองคนเลยเถียงกันจนถึงตอนนี้ ข้าเข้าใจท่านหมอนะ อาการหนักขนาดนั้นเป็นตายเท่ากัน ขืนมาตายที่นี่คนที่ต้องรับผิดชอบก็ย่อมต้องเป็นคนรักษา พวกข้าที่มารอซื้อสมุนไพรเลยต้องรอให้จัดการเรื่องนี้ให้เสร็จก่อน”

ลู่หยวนซีได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่เสียงตี๊ดๆ ก็ดังในหัวของนางไม่หยุด จนลู่หยวนซีต้องยกมือขึ้นปิดหูของตนเอาไว้ ชายวัยกลางคนที่กำลังคุยกับนาง มองท่าทางของลู่หยวนซีอย่างสงสัย

“เร็วเข้า!! เธอต้องรีบรักษาให้เขาเดี๋ยวนี้ อย่าปล่อยให้เขาตายนะ เพราะเขาเป็นทางรอดเดียวของกู้จิ่งเหยียน”

เสียงของระบบดังขึ้นภายในหัวของลู่หยวนซี จากนั้นเสียงตี๊ดๆ ก็เงียบลง นางเงยหน้ามองผู้คนที่กำลังมุงดูเหตุการณ์ ก่อนจะแหวกฝูงชนเข้าไปด้านใน

เมื่อเห็นร่างโชกเลือดนอนอยู่ที่พื้นโดยมีบุรุษชุดดำกำลังประคองอยู่ ข้างกันมีบุรุษชุดดำอีกคนที่กำลังถือกระบี่พาดคอของชายชรา มองจากชุดที่เขาสวมใส่น่าจะเป็นหมอของจี้หมิงถัง ลู่หยวนซีค่อยๆ ถอยออกไปด้านหลังอย่างตกใจ นี่นางกำลังเผชิญอยู่กับเหตุการณ์อะไรกันแน่ ทุกอย่างดูตึงเครียดไปหมดเหมือนพวกเขากำลังเตรียมตัวออกรบก็มิปาน

“อย่าได้ขี้ขลาดนะลู่หยวนซี ห้ามหนีเด็ดขาด เขาเป็นตัวละครลับที่ไม่มีอยู่ในนิยาย ผู้เขียนไม่สามารถควบคุมเขาได้และในอนาคตเขาจะกลายเป็นไพ่ตายของกู้จิ่งเหยียน เธอต้องช่วยชีวิตของเขาให้ได้”

ลู่หยวนซีมองเลือดที่อาบย้อมไปทั่วร่างของบุรุษผู้นั้นภายในใจยังคงนึกหวาดกลัว แต่ตนเองไม่สามารถปฏิเสธคำสั่งจากเจ้าระบบจอมเผด็จการนั่นได้ จึงตัดสินใจก้าวเข้าไปดูอาการของเขา

“ให้ข้าดูบาดแผลของเขาได้หรือไม่”

เสียงหวานดังขึ้นไม่เบานัก เรียกความสนใจจากทุกคนที่กำลังมุงดูเหตุการณ์ ชายชุดดำที่กำลังประคองคนเจ็บเงยหน้ามองหญิงสาวในชุดสีกลีบบัวเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองชายชุดดำอีกคนที่ตอนนี้ลดกระบี่ในมือลงแล้ว แต่ปลายของมันกลับชี้มาที่นางแทน

“เจ้ามั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถรักษาคุณชายของเราได้”

ลู่หยวนซีเอนกายไปด้านหลังเล็กน้อย เพื่อให้ปลายกระบี่ออกห่างจากลำคอของตนก่อนพยักหน้าช้าๆ นิ้วมือเรียวดันกระบี่ออกไป ก่อนจะย่อตัวลงเพื่อดูอาการของคนเจ็บที่กำลังนอนหายใจรวยริน

“ท่านหมอ ข้าขอยืมห้องว่างของท่านสักห้องได้หรือไม่”

นางหันไปถามชายชราก่อนที่เขาจะพยักหน้าอนุญาต บุรุษชุดดำทั้งสองจึงได้หามร่างคนเจ็บเข้าไปด้านในจี้หมิงถัง ชายชราผมดำแซมขาวรีบเดินเข้ามากระซิบกับลู่หยวนซีเบาๆ

“แม่หนูเจ้าแน่ใจอย่างนั้นหรือว่าจะช่วยเขาได้ หากเจ้าทำให้เขาตายข้ารับรองได้เลยว่าคนชุดดำผู้นั้นไม่ยอมปล่อยเจ้าออกไปจากที่นี่แบบมีลมหายใจเป็นแน่”

ลู่หยวนซียิ้มรับชายชราอย่างแห้งแล้ง ทำไม่นางจะไม่รู้ล่ะแต่นางมีทางให้เลือกอย่างนั้นหรือ ด้านหน้าคือพญาเสือผู้ดุร้ายด้านหลังคือหน้าผาอันสูงชัน ไม่ว่าจะไปทางไหนก็ตายทั้งนั้น สวรรค์เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายกับข้าเช่นนี้ ลู่หยวนซีได้แต่โอดครวญอยู่ในใจเพียงคนเดียว เพราะไม่มีผู้ใดสามารถช่วยนางได้

“เช่นนั้นชายชราผู้นี้ขอให้เจ้าอยู่รอดปลอดภัยก็แล้วกัน หากต้องการสิ่งใดจงบอกคนของข้าได้เลย”

ชายชราเห็นท่าทางของนางแสดงออกเช่นนั้น เขาก็ได้แต่เอ่ยอวยพรให้แก่นางอย่างจริงใจ ลู่หยวนซีพยักหน้ารับอย่างซาบซึ้ง หากจะให้ดีนางอยากให้เขาเป็นผู้เข้าไปรักษาคนเจ็บกับนางด้วยตนเอง แต่เรื่องระบบรักษาที่นางมีนั้นไม่สามารถเปิดเผยต่อหน้าผู้อื่นได้ ดังนั้นลู่หยวนซีจำต้องกัดฟันทนมองบาดแผลเหวอะหวะและเลือดพวกนั้นด้วยตนเอง

“พวกท่านสองคนเองก็รออยู่ด้านนอกเถอะ เวลารักษาคนข้าไม่ต้องการให้มีผู้ใดรบกวน”

เอ่ยจบลู่หยวนซีก็เดินผ่านพวกเขาเข้าไปในห้อง จากนั้นจึงปิดประตูขังตนเองกับคนเจ็บเอาไว้ด้านใน แต่ก่อนจะปิดประตูนางยังถูกชายชุดดำที่ถือกระบี่ขู่อีกเล็กน้อย

“แม่นางเจ้าจงจำเอาไว้ว่าชีวิตของเจ้าผูกไว้กับชีวิตของคุณชายของข้า หากเจ้าช่วยชีวิตเขาไว้ไม่ได้ เจ้าจะเป็นศพที่สองที่จะต้องตายอยู่ที่นี่”

ลู่หยวนซีไม่สนใจคำขู่ของเขา นางปิดประตูเสียงดังปังจากนั้นทุกอย่างก็สงบลง คนที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ด้านนอกต่างก็ไม่มีใครแยกย้ายไปไหนทั้งสิ้น เพราะพวกเขาเองก็อยากจะรอดูว่าหญิงสาวที่อายุน้อยนางนั้นจะสามารถช่วยชีวิตคนที่ขาครึ่งหนึ่งเหยียบลงไปบนฝาโลงได้หรือไม่ หรือว่านางกำลังเอาชีวิตตนเองไปมอบให้กับผู้อื่นกันแน่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   รักษาคนอีกครั้ง

    ลู่หยวนซีมิได้ตอบคำถามของเขา นางพูดเรื่องอื่นขึ้นเพื่อเบี่ยงประเด็นคำถามของเขาออกไป และกู้จิ่งเหยียนรู้ว่านั่นเป็นเรื่องที่นางถนัดนัก เขาที่รู้ทันก็มิได้เปิดโปงหรือเอ่ยเซ้าซี้นางอีก เอาเถอะเอาไว้รอให้นางพร้อมเมื่อใดนางคงจะพูดออกมาเอง“ได้ เรื่องนี้ข้าให้เจ้าตัดสินใจ”ตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ทั้งสองคนพูดคุยกันมากขึ้น กู้จิ่งเหยียนเองก็เหมือนจะเปิดใจให้นางมากกว่าเดิม บางครั้งต่อให้นางยังไม่ได้พูดกับเขา เขาก็จะเป็นฝ่ายที่เริ่มประโยคสนทนาขึ้นมาก่อน เรื่องนี้ทำให้ลู่หยวนซีเบาใจลงไม่น้อยเพราะในอนาคตยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง นางอาจจะต้องติดอยู่ที่นี่ตลอดไป อย่างน้อยเขาก็เป็นถึงคุณชายจากจวนขุนนาง หากวันหน้าเขาหายดีนางก็คงจะถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีบุญคุณต่อเขาอยู่กระมัง“ข้าหิวแล้ว เจ้าทำอาหารง่ายๆ สักสองสามอย่างมาทานด้วยกันดีหรือไม่”กู้จิ่งเหยียนเองก็พยายามเพื่อนางเช่นกัน เขาไม่อยากให้สตรีผู้นี้รู้สึกไม่สบายใจหรือทุกข์ใจ หาอะไรให้นางทำเผื่อว่านางจะลืมเรื่องที่อยู่ในใจไปได้บ้าง“ท่านหิวแล้วหรือเจ้าคะ”ลู่หยวนซีมองออกไปนอกหน้าต่าง เมื่อเห็นว่าพระอาทิตย์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเบี่ยงไปอีกด้านเล็

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   อยู่ให้ห่างจากพวกเขา

    สิ่งที่ระบบยังไม่ทันได้บอกลู่หยวนซีก่อนที่เขาจะหายไปคือ การมาของเฮ่อเหวินเจ๋อเป็นตัวแปรอีกตัวแปรหนึ่งที่กำลังจะทำให้เนื้อเรื่องในนิยายเปลี่ยนไปลู่หยวนซีพูดคุยกับเฮ่อเหวินเจ๋ออยู่ภายในศาลาหน้าเรือนอยู่นาน นางพยายามพูดวกไปวนมาเพื่อให้เขาลืมเรื่องการรักษาของนาง และก็เป็นไปตามที่ลู่หยวนซีต้องการ เขาไม่เซ้าซี้ถามนางอีกว่าเหตุใดบาดแผลของเขาถึงได้หายดีในชั่วพริบตาแต่กลับมีบุคคลอีกคนหนึ่งที่นอนกระสับกระส่ายอยู่ภายในห้อง การมาของเฮ่อเหวินเจ๋อเขาสามารถรับรู้ได้ก่อนลู่หยวนซีเสียอีก ฝีเท้าแผ่วเบาที่ก้าวอย่างมั่นคงเข้ามาในลานเรือน เขารู้ได้ทันทีว่าคนผู้นี้มีวรยุทธกู้จิ่งเหยียนสามารถจดจำเสียงฝีเท้าของบุรุษทั้งหกที่เข้าไปในป่าก่อนหน้านี้ได้ทั้งหมด ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดทั้งร่างกายและประสาทสัมผัสทั้งหมดของเขาเฉียบคมขึ้นทุกที ตั้งแต่......ตั้งแต่ที่เขาดื่มเลือดของนางเข้าไป ทุกอย่างที่ผ่านตาของและเสียงทั้งหมดที่ได้ยินเขาสามารถจดจำและรับรู้ได้ไม่ลืม ความรู้สึกนี้มันช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก“ข้าสั่งให้พักผ่อนเหตุใดถึงได้ยังนั่งคุยกับผู้อื่นอยู่อีก”กู้จิ่งเหยียนเอ่ยออกมาด้วยความหงุดหงิด สตรีผู้นี้ดูแล้วเห

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   เจ้าเหนื่อยที่ต้องดูแลข้าหรือ

    “คุณชายท่าน...มองเห็นข้าหรือเจ้าคะ”กู้จิ่งเหยียนรีบมองไปด้านหน้าเพื่อกลบเกลื่อนอาการของตน“เจ้าหมายความว่าอย่างไร”ลู่หยวนซีเห็นสายตาที่เขามองไปด้านหน้า นางก็ยกมือขึ้นโบกไปมาเพื่อทดสอบดูว่าเขามองเห็นหรือไม่ แต่ดวงตากู้จิ่งเหยียนไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ นางจึงถอนหายใจออกมาอย่างผิดหวัง“ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าคงจะคิดมากไปเอง เห็นดวงตาของคุณชายกลับมาเป็นสีปกติ คิดว่าท่านอาจจะกลับมามองเห็นได้แล้วเสียอีก”ท่าทางของนางทำให้กู้จิ่งเหยียนรู้สึกเจ็บแปลบลึกๆ ในใจ หรือว่านางเบื่อที่จะดูแลคนพิการอย่างเขาแล้ว ร่างสูงที่นั่งเอนหลังอยู่บนเก้าอี้ก็เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางน้อยใจ“เจ้าเหนื่อยอย่างนั้นหรือ เช่นนั้นก็ไม่ต้องดูแลข้าแล้ว พาข้ากลับไปที่เตียงแล้วเจ้าก็ไปพักเถอะ”ลู่หยวนซีมองชายหนุ่มด้วยสายตาไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้ก็เห็นนั่งเงียบไม่ตอบโต้อะไร พอมาตอนนี้กลับพูดเสียยาวเหยียด ทั้งยังแสดงท่าทางห่วงใยกลัวว่านางจะเหนื่อยอีก คนผู้นี้ยังใช่กู้จิ่งเหยียนคนเดิมอยู่หรือไม่ ท่าทางของเขาช่างดูแปลกตานักลู่หยวนซีไม่กล้าขัดใจคุณชายผู้เอาแต่ใจของนาง หลังจากพาร่างสูงไปส่งยังเตียงนอนในห้องใหญ่ นางก็ออกมาข้างนอกเพื่อยกชามโจ๊กท

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   อารมณ์ที่ไม่มั่นคงของกู้จิ่งเหยียน

    “โอ้ย!! หนิงเอ๋อเหตุใดเจ้าถึงทำร้ายข้า”ลู่หยวนซีส่งเสียงหึ!ออกมาเสียงหนึ่ง ก่อนใช้สายตามองต่ำลงไปยังบัณฑิตชุดขาวที่นอนกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้น“กล้าเอ่ยวาจาล่วงเกินคุณชายของข้า ลองเป็นง่อยดูบ้างเป็นอย่างไร บางทีอาจจะทำให้เจ้าเลิกปากเสียแล้วเอาเวลาไปดูแลขาของเจ้าแทน”เอ่ยจบร่างบางที่แบกชายหนุ่มเอาไว้บนหลังก็เดินจากไป ทิ้งให้บุรุษอีกหกคนที่ยืนมองดูอยู่ห่างๆ ตกตะลึงกับการกระทำของนาง สตรีผู้นี้ฝีเท้ารวดเร็วเหลือเกิน ปากไม่พูดแต่กลับตีคนอย่างหน้าตาเฉย ลู่หยวนซีเดินไปได้สักพัก นางก็หันกลับไปมองพรรคพวกอีกหกคนที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม“พวกท่านไม่ไปหรือ”นางตะโกนถามพวกเขาก่อนออกเดินไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจ เฮ่อเหวินเจ๋อและคนของเขาได้สติกลับมาหลังจากเสียงเรียกของนางดังขึ้น ทุกคนรีบก้าวยาวๆ ตามไปเพื่อเดินให้ทันนาง“คุณชายท่านอย่าได้ใส่ใจคำพูดที่ออกมาจากปากเน่าๆ ของเจ้าบัณฑิตนั่นเลยนะเจ้าคะ เมื่อก่อนข้าอาจเลอะเลือนและดูแลท่านได้ไม่ดี แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว ข้าสัญญาว่าจะหาทางรักษาท่านให้หายดี ขอเพียงท่านเชื่อมั่นในตัวข้าก็พอ”ลู่หยวนซีเอ่ยเสียงเบากับคนที่นางกำลังแบกเอาไว้บนหลัง ไร้เสียงตอบกลับ

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   อย่าเข้าใกล้นางอีก

    ชายชุดดำที่หายจากอาการตกตะลึง รีบออกคำสั่งให้พวกของตนรีบตามคนทั้งสองไป ลู่หยวนซีออกวิ่งเต็มกำลังแต่ก็ไม่สามารถหนีพ้นสี่คนที่ใช้วิชาตัวเบาทะยานตามมาได้ กระบี่สีขาววาววับที่สะท้อนแสงแดดส่องกระทบดวงตาของนาง ร่างบางที่แบกกู้จิ่งเหยียนเอาไว้ ด้านหลังหลับตาลงคิดว่าตนเองคงจะหลบการแทงนี้ไม่พ้นแล้วแต่เสียงเคร้ง!!ก็ดังขึ้นข้างหูของนาง อาวุธลับสีนิลลอยกระเด็นไปปักอยู่บนต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไป ลู่หยวนซีที่เตรียมใจตายเอาไว้แล้วหรี่ตาขึ้นมองเหตุการณ์ตรงหน้า พบว่าชายชุดดำทั้งสี่ถูกปลิดชีพลงอย่างง่ายดายด้วยน้ำมือของใครบางคน และเมื่อลู่หยวนซีได้เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก“เป็นท่านเองหรือ”กู้จิ่งเหยียนขมวดคิ้วอย่างสงสัย สายตาจับจ้องไปยังชายร่างสูงใหญ่ในชุดอาภรณ์สีนิลพร้อมกับผู้ติดตามทั้งหก พลางคิดในใจว่านางไปรู้จักกับคนน่าสงสัยเหล่านี้ได้อย่างไร“แม่นางข้าให้คนตามหาเจ้าตั้งหลายวัน หากไม่ได้ยินเสียงร้องของมือสังหารเหล่านั้นคงตามมาที่นี่ไม่ทันการณ์เป็นแน่”ลู่หยวนซียิ้มรับคำพูดของเขาอย่างยินดี นางไม่คิดว่าที่ระบบสั่งให้นางช่วยชีวิตเขา จะทำให้นางได้รับการตอบแทนเป็นความช่วยเ

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มดีขึ้น

    ลู่หยวนซีถามกู่จิ่งเหยียนอย่างหน้าตาเฉย เมื่อก่อนเขามองไม่เห็นก็แล้วไป แต่ตอนนี้ดวงตาของเขากลับมามองเห็นเป็นปกติแล้วจะให้นางช่วยเรื่องนั้นได้อย่างไร กู้จิ่งเหยียนส่ายหน้าปฏิเสธถึงแม้เขาจะเริ่มรู้สึกปวดเบาขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่คิดที่จะปล่อยต่อหน้านางเป็นแน่ ลู่หยวนซีพยักหน้ารับรู้ก่อนวางกระโถนเอาไว้มุมหนึ่งของถ้ำ จากนั้นจึงหันไปล้มตัวลงนอนบนที่นอนของตนที่ปูเอาไว้คนละฟากของกองไฟเสียงลมหายใจที่ดังอย่างสม่ำเสมอทำให้ชายหนุ่มแน่ใจว่านางนั้นได้หลับไปแล้ว กู้จิ่งเหยียนกำลังจะคลานไปที่กระโถนใบนั้นแต่แล้วลู่หยวนซีก็ลุกขึ้นนั่ง นางหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังค้างอยู่ในท่าจับขอบกระโถนเอาไว้ด้วยสายตามึนงง ก่อนจะถามเขาออกไปด้วยน้ำเสียงงัวเงีย“คุณชายท่านปวดเบาหรือเจ้าคะ เหตุใดท่านไม่ปลุกข้า ข้าเองก็ลืมว่ายังมิได้เปลี่ยนชุดให้ท่านเลย มาเถอะข้าช่วย”กู้จิ่งเหยียนยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยปากปฏิเสธ ลู่หยวนซีก็ถึงตัวเขาเสียแล้ว ความอับอายที่มิอาจบรรยายเป็นคำพูดได้มันถูกอัดแน่นอยู่ภายในอก นางช่วยเขาถ่ายเบาทั้งยังจับเขาเปลื้องผ้าและเช็ดตัวให้ หญิงผู้นี้ไม่รู้จักคำว่าอายหรืออย่างไร นางเป็นสตรีนะหลังเปลี่ยนชุดให

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status