Home / ประวัติศาสตร์สมมติ / ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ / คนรักของตัวประกอบที่ไม่ได้เขียนเอาไว้ในนิยาย

Share

คนรักของตัวประกอบที่ไม่ได้เขียนเอาไว้ในนิยาย

Author: zuey
last update Last Updated: 2025-11-23 23:34:02

“ท่านตื่นแล้ว เช่นนั้นอยากจะเข้าห้องน้ำหรือไม่ ตอนนี้ยังเช้าอยู่ข้าจะเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อของสักหน่อย”

เมื่อนางพูดเรื่องเข้าห้องน้ำขึ้นมา ใบหน้าที่เคยเรียบเฉยของกู้จิ่งเหยียนก็คล้ายมีปฏิกิริยาบางอย่างเปลี่ยนไปเล็กน้อย หากนางไม่สังเกตก็คงจะมองไม่ออกว่าเขากำลังรู้สึกโมโหเป็นแน่ แต่เพราะอยู่กับเขามาสักพักทำให้นางสามารถสังเกตอาการต่างๆ ที่เขาแสดงออกมา ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ความรู้สึกหรือความต้องการของเขา

ลู่หยวนซีเดินกลับเข้าไปในครัวก่อนยกถาดน้ำชาติดมือมาด้วย ข้างกันยังมีขนมที่ร่างเดิมแอบซ่อนเอาไว้วางอยู่ในจาน เสียงถาดกระทบลงบนโต๊ะข้างหัวเตียงเบาๆ ทำให้กู้จิ่งเหยียนรู้ว่านางนำบางอย่างมาวางเอาไว้

“หากท่านยังไม่อยากเข้าห้องน้ำตอนนี้ เช่นนั้นข้าไปก่อนนะเจ้าคะ กระโถนสำหรับเข้าห้องน้ำวางอยู่ใต้เตียง น้ำชาวางอยู่บนโต๊ะ และขนมทานเล่นวางอยู่ใกล้กัน ท่านไม่ต้องกลัวว่ามันจะร้อนเพราะว่าน้ำชาข้าชงทิ้งเอาไว้สักพักแล้ว”

เอ่ยจบนางก็เดินผละจากไป ความรู้สึกของวันนั้นกลับมาวนเวียนอยู่ภายในหัวอีกครั้ง วันที่ลู่หยวนซีเดินออกจากเรือนหลังนี้ไป และกู้จิ่งเหยียนก็ทำร้ายตนเองจนได้รับบาดเจ็บเสียเลือดไปไม่น้อย

ร่างบางหันกลับมามองเรือนหลังเล็กบนเนินเขาอีกครั้ง ภายในใจยังคงรู้สึกหวั่นๆ ว่าเขาจะกลับมาคิดสั้นฆ่าตัวตายอีกรอบ นางถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนหันหลังเดินจากมา ช่างเถอะ ตอนนี้เราก็ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้ว ถ้าหากเขาไม่เห็นค่าของชีวิตตนเองมันก็คงช่วยไม่ได้

ทางด้านกู้จิ่งเหยียน เมื่อเสียงฝีเท้าของลู่หยวนซีเงียบหายไปจากระยะการได้ยินของเขาแล้ว ร่างผอมก็ยกมือขึ้นคลำบนใบหน้าของตนแผ่วเบา แม้ดวงตาจะมองไม่เห็นแต่เขาสัมผัสได้ว่าบางอย่างที่นุ่มนิ่มของสตรีนางนั้นได้ประทับลงบนแก้มของเขา

ใบหน้าที่ยามปกติสีขาวซีด เวลานี้กลับเห่อร้อนขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ กู้จิ่งเหยียนสะบัดใบหน้าไปมาเพื่อให้ความรู้สึกนั้นหายไป ก่อนจะควานหาบางอย่างที่อยู่ใต้เตียง

กระโถนที่ลู่หยวนซีเอ่ยถึงก่อนหน้านี้ถูกยกติดมือของเขาขึ้นมา กู้จิ่งเหยียนใช้ความพยายามเป็นอย่างมากเพื่อไม่ทำให้ตนเองเลอะเทอะถึงแม้สตรีนางนั้นจะย้ายไปนอนห้องเดิมของเขาแทน แต่นางก็มักจะมาทำความสะอาดห้องนี้ทุกๆ สองวัน ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการให้นางเห็นว่าเขาเป็นตัวไร้ประโยชน์ ที่แม่แต่จะถ่ายเบาเองยังทำไม่ได้เลย

หลังจากเดินลงมาที่หน้าหมู่บ้าน ลู่หยวนซีก็รู้แล้วว่าตนเองมาไม่ทันเกวียนวัวที่ชาวบ้านใช้นั่งโดยสารเข้าไปในอำเภอ ทำให้นางจำต้องเดินเท้าไปด้วยตนเอง จากความทรงจำของสาวใช้ตัวประกอบนางนี้ ระยะทางยี่สิบลี้สำหรับคนทั่วไปนั้นค่อนข้างไกลพอสมควร แต่สำหรับนางที่ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้ก็มีกำลังเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

นางเดินทอดอารมณ์ชมนกชมไม้ดูธรรมชาติที่เมืองใหญ่ที่นางจากมาไม่สามารถเห็นได้ นอกจากอุทยานหรือสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ แต่นั่นส่วนใหญ่ก็ถูกทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์และกาลเวลาที่ผันผ่าน ความสวยงามแบบดั้งเดิมจึงเหลือให้เห็นน้อยมาก

“แม่นางน้อย เดินคนเดียวกลางป่าไม่กลัวอย่างนั้นหรือ ให้พี่ชายเดินไปส่งดีหรือไม่”

ลู่หยวนซีที่ถูกใครบางคนกอดจากทางด้านหลังอย่างไม่ทันได้ระวังตัว เพราะมัวแต่เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติรอบกาย ทำให้เวลานางนี้ตกอยู่ในอ้อมแขนของใครบางคน

แต่นั่นก็เป็นเวลาแค่เพียงครู่เดียวเท่านั้น นางที่ฝึกกังฟูมาทั้งชีวิตมีหรือจะยอมเสียเปรียบให้ผู้อื่นได้ง่าย เพียงพริบตาลู่หยวนซีก็พลิกกายมาเป็นฝ่ายที่อยู่ด้านหลังแทน นางจับแขนของบุรุษผู้นั้นไขว้เอาไว้ด้านหลังก่อนตะคอกถามเสียงดัง

“แกเป็นใครกัน!!! เหตุใดถึงได้กล้าลวนลามผู้อื่นกลางวันแสกๆ เช่นนี้ ไม่กลัวว่าจะถูกจับส่งทางการหรืออย่างไร”

ลู่หยวนซีบิดแขนของบุรุษผู้นั้นแรงขึ้นอีก เรียกเสียงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดของเขาออกมา

“โอ๊ย!!! ปล่อยก่อนได้หรือไม่ หนิงเอ๋อ ข้าเอง”

ลู่หยวนซีผลักชายหนุ่มไปด้านหน้าอย่างแรง ก่อนจะมองใบหน้าที่ดูคุ้นตาของชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาหวาดระแวง คนผู้นี้เป็นใครกัน รู้จักชื่อของร่างนี้ได้ยังไง

“ไม่ได้มาพบเจ้าแค่เดือนเดียว เจ้าคงไม่ลืมข้าไปแล้วหรอกใช่หรือไม่”

ท่าทางที่หญิงสาวแสดงออก หมายความว่านางนั้นลืมเขาไปแล้วจริงๆ ชายหนุ่มหน้าตาธรรมดาในชุดของบัณฑิตสีขาว มองใบหน้าของนางด้วยท่าทางสงสัย

“ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังโกรธเลยแสดงออกเช่นนั้น แต่หนิงเอ๋อ ข้าไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ หากข้าไม่ยอมแต่งให้นาง บิดาของนางจะต้องหักขาข้าทิ้งแน่ เจ้าก็รู้ใช่หรือไม่ว่าข้านั้นรักเจ้าแค่เพียงคนเดียว เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างข้ากับอี้หลิงหยุนนั้นเป็นแค่เพียงอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น ในใจของข้า.....”

ยังไม่ทันที่เถียนอวี้ซวนจะเอ่ยจบ ลู่หยวนซีก็ต่อยสวนกลับไปหนึ่งหมัดเข้าเบ้าตาของเขาพอดิบพอดี ร่างผอมในชุดบัณฑิตสีขาวหงายหลังล้มลงไปบนพื้นขาชี้ฟ้า ลู่หยวนซีมองภาพนั้นแล้วอารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อย เพราะเรื่องเล่าที่เจ้าบัณฑิตหน้าขาวผู้นี้เล่ามานั้น ไม่ต่างจากแฟนเก่าของนางเลย

อยู่ต่อหน้านางก็บอกว่าเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากันทั้งสองฝั่งกลับเขี่ยนางทิ้งอย่างไม่ไยดี คนเช่นนั้นมันต้องโดนหนักๆ ถึงจะจำ คิดว่าผู้หญิงเป็นของตายที่จะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้อย่างนั้นหรือ คิดผิดแล้ว

ลู่หยวนซีคร้านจะพูดกับเขาอีก นางเดินจากมาด้วยอารมณ์ที่ไม่มั่นคงเท่าใดนัก เวลานี้นางคิดว่าที่ตนเองต้องตายสาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากคนทั้งสองที่นางรัก แต่พวกเขาพร้อมใจกันหักหลังนางอย่างไม่คิดถึงความสัมพันธ์สี่ปีที่มีให้กันเลย หลินห่าวหยาง มู่หยุนถิง ฉันขอแช่งให้พวกเธอได้พบกับจุดจบที่เลวร้ายกว่าฉัน แน่นอนว่าคำอธิษฐานของลู่หยวนซีจะต้องเป็นจริงในอีกไม่ช้า

เถียนอวี้ซวนมองตามด้านหลังของลู่หยวนซีที่อยู่ในชุดผ้าไหมสีกลีบบัวด้วยสายตาไม่เข้าใจ เขายกมือขึ้นคลำไปที่เบ้าตาตนเองก่อนนึกถึงการกระทำอันแปลกประหลาดของนาง

มิใช่นางหลงรักเขาอย่างหัวปักหัวปำอย่างนั้นหรือ แล้ววันนี้เหตุใดนางถึงได้มีท่าทีปั้นปึ่งเช่นนี้ หรือว่านางจะยังไม่ยอมให้อภัยที่เขาแต่งงานกับสตรีอื่น ปกติเขาพูดเพียงไม่กี่คำนางก็ยอมให้อภัยแล้วตอนนี้ทำไมถึงยังโมโหอยู่เล่า หรือว่านางมีบุรุษอื่น ไม่ได้!! นางเป็นของเขา นางไม่สามารถมีบุรุษอื่นได้นอกจากเขาเพียงคนเดียว

เถียนอวี้ซวนรีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืน ก่อนจะวิ่งตามร่างบางไปอย่างทุลักทุเล แต่ด้วยกำลังของลู่หยวนซีมีหรือที่เขาจะเดินตามนางทัน เพียงไม่นานร่างบางในชุดสีกลีบบัวก็เดินหายลับไปตรงทางโค้ง เถียนอวี้ซวนได้แต่ยืนเคว้งอยู่กลางป่าเพียงคนเดียว เพราะที่ตรงนั้นไม่มีหญิงสาวที่เขาวิ่งตามแล้ว

“บ้าจริง เหตุใดถึงได้เดินเร็วนัก ช่างเถอะ วันหลังค่อยซื้อชุดผ้าไหมกับเครื่องประดับมาง้อขอคืนดีกับนางก็แล้วกัน”

เอ่ยจบชายหนุ่มก็เดินกลับไปทางเดิมที่พึ่งจากมา ลู่หยวนซีที่แอบอยู่ข้างทางเดินออกมาจากด้านหลังต้นไม้ใหญ่ มองด้านหลังของเจ้าบัณฑิตหน้าขาวที่ไล่ตามตนมาอย่างหงุดหงิด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   รักษาคนอีกครั้ง

    ลู่หยวนซีมิได้ตอบคำถามของเขา นางพูดเรื่องอื่นขึ้นเพื่อเบี่ยงประเด็นคำถามของเขาออกไป และกู้จิ่งเหยียนรู้ว่านั่นเป็นเรื่องที่นางถนัดนัก เขาที่รู้ทันก็มิได้เปิดโปงหรือเอ่ยเซ้าซี้นางอีก เอาเถอะเอาไว้รอให้นางพร้อมเมื่อใดนางคงจะพูดออกมาเอง“ได้ เรื่องนี้ข้าให้เจ้าตัดสินใจ”ตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ทั้งสองคนพูดคุยกันมากขึ้น กู้จิ่งเหยียนเองก็เหมือนจะเปิดใจให้นางมากกว่าเดิม บางครั้งต่อให้นางยังไม่ได้พูดกับเขา เขาก็จะเป็นฝ่ายที่เริ่มประโยคสนทนาขึ้นมาก่อน เรื่องนี้ทำให้ลู่หยวนซีเบาใจลงไม่น้อยเพราะในอนาคตยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง นางอาจจะต้องติดอยู่ที่นี่ตลอดไป อย่างน้อยเขาก็เป็นถึงคุณชายจากจวนขุนนาง หากวันหน้าเขาหายดีนางก็คงจะถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีบุญคุณต่อเขาอยู่กระมัง“ข้าหิวแล้ว เจ้าทำอาหารง่ายๆ สักสองสามอย่างมาทานด้วยกันดีหรือไม่”กู้จิ่งเหยียนเองก็พยายามเพื่อนางเช่นกัน เขาไม่อยากให้สตรีผู้นี้รู้สึกไม่สบายใจหรือทุกข์ใจ หาอะไรให้นางทำเผื่อว่านางจะลืมเรื่องที่อยู่ในใจไปได้บ้าง“ท่านหิวแล้วหรือเจ้าคะ”ลู่หยวนซีมองออกไปนอกหน้าต่าง เมื่อเห็นว่าพระอาทิตย์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเบี่ยงไปอีกด้านเล็

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   อยู่ให้ห่างจากพวกเขา

    สิ่งที่ระบบยังไม่ทันได้บอกลู่หยวนซีก่อนที่เขาจะหายไปคือ การมาของเฮ่อเหวินเจ๋อเป็นตัวแปรอีกตัวแปรหนึ่งที่กำลังจะทำให้เนื้อเรื่องในนิยายเปลี่ยนไปลู่หยวนซีพูดคุยกับเฮ่อเหวินเจ๋ออยู่ภายในศาลาหน้าเรือนอยู่นาน นางพยายามพูดวกไปวนมาเพื่อให้เขาลืมเรื่องการรักษาของนาง และก็เป็นไปตามที่ลู่หยวนซีต้องการ เขาไม่เซ้าซี้ถามนางอีกว่าเหตุใดบาดแผลของเขาถึงได้หายดีในชั่วพริบตาแต่กลับมีบุคคลอีกคนหนึ่งที่นอนกระสับกระส่ายอยู่ภายในห้อง การมาของเฮ่อเหวินเจ๋อเขาสามารถรับรู้ได้ก่อนลู่หยวนซีเสียอีก ฝีเท้าแผ่วเบาที่ก้าวอย่างมั่นคงเข้ามาในลานเรือน เขารู้ได้ทันทีว่าคนผู้นี้มีวรยุทธกู้จิ่งเหยียนสามารถจดจำเสียงฝีเท้าของบุรุษทั้งหกที่เข้าไปในป่าก่อนหน้านี้ได้ทั้งหมด ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดทั้งร่างกายและประสาทสัมผัสทั้งหมดของเขาเฉียบคมขึ้นทุกที ตั้งแต่......ตั้งแต่ที่เขาดื่มเลือดของนางเข้าไป ทุกอย่างที่ผ่านตาของและเสียงทั้งหมดที่ได้ยินเขาสามารถจดจำและรับรู้ได้ไม่ลืม ความรู้สึกนี้มันช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก“ข้าสั่งให้พักผ่อนเหตุใดถึงได้ยังนั่งคุยกับผู้อื่นอยู่อีก”กู้จิ่งเหยียนเอ่ยออกมาด้วยความหงุดหงิด สตรีผู้นี้ดูแล้วเห

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   เจ้าเหนื่อยที่ต้องดูแลข้าหรือ

    “คุณชายท่าน...มองเห็นข้าหรือเจ้าคะ”กู้จิ่งเหยียนรีบมองไปด้านหน้าเพื่อกลบเกลื่อนอาการของตน“เจ้าหมายความว่าอย่างไร”ลู่หยวนซีเห็นสายตาที่เขามองไปด้านหน้า นางก็ยกมือขึ้นโบกไปมาเพื่อทดสอบดูว่าเขามองเห็นหรือไม่ แต่ดวงตากู้จิ่งเหยียนไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ นางจึงถอนหายใจออกมาอย่างผิดหวัง“ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าคงจะคิดมากไปเอง เห็นดวงตาของคุณชายกลับมาเป็นสีปกติ คิดว่าท่านอาจจะกลับมามองเห็นได้แล้วเสียอีก”ท่าทางของนางทำให้กู้จิ่งเหยียนรู้สึกเจ็บแปลบลึกๆ ในใจ หรือว่านางเบื่อที่จะดูแลคนพิการอย่างเขาแล้ว ร่างสูงที่นั่งเอนหลังอยู่บนเก้าอี้ก็เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางน้อยใจ“เจ้าเหนื่อยอย่างนั้นหรือ เช่นนั้นก็ไม่ต้องดูแลข้าแล้ว พาข้ากลับไปที่เตียงแล้วเจ้าก็ไปพักเถอะ”ลู่หยวนซีมองชายหนุ่มด้วยสายตาไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้ก็เห็นนั่งเงียบไม่ตอบโต้อะไร พอมาตอนนี้กลับพูดเสียยาวเหยียด ทั้งยังแสดงท่าทางห่วงใยกลัวว่านางจะเหนื่อยอีก คนผู้นี้ยังใช่กู้จิ่งเหยียนคนเดิมอยู่หรือไม่ ท่าทางของเขาช่างดูแปลกตานักลู่หยวนซีไม่กล้าขัดใจคุณชายผู้เอาแต่ใจของนาง หลังจากพาร่างสูงไปส่งยังเตียงนอนในห้องใหญ่ นางก็ออกมาข้างนอกเพื่อยกชามโจ๊กท

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   อารมณ์ที่ไม่มั่นคงของกู้จิ่งเหยียน

    “โอ้ย!! หนิงเอ๋อเหตุใดเจ้าถึงทำร้ายข้า”ลู่หยวนซีส่งเสียงหึ!ออกมาเสียงหนึ่ง ก่อนใช้สายตามองต่ำลงไปยังบัณฑิตชุดขาวที่นอนกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้น“กล้าเอ่ยวาจาล่วงเกินคุณชายของข้า ลองเป็นง่อยดูบ้างเป็นอย่างไร บางทีอาจจะทำให้เจ้าเลิกปากเสียแล้วเอาเวลาไปดูแลขาของเจ้าแทน”เอ่ยจบร่างบางที่แบกชายหนุ่มเอาไว้บนหลังก็เดินจากไป ทิ้งให้บุรุษอีกหกคนที่ยืนมองดูอยู่ห่างๆ ตกตะลึงกับการกระทำของนาง สตรีผู้นี้ฝีเท้ารวดเร็วเหลือเกิน ปากไม่พูดแต่กลับตีคนอย่างหน้าตาเฉย ลู่หยวนซีเดินไปได้สักพัก นางก็หันกลับไปมองพรรคพวกอีกหกคนที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม“พวกท่านไม่ไปหรือ”นางตะโกนถามพวกเขาก่อนออกเดินไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจ เฮ่อเหวินเจ๋อและคนของเขาได้สติกลับมาหลังจากเสียงเรียกของนางดังขึ้น ทุกคนรีบก้าวยาวๆ ตามไปเพื่อเดินให้ทันนาง“คุณชายท่านอย่าได้ใส่ใจคำพูดที่ออกมาจากปากเน่าๆ ของเจ้าบัณฑิตนั่นเลยนะเจ้าคะ เมื่อก่อนข้าอาจเลอะเลือนและดูแลท่านได้ไม่ดี แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว ข้าสัญญาว่าจะหาทางรักษาท่านให้หายดี ขอเพียงท่านเชื่อมั่นในตัวข้าก็พอ”ลู่หยวนซีเอ่ยเสียงเบากับคนที่นางกำลังแบกเอาไว้บนหลัง ไร้เสียงตอบกลับ

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   อย่าเข้าใกล้นางอีก

    ชายชุดดำที่หายจากอาการตกตะลึง รีบออกคำสั่งให้พวกของตนรีบตามคนทั้งสองไป ลู่หยวนซีออกวิ่งเต็มกำลังแต่ก็ไม่สามารถหนีพ้นสี่คนที่ใช้วิชาตัวเบาทะยานตามมาได้ กระบี่สีขาววาววับที่สะท้อนแสงแดดส่องกระทบดวงตาของนาง ร่างบางที่แบกกู้จิ่งเหยียนเอาไว้ ด้านหลังหลับตาลงคิดว่าตนเองคงจะหลบการแทงนี้ไม่พ้นแล้วแต่เสียงเคร้ง!!ก็ดังขึ้นข้างหูของนาง อาวุธลับสีนิลลอยกระเด็นไปปักอยู่บนต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไป ลู่หยวนซีที่เตรียมใจตายเอาไว้แล้วหรี่ตาขึ้นมองเหตุการณ์ตรงหน้า พบว่าชายชุดดำทั้งสี่ถูกปลิดชีพลงอย่างง่ายดายด้วยน้ำมือของใครบางคน และเมื่อลู่หยวนซีได้เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก“เป็นท่านเองหรือ”กู้จิ่งเหยียนขมวดคิ้วอย่างสงสัย สายตาจับจ้องไปยังชายร่างสูงใหญ่ในชุดอาภรณ์สีนิลพร้อมกับผู้ติดตามทั้งหก พลางคิดในใจว่านางไปรู้จักกับคนน่าสงสัยเหล่านี้ได้อย่างไร“แม่นางข้าให้คนตามหาเจ้าตั้งหลายวัน หากไม่ได้ยินเสียงร้องของมือสังหารเหล่านั้นคงตามมาที่นี่ไม่ทันการณ์เป็นแน่”ลู่หยวนซียิ้มรับคำพูดของเขาอย่างยินดี นางไม่คิดว่าที่ระบบสั่งให้นางช่วยชีวิตเขา จะทำให้นางได้รับการตอบแทนเป็นความช่วยเ

  • ทะลุมิติมาช่วยชีวิตตัวร้ายคนโปรดของระบบ   ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มดีขึ้น

    ลู่หยวนซีถามกู่จิ่งเหยียนอย่างหน้าตาเฉย เมื่อก่อนเขามองไม่เห็นก็แล้วไป แต่ตอนนี้ดวงตาของเขากลับมามองเห็นเป็นปกติแล้วจะให้นางช่วยเรื่องนั้นได้อย่างไร กู้จิ่งเหยียนส่ายหน้าปฏิเสธถึงแม้เขาจะเริ่มรู้สึกปวดเบาขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่คิดที่จะปล่อยต่อหน้านางเป็นแน่ ลู่หยวนซีพยักหน้ารับรู้ก่อนวางกระโถนเอาไว้มุมหนึ่งของถ้ำ จากนั้นจึงหันไปล้มตัวลงนอนบนที่นอนของตนที่ปูเอาไว้คนละฟากของกองไฟเสียงลมหายใจที่ดังอย่างสม่ำเสมอทำให้ชายหนุ่มแน่ใจว่านางนั้นได้หลับไปแล้ว กู้จิ่งเหยียนกำลังจะคลานไปที่กระโถนใบนั้นแต่แล้วลู่หยวนซีก็ลุกขึ้นนั่ง นางหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังค้างอยู่ในท่าจับขอบกระโถนเอาไว้ด้วยสายตามึนงง ก่อนจะถามเขาออกไปด้วยน้ำเสียงงัวเงีย“คุณชายท่านปวดเบาหรือเจ้าคะ เหตุใดท่านไม่ปลุกข้า ข้าเองก็ลืมว่ายังมิได้เปลี่ยนชุดให้ท่านเลย มาเถอะข้าช่วย”กู้จิ่งเหยียนยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยปากปฏิเสธ ลู่หยวนซีก็ถึงตัวเขาเสียแล้ว ความอับอายที่มิอาจบรรยายเป็นคำพูดได้มันถูกอัดแน่นอยู่ภายในอก นางช่วยเขาถ่ายเบาทั้งยังจับเขาเปลื้องผ้าและเช็ดตัวให้ หญิงผู้นี้ไม่รู้จักคำว่าอายหรืออย่างไร นางเป็นสตรีนะหลังเปลี่ยนชุดให

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status