แชร์

ตื่นขึ้นมาพร้อมโลกใบใหม่ / 3

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-23 13:31:21

"โหรวโหรว เจ้าช่วยเล่าให้ข้าฟังอีกได้ไหม คุณหนูใหญ่ของเจ้าน่ะ นิสัยเป็นเช่นไร"

"นี่คุณหนูคงไม่ได้ลืมแม้กระทั่งเรื่องราวของคุณหนูใหญ่ใช่ไหมเจ้าคะ"

"ก็... เอาเถอะ ๆ ช่วยเล่าให้ข้าฟังหน่อยว่านางผู้นั้นนิสัยเช่นไร ความสัมพันธ์ของพวกเราสองพี่น้องด้วย"

เสี่ยวโหรวขมวดคิ้วมุ่นมองหน้าคุณหนูที่เริ่มถามแปลก ๆ อีกแล้ว

"คุณหนูใหญ่เป็นคนค่อนข้างจิตใจดีเจ้าค่ะ แต่นางมักจะต้องเป็นที่หนึ่งเสมอ"

เป็นที่หนึ่งเสมอ หมายความว่า นางผู้นี้ชอบชิงดีชิงเด่นสินะ รู้สึกได้กลิ่นหายนะลอยมาแต่ไกล

"แล้วนางดีกับคุณหนูเจ้า เอ่อ... หมายถึง ข้าน่ะ นางดีกับข้าหรือเปล่า"

"ทำไมคุณหนูยังจำอะไรไม่ได้อีกเจ้าคะ เสี่ยวโหรวอุตส่าห์เล่าทุกอย่างให้ฟังแล้ว"

ครั้งนี้คนที่จะร้องไห้ไม่ใช่คนที่ข้ามภพข้ามชาติมา แต่เป็นสาวใช้ที่เริ่มหน้าเสียปากคว่ำน้ำตาคลอเพราะเล่าอะไรไปคุณหนูของนางยิ่งจำไม่ได้

"เอาน่า ๆ ข้าแค่กำลังจะฟื้นความจำ เจ้าช่วยบอกข้าทีว่าพี่สาวข้าดีกับข้าหรือไม่"

เสี่ยวโหรวรีบเช็ดน้ำตาที่ปริ่มออกมาพร้อมพยักหน้าแล้วเปิดปากเล่าเรื่องของคุณหนูใหญ่ให้ฟังอีกครั้ง

"แต่แรกเริ่มคุณหนูใหญ่เยว่ซูเป็นลูกภรรยาหลวงของนายท่าน อายุห่างคุณหนูอยู่เก้าปี แต่ถึงแม้คุณหนูจะเป็นลูกภรรยานอกสมรสแต่คุณหนูใหญ่ก็ดีกับท่าน ถึงจะมีบ้างที่ชอบแกล้งท่านในเวลาที่นางไม่พอใจหรืออารมณ์ไม่ดี"

"ตกลงนางดีกับข้าหรือไม่ดีกันแน่?"

คนได้ฟังเริ่มสับสน ทำเอาเสี่ยวโหรวเองก็ตอบคำถามนี้ไม่ได้เพราะบางครั้งนางก็ไม่เข้าใจการกระทำของคุณหนูใหญ่ที่ว่าเช่นกัน

"เอาเป็นว่า คุณหนูใหญ่ของเจ้ากึ่งดีกึ่งร้ายแล้วกัน"

เสี่ยวโหรวเห็นด้วยจึงพยักหน้าตาม

"แล้วท่านพ่อของข้าตายแล้วจริง ๆ หรือ"

แม้จะไม่ใช่พ่อของตนเองจริง ๆ ทว่าตอนนี้เธอมาอยู่ในร่างนี้แล้วก็มีรู้สึกหดหู่เศร้าเสียใจตามเหตุการณ์ไปบ้าง

"เจ้าค่ะ เสี่ยวโหรวได้ยินทหารยามพูดคุยกัน"

หมายความว่าเธอไม่เห็นกับตา หรือบางทีพ่อของแม่นางผู้นี้อาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้

"แล้วพวกเราไม่มีโอกาสที่จะรอดจากคุกนี้เลยหรือ"

ยิ่งมองบรรยากาศมืดมัวในคุกนี้แล้วนางยิ่งรู้สึกขนกายลุกชัน ไม่รู้ว่าเชื้อโรคหรือวิญญาณคนตายในนี้สิ่งไหนจะมีมากกว่ากัน

"ตอนนี้ท่านรองแม่ทัพกำลังหาทางช่วยพวกเราอยู่เจ้าค่ะ"

รองแม่ทัพ?

เริ่มมีตัวละครใหม่โผล่มาอีกแล้ว ทำไมเราถึงได้มาโผล่ที่ยุคนี้ด้วยนะ ยุคจีนโบราณที่ออกเสียงชื่อแซ่ยากเย็นเช่นนี้

"ใครคือรองแม่ทัพ?"

"..?"

เสี่ยวโหรวคนรับใช้ที่สนิทเริ่มทำหน้าเหยเกอีกครั้ง

เหตุใดแค่สลบไปข้ามคืนคุณหนูถึงได้ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเช่นนี้ หรือว่าเพราะจิตใจถูกกระทบกระเทือนเรื่องนายท่านมากเกินไป คงใช่แล้ว คุณหนูเยว่ซินของนางทั้งอ่อนโยนขนาดนั้นคงทนรับไม่ไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น

"ผู้ใดกันแกล้งทำเมินไม่รู้จักข้า"

ทว่ายังไม่ทันได้อธิบายว่า 'รองแม่ทัพ' ที่ว่าคือใคร เขาผู้นั้นก็ปรากฎกายมาให้เห็นพอดี

เสียงปลดล็อกโซ่เส้นใหญ่ที่ตรึงประตูคุกหลวงอยู่หลุดออกพร้อมประตูไม้ถูกผลักเข้ามา

ร่างกำยำสูงแปดฉื่อสวมชุดเกราะเดินเข้ามาอย่างองอาด

"ท่านรองแม่ทัพ"

เสี่ยวโหรวรีบทำความเคารพรองแม่ทัพแห่งกองทัพมังกรขาวที่ดูแลความปลอดภัยหน้าด่านของพระราชวังรวมถึงเขตชายแดน

"เสี่ยวซิน! เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"

ครั้นเข้ามาถึง บุรุษรูปงามที่มาพร้อมชุดเกราะและพกดาบคู่กายรีบรุดเข้าไปหาสหายวัยเด็กที่เติบโตมาด้วยกันด้วยความห่วงใย

ทว่าแม่นางผู้นั้นกลับรีบหลบด้านหลังสาวใช้พร้อมทำท่าทางหวาดกลัวเขา

"เหตุใดเจ้ามองข้าเยี่ยงนั้น"

จะไม่ให้นางกลัวได้เยี่ยงไร ในเมื่อเพิ่งได้พบเจอกันครั้งแรกบุรุษผู้นี้ก็ตรงปรี่เข้ามาหมายจะถูกเนื้อต้องตัวนาง

ถึงแม้เขาจะรูปโฉมหล่อเหลาปานใด ทว่าก็คือคนแปลกหน้าสำหรับหลันจินเยว่ นางจำต้องระแวดระวังไว้ก่อน

ที่สำคัญมีดาบติดตัวมาขนาดนั้นนักโทษเยี่ยงนางจะไม่หวาดกลัวคงมิใช่เรื่อง

"คุณหนูไม่ต้องกลัวนะเจ้าคะ นี่ไงเจ้าค่ะท่านรองแม่ทัพที่บ่าวเล่าให้ฟัง"

"รองแม่ทัพคนเมื่อกี้?"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   บทส่งท้าย : 2 [จบ]

    "เหตุใดท่านถึง..."จำต้องกลืนคำพูดลงคอเมื่อถูกนิ้วของคนรักปิดไว้ที่ริมฝีปากไม่ให้ขยับเอ่ย"อย่าขยับ ห้ามพูดใด ๆ"ตงเปียนอ๋องรู้สึกว่าร่างกายตนเองแปลกไปข้างในมันร้อนรุ่ม ลำคอแห้งผากเหมือนคนกระหายน้ำหากแต่ความรู้สึกเขากลับบอกว่าน้ำเพียงอย่างเดียวช่วยให้เขาดับกระหายไม่ได้เขาเริ่มตั้งสติจนจมูกสัมผัสได้ถึงกลิ่น ๆ หนึ่ง"ผงเริงรมย์""มันคืออันใด"หลันจินเยว่เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกจึงใคร่สงสัย ทว่าสิ่งที่อยากรู้กลับไม่ได้ถูกเอ่ยออกมาจากปากตงเปียนอ๋องเมื่อด้านนอกมีบุคคลมาเยือน"ฉินกงกงเข้าเฝ้าองค์ชายสี่เฟยหลง"เสียงกงกงของเสด็จย่าเขาดังขึ้นอยู่ด้านนอก"ฉินกงกงมีเรื่องอันใด"เหตุใดคนสนิทของเสด็จย่าถึงได้มาเยือนเข้าถึงจวนแห่งนี้ แถมมาได้เวลาเหมาะเจาะกับอาการประหลาดที่เพิ่งเริ่มแสดงอาการอีก"ไทเฮามีรับสั่ง ผงเริงรมย์นั้นไซร้ จงใช้ให้เกิดประโยชน์ หลังจากนี้สามวันเป็นฤกษ์ดี สามารถจัดงานมงคลได้"เสียงแหลมบาดหูของฉินกงกงเอ่ยราชโองการขององค์ไทเฮาเสร็จจึงทูลลากลับเข้าวังหลวง ทิ้งให้ตงเปียนอ๋องอมยิ้มอยู่ในห้องเมื่อรู้สาเหตุแล้วว่าเหตุใดตนถึงมีอาการแปลกประหลาดเช่นนี้"อะไรคือผงเริงรมย์และอะไรคือสามวันม

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   บทส่งท้าย : 1

    บทส่งท้าย : เมื่อหมอกจางหาย บุปผางามผลิบาน"ข้าขับพิษออกจากร่างกายองค์ชายเรียบร้อยแล้ว พักฟื้นสักสองสามวันก็หายดี"หมอหลวงประจำจวนเหมยฮัวเอ่ยบอก"ส่วนยานี้ต้มทานสามมื้อจนกว่าแผลจะหายดี"เสี่ยวโหรวรีบเข้าไปรับยานั้นจากหมอหลวง"อ้อข้าลืมอีกเรื่อง"ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบกว่าเดิมเพราะนึกว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงอันใดอีก"แผลนั้นต้องห้ามโดนน้ำเด็ดขาด คงต้องรบกวนพระชายาแล้ว"หมอหลวงหันมากำชับเรื่องสำคัญนี้กับหลันจินเยว่ ทำเอาใบหน้านางแดงระเรื่อเพราะไม่คิดว่าคนนอกจวนอย่างหมอหลวงท่านนี้จะรู้เรื่องสถานะของนางกับองค์ชายสี่อีกคน"ข้าไปส่งท่านหมอ"อู่ชิงหรงเดินนำหน้าเพื่อส่งหมอหลวงกลับโรงหมอ"บ่าวขอตัวไปต้มยาให้ท่านอ๋องนะเจ้าคะ"ทุกคนออกไปจากห้องหมดแล้วเหลือเพียงแค่หนึ่งคนหลับอยู่บนเตียงอย่างไร้วี่แววจะฟื้นและอีกคนที่นั่งลงข้างเขาด้วยความเป็นห่วง"ไหนท่านรับปากข้าว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย"ตอนที่หลันจินเยว่ได้ยินว่าตงเปียนอ๋องถูกอาวุธลับอาบยาพิษเล่นงานถึงกับวิ่งถือห่อยาหลายขนานไปดักรอพวกเขาระยะทางกือบลี้ ทั้งล้มลุกคลุกคลานจนแข้งขาถลอก บ่าวใช้คนใดขวางนางไล่ตะเพิดจนหมดสิ้น หากไม่สลบเสียก่อนหลันจินเยว

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 3

    ชายแดนทิศใต้"เจ้าเลิกดื้อรั้นเถิด ตอนนี้เผ่าซีเซียงยอมจำนนต่อกองทัพมังกรขาวหมดแล้ว"เสียงกร้าวของอู่ชิงหรงประกาศลั่นการปราบกบฎดำเนินมาได้สองชั่วยามแล้ว คนของเผ่าซีเซียงบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วนจนหัวหน้าเผ่ายกธงขาวยอมแพ้ให้กับอำนาจของแม่ทัพแห่งกองทัพมังกรขาวเฟยหลงทว่าต่อให้เสียเลือดเนื้อเสียคนไปมากมายเพียงใด ผู้ที่หัวรั้นเกลียดการพ่ายแพ้อย่างซู่จิ่งอวิ๋นไม่มีทางวางกระบี่ในมือลงเป็นแน่"วันนี้ข้ากับเจ้า ถ้าปลาไม่ตาย ตาข่ายก็ต้องขาด"ซู่จิ่งอวิ๋นโต้ตอบด้วยสำบัดสำนวนเสียงหนักแน่น วันนี้ทั้งเขาและตงเปียนอ๋องผู้นี้ต้องสู้กันให้ถึงที่สุด ให้ตายกันไปข้างถึงจะจบศึกในครั้งนี้"ช่างเด็ดเดี่ยวเช่นบิดาเจ้าเสียจริง"ตงเปียนอ๋องกล่าวชมในความเด็ดเดี่ยวนี้ หากเอามาใช้ให้ถูกทางคงเป็นที่น่ายกย่อง"วันนี้ข้าจะแก้แค้นให้ท่านพ่อที่ถูกพวกเจ้าบังคับให้ดื่มยาพิษนั่น"[1]ยามโฉ่วของวันนี้ เสนาซู่จินเพ่ยได้กรอกยาพิษฆ่าตัวตายหลังได้รับราชโองการเป็นนักโทษประหารที่ต้องบั่นคอเสียบประจาน ข่าวนั้นดังเซ็งแซ่ไปทั่วแคว้นจนมาถึงหูซู่จิ่งอวิ๋นบุตรชายเพียงคนเดียวที่ตั้งใจจะบุกไปช่วยบิดาออกมาแต่มิทันกาลเสียงกระบี่ฟาดฟันอย่

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 2

    "ทะ...ท่านอ๋อง"ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อถูกเอาอกเอาใจจากอีกคน"วันนี้สนุกไหม"เขาชวนนางคุยปกติ หากแต่ในแววตากลับมีความกลัดกลุ้มอยู่หลายส่วนจะเรื่องอะไรได้ ก็ตอนที่นางเดินซื้อของในตลาดมีนักฆ่าสะกดรอยตามถึงสามคน โชคดีที่ตงเปียนอ๋องอ่านเกมในครั้งนี้ออกคนรักของเขาถึงได้ปลอดภัยกลับมาหากเขาเล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง หลันจินเยว่คงไม่สบายใจ เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่แต่ในห้องอีกเป็นแน่ ตอนนี้เลยต้องเอาอกเอาใจนางเพื่อบอกกล่าวแก่เรื่องที่ตริตรองมาอย่างดีแก่นางในเวลาที่เหมาะสม"ตอนแรกก็สนุก"ตอบพร้อมยู่ปากอย่างหุดหงิดในเวลาต่อมา"ใครทำอันใดให้ว่าที่ชายาของข้าขุ่นเคืองใจ"ที่ใช้คำว่า 'ว่าที่' เพราะทั้งสองยังไม่เข้าพิธีสมรสกัน ตงเปียนอ๋องอยากให้เกียรตินางจึงจะรอปราบกบฎตระกูลซู่แล้วสิ้นถึงจะทำพิธีตามประเพณีแคว้น"ข้ากำลังดูผ้าเพื่อจะเอามาตัดชุดใหม่ให้ท่าน แต่เจอเข้ากับคนที่วางยาสลบข้าเพื่อส่งต่อให้คนพวกนั้นเข้า"ที่จริงเรื่องนี้องครักษ์เงาของเขารายงานมาหมดแล้ว"เจ้าพบเฟิงเยว่ซู?""จะเป็นใครอีกละ! พี่สาวตัวดีของเฟิงเยว่ซินนั่นแหละ"ตงเปียนอ๋องหลุดขำออกมาเบา ๆ เมื่อได้ฟังประโยคแปลก ๆ นั้นจบ"เจ้าพูดเหม

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 1

    "เสี่ยวโหรวเร็ว ๆ เข้า"เสียงเจื้อยแจ้วของหลันจินเยว่ในอาภรณ์สีลูกท้อร้องเรียกสาวใช้ที่เดินหอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังอยู่ด้านหลัง"คุณหนูช้าหน่อยเจ้าค่ะ"วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส นางเลยขออนุญาตตงเปียนอ๋องออกมาเดินตลาด ฝั่งนั้นเห็นว่านางเพิ่งผ่านอันตรายมาเมื่อไม่กี่วันก่อนเลยให้ออกมาเที่ยวเล่นจะได้ลืมเรื่องร้าย ๆ พวกนั้น หากแต่ตงเปียนอ๋องก็มิได้นิ่งนอนใจ เขาส่งองครักษ์เงาคอยติดตามอยู่ห่าง ๆ เผื่อเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือนางทัน"คุณหนูจะซื้อไปฝากท่านอ๋องหรือเพคะ"หลันจินเยว่ยืนดูผ้าไหมเนื้องามที่ร้านหนึ่งตรงตรอกเล็ก ๆ ของตลาด"เจ้าว่าหากท่านอ๋องเปลี่ยนมาใส่สีสว่างตาขึ้นจะดูภูมิฐานอยู่ไหม"ตั้งแต่ที่เห็นและรู้จักกันมา นางไม่เคยเห็นบุรุษที่ว่าสวมใส่เสื้อผ้าสีอื่นที่มิใช่สีดำสีเข้ม ๆ เลยสักครั้งเดียว"บ่าวว่าผ้าสีไหนหากอยู่บนตัวท่านอ๋องก็ดูสง่างามหมดเจ้าค่ะ"หลันจินเยว่เห็นด้วยอย่างยิ่ง วันนี้สาวใช้ของนางพูดได้ถูกใจต้องตบรางวัล"ผ้าพับนี้ข้าซื้อให้เจ้า"นางหยิบผ้าไหมสีกลีบดอกเหมยส่งให้เถ้าแก่ร้าน"คุณหนู นั่นคงแพงมากนะเจ้าคะ"มองแค่ตายังไม่ได้จับต้องเนื้อผ้าเสี่ยวโหรวก็รู้ว่านั่นคือไห

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   เพียงเจ้าผู้เดียวที่เป็นสตรีของข้า / 2

    ผ่านมาครึ่งชั่วยามแล้วหลังจากที่ตงเปียนอ๋องออกมาจากห้องนั้นเพื่อฟังรายงานจากเหล่าทหารว่าซู่จิ่งอวิ๋นหนีไปกบดานกับเผ่าซีเซียงบนเขาทางใต้ เขาเลยสั่งให้ทุกคนกลับมาวางแผนกันที่จวนเหมยฮัวก่อนการเดินทางกลับจำต้องใช้ม้าถึงจะถึงที่หมายโดยเร็ว ทว่าหลันจินเยว่กลับเลือกที่จะโดยสารม้ามากับอู่ชิงหรงแทนอีกคน"เหตุใดข้ารู้สึกว่าเจ้ากำลังหลบหน้าท่านอ๋อง"บุรุษผู้โผงผางคิดเห็นการใดก็พูดออกไปจนหมดสิ้นถามสหายวัยเยาว์"ข้ามิได้หลบหน้าผู้ใด"หลันจินเยว่ที่นั่งอยู่ด้านหลังเขาตอบเหมือนร้อนตัว"หากข้าเป็นคนอื่นคงเชื่อที่เจ้ากล่าวมา"จะมาเกิดฉลาดเอาอะไรตอนนี้ นางยิ่งอยากอยู่เงียบ ๆ ตบตีกับคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบจากตงเปียนอ๋องว่าตกลงแล้วที่เขาบอกชอบนางหมายถึงร่างกายเฟิงเยว่ซินหรือตัวตนที่นางแสดงออกกัน"หยุด!"ตงเปียนอ๋องที่ควบม้าตามหลังสองคนนี้สั่งเสียงลั่น ทหารทุกนายต่างหยุดควบม้าเพื่อรอฟังคำสั่งถัดไป"ท่านอ๋องพบสิ่งใดผิดปกติหรือขอรับ"หนึ่งในทหารที่ควบม้ารั้งท้ายลงจากม้ามาถามไถ่"ม้าตัวนี้อ่อนแรงแล้ว หยุดพักที่นี่สักพักก่อน"หากม้าที่ตงเปียนอ๋องทรงขี่อยู่คือทมิฬกาลคงหาข้ออ้างเช่นนี้ไม่ได้สายตาคมมองแผ่นหลังบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status