แชร์

สหายวัยเยาว์ / 1

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-23 13:32:30

"รองแม่ทัพคนเมื่อกี้?"

"เจ้าค่ะ นี่คือท่านชิงหรง รองแม่ทัพแห่งกองทัพมังกรขาว สหายสนิทตั้งแต่วัยเยาว์ของคุณหนูเจ้าค่ะ"

เสี่ยวโหรวอธิบายถึงตัวตนอีกคนที่เพิ่งมาเยือน นางจับมือคุณหนูที่เกาะแขนนางไว้ด้วยความสั่นกลัวออกช้า ๆ เพื่อให้เผชิญหน้ากับสหายสนิทที่มองคุณหนูนางด้วยแววตาใคร่สงสัย

"ช..ชิงหรง สหายสนิทข้า?"

ดวงวิญญาณจากภพอื่นที่เพิ่งมาสิงสู่ร่างนี้ค่อย ๆ ทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า

"เกิดอะไรขึ้น" ชิงหรงเอ่ยถามความ

ตั้งแต่รู้จักกันมาสิบกว่าปี เสี่ยวซินของเขาไม่เคยแสดงท่าทางหวาดกลัวเขาสักนิด ขนาดตอนที่ชุดเขาเปื้อนเลือดเกรอะกรัง เฟิงเยว่ซินยังไม่รังเกียจที่จะพบปะพูดคุยด้วยสักครา

"ท่านรองแม่ทัพโปรดใจเย็นก่อนเจ้าค่ะ หลังจากที่คุณหนูรู้ข่าวท่านเสนาเฟิงทำให้เสียใจจนถึงขั้นหมดสติ พอฟื้นขึ้นมาคุณหนูนางก็..."

เสียงสะอื้นพร้อมใบหน้าสลดมองคุณหนูที่เคารพรัก

"นางก็อันใด เจ้ารีบเล่าให้หมด!"

ชิงหรงเริ่มหงุดหงิดใจกับการอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ของสาวใช้ข้างกายสหายสนิท

"คุณหนูเหมือนจะจำอะไรไม่ได้เจ้าค่ะ"

"จำอะไรไม่ได้? เจ้ากำลังหมายถึงเสี่ยวซินสูญเสียความทรงจำงั้นรึ?"

"เจ้าค่ะ บ่าวคิดว่าเป็นเช่นนั้น" เสียงเสี่ยวโหรวแผ่วลงอย่างสลด

ความจำเสื่อมที่ไหนล่ะ ฉันไม่ใช่เสี่ยวซินอะไรนั่นเลยละ

"เจ้าจำอันใดมิได้เลยจริงหรือเสี่ยวซิน"

แววตาชิงหรงที่ทอดมองสหายวัยเด็กมีแต่ความสงสารและใคร่สงสัย

อีกคนที่ถูกถามยังอยู่ในอาการหวาดกลัวคนแปลกหน้าทำแค่พยักหน้าแล้วหลบข้างหลังสาวใช้นางต่อ

"แม้แต่ข้า เพื่อนเล่นของเจ้าตั้งแต่สองขวบเจ้าก็จำไม่ได้?"

จะเพื่อนกี่ขวบกี่เดือนนางก็จำไม่ได้ทั้งนั้นแหละ เพราะนางคือหลันจินเยว่ที่มาจากโลกอนาคต มิใช่เฟิงเยว่ซินเจ้าของร่างกายนี้

"มิใช่แค่ท่านรองแม่ทัพนะเจ้าคะที่คุณหนูจำไม่ได้ แม้แต่ตัวของคุณหนูเอง นางยังจำไม่ได้เลยเจ้าค่ะ"

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!

รองแม่ทัพผู้บุกป่าผ่าเจ็ดด่านผ่านทุกสงครามไม่เคยได้ยินว่าจะมีผู้ใดเสียความทรงจำถึงขั้นจำแม้กระทั่งตนเองไม่ได้เช่นนี้

"เสี่ยวซิน เจ้าจำข้าไม่ได้จริงหรือ ข้าหรงหรงที่เจ้าชอบขี่คอ พาเจ้าเล่นว่าวไง"

ชิงหรงรีบรุดเข้าไปไตร่ถามอีกรอบ ทว่าสิ่งที่เขาได้กลับมามีเพียงแววตาที่บ่งบอกว่านางจำเขาไม่ได้จริง ๆ

"เจ้าช่างน่าสงสารยิ่งนัก ต้องมาสูญเสียบุพการีและตัวตนของตนเองไปพร้อม ๆ กัน"

เฟิงเยว่ซินหญิงสาวผู้เพียบพร้อมทุกอย่าง เปรียบเสมือนแหล่งความสุขของเขาต้องกลายเป็นสตรีที่ช่างโชคร้ายน่าเวทนาที่สุดเพียงแค่คืนเดียว

ทุกอย่างมันบีบหัวใจคนเป็นสหายอย่างชิงหรงยิ่งนัก

"ข้า..."

'ไม่ใช่เสี่ยวซินของพวกเจ้าสักหน่อย'

แม้มีหมื่นคำพูดที่อยากอธิบาย หากแต่มองดูความเป็นไปแล้วบุคคลทั้งสองคงมิเชื่อ นางจึงหยุดคำพูดไว้ในใจดังเดิม

"มีอะไร เจ้าจำข้าได้สักนิดแล้วหรือ"

ชิงหรงอยากได้ข่าวดีให้ใจชื้นขึ้นมาหากแต่กลับต้องผิดหวัง

"ข้าขอโทษ แต่สักวันคงจำท่านได้"

'ต้องมีสักวันที่เราจะได้กลับโลกของเรา เมื่อวันนั้นมาถึงเฟิงเยว่ซินตัวจริงก็จะกลับมา เรื่องราวยุ่งเหยิงนี้ก็จะจบลง'

"ท่านรองแม่ทัพมาที่นี่เพื่อช่วยคุณหนูใช่ไหมเจ้าคะ" เสี่ยวโหรวรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าบรรยากาศช่างโศกเศร้ายิ่งนัก

"ข้าเกือบลืมไป วันนี้ข้ายังพาพวกเจ้าออกไปไม่ได้ ต้องรอให้ท่านแม่ทัพกลับมาเสียก่อน"

เสี่ยวโหรวรู้ดีว่า 'ท่านแม่ทัพ' ที่ว่าคือใครนางรีบแย้มยิ้มดีใจอย่างโล่งอก

"ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดียิ่งนัก พวกเราจะได้ออกจากที่แห่งนี้แล้วนะเจ้าคะคุณหนู"

หลันจินเยว่ยิ้มตามเมื่อรู้ว่าอีกไม่นานจะได้เป็นอิสระ

แต่ลึก ๆ นางก็แอบหวั่นใจเช่นกันว่าจะอยู่ในที่แห่งนี้ที่ไม่ใช่ที่ของตนได้หรือไม่

"พวกทหารยามไม่มีใครเอาน้ำเอาอาหารมาให้พวกเจ้าเลยหรือ"

ชิงหรงมองดูรอบคุกที่ทั้งสองอยู่ไม่มีแม้กาน้ำหรือว่าถ้วยน้ำสักชาม ทำแบบนี้มันเกินไปหน่อยกระมัง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   บทส่งท้าย : 2 [จบ]

    "เหตุใดท่านถึง..."จำต้องกลืนคำพูดลงคอเมื่อถูกนิ้วของคนรักปิดไว้ที่ริมฝีปากไม่ให้ขยับเอ่ย"อย่าขยับ ห้ามพูดใด ๆ"ตงเปียนอ๋องรู้สึกว่าร่างกายตนเองแปลกไปข้างในมันร้อนรุ่ม ลำคอแห้งผากเหมือนคนกระหายน้ำหากแต่ความรู้สึกเขากลับบอกว่าน้ำเพียงอย่างเดียวช่วยให้เขาดับกระหายไม่ได้เขาเริ่มตั้งสติจนจมูกสัมผัสได้ถึงกลิ่น ๆ หนึ่ง"ผงเริงรมย์""มันคืออันใด"หลันจินเยว่เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกจึงใคร่สงสัย ทว่าสิ่งที่อยากรู้กลับไม่ได้ถูกเอ่ยออกมาจากปากตงเปียนอ๋องเมื่อด้านนอกมีบุคคลมาเยือน"ฉินกงกงเข้าเฝ้าองค์ชายสี่เฟยหลง"เสียงกงกงของเสด็จย่าเขาดังขึ้นอยู่ด้านนอก"ฉินกงกงมีเรื่องอันใด"เหตุใดคนสนิทของเสด็จย่าถึงได้มาเยือนเข้าถึงจวนแห่งนี้ แถมมาได้เวลาเหมาะเจาะกับอาการประหลาดที่เพิ่งเริ่มแสดงอาการอีก"ไทเฮามีรับสั่ง ผงเริงรมย์นั้นไซร้ จงใช้ให้เกิดประโยชน์ หลังจากนี้สามวันเป็นฤกษ์ดี สามารถจัดงานมงคลได้"เสียงแหลมบาดหูของฉินกงกงเอ่ยราชโองการขององค์ไทเฮาเสร็จจึงทูลลากลับเข้าวังหลวง ทิ้งให้ตงเปียนอ๋องอมยิ้มอยู่ในห้องเมื่อรู้สาเหตุแล้วว่าเหตุใดตนถึงมีอาการแปลกประหลาดเช่นนี้"อะไรคือผงเริงรมย์และอะไรคือสามวันม

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   บทส่งท้าย : 1

    บทส่งท้าย : เมื่อหมอกจางหาย บุปผางามผลิบาน"ข้าขับพิษออกจากร่างกายองค์ชายเรียบร้อยแล้ว พักฟื้นสักสองสามวันก็หายดี"หมอหลวงประจำจวนเหมยฮัวเอ่ยบอก"ส่วนยานี้ต้มทานสามมื้อจนกว่าแผลจะหายดี"เสี่ยวโหรวรีบเข้าไปรับยานั้นจากหมอหลวง"อ้อข้าลืมอีกเรื่อง"ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบกว่าเดิมเพราะนึกว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงอันใดอีก"แผลนั้นต้องห้ามโดนน้ำเด็ดขาด คงต้องรบกวนพระชายาแล้ว"หมอหลวงหันมากำชับเรื่องสำคัญนี้กับหลันจินเยว่ ทำเอาใบหน้านางแดงระเรื่อเพราะไม่คิดว่าคนนอกจวนอย่างหมอหลวงท่านนี้จะรู้เรื่องสถานะของนางกับองค์ชายสี่อีกคน"ข้าไปส่งท่านหมอ"อู่ชิงหรงเดินนำหน้าเพื่อส่งหมอหลวงกลับโรงหมอ"บ่าวขอตัวไปต้มยาให้ท่านอ๋องนะเจ้าคะ"ทุกคนออกไปจากห้องหมดแล้วเหลือเพียงแค่หนึ่งคนหลับอยู่บนเตียงอย่างไร้วี่แววจะฟื้นและอีกคนที่นั่งลงข้างเขาด้วยความเป็นห่วง"ไหนท่านรับปากข้าว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย"ตอนที่หลันจินเยว่ได้ยินว่าตงเปียนอ๋องถูกอาวุธลับอาบยาพิษเล่นงานถึงกับวิ่งถือห่อยาหลายขนานไปดักรอพวกเขาระยะทางกือบลี้ ทั้งล้มลุกคลุกคลานจนแข้งขาถลอก บ่าวใช้คนใดขวางนางไล่ตะเพิดจนหมดสิ้น หากไม่สลบเสียก่อนหลันจินเยว

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 3

    ชายแดนทิศใต้"เจ้าเลิกดื้อรั้นเถิด ตอนนี้เผ่าซีเซียงยอมจำนนต่อกองทัพมังกรขาวหมดแล้ว"เสียงกร้าวของอู่ชิงหรงประกาศลั่นการปราบกบฎดำเนินมาได้สองชั่วยามแล้ว คนของเผ่าซีเซียงบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วนจนหัวหน้าเผ่ายกธงขาวยอมแพ้ให้กับอำนาจของแม่ทัพแห่งกองทัพมังกรขาวเฟยหลงทว่าต่อให้เสียเลือดเนื้อเสียคนไปมากมายเพียงใด ผู้ที่หัวรั้นเกลียดการพ่ายแพ้อย่างซู่จิ่งอวิ๋นไม่มีทางวางกระบี่ในมือลงเป็นแน่"วันนี้ข้ากับเจ้า ถ้าปลาไม่ตาย ตาข่ายก็ต้องขาด"ซู่จิ่งอวิ๋นโต้ตอบด้วยสำบัดสำนวนเสียงหนักแน่น วันนี้ทั้งเขาและตงเปียนอ๋องผู้นี้ต้องสู้กันให้ถึงที่สุด ให้ตายกันไปข้างถึงจะจบศึกในครั้งนี้"ช่างเด็ดเดี่ยวเช่นบิดาเจ้าเสียจริง"ตงเปียนอ๋องกล่าวชมในความเด็ดเดี่ยวนี้ หากเอามาใช้ให้ถูกทางคงเป็นที่น่ายกย่อง"วันนี้ข้าจะแก้แค้นให้ท่านพ่อที่ถูกพวกเจ้าบังคับให้ดื่มยาพิษนั่น"[1]ยามโฉ่วของวันนี้ เสนาซู่จินเพ่ยได้กรอกยาพิษฆ่าตัวตายหลังได้รับราชโองการเป็นนักโทษประหารที่ต้องบั่นคอเสียบประจาน ข่าวนั้นดังเซ็งแซ่ไปทั่วแคว้นจนมาถึงหูซู่จิ่งอวิ๋นบุตรชายเพียงคนเดียวที่ตั้งใจจะบุกไปช่วยบิดาออกมาแต่มิทันกาลเสียงกระบี่ฟาดฟันอย่

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 2

    "ทะ...ท่านอ๋อง"ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อถูกเอาอกเอาใจจากอีกคน"วันนี้สนุกไหม"เขาชวนนางคุยปกติ หากแต่ในแววตากลับมีความกลัดกลุ้มอยู่หลายส่วนจะเรื่องอะไรได้ ก็ตอนที่นางเดินซื้อของในตลาดมีนักฆ่าสะกดรอยตามถึงสามคน โชคดีที่ตงเปียนอ๋องอ่านเกมในครั้งนี้ออกคนรักของเขาถึงได้ปลอดภัยกลับมาหากเขาเล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง หลันจินเยว่คงไม่สบายใจ เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่แต่ในห้องอีกเป็นแน่ ตอนนี้เลยต้องเอาอกเอาใจนางเพื่อบอกกล่าวแก่เรื่องที่ตริตรองมาอย่างดีแก่นางในเวลาที่เหมาะสม"ตอนแรกก็สนุก"ตอบพร้อมยู่ปากอย่างหุดหงิดในเวลาต่อมา"ใครทำอันใดให้ว่าที่ชายาของข้าขุ่นเคืองใจ"ที่ใช้คำว่า 'ว่าที่' เพราะทั้งสองยังไม่เข้าพิธีสมรสกัน ตงเปียนอ๋องอยากให้เกียรตินางจึงจะรอปราบกบฎตระกูลซู่แล้วสิ้นถึงจะทำพิธีตามประเพณีแคว้น"ข้ากำลังดูผ้าเพื่อจะเอามาตัดชุดใหม่ให้ท่าน แต่เจอเข้ากับคนที่วางยาสลบข้าเพื่อส่งต่อให้คนพวกนั้นเข้า"ที่จริงเรื่องนี้องครักษ์เงาของเขารายงานมาหมดแล้ว"เจ้าพบเฟิงเยว่ซู?""จะเป็นใครอีกละ! พี่สาวตัวดีของเฟิงเยว่ซินนั่นแหละ"ตงเปียนอ๋องหลุดขำออกมาเบา ๆ เมื่อได้ฟังประโยคแปลก ๆ นั้นจบ"เจ้าพูดเหม

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 1

    "เสี่ยวโหรวเร็ว ๆ เข้า"เสียงเจื้อยแจ้วของหลันจินเยว่ในอาภรณ์สีลูกท้อร้องเรียกสาวใช้ที่เดินหอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังอยู่ด้านหลัง"คุณหนูช้าหน่อยเจ้าค่ะ"วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส นางเลยขออนุญาตตงเปียนอ๋องออกมาเดินตลาด ฝั่งนั้นเห็นว่านางเพิ่งผ่านอันตรายมาเมื่อไม่กี่วันก่อนเลยให้ออกมาเที่ยวเล่นจะได้ลืมเรื่องร้าย ๆ พวกนั้น หากแต่ตงเปียนอ๋องก็มิได้นิ่งนอนใจ เขาส่งองครักษ์เงาคอยติดตามอยู่ห่าง ๆ เผื่อเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือนางทัน"คุณหนูจะซื้อไปฝากท่านอ๋องหรือเพคะ"หลันจินเยว่ยืนดูผ้าไหมเนื้องามที่ร้านหนึ่งตรงตรอกเล็ก ๆ ของตลาด"เจ้าว่าหากท่านอ๋องเปลี่ยนมาใส่สีสว่างตาขึ้นจะดูภูมิฐานอยู่ไหม"ตั้งแต่ที่เห็นและรู้จักกันมา นางไม่เคยเห็นบุรุษที่ว่าสวมใส่เสื้อผ้าสีอื่นที่มิใช่สีดำสีเข้ม ๆ เลยสักครั้งเดียว"บ่าวว่าผ้าสีไหนหากอยู่บนตัวท่านอ๋องก็ดูสง่างามหมดเจ้าค่ะ"หลันจินเยว่เห็นด้วยอย่างยิ่ง วันนี้สาวใช้ของนางพูดได้ถูกใจต้องตบรางวัล"ผ้าพับนี้ข้าซื้อให้เจ้า"นางหยิบผ้าไหมสีกลีบดอกเหมยส่งให้เถ้าแก่ร้าน"คุณหนู นั่นคงแพงมากนะเจ้าคะ"มองแค่ตายังไม่ได้จับต้องเนื้อผ้าเสี่ยวโหรวก็รู้ว่านั่นคือไห

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   เพียงเจ้าผู้เดียวที่เป็นสตรีของข้า / 2

    ผ่านมาครึ่งชั่วยามแล้วหลังจากที่ตงเปียนอ๋องออกมาจากห้องนั้นเพื่อฟังรายงานจากเหล่าทหารว่าซู่จิ่งอวิ๋นหนีไปกบดานกับเผ่าซีเซียงบนเขาทางใต้ เขาเลยสั่งให้ทุกคนกลับมาวางแผนกันที่จวนเหมยฮัวก่อนการเดินทางกลับจำต้องใช้ม้าถึงจะถึงที่หมายโดยเร็ว ทว่าหลันจินเยว่กลับเลือกที่จะโดยสารม้ามากับอู่ชิงหรงแทนอีกคน"เหตุใดข้ารู้สึกว่าเจ้ากำลังหลบหน้าท่านอ๋อง"บุรุษผู้โผงผางคิดเห็นการใดก็พูดออกไปจนหมดสิ้นถามสหายวัยเยาว์"ข้ามิได้หลบหน้าผู้ใด"หลันจินเยว่ที่นั่งอยู่ด้านหลังเขาตอบเหมือนร้อนตัว"หากข้าเป็นคนอื่นคงเชื่อที่เจ้ากล่าวมา"จะมาเกิดฉลาดเอาอะไรตอนนี้ นางยิ่งอยากอยู่เงียบ ๆ ตบตีกับคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบจากตงเปียนอ๋องว่าตกลงแล้วที่เขาบอกชอบนางหมายถึงร่างกายเฟิงเยว่ซินหรือตัวตนที่นางแสดงออกกัน"หยุด!"ตงเปียนอ๋องที่ควบม้าตามหลังสองคนนี้สั่งเสียงลั่น ทหารทุกนายต่างหยุดควบม้าเพื่อรอฟังคำสั่งถัดไป"ท่านอ๋องพบสิ่งใดผิดปกติหรือขอรับ"หนึ่งในทหารที่ควบม้ารั้งท้ายลงจากม้ามาถามไถ่"ม้าตัวนี้อ่อนแรงแล้ว หยุดพักที่นี่สักพักก่อน"หากม้าที่ตงเปียนอ๋องทรงขี่อยู่คือทมิฬกาลคงหาข้ออ้างเช่นนี้ไม่ได้สายตาคมมองแผ่นหลังบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status