Share

บทที่ 5 ภาพวาดเจ้าปัญหา

last update Huling Na-update: 2025-06-07 12:00:38

วันเวลาผันผ่านมาเกือบสัปดาห์ ใต้เท้าเมิ่งและหลิวซือเหว่ยก็ยังไม่พบตัวคุณหนูรอง กระทั่งหลิวซือเหว่ยเกิดแคลงใจว่าภาพเสมือนใบนี้ใช่นางจริงหรือไม่ ไยให้ลูกน้องเที่ยวเสาะหาสอบถามจนทั่วแคว้นก็ยังไม่พบ นางคงมิได้กลายเป็นปุ๋ยอยู่กับรากต้นไม้เข้าแล้วกระมัง 

เพราะเขารับปากใต้เท้าเมิ่งเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่าจะช่วยตามหาคุณหนูรองเมิ่งให้พบ แต่ก็ไร้ร่องรอยหญิงเสียสติที่ว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ย่อมไม่เกิดผลดีแน่แท้ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เพียงคนเดียวเขาก็ไร้สามารถจนหาไม่พบเชียวหรือ 

"นายท่าน ที่วัดเจาเจินไม่พบตัวคุณหนูรองเลยขอรับ" 

คิ้วเข้มขมวดแน่นแทบเกิดเป็นปม คนทั้งคนจะหายไปเช่นนี้ได้อย่างไร

"เจ้าแน่ใจหรือ ยามปกติคุณหนูรองเมิ่งมักไปหาแม่ชีนางหนึ่งไม่ใช่หรือไร ตรวจสอบโดยละเอียดแล้วหรือไม่" 

"จริง ๆ ก็มีสตรีอีกนางมาอาศัยอยู่ด้วยขอรับ เพียงแต่นางมิใช่หญิงเสียสติ อีกอย่างหน้าตาของนางไม่คล้ายภาพที่เราได้มาเลย" 

หลิวซือเหว่ยเคาะนิ้วลงบนโต๊ะพลางขบคิด นัยน์ตาคมกริบกวาดมองภาพวาดเบื้องหน้า ยามปกติเขาก็มิได้สุงสิงกับคุณหนูรองเมิ่งเสียด้วย อีกอย่างนางร่างกายอ่อนแอขี้โรค จึงไม่เคยโผล่ออกจากจวนเฉกเช่นสตรีคนอื่น 

หรือภาพวาดจะมีปัญหากันเล่า...

"ไปเตรียมม้า ข้าจะไปจวนสกุลเมิ่ง" 

"ขอรับ" 

เสียงกีบเท้าม้าห้อทะยานเร่งร้อนมาหยุดที่หน้าจวนสกุลเมิ่ง เจ้าของร่างสูงกระโจนลงจากหลังม้า ผู้เฝ้าประตูจวนก็เร่งร้อนเข้ามาคำนับเขาพลางช่วยจับจูงอาชาศึกตัวใหญ่ถอยห่างออกไปยังที่พักม้า ส่วนบ่าวรับใช้อีกนายก็ทำหน้าที่เปิดประตูให้ผู้มาเยือนอย่างนอบน้อม 

"ท่านกั๋วกง เชิญด้านในขอรับ" 

เพียงเห็นท่าทีองอาจสีหน้าเคร่งขรึม รวมถึงเครื่องแต่งกายและหยกแขวนของเขา บรรดาบ่าวไพร่ของจวนสกุลเมิ่งก็ทราบทันทีว่าบุรุษตรงหน้าเป็นใคร ขาสูงเยื้องย่างเข้ามาด้านในพร้อมกวาดสายตาคมกริบทอดมองการตกแต่งของจวนสกุลเมิ่งโดยรอบ 

เมิ่งเว่ยมีตำแหน่งเป็นถึงหู่ปู้ [1] เขาทำหน้าที่จัดเก็บภาษี ดูแลการเบิกจ่ายรายได้ของแผ่นดิน ไม่แปลกใจที่จวนสกุลเมิ่งนั้นจะดูใหญ่โตโอ่โถงไม่น้อยไปกว่าจวนกั๋วกงเช่นเขา แม้ว่าเมิ่งเว่ยทำงานอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ กระทั่งได้รับการปูนบำเหน็จจากฝ่าบาทมาหลายหน ทว่าหลิวซือเหว่ยกลับไม่คิดเช่นนั้น เขามองว่าสกุลเมิ่งเป็นพวกหน้าเงิน ลอบฉ้อราษฎร์บังหลวงมาไว้เป็นทรัพย์สินส่วนตน จึงได้ร่ำรวยล้นฟ้า ช่างหน้าหนาเสียจริง 

ยิ่งเขาเกลียดชังตระกูลเมิ่งมากเท่าใด กลับยิ่งต้องได้ข้องเกี่ยวมากขึ้นเท่านั้น ไฉนบิดาของเขาจำต้องมีพันธะกับสหายจอมละโมบเช่นนี้กัน ยามนี้หลิวซือเหว่ยปักใจชมชอบแต่เพียงคุณหนูลี่หลินเท่านั้น ไหนเลยกั๋วกงผู้รักเดียวเช่นเขาจะเหลือบแลหญิงอื่นได้ 

"กั๋วกง" เมิ่งเว่ยประหลาดใจ เดิมทีหลิวซือเหว่ยแทบไม่เหยียบเข้ามาที่จวนของเขาแม้เพียงครึ่งก้าว 

ทุกคนในเรือนจึงรวมตัวกันอยู่ที่โถงรับรอง ยามนี้ฮูหยินใหญ่ และเมิ่งลี่น่าก็อยู่ที่นี่ ครั้นเมิ่งลี่น่าเห็นกั๋วกงหนุ่มมาเยือนก็แสดงอาการกระมิดกระเมี้ยนอย่างอดไม่อยู่ ร่างระหงยอบกายอ่อนหวานเพื่อต้อนรับเขา 

"ท่านกั๋วกง" 

หลิวซือเหว่ยปรายตามอง เขาพยักหน้าเป็นเชิงรับทราบอย่างขอไปที ฮูหยินใหญ่เหริ่นอี้หรานเห็นบุตรีของตนถูกหมางเมินก็รู้สึกหน้าชา 

"เอ่อ ท่านกั๋วกง เชิญนั่งก่อนเจ้าค่ะ" ริมฝีปากซึ่งแต้มแต่งไปด้วยชาดสีสดเผยยิ้มฝืดฝืน 

"ไม่เป็นไร ข้ามาครู่เดียวเท่านั้น" หลิวซือเหว่ยพยักหน้าไปเบื้องหลัง องครักษ์ของเขาก็รุดเข้ามา จากนั้นคลี่ม้วนภาพเสมือนของคุณหนูรองให้เมิ่งเว่ยได้ตรวจสอบ 

"ใต้เท้าเมิ่ง ไม่ทราบว่า... ภาพวาดใบนี้ ใช่ภาพคุณหนูรองจริงหรือไม่" 

เมิ่งเว่ยเห็นภาพในมืออีกฝ่ายก็แทบล้มหงายท้องตึง "...ก็นับว่าใช่ขอรับ แต่ภาพนี่มัน...ข้าไม่ได้ให้ภาพนี้ไปมิใช่หรือ" 

เหริ่นอี้หรานเหลือบมองสำทับ จากนั้นยกมือขึ้นทาบอก "ตายจริง ก็นั่นมันภาพของซินเอ๋อร์มิใช่หรือเจ้าคะท่านพี่ แต่เหตุใดจึงต้องเป็นภาพนี้เล่า" 

"ภาพก็ถูกต้องแล้วมิใช่หรือเจ้าคะท่านแม่ ในเมื่อนางเป็นบ้าซ้ำยังขี้ริ้วขี้เหร่" เมิ่งลี่น่าโพล่ง 

เมิ่งเว่ยตวัดตามองค้อนลูกสาวคนโต เพราะภาพที่อยู่ในมือขององครักษ์กั๋วกง หาใช่ภาพที่ถูกต้อง นั่นเป็นเพียงภาพวาดล้อเลียนในยามที่เมิ่งเหยียนซินเกิดเสียสติแล้ว ซึ่งเมิ่งลี่น่าเป็นคนวาดขึ้นมาเองกับมือ 

"กั๋วกง นี่ต้องเกิดเรื่องเข้าใจผิดแน่ อภัยข้าด้วย ดูเหมือนคนของข้าคงทำงานไม่รอบคอบ" 

เมิ่งเว่ยได้เตรียมภาพเสมือนของเมิ่งเหยียนซินไปให้เขาจริง ดูจากท่าทางของเมิ่งลี่น่าแล้วคงเป็นฝีมือนางไม่ผิดแน่ ผู้เป็นบิดาก็ทำได้เพียงทอดถอนใจในความหัวรั้นของบุตรสาวคนโต 

"ใต้เท้าเมิ่ง ท่านจะบอกว่าเกิดความผิดพลาดงั้นหรือ ข้าต้องเสียเวลาตั้งเท่าใดในการตามหาบุตรสาวของท่าน!" 

เพราะเมิ่งลี่น่าลอบสับเปลี่ยนภาพเสมือนก่อนที่เมิ่งเว่ยจะออกจากจวนเพื่อไปพบหลิวซือเหว่ย หากเมิ่งเหยียนซินยังบ้าใบ้และมีสภาพเช่นนี้อยู่เขาต้องหานางพบเสียตั้งนานแล้ว แต่ทว่าล่วงเลยจนเกือบสัปดาห์ เหตุใดจึงยังไม่พบตัวเมิ่งเหยียนซิน 

เมิ่งลี่น่าแอบประหวั่นต่อท่าทีเดือดดาลของหลิวซือเหว่ย นางเหลือบมองผู้เป็นมารดา ทั้งสองประสานสายตาก็ราวกับรู้ใจ ส่วนเมิ่งเว่ยเริ่มหวาดเกรงว่าที่ลูกเขยของตนเข้าหน่อยแล้ว ฉายามัจจุราชหน้าหยกคงไม่ได้มาเล่น ๆ จริงแท้ 

"เอ่อ...กั๋วกง ท่านใจเย็นก่อน ข้าจะให้คนไปนำภาพที่ถูกต้องมาอีกครั้ง ส่วนเรื่องภาพวาดนี่ เดี๋ยวข้าจะทำการตรวจสอบเพื่อลงโทษคนผิด ข้อหากระทำการไม่รอบคอบจนทำให้ท่านกั๋วกงต้องเสียเวลา" 

เมิ่งเว่ยหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เนื่องจากเป็นฝีมือลูกสาวตัวดีเสียเอง

กั๋วกงหนุ่มถอยห่างออกไป เสียงทุ้มเปล่งวาจาเย็นเยียบ "แน่นอนว่าต้องลงโทษ" 

เมิ่งลี่น่าสะดุ้งเฮือก ริมฝีปากขบเม้มจนเกิดเป็นเส้นตรง นางพยายามก้มหน้าเพื่อเก็บพิรุธ มือทั้งสองประสานกันแน่นจนเกิดความชื้นจากเหงื่อ ใบหน้าของกั๋วกงหล่อเหลาก็จริง แต่น่าเกรงขามมากกว่าเสียอีก 

ในเมื่อยังต้องรออีกพักหนึ่ง หลิวซือเหว่ยจึงตัดสินใจหย่อนกายนั่งลงบริเวณเก้าอี้รับรอง ครั้นเมิ่งเว่ยเห็นหลิวซือเหว่ยใจเย็นลงแล้วเขาเองก็เบาใจ จากนั้นเหลียวมองเมิ่งลี่น่าหวังให้นางเข้าไปปรนนิบัติรินน้ำชา และนี่นับเป็นสิ่งที่เมิ่งลี่น่าประสงค์อยากใกล้ชิดหลิวซือเหว่ยอยู่ทีเดียว

ทว่าอีกฝ่ายกลับดับฝันนางเสียก่อน ทั้งที่ยังไม่ทันได้หยิบป้านชาขึ้นมาด้วยซ้ำ 

"ไม่ต้อง ข้าไม่ชอบชาแห้ง"

เพียงหลิวซือเหว่ยได้กลิ่นที่โชยออกมาก็ทราบทันทีว่านี่ไม่ใช่ชาสดที่ตนชื่นชอบ ยิ่งเป็นของจากสกุลเมิ่ง เขายิ่งไม่อยากแตะต้องเข้าไปใหญ่ เมิ่งลี่น่าหน้าเจื่อน ต่อให้หลิวซือเหว่ยรังเกียจนาง แต่เขาก็ยังต้องแต่งงานกับนางมิใช่หรือ คิดได้เช่นนั้นนางจึงเลือกไม่ยืนรบเร้ากั๋วกงหนุ่มต่อ 

ไม่นานภาพเสมือนใบใหม่ก็ถูกนำมาให้เขา คราวนี้หลิวซือเหว่ยไม่ได้นำกลับไปทั้งที่ยังไม่ได้ตรวจสอบอีก องครักษ์เข้ารับภาพในมือเมิ่งเว่ย จากนั้นคลายปมเชือกที่ผูกไว้หละหลวม แล้วจึงคลี่ม้วนภาพออกแช่มช้าภาพใบหน้าของดรุณีแรกแย้มฉายชัดกระจะตา 

เขาไม่คิดว่าใบหน้าคุณหนูรองเมิ่งจะจิ้มลิ้มชวนมองเพียงนี้ ต่างจากภาพก่อนลิบลับ คิ้วดุจกระบี่เคลื่อนเข้าหากันราวขบคิดบางสิ่ง

ไยนางจึงดูคุ้นตายิ่งนัก 

โจวฉีค้อมกายลง กระซิบเสียงแผ่ว "นายท่าน นี่ไม่ใช่แม่นางที่บอกว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษงั้นหรือ" 

หลิวซือเหว่ยใจเต้นครึกโครม ว่าแล้วเชียวเหตุใดนางจึงมีใบหน้าคล้ายคนที่เขาเคยพบมาก่อน 

เป็นนางเองงั้นหรือ

ยังไม่ทันไขข้อข้องใจ ผู้ติดตามอีกคนก็สาวเท้าเข้ามายืนขนาบด้านซ้ายของหลิวซือเหว่ย จากนั้นค้อมศีรษะกระซิบเสียงเบา "นายท่าน ภาพวาดนี่คล้ายสตรีที่ข้าน้อยพบที่วัดเจาเจินเลยขอรับ" 

เมิ่งเว่ยเห็นท่าทีพลิกกลับของหลิวซือเหว่ยก็บังเกิดความงุนงง "กั๋วกง มิทราบว่าภาพวาดซินเอ๋อร์มีปัญหาที่ตรงใดอีกหรือขอรับ" 

นัยน์ตาคมปลาบช้อนขึ้นแช่มช้า ริมฝีปากได้รูปขยับยกเสียงดุดัน "ใต้เท้าเมิ่ง ท่านอย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้กับข้าเล่า" 

เชิงอรรถ

^เสนาบดีกรมพระคลัง หรือหู่ปู้ (户部; 戶部) ทำหน้าที่เป็นกระทรวงการคลัง ดูแลการจัดเก็บภาษี รายได้แผ่นดิน เบิกจ่ายงบประมาณไปยังสำนัก กรม กอง ต่าง ๆ นอกจากนั้นยังทำหน้าที่คล้ายกรมทะเบียนราษฎร์ด้วย

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณหนูตัวประกอบพ่วงระบบหลีกหนีกั๋วกงตัวร้าย   บทที่ 5 ภาพวาดเจ้าปัญหา

    วันเวลาผันผ่านมาเกือบสัปดาห์ ใต้เท้าเมิ่งและหลิวซือเหว่ยก็ยังไม่พบตัวคุณหนูรอง กระทั่งหลิวซือเหว่ยเกิดแคลงใจว่าภาพเสมือนใบนี้ใช่นางจริงหรือไม่ ไยให้ลูกน้องเที่ยวเสาะหาสอบถามจนทั่วแคว้นก็ยังไม่พบ นางคงมิได้กลายเป็นปุ๋ยอยู่กับรากต้นไม้เข้าแล้วกระมังเพราะเขารับปากใต้เท้าเมิ่งเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่าจะช่วยตามหาคุณหนูรองเมิ่งให้พบ แต่ก็ไร้ร่องรอยหญิงเสียสติที่ว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ย่อมไม่เกิดผลดีแน่แท้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เพียงคนเดียวเขาก็ไร้สามารถจนหาไม่พบเชียวหรือ"นายท่าน ที่วัดเจาเจินไม่พบตัวคุณหนูรองเลยขอรับ"คิ้วเข้มขมวดแน่นแทบเกิดเป็นปม คนทั้งคนจะหายไปเช่นนี้ได้อย่างไร"เจ้าแน่ใจหรือ ยามปกติคุณหนูรองเมิ่งมักไปหาแม่ชีนางหนึ่งไม่ใช่หรือไร ตรวจสอบโดยละเอียดแล้วหรือไม่""จริง ๆ ก็มีสตรีอีกนางมาอาศัยอยู่ด้วยขอรับ เพียงแต่นางมิใช่หญิงเสียสติ อีกอย่างหน้าตาของนางไม่คล้ายภาพที่เราได้มาเลย"หลิวซือเหว่ยเคาะนิ้วลงบนโต๊ะพลางขบคิด นัยน์ตาคมกริบกวาดมองภาพวาดเบื้องหน้า ยามปกติเขาก็มิได้สุงสิงกับคุณหนูรองเมิ่งเสียด้วย อ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณหนูตัวประกอบพ่วงระบบหลีกหนีกั๋วกงตัวร้าย   บทที่ 4 ทักษะพิเศษ (2)

    "เดี๋ยว! เขาบอกว่าท่านดวงชะตาบัดซบ มันก็จะบัดซบงั้นหรือ""เฮ สาวน้อยเจ้าเป็นใครกัน ข้าเป็นหมอเทวดา ตรวจจับดวงชะตาของคนไม่เคยพลาด"เมิ่งเหยียนซินจิ๊ปาก จากนั้นยกมือขึ้นกอดอก "ก็เขา!" นิ้วเรียวชี้ไปยังชายที่ยืนมึนงงอยู่ภายในวงล้อม ทุกคนต่างเหลือบมองตามปลายนิ้วของเมิ่งเหยียนซิน"ขะ...ข้าหรือ" เขาหรี่นัยน์ตามองก็จำได้ว่าเมิ่งเหยียนซินคือหญิงสาวที่ตนเพิ่งชนเข้าโครมใหญ่เมื่อครู่เมิ่งเหยียนซินพยักหน้าเป็นคำตอบ นับว่าชายคนนี้โชคดียิ่งนักที่เผลอกระทบไหล่ของนางเข้า เมิ่งเหยียนซินจึงบังเอิญมองเห็นว่ากาลข้างหน้าในอีกไม่กี่ชั่วยามเท่านั้นกำลังจะเกิดสิ่งใดเกรงว่านักต้มตุ๋นคนนั้นคงแอบสอดแนมกิจการของเขามาก่อน แต่วันนี้ชายคนดังกล่าวกำลังดวงเปิดวาสนาเปิด จากที่กิจการใกล้ล้มละลายจนต้องปิดตัวก็ได้มีเศรษฐีคนหนึ่งมาเหมาข้าวสารจากร้านของเขาเพื่อไปทำโรงทานแจกจ่ายบรรดาคนไร้บ้านเพื่อทำกุศลครั้งใหญ่"อีกไม่นานลูกน้องของท่านจะมาหาท่าน""แม่หนูเจ้าหมายความว่าอย่างไร""ท่านรอดูก็แล้วกัน""เหลวไหล!" ชายนักต้มตุ๋นโพล่งขึ้น"เจ้าน

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณหนูตัวประกอบพ่วงระบบหลีกหนีกั๋วกงตัวร้าย   บทที่ 4 ทักษะพิเศษ (1)

    และแล้วเมิ่งเหยียนซินก็กลับกลายเป็นว่ามีระบบช่วยนำทางราวกับติดจีพีเอส ไม่รู้นับเป็นเรื่องโชคดีหรือไม่ที่ยามนี้เมิ่งเหยียนซินดันต้องมาทำภารกิจหนีตายให้กับคุณหนูรองเมิ่งเหยียนซิน แต่โลกใบนี้ก็เหมือนจริงเกินไปกระมังขณะที่เมิ่งเหยียนซินเดินบ้างกระโดดบ้างก็ลัดเลาะชายป่าเข้ามาจนถึงในตลาด ระบบพลันปรากฏขึ้นอีกครั้ง[หากต้องการหลบหลีกการกลับสกุลเมิ่ง ต้องระวังสิบสามนาฬิกา ขอให้ท่านปลอดภัย]"สิบสามนาฬิกา หา เอ๋...ฝั่งไหนล่ะ" เมิ่งเหยียนซินเหลือบซ้ายแลขวา นางเห็นบุรุษสองสามนายกำลังมุ่งหน้าใกล้เข้ามา ก็เร่งกระเด้งกายหลบเข้าหลังกองขยะฉับพลัน"นี่ พวกเจ้า เคยเห็นคุณหนูคนนี้หรือไม่"ภาพเสมือนของเมิ่งเหยียนซินถูกกางออกเพื่อสอบถามบรรดาพ่อค้าแม่ขายบริเวณนั้น ทุกคนต่างส่ายศีรษะไม่รู้เห็น เมิ่งเหยียนซินพยายามเขม้นมองภาพ ดูแล้วหน้าตาสตรีที่เขาวาดลงไปอุบาทว์พิกล จากที่นางอาบน้ำผลัดผ้า คุณหนูรองเมิ่งก็งดงามใช้ได้ทีเดียว เหตุใดจึงใช้ภาพเช่นนั้นมาตามหาคน หาให้ตายก็คงไม่พบนี่คิดว่าเราขี้เหร่ขนาดนี้เลยหรือไง จะบ้า...

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณหนูตัวประกอบพ่วงระบบหลีกหนีกั๋วกงตัวร้าย   บทที่ 3 ภารกิจที่หนึ่ง (2)

    ในที่สุดเมิ่งเหยียนซินก็ทำใจยอมรับความจริง เพราะนับตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้น เมิ่งเหยียนซินไม่ได้หวนกลับโลกใบเดิมของตน ในเมื่อมิอาจกลับไปได้แล้ว เช่นนั้นเมิ่งเหยียนซินก็ควรได้ออกไปเปิดหูเปิดตาเสียบ้าง เพื่อวางแผนเส้นทางการใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ถึงที่นี่เป็นโลกแห่งจินตนาการของนักเขียนที่เมิ่งเหยียนซินชื่นชอบ ทว่ามันกลับเป็นนิยายที่จบไปแล้ว หนำซ้ำยังไม่มีการบอกเล่าเรื่องราวของคุณหนูรองไว้โดยละเอียด เพราะเมิ่งเหยียนซินในนิยายเป็นเพียงตัวประกอบเรียกน้ำตาที่ถูกสอดแทรกเข้ามาเพื่อเพิ่มอรรถรสเท่านั้นเมิ่งเหยียนซินไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดนักเขียนคนนี้ต้องสร้างตัวตนคุณหนูรองเมิ่งขึ้นมา ในเมื่อบทบาทของนางจะเรียกว่าตัวเอกก็ไม่ใช่หรือจะบอกว่าเป็นตัวประกอบก็ไม่เชิง มันก้ำกึ่งอย่างไรชอบกล เพราะในนิยายเมิ่งเหยียนซินปรากฏกายไม่เท่าใด นางก็ต้องตายตั้งแต่ต้นเรื่อง ทว่ายามนี้เมิ่งเหยียนซินดันโผล่เข้ามาแทนที่คุณหนูรองเมิ่งตัวจริง เรื่องเลยตาลปัตรกลับหลัง เพราะคนตายได้ฟื้นคืนชีพอย่างน่าอัศจรรย์"คุณหนูรองท่านจะออกไปข้างนอกหรือ""ใช่เจ้าค่ะ เป็นอย่างไร เครื่องแต่งกายนี่คงไม่มีใครจำข้าได้ก

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณหนูตัวประกอบพ่วงระบบหลีกหนีกั๋วกงตัวร้าย   บทที่ 3 ภารกิจที่หนึ่ง (1)

    ณ จวนสกุลเมิ่ง"ท่านแม่ตกลงแล้ว นังเด็กบ้ามันหายไปไหนกันแน่ หรือมันตายไปแล้วจริง ๆ เจ้าคะ""แม่เองก็ไม่รู้ ส่งคนไปดูที่วัดเจาเจินหลายครั้งก็ไม่เห็นนาง นางอาจตายไปแล้วจริง ๆ ก็ได้""แต่หากท่านพ่อส่งคนของทางการไปตามหานางเล่าเจ้าคะ""น่าเอ๋อร์ เจ้าอย่าเพิ่งโฉ่งฉ่างได้หรือไม่ ต่อให้นางตายหรืออยู่ นางก็ไม่มีทางเป็นคู่หมายของท่านกั๋วกงไปได้หรอก"สองแม่ลูกสกุลเมิ่งนั่งสนทนาอยู่ภายในห้องส่วนตัวของเมิ่งลี่น่า ขณะที่ใต้เท้าเมิ่งหรือเมิ่งเว่ย ยังเดินวนไปเวียนมาเพราะเป็นห่วงบุตรสาวคนรองที่โถงรับแขก เมิ่งเหยียนซินเป็นบุตรีที่เขารักดั่งแก้วตาดวงใจ ยามนี้นางหายตัวไปครบห้าวันแล้ว ส่งคนไปตามหาที่วัดเจาเจินหลายครั้งก็ไม่เจอ ดูเหมือนเขาอาจต้องบากหน้าไปพึ่งใบบุญของหลิวกั๋วกง หรือ หลิวซือเหว่ยว่าที่ลูกเขยของตนเสียแล้วรุ่งอรุณมาเยือนอีกครั้งสกุลเมิ่งก็ยังไม่พบตัวคุณหนูรอง รถม้าของจวนสกุลเมิ่งมาจอดที่หน้าจวนกั๋วกง ชายวัยกลางคนดูภูมิฐานเร่งร้อนลงจากบันไดคับแคบ"ท่านกั๋วกง"บุรุษร่างสูงใบหน

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณหนูตัวประกอบพ่วงระบบหลีกหนีกั๋วกงตัวร้าย   บทที่ 2 เหตุใดจึงไม่ใช่นางเอก (2)

    เมิ่งเหยียนซินถูกนำมายังหอชำระกาย เมื่อจัดการตนเองเป็นที่เรียบร้อย เมิ่งเหยียนซินจึงพยายามนั่งทบทวนว่าตนทำพลาดตรงไหนไยจึงมาโผล่ยังสถานที่ของนิยายได้กัน หนำซ้ำยังเป็นนิยายที่คนอื่นแต่ง หากจะว่าเพราะเขียนนิยายมากไปหน่อยก็ควรฝันถึงนิยายตนเองไม่ใช่หรือยังไง ยิ่งหาสาเหตุก็ยิ่งพบเพียงคำถามยุ่งเหยิงเต็มไปหมด เมิ่งเหยียนซินอับจนหนทางจะแก้ไข เช่นนั้นก็คงต้องลองนอนหลับสักตื่น บางทีตอนที่ลืมตาขึ้นอีกครั้งอาจจะได้กลับไปยังบ้านของตนเช่นเดิม"คุณหนู ค่ำแล้ว มือเท้าของท่านเย็นนัก เกรงจะป่วยเอาได้ อาภรณ์พวกนี้ท่านก็เอาไว้ใช้เถิดเจ้าค่ะ""ขอบคุณเจ้าค่ะ" เมิ่งเหยียนซินเอื้อมมือรับเสื้อคลุมตัวหนา"เรือนรับรองที่นี่คับแคบไปบ้าง ท่านคงนอนได้กระมัง""ได้เจ้าค่ะ ไม่มีปัญหา" เมิ่งเหยียนซินฉีกยิ้มกว้าง เมื่อมองผ่านลาดไหล่บางออกไปก็เห็นใบหน้าอันบวมเป่งพร้อมมุมปากที่เกิดรอยเขียวช้ำจนดูไม่ออกว่านี่คนหรือตัวประหลาดใดก็ต้องนิ่วหน้าซี๊ดปากขึ้นดูไม่ได้เอาเสียเลย สองแม่ลูกนั่นจะรังแกยัยคุณหนูรองมากเกินไปแล้ว เอาวะ ไม่ได้เข้ามาเป็นนางเอกก็ไม่เป็นไร อยากเล่นสนุกอยู่พอดี คุณหนูรองเมิ่ง ไว้ข้าจะจัดการสองแม่ลูกมหาภัยให้เ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status