Share

บทที่ 5 ภาพวาดเจ้าปัญหา

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-07 12:00:38

วันเวลาผันผ่านมาเกือบสัปดาห์ ใต้เท้าเมิ่งและหลิวซือเหว่ยก็ยังไม่พบตัวคุณหนูรอง กระทั่งหลิวซือเหว่ยเกิดแคลงใจว่าภาพเสมือนใบนี้ใช่นางจริงหรือไม่ ไยให้ลูกน้องเที่ยวเสาะหาสอบถามจนทั่วแคว้นก็ยังไม่พบ นางคงมิได้กลายเป็นปุ๋ยอยู่กับรากต้นไม้เข้าแล้วกระมัง 

เพราะเขารับปากใต้เท้าเมิ่งเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่าจะช่วยตามหาคุณหนูรองเมิ่งให้พบ แต่ก็ไร้ร่องรอยหญิงเสียสติที่ว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ย่อมไม่เกิดผลดีแน่แท้ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เพียงคนเดียวเขาก็ไร้สามารถจนหาไม่พบเชียวหรือ 

"นายท่าน ที่วัดเจาเจินไม่พบตัวคุณหนูรองเลยขอรับ" 

คิ้วเข้มขมวดแน่นแทบเกิดเป็นปม คนทั้งคนจะหายไปเช่นนี้ได้อย่างไร

"เจ้าแน่ใจหรือ ยามปกติคุณหนูรองเมิ่งมักไปหาแม่ชีนางหนึ่งไม่ใช่หรือไร ตรวจสอบโดยละเอียดแล้วหรือไม่" 

"จริง ๆ ก็มีสตรีอีกนางมาอาศัยอยู่ด้วยขอรับ เพียงแต่นางมิใช่หญิงเสียสติ อีกอย่างหน้าตาของนางไม่คล้ายภาพที่เราได้มาเลย" 

หลิวซือเหว่ยเคาะนิ้วลงบนโต๊ะพลางขบคิด นัยน์ตาคมกริบกวาดมองภาพวาดเบื้องหน้า ยามปกติเขาก็มิได้สุงสิงกับคุณหนูรองเมิ่งเสียด้วย อีกอย่างนางร่างกายอ่อนแอขี้โรค จึงไม่เคยโผล่ออกจากจวนเฉกเช่นสตรีคนอื่น 

หรือภาพวาดจะมีปัญหากันเล่า...

"ไปเตรียมม้า ข้าจะไปจวนสกุลเมิ่ง" 

"ขอรับ" 

เสียงกีบเท้าม้าห้อทะยานเร่งร้อนมาหยุดที่หน้าจวนสกุลเมิ่ง เจ้าของร่างสูงกระโจนลงจากหลังม้า ผู้เฝ้าประตูจวนก็เร่งร้อนเข้ามาคำนับเขาพลางช่วยจับจูงอาชาศึกตัวใหญ่ถอยห่างออกไปยังที่พักม้า ส่วนบ่าวรับใช้อีกนายก็ทำหน้าที่เปิดประตูให้ผู้มาเยือนอย่างนอบน้อม 

"ท่านกั๋วกง เชิญด้านในขอรับ" 

เพียงเห็นท่าทีองอาจสีหน้าเคร่งขรึม รวมถึงเครื่องแต่งกายและหยกแขวนของเขา บรรดาบ่าวไพร่ของจวนสกุลเมิ่งก็ทราบทันทีว่าบุรุษตรงหน้าเป็นใคร ขาสูงเยื้องย่างเข้ามาด้านในพร้อมกวาดสายตาคมกริบทอดมองการตกแต่งของจวนสกุลเมิ่งโดยรอบ 

เมิ่งเว่ยมีตำแหน่งเป็นถึงหู่ปู้ [1] เขาทำหน้าที่จัดเก็บภาษี ดูแลการเบิกจ่ายรายได้ของแผ่นดิน ไม่แปลกใจที่จวนสกุลเมิ่งนั้นจะดูใหญ่โตโอ่โถงไม่น้อยไปกว่าจวนกั๋วกงเช่นเขา แม้ว่าเมิ่งเว่ยทำงานอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ กระทั่งได้รับการปูนบำเหน็จจากฝ่าบาทมาหลายหน ทว่าหลิวซือเหว่ยกลับไม่คิดเช่นนั้น เขามองว่าสกุลเมิ่งเป็นพวกหน้าเงิน ลอบฉ้อราษฎร์บังหลวงมาไว้เป็นทรัพย์สินส่วนตน จึงได้ร่ำรวยล้นฟ้า ช่างหน้าหนาเสียจริง 

ยิ่งเขาเกลียดชังตระกูลเมิ่งมากเท่าใด กลับยิ่งต้องได้ข้องเกี่ยวมากขึ้นเท่านั้น ไฉนบิดาของเขาจำต้องมีพันธะกับสหายจอมละโมบเช่นนี้กัน ยามนี้หลิวซือเหว่ยปักใจชมชอบแต่เพียงคุณหนูลี่หลินเท่านั้น ไหนเลยกั๋วกงผู้รักเดียวเช่นเขาจะเหลือบแลหญิงอื่นได้ 

"กั๋วกง" เมิ่งเว่ยประหลาดใจ เดิมทีหลิวซือเหว่ยแทบไม่เหยียบเข้ามาที่จวนของเขาแม้เพียงครึ่งก้าว 

ทุกคนในเรือนจึงรวมตัวกันอยู่ที่โถงรับรอง ยามนี้ฮูหยินใหญ่ และเมิ่งลี่น่าก็อยู่ที่นี่ ครั้นเมิ่งลี่น่าเห็นกั๋วกงหนุ่มมาเยือนก็แสดงอาการกระมิดกระเมี้ยนอย่างอดไม่อยู่ ร่างระหงยอบกายอ่อนหวานเพื่อต้อนรับเขา 

"ท่านกั๋วกง" 

หลิวซือเหว่ยปรายตามอง เขาพยักหน้าเป็นเชิงรับทราบอย่างขอไปที ฮูหยินใหญ่เหริ่นอี้หรานเห็นบุตรีของตนถูกหมางเมินก็รู้สึกหน้าชา 

"เอ่อ ท่านกั๋วกง เชิญนั่งก่อนเจ้าค่ะ" ริมฝีปากซึ่งแต้มแต่งไปด้วยชาดสีสดเผยยิ้มฝืดฝืน 

"ไม่เป็นไร ข้ามาครู่เดียวเท่านั้น" หลิวซือเหว่ยพยักหน้าไปเบื้องหลัง องครักษ์ของเขาก็รุดเข้ามา จากนั้นคลี่ม้วนภาพเสมือนของคุณหนูรองให้เมิ่งเว่ยได้ตรวจสอบ 

"ใต้เท้าเมิ่ง ไม่ทราบว่า... ภาพวาดใบนี้ ใช่ภาพคุณหนูรองจริงหรือไม่" 

เมิ่งเว่ยเห็นภาพในมืออีกฝ่ายก็แทบล้มหงายท้องตึง "...ก็นับว่าใช่ขอรับ แต่ภาพนี่มัน...ข้าไม่ได้ให้ภาพนี้ไปมิใช่หรือ" 

เหริ่นอี้หรานเหลือบมองสำทับ จากนั้นยกมือขึ้นทาบอก "ตายจริง ก็นั่นมันภาพของซินเอ๋อร์มิใช่หรือเจ้าคะท่านพี่ แต่เหตุใดจึงต้องเป็นภาพนี้เล่า" 

"ภาพก็ถูกต้องแล้วมิใช่หรือเจ้าคะท่านแม่ ในเมื่อนางเป็นบ้าซ้ำยังขี้ริ้วขี้เหร่" เมิ่งลี่น่าโพล่ง 

เมิ่งเว่ยตวัดตามองค้อนลูกสาวคนโต เพราะภาพที่อยู่ในมือขององครักษ์กั๋วกง หาใช่ภาพที่ถูกต้อง นั่นเป็นเพียงภาพวาดล้อเลียนในยามที่เมิ่งเหยียนซินเกิดเสียสติแล้ว ซึ่งเมิ่งลี่น่าเป็นคนวาดขึ้นมาเองกับมือ 

"กั๋วกง นี่ต้องเกิดเรื่องเข้าใจผิดแน่ อภัยข้าด้วย ดูเหมือนคนของข้าคงทำงานไม่รอบคอบ" 

เมิ่งเว่ยได้เตรียมภาพเสมือนของเมิ่งเหยียนซินไปให้เขาจริง ดูจากท่าทางของเมิ่งลี่น่าแล้วคงเป็นฝีมือนางไม่ผิดแน่ ผู้เป็นบิดาก็ทำได้เพียงทอดถอนใจในความหัวรั้นของบุตรสาวคนโต 

"ใต้เท้าเมิ่ง ท่านจะบอกว่าเกิดความผิดพลาดงั้นหรือ ข้าต้องเสียเวลาตั้งเท่าใดในการตามหาบุตรสาวของท่าน!" 

เพราะเมิ่งลี่น่าลอบสับเปลี่ยนภาพเสมือนก่อนที่เมิ่งเว่ยจะออกจากจวนเพื่อไปพบหลิวซือเหว่ย หากเมิ่งเหยียนซินยังบ้าใบ้และมีสภาพเช่นนี้อยู่เขาต้องหานางพบเสียตั้งนานแล้ว แต่ทว่าล่วงเลยจนเกือบสัปดาห์ เหตุใดจึงยังไม่พบตัวเมิ่งเหยียนซิน 

เมิ่งลี่น่าแอบประหวั่นต่อท่าทีเดือดดาลของหลิวซือเหว่ย นางเหลือบมองผู้เป็นมารดา ทั้งสองประสานสายตาก็ราวกับรู้ใจ ส่วนเมิ่งเว่ยเริ่มหวาดเกรงว่าที่ลูกเขยของตนเข้าหน่อยแล้ว ฉายามัจจุราชหน้าหยกคงไม่ได้มาเล่น ๆ จริงแท้ 

"เอ่อ...กั๋วกง ท่านใจเย็นก่อน ข้าจะให้คนไปนำภาพที่ถูกต้องมาอีกครั้ง ส่วนเรื่องภาพวาดนี่ เดี๋ยวข้าจะทำการตรวจสอบเพื่อลงโทษคนผิด ข้อหากระทำการไม่รอบคอบจนทำให้ท่านกั๋วกงต้องเสียเวลา" 

เมิ่งเว่ยหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เนื่องจากเป็นฝีมือลูกสาวตัวดีเสียเอง

กั๋วกงหนุ่มถอยห่างออกไป เสียงทุ้มเปล่งวาจาเย็นเยียบ "แน่นอนว่าต้องลงโทษ" 

เมิ่งลี่น่าสะดุ้งเฮือก ริมฝีปากขบเม้มจนเกิดเป็นเส้นตรง นางพยายามก้มหน้าเพื่อเก็บพิรุธ มือทั้งสองประสานกันแน่นจนเกิดความชื้นจากเหงื่อ ใบหน้าของกั๋วกงหล่อเหลาก็จริง แต่น่าเกรงขามมากกว่าเสียอีก 

ในเมื่อยังต้องรออีกพักหนึ่ง หลิวซือเหว่ยจึงตัดสินใจหย่อนกายนั่งลงบริเวณเก้าอี้รับรอง ครั้นเมิ่งเว่ยเห็นหลิวซือเหว่ยใจเย็นลงแล้วเขาเองก็เบาใจ จากนั้นเหลียวมองเมิ่งลี่น่าหวังให้นางเข้าไปปรนนิบัติรินน้ำชา และนี่นับเป็นสิ่งที่เมิ่งลี่น่าประสงค์อยากใกล้ชิดหลิวซือเหว่ยอยู่ทีเดียว

ทว่าอีกฝ่ายกลับดับฝันนางเสียก่อน ทั้งที่ยังไม่ทันได้หยิบป้านชาขึ้นมาด้วยซ้ำ 

"ไม่ต้อง ข้าไม่ชอบชาแห้ง"

เพียงหลิวซือเหว่ยได้กลิ่นที่โชยออกมาก็ทราบทันทีว่านี่ไม่ใช่ชาสดที่ตนชื่นชอบ ยิ่งเป็นของจากสกุลเมิ่ง เขายิ่งไม่อยากแตะต้องเข้าไปใหญ่ เมิ่งลี่น่าหน้าเจื่อน ต่อให้หลิวซือเหว่ยรังเกียจนาง แต่เขาก็ยังต้องแต่งงานกับนางมิใช่หรือ คิดได้เช่นนั้นนางจึงเลือกไม่ยืนรบเร้ากั๋วกงหนุ่มต่อ 

ไม่นานภาพเสมือนใบใหม่ก็ถูกนำมาให้เขา คราวนี้หลิวซือเหว่ยไม่ได้นำกลับไปทั้งที่ยังไม่ได้ตรวจสอบอีก องครักษ์เข้ารับภาพในมือเมิ่งเว่ย จากนั้นคลายปมเชือกที่ผูกไว้หละหลวม แล้วจึงคลี่ม้วนภาพออกแช่มช้าภาพใบหน้าของดรุณีแรกแย้มฉายชัดกระจะตา 

เขาไม่คิดว่าใบหน้าคุณหนูรองเมิ่งจะจิ้มลิ้มชวนมองเพียงนี้ ต่างจากภาพก่อนลิบลับ คิ้วดุจกระบี่เคลื่อนเข้าหากันราวขบคิดบางสิ่ง

ไยนางจึงดูคุ้นตายิ่งนัก 

โจวฉีค้อมกายลง กระซิบเสียงแผ่ว "นายท่าน นี่ไม่ใช่แม่นางที่บอกว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษงั้นหรือ" 

หลิวซือเหว่ยใจเต้นครึกโครม ว่าแล้วเชียวเหตุใดนางจึงมีใบหน้าคล้ายคนที่เขาเคยพบมาก่อน 

เป็นนางเองงั้นหรือ

ยังไม่ทันไขข้อข้องใจ ผู้ติดตามอีกคนก็สาวเท้าเข้ามายืนขนาบด้านซ้ายของหลิวซือเหว่ย จากนั้นค้อมศีรษะกระซิบเสียงเบา "นายท่าน ภาพวาดนี่คล้ายสตรีที่ข้าน้อยพบที่วัดเจาเจินเลยขอรับ" 

เมิ่งเว่ยเห็นท่าทีพลิกกลับของหลิวซือเหว่ยก็บังเกิดความงุนงง "กั๋วกง มิทราบว่าภาพวาดซินเอ๋อร์มีปัญหาที่ตรงใดอีกหรือขอรับ" 

นัยน์ตาคมปลาบช้อนขึ้นแช่มช้า ริมฝีปากได้รูปขยับยกเสียงดุดัน "ใต้เท้าเมิ่ง ท่านอย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้กับข้าเล่า" 

เชิงอรรถ

^เสนาบดีกรมพระคลัง หรือหู่ปู้ (户部; 戶部) ทำหน้าที่เป็นกระทรวงการคลัง ดูแลการจัดเก็บภาษี รายได้แผ่นดิน เบิกจ่ายงบประมาณไปยังสำนัก กรม กอง ต่าง ๆ นอกจากนั้นยังทำหน้าที่คล้ายกรมทะเบียนราษฎร์ด้วย

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณหนูตัวประกอบพ่วงระบบหลีกหนีกั๋วกงตัวร้าย   บทที่ 34 ตราบนานเท่านาน (ตอนพิเศษ)

    [ค่าความโปรดปรานถูกเติมเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ยินดีด้วยคุณหนูรอง รางวัลของท่านก็คือรักนิจนิรันดร์ตราบนานเท่านาน]พรึบ!เฮือก..."ท่านพี่!!"เมิ่งเหยียนซินเหลียวมองบรรยากาศโดยรอบ ศีรษะก็เริ่มปวดหนึบ"นี่มัน นี่มันอะไรกัน ไม่นะ ท่านพี่ ท่านพี่ ฮื่อ..."ตอนนี้เมิ่งเหยียนซินได้กลับมาแล้ว แต่เมิ่งเหยียนซินยังไม่อยากกลับตอนนี้ นี่หรือรางวัลที่มอบให้ คนกำลังมีความสุขก็มาพรากไปอย่างหน้าตาเฉย"เสี่ยวทู่จื่อคืนท่านพี่มาให้ข้า!""..."“เสี่ยวทู่จื่อ! ระบบหลอกลวง ไหนว่าจะได้รับความรักนิจนิรันดร์ แล้วนี่ข้าออกมาแล้ว เขาเล่า เขาอยู่ที่ไหน ฮื่อ…. คืนเขามาให้ข้านะ ข้าจะไปหาเขาได้ยังไง”เมิ่งเหยียนซินเหลือบมองมือถือทั้งที่ยังสะอึกสะอื้น จากนั้นก็ปาดน้ำตาบนใบหน้าออกลวก ๆ มือเรียวสั่นเทาเมื่อพบว่าหน้าจอยังแสดงบทนิยายเรื่องนั้น เรื่องที่เมิ่งเหยียนซินเพิ่งได้กลับออกมา คาดไม่ถึงเลยว่าทั้งหมดก็เพียงแค่ฝันตื่นหนึ่ง"ฮื่อ...ท่านพี่ เราคงไม่ได้พบกันอีกแล้วใช่หรือไม่" เมิ่งเหยียนซินซุกหน้าลงบนฝ่ามือพร้อมกับร่ำไห้เสีย

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณหนูตัวประกอบพ่วงระบบหลีกหนีกั๋วกงตัวร้าย   บทที่ 33 รักนิจนิรันดร์ตราบนานเท่านาน (2) (จบ)

    พิธีแต่งงานของกั๋วกงกับคุณหนูรองเมิ่งถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ บรรดาผู้คนล้วนงุนงงว่าเมื่อก่อนหลิวกั๋วกงเป็นคู่หมั้นพี่สาว เหตุใดจึงได้แต่งงานกับน้องสาวแทน กลับกลายเป็นว่าเกิดข้อพิพาทระหว่างเรื่องนี้ขึ้นจนได้"เดิมทีคู่หมั้นของท่านกั๋วกงก็คือบุตรสาวคนรองของข้าอยู่แล้ว" เมิ่งเว่ยประกาศก้อง เมื่อเขาได้ยินคำนินทาแตกออกเป็นสองฝั่ง จากนั้นเอ่ยต่อ "เพราะมีเรื่องเกิดขึ้นกับนางทำให้ป่วยหนักเช่นที่ทุกคนทราบ ข้าเลยจงใจสลับตัวคู่หมั้นของท่านกั๋วกง เรื่องนี้เป็นความผิดข้าเอง" ผู้คนต่างฮือฮาอีกระลอก ครั้นเสียงเบาลงแล้ว เมิ่งเว่ยจึงเอ่ยต่อ "ส่วนสกุลฟู่..."เมิ่งเว่ยหันไปสบตาคุณชายฟู่และพ่อแม่ของเขา "สกุลเมิ่งต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง ที่ทำให้ท่านต้องเสียเวลา เราจะชดเชยให้ท่านเอง เพราะยามนี้ลูกสาวคนโตของข้า..."เมิ่งเว่ยดูลำบากใจ คุณชายฟู่เห็นว่าเขาอึดอัดจึงช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ ร่างสูงยืนขึ้นจากนั้นค้อมตัวลงแช่มช้า "ใต้เท้าเมิ่ง ไม่ต้องเกรงใจ"แท้จริงคุณชายฟู่ผู้นี้มีภรรยามาก่อนอยู่แล้ว เพียงแต่นางอาศัยอยู่ชานเมือง กิจการของตระกูลฟู่กำลังเข้าสู่ช่วงข้าวยากหมากแพง ดังนั้นจึ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณหนูตัวประกอบพ่วงระบบหลีกหนีกั๋วกงตัวร้าย   บทที่ 33 รักนิจนิรันดร์ตราบนานเท่านาน (1)

    กรี๊ด....เสียงกรีดร้องประหนึ่งคนเสียสติดังมาจากห้องนอนของเมิ่งลี่น่า บ่าวรับใช้ในเรือน ต่างกรูกันเข้ามาด้วยความแตกตื่น เสียงร่ำไห้ดังลอดออกมาเป็นระยะ"ฮื่อ...คุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่ เป็นอะไรไปเจ้าคะ"ประตูบานหนาเปิดออก เมิ่งเว่ยและเริ่นอี้หร่านรุดเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก"น่าเอ๋อร์ เป็นอะไรไปลูก"เริ่นอี้หร่านเดินเข้าไปสวมกอดพลางลูบศีรษะลูบเรือนร่างบุตรสาวเพื่อปลอบประโลม ยามนี้เสื้อผ้าของเมิ่งลี่น่าขาดวิ่นจนผิวกายผุดโผล่ ร่องรอยจ้ำสีเขียวสีแดงปรากฏเต็มลำคอและร่างกาย ผมเผ้าหลุดลุ่ยกระเซอะกระเซิงไม่ชวนอภิรมย์ บ่าวไพร่ที่เข้ามาเห็นก็ฮือฮากันยกใหญ่เกิดอะไรขึ้นเล่า อย่าบอกว่าคุณหนูรองหายป่วย คุณหนูใหญ่ก็เลยเป็นแทนนั่นน่ะสิ"หุบปาก! ไม่มีงานการทำหรืออย่างไร หากใครเอาเรื่องนี้ไปแพร่งพราย ข้าจะโบยให้หนัก" เริ่นอี้หร่านเดือดดาล เห็นบุตรสาวร้องไห้น้ำตานองหน้าทั้งยังเอาแต่พูดคำว่า อย่าทำข้า ๆ ข้าไม่ผิด ข้าไม่ได้วางยาใคร ใจของนางก็พลันกระตุกวูบ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณหนูตัวประกอบพ่วงระบบหลีกหนีกั๋วกงตัวร้าย   บทที่ 32 มัดจำ

    เมื่อทุกอย่างถูกจัดการอย่างลงตัว เมิ่งเหยียนซินก็ให้เลี่ยงหรงกลับห้องของตนไปพักผ่อน เมิ่งเหยียนซินทราบอยู่แล้วว่าเมิ่งลี่น่าไม่มีทางลดราวาศอกแน่ นางจึงวางแผนตลบหลัง เข้าไปเจรจากับบรรดาคณิกาชายที่เมิ่งลี่น่ามักไปใช้บริการอยู่บ่อยครั้งมาเป็นพวกพ้อง คนเหล่านี้เห็นเงินก็ตาลุกวาวหลังจากพวกเขาถูกซื้อตัวด้วยเงินจำนวนมาก คณิกาชายเหล่านั้นก็มักจะแวะมาแจ้งความเคลื่อนไหวของเมิ่งลี่น่าให้เมิ่งเหยียนซินทราบเสมอ เป็นเหตุให้วันนี้นางไหวตัวทันการกระทำในครั้งนี้ถือเสียว่าเป็นการแก้แค้นให้แม่นมผู่เยว่และจิตวิญญาณคุณหนูรองเมิ่งซึ่งยามนี้ไม่รู้ล่องลอยไปอยู่ที่ใด บางทีนางอาจขึ้นสวรรค์ไปแล้วก็ได้เมิ่งเหยียนซินกลับไปนั่งชมจันทร์เพื่อสงบใจอีกครู่ นางแหงนมองเบื้องบนจากนั้นประสานฝ่ามือหลับดวงตาระลึกถึงบางสิ่ง โดยไม่ทันสังเกตเลยว่ามีเงาร่างสูงของใครบางคนอยู่เบื้องหลังริมฝีปากได้รูปขยับเอ่ยบางเบา "คุณหนูรองเมิ่ง ฮูหยินรองข้าไม่รู้ว่ายามนี้จิตวิญญาณของท่านทั้งสองล่องลอยไป ณ ที่ใด และข้าไม่รู้ว่าคุณหนูรองเมิ่งกับข้ามีสิ่งใดเกี่ยวพันกันมาก่อน แต่แค้นที่ฝังรากหยั่งลึ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณหนูตัวประกอบพ่วงระบบหลีกหนีกั๋วกงตัวร้าย   บทที่ 31 หากศัตรูไม่ตายเราจะเป็นฝ่ายตายเสียเอง (2)

    เมิ่งลี่น่ารินน้ำชาลงถ้วยแช่มช้า กลิ่นหอมกรุ่นของชาใบอ่อนลอยฟุ้งกลางอากาศ มือเรียวเลื่อนชาถ้วยแรกส่งให้เมิ่งเหยียนซิน ริมฝีปากสีแดงเข้มขยับเอ่ยเสียงค่อย "น้องหญิง อาการของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง""ดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ อีกอย่างชาที่เรือนเล็กก็มี ท่านไม่จำเป็นต้องแบกมาให้หนัก""ได้อย่างไร ชาที่เรือนเล็กมีแต่ชาไร้คุณภาพ"เมิ่งเหยียนซินเหยียดยิ้ม ก็รู้นี่ยังจะพูด สองมาตรฐาน รังแกแต่น้องสาวตัวเอง"ข้าจะเข้านอนแล้ว ไม่อยากจิบชาให้ต้องวิ่งไปทำธุระดึกดื่นเจ้าค่ะ""นิดเดียวเอง ชานี่ข้าตั้งใจนำมาเพื่อขอโทษเจ้า" เมิ่งลี่น่าคลี่ยิ้มละไมเมิ่งเหยียนซินมองถ้วยชาเบื้องหน้าอย่างไม่ไว้ใจ เมิ่งลี่น่าคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ริมฝีปากเรียวยกยิ้มจาง ๆ "ดูเหมือนเจ้ายังไม่วางใจ เช่นนั้นเรามาแลกถ้วยกัน"มุขเดิม ๆ"เอาสิเจ้าคะ"เมิ่งลี่น่ากระหยิ่มยิ้มย่อง จากนั้นจึงเปลี่ยนถ้วยชาของตนกับเมิ่งเหยียนซิน นางยกชาขึ้นจิบ ครั้นลดถ้วยชาลงก็ส่งยิ้มหวานอีกครั้ง ทว่าเมิ่งเหยียนซินกลับยังไม่แตะชาแม้เพียง

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณหนูตัวประกอบพ่วงระบบหลีกหนีกั๋วกงตัวร้าย   บทที่ 31 หากศัตรูไม่ตายเราจะเป็นฝ่ายตายเสียเอง (1)

    เมิ่งเหยียนซินทอดสายตามองบุหลันดวงโตบนท้องนภา พลางขบคิดบางสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในระบบเสี่ยวทู่จื่อไยจึงคล้ายคลึงความเป็นจริงนัก ตรึกตรองไปมาก็ต้องถอนหายใจแผ่ว สรุปแล้วหลิวซือเหว่ยกำลังมีใจให้นางหรือไม่ เหตุใดช่วงบ่ายเขาต้องยกเอาเรื่องแสนอดสูในวันนั้นขึ้นมาดันทุรังเพื่อแต่งงานกับนางให้ได้ หรือเขาต้องการกลั่นแกล้งนางเพียงเพื่อนึกสนุก[ค่าความโปรดปรานเพิ่มขึ้นแปดเท่า]เมิ่งเหยียนซินผงะ "เสี่ยวทู่จื่ออยากโผล่ก็พรวดพราดขึ้นมาเลยหรือไง"[เสี่ยวทู่จื่อจะออกมายามจำเป็นเท่านั้น และตอนนี้ภารกิจของท่านใกล้สำเร็จแล้วเจ้าค่ะ]เมิ่งเหยียนซินแนบแก้มซ้ายลงตรงขอบหน้าต่าง หวนนึกถึงแววตาของหลิวซือเหว่ยที่มองมายังตนด้วยอาการตื่นตระหนกรวมถึงท่าทีพยายามช่วยเหลือนางอย่างไม่คิดชีวิตในเทศกาลโคมไฟวันนั้นก็รู้สึกแปลกใจพิกล เมิ่งเหยียนซินกำลังแอบปันใจให้พระรองผู้รักมั่นต่อนางเอกในนิยายเข้าเสียแล้วมือสังหารคืนนั้นถูกหลิวซือเหว่ยนำตัวไปสอบสวน กระทั่งทราบว่าไม่ใช่ฝีมือใครอื่น เป็นกลุ่มนักต้มตุ๋นที่ปักใจแค้นเคืองเมิ่งเหยียนซิน เฝ้าสะกดรอยตามนางจนทราบทุก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status