"..."
"นอนเถอะคนดี..พี่วินอยู่ตรงนี้..จะไม่ไปไหนจนกว่าฝนจะหยุด" เขายังคงย้ำให้เธอสบายใจ
ร่างเล็กเหมือนจะจดจำความอบอุ่นได้ และรู้ว่าเขาจะไม่มีวันข่มเหงรังแกถ้าไม่ยินยอมพร้อมใจ
มันเป็นความเชื่อใจที่ฝังอยู่ในจิตวิญญาณ
กว่าจะรู้ตัวหล่อนก็ผล็อยหลับไป..ในขณะที่คนตัวโตนอนตาค้างเสียอย่างงั้น
วโรดมเองก็ไม่เข้าใจการกระทำของตนแม้แต่นิด เพียงแค่เห็นฝนตกหนัก..ฟ้าผ่าลงมา เขาก็กุลีกุจอมาหาคนตัวเล็กถึงห้อง เหตุผลเพียงเพราะแก้วไม่ชอบฝน
ใช่ มันก็แค่นั้นจริงๆ
เขาควรจะลงโทษในสิ่งที่เธอทำลงไป..เธอทำให้ลูกของเราต้องตาย..ทำให้แพทริเซียเป็นซึมเศร้า อีกทั้งยังวางแผนเรื่องชั่วๆ อีกหลายเรื่อง
ที่น่าแค้นคือไม่ยอมอยู่รับกรรม..กับตายหนีความผิดเสียดื้อๆ ทิ้งให้เขาใช้ชีวิตอย่างเจ็บปวดทุกวินาทีที่ยังมีลมหายใจอยู่
เขาเกลียดเธอ..เกลียดความตอแหลเสแสร้ง..เกลียดความใจดำที่ไม่เคยคิดถึงใจคนอื่น..ที่สำคัญเกลียดตัวเขาเองที่ยังถวิลหาร่างกายนุ่มนิ่ม..แม้จะได้ โอกาสย้อนเวลากลับมาอีกครั้งก็ตาม
เธอกำลังทำให้เขาสับสน และดูเหมือนว่าลึกๆ ในส่วนลึกของดวงจิต เขายังคงคิดจะปกป้องเธอ..แม้วิธีที่ทำอาจพานให้เธอเกลียดเขาเข้ากระดูกดำก็ตาม!!
แต่ไอ้เตียงนอนนี้ทำไมแข็งจังว่ะ ไอ้ผ้าห่มนี้อีกโคตรจะบาง
แก้วยิ่งขี้หนาวอยู่ด้วย..ร่างกายเร็วกว่าความคิดมือแกร่งขยับรั้งเอวคอดกิ่วเข้าหาตัว อีกทั้งยังนึกตำหนิบรรดาคนใช้ เขาจำได้ว่าสั่งแล้วสั่งอีกให้ใช้เครื่องนอนดีๆ เฟอร์นิเจอร์สวยๆ ตกแต่งห้อง เพราะแก้วชอบของสวยๆ งามๆ ชอบกลิ่นหอมๆ เวลานั้นเธอมักจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด..ไม่รู้ว่าหงุดหงิดใครกันแน่
เอาจริงๆ เขาไม่ได้รู้สึกอะไรแม้แต่นิด..ไม่ได้รักเจ้าหล่อนแล้ว
ใช่ไม่ได้รัก..ไม่คิดจะรักอีก..ก็แค่สงสารกลัวว่าเจ้าหล่อนจะหนาวก็เท่านั้นเอง
สุดท้ายไอ้คนกล่อมว่าไม่คิดอะไรก็ผล็อยหลับไป และเป็นการหลับลึกที่สุดเท่าที่จำได้
แก้วกัลยาขยับตัวตื่นขึ้นด้วยความเมื่อยขบ เมื่อได้สติก็นึกได้ว่ามีคนหน้าหล่อมานอนในห้องด้วย ทว่าพอกวาดสายตาไปทั้งบริเวณห้องก็ไม่เห็นร่างสูงแม้แต่กระผีกเดียว มีเพียงรอยยับย่นบนผ้าปูที่นอนสีอ่อนแสดงถึงร่องรอยของใครบางคนอยู่
เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ช่างพิลึกคนชะมัด...สมกับเป็นพระเอกธงแดงที่แท้จริง!
หญิงสาวต่างภพพ่นลมหายใจอย่างหดหู่ ไม่รู้ว่าจะหลุดพ้นเจ้ากรรมนายเวรหน้าหล่อเมื่อไร
ร่างเล็กลุกขึ้นมานั่งบนที่นอนด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง..มือน้อยหยาบกร้านสางผมยาวสีน้ำตาลตามธรรมชาติก่อนจะรวบเป็นหางม้าง่ายๆ
วันนี้มีหลายอย่างที่เธอต้องทำ โดยเฉพาะการเพาะปลูกดอกไม้ไทยข้างเรือน เพื่อจะใช้เป็นวัตถุดิบในการทำเป็นสารตั้งต้นเพื่อผลิตน้ำหอม..อารมณ์ที่ขุ่นมัวจึงเริ่มกลับมาดีดังเก่า
นางร้ายหน้าหวานจึงจมกลับกับการเพาะกิ่ง..รดน้ำทำสวนน้อยข้างเรือนน้อย ในขณะเดียวกันก็อัดคลิปไปด้วย จวบจนสายของวันจึงลุกไปล้างมือ เตรียมทำขนมส่งร้านช่วงบ่าย
พฤติกรรมของแก้วกัลยาที่ผิดแผกจากปกติ พานให้คนใช้หนุ่มสาวที่เดินตามกันมาเป็นพรวนแบกเครื่องเรือน..เฟอร์นิเจอร์..ของใช้สารพัดอย่างนึกสงสัย
ไหนเลยนังแก้ว อีนังคางคกขึ้นวอจะยอมใช้แรงงาน
สาวสูงวัยผู้มีหน้าที่ดูแลคุณชายน้อยถึงกับหน้าบึ้ง
เมื่อเดินมาถึงตรงหน้าเรือนจึงปะทะกันอย่างเลี่ยงไม่ได้
หญิงสาวต่างภพถึงกับชะงักกับภาพขบวนดังกล่าว ดวงตาใสกระจ่างมองสำรวจด้วยความประหลาดใจไม่น้อย
ด้วยเรือนเหลืองแห่งนี้แทบจะอยู่ท้ายพื้นที่ตระกูลทรัพย์รุ่งโรจน์ ใกล้สุดมีเพียงตึกขนาดกลางที่อยู่เยื้องออกไป ขณะเรือนคนใช้ยังอยู่ใกล้ตึกใหญ่
ดังนั้นบรรดาฟูกนอนขนาดใหญ่ โซฟาวินเทจ ตู้เสื้อผ้าไม้สีหวาน...รวมถึงข้าวของเรือนใช้มีระดับ
พวกเขาจะขนไปไว้ที่ไหนได้ ถ้าไม่ใช่เรือนของเธอ
แก้วกัลยาได้คำตอบทันที เมื่อบรรดาคนใช้ในตระกูลต่างขนข้าวของทุกอย่างเข้าไปในตัวเรือนเหลืองราวกับเป็นการยืนยันความคิด
ดวงตาใสราวลูกกวางน้อยถึงกับเบิกกว้าง
"นี่ พวกๆ ป้ากำลังทำอะไรกันคะ แล้วนี่จะเอาฟูกนอน ข้าวของแก้วไปไว้ไหน!" เจ้าของห้องร้องเสียงหลง เมื่อเหล่าคนงานต่างทำงานกันไวมาก
เสื้อผ้าของเธอถูกโยนลงกล่องเปล่า ตู้เสื้อผ้าไม้เก่าถูกแบกออกจากห้อง แทนที่ตู้ไม้สีหวานมีระดับ..กว่าจะรู้ตัวห้องนอนก็ถูกตกแต่งด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์สีขาวเข้ากัน ดูสวยสะอาดตาเป็นที่สุด
"ป้าปริกคะ? นี่มันอะไรกันคะ?" คนตัวเล็กชักจะร้อนรน ในใจชักสังหรไม่ดี ดูท่าอีตาเผด็จการจะหางานให้เธอโดนเกลียดอีกแล้ว
"เหอะ นังตอแหล..หล่อนจะมาแสดงตัวเป็นคนดีให้ใครดูกันยะ"
"อ้าว..ป้า..ทำไมป้าพูดกับแก้วแบบนี้" ใบหน้าเล็กเชิดขึ้น อยู่ๆ ดีก็โดนด่า
ไม่รู้คนในตระกูลนี้จะผีบ้าตั้งแต่เจ้านายยันลูกน้องเลยไหม!
ป้าเช็งแม่บ้านผู้ดูแลการทำความสะอาดเบ้ปากทันที ก่อนจะตอบแทน
"เหอะ จะให้พวกฉันคิดว่ายังไงละ ไหนวันก่อนเห็นอีปริกบอกว่าหล่อนประกาศป่าว ๆ ว่าไม่คิดอะไรกับคุณวิน หน๊อย..ผ่านไปไม่นานอ้อนผัวชาวบ้านซื้อข้าวซื้อของให้แล้ว"
"อะ...อะไรนะคะ..แก้วนี่นะ แก้วไปทำแบบนั้นตอนไหน" แก้วกัลยาถึงกับสะอึก พร้อมกับชี้นิ้วมาทางตนเอง
ดวงตาราวลูกกวางน้อยได้แต่มองการโยกย้ายสิ่งของในห้องอย่างทำอะไรไม่ได้ ยังดีข้าวของที่เธอพึ่งซื้อล่าสุดไม่ได้ถูกทิ้งไปด้วย
ทุกคนล้วนแต่ไม่ฟังเธอ แถมยังปฏิบัติคำสั่งอย่างคล่องแคล่วว่องไวสมกับเป็นคนใช้มืออาชีพ
บรรยากาศภายในห้องเต็มจึงไปด้วยความอึดอัด..พลังงาน 'ความเกลียดชัง' ตลบอบอวลจนหญิงสาวสัมผัสได้
แน่ละ ในมุมมอง 'คนทั่วไป' ย่อมไม่มีใครเข้าข้าง 'นังเมียน้อย' เป็นแน่
ทว่าหลังจากที่วโรดมแต่งงาน..เราสองคนเองก็ยังไม่เคยมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง อีกทั้งเธอเองก็ยังไม่เต็มใจมาอยู่ที่เรือนแห่งนี้..พวกคนงานในบ้านทำเหมือนไม่เห็นกำไล em ตรงข้อเท้าเธอเสียอย่างงั้น
หญิงสาวต่างภพขมวดคิ้วยุ่ง..ในใจเต็มไปด้วยความอึดอัดขัดข้อง อีพระเอกธงแดงหาเรื่องให้เธอแล้ว!!
เดิมงามพิศคิดว่าเรื่องวุ่นวายเอาแน่เอานอนจะจบลงแล้ว ทว่าช่วงบ่ายก็ดันมีบรรดาเสื้อผ้า รองเท้าเครื่องสำอางทยอยส่งมาให้
แม้จะไม่ใช่สินค้าระดับไฮเอนด์แบบที่เคยใช้ในอีกภพชาติ แต่จากเนื้อสัมผัสก็พอบอกได้ว่าเป็นสินค้าดีในระดับหนึ่ง และอีกเช่นเคย เหล่าคนงานทำหน้าที่จบก็ทิ้งเธอไว้ในห้อง..แม้แต่มะลิเพื่อนสนิทก็เช่นกัน
การโดนคว่ำบาตรด้วย 'ความเงียบ' เป็นสิ่งที่น่าทรมานใจไม่น้อย หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าระงับความปวดหน่วงในใจ
ภาพทับซ้อนเหตุการณ์ลอยวาบเข้ามาโดยไม่ตั้งใจ...มันหาใช่บทบรรยายเพียงสองบรรทัดในนิยาย...แต่เป็นภาพเรื่องราวร้อยเรียงเป็นเหตุการณ์ราวกับทุกอย่างเคยเกิดขึ้นมาก่อน
ใช่ เธอเคยประสบพบเจอเรื่องราวเหล่านี้มาก่อน เพียงแต่สถานการณ์ทั้งหมดมีดีเทลต่างกันเล็กน้อย
'นังแก้ว หล่อนมาที่นี่ทำไม' เสียงป้าเช็งดุเข้าให้ เมื่อเห็นหญิงสาวร่างเล็กที่มีอดีตระยำตำบอนกับคุณชายรองของบ้าน เวลานั้นใบหน้าเล็กสลดเหลือสองนิ้ว แต่ยังเพียงส่งยิ้มประจบไปให้
'แก้วมาหา..' ไม่ทันที่หญิงสาวจะตอบว่าเอาของมาฝากป้าแม่ครัวที่เคยสนิท สาวใช้คนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มที่เกลียดเธอเข้าไส้ก็ลากสายยางมาฉีดน้ำใส่ จนเธอเปียกไปทั้งเนื้อทั้งตัว
ยามนั้นความรู้สึกเสียใจ..เป็นทุกข์เพราะไม่ได้รับการยอมรับล้นปริ่ม และมันก็ทำให้น้ำตาตกในได้ไม่ยาก เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้หญิงสาวต่างภพวาบในใจ ใบหน้าเล็กขาวซีดลงทันที...บางทีการที่เธอหลุดมาที่มิติแห่งนี้ อาจเพราะมีอะไรบางอย่างพันผูกไว้ เพื่อรอแก้ไขเงื่อนปมก็เป็นได้
“นายเป็นใครกันแน่?” ว่าที่พ่อตาส่งคำถามเย็นชาออกไป ตัววโรดมเองไม่อยากโกหกจึงเลือกจะเงียบ พาลให้ชายวัยกลางคนหงุดหงิดใจไม่น้อย“หึ ฉันจะให้นายแต่งงานกับยัยพิศ แต่นายเองต้องเซ็นสัญญาก่อนแต่ง” ไม่อยากให้แต่ง แต่คุณภรรยากับคุณลูกสาวก็ไม่ฟัง..เขาทำอะไรไม่ได้..ทำได้เพียงแต่ปกป้องผลประโยชน์ให้ลูกสาว“ครับ ท่าน”“การแต่งงานครั้งนี้ นายจะได้ไม่ผลประโยชน์อะไรเลย นายจะยินดีแน่นะ?”“ขอ..แค่มีคุณหนูอยู่เคียงข้าง..ผมยินดีครับ” เสียงเข้มตอบสุภาพ ดวงตาดำสนิทเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นจริงจัง“อือ แต่การเป็นลูกเขยฉันไม่ง่ายนะ ฉันอนุญาตให้นายแต่งได้…แต่..หลังจากนี้นายเองก็ต้องรับบททดสอบด้วย”“คุณท่าน…จะให้ผมทำอะไรครับ?”“หลังแต่งเดี๋ยวก็รู้เอง แต่ตอนนี้นายต้องเซ็นสัญญาก่อนแต่งเป็นอันดับแรก” เสียงนุ่มเรียบเรื่อย แต่เนื้อคำเต็มไปด้วยความระแวดระวังเพราะรักลูกสาวตัววโรดมเองก็เข้าใจจึงยอมเซ็นโดยง่าย ลายเซ็นลงน้ำหนักสวยงามสมกับบุคลิกเจ้าตัว ส
ณ คฤหาสน์ตระกูลจิรมณีภายในห้องรับแขกสองสามีภรรยากำลังนั่งหน่าเครียดรอคอยลูกสาวสุดที่รัก จนงามพิศเดินเข้ามาพร้อมกับคนขับรถสุดหล่อจึงมองไปที่ท่านทั้งคู่แปลกใจไม่น้อย ด้วยปกติเวลานี้ท่านทั้งสองมักไม่อยู่บ้านร่างเล็กตัดสินใจวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะ ก่อนจะถลาเข้าไปออดอ้อนทว่ารอบนี้เหมือนหล่อนจะทำเรื่องใหญ่ เพราะบิดาที่เคยยิ้มอยู่ตลอดเวลา วันนี้กลับมีสีหน้าบึ้งตึง“แก้วมีอะไรจะสารภาพกับคุณพ่อ คุณแม่ไหมคะ” คุณแม่ยังสวยตั้งคำถามขึ้นทันที ดวงตาที่ผ่านโลกมาระดับหนึ่งเจือผิดหวังเล็กน้อย นั่นทำให้งามพิศเริ่มกระวนกระวายใจ“คะ…คุณแม่หมายความว่ายังไงคะ?”“ก็วันนี้มาร์ชมาเยี่ยมหาพิศนะสิ ไหนหนูพิศบอกคุณแม่ว่ามีนัดกับพี่เขาค่ะ” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความน้อยใจ ตั้งแต่เล็กจนโตลูกสาวไม่เคยโกหกแม้แต่ครั้งเดียวหล่อนทั้งเสียใจปนไม่สบายใจจนถึงขณะโทรเรียกสามีให้รีบกลับบ้าน“คือ…”“ฮึก..คุณแม่..ผิดอะไร..ทำไม..หนูพิศต้องโกหกคุณแม่ด้วย” ห
เดิมชายหนุ่มเข้าใจว่ามีหน้าที่มาส่งคุณหนูถึงห้างเท่านั้น ทว่าเจ้าหล่อนกับลากเขาไปเป็นคนขนของด้วย...บอกตามตรงเขาไม่อยากไปเจอภาพบาดตาบาดใจ ด้วยรู้ในชาติภพนี้ทั้งเขาและเธอต่างก็มีฐานะสลับกันความรู้สึกเหมือนกรรมตามสนองคงจะเป็นแบบนี้นี่เองเขาพึ่งเข้าใจความรู้สึกต่ำต้อยที่แก้วเคยรู้สึกอย่างเด่นชัดก็ตอนนี้'ตอนที่เขามีสถานะเดียวกันกับที่เธอเคยเป็น'ดวงตาคมกริบจ้องมองไปยังแผ่นหลังบาง มือเล็กไขว้ด้านหลัง พร้อมก้าวเดินนำอย่างคนอารมณ์ดีแม้แต่ท่าเดินเวลาร่าเริงของเธอยังเหมือนเมียเขาอย่างกับแกะ ถ้าไม่ใช่แก้วจะเป็นใครได้ล่ะ?วโรดมลอบทอดถอนหายใจด้วยกำลังมึนงงกับสถานการณ์ ครั้นจะเอื้อมมือหมายเด็ดดอกฟ้าก็ดูราวจะเกินเอื้อม“พี่วิน..ช้าจัง”“เอ่อ..คุณหนูนัดเพื่อนไว้ตรงไหนครับ” เขาถามสุภาพ พร้อมกับก้าวเท้าเร็วขึ้น ในขณะที่เจ้าหล่อนยังยืนรออยู่ที่เดิม ศีรษะเล็กเอียงข้าง พร้อมส่งรอยยิ้มหวานๆ ชวนให้ใจไหววูบขี้อ่อยฉิบหาย“พิศไม่ได้นัดใครเลยค่ะ&rd
ชายวัยใกล้เกษียณไม่รู้จะจัดการยังไงกับปัญหาชายไร้บ้านดี ถ้าเจ้าหนุ่มรับเงินไปเรื่องคงจบแต่นี่พอไอ้หนุ่มจำอะไรไม่ได้อันเกิดจากอุบัติเหตุที่เขาก่อ..การชดใช้จึงมากกว่าการใช้เงินในแก้ปัญหา เขาจึงปรึกษาหมอต่อ‘จากการวินิจฉัยความทรงจำที่หายไปเกิดจากการกระทบกระเทือนที่สมองอย่างรุนแรงครับ’ หมอเจ้าของไข้ตอบ‘อีกนานไหมครับ เจ้าหนุ่มนี่ถึงจะกลับมาจำได้’‘ตอบไม่ได้เลยครับคุณพก บางคนอาทิตย์เดียว บางคนหลายอาทิตย์ บางคนหลายปี บางคนก็...เอ่อ ตลอดชีวิต’ ปลายประโยคแทบจะอ้อมแอ้มตอบพกจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากพาไอ้หนุ่มกลับบ้านมาด้วย“ฉันจะให้นายพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านฉันเป็นการชั่วคราว จนกว่าอาการนายจะดีขึ้น..ตกลงไหม?”“ครับ”ดังนั้นไฮโซหนุ่มผู้โชคร้ายจึงต้องนำชายความจำเสื่อมกลับบ้านไปด้วยณ คฤหาสน์ตระกูลจิรมณีวโรดมลอบสำรวจบริเวณตึกอย่างครุ่นคิด ตั้งแต่ภายนอกอาคารที่พอจะประเมินจากสายตาได้ว่าคือสมบัติตกทอดมาจากต้นตระกูลเก่า..เ
พาร์ทวโรดมบนเตียงนอนโรงพยาบาลเอกชนหัวเมืองใหญ่ชายหลงภพตื่นมาด้วยความงุนงง..ภาพความทรงจำท้ายสุดคือการที่เขาอุ้มอดีตคนรักฝ่ากองเพลิงออกมา ทว่าอีกฟากฝั่งที่คิดว่าเป็นทางรอด..อยู่ๆ รอบด้านก็มืดมิด มีเพียงไฟดวงเล็กๆ ริมถนนเป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียว แทนที่จะเป็นกลุ่มคนที่กำลังดับไฟวโรดมถึงกลับงงงันแม้แต่แก้วกัลยายังหายตัวไปดวงตาคมเริ่มตระหนกหันรีหันขวาง ใจหายวูบ..มือไม้สั่น หรือเขาเป็นคนทำแก้วหาย? หรือแก้วจะติดอยู่ในกองไฟ?แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงเล่า เขาอุ้มเจ้าหล่อนกระชับแนบอก..ไม่มีทางที่จะปล่อยมือได้เลยทว่ากว่าที่จะทันได้เรียบเรียงความคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน แสงไฟที่สาดจากรถหรูสีดำสนิทก็สว่างจ้าจนเขาต้องหรี่ตามองโครมมมมมมมความรุนแรงจากการกระแทกทำให้ร่างสูงกระเด็นขึ้นในทันที!ณ โรงพยาบาลเอกชนประจำจังหวัดหลังจากอุบัติที่เกิดขึ้นโดยไม่ทัน
หลังจากที่งามพิศฟื้นคืนจากสภาพเจ้าหญิงนิทราก็ยังต้องทำกายภาพบำบัดเพื่อให้เดินได้คล่องน่าแปลกระยะเวลาที่อยู่ในอดีตเนิ่นนานเกือบปี ทว่าในอีกโลกหนึ่งเวลากับผ่านผ่านไปเพียงสามเดือนแม่งามเล่าให้ฟังว่า..อยู่ๆ เช้าวันหนึ่งหล่อนไม่ยอมตื่นไม่ว่าจะปลุกยังไงก็ตาม จนท่านต้องพาส่งโรงพยาบาล ซึ่งทางการแพทย์ก็ไม่สามารถหาสาเหตุได้ว่าเกิดจากอะไร แต่เท่าที่ทำได้คือการใส่เครื่องช่วยหายใจ รวมถึงให้อาหารทางสายน้ำเกลือตลอดระยะเวลาแพทย์ชื่อดังทั้งในประเทศ และต่างประเทศต่างก็วิ่งวุ่นกัน ยังดีที่หล่อนฟื้นคืนกลับมาปกติ ไม่อย่างนั้นไม่รู้ท่านทั้งสองจะทุกข์ใจแค่ไหน“เป็นยังไงบ้างหนูพิศ ยังเจ็บตรงไหนไหม?”“โถ่ คุณแม่ พิศไม่ได้เจ็บตรงไหนเลยค่ะ” เสียงหวานออดอ้อน อ้อมกอดของแม่ กลิ่นกายของแม่พอจะให้หล่อนลดความคิดถึงใครบางคนไปได้“แล้วนี่คุณพ่อล่ะคะ?” หล่อนถามเนื่องจากอาทิตย์ที่ผ่านมาบิดาหายหน้าหายตาไปดูงานสาขาต่างจังหวัดที่กำลังเปิดใหม่“ยังยุ่งเรื่องคนเจ็บอยู่เลยจ้ะ”“อ้อ แล้วคนที่โดนชนเ