Share

ตอนที่2 พลังของแต่ละคน

last update Last Updated: 2025-12-10 23:07:01

พอมาอยู่รวมตัวกัน ทั้งห้าคนก็โผเข้ากอดกัน ก่อนจะร้องไห้ออกมาเบา ๆ ด้วยความสะเทือนใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภายในใจเจ็บปวดและโศกเศร้า ต่อการจากไปของทุกคนในครอบครัว 

  “ครอบครัวเราตายหมดแล้ว ต่อไปพวกเราจะอยู่อย่างไร” ลี่อิงเอ่ยด้วยความเจ็บปวด นำ้ตาค่อย ๆ ไหลอาบแก้มโดยไม่ส่งเสียงสะอื้น

  “ข้าต้องแก้แค้นให้ครอบครัวของข้าให้ได้” หานเกอเอ่ยอย่างโกรธแค้น พร้อมกำหมัดแน่น ดวงตาเอ่อล้นคลอไปด้วยน้ำตา

  “ใช่ไม่ว่าจะกี่สิบปี ข้าก็ต้องสืบหาความจริง และแก้แค้นให้กับครอบครัวของข้าและทุกคนให้ได้” ตงฮวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ็บแค้นนัยน์ตาแดงก่ำ

“เรื่องแก้แค้นเอาไว้ก่อนเถอะ พวกเราเพิ่งจะเก้าขวบ ยังอีกนานกว่าจะโตนะ” เจียวจูเอ่ยขึ้น เพื่อให้สหายสงบสติอารมณ์ แม้จะเศร้าเสียใจเพียงใด แต่นางก็พยายามเข็มแข็ง

  “ใช่เจียวจูพูดถูก ข้ารู้ว่าทุกคนเสียใจ ข้าเองก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าพวกเจ้า แต่ว่าพวกเราต้องมีสติ และวางแผนในการมีชีวิตอยู่ให้ดี จากนั้นค่อยคิดเรื่องแก้แค้น เพราะข้าก็ไม่คิดจะปล่อยให้คนชั่ว ที่มาฆ่าบิดาและมารดาของข้า เอาไว้เช่นเดียวกัน” ซิ่วอิงเอ่ยออกมาแทนความรู้ของร่างนี้ 

  “ชิ่วอิงเหตุใดวันนี้ เจ้าพูดจาแปลกไป ดูมีหลักการและเหตุผล ดูเหมือนคนเป็นผู้ใหญ่พูดกันเลย?” ลี่อิงถามขึ้นอย่างแปลกใจ

 “ก็เพราะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ความคิดของข้าเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว” ซิ่วอิงรีบเอ่ยขึ้น

 “ก็จริงนะ” เจียวจูเมื่อไตร่ตรองแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย ถึงนางจะอายุแค่9ขวบ แต่พอเจอเรื่องราวร้าย ๆ ในชั่วข้ามคืน จิตใจก็เหมือนจะสร้างภูมิต้านทาน ให้เข้มแข็งและเติบโตขึ้นโดยอัตโนมัติ

 ซิ่วอิงกวาดตามองพวกเขาทั้งสี่คน แล้วก็ฉุกคิดถึงคำพูดของชายชรา พวกเขาทั้งสี่คน รอดชีวิตในครั้งนี้ด้วยกันกับนาง หรือว่าพวกเขาจะเป็นคนที่สวรรค์เลือก ลองดูก็ไม่เสียหายอะไร คิดแล้วซิ่วอิงจึงเอ่ยออกไป

 “ช่วงที่ข้าหมดสติไป ข้าได้ไปพบท่านเทพเซียน ท่านเทพมอบกำไลวงนี้ให้ข้ามา และยังให้กายเทพมาอีกด้วย เรื่องนี้เอาไว้ข้าค่อยอธิบาย แต่ว่าข้าอยากพิสูจน์อะไรบ้างอย่าง ข้าอยากให้พวกเจ้า ลองกินเลือดของข้าดูหน่อย”

 “กินเลือดของเจ้า!” เด็กทั้งสี่เอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ

 “ใช่” พวกเขาพอเห็นสายตากดดันแกมบังคับ ก็พยักหน้ารับแม้จะไม่เต็มใจ

 “ก็ได้”

 “พวกเจ้าอ้าปากรอ” เมื่อพวกเขาทำตาม ซิ่วอิงก็ตัดสินใจกัดนิ้วตัวเอง ก่อนจะหยดเลือดลงในปากของพวกเขาทั้งสี่ 

 “กลืนลงไป” นางเอ่ยบอก แล้วตั้งตารอคอยว่าจะมีผลเช่นไร ผ่านไปสักพักก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แล้วร่างของพวกเขา ก็เริ่มเปล่งแสงออกมา ก่อนจะจางหายไป 

 “ซิ่วอิงบนข้อมือข้ามีรูปเต่าสีดำด้วย” ตงฮวนเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น

 “ของข้าเป็นมังกร” ลี่อินเอ่ยขึ้น ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น

 “ของข้าเป็นหงส์แดง” เจียวจูเอ่ยขึ้นมาบ้าง

 “ของข้าเป็นเสือโคร่ง” หานเกอเอ่ยอย่างตื่นเต้นเช่นกัน

 “งั้นก็แสดงว่าพวกเจ้า คงถูกสวรรค์ลิขิตให้อยู่เคียงข้างข้า เพื่อปกป้องและช่วยเหลือผู้คน เรื่องนี้พวกเจ้าห้ามแพร่งพรายออกไป” ซิ่วอิงรีบเอ่ยกำชับ การมีพลังเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ไม่ควรเปิดเผยออกไป ดูจากคนร้ายที่มาฆ่าทุกคนในหมู่บ้าน คาดว่าพวกเขาต้องมีเรื่องราวอะไรซ่อนเอาไว้แน่

 “เข้าใจแล้ว”

 “ต่อไปพวกเราก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมารังแก ถึงแม้จะยังเด็ก แต่พวกเราก็สามารถปกป้องคนตนเองได้แล้ว” ตงฮวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงฮึกเหิมและภาคภูมิใจ และนึกกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ อย่าคิดว่าเห็นเป็นเด็ก แล้วจะมาคิดรังแกกันได้ 

 “ซิ่วอิงในตัวข้าเหมือนมีพลังบางอย่างวิ่งไปทั่วร่างเลย” ลี่อิงร้องบอกขึ้นมา พลางก้มมองแขนขาตนเองอย่างตื่นเต้น

 “ข้าก็ด้วย”

 “คงเป็นพลังของสัตว์เทพที่กำลัง ปรับธาตุให้เข้ากับคนที่ครอบครอง อีกไม่นานก็คงปกติแล้วละ” ซิ่วอิงเอ่ยอธิบาย ก่อนจะครุ่นคิดสวรรค์คงอยากให้พวกเขามีพลังปกป้องตนเอง แบบนี้ก็ดีเพราะว่าพวกเขายังเยาว์วัยนัก

 “แล้วเจ้าละซิ่วอิงมีรูปอะไรที่ข้อมือ” ลี่อินเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ ซิ่วอิงพอถูกถามก็รีบยกข้อมือขึ้นมาดู ก่อนจะเห็นรูปดอกบัวสีทองอยู่ตรงข้อมือ

 “ของเจ้าเป็นดอกบัวหรอกหรือ” พวกเขาพึมพำออกมา ก่อนตงฮวนจะรีบเอ่ยขึ้น “พวกเขาเป็นสัตว์แต่นางกลับเป็นดอกไม้ แปลกจริง”

 “ซิ่วอิงพวกข้าจะยกให้เจ้าเป็นหัวหน้า ต่อไปไม่ว่าจะทำอะไรพวกเราจะเชื่อฟังเจ้า เพราะเมื่อก่อนพ่อของเจ้า ก็เป็นหัวหน้าในหมู่บ้าน ตอนนี้เจ้าก็มาเป็นหัวหน้าแทนแล้วกัน”

 “ใช่ ๆ ข้าเห็นด้วย”

  “หากพวกเจ้าอยากให้ข้าเป็นข้าก็จะเป็น ถ้าเช่นนั้นในฐานะที่ข้าเป็นหัวหน้า พวกเรารีบนอนเอาแรงกันดีกว่า อีกหลายชั่วยามถึงจะเช้า พรุ่งนี้ค่อยมาคิดกันว่าจะเอาอย่างไรต่อไป”

  “ได้เอาตามนี้” เด็กน้อยทั้งสี่กล่าวขึ้นพร้อมกัน ก่อนจะพากันขดตัวนอนในพื้น ใต้พุ่มไม้ใหญ่อย่างว่าง่าย ไม่นานก็พากันหลับ โชคดีที่ช่วงนี้เป็นฤดูร้อน อากาศในยามค่ำคืนจึงไม่ได้หนาวเย็นมากนัก 

  ซิ่วอิงมองกล่องในมือพร้อมครุ่นคิด หากว่ากล่องไม้ขยายได้ตลอดเวลา หากยามมีภัยพวกนางจะพาพวกเขาเข้าไปหลบข้างใน จะได้หรือเปล่านะ เรื่องนี้ต้องลองทดสอบดู หากทำได้ ต่อไปก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีที่หลบภัยที่ปลอดภัยอยู่กับตัว

 ที่นางคิดแบบนี้เพราะพลังที่มี เอาไว้ใช้ในยามจำเป็นน่าจะดีกว่า เพราะหากคนรู้มากไปอาจไม่เป็นผลดี อีกอย่างนางและพวกเขา ต้องเรียนรู้พลังของตนเอง ว่ามีขีดจำกัดมากน้อยเพียงใด ถึงจะใช้มันได้อย่างถูกวิธี 

  เช้าของวันใหม่มาเยือน ดวงอาทิตย์เริ่มเปล่งแสงกระทบท้องฟ้า แสงแดดยามเช้าปลุกให้ร่างของของเด็กน้อยทั้งห้าคน รู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย ทุกคนหันไปมองแสงของวันใหม่ เพื่อจะย้ำเตือนกับตนเองว่า ต่อไปพวกเขาจะต้องเริ่มใช้ชีวิต โดยปราศจากบิดามารดาในวัยเพียง9ขวบ

   ซิ่วอิงมองสีหน้าของพวกเขาสี่คนอย่างสงสาร นางที่เติบโตมาจนมีอายุ22ปีแล้ว ความเข้มแข็งจึงมากกว่าหลายเท่า การสูญเสียครั้งใหญ่ในเวลาเดียวกันของพวกเขา นางรู้สึกเห็นใจเป็นที่สุด 

  “อย่าเสียใจไปเลย อย่างน้อยพวกเรายังมีกันและกันนะ” ทั้งสี่คนหันมามองซิ่วอิง ด้วยน้ำตาของความเศร้าเสียใจ และคิดถึงครอบครัวที่จากไป 

  “พวกเราต้องเอาคืนพวกเขาไม่วันใดก็วันหนึ่ง เพราะฉะนั้นพวกเจ้าต้องเข้มแข็ง และรอวันที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพื่อเอาคืนคนชั่วพวกนั้น” คำพูดของซิ่วอิง ทำให้พวกเขามีกำลังใจขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ใช่แล้วต้องเข้มแข็งเพื่อรอวันเอาคืน

   “ซิ่วอิงแล้วพวกเราจะไปอยู่ที่ไหน?” ลี่อินถามขึ้นด้วยสีหน้าเศร้าและเป็นกังวล 

   “เจ้าอย่าได้กังวล ข้ามีเงินเดี๋ยวพวกเรามาสร้างบ้านหลังใหม่กัน”

  “แล้วถ้าหากพวกเขากลับมาจะทำอย่างไร?” เจียวจูถามขึ้นมาบ้าง เพราะหากคนร้ายกลับมา ต้องไม่ปล่อยพวกเขาเอาไว้แน่

 แต่แล้วตงฮวนก็เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้น ทำให้ทุกคนต้องหันไปมอง

  “ซิ่วอิงหลังจากข้าหลับไป ข้าก็ฝันว่าได้ไปพบเทพเต่าดำ เขาช่วยสอนวิชาพลังยุทธให้ข้าอีกด้วย” ตงฮวนเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น

 “ใช่ ๆ ข้าก็ลืมเล่า ข้าก็ฝันเห็นพยัคฆ์ขาว เขายังบอกให้ข้าตั้งใจฝึก เพื่อจะได้ปกป้องตนเองและผู้อื่นได้ หานเกอเอ่ยเล่าขึ้นมาเช่นกัน 

 “ข้าก็ได้พบเทพมังกรฟ้า เขาสอนข้าฝึกวิชาและยังบอกให้ข้าเข้มแข็ง” ลี่อินกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าภูมิใจ

 “ข้าก็ได้พบเทพหงส์แดง วิชาที่นางสอนยอดเยี่ยมมาก นางยังบอกอีกว่า ทุกครั้งที่ข้าหลับจิตวิญญาณของข้า จะเข้าไปยังอีกมิติหนึ่ง เพื่อฝึกฝนวิชา ให้เป็นหนึ่งอันเดียวกัน” เจียวจูเอ่ยขึ้น ซิ่วอิงรับฟังด้วยใบหน้าพอใจ พวกเขาได้เริ่มฝึกวิชาแล้วสินะ แบบนี้ก็ดีนางจะได้ไม่ต้องกังกลและเป็นห่วง

 ส่วนนางเหมือนจะไม่ต้องฝึกฝนอะไรมากนัก เหมือนวิชาต่าง ๆ จะอยู่ในร่างของนางอย่างน่าอัศจรรย์ เพียงตั้งจิตให้มั่นคง ก็สามารถดึงพลังและปราณยุทธ ออกมาใช้ได้อย่างง่ายดาย สิ่งพิเศษและมหัศจรรย์เช่นนี้ เหมือนสวรรค์มอบให้นาง เพื่อเตรียมรอรับศึกหนัก ในวันข้างหน้าอย่างไรไม่รู้ แต่ก็ช่างเถอะทำวันนี้ได้ดีที่สุดก็แล้วกัน

 แต่สิ่งที่นางมั่นใจก็คือ คนร้ายที่ลงมือฆ่าทุกคนในหมู่บ้าน แล้วจัดการเผาทำลายทุกอย่าง ต้องมีจุดประสงค์อย่างอื่นที่สำคัญมากเป็นแน่ และนางต้องสืบเรื่องนี้ให้กระจ่าง และแก้แค้นเหล่าคนชั่ว เพื่อเป็นการสร้างบุญกุศล ให้กับวิญญาณทุกคนที่จากไป และที่สำคัญเพื่อตอบแทน ซิ่วอิงที่ให้นางได้มาศัยอยู่ในร่างของนาง 

 

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นนายหญิงน้อย   ตอนที่51 มิติเทพ

    เด็กทั้งห้าคนกลับถึงจวน ด้วยความสบายใจเป็นอย่างยิ่ง ข้าวสารอาหารแห้ง ทางร้านจะมาส่งทีหลัง เพราะเถ้าแก่เจ้าของร้านยุ่งจนหัวหมุน พวกเขาทั้งห้าคนเห็นทุกคนเริ่ม ตุนเสบียงและอาหารเช่นนี้ ก็รู้สึกโล่งใจ อย่างน้อยพวกเขา ก็ซื้อได้ในราคาปกติ หากรอไปซื้อในช่วงฤดูหนาว พ่อค้าคงขึ้นราคาเป็นแน่ “ป้าหวังที่จวนเป็นอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ” “ทุกอย่างเรียบร้อยดีเจ้าค่ะ” ซิ่วอิงยกยิ้มอย่างพอใจ “ช่วงนี้ข้าฝากท่านป้าและลุงฮุ่ยช่วยดูแลจวนด้วยเจ้าค่ะ พี่อู่ถง พี่อู่จิ้ง พี่อู่หย่ง ต่อไปท่านทั้งสามคนช่วยดูแลเรื่องทั่วไปในจวน หากต้องการซื้ออะไรเพิ่ม หากจำเป็นก็ซื้อได้เลยเจ้าค่ะ ข้าจะฝากเงินไว้กับป้าหวัง พี่ซูผิงว่าง ๆ ก็ช่วยสอนเด็กๆ หัดคัดอักษรทีเจ้าค่ะ กระดาษและหมึก มีพร้อมไม่ต้องกังวล ช่วงนี้พวกข้ามีเรื่องให้ทำมากมาย หากวันไหนข้าไม่ได้ทำอาหาร ป้าหวังพาทุกคนทำเลยนะเจ้าคะ ให้ทุกคนได้กินอย่าปล่อยให้หิว เพื่อรอพวกข้าเจ้าค่ะ” “ขอรับ/เจ้าค่ะ ซิ่วอิงสั่งงานทุกคน เพราะตอนนี้นางและสหายมีเรื่องให้ทำมากมาย จึงไม่สามารถทำได้เหมือนแต่ก่อน “ท่านลุงช่วงนี้ยังไม่เป็ดให้ย่าง ท่านสามคนไปขนฟืนที่ช่างตัดต้นไม้มาไว้ที่จวนเจ้า

  • ทะลุมิติมาเป็นนายหญิงน้อย   ตอนที่50 แจ้งทุกคนให้รู้

    ไม่นานข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองเหยียนฟางว่า หมู่บ้านเหยียนฟางมีผีร้าย ข่าวลือเรื่องนี้ทำเอาผู้คนขนลุกขนชันด้วยความหวาดกลัว เพราะไม่ใช่เพียงทหารคนเดียวที่พบ แต่เป็นทหารหลายสิบคน รวมทั้งท่านเจ้าเมืองและนายอำเภอ ซิ่วอิงและสหาย ที่ออกมาสั่งของที่ตลาด พอได้ยินข่าวนี้ ถึงกับหลุดหัวเราะออกมา ด้วยความสะใจ สมน้ำหน้า! “ฮ่า ๆ ข้าละสะใจจริง ๆ” หานเกอเอ่ยขึ้น “ใช่สมน้ำหน้า ไปรบกวนวิญญาณคนตาย ก็ต้องเจอดีแบบนี้” เจียวจูเสริมขึ้น “ซิ่วอิงวิญญาณพวกเขา ยังไม่ไปเกิดใหม่อีกเหรอ?” ลี่อินเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ข้าคิดว่าพวกเขา คงยังเป็นห่วงสมบัติอยู่ เลยยังไม่จากไปไหน” “ซิ่วอิงข้าคิดแผนออกมาได้แล้ว” ตงฮวนเอ่ยขึ้นด้วย ท่าทางเจ้าเล่ห์ “แผนอะไรรึ?” ซิ่วอิงหันมาถามอย่างสนใจ “ก็แผนไปสำรวจพื้นที่แถบนั้นนะสิ” “แต่ว่าตงฮวนเจ้าไม่กลัวผีรึ?” เจียวจูถามขึ้น “จะกลัวทำไมวิญญาณเหล่านั้น เป็นคนในครอบครัวของเราที่ถูกฆ่า ข้าดีใจเสียอีกหากว่าจะได้พบพวกเขาอีก” ซิ่วอิงฟังจากที่ตงฮวนพูดก็ครุ่นคิด แผนของเขาดีมากเลยทีเดียว ตงฮวนเป็นเด็กฉลาด เขาสามารถฟังและวิเคราะห์ ได้อย่างดีเยี่ยม“แล้วจะไปสำรวจยังไง ไม่ใช่ว่าพวกเ

  • ทะลุมิติมาเป็นนายหญิงน้อย   ตอนที่49 ผีหลอก

    เช้าวันนี้มีประกาศจากทางการว่า มีแจ้งเบาะแสว่าพบเจออดีตฮ่องเต้ หลบหนีอยู่ที่หมู่บ้านไฉ่หลิน ทางการจึงจำเป็นต้อง ส่งคนไปตรวจสอบ อู่ถงรีบเข้ามารายงานอีกเช่นเคย เพราะเขามีหน้าไปจ่ายของที่ตลาด จึงพบเห็นทางการออกมาปิดประกาศข่าวสาร ให้ผู้คนได้รับรู้ “นายหญิงน้อย ดูเหมือนทางการจะออกมาติดประกาศแจ้งข่าวขอรับ” “แจ้งว่าอย่างไรหรือเจ้าคะ?” “แจ้งว่าพบเจอ อดีตฮ่องเต้หลบหนีไปอยู่แถว ๆ หมู่บ้านไฉ่หลินขอรับ” ซิ่วอิงจากที่กำลังผัดผัก ก็ต้องหยุดชะงักลงทันที ทางการคงอ้างเหตุผลนี้ เพื่อเข้าไปตรวจค้นสมบัติ ที่หมู่บ้านไฉ่หลินเป็นแน่ หากเป็นเช่นนี้ ก็หมายความว่า ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ยังไม่รู้เรื่องนี้ และดูเหมือนท่านเจ้าเมือง จะทำการปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ “แล้วยังมีข่าวอย่างอื่นอีกหรือไม่เจ้าคะ?” “ไม่มีแล้วขอรับ” เขาตอบเสร็จก็เดินไปยกของลงจากรถวัวเทียมเกวียน ซิ่วอิงจึงหันมาหาสหาย ที่ช่วยงานกันอยู่ในครัว “ท่านเจ้าเมืองคงเริ่มให้ทหารไปสำรวจพื้นที่แล้ว ข้าลืมบอกพวกเจ้าไป ก่อนหน้านี้ข้าได้ฝันเห็น วิญญาณของทุกคนที่จากไป บิดาของข้ายังบอกอีกว่า พื้นที่แถบนั้นมีสมบัติซ่อนอยู่” “จริงเหรอซิ่วอิง” หานเกอถามขึ

  • ทะลุมิติมาเป็นนายหญิงน้อย   ตอนที่48 ขายสูตรอาหาร

    เฉินซีฮัน เฉินเจียวหมิง เฉินจางหย่ง ยังคงปูที่นอนบนพื้นข้างเตียงของพวกนาง ซิ่วอิง ลี่อินและเจียวจู หลังจากชำระร่างกายเสร็จ ก็ให้พี่อู่ถงและพี่อู่จิ้งมาเปลี่ยนน้ำให้ และให้พวกเขาเข้าไปชำระร่างกาย นางนึกเห็นใจสามพี่น้องสกุลอู่ ที่ทำงานกันอย่างขยันขันแข็งและไม่ปริปากบ่น คงเพราะนางรับทุกคนมาอยู่ด้วย พวกเขาเลยรู้สึกเกรงใจ จึงพยายามทำงานทุกอย่างที่สามารถทำได้ แต่ตอนนี้มีคนมาเพิ่มแล้ว นางจะให้คนมาช่วยงานพวกเขา จะได้ไม่ไปหนักที่พวกเขาสามคนจนเกินไป ขนาดยามนี้ดึกมากแล้ว พวกเขายังทนรอรับใช้ นางรู้สึกซาบซึ้ง น้ำใจพวกเขาจริง ๆ อีกไม่นานเรือนพักก็จะสร้างเสร็จ ทุกคนจะไม่ต้องอยู่กันอย่างแออัดอีกต่อไป จวนที่ท่านปู่ให้คนมาสร้าง นางก็บอกช่างให้ทำใหญ่ไปเลย และมีเรือนแยกอีกหลายหลัง เพราะที่ดินกว้างมากจึงสามารถทำได้ ซิ่วอิงนอนคิดเรื่องราวจนผล็อยหลับไป พร้อมลี่อินและเจียวจู พวกเขาเมื่อออกมาจากห้องอาบน้ำ ก็มอง เด็กน้อยทั้งสามคนอย่างเอ็นดู เป็นเพียงเด็กแค่10ขวบ แต่ต้องมาทำอะไรมากมายเช่นนี้ โชคชะตาช่างเล่นตลกกับชีวิตคนเสียจริง พวกเขาล้มตัวลงนอนก่อนจะพากันหลับไป วันต่อมาที่โรงเตี๊ยมฟู่จิน วันนี้ทุกอย่างด

  • ทะลุมิติมาเป็นนายหญิงน้อย   ตอนที่47 บรรยากาศที่แสนอบอุน

    “ข้าว่าให้พวกเขาเข้าไปอยู่ในพื้นที่แห่งใหม่น่าจะได้” ตงฮวนเอ่ยขึ้นอย่างวิเคราห์ ซึ่งตรงกับความคิดของซิ่วอิงพอดี เพราะตอนนี้มีพื้นที่แห่งใหม่ที่ใหญ่และกว้างขึ้น แม้จะมีข้าวของเครื่องใช้เหมือนที่นี่ แต่ชีวิตของพวกเขาปลอดภัยแน่นอน “ท่านไปพาพวกเขามาเถิด ระวังตัวด้วยเจ้าค่ะ” ซิ่วอิงเอ่ยบอกเจียวหั่ว “ขอรับ” เจียวหั่วจึงรีบใช้วิชาตัวเบากระโดดหายไปทันที “เรามากินอาหารกันเถอะ ข้าหิวจนจะกินคนได้อยู่แล้ว พี่จือไฉ่ พี่จือหยวน ข้ารบกวนไปยกโต๊ะเก้าอี้มาที่ครัวทีเจ้าค่ะ” “เดี๋ยวข้าไปช่วย” เฉินซีฮันเอ่ยขึ้น เพราะเวลานี้ฐานะเขาเปลี่ยนไปแล้ว เขาคิดว่าสิ่งไหนที่ช่วยนางได้เขาก็ยินดีช่วยทำ เฉินเจียวหมิงและเฉินจางหย่ง ต่างก็รีบออกไปช่วยยกโต๊ะเก้าอี๊เข้ามา พอทุกคนมานั่งกันครบแล้ว ซิ่วอิงก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเบิกบาน “วันนี้เป็นวันเกิดของข้า ลี่อิน เจียว ลี่อิน เจียวจู ตงฮวน หานเกอ พี่ซีฮัน พี่เจียวหมิงและพี่จางหย่ง แต่เพราะวันนี้ที่โรงเตี๊ยมยุ่งมากและพรุ่งนี้ก็ยังจะยุ่งอีก เพราะฉะนั้นวันนี้เราก็กินกันพอประมาณ พอทุกอย่างลงตัวดีแล้ว พวกเราค่อยฉลองใหญ่กันเจ้าค่ะ” ซิ่วอิงให้ลี่อินชงชา เจียวจูและนางช่วยกันส

  • ทะลุมิติมาเป็นนายหญิงน้อย   ตอนที่46 เชื่อมมิติ

    ทางด้านตระกูลเฟยยามนี้ เฟยเจินเฉิงตกใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เขาไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริง บิดาเขาส่งคนไปใส่ร้ายโรงเตี๊ยมฟู่จิน เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบิดาเขา จะมีความคิดชั่วร้ายเช่นนี้ การแข่งขันในวันนั้น เขายอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี และไม่เคยคิดโกรธเคืองผู้ชนะเลยสักนิด แต่มาวันนี้ไม่ว่าเขาจะเดินไปที่ใด ผู้คนต่างมองมาที่เขาด้วยสายตาตำหนิ พอเขาได้สอบถามถึงได้รู้ความจริง เขารู้สึกผิดหวังกับการกระทำของบิดาจนพูดไม่ออก เสียงผู้คนกล่าวถึงไม่ใช่มีเพียงตระกูลเฟย แต่ยังมีตระกูลจิน ที่กระทำการน่าละอายเช่นเดียวกัน พวกเขาเป็นอะไรกันไปหมด นางเป็นเพียงเด็กน้อยแต่มีความสามารถ ทุกคนควรให้การยอมรับ ไม่ใช่หาเรื่องใส่ร้ายกันเช่นนี้ นี่มันเข้าทำนองผู้ใหญ่รังแกเด็กชัด ๆ เมื่อเฟยเจินเฉิงกลับถึงจวน ก็ตรงไปหาบิดาและมารดาทันที เรื่องนี้เขาคิดว่า บิดาของเขาควรไปขอโทษ ทางโรงเตี๊ยมฟู่จิน ที่ทำให้ได้ความเสียหาย “ท่านพ่อ! ท่านทำแบบนี้ได้อย่างไรกันขอรับ ตอนนี้ผู้คนต่างพูดกันไม่หยุดปาก ถึงตระกูลเราที่ทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนั้น” เฟยเจินเฉิงเอ่ยด้วยสีหน้าผิดหวังและเจ็บปวดใจ “ข้าไม่ได้ตั้ง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status