แชร์

บทที่ 9 หารือ

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-14 10:02:01

บทที่ 9 หารือ

วันนี้ใต้เท้ามากมายหลายคนเริ่มทยอยเข้ามาด้านในจนจะครบจางอี้ซือจึงเอ่ยขึ้นมาในเรื่องที่เขานัดพบวันนี้

“ในเมื่อท่านใต้เท้าเข้ามาที่นี่ครบแล้วข้าจะพูดเรื่องที่ข้าขอพบทุกคนเลยแล้วกัน ตอนนี้สายของข้าได้แจ้งข่าวมาว่าอีกไม่นานใต้เท้าหานจะลงมือก่อกบฏ ใต้เท้าลี่ต้าหลงท่านใกล้ชิดฝ่าบาทโปรดกำชับองครักษ์ให้ดียามนี้อย่าให้ผู้ใดเข้าเฝ้าเพียงลำพังแม้จะเป็นองค์ชายสามก็ตาม”

“ไม่คิดเลยว่าใต้เท้าหานจะมัวเมาอำนาจจนอยากครอบครองบัลลังก์เพราะความมักโลภ เฮ้อ! แล้วเช่นนี้เมื่อไหร่เราจะเริ่มเคลื่อนไหวชิงลงมือก่อนที่ใต้เท้าหานจะลงมือล่ะท่านชินอ๋อง”

“ข้ากำลังรอหลักฐานที่สามารถมัดตัวใต้เท้าหานอีกไม่นานคงจะรวบรวมครบทุกอย่างพวกท่านเบาใจเถิด ข้าจะไม่ยอมให้อำนาจหรือแม้แต่บัลลังก์ตกไปอยู่ในมือของใต้เท้าหานเป็นแน่ เรื่องที่ข้าจะแจ้งในวันนี้มีเพียงเท่านี้หลักจากวันนี้ไปทุกท่านจงตื่นตัวไว้เสมอเพราะไม่รู้เลยว่าใต้เท้าหานจะเริ่มลงมือเมื่อไหร่ ข้าขอบใจทุกท่านที่มาในวันนี้กลับไปพักผ่อนกันเถิด ส่วนท่านใต้เท้าเมิ่งข้ามีเรื่องจะคุยกับท่านเป็นการส่วนตัว”

“พ่ะย่ะค่ะ” ทุกคนเดินออกไปจากห้องตอนนี้เหลือเพียงจางอี้ซือกับใต้เท้าเมิ่งบิดาของซูเหยา

“ท่านอ๋องมีเรื่องอันใดต้องการหารือกับข้าอย่างนั้นหรือ หรือว่าเกิดเรื่องขึ้นกับซูเหยา” ใต้เท้าเมิ่งเอ่ยถามเสียงสั่นดวงตาสั่นระริกในความรักความห่วงใยที่มีต่อบุตรสาว

“ท่านใต้เท้าเป็นเพราะข้าเองที่ไม่สามารถช่วยซูเหยาได้ ครั้นเมื่อนางกลับจากเรือนของท่านพร้อมกับเด็ก ๆ เกิดเรื่องขึ้นระหว่างทางแต่ท่านไม่ต้องเป็นห่วงยามนี้นางปลอดภัยดีและอยู่ที่จวน ข้าสืบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นฝีมือของหานเฟยเยี่ย ข้าพยายามไม่สนใจซูเหยาเพื่อปกป้องนางแต่ไม่คิดเลยว่ายังไม่สามารถทำให้หานเฟยเยี่ยสบายใจ ท่านใต้เท้าเมิ่งข้าขอเวลาอีกไม่นานที่ข้าทนให้หานเฟยเยี่ยอยู่ข้างกายเพราะต้องการหลักฐานใช้ในการมัดตัวใต้เท้าหาน ข้ารู้ดีว่าข้าทำร้ายจิตใจของซูเหยาเพียงใดจนนางขอให้ข้าหย่าให้นาง”

“กระหม่อมเข้าใจพะย่ะค่ะ แต่คิดว่าเรื่องที่ท่านทำอย่างนี้กับซูเหยาเพื่อที่จะปกป้องนางไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ กระหม่อมอยากให้ท่านช่วยบอกนางในแผนการที่ท่านกำลังทำอยู่ หรือบอกนางสักนิดว่าท่านนั้นรู้สึกกับนางเช่นไร กระหม่อมกลัวว่าวันหนึ่งบุตรของกระหม่อมจะเจ็บจนชินชาและไม่สามารถรับคำขอโทษจากท่านได้ ความรู้สึกของคนเรานั้นหากทำให้เสียไปแล้วยากที่จะเอากลับคืนมา ซูเหยากลับเรือนมาคราวก่อนใบหน้าของนางหมองคล้ำดวงตาฉายแววความเหน็ดเหนื่อยแถมยังไร้ความรู้สึกอันใดด้วย กระหม่อมสงสารนางพะย่ะค่ะ ถือว่าพ่อผู้นี้ขอร้องเถอะพะย่ะค่ะโปรดช่วยมอบความรู้สึกที่ท่านมีต่อนางให้นางได้รับรู้สักนิดดีกว่ามันจะสายเกินไป เมื่อนั้นกระหม่อมเองก็จะเคารพการตัดสินใจของนาง หากนางจะหย่ากับท่านกระหม่อมก็ยินดีพานางกลับเรือนตระกูลเมิ่งพะย่ะคะ”

หลังจากที่แยกจากกันจางอี้ซือตึกตรองคำพูดของใต้เท้าเมิ่งจึงตัดสินใจกลับจวนและตรงไปที่ตำหนักของเมิ่งซูเหยา

“ข้าจะบอกกับนางทั้งหมดได้อย่างไร สตรีก็เป็นสตรีวันยังค่ำเดี๋ยวนางจะทำให้เสียการใหญ่แต่ข้าจะบอกกับนางเพื่อให้นางสบายใจในบางสิ่งเท่านั้น”

ครั้งนั้นเมิ่งซูเหยากำลังนั่งคิดอะไรเพลิน ๆ ได้ยินเสียงฝีเท้าคิดว่าเป็นเหมยหลงเพราะเมื่อครู่นางใช้ให้เหมยหลงไปสืบเรื่องมาจากสาวใช้ตำหนักหานเฟยเยี่ย

"เหมยหลงเจ้ากลับมาแล้วหรือ?" แต่เมื่อหันไปมองใบหน้าของนางพลันเปลี่ยนเป็นเรียบเฉยคนที่ไม่อยากเจอทำไมต้องมาหาด้วยเมื่อเช้ายังขับไล่นางเหมือนหมูเหมือนหมา แต่เย็นกลับมาหานางถึงที่ตำหนักช่างเป็นบุรุษที่เดาใจยากเสียจริง

'มาหาถึงที่นี่มีคงมีเรื่องสินะ หรือมีแผนอะไรอีกคงไม่ใช่เพราะหานเฟยเยี่ยฟ้องเรื่องที่ต่อว่านางหรอกนะ'

"ลมอะไรพัดพาท่านชินอ๋องมาถึงตำหนักหม่อมฉันหรือว่ามาเพราะตำหนิที่ข้าไปต่อว่าดวงใจของท่าน" จางอี้ซือขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างงวยงง

"เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ที่ข้ามาเพราะมีเรื่องจะพูดคุยกับเจ้าต่างหากมิได้มาติเตือนหรือต่อว่า"

"เฮอะ! คงยังไม่รู้สินะ แต่เอาเถอะเรื่องที่อยากคุยกับหม่อมฉันคือเรื่องอันใด"

"ข้าอยากให้เจ้าอยู่อย่างเงียบ ๆ อย่างเคยข้าไม่เคยคิดทำร้ายเจ้ากับลูกมีแต่จะคอยปกป้องความปลอดภัยเท่านั้น อย่าทำให้ข้าหนักใจไปมากกว่านี้"

"คิดว่าหม่อมฉันจะเชื่อหรือเก็บเอาคำพูดหวาน ๆ ไปใช้กับหานเฟยเยี่ยเถอะเพราะหม่อมฉันไม่เชื่อท่านสักนิด คนเฉยชาไร้ใจจู่ ๆ มาเอ่ยวาจาเช่นนี้สู้ให้ท่านต่อว่าหรือตำหนิหม่อมฉันจะดีกว่า การที่หม่อมฉันกับลูกอยู่ที่จวนนี้ไม่มีคืนไหนเลยที่จะข่มตานอนให้หลับอย่างสนิท ไม่ว่าจะเป็นท่านหรือว่าหานเฟยเยี่ยหม่อมฉันไม่เชื่อใจใครทั้งนั้น " เมิ่งซูเหยาระเบิดอารมณ์ใส่จางอี้ซืออย่างเหลืออด จางอี้ซือจ้องมองนางด้วยสายตาสั่นคลอนเขารู้ตัวดีว่าที่ผ่านมาเขาทำร้ายจิตใจนางเพียงใดคงยากที่นางจะเชื่อใจ

"เอาเถอะในเมื่อข้าเอ่ยไปเจ้าก็ไม่เชื่อข้าอยู่ดี วันหนึ่งเจ้าจะรู้เองว่าข้าทำลงไปเพราะสิ่งใด " เอ่ยจบจางอี้ซือได้เดินออกไปทันที ส่วนเมิ่งซูเหยายังคงจ้องมองแผ่นหลังที่เดินจากไปอย่างช้า ๆ

"คิดว่าฉันไม่รู้ทันหรือไง เมื่อเช้ายังเป็นอีกคนบีบมือผลักไสแถมยังต่อว่ารังเกียจอีกด้วยแต่มาตอนนี้ทั้งสีหน้าแววตาน้ำเสียงราวกับคนละคน หึแผนที่ที่จะเข้าหาคงไม่เกิดผล และฉันไม่อยากเอาตัวเข้าไปเสี่ยงด้วยแผนการนั้นล้มเลิกความคิด "

เมิ่งซูเหยาส่ายหน้าไปมาที่เห็นท่าทีเปลี่ยนไปของเขาจนขนลุกและคิดในใจว่าชายผู้นี้ต้องมีแผนการทำให้นางเชื่อใจไว้ใจและคงกำจัดนางทิ้งทีหลังแน่ ๆ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นพระชายาของอ๋องไร้ใจ   บทที่ 21 คลี่คลาย(ตอนจบ)

    บทที่ 21 คลี่คลายตำหนักมู่หลันเมิ่งซูเหยาเมื่อได้ยินเรื่องทั้งหมดถึงกับตกใจไม่น้อย เสียงซุบซิบนินทาของสาวใช้ในจวนที่พูดถึงเรื่องหานเฟยเยี่ย ไม่เว้นแม้แต่เหมยหลง“หม่อมฉันละสะใจจริง ๆ เพคะที่ตระกูลหานถูกลงโทษอย่างสาสมต่อจากนี้พระชายาก็ไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใดอีกแล้ว ไม่มีผู้ใดมาปองร้ายท่านอีกต่อไป”“นั่นสิ แม้จะรู้สึกสะใจแต่ก็ใจหายไม่น้อยเลยล่ะ ”“ท่านชินอ๋องปราดเปรียวเก่งกาจจริง ๆ เพคะที่ยอมใจแข็งกัดฟันยอมใต้เท้าหานเพื่อปกป้องพระชายา ท่านคงรักพระชายามากไม่เช่นนั้นคงไม่อดทนเย็นชาต่อพระชายาเช่นนี้ รักแท้เป็นอย่างนี้สินะหวังว่าวันหนึ่งหม่อมฉันจะได้พบเจอความรักดี ๆ เช่นนี้บ้าง”เมิ่งซูเหยาได้ยินคำพูดของเหมยหลงพลางครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดของเขาที่เคยบอกนางเอาไว้ สายตาที่นางเห็นคราวนั้นคงเป็นเรื่องจริงมิใช่นางตาฝาดไป‘เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะเขาปกป้องข้ากับลูกทั้งสองคน เขาคงเจ็บปวดใจไม่น้อยสินะเมิ่งซูเหยาตัวจริงหากยังอยู่คงจะดีท่านจะได้รู้ว่าชินอ๋องสามีของท่านรักท่านเพียงใด แต่ทำไมเพียงแค่นึกถึงจิตใจของข้าถึงได้สั่นไหวเช่นนี้ ’ เมิ่งซูเหยาคิดในใจเดินไปที่หน้าต่างจ้

  • ทะลุมิติมาเป็นพระชายาของอ๋องไร้ใจ   บทที่ 20 จับกบฏ

    บทที่ 20 จับกบฏหลังจากนั้นเมิ่งซูเหยาพาร่างกายที่สั่นเทากลับเข้างานเทศกาลไปหาบุตรทั้งสองและชักชวนกันกลับจวนอ้างว่าตนเองรู้สึกไม่ค่อยสบาย และไม่มีผู้ใดที่ขัดคำสั่งเพราะยามนี้เด็ก ๆ ก็เหน็ดเหนื่อยอยากจะเข้าบรรทมแล้วเมื่อมาถึงตำหนักเมิ่งซูเหยาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างหมดแรงเมื่อครู่นี้นางแสร้งทำเป็นเข้มแข็งต่อหน้าทุกคนไม่แสดงว่านางเองก็หวาดกลัวไม่น้อยกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งเมื่อครู่ยังติดจมูกนางกลับมาที่จวน จนเหมยหลงผิดสังเกตและสงสัยว่าเมื่อครู่พระชายาหายตัวไปที่ใดมา แถมยังกลับมาด้วยใบหน้าซีดเซียว“พระชายาไม่สบายตรงไหนหรือไม่เพคะ ใบหน้าของพระชายาซีดเซียว แล้วเมื่อครู่ท่านออกไปที่ใดมา”“เหมยหลงข้าไม่รู้ว่าสิ่งที่ข้าทำลงไปถูกหรือผิด ข้าสั่งให้ทหารลงมือฆ่าคน หากมีคนตามเจอข้าจะถูกลงโทษหรือไม่”“พระชายาสั่งให้ทหารลงดาบฆ่าคนหรือเพคะ แล้วคนผู้นั้นเป็นผู้ใดกันเพคะ”“ก็สารถีที่พาข้าไปเรือนตระกูลเมิ่ง วันนี้ข้าเห็นเขาที่งานเทศกาลจึงตามไปเพื่อสอบถามความจริง ตอนนั้นข้าเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นเดียวกันทำไมถึงได้โมโหจนสั่งทหารไปเช่นนั้น ตอนนี้ข้ากลัวกลัวเหลือเกิน” ร่างบางเริ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเ

  • ทะลุมิติมาเป็นพระชายาของอ๋องไร้ใจ   บทที่ 19 เดินเที่ยวงาน

    บทที่ 19 เดินเที่ยวงานอีกฝั่งของเรือนตอนนี้ตะวันคล้อยต่ำลงทุกคนต่างพากันกินอาหารกลางวันด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาจางอี้ซือจึงขอตัวกลับจวน“วันนี้ข้าต้องขอบคุณท่านใต้เท้าหานที่ต้อนรับข้าเป็นอย่างดี ข้ามารบกวนเวลาของท่านมากแล้วขอตัวกลับจวนก่อนแล้วกัน องค์ชายสามข้าขอให้ท่านเดินทางปลอดภัยขอให้พระชายาทรงสุขภาพแข็งแรงพะย่ะค่ะ”“นั่นสิมิใช่แค่ท่านชินอ๋องที่มารบกวนเวลาท่านพ่อตา ข้าเองก็มาตั้งแต่เช้าตรู่ เจ้าเองก็เดินทางปลอดภัยเช่นเดียวกัน” องค์ชายสามเอ่ยขึ้นมา“กระหม่อมผู้เป็นบิดาไม่เคยคิดว่าการที่ราชบุตรเขยทั้งสองมาเยือนที่เรือนเป็นการรบกวนเวลา จะมาเยือนที่เรือนตระกูลหานเมื่อไหร่นับเป็นวาสนาของตระกูลพะย่ะค่ะ”“เช่นนั้นข้าเองก็ขอให้ท่านสุขภาพแข็งแรง ข้าต้องขอพาพระชายากลับวังหลวงเสียก่อนป่านนี้องค์ชายตัวน้อยคงโยเยหามารดา ” องค์ชายสามเอ่ยพลางโอบบ่าของพระชายาตนเองเดินไปที่เกี้ยวเพื่อเดินทางกลับวังหลวง ชินอ๋องกับใต้เท้าหานก้มโค้งลงเพื่ออำลา ก่อนที่จางอี้ซือจะเดินทางกลับจวนเช่นเดียวกันระหว่างทางกลับจวนใบหน้าของหานเฟยเยี่ยดูมีความสุขมากกว่าตอนที่เดินทางมาทำให้จางอี้ซือสังเกตได้อย่างง่ายดาย“พระชายา

  • ทะลุมิติมาเป็นพระชายาของอ๋องไร้ใจ   บทที่ 18 เจอหลักฐานชิ้นสำคัญ

    บทที่ 18 เจอหลักฐานชิ้นสำคัญฝั่งด้านถังอู่ฟงเขาลอบเข้ามาด้านหลังเรือนรีบเดินไปที่ห้องทำงานของใต้เท้าโชคดีที่เขาเคยมาที่นี่แล้วหลายครั้งทำให้รู้หนทางว่าไปทางใด“ใต้เท้ากำชับพวกเจ้าให้ตรวจตราให้ดี แต่วันนี้มีองค์ชายสามกับท่านชินอ๋องมาคงไม่มีผู้ใดอุกอาจเข้ามาหรอกน่า เจ้าเองก็เหนื่อยมากเช่นกันมิใช่หรือ? ไปหาอะไรกินกันเถอะ”“นั่นสิ ไปเพียงชั่วครู่คงไม่เป็นอะไรหรอกกระมั่ง” บ่าวรับใช้ที่เดินตรวจตราอยู่พูดคุยกันเสียงดังพร้อมชักชวนกันไปหาอะไรกิน ทำให้ถังอู่ฟงโล่งใจเพราะความปลอดภัยละหลวมทำให้เขาทำการได้ง่ายเมื่อเห็นว่ายามนี้ไม่มีผู้ใดเขารีบย่องเข้าไปที่ห้องของท่านใต้เท้าซอกหาหนังสือลงนามและจัดวางของทุกอย่างให้เป็นเช่นเดิมเหมือนไม่มีผู้ใดเข้ามาด้านใน ไม่ว่าจะหาตรงไหนก็ไม่พบเจอเหลือเพียงที่เดียวที่เขายังไม่ได้หาคือห้องเคารพบรรพบุรุษ เมื่อหาที่นี่ไม่พบถังอู่ฟงเปลี่ยนเป้าหมายรีบจ้องมองด้านนอกไม่เห็นบ่าวในเรือนรีบปลีกตัวออกมาและลัดเลาะไปที่ห้องเคารพบรรพบุรุษของตระกูลหานฝั่งด้านหานเฟยเยี่ยนางเดินออกมารับลมด้านนอกจ้องมองหน้าท้องของพี่สาวที่กำลังใหญ่อย่างอิจฉานางพึ่งคลอดบุตรคนแรกไปไม่นานก็ตั้งครรภ์อี

  • ทะลุมิติมาเป็นพระชายาของอ๋องไร้ใจ   บทที่ 17 เยือนเรือนใต้เท้าหาน

    บทที่ 17 เยือนเรือนใต้เท้าหานฝั่งด้านหานเฟยเยี่ยนางตื่นขึ้นมามองหาจางอี้ซือมีเพียงความว่างเปล่ากับคราบน้ำกามที่นางร่วมรักกันเมื่อคืนอย่างสุขสม"ท่านพี่ออกไปที่ใดแต่เช้าทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนเล่นสนุกกับข้าทั้งคืน ดูสิคราบน้ำรักของท่านพี่เต็มที่นอนไปหมด ครั้งนี้ข้าต้องตั้งครรภ์แน่ ๆ " นางยิ้มอย่างเบิกบานไม่นานเสียงสาวใช้ได้เข้ามาด้านใน"พระชายาเพคะท่านชินอ๋องฝากบอกพระชายาว่าวันนี้จะพาพระชายาไปเยี่ยมท่านใต้เท้าหานฉิงถิงที่เรือนให้พระชายาเตรียมตัวรอเพคะ" ไป๋ลี่ซูเดินเข้ามาแจ้งเมื่อเห็นว่านายหญิงของตนตื่น"ท่านพี่เอ่ยเช่นนั้นหรือ ? ดีเช่นกันนานแล้วที่ข้าไม่ได้กลับเรือนพร้อมท่านพี่ เจ้าช่วยเตรียมน้ำให้ข้าทีข้าจะล้างตัวเสียหน่อย""เพคะ"จางอี้ซือตื่นแต่เช้าแม้ว่าเมื่อคืนนี้เขายังอยากนอนกอดร่างบางของเมิ่งซูเหยาทั้งคืนแต่มิอาจทำเช่นนั้นได้จึงลุกขึ้นมาใกล้สว่าง เพราะเขายังมีเรื่องสำคัญให้ต้องไปจัดการ หากเรื่องทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีเขาจะนอนกอดนางเท่าไหร่ย่อมได้“ถังอู่ฟงวันนี้เจ้าเดินทางไปที่เรือนใต้เท้าหานด้วยกัน ระหว่างที่ข้าเข้าไปด้านในเจ้าจงตามหาให้ได้ว่าหนังสือลงนามของใต้เท้าอยู่ที่ใด เมื่อคร

  • ทะลุมิติมาเป็นพระชายาของอ๋องไร้ใจ   บทที่16 ปลดปล่อย

    บทที่16 ปลดปล่อย"นี่ท่านเป็นบ้าไปแล้วอย่างนั้นหรือ? ปล่อยนะเพคะ" เมิ่งซูเหยากล่าวพลางใช้มือดันอกของเขาให้ปล่อยนางออกจากอ้อมแขนครั้นนั้นนางได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงอีกทั้งลมหายใจของเขาที่เริ่มเต้นถี่ระรัวและติดขัด"เกิดอะไรขึ้นทำไมสีหน้าของท่านถึงแดงเช่นนี้""ทำไมจู่ ๆ เกิดเป็นห่วงข้าขึ้นมาหรือไง " เขาเอ่ยพลางเดินย่างเท้าไปที่ห้องบรรทมของเมิ่งซูเหยา"ที่หม่อมฉันเอ่ยถามเพราะสงสัยหรือว่าท่านไม่สบายทำอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเช่นนี้อีกด้วย เมื่อไหร่จะปล่อยหม่อมฉันเพคะ ""เมื่อถึงเตียงนอน" เขาพูดออกมาหน้าตาเฉยแต่ทว่าใจของเมิ่งซูเหยากลับกลายเป็นฝ่ายที่เต้นแรงระรัว นางไม่รู้และคาดเดาไม่ได้เลยว่าชายคนนี้ต้องการอะไรกันแน่"ท่านมีแผนอันใดมาทำเช่นนี้กับข้า ข้าไม่ใจสั่นหรือรู้สึกดีกับท่านหรอกนะ""อย่างนั้นต้องลองดู " เอ่ยจบเขาวางกายของนางลงเตียงหนานุ่มจับปลายคงมนของนางให้เชิดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะก้มลงจูบที่ริมฝีปากของนางอย่างนุ่มนวล เมิ่งซูเหยาเบิกตาโพลงโตด้วยความตกใจคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำเช่นนี้ นางรีบใช้มือดันอกของเขาให้ออกจากตนเองทันที"นี่ท่านมันเป็นบ้าไปแล้วจริง ๆ มาทำสิ่งสกปรกกับข้าเช่นนี้ได้ยังไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status