Home / อื่น ๆ / ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี / บทที่ 12 จูเหมยฟังสหายผู้นี้เถิด

Share

บทที่ 12 จูเหมยฟังสหายผู้นี้เถิด

last update Last Updated: 2025-11-14 01:33:23

บทที่ 12 จูเหมยฟังสหายผู้นี้เถิด

        ในที่สุดก็ถึงวันที่เฟยเฟิ่งจะต้องไปขายของในตลาดเป็นวันแรก รถเข็นขายอาหารก็โชคดีได้สามีของเหมยหลันที่กลับมาเยี่ยมบ้านหลังจากการไปรับจ้างในเมืองสร้างให้ นับว่าสะใภ้ว่านและสะใภ้เย่เป็นเพื่อนที่คุยกันถูกคอที่สุดในหมู่บ้านแล้ว

       เฟยเฟิ่งฝากร้านขายของหน้าบ้านไว้กับว่าที่แม่สามีอย่างไม่แน่ใจนัก กลัวว่าสตรีตรงหน้าจะเอาของที่ไว้ค้าขายไปยกให้บ้านอันจนหมด แต่เพราะตกลงกันแล้วว่าส่วนของนางและป้าเจินต้องแยกกันชัดเจนจึงวางใจลงบ้าง ทั้งยังไม่ได้ให้ช่วยเปล่าๆ แต่เป็นการว่าจ้าง

“น้าเฟิ่งเดินเร็วๆ เดี๋ยวไม่ทันคนนะ” จื่อซวานหันมาเร่ง

“จ้า” ว่านเฟยเฟิ่งเร่งผลักรถเข็นให้ไปข้างหน้าตามคำสั่งลูกเลี้ยง มองอาหารที่ทำมาวันนี้อย่างภาคภูมิใจ

         อาหารคาวมีมันต้มราดซอส แต่เพิ่มให้มีมันผสมถั่ว และมันผสมเห็ดให้เลือก อย่างที่สองคือสปาเกตตีหมูสับ อาหารหวานมีขนมเบื้อง และโมจิไส้ถั่วแดงมีเพียงการลวกเส้นสปาเกตตี และขนมเบื้องเท่านั้นที่จะทำสดๆ ต่อหน้าลูกค้า ที่เหลือเฟยเฟิ่งสามารถตักใส่ได้ในทันที

.

.

.

       ทันทีที่เฟยเฟิ่งจอดรถเข็นผีหนุ่มที่คุ้นหน้าคุ้นตากันแล้วก็ปรากฏตัวขึ้นทันที เฟยเฟิ่งแม้จะไม่ได้ร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว แต่ก็ยังมีอาการชะงักอย่างปิดไม่มิดอยู่ 

“เมื่อไหร่จะหายตกใจสักทีเนี่ย มันรู้สึกแย่นะสหาย มันเหมือนว่าผมน่ะ น่าเกลียดน่ากลัว” ผีหนุ่มตีหน้าเศร้าสลด

“โอ๊ยบ่นมากไปแล้ว…โผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียง ต่อให้เป็นคนฉันก็ตกใจ”

“น้าเฟิ่งพูดกับใคร” จื่อซวานขมวดคิ้วมองหาคู่สนทนาของแม่เลี้ยง

“อ๋อน้าพูดกับตัวเองจ้ะ เด็กๆ ไปเรียกลูกค้าเร็วเข้า อย่าลืมที่น้าสอนนะ”

       เมื่อเด็กๆ วิ่งไปแล้ว เฟยเฟิ่งก็หันไปมองผีหนุ่มที่ยังยืนอยู่หน้าร้านไม่ย้ายไปไหน “เอ้า จะเอาอะไรล่ะ”

“อ้าวก็ที่สหายสัญญาไว้ว่าจะคุยให้” ผีหนุ่มตัดพ้อออกมาเพราะคิดว่าเฟยเฟิ่งจำเรื่องที่ตกลงกันไม่ได้

“ให้ฉันกับป้าร้านผักขายของใกล้หมดก่อน ไปตอนนี้ยังไงป้าเขาก็ไม่สนใจ คนเป็นแม่ค้าห่วงขายของกันทั้งนั้น ยิ่งของบูดได้เสียได้ ยิ่งต้องรีบขาย ไม่งั้นเงินไม่เหลือแน่ เสียดาย” เฟยเฟิ่งอธิบายออกไป 

       หลังจากได้ยินคำข้อนั้นผีหนุ่มผู้มีนามว่าเสียผ่าก็พยักหน้าหายไป ไปโผล่อีกคราก็อยู่ประจันหน้าผู้คนที่เดินผ่านหน้าร้านของเฟยเฟิ่งไปแล้วให้วกกลับมาที่ร้านเธอทันที

“แม่ค้ามาใหม่ใช่ไหม ขายอะไรล่ะ”

       เฟยเฟิ่งที่เห็นเช่นนั้นก็พยักหน้าขอบคุณเสียผ่า ก่อนจะเริ่มพูดบทการขายเดียวกันกับที่สอนเด็กๆ ทั้งสองคนไป 

“อาหารคาววันนี้มีแบบฝรั่งผมทองอย่างหนึ่ง ในเส้นมีไข่ ในน้ำราดมีหมูกลมกล่อมมาก อีกอย่างเป็นอาหารดั้งเดิมสูตรลับของครอบครัวฉันเองเรียกว่ามันสวรรค์ ส่วนขนมมีขนมที่มาจากประเทศไทย และอีกอันเป็นขนมชื่อดังของญี่ปุ่น ได้กินรับรองว่าแปลกใหม่แน่”

“เอาทุกอย่างมาลองแล้วกัน”

“ได้เลยๆ”

       ไม่นานนักเฟยเฟิ่งก็ขายอาหารจนหมดเกลี้ยง โดยมีเสียผ่าดลใจให้คนมาลอง และเด็กน้อยทั้งสองช่วยตะโกนขาย เธอเอาส่วนที่แบ่งไว้ให้จื่อซวานและซูลี่ไปนั่งกินหลังร้านของแห้งที่เฟยเฟิ่งรับของมา จากนั้นก็เริ่มเก็บของเข้าช่องข้างใต้รถเข็น เพื่อจะได้รีบไปคุยกับป้าแผงขายผัก แต่เมื่อลุกขึ้นมากลับมีผู้ชายคนหนึ่งยืนมองร้านอยู่

“หมดแล้วค่ะ มาใหม่พรุ่งนี้นะ” เฟยเฟิ่งเอ่ยออกไป

“ร้านขายดีจนลือไปถึงร้านก่อสร้างเลย ที่แท้ก็หมดแล้ว พรุ่งนี้ผมจะรีบมาลอง” ชายผู้นั้นค้อมหัวให้แม่ค้าที่เขาแน่ใจว่าไม่เคยเห็นมาก่อน

“ขอบใจมากจ้ะสหาย ร้านก่อสร้าง งั้นฉันฝากไปถามช่างหูด้วยสิว่าแผ่นพลาสติกน่ะจะได้วันไหน ฉันจะเตรียมเงินไปจ่าย” เฟยเฟิ่งที่เห็นว่าชายผู้นี้มาจากร้านก่อสร้างจึงไม่เสียเวลาฝากธุระไปด้วยเสียเลย

“ที่แท้ก็…”

“น้าเฟิ่ง!” เสียงซูลี่วิ่งมาจากด้านหลังเรียกให้เฟยเฟิ่งหันไปมองทันที

“อะไรๆ เกิดอะไรขึ้น” เฟยเฟิ่งถามกับเด็กหญิงที่กอดขาเธอจนแน่น

“พี่จื่อซวานน่ะสิ หลอกให้ซูลี่กินเร็วๆ แล้วก็มาแกล้งกินช้าๆ ให้ซูลี่อยากกินเพิ่ม” ซีซูลี่ปาดน้ำตาทิ้งอย่างลวกๆ

“ที่แท้ก็เรื่องเท่านี้ น้าขอคุยธุระกับพี่ชายคนนี้ก่อนนะ พรุ่งนี้เขาจะมาซื้อของร้านเราด้วย”

“ไหนๆ คนไหน…ไม่เห็นมี” 

       ทั้งซูลี่และเฟยเฟิ่งหันกลับมามองพร้อมกันแต่ก็ไม่พบใครจึงได้หัวเราะร่วนกันออกมา สงสัยว่าชายผู้นั้นจะทนเสียงร้องไห้ของซูลี่ไม่ไหวจนวิ่งหนีไปเสียแล้ว

“เอาเถอะเฝ้ารถเข็นไว้ น้าไปทำธุระก่อน” เมื่อพูดจบจื่อซวานก็มาถึงพอดิบพอดี เฟยเฟิ่งจึงสั่งให้ไปรับหมูและไก่มาไว้ใต้รถตามที่สั่งกับร้านเนื้อสัตว์ไว้ ส่วนเฟยเฟิ่งก็สูดหายใจจนเต็มปอดมุ่งไปที่แผงผัก

.

.

.

“สวัสดีจ้ะพี่สาวคนสวย” ว่านเฟยเฟิ่งเลือกทักในแบบที่ใครก็ต้องพอใจ ด้วยรู้ว่าตนเองมีคดีติดตัว

“อะไร!” 

       เฟยเฟิ่งยิ้มออกมาเมื่อรู้ว่าตนเองจับถูกจุดที่แท้ป้าร้านผักก็บ้ายอ แม้จะยังพูดไม่ดี แต่ก็ไม่ได้ไล่ไปอย่างคราวก่อน

“พี่สาวเคยรู้จักผู้ชายที่ชื่อเสียผ่าใช่ไหม”

“อย่ามาพูดชื่อนี้ให้ได้ยินอีก ผู้ชายสารเลว ครอบครัวก็เลว ตราบาปของชีวิตฉัน” ป้าแผงผักตวัดตามองด้วยความโกรธเคือง

“พี่ฟังฉันเถอะ มีคนให้เอาเรื่องมาบอกพี่”

“อย่าพูดจาเลอะเทอะ เรื่องตั้งแต่ก่อนแกจะเกิด แถมไม่ใช่คนที่นี่ ใครเขาจะต้องไปบอกแกกัน”

“คนที่สื่อสารกับใครไม่ได้นอกจากฉัน เขาบอกให้พี่ไปบ้านก่งที่หมู่บ้านซานต้ง มีจดหมายจะให้น่ะ” เฟยเฟิ่งพยายามจะอธิบาย โดยที่ยามนี้เสียผ่ามายืนอยู่ข้างหลังคนขายผักแล้ว

“จูเหมย จูเหมยฟังสหายผู้นี้เถิด” เสียผ่าเอ่ยขอร้องออกมา

“ไม่ได้ ไปให้เขาไล่ตะเพิดว่าฉันเป็นผู้หญิงสำส่อนอีกรึไง”

“ป้าไปเถอะ คนชื่อเสียผ่ามาขอร้องฉันว่ายังไงก็ต้องให้ป้าไปให้ได้” เฟยเฟิ่งพนมมือขึ้นตามความเคยชินจากภพเดิม

“บ้า! คนตายไปยี่สิบปี บ้าจริงๆ ฉันไม่เชื่อ”

“บอกจูเหมยว่า แตงโมจิ้มน้ำปลาราดข้าว” เสียผ่าที่เห็นว่าอย่างไรจูเหมยก็ไม่เชื่อจึงสั่งให้เฟยเฟิ่งพูดตามคำตน

“เสียผ่าบอกให้ฉันพูดว่า แตงโมจิ้มน้ำปลาราดข้าว หมายถึงอะไร”

“ของโปรดของเขา เป็นเสียผ่าจริงๆ ก่งเสียผ่า ฮือๆๆ ไปๆ ฉันจะไป” จูเหมยที่ได้ยินเช่นนั้นเร่งเก็บแผงผักของตัวเอง ส่วนเฟยเฟิ่งเองก็วิ่งกลับไปเอารถเข็นและเด็กๆ ให้เดินตามมาด้วย

“เราจะไปไหนกันครับ”

“ไปหมู่บ้านซานต้ง ป้าจูเหมยมีจดหมายรออยู่” เฟยเฟิ่งตอบพลางยิ้มกรุ้มกริ่มเดิมตามจูเหมยเจ้าของแผงผักที่ดีที่สุดในตลาดไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 39 เอาอาหารไปส่งสามี

    บทที่ 39 เอาอาหารไปส่งสามีสองสัปดาห์ผ่านไปแปลงผักในพื้นที่หลังบ้านเริ่มที่จะเข้าที่แล้ว ช่วงแรกแม้จะทดลองปลูกกันไปแล้ว แต่การจัดสรรพื้นที่ยังไม่ลงตัวจึงทำให้ต้องลดปริมาณผักที่เก็บไปส่งให้ป้าจูด้วย แต่เมื่อตกลงกันกับเด็กๆ เรียบร้อยแล้ว เฟยเฟิ่งก็ให้เด็กทั้งสองเดินหน้าเต็มกำลังหลังบ้านซีไม่มีพื้นที่ส่วนใดที่ไร้ประโยชน์ พื้นที่จุดที่ได้รับเฉพาะแดดเช้าลงผักที่ไม่ต้องการแดดมาก ในโรงเรือนมีเห็ดหลากชนิดให้หมุนเวียนตัดไปกินและขาย เหนือพื้นดินด้านนอกมีราวไม้สำหรับแขวนกระถางปลูกผักเพิ่ม อีกแถวไว้ปลูกกล้วยไม้สวยงามจากในมิติที่เฟยเฟิ่งอ้างว่าพบเจอบนภูเขา หากขยายพันธุ์ให้ดีก็สามารถทำเงินได้ ด้วยผู้คนยังนิยมให้กันเป็นของขวัญนอกจากนั้นแล้วยังมีไก่ที่ซีจื่อซวาน

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 38 หาวิธีคุยกับผีในบ้าน

    บทที่ 38 หาวิธีคุยกับผีในบ้านว่านเฟยเฟิ่งทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้สามีกังวลใจ แต่ก็ไม่ได้ทิ้งให้เป็นทุกข์นาน หยิบเห็ดหลินจือที่ทดลองเพาะอย่างลับๆ ออกมาให้จื่อหานดู พร้อมกับถุงใส่สปอร์เห็ดที่เก็บสำเร็จมาแล้วรอบหนึ่งออกมาไว้ข้างกัน“น่ะนี่มัน…?”“เห็ดหลินจือน่ะสิคะ” เฟยเฟิ่งที่เข้าไปปลูกในมิติเมื่อรู้ว่าทำได้ก็คิดจะเอามาขยายให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่เธอเองก็รู้ตัวว่าคงทำเองไม่ไหว จึงคิดจะสอนจื่อหานแล้วยกให้เขาลงแรงไปเสีย“คุณไปเอามาจากไหน”“มีเทพเอามาให้ค่ะ ล้อเล่นค่ะ ก็เก็บมาสิคุณ ฉันตัดใจไม่ขายเพราะจะเอามาทดลองปลูกเลยนะว่าเราเพาะได้ไหม และคำตอบก็คือได้ แต่ว่าฉัน

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 37 ปู่ว่านมาถึงบ้าน

    บทที่ 37 ปู่ว่านมาถึงบ้าน“อาเฟิ่งคิดอะไรแบบนั้น เป็นไปไม่ได้หรอก ทุกครั้งที่มีคนหายไปเป็นช่วงที่อาเล็กไปทำงานในเมืองทั้งนั้น อีกอย่างผู้หญิงจะหายไปแค่ช่วงฤดูหนาว ช่วงนี้ทุกคนยังปลอดภัยค่ะ”“หายแค่ฤดูหนาวเท่านั้นเหรอ”เฟยเฟิ่งพึมพำกับตัวเองไม่ได้ฟังพวกผู้ชายถกเถียงกันเรื่องนี้อีก นั่นหมายความว่าช่วงเวลาที่เฟยเฟิ่งรู้มานั้นไม่ถูกต้อง ฆาตกรคนนั้นเริ่มลงมือแล้ว แต่เมื่อพ้นฤดูหนาวมาแล้วแปลว่าเธอยังคงปลอดภัย นั่นย่อมหมายความว่าก่อนที่ฤดูหนาวถัดไปจะมาถึง เธอจำเป็นจะต้องซื้อบ้านในเมืองให้ได้เพื่อความอยู่รอด!...&nbs

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 36 ฉันแต่งงานกับใครกันแน่!

    บทที่ 36 ฉันแต่งงานกับใครกันแน่!ทุกฤดูเพาะปลูกหมู่บ้านจะจัดการประชุมใหญ่ขึ้น เพราะต้องการสร้างความเข้าใจให้ตรงกันทุกครัวเรือน ยิ่งปีนี้ปรับมาทำนาแบบบ้านใครบ้านมันแล้ว ยิ่งต้องคุยให้ชัดเจน แม้จะแจ้งและแบ่งที่ไว้แล้วก็ต้องย้ำอีกครั้งว่านเฟยเฟิ่งไม่ว่าจะเป็นดวงจิตเดิมหรือดวงจิตใหม่ต่างก็ไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์ประชุมหมู่บ้านจึงรู้สึกตื่นเต้น ทั้งยังพิถีพิถันเลือกชุดเสมือนว่าจะไปประกวดนางงาม เด็กน้อยทั้งสองก็ถูกเธอจับขัดตัวทำผมให้ดูเหมือนลูกคนมีเงิน จะติดก็แต่เสื้อผ้าที่ดูซีดไปเสียหน่อย“น้าละเลยเรื่องเสื้อผ้าพวกเธอเกินไปแล้วจริงๆ หน้าตาก็ดูดีมีสกุล แต่สีเสื้อซีดยิ่งกว่าอะไรดี ไม่ได้การ”“เอาไว้จะย้อมสีให้ใหม่ ไ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 35 ทำไมต้องแกล้งน้าเฟิ่ง

    บทที่ 34 อ่อนแอเกินไป“ที่ระบายอารมณ์เนี่ยนะ คุณจะบ้ารึไงคะ ฉันไม่ใช่คนโรคจิตแบบนั้นนะ ปล่อยข้อมือฉันก่อน”“ก็คุณไง รับไม่ได้ที่ต้องมาชนบทเลยมาลงที่ลูกผม เมื่อกี้ก็เหมือนกัน ทำจนชินมือเลยล่ะสิ คล่องจริงนะกับการตีลูกคนอื่น”“ตบๆ สองทีแบบนี้มันเจ็บรึไง ตั้งสติก่อนไหมคะ ไหนเรื่องอื่นยังรอฟังได้ ทำไมครั้งนี้ไม่รอถามความจริงจากฉันบ้างเลยคะ” ว่านเฟยเฟิ่งร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความผิดนี้ไม่ใช่เธอก่อ แต่จะพูดอย่างไรว่าวิญญาณในร่างเป็นคนละดวง ใครที่ไหนจะเชื่อเธอกันมือเล็กทั้งสองถูกยกขึ้นปิดหน้าในตอนที่เธอปล่อยโฮออกมา เฟยเฟิ่งพยายามคิดหาเหตุผลว่าควรจะแก้ตัวอย่างไรให้เหมาะสม ซีจื่อหานเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ได้สติ เขาใช้มือหยาบกร้านลูบไปบนหัวเธอ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 34 อ่อนแอเกินไป

    บทที่ 34 อ่อนแอเกินไป“ที่ระบายอารมณ์เนี่ยนะ คุณจะบ้ารึไงคะ ฉันไม่ใช่คนโรคจิตแบบนั้นนะ ปล่อยข้อมือฉันก่อน”“ก็คุณไง รับไม่ได้ที่ต้องมาชนบทเลยมาลงที่ลูกผม เมื่อกี้ก็เหมือนกัน ทำจนชินมือเลยล่ะสิ คล่องจริงนะกับการตีลูกคนอื่น”“ตบๆ สองทีแบบนี้มันเจ็บรึไง ตั้งสติก่อนไหมคะ ไหนเรื่องอื่นยังรอฟังได้ ทำไมครั้งนี้ไม่รอถามความจริงจากฉันบ้างเลยคะ” ว่านเฟยเฟิ่งร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความผิดนี้ไม่ใช่เธอก่อ แต่จะพูดอย่างไรว่าวิญญาณในร่างเป็นคนละดวง ใครที่ไหนจะเชื่อเธอกันมือเล็กทั้งสองถูกยกขึ้นปิดหน้าในตอนที่เธอปล่อยโฮออกมา เฟยเฟิ่งพยายามคิดหาเหตุผลว่าควรจะแก้ตัวอย่างไรให้เหมาะสม ซีจื่อหานเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ได้สติ เขาใช้มือหยาบกร้านลูบไปบนหัวเธอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status