Home / อื่น ๆ / ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี / บทที่ 13 ความหลังของจูเหมย

Share

บทที่ 13 ความหลังของจูเหมย

last update Last Updated: 2025-11-15 01:36:14

บทที่ 13 ความหลังของจูเหมย

        การเดินเท้ามายังหมูบ้านชานต้งนั้นไม่ถือว่าหนักหนา เพราะนับแล้วเป็นหมู่บ้านที่สามจากตลาด คนหมู่บ้านนี้ยังไม่เคยมีใครมาซื้อของร้านเฟยเฟิ่งด้วยระยะทางการเดินเท่ากัน ทุกคนจึงไปซื้อที่ตลาดเสียมากกว่า

       จูเหมยที่เดินนำทิ้งห่างมาไกล หยุดค้างอยู่หน้าหมู่บ้านซานต้ง ไม่ยอมที่จะก้าวขาเข้าไป ว่านเฟยเฟิ่งที่เห็นเช่นนั้นจึงต้องแทรกแซงบางอย่าง

“ป้าจูเหมย มาไกลถึงเพียงนี้แล้ว เข้าไปกับเถิด เสียผ่าของท่านรอมานานแล้ว อย่าให้ต้องรอต่อไปเลย” 

“ครั้งนั้น ฉันถูกคนสกุลก่งไล่ออกมาอย่างกับหมูหมา ฉันกลัว” จูเหมยหันมาบีบมือเฟยเฟิ่ง

“ไม่เป็นไร ฉันจะอยู่ข้างๆ หากจะมีใครถูกไล่คงเป็นฉันเสียมากกว่า เรื่องที่ฉันเอามาพูดใช่ว่าจะทำใจเชื่อได้ง่ายนัก” เฟยเฟิ่งคลี่ยิ้มเป็นกำลังใจให้จูเหมย ไม่อยากจะเชื่อว่าแม่ค้าผู้มีอิทธิพลจะสามารถดูอ่อนแอได้ถึงเพียงนี้

“ผมผิดเองที่ไม่บอกความสัมพันธ์ของเราสองคนให้พ่อกับแม่รู้อย่างชัดเจน” เสียงของเสียผ่าดังขึ้น จากนั้นวิญญาณตนนี้ก็เดินไปหยุดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง 

        เฟยเฟิ่งรีบก้าวตามไปหยุดอยู่หน้าบ้าน สอดส่องไปแล้วเห็นมีทั้งเป็ดและไก่ ทั้งยังมีข้าวของครบครัน ดูแล้วเป็นกลุ่มคนที่ไม่เดือดร้อนมาตั้งแต่รุ่นก่อนแน่แล้ว

“นังหนูมาหาใครจ๊ะ” หญิงชรารุ่นที่โตกว่าว่าที่แม่สามีของเฟยเฟิ่งเอ่ยขึ้น

“มากับฉันเองป้า” จูเหมยที่เห็นเฟยเฟิ่งไปหยุดอยู่หน้าบ้านที่ถูกต้องโดยที่ตนเองไม่ได้บอกก็ยิ่งเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ว่าเด็กสาวปากเสียผู้นี้คงสื่อสารกับเสียผ่าได้จริง

“แกมาทำไม มาหาว่าลูกหลานคนไหนของฉันไปทำแกท้องอีกล่ะ” 

“แม่!” เสียผ่าตะโกนออกมาแม้จะรู้ว่าไม่มีผู้ใดสามารถได้ยินตนเองเลยก็ตาม “ฉันทำจริง! แม่อย่าปล่อยให้ลูกเมียฉันอยู่กับความอัปยศนี้อีกเลย”

“ครั้งเดียวก็เกินพอ!” จูเหมยสาดคำตะโกนกลับไป

“ไม่มีใครท้องค่ะ ทั้งป้าจูและตัวฉัน ไม่ต้องกังวลนะคะ” ว่านเฟยเฟิ่งรีบพูดขึ้นเพื่อดับไฟสถานการณ์ตรงหน้า

“แล้วมารบกวนฉันทำไม” หญิงชราตวัดตามามองเฟยเฟิ่งอย่างคาดโทษ

“ฉันพูดแล้วอาจจะฟังดูเหลือเชื่อ แต่เสียผ่าลูกชายของป้า มาเข้าฝันบอกฉัน บอกให้เอาลิ้นชักสีดำที่ตอนนี้หลานชายของยายใช้อยู่มาหาจดหมายให้เจอจ้ะ”

        หลังจากคำพูดของเฟยเฟิ่งจบลงทั้งบริเวณก็บังเกิดแต่ความเงียบ จนกระทั่งซูลี่จามออกมาจึงเรียกให้ทุกคนออกจากภวังค์

“แกเอาเรื่องนี้ไปบอกคนนอกทำไม คนตายไปยี่สิบปีแล้วจะลากลูกชายฉันมาทำลายชื่อเสียทำไมกัน” ยายลี่พูดออกมาพลางปาดน้ำตา การได้ยินชื่อบุตรชายคนโตจากปากคนนอกครอบครัวคล้ายกับสายฟ้าฟาดลงกลางใจ หากยามนั้นไม่ปล่อยเสียผ่าไปดูไร่คนเดียว เรื่องราวคงไม่เป็นเช่นนี้

“ป้าคิดว่าฉันอยากจะประจานตัวเองหรือยังไงกัน เสียผ่าไปบอกนังหนูไว้จริงๆ แม้แต่เสียผ่าชอบกินแตงโมน้ำปลายังบอกได้ถูกต้อง”

“ยายหยิบลิ้นชักนั้นออกมาเถอะ เสียผ่ามาขอร้องฉันไว้นานแล้ว ยายไม่อยากให้ลูกชายได้ทำเรื่องที่ค้างคาไว้ให้เสร็จสิ้นเหรอคะ” เฟยเฟิ่งพยายามพูดเกลี้ยกล่อมพลางหันไปมองเสียผ่าให้ช่วยเหลือ

“แม่ผมแอบเก็บคัมภีร์แปลกๆ ไว้ในบ้าน ไม่มีใครรู้นอกจากผมที่แอบเห็น แม่เรียกมันว่าไบเบิล” เสียผ่าพูดสิ่งที่น่าจะเปลี่ยนใจมารดาตนได้ออกมา

“ยายฉันขออนุญาตนะ” เฟยเฟิ่งเข้าไปกระซิบข้างหู 

       ทันทีที่ว่านเฟยเฟิ่งกล่าวถึงพระคัมภีร์ ยายลี่ก็ยอมเปิดบ้านให้ทั้งสองเข้าไป ส่วนเด็กน้อยที่ตามมายายลี่ส่งให้ไปดูไก่ข้างบ้าน

“นั่นน่ะลิ้นชัก”

“ค่ะ” เฟยเฟิ่งเข้าไปใกล้ลิ้นชักกระแอมครั้งหนึ่งให้เสียผ่ามาบอกว่าต้องทำสิ่งใดต่อ เมื่อกดตามก็มีช่องลับเด้งออกมาจริงๆ ด้านในมีจดหมายฉบับหนึ่งจ่าหน้าถึงจูเหมยฉบับหนึ่ง ถึงยายลี่อีกฉบับหนึ่ง เฟยเฟิ่งยื่นของที่พบภายในให้ตามชื่อที่ระบุไว้ แต่ทั้งสองส่ายหน้าแล้วสั่งให้เฟยเฟิ่งเป็นผู้อ่าน

“จูเหมย ผมจะไม่ยอมแพ้ ลูกของเรามีพ่อ ผมจะส่งเสียรับผิดชอบ แม้จะยังไม่อาจรับมาอยู่ในบ้านได้ แต่สักวันแม่จะต้องใจอ่อน ผมไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น ในใจผมมีแค่จูเหมยคนเดียวเท่านั้น ขอให้วางใจ ก่งเสียผ่า” 

“ผมรู้ว่าถ้าพูดไปพ่อกับแม่ก็คงไม่ฟัง การเขียนอาจบอกความตั้งใจได้มากกว่า ผมรักจูเหมย จูเหมยกำลังท้องลูกของเรา พ่ออย่ายัดเยียดใครเข้ามาให้ผมต้องทิ้งลูกเมียให้ต้องลำบากเลย เกิดมาชาตินี้หากไม่ใช่จูเหมยเสียผ่าผู้นี้จะไม่แต่งงาน”

        เมื่อได้รับรู้เนื้อความจากจดหมายทั้งสองฉบับ ป้าจูทรุดลงร้องไห้ด้วยความรู้สึกสูญเสียอย่างแสนสาหัส ความรักที่ไม่อาจเป็นไปได้เพราะความขัดแย้งของคนรุ่นพ่อ ความน้อยใจที่เสียผ่าเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไว้ จนเธอตั้งท้องก็ไม่รวบรวมความกล้าคุยกับพ่อแม่

        ส่วนยายลี่ที่อคติว่าจูเหมยท้องกับคนอื่นแล้วจะมาให้บุตรชายที่ไม่อาจลุกขึ้นมาปฏิเสธได้เป็นผู้รับผิดชอบ ก็รู้สึกผิดนักที่ทำให้หลานคนโตต้องอดทนเป็นลูกของผู้หญิงใจแตกหาพ่อไม่ได้ ปล่อยความอิจฉาที่มีต่อมารดาของจูเหมยผู้เป็นชนวนความแค้นของชายสองคนมาบังตา ไม่ฟังคำของเด็กสาวในยามนั้นที่ต้องบากหน้ามาขอร้องให้คนนินทาอย่างเลวร้าย

“ขอบคุณที่ทำให้ความจริงปรากฏ” ก่งเสียผ่าเอ่ยกับว่านเฟยเฟิ่ง จากนั้นก็ก้มลงกอดแม่และเมียที่กำลังเสียน้ำตาให้กับเรื่องในอดีต และค่อยๆ ลับหายไปในที่สุด

“ไม่ต้องห่วงนะ สามีฉันกับพ่อเธอไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครมีสิทธิ์ขัดขวางเธออีกแล้ว” ยายลี่ให้คำมั่นกับจูเหมย

“หมดหน้าที่ของฉันแล้ว ฉันไปนะ” ว่านเฟยเฟิ่งพูดออกมาบ้าง

“ไว้จัดการทุกอย่างให้ถูกต้อง ฉันจะหาวิธีตอบแทนเธอแน่” ป้าจูเอื้อมมือมาบีบปลายนิ้วของเฟยเฟิ่งแทนคำมั่น

“ป้าขายผักให้ฉัน แล้วก็ยอมรับคำขอโทษก็พอแล้วจ้ะ”

.

.

.

“คนเต็มหน้าบ้านเราเลยน้าเฟิ่ง” จื่อซวานพูดออกมาเมื่อเดินใกล้ถึงบ้าน

“ลูกค้ามารอเอาหมูกับไก่น่ะสิ” ซูลี่ตอบออกมาอย่างภาคภูมิใจที่ตัวเองรู้เรื่อง

“รู้เหมือนกันแหละน่า ซูลี่รู้คนเดียวที่ไหนกัน”

“ไม่ต้องเถียงกัน วิ่งไปบอกให้ลูกค้าเข้าแถวไป” สิ้นคำของเธอเด็กทั้งสองก็วิ่งออกไปทันที 

“ช่วยผมบ้างสิ” เสียงแหบเย็นดังขึ้นมาข้างหูของเฟยเฟิ่ง

“โอ๊ย…บอกให้อย่ามาน่ากลัวไงเล่า” เฟยเฟิ่งย่นคิ้วยู่หน้าอย่างท้อแท้ในโชคชะตาใหม่ของตนเอง ต่อให้เธอไม่กลายเป็นเหยื่อของฆาตกรผู้นั้น แต่ชีวิตคงไม่อาจหาความสงบสุขได้แน่หากยังเห็นผีได้เช่นนี้

จากหาเงินหนีฆาตกร คงต้องกลายเป็นหาเงินหนีผี

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 39 เอาอาหารไปส่งสามี

    บทที่ 39 เอาอาหารไปส่งสามีสองสัปดาห์ผ่านไปแปลงผักในพื้นที่หลังบ้านเริ่มที่จะเข้าที่แล้ว ช่วงแรกแม้จะทดลองปลูกกันไปแล้ว แต่การจัดสรรพื้นที่ยังไม่ลงตัวจึงทำให้ต้องลดปริมาณผักที่เก็บไปส่งให้ป้าจูด้วย แต่เมื่อตกลงกันกับเด็กๆ เรียบร้อยแล้ว เฟยเฟิ่งก็ให้เด็กทั้งสองเดินหน้าเต็มกำลังหลังบ้านซีไม่มีพื้นที่ส่วนใดที่ไร้ประโยชน์ พื้นที่จุดที่ได้รับเฉพาะแดดเช้าลงผักที่ไม่ต้องการแดดมาก ในโรงเรือนมีเห็ดหลากชนิดให้หมุนเวียนตัดไปกินและขาย เหนือพื้นดินด้านนอกมีราวไม้สำหรับแขวนกระถางปลูกผักเพิ่ม อีกแถวไว้ปลูกกล้วยไม้สวยงามจากในมิติที่เฟยเฟิ่งอ้างว่าพบเจอบนภูเขา หากขยายพันธุ์ให้ดีก็สามารถทำเงินได้ ด้วยผู้คนยังนิยมให้กันเป็นของขวัญนอกจากนั้นแล้วยังมีไก่ที่ซีจื่อซวาน

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 38 หาวิธีคุยกับผีในบ้าน

    บทที่ 38 หาวิธีคุยกับผีในบ้านว่านเฟยเฟิ่งทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้สามีกังวลใจ แต่ก็ไม่ได้ทิ้งให้เป็นทุกข์นาน หยิบเห็ดหลินจือที่ทดลองเพาะอย่างลับๆ ออกมาให้จื่อหานดู พร้อมกับถุงใส่สปอร์เห็ดที่เก็บสำเร็จมาแล้วรอบหนึ่งออกมาไว้ข้างกัน“น่ะนี่มัน…?”“เห็ดหลินจือน่ะสิคะ” เฟยเฟิ่งที่เข้าไปปลูกในมิติเมื่อรู้ว่าทำได้ก็คิดจะเอามาขยายให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่เธอเองก็รู้ตัวว่าคงทำเองไม่ไหว จึงคิดจะสอนจื่อหานแล้วยกให้เขาลงแรงไปเสีย“คุณไปเอามาจากไหน”“มีเทพเอามาให้ค่ะ ล้อเล่นค่ะ ก็เก็บมาสิคุณ ฉันตัดใจไม่ขายเพราะจะเอามาทดลองปลูกเลยนะว่าเราเพาะได้ไหม และคำตอบก็คือได้ แต่ว่าฉัน

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 37 ปู่ว่านมาถึงบ้าน

    บทที่ 37 ปู่ว่านมาถึงบ้าน“อาเฟิ่งคิดอะไรแบบนั้น เป็นไปไม่ได้หรอก ทุกครั้งที่มีคนหายไปเป็นช่วงที่อาเล็กไปทำงานในเมืองทั้งนั้น อีกอย่างผู้หญิงจะหายไปแค่ช่วงฤดูหนาว ช่วงนี้ทุกคนยังปลอดภัยค่ะ”“หายแค่ฤดูหนาวเท่านั้นเหรอ”เฟยเฟิ่งพึมพำกับตัวเองไม่ได้ฟังพวกผู้ชายถกเถียงกันเรื่องนี้อีก นั่นหมายความว่าช่วงเวลาที่เฟยเฟิ่งรู้มานั้นไม่ถูกต้อง ฆาตกรคนนั้นเริ่มลงมือแล้ว แต่เมื่อพ้นฤดูหนาวมาแล้วแปลว่าเธอยังคงปลอดภัย นั่นย่อมหมายความว่าก่อนที่ฤดูหนาวถัดไปจะมาถึง เธอจำเป็นจะต้องซื้อบ้านในเมืองให้ได้เพื่อความอยู่รอด!...&nbs

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 36 ฉันแต่งงานกับใครกันแน่!

    บทที่ 36 ฉันแต่งงานกับใครกันแน่!ทุกฤดูเพาะปลูกหมู่บ้านจะจัดการประชุมใหญ่ขึ้น เพราะต้องการสร้างความเข้าใจให้ตรงกันทุกครัวเรือน ยิ่งปีนี้ปรับมาทำนาแบบบ้านใครบ้านมันแล้ว ยิ่งต้องคุยให้ชัดเจน แม้จะแจ้งและแบ่งที่ไว้แล้วก็ต้องย้ำอีกครั้งว่านเฟยเฟิ่งไม่ว่าจะเป็นดวงจิตเดิมหรือดวงจิตใหม่ต่างก็ไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์ประชุมหมู่บ้านจึงรู้สึกตื่นเต้น ทั้งยังพิถีพิถันเลือกชุดเสมือนว่าจะไปประกวดนางงาม เด็กน้อยทั้งสองก็ถูกเธอจับขัดตัวทำผมให้ดูเหมือนลูกคนมีเงิน จะติดก็แต่เสื้อผ้าที่ดูซีดไปเสียหน่อย“น้าละเลยเรื่องเสื้อผ้าพวกเธอเกินไปแล้วจริงๆ หน้าตาก็ดูดีมีสกุล แต่สีเสื้อซีดยิ่งกว่าอะไรดี ไม่ได้การ”“เอาไว้จะย้อมสีให้ใหม่ ไ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 35 ทำไมต้องแกล้งน้าเฟิ่ง

    บทที่ 34 อ่อนแอเกินไป“ที่ระบายอารมณ์เนี่ยนะ คุณจะบ้ารึไงคะ ฉันไม่ใช่คนโรคจิตแบบนั้นนะ ปล่อยข้อมือฉันก่อน”“ก็คุณไง รับไม่ได้ที่ต้องมาชนบทเลยมาลงที่ลูกผม เมื่อกี้ก็เหมือนกัน ทำจนชินมือเลยล่ะสิ คล่องจริงนะกับการตีลูกคนอื่น”“ตบๆ สองทีแบบนี้มันเจ็บรึไง ตั้งสติก่อนไหมคะ ไหนเรื่องอื่นยังรอฟังได้ ทำไมครั้งนี้ไม่รอถามความจริงจากฉันบ้างเลยคะ” ว่านเฟยเฟิ่งร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความผิดนี้ไม่ใช่เธอก่อ แต่จะพูดอย่างไรว่าวิญญาณในร่างเป็นคนละดวง ใครที่ไหนจะเชื่อเธอกันมือเล็กทั้งสองถูกยกขึ้นปิดหน้าในตอนที่เธอปล่อยโฮออกมา เฟยเฟิ่งพยายามคิดหาเหตุผลว่าควรจะแก้ตัวอย่างไรให้เหมาะสม ซีจื่อหานเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ได้สติ เขาใช้มือหยาบกร้านลูบไปบนหัวเธอ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 34 อ่อนแอเกินไป

    บทที่ 34 อ่อนแอเกินไป“ที่ระบายอารมณ์เนี่ยนะ คุณจะบ้ารึไงคะ ฉันไม่ใช่คนโรคจิตแบบนั้นนะ ปล่อยข้อมือฉันก่อน”“ก็คุณไง รับไม่ได้ที่ต้องมาชนบทเลยมาลงที่ลูกผม เมื่อกี้ก็เหมือนกัน ทำจนชินมือเลยล่ะสิ คล่องจริงนะกับการตีลูกคนอื่น”“ตบๆ สองทีแบบนี้มันเจ็บรึไง ตั้งสติก่อนไหมคะ ไหนเรื่องอื่นยังรอฟังได้ ทำไมครั้งนี้ไม่รอถามความจริงจากฉันบ้างเลยคะ” ว่านเฟยเฟิ่งร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความผิดนี้ไม่ใช่เธอก่อ แต่จะพูดอย่างไรว่าวิญญาณในร่างเป็นคนละดวง ใครที่ไหนจะเชื่อเธอกันมือเล็กทั้งสองถูกยกขึ้นปิดหน้าในตอนที่เธอปล่อยโฮออกมา เฟยเฟิ่งพยายามคิดหาเหตุผลว่าควรจะแก้ตัวอย่างไรให้เหมาะสม ซีจื่อหานเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ได้สติ เขาใช้มือหยาบกร้านลูบไปบนหัวเธอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status