Share

บทที่ 1 การกลับมา

last update Huling Na-update: 2025-07-07 16:51:14

ทุกคนที่ได้ยินก็ตะลึงงัน นังปากร้ายนี่พูดจาเหตุผลตั้งแต่เมื่อไหร่ ปกติมีแต่โวยวายพูดจาไร้สาระไม่รู้เรื่องหรือไม่ก็ด่าทออย่างหยาบคายแต่ไม่สามารถจับใจความได้ แต่ครั้งนี้มันแปลก หรือเป็นเพราะหัวเธอกระแทกเลยผิดปกติไปแล้ว!

“นี่สะใภ้รอง เธอพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก จื่อหานเป็นน้องชายต้องกตัญญูกับพ่อแม่พี่ชายพี่สะใภ้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง” เหมยลี่ว่าพลางเชิดหน้า

“ใช่ เขาไปเป็นทหารไม่ได้ดูแลพ่อแม่ มีแค่พี่ชายและพี่สะใภ้ดูแลเงินที่ได้มาควรตอบแทนนั้นถูกต้อง” แม่เฒ่าจางเห็นด้วยอย่างที่สุด

“ฉันเข้าใจแล้ว จื่อหานไม่ได้เลี้ยงดูพ่อแม่เพราะงั้นต้องให้เงินตอบแทนเป็นเรื่องที่ถูกต้อง งั้นไม่สู้ให้พี่ใหญ่ไปเป็นทหารแล้วให้จื่อหานมาดูแลพ่อแม่ที่บ้านแทนสิ เขาจะได้แสดงความกตัญญูได้อย่างเต็มที่” ซิ่วอิงตอบกลับอย่างยียวน

“นี่แก พูดบ้าอะไร” เหมยลี่พูดอย่างไม่พอใจ นังบ้านี่คิดจะให้สามีของเธอไปเป็นทหาร ไปตายในสนามรบงั้นเหรอใครจะไปยอม

“ทำไม ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้แม่กับสะใภ้ใหญ่บอกว่าจื่อหานไม่ได้ดูแลพ่อแม่ เพราะงั้นก็ควรให้เขากลับมาดูแลพ่อแม่ที่บ้านนั่นถูกแล้ว” ซิ่วอิงเอ่ยย้ำว่านี่มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

“แก แก แม่ ฉันคิดว่าน้องสะใภ้รองต้องการกำจัดจื่อซวานด้วยการส่งเขาเข้ากองทัพแน่ๆ” เหมยลี่รีบเป่าหูแม่สามีทันที

“แก นังชั่ว แกคิดจะส่งลูกชายฉันไปตายเหรอ” แม่เฒ่าจางชี้หน้ามือสั่นเมื่อได้ยินว่าซิ่วอิงคิดจะกำจัดลูกชายคนโตสุดที่รักของเธอ

“มันน่าตลก แม่ห่วงลูกชายคนโตแต่ไม่ห่วงลูกชายคนเล็กหรือ” ซิ่วอิงหัวเราะในลำคอกับความลำเอียงที่ชัดเจนนี้ น่ารังเกียจมาก!

“แกพูดอะไร หยุดทำตัวเฉไฉแล้วคืนไข่ไก่ฉันมา” แม่เฒ่าจางเปลี่ยนเรื่องในทันที เจ้าเล็กไปอยู่กองทัพตั้งหลายปีทำไมต้องห่วง หน้าที่ของเขาคือส่งเงินมาให้เธอเพื่อแสดงความกตัญญูไม่ใช่หรือ ส่วนลูกชายคนโตคือคนที่เธอจะอยู่ด้วยในอนาคตอีกทั้งเขาอ่อนแอกว่าลูกคนเล็กเธอจะส่งเขาไปในที่ที่อันตรายเช่นนั้นได้อย่างไร

“ฉันเป็นคนตรงไปตรงมา ไข่นั่นหมดแล้ว” ซิ่วอิงเอ่ยบอกอย่างไม่ยี่หระ

“อะไรนะ หมดแล้ว” แม่เฒ่าจางมีอารมณ์ครุกกรุ่นอีกครั้ง ไข่ห้าฟองทุกวันหลานที่น่ารักของเธอได้กินกันแค่คนละหนึ่งฟองแต่นังปากร้ายบอกว่าไข่ห้าฟองหมดในวันเดียว เห็นได้ชัดว่าพวกมันฟุ่มเฟือยและไร้ประโยชน์

“ใช่ ต่อให้แม่โมโหไปฉันก็ไม่มีไข่มาคืนหรอกเพราะงั้นออกจากห้องฉันไปได้แล้ว” ซิ่วอิงพูดพร้อมกับโบกมือไล่

“สะใภ้รองทำไมเธอถึงไร้ยางอายแบบนี้” เหมยลี่พูดพลางกระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ

“ถ้าฉันไร้ยางอายเธอมันก็คนหน้าด้าน” ซิ่วอิงตอบกลับอย่างไม่สะทกสะท้าน

“แม่ ฉันคิดว่าแม่ควรสั่งสอนเธอให้หลาบจำ” เหมยลี่หันไปบอกแม่สามี

“เสิ่นซิ่วอิง ถ้าวันนี้เธอไม่คืนไข่มาอย่าหาว่าแม่สามีอย่างฉันใจร้าย” แม่เฒ่าจางพูดอย่างกดดัน เธอต้องการไข่ไก่ของเธอคืน

“แม่ ฉันบอกแล้วไงว่าไข่ถูกกินหมดไปแล้วต่อให้แม่ทุบตีฉันมันก็เปล่าประโยชน์” ซิ่วอิงยังคงยืนกราน เรื่องอะไรเธอจะคืน ถ้าลูกๆ ของเธอไม่ได้กินคนอื่นก็ต้องไม่ได้กินอีกอย่างเธอเห็นว่าแม่สามียังซ่อนไข่ไว้จำนวนมากไม่จำเป็นต้องมาทวงไข่ห้าฟองจากเธอ

“ย่า แม่บอกแล้วว่าไม่มีทำไมยังคาดคั้น เราก็หลานย่าเหมือนกันทำไมพี่เฉิงกับถิงถิงกินได้แต่เรากินไม่ได้” ซูเม่ยพูดอย่างไม่ยินยอม

“หุบปาก นังเด็กบ้า” แม่เฒ่าจางตวาดลั่น ซีห่าวรู้สึกกลัวมากเขากอดซิ่วอิงไว้แน่น

“แม่ ฉันว่าค้นดูดีกว่า ฉันไม่เชื่อหรอกว่ามันจะกินหมดแล้ว” เหมยลี่เสนอแนวทางร้ายทันที

“นี่ อย่านะ” ซูเม่ยรีบขวางป้าสะใภ้ ส่วนซีซวนมองดูด้วยสายตาเย็นชา

“หลบไปนังเด็กนอกคอก” เหมยลี่ผลักซูเม่ยให้พ้นทาง ซีซวนเห็นดังนั้นดวงตาของเขาก็มืดครึ้มลง ซิ่วอิงที่เห็นลูกสาวถูกผลักเธอก็รู้สึกโมโหเป็นอย่างมากพุ่งเข้าไปตบสะใภ้ใหญ่ทันที

เพี๊ยะ!

“โอ๊ย!” เหมยลี่กุมหน้าด้วยความเจ็บปวด นังปากร้ายมันกล้าตบเธอ

“อย่ามารังแกลูกสาวของฉัน” ซิ่วอิงตวาดลั่น ซีซวนมองอย่างตะลึงท่าทางของเธอตอนนี้ราวกับแม่นกกางปีกปกป้องลูก มันดูดีมาก!

“แก แกกล้าตีฉัน” เหมยลี่ชี้หน้าซิ่วอิงอย่างโมโห

“ถ้าเธอกล้ารังแกลูกของฉัน ฉันย่อมกล้าตีเธอ” ซิ่วอิงตอบกลับอย่างโมโหเช่นกัน

“แม่คะ” เหมยลี่หันไปหาแม่สามีให้ช่วยตน

“แก นังปากร้ายกล้าตีคนได้ยังไง” แม่เฒ่าจางยังคงเข้าข้างลูกสะใภ้ใหญ่และด่าซิ่วอิง

“ฉันกล้ามากกว่านี้แน่ถ้ายังไม่พากันออกไป” ซิ่วอิงว่าก่อนจะหันไปคว้าไม้กวาดแล้วนำมาขับไล่ทั้งสองคน

“ออกไป ออกไปจากห้องฉัน” ซิ่วอิงใช้ไม้กวาดดันทั้งสองคนออกไป

“กรี๊ด! นังบ้า” เหมยลี่กรีดร้องทันที

“แก นังชั่ว ฉันจะให้เจ้าเล็กหย่ากับแก” แม่เฒ่าจางตะโกนด่าทันที พูดแต่ว่าจะให้ลูกชายคนเล็กของเธอหย่า ซิ่วอิงไม่สนใจยังคงใช้ไม้กวาดดันทั้งสองคนออกไปทำท่าจะตีแต่ไม่ได้ตี แม่เฒ่าจางกับลูกสะใภ้ต่างร้องโวยวาย

“หยุด!” เสียงเข้มดังขึ้นทำให้ทุกคนหยุดชะงัก ซิ่วอิงถือไม้กวาดยกค้างในขณะนั้นเองก็มีมือหนามาคว้าไม้กวาดเธอไป

“นี่” ซิ่วอิงถลึงตาใส่ก่อนจะชะงักเพื่อพบว่าเป็นใคร

“เจ้าเล็กลูกกลับมาแล้ว เมียของลูกเกือบฆ่าแม่แล้ว” แม่เฒ่าจางเห็นว่าเป็นลูกชายคนเล็กก็รีบเข้ามาเล่นละครร้องห่มร้องไห้ทันที

“เกิดอะไรขึ้น?” จางจื่อหานขมวดคิ้ว วันนี้เขากลับมาบ้านแต่พอมาถึงได้ยินเสียงทะเลาะกันจึงรีบมาดู มาถึงก็เห็นภรรยาของเขายกไม้กวาดขึ้นเหมือนจะตีคนเขาจึงต้องจับและแย่งชิงไม้กวาดนั่นมา

“น้องชายดูที่นังนี่สิมันตบพี่สะใภ้และไล่ตีแม่ น้องชายต้องรีบจัดการนะ” เหมยลี่รีบผสมโรงทันที

“เจ้าเล็กภรรยาของลูกนั้นแย่มาก ลูกควรหย่ากับมันแล้วส่งกลับบ้านเดิมซะ” แม่เฒ่าจางเอ่ยบอกลูกชาย หลังจากแล้วก็หาผู้หญิงดีๆ ที่เชื่อฟังมาแต่งงานหรือไม่ลูกเล็กเป็นนายทหารหากได้แต่งกับลูกสาวผู้อำนวยการกองทัพก็ยิ่งมีแต่จะก้าวหน้า

“เกิดอะไรขึ้น? เจ้าเล็กกลับมาแล้วเหรอ” พ่อเฒ่าจางกับจางจื่อซวานมาพอดีก็เอ่ยถาม เหมยลี่รีบใส่ไฟทันที เธอบอกพ่อสามีกับสามีว่าซิ่วอิงขโมยไข่และยังตบตีเธอและแม่สามี

“น้องชายนายควรจะสั่งสอนภรรยาให้ดี มาทำแบบนี้กับแม่กับพี่สะใภ้ได้ไง” จางจื่อซวานเอ่ยบอกน้องชายตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์ จางจื่อหานหันหน้าไปมองภรรยาเธอแตกต่างจากครั้งสุดท้ายที่ได้เจอไม่โวยวายหรือด่าทอ แต่กลับเลิกคิ้วใส่เขา?

“เจ้าเล็กรีบหย่ากับมันซะ” แม่เฒ่าจางยังคงยืนยัน

“แม่” จางจื่อหานเอ่ยเรียกแม่ของตนเอง

“อะไร แกไม่เห็นเหรอว่ามันตีแม่ นังนี่มันเป็นหมาป่าตาขาวอกตัญญู เด็กพวกนี้ก็เป็นเด็กเหลือขอเลี้ยงไว้ก็ไร้ประโยชน์และสิ้นเปลือง” แม่เฒ่าจางเอ่ยบอกกับลูกชาย จางจื่อหานได้ยินว่าแม่ด่าภรรยากับลูกก็รู้สึกจุกในอกแต่ในฐานะลูกเขาไม่สามารถด่าแม่กลับได้

“อยากหย่าก็หย่า แต่ค่าเลี้ยงดูลูกคุณต้องจ่าย” ซิ่วอิงพูดกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี

“ฝันไปเถอะ” แม่เฒ่าจางและคนอื่นไม่ยินยอมที่จะสูญเสียเงินก้อนนี้

“แม่ไปพักก่อนเถอะ” จางจื่อหานเอ่ยบอกแม่ของตน

“ไม่ แกต้องจัดการให้จบตอนนี้” แม่เฒ่าจางไม่ยินยอม

“เจ้าเล็กมาเหนื่อยๆ แยกย้ายไปพักกันก่อนเถอะ มีอะไรพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน” พ่อเฒ่าจางเอ่ย อย่างไรเขาต้องรักษาหน้าต่อหน้าลูกคนเล็กเขาจะแสดงความลำเอียงออกมาไม่ได้  ผลสุดท้ายไม่มีใครกล้าขัดผู้นำของบ้านทุกคนต่างแยกย้ายกันไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาปากร้ายยุค 70   บทที่ 8 บุกรุก!

    “เรื่องนี้อย่าให้พ่อของแกรู้” แม่เฒ่าจางเอ่ยบอกลูกชายคนโต แม้ว่าพ่อเฒ่าจางจะลำเอียงรักลูกชายคนโตแต่เขาก็มักจะไว้หน้าตัวเองเสมอไม่แสดงออกถึงความลำเอียงมากเกินไป วันนี้พ่อเฒ่าจางมัววแต่ไปพูดคุยกับเพื่อนฝูงทำให้ทั้งสามคนคิดวางแผนที่จะทำเรื่องนี้“คุณแม่คะ แล้วนังนั่นจะไม่ไปแจ้งสันติบาลเหรอคะ” เหมยลี่เองก็อยากได้เงินห้าร้อยหยวนแต่เธอก็กังวลไม่ได้ หากนังปากร้ายนั่นไปแจ้งสันติบาลหรือคณะกรรมการปฏิวัติพวกเธออาจจะถูกจับ“มีลูกสะใภ้ที่ไหนจะแจ้งจับแม่สามี” จะสามารถทำแบบนั้นได้ยังไง ไม่เคยมีสะใภ้คนไหนกล้าแจ้งจับแม่สามีแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่โดนทุบตีก็ตามมันถูกมองว่าเป็นปกติเว้นเสียแต่ว่าจะมีคนตาย“แต่มันแยกบ้านไปแล้วนะคะ” เหมยลี่ไม่แน่ใจว่าสามารถทำแบบนั้นได้ เธอไม่อยากถูกจับ“นี่สะใภ้ใหญ่ เธอกลายเป็นคนขี้ขลาดตั้งแต่เมื่อไหร่” แม่เฒ่าจางพูดอย่างไม่สบอารมณ์“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะแม่” เหมยลี่ที่เห็นแม่สามีเริ่มไม่พอใจก็ไม่กล้าที่จะแย้งอีก ในใจก็แอบเห็นด้วยว่าจางจื่อหานคงไม่แจ้งจับแม่ตัวเองหรอก“แม่ครับ ผมว่าเราควรไปตอนที่มันออกไปทำงาน” เวลานั้นชาวบ้านจะออกไปทำงานแลกคะแนนกันหมดไม่มีใครอยู่บ้านถือว่าทางสะด

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาปากร้ายยุค 70   บทที่ 7 ใครว่านางปากร้ายขี้เกียจ?

    หลังจากที่จางจื่อหานกลับไปที่กองทัพซิ่วอิงก็ยังคงทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ เพียงแต่ตอนนี้เธอคิดว่าเธอควรเริ่มไม่ทำงานแลกแต้มไม่งั้นส่วนแบ่งอาหารเธอจะได้น้อยลงเธอตั้งใจแล้วว่าจะทำให้ลูกๆ ของเจ้าของร่างกินอิ่มและนอนหลับได้เต็มที่หากเธอไม่ไปทำงานเกรงว่าอาหารจะไม่พอ วันนี้ซิ่วอิงจึงตื่นตั้งแต่ตีห้ามาเตรียมอาหารเช้าเป็นแพนเค้กและไข่ผัดมะเขือเทศ ส่วนแบ่งอาหารตอนแยกบ้านได้มาเยอะพอสมควรประกอบกับที่จางจื่อชิงนำมาให้ทำให้พวกเขามีอาหารเพียงพอที่จะกินอิ่มท้อง“แม่ทำไมวันวันนี้ตื่นเช้าจัง” ซูเม่ยที่ตื่นขึ้นมาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ ส่วนซีซวนทำเพียงเหลือบมองแล้วนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว“ตื่นมาทำอาหาร” ซิ่วอิงเอ่ยตอบ เด็กคนนี้จะหาว่าเธอตื่นสายเหรอ?“แม่แปลกไปมาก” ซูเม่ยพูดพร้อมกับกินอาหาร“รีบกินจะได้รีบไปทำงาน” ซิ่วอิงเอ่ยบอกเด็กสาว“วันนี้แม่จะไปทำงานด้วยเหรอ” เธอเห็นการแต่งตัวของคนเป็นแม่ก็พอจะเดาได้“แน่นอน ตอนนี้เราแยกบ้านแล้วต้องทำงานแลกคะแนน” ซิ่วอิงเอ่ยบอกเด็กสาวด้วยรอยยิ้ม“เมื่อก่อนไม่เห็นจะทำ” ซีซวนพึมพำเบาๆ“เมื่อก่อนแม่แค่เห็นว่าต่อให้ทำเราก็ไม่ได้กินดีกว่าเดิมเหมือนทำแล้วให้คนอื่นได้กิน แต่ตอ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาปากร้ายยุค 70   บทที่ 6 จากลา

    “แม่ ฉันกลับมาแล้ว” ซุเม่ยรีบวิ่เข้ามาชโะโงกหน้าดูอาหารบนโต๊ะดวงทาของเธอวาววับ ซีซวนเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบนิ่งไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อแต่ซิ่วอิงแอบเห็นว่าตอนที่มองอาหารดวงตาของเขาเป็นประกายไม่น้อย เด็กก็คือเด็กสินะ“ล้างมือหรือยัง” ซิ่วอิงเอ่ยถามเด็กๆ“แม่ไม่ต้องห่วง พวกฉันล้างเรียบร้อยแล้ว” ซีห่าวพูดพร้อมกับชูสองมือให้แม่ของตัวเองดู“งั้นรีบมากินเถอะ พ่อเขารอนานแล้ว” ซิ่วอิงรีบบอกเด็กๆ จากนั้นทั้งห้าคนก็ลงมือทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย“แพนเค้กนี้อร่อยมาก ไข่ผัดกุ้ยช่ายนี่ก็เหมือนกันฉันไม่เคยเคยกินอะไรแบบนี้มาก่อน” คำพูดไร้เดียงสาของลูกสาวไม่ต่างจากเข็มนับพันที่ทิ่มลงที่ใจของผู้เป็นพ่อ ริมฝีปากหนาขบเม้มจนเลือดห่อจนกระทั่งมีมือเรียวมาจับมือข้างที่เขาวางไว้บนขา จางจื่อหานหันไปมองไปใบหน้าของภรรยาเธอยกยิ้มบางๆ ให้เขาดูอบอุ่นและอ่อนโยนหัวใจของเขารู้สึกผ่อนคลายลง“พ่อกลับมาแล้วต่อไปนี้พวกเราจะได้กินแต่ของอร่อย” ซิ่วอิงพูดพร้อมกับคีบอาหารให้กับซีห่าวตัวน้อย“ห่าวห่าว เวลาผู้ใหญ่ให้ของต้องพูดว่ายังไง” ซิ่วอิงพูดกับเด็กน้อยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเธอต้องค่อยๆ สอนเขา“ขอบคุณครับแม่” ซีห่าวเอ่ยขอบคุณพ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาปากร้ายยุค 70   บทที่ 5 ย้ายบ้าน

    จางจื่อหานพาซิ่วอิงกลับมาเก็บสองที่ห้อง สองสามีภรรยาช่วยกันเก็บของใส่กล่องไม้ยิ่งเก็บข้าวของจื่อหานก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ ภรรยาและลูกๆ ของเขามีเพียงเสื้อผ้าเก่าๆ ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ของทั้งห้องมีแค่สองกล่องไม้ เขารู้สึกล้มเหลวในฐานะสามีและพ่อโดยสมบูรณ์ ดวงตาสีเข้มมองไปที่ภรรยาอย่างรู้สึกผิดเมื่อก่อนเธอและลูกๆ ต้องลำบากเป็อย่างมากแต่เขากลับไม่รู้อะไรเลย“แม่จ๊ะ ป้าสะใภ้บอกว่าเราต้องออกไปจากที่นี่ เป็นเรื่องจริงเหรอจ๊ะ” ซูเม่ยเอ่ยถาม ซีซวนและซีห่าวก็เดินเข้ามาในห้อง ซีห่าวรีบเข้าไปกอดผู้เป็นแม่ในทันที“ผมจะไปกับแม่” ซีห่าวกลัวว่าแม่จะทิ้งจึงกอดไว้แน่น ซิ่วอิงคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน“แน่นอน พวกเราจะไปด้วยกันทั้งหมด” ซิ่วอิงพูดพร้อมกับยกมือเรียวลูบหัวเด็กน้อย“เราจะย้ายบ้านเหรอจ๊ะแม่” ซูเม่ยเอ่ยถามผู้เป็นแม่ด้วยดวงตาเป็นประกาย ถ้าเธอไม่ต้องอยู่ที่บ้านหลังนี้อีกนับว่าเป็นเรื่องที่ดี“ใช่ ต่อไปนี้จะย้ายไปอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน” ซิ่วอิงตอบด้วยรอยยิ้ม“ยกของไปไว้ที่บ้านท้ายหมู่บ้าน” จางจื่อหานเอ่ยบอกลูกชายคนโตเสียงเรียบ ซีซวนเห็นสายตาของพ่อก็ไม่กล้าขัดรีบยกกล่องไม้ออกไปทันที“เราจะไปอยู่บ้านร้างท้ายหม

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาปากร้ายยุค 70   บทที่ 4 ตัดขาด

    “นี่แก แก อั๊ยหยาชีวิตฉันทำไมถึงโชคร้ายแบบนี้มีลูกชายก็ไม่เชื่อฟัง ลูกสะใภ้ก็อกตัญญู” แม่เฒ่าจางเริ่มเล่นละครร้องห่มร้องไห้ตัดพ้อชะตาชีวิตตัวเอง“แม่ว่าพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ไม่?” ซิ่วอิงเอ่ยถามด้วยใบหน้าใสซื่อ“ฉันด่าเธอนั่นแหละ” แม่เฒ่าจางมองค้อนทันที“โอ้ งั้นเหรอ” ซิ่วอิงยกยิ้มแบบไม่ใส่ใจ“แก เจ้าเล็กดูเมียของลูกสิ เธอต้องการทำให้แม่ปวดใจตาย” แม่เฒ่าจางเอ่ยกับลูกชายหวังให้ลูกชายหย่ากับภรรยา“แม่ เรามาตกลงกันดีๆ เถอะ ผมจะแยกบ้านแม่ควรแบ่งเงินที่เราควรจะได้” จางจื่อหานไม่สนใจการแสดงของแม่เฒ่า“นี่ลูก” แม่เฒ่าจางพูดไม่ออก เธอรู้สึกเหมือนสูญเสียลูกชายที่เชื่อฟังไปแล้ว“เอาล่ะ พอกันได้แล้ว เจ้าเล็กจะแยกบ้านเราควรมอบเงินให้เขา” พ่อเฒ่าจางพูดออกมาในที่สุด หากเขายังปล่อยให้ภรรยาดื้อรั้นต่อไปลูกสะใภ้คนรองอาจจะไปคณะกรรมการปฏิวัติจริงๆ ถึงตอนนี้เราทุกคนจะมีความผิด“ไม่มีเงินแล้ว” แม่เฒ่าจางยังคงยืนกราน“ไปเอาออกมา ร้อยหยวนหรือสองร้อยหยวนนำมันออกมา” พ่อเฒ่าจางพูดเสียงแข็ง“ฉันจะไปมีเงินมากขนาดนั้นได้ยังไง ให้พวกเขายี่สิบหยวนก็พอนี่ถือว่ามากที่สุดแล้ว” แม่เฒ่าจางไม่ยินยอมที่จะเสียเงินจำนวนมากไป“จ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาปากร้ายยุค 70   บทที่ 3 สิ่งที่ได้รู้

    แม่เฒ่าจางนั่งกำตะเกียบจ้องมองไปยังครอบครัวของลูกชายคนรองด้วยสายตาไม่ค่อยจะพอใจ เธอไม่ชอบที่จะเห็นนังปากร้ายกับลูกๆ กินอาหารบนโต๊ะอย่างมีความสุข ถ้าไม่ใช่ว่าสามีต้องการไว้หน้าลูกชายคนเล็กเธอคงไล่พวกมันไปแล้ว เมื่อวานขโมยไข่เธอไปวันนี้ยังมีหน้ามากินอาหารอีก ยิ่งคิดเธอยิ่งโมโห!“นี่เจ้าเล็ก” ในที่สุดแม่เฒ่าจางก็ทนไม่ไหวที่จะสั่งสอนลูกชาย“แม่กินข้าวเถอะ” จางจื่อหานบอกผู้เป็นแม่แล้วคีบอาหารให้ภรรยา ซิ่วอิงเงยหน้ามองเขา“กิน” จางจื่อหานเอ่ยบอกเธอก่อนจะคีบอาหารของตนเองเข้าปาก“นี่แกยังเห็นหัวแม่คนนี้อยู่ไหม” แม่เฒ่าจางเริ่มโมโหที่ลูกชายคนเล็กไม่สนใจเธอ“นี่น้องชาย ทำไมถึงเมินแม่แบบนี้” จางจื่อซวานอดไม่ได้ที่จะสั่งสอนเขา“พี่ใหญ่คิดมากไป” จางจื่อหานเอ่ยตอบน้ำเสียงเรียบ เขาไม่ได้เมินแม่แค่ต้องก่อนกินข้าวให้เรียบร้อยก่อนพูดคุย“น้องสามีไม่ได้อยู่บ้านดูแลแม่กลับมาก็ทำตัวห่างเหินแบบนี้มันใช้ไม่ได้” เหมยลี่พูดขึ้น“สะใภ้ใหญ่พูดถูก งั้นคุณควรกลับบ้านมาดูแลพ่อแม่” ซิ่วอิงเอ่ยขึ้นบ้าง ทั้งๆ ที่จางจื่อหานส่งเงินมาให้พวกเขาใช้จ่ายยังจะบอกว่าเขาไม่ได้ดูแลพ่อแม่อีก“นี่ นี่” สะใภ้ใหญ่เหมยลี่พูดไม่ออก“

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status