Share

 ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)
ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)
Auteur: sanvittayam

บทที่ 1 รับวิญญาณมาผิดดวง

Auteur: sanvittayam
last update Dernière mise à jour: 2025-08-21 18:14:24

บทที่ 1 รับวิญญาณมาผิดดวง

ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกลางเมืองหลวง

ภาพบรรยากาศในร้านเวลานี้กำลังวุ่นวายเนื่องจากเป็นช่วงพักเที่ยง ทำให้พนักงานและคนที่ใช้ชีวิตอยู่บริเวณนี้ต่างก็มาใช้บริการร้านนี้กัน เนื่องจากคุณภาพอาหารที่ดีแล้ว ราคานั้นเจ้าของร้านยังคิดไม่แพง เป็นราคาที่ทุกคนจับต้องได้ แม้ร้านจะดูหรูหราเหมือนเป็นร้านของคนร่ำรวยก็ตาม

“ทั้งหมดห้าร้อยเก้าสิบบาทค่ะ รับมาหนึ่งพันบาท เงินทอนสี่ร้อยสิบบาท ขอบคุณมากคุณลูกค้านะคะที่มาอุดหนุน” นีรชา เจ้าของร้านแสนสวยกำลังสาละวนทอนเงินให้กับลูกค้าที่ต่อแถวจ่ายเงินกันอยู่ แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนแต่หญิงสาวกลับมีรอยยิ้มให้กับลูกค้าเสมอ

ความวุ่นวายแบบนี้เกิดขึ้นทุกวัน จวบจนถึงเวลาบ่ายสาม วัตถุดิบและข้าวของที่ร้านก็หมด นี่จึงเป็นเวลาพักของหญิงสาวและพนักงานทุกคน

“เฮ้อ...เหนื่อยจังเลย” หญิงสาวเอ่ยขึ้น พร้อมกับเอนหลังไปกับพนักพิงเก้าอี้ แต่แล้วอยู่ ๆ เธอก็เกิดเจ็บหน้าอกขึ้นมา

“ซี๊ด...ทำไมช่วงนี้เจ็บหน้าอกบ่อยจัง คงต้องหาเวลาว่างไปหาหมอสักหน่อยแล้ว” เธอพูดขึ้นมาตามลำพัง ก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า โดยไม่รู้เลยว่าตนเองนั้นจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว

“ที่นี่ที่ไหนกัน ทำไมมีแต่หมอกควันแบบนี้ล่ะ!!” นีรชาเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในที่แห่งหนึ่งที่มีแต่หมอกควันหนาที่แทบจะไม่เห็นอะไรเลย จึงพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ

ทันใดนั้นกลับมีเสียงทรงพลังดังขึ้นมา พร้อมกับภาพบรรยากาศโดยรอบที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง “ที่นี่คือสถานที่สำหรับคนตายแล้ว

และเจ้าเองก็หมดลมหายใจไปแล้ว เรามาดูกันเถิดว่าระหว่างกรรมดีกับกรรมชั่วเจ้ามีสิ่งไหนมากกว่ากัน นางสาวนีรชา...”

ในขณะที่กำลังอ่านชื่ออยู่นั้น ยมทูตท่านนี้พลันหน้าเปลี่ยนสีไปทันทีแล้วก็อุทานออกมาด้วยความตกใจสุดขีด “นี่มันอะไรกัน!!”

ที่ยมทูตตกใจขนาดนั้นเป็นเพราะรายชื่อที่มีนั้นกลับไม่ใช่หญิงสาวตรงหน้า ‘แล้วแบบนี้เราจะทำอย่างไรดีล่ะ เวลาของที่นี่กับโลกมนุษย์ต่างกันมากเหลือเกิน แล้วหากวิญญาณของนีรชาคนนี้ยังไม่ถึงที่ตายเราจะ

ทำยังไงดี...’ ยมทูตได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจด้วยความหวาดหวั่น เพราะนี่คือการทำงานพลาดอย่างมากที่สุดในชีวิตการเป็นยมทูตของเขา

หญิงสาวรับรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงที่เย็นชา และภาวนาว่าคงไม่เหมือนในละครหรือนิยายที่เคยอ่านว่าเอาวิญญาณมาผิดดวงหรอกนะ

“หมายความว่ายังไงคะท่าน หรือว่าท่านเอาวิญญาณมาผิดดวงเหมือนในละคร”

“....” ยมทูตทำหน้านิ่ง ๆ อย่างพยายามคิดหาวิธีแก้ไขอยู่

“ว่ายังไงคะท่าน” ยิ่งไม่มีคำตอบกลับมา หญิงสาวยิ่งมั่นใจว่าเธอนั้นคาดเดาถูกต้อง จึงถามจี้ออกไปอีกเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ

“เอ่อ...เจ้าใจเย็น ๆ ก่อนนะ ข้าอธิบายได้ คะ คือว่า.. ข้าเอาวิญญาณมาผิดดวงน่ะ” ยมทูตที่โดนจ้องถามมาก็พยายามยกมือให้หญิงสาวใจเย็น ๆ และอธิบายอย่างตะกุกตะกัก

“ห๊ะ..เอาวิญาณมาผิดดวง” หญิงสาวทวนคำพูดของยมทูตอย่างตกใจ และพยายามตั้งสติก่อนจะถามออกไปอีกครั้ง “แล้วท่านจะอธิบายฉันอย่างไรคะ เรื่องที่ท่านเอาวิญญาณมาผิดดวง” นีรชาโกรธแทบควันออกหู การเอาวิญญาณมาผิดดวงนี่คืออะไร 

“เอ่อ...ข้าขอโทษ เอาเป็นว่าข้าจะส่งเจ้าไปเกิดใหม่ในที่ดี ๆ ก็แล้วกันนะ” ยมทูตเห็นอาการของหญิงสาวว่ากำลังโกรธก็รีบพูดขึ้นมา

“เหอะ ท่านก็พูดง่ายนะคะ แม้ว่าฉันจะเป็นเด็กกำพร้า แต่ฉันก็มีชีวิตที่ดีมาตลอด ฉันมีทรัพย์สินมากมายที่ยังไม่ได้ใช้ แล้วท่านจะจะให้ฉันทำอย่างไร พินัยกรรมก็ไม่ได้ทำไว้ สามีก็ยังไม่เคยมี แต่กลายเป็นว่าฉันใช้ชีวิตยังไม่คุ้มเลย แต่ต้องมาตายเพราะยมทูตรับวิญญาณมาผิดดวงนี่นะ” หญิงสาวยืนกอดอกสวนกลับคำพูดของอีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจ เพราะคิดว่าตนเองนั้นยังใช้ชีวิตไม่คุ้มเลยก็มาตายเสียแล้ว แถมตายแบบผิดธรรมชาติอีกด้วย

“แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไรเล่า เวลานี้ร่างกายของเจ้าคงทำพิธีเผาจนเหลือแต่เถ้ากระดูกแล้ว หากไม่ให้ข้าส่งเจ้าไปเกิดใหม่ เจ้าจะยอมเป็นวิญญาณเร่ร่อนอย่างนี้หรือไง” ยมทูตเอ่ยขึ้นมาบ้าง ตั้งแต่ทำงานมานี่เป็นครั้งแรกที่รับวิญญาณมาผิดดวง หากท่านพญายมรู้เข้า มีหวังเขาถูกทำโทษจนไม่ได้ไปเกิดแน่นอน

“เอาเป็นว่า ฉันขอพรวิเศษได้หรือเปล่าล่ะ ในเมื่อต้องไปเกิดใหม่เป็นใครไม่รู้” หญิงสาวพูดถึงข้อแลกเปลี่ยนขึ้นมา เพราะถ้าหากยมทูตตนนี้ส่งเธอไปเกิดผิดพลาดอีก อย่างน้อยก็ไม่ต้องกลัวอดตาย และที่สำคัญเธอเคยอ่านนิยายมาบ้าง อย่างไรก็ต้องได้ของวิเศษเหมือนในนิยายสิ

ยมทูตรู้สึกคล้ายกับกินยาขม เพราะเวลานี้ไม่ต่างกับการถูกกรรโชกทรัพย์อย่างไรก็ไม่รู้ แต่เพราะความผิดพลาดของตนเองจึงยินยอมที่จะให้พรแก่หญิงสาว จึงถามออกไปเพื่อหยั่งเชิง “เจ้าอยากได้อะไรไหนลอง

บอกมาสิ”

“ข้อแรก ฉันต้องการมิติ ในนั้นต้องมีร้านอาหารและที่พักเดิมรวมถึงทรัพย์สินของฉันก่อนที่จะตาย เพราะถ้าเกิดเป็นลูกคนจนหรือเป็นเด็กกำพร้า อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ไม่ทำให้ฉันอดตาย

ข้อสอง ฉันต้องการตาทิพย์ที่มองทะลุข้าวของที่ปิดทึบ และที่สำคัญฉันจะต้องสามารถมองทะลุก้อนหินทุกก้อนได้ เพราะหากสามารถมองทะลุหินที่เป็นหยกและพวกอัญมณีราคาแพงได้ นั่นจะทำให้ฉันสามารถสร้างเม็ดเงินและกิจการได้โดยไม่ต้องกลัวว่าต่อไปจะลำบาก

ข้อสาม ฉันต้องการปัจจัยสี่ทั้งหมดเพื่อดำรงชีวิตทุกอย่าง ทั้งของเด็กและคนโต เพราะถ้าท่านส่งฉันไปในยุคยากลำบากเหมือนในนิยายที่มีให้อ่านตามเวปต่าง ๆ ฉันจะแย่เอาน่ะสิหากไม่มีของกินของใช้ที่ต้องดำรงชีวิต”  

นีรชาบอกถึงความต้องการของตนเองพร้อมกับบอกเหตุผลว่าเพราะอะไร ในเมื่อยมทูตตนนี้ยังรับวิญญาณของเธอมาผิดดวง การที่จะส่งเธอไปเกิดใหม่นั้นจะไม่ผิดพลาดหรือยังไง อย่างไรก็กันไว้ก่อนดีกว่า

“ข้อแรกและข้อสองฉันให้ได้ เพราะมันเป็นความผิดฉัน มีของสองสิ่งนี้ติดตัวก็ไม่ทำให้เธอลำบากแล้วไม่ว่าจะไปเกิดที่ไหน แต่ข้อสาม ปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิต มันเยอะมาก หากเธอไม่ระบุว่าต้องการอะไรบ้างฉันคงทำให้ไม่ได้...” ทันทีที่พูดจบก็หันไปมองนีรชา ทว่าสายตาที่เธอส่งมานั้นทำให้เขารู้ได้ว่าความซวยกำลังจะมาเยือนถ้าไม่ทำตามที่เธอต้องการ ดังนั้นเขาจึงรีบพูดขึ้นอีกครั้ง

“เอาแบบนี้ไหม ฉันจะใส่ห้างสรรพสินค้าไว้ให้ในมิติก็แล้วกัน

เธอต้องการอะไรก็เลือกเอาเองเถอะ” ว่าแล้วยมทูตตนนี้ก็ใช้นิ้วตวัดไปมาคล้ายกำลังวาดภาพ ไม่นานก็ปรากฏสร้อยหยกเส้นหนึ่งให้ที่คอของหญิงสาว จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างพอใจแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง

“นั่นคือสร้อยมิติ มันจะอยู่กับตัวเธอโดยไม่มีใครเห็น เดินตามฉันมาเถอะ ฉันจะพาไปเกิดใหม่” 

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวใช้มือจับสร้อยหยกแล้วยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเอ่ยขอบคุณ

จากนั้นนีรชาจึงเดินตามยมทูตท่านนี้ไปทันที ทว่าจู่ ๆ กลับมีใครก็

ไม่รู้มากระแทกจากทางด้านหลังจนหญิงสาวตกบ่อน้ำดัง ตู้ม!!

“ซวยแล้ว นีรชาจะแช่งฉันไหมเนี่ย แต่อย่างไรของที่ให้ไปคงทำให้เธอใช้ชีวิตอย่างไม่ลำบากนะ”

ยมทูตกล่าวด้วยเสียงเบา และหวังว่าจะไม่ต้องเจอกับหญิงสาวอีก และขอให้หญิงสาวมีความสุขกับชีวิตใหม่

หมู่บ้านชิงหวง

ห้องเล็ก ๆ ที่อยู่หลังบ้านข้างครัว มีเด็กสาวคนหนึ่งนั่งมองร่างของพี่สะใภ้ด้วยสายตาหวาดกลัว พร้อมกับโอบอุ้มหลานวัยเจ็ดเดือนไว้ใน

อ้อมกอด โดยมีร่างของหญิงวัยกลางคนนั่งอยู่ไม่ไกลกัน

“แม่คะ พี่สะใภ้จะเป็นอะไรไหมคะ” เด็กสาวเอ่ยถามแม่ตนเองเมื่อเห็นว่าพี่สะใภ้ยังไม่ยอมฟื้น

“เจียวเหมยไม่เป็นอะไรหรอก แม่กลัวว่าหากฟื้นขึ้นมาแล้วรู้ว่าใครกลั่นแกล้งจนจมน้ำ แล้วจะลุกมาอาละวาดอีกน่ะสิ แม่ไม่อยากจะมีเรื่องกับบ้านใหญ่” หญิงวัยกลางคนพูดขึ้นมาพร้อมกับมีสีหน้าหนักใจ หล่อนมีชื่อว่า ‘หนิงหงชุน’ แม่ของเด็กสาวที่ชื่อ ‘หลี่เหว่ยเหลียน’ และยังเป็น

แม่สามีของ หญิงสาวที่นอนสลบอยู่นั่นเอง

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทส่งท้าย ครอบครัวอบอุ่น

    บทส่งท้าย ครอบครัวอบอุ่นหลี่อี้ข่ายเมื่อรู้เรื่องว่าภรรยาเหมือนจะคลอดแล้วจึงรีบตามไปที่โรงพยาบาลทันที พอมาถึงก็รู้ว่าภรรยาได้เข้าไปในห้องคลอดแล้ว เขาได้แต่เดินไปเดินมาที่หน้าห้องคลอด จนทุกคนเวียนหัวไปหมดแล้วในตอนนี้“อาข่ายหยุดเดินแล้วมานั่งก่อนเถอะ ตาเวียนหัวไปหมดแล้ว” นายท่านผู้เฒ่ากงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นเพราะเขาเวียนหัวไปหมดแล้วจากการเดินของหลานเขย“ครับ คุณตา”แต่ถึงแม้จะบอกอย่างนั้น หลี่อี้ข่ายก็ไม่ยอมนั่ง เขาเดินไปยืนเอาหน้าแนบประตูห้องคลอด เหมือนกับว่าจะมองให้ทะลุเข้าไปในห้องให้ได้ นั่นจึงทำให้ทุกคนส่ายหัวให้กับความตื่นเต้นของเขา ทั้ง ๆ ที่เคยมีลูกมาก่อนแล้วสองคนไม่นานประตูก็เปิดออกและมีคุณหมอก็ออกมาแจ้งข่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มว่า“ยินดีด้วยนะคะ คุณเจียวเหมยคลอดลูกแฝดชายหญิงค่ะ”“ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้างครับคุณหมอ” ชายหนุ่มรีบถามถึงอาการของภรรยาก่อนจนคุณหมอต้องอมยิ้ม เพราะเขาไม่ถามเลยว่าแฝดกี่คน‘ดูท่าว่าคนนี้จะรักภรรยามากจริง ๆ’ หมอคิดในใจ“ภรรยาคุณหลังจากที่คลอดลูกก็เพลียจนตอนนี้หลับไปแล้วค่ะ อาการปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกเลยค่ะ ว่าแต่คุณพ่อไม่ถามเหรอคะ ว่าคราวนี้ลูกแฝ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 74 รับปู่กับย่ามาอยู่ด้วย

    บทที่ 74 รับปู่กับย่ามาอยู่ด้วย“ฮือ ๆ ๆ ตาแก่นั่นตอนนี้ป่วยหนัก แต่ย่าไม่มีเงินพาไปหาหมอเพราะสะใภ้ใหญ่แอบเอาเงินที่มีไปให้บ้านเดิมยืม จนตอนนี้บ้านซ่งก็ยังไม่คืน แถมเมียอาจงพอเห็นสามีติดคุกก็หอบเงินที่มีหนีไปอีก ตอนนี้บ้านหลี่เราลำบากมาก แทบไม่มีอะไรกิน ตาแก่ทำงานหนักจนร่างกายไม่ไหวสะดุดล้มหน้าบ้าน จากนั้นก็เดินไม่ได้อีกและนอนป่วยอยู่ที่บ้าน กินน้ำต้มข้าวประทังชีวิตไปวัน ๆ ”ย่าหลี่พูดออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ นางเคยบากหน้าไปขอจากลูกคนรอง แต่บ้านนั้นแทบจะไม่เปิดประตูต้อนรับนางเช่นกันหลี่อี้ข่ายได้ฟังอย่างนั้นก็หันไปสบสายตากับฟางเจียวเหมย เมื่อเธอพยักหน้าให้ เขาก็ออกคำสั่งกับคนที่เป็นทั้งสหายและลูกน้องคนสนิทของตนเองทันที“เผิงหยู่ นายเอารถฉันพาย่าไปรับปู่แล้วรีบไปส่งโรงพยาบาล ค่ารักษาฉันจะจ่ายเองทั้งหมด อ้อ เอาอาหารแล้วก็ของใช้ไปให้เพียงพอสำหรับปู่กับย่าด้วยนะ คนอื่นไม่เกี่ยว” ชายหนุ่มไม่อยากคิดถึงความร้ายกาจที่บ้านใหญ่มีต่อบ้านสามของเขา ครั้งนี้เขาขอทำเพื่อพ่อที่จากไป อย่างน้อยก็ได้กตัญญูแทนท่าน และเขาทำให้ปู่กับย่าเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์“ครับเถ้าแก่” เผิงหยู่ขานรับทันที เขารู้สิ่

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 73 ความสุขที่ได้แบ่งปัน

    บทที่ 73 ความสุขที่ได้แบ่งปันข่าวเรื่องที่ร้านหลี่ฟางจะตั้งโรงทานเพื่อแจกอาหารและของใช้ให้ชาวบ้าน ต่างกระจายไปทั่ว ไม่ว่าหมู่บ้านนั้นจะอยู่ลึกและกันดารแค่ไหน สามล้อพุ่มพวงก็เดินทางไปส่งข่าวหลังจากขายของหมดแล้ว ชาวบ้านที่ได้ยินต่างก็ตื่นเต้นดีใจ ทุกคนได้แต่อวยพรให้ร้านหลี่ฟางขายดีและร่ำรวยยิ่งกว่าเดิม พอนายท่านกงและนายท่านผู้เฒ่ากงทราบเรื่อง ทั้งสองก็มาช่วยลงขันด้วย โดยการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ยากไร้ ไม่มีทุนทรัพย์ในการเรียนต่อเบื้องต้นจำนวน 50 ทุนและจะพิจารณาทุนให้เป็นการเฉพาะรายที่อยากเรียนถึงระดับมหาวิทยาลัย โดยจะคัดเลือกจากคนเรียนดีแต่ยากจนจริงๆ อีกครั้งในภายหลัง พอเรื่องนี้เข้าหูชาวบ้าน ทุกคนก็ยิ่งดีใจมาก เพราะหลายครอบครัวที่อยากส่งลูกหลานเรียนแต่ไม่มีเงิน“ขอบคุณตระกูลหลี่ ตระกูลฟาง และตระกูลกง นอกจากฉันจะไม่อดตายในหน้าหนาวปีนี้แล้ว หลานของฉันมีโอกาสได้เรียนต่อตามที่เขาตั้งใจไว้อีกด้วยขอบคุณจริงๆ”ยายเฒ่าคนหนึ่งหลั่งน้ำตาออกมา เมื่อได้ยินประกาศจากรถสามล้อพุ่มพวง เนื่องจากเธออาศัยอยู่กับหลานชายและลูกชาย ซึ่งตอนนี้หลานชายเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย เนื่องจากบ้านพวกเธอต่างยอม

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 72 คืนกำไรให้ชาวบ้าน

    บทที่ 72 คืนกำไรให้ชาวบ้าน“เป็นอย่างไรบ้าง อย่างที่คิดไหม” นายท่านผู้เฒ่ากงสอบถามทันทีด้วยสีหน้าร้อนรนปนตื่นเต้น เมื่อหลานทั้งสองคนกลับมาถึงบ้าน“เป็นอย่างที่คิดครับคุณตา เจียวเหมยตั้งท้องแล้วครับ แปดสัปดาห์แล้วครับคุณตา” หลี่อี้ข่ายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เพราะเวลานี้เขากำลังดีใจที่จะมีลูกเพิ่ม“จริงหรือ” หนิงหงชุนพอได้ยินว่าลูกสะใภ้ตั้งท้องอีกครั้งก็รีบวางหลานสาวเข้าคอกกั้น ก่อนจะวิ่งออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจส่วนนายท่านผู้เฒ่ากงปรากฏรอยยิ้มดีใจบนใบหน้าอย่างห้ามไม่อยู่“จริงครับแม่”หลี่อี้ข่ายตอบกลับผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มเช่นกัน เนื่องจากเวลานี้เขากำลังดีใจกว่าทุกคนในเรื่องนี้ ส่วนฟางเจียวเหมยนั้นไม่ต้องห่วง เธอนั้นมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทั้งอบอุ่นหัวใจและดีใจก่อนจะเดินไปหาลูกน้อยทั้งสองคนที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในคอก“อาหมิง หนิงหนิง เราสองคนกำลังมีน้องแล้วนะ ดีใจไหม” ความดีใจนี้เธออยากจะบอกให้ลูกทั้งสองคนรับรู้“น้อนเหยอ” หลี่ลี่หนิงละทิ้งของเล่นในมือพร้อมกับเอียงคอถามด้วยท่าทีที่น่ารัก“ค่ะลูก หนูกำลังจะมีน้องรู้ไหม” หญิงสาวตอบกลับพร้อมกับลูบหัวลูกสาวตัวน้อยด้วยความอ่อนโยน ส่วนหลี่ชุน

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 71 ตั้งท้องแล้ว

    บทที่ 71 ตั้งท้องแล้วหลังจากเปิดใจกันวันนั้นฟางหลู่เฉินและหลี่เหว่ยเหลียนก็ได้เปิดตัวกับทุกคน ซึ่งทั้งสองครอบครัวต่างก็ยินดีกับทั้งสองคนด้วย รวมถึงนายท่านผู้เฒ่ากงด้วย วันเวลาล่วงเลยจนอี้เสี่ยวม่านใกล้คลอดแล้ว ส่วนกงเฉิงเสวียนก็เดินทางไปกลับระหว่างสองเมืองเพื่อดูแลงานเองทุกที่ รวมถึงร้านรับซื้อหยกของเขาด้วย มีบางครั้งที่ฟางเจียวเหมยและสามีตามไปด้วยเพื่อหาซื้อหยกแล้วขายต่อให้พี่ชายอีกทั้งเวลานี้โรงแรมและอะพาร์ตเมนต์ก็คืบหน้าไปมาก เพราะฟางเจียวเหมยทุ่มเงินไปกับส่วนนี้ไม่น้อย แม้การก่อสร้างจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ประสิทธิภาพและความคงทนแข็งแรงนั้นไม่ด้อยไปกว่าใคร เพราะทรัพย์สินพวกนี้เป็นอะไรที่สามารถเก็บกินระยะยาวหลายสิบปีและเธอตั้งใจจะทำเพื่อมอบไว้ให้ลูก ๆฟางเจียวเหมยและหลี่อี้ข่าย ตอนนี้ทั้งสองคนมีอิทธิพลในเมืองแห่งนี้และเมืองใกล้ ๆ ไม่น้อย เพราะกิจการที่เจริญรุ่งเรืองไม่หยุดของทั้งคู่ ทำให้เป็นที่นับหน้าถือตาของกลุ่มนักธุรกิจด้วยกัน ไม่มีใครคาดคิดว่าชาวบ้านธรรมดา จะกลายเป็นผู้มีเงินได้มากขนาดนี้อีกทั้งคุณนายหลี่อย่างฟางเจียวเหมย ยังมีฐานะเป็นหลานสาวของตระกูลกงที่มั่งคั่งและร่ำรวยระ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 70 คำสารภาพของฟางหลู่เฉิน

    บทที่ 70 คำสารภาพของฟางหลู่เฉินหลังจากส่งนายท่านกงขึ้นรถแล้ว ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง รวมถึงกงเฉิงเสวียนที่เปิดกิจการใหม่ที่นี่ด้วยนั่นก็คือโรงแรมและอะพาร์ตเมนต์ตามคำแนะนำของน้องสาวอย่างฟางเจียวเหมย ซึ่งเธอก็สร้างด้วยเหมือนกัน เพราะกิจกรรมพวกนี้ มันไม่ได้แย่งชิงลูกค้ากันอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นที่ต้องการของคนที่อยากมีบ้านแต่ทุนน้อยและไม่มีที่ดินของตนเอง ซึ่งการที่ฟางเจียวเหมยให้พี่ชายคนนี้มาทำกิจการนี้ นั่นก็เพราะว่ากงเฉิงเสวียนมีเส้นสายในการขออนุญาตกับภาครัฐอย่างไรล่ะ หากเป็นตาสีตาสาเช่นเธอ ทุกอย่างคงจะยากน่าดูพอทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว นายท่านผู้เฒ่ากงก็หันมาเล่นกับสองแฝดด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าของชายชราปรากฏให้เห็นแล้วว่าเขานั้นมีความสุขที่จะอยู่ตรงนี้ ซึ่งเด็กน้อยแม้จะพูดไม่ค่อยชัดเพราะเริ่มหัดพูด แต่ก็พยายามโต้ตอบสื่อสารกับผู้เป็นทวดของทั้งสองคนอย่างร่าเริง“ฉันฝากสองแฝดหน่อยนะคะนายท่านผู้เฒ่า เดี๋ยวจะไปเตรียมอาหารไว้สำหรับมื้อเที่ยงของเด็กๆ วันนี้นายท่านต้องการรับประทานอาหารชนิดไหนคะ ฉันจะได้เตรียมไว้ให้” หนิงหงชุนพอเห็นว่าทุกคนไปหมดแล้ว เลยฝากหลานทั้งสองไว้ให้นายท่านผู้

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status