Share

บทที่ 2 อยากจะตายอีกครั้ง

Author: sanvittayam
last update Last Updated: 2025-08-21 18:14:49

บทที่ 2 อยากจะตายอีกครั้ง

นีรชาได้ยินคนสองคนคุยกันอยู่ไม่ไกล แต่ไม่ใช่ภาษาบ้านเกิดของเธอ แม้อยากจะลืมตาขึ้นมาแต่ก็ลืมไม่ขึ้น อาจจะเพราะร่างกายนี้ยังไม่หายดี

จึงได้นอนฟังหญิงต่างวัยสองคนนี้พูดคุยกันต่อ

“นั่นสิคะ พี่สะใภ้มักจะไม่ค่อยยอมใครเสียด้วย ต่อให้ไปหาความจริง ก็คงจะไม่มีใครยอมออกหน้ามาเป็นพยานให้ หมู่บ้านนี้มีใครชอบพี่สะใภ้บ้างคะ ว่าแต่บ้านเราถูกให้แยกครัวออกมาแล้ว ทำไมปู่กับย่าถึงไม่ยอมให้พวกเราแยกบ้านค่ะ หรือหวังเงินที่พี่ใหญ่ส่งมาให้”

หลี่เหว่ยเหลียนเอ่ยขึ้นมา เนื่องจากพี่ชายของเธอนั้นทำงานต่างเมือง และเงินเดือนที่ได้รับจะต้องแบ่งเข้ากองกลางครึ่งหนึ่ง แต่ตั้งแต่พี่ใหญ่แต่งงานมา พี่สะใภ้ก็ไม่ยอมแบ่งให้เหมือนเดิม โดยอ้างว่าไม่ต้องกตัญญูขนาดนั้นเพราะพ่อของเราได้ตายไปแล้ว จึงให้เพียงไม่กี่หยวนเท่านั้น

ทำให้ย่าไม่พอใจอย่างมาก จึงให้บ้านสามทุกคนย้ายมาอยู่ห้องเก็บของนี้ และให้แยกกันทำอาหาร แต่ยังให้บ้านสามรับผิดชอบซื้อเนื้อมาให้เดือนละหนึ่งครั้ง

เรื่องนี้ตอนแรกฟางเจียวเหมยไม่ยอม แต่เพราะแม่สามีขอไว้จึงยังไว้หน้าแม่สามี เลยซื้อเนื้อมาให้เดือนละครั้ง!!

“เรื่องนี้แม่ก็จนปัญญา เพราะพี่ชายของลูกก็พูดทุกครั้งที่กลับมาบ้าน แต่ย่าไม่ยินยอม เรื่องการแยกบ้านถ้าผู้เฒ่าของบ้านไม่ยินยอม เราก็ไม่สามารถแยกได้ นอกจากมีข้อหักล้างที่มีเหตุผล”

สองแม่ลูกยังคงพูดคุยเรื่องนี้กันต่อ โดยมีนีรชาที่อยู่ในร่างของ

ฟางเจียวเหมยนอนฟัง เวลานี้หญิงสาวเริ่มกลับมาปกติ แต่ยังไม่อยากลืมตาขึ้นมา แต่แล้วอยู่ ๆ ในหัวกลับมีภาพและเรื่องราวต่าง ๆ ฉายชัดเข้ามาไม่ต่างจากภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง

ร่างนี้มีชื่อว่า ‘ฟางเจียวเหมย’ ลูกสาวบ้านฟาง มีนิสัยร้ายกาจ

เธอมีพี่ชายคนหนึ่ง ที่พ่อแม่เดียวกัน ทว่าเมื่อแม่ตายไป พ่อของเธอจึงแต่งแม่ม่ายลูกติดคนหนึ่งเข้ามา ซึ่งตัวของฟางเจียวเหมยนั้นไม่ถูกกับแม่เลี้ยงและลูกของเธอ

ตั้งแต่พ่อแต่งภรรยาใหม่เข้ามา นิสัยของหญิงสาวกลับร้ายกาจขึ้นมากกว่าเดิม ทำให้ทุกคนเอือมระอา รวมถึงชาวบ้านด้วยเหมือนกัน

ที่ฟางเจียวเหมยสามารถหาเรื่องทะเลาะตบตีกับคนในหมู่บ้านได้ไม่เว้นวันจนทำให้ไม่มีใครอยากคุยด้วย และเบือนหน้าหนีทุกครั้งที่เธอเดินผ่าน

จนวันหนึ่งหญิงสาวได้พบกับลูกชายของบ้านสามหลี่ชื่อ ‘หลี่อี้ข่าย’ เธอจึงหลงรักอีกฝ่ายจนหัวปักหัวปำ แต่เพราะชายหนุ่มทำงานต่างเมืองทั้งสองคนเลยไม่ค่อยได้พบกัน และแล้ววันหนึ่งเมื่อเขากลับมาบ้าน ฟางเจียวเหมยจึงวางแผนเพื่อจะแต่งงานกับเขา โดยการแอบตามไปที่ลำธารตอนที่ชายหนุ่มมาอาบน้ำแล้วเข้าไปกอดเขาไว้ ก่อนจะร้องโวยวายเสียงดัง จนมีชาวบ้าน

มาเห็น และแม่เลี้ยงของเธอสบโอกาสที่จะไล่ลูกเลี้ยงคนนี้ออกจากบ้าน

จึงโวยวายและเรียกร้องให้บ้านสามหลี่รับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับเธอ   

หลี่อี้ข่ายไม่อยากมีปัญหา เลยตบแต่งเธอเข้ามา ชายหนุ่มลางานได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ก็ต้องกลับไปทำงาน จากนั้นจึงรู้ว่าภรรยาท้อง เขาจึงทำงานหนักกว่าเดิมเพื่อหวังจะหาเงินส่งกลับมาเพื่อบำรุงภรรยาและลูกในท้องของเธอ เพราะรู้นิสัยของบ้านใหญ่ดี อีกอย่าง แม่กับน้องสาวของเขาจะได้กินด้วย

ชายหนุ่มรู้ว่าภรรยานั้นไม่ยอมแบ่งเงินให้บ้านใหญ่ครึ่งหนึ่งเหมือนอย่างที่เคยทำมา คนบ้านสามทั้งหมดจึงถูกไล่ให้มาอยู่ในห้องเก็บของ เมื่อลางานกลับมาได้จึงเอ่ยปากขอย้ายบ้าน แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อย่าหลี่ค้านหัวชนฝา

เมื่อชีวิตความเป็นอยู่ของบ้านสามแย่ลง หลี่อี้ข่ายจึงไม่ค่อยได้กลับบ้านเท่าไหร่นัก เพราะชายหนุ่มฝันว่าหากกลับมาครั้งนี้จะทำทุกอย่างเพื่อพาครอบครัวย้ายออกมา และแน่นอนว่าเขาต้องหาเงินมากกว่าเดิม จนแทบไม่มีเวลาพัก และเรื่องที่ทำงานเยอะนั้นเขากลับไม่ยอมบอกใครเลยแม้แต่แม่ตนเอง

เมื่อรับรู้เรื่องราวของฟางเจียวเหมย นีรชาอยากจะตายอีกครั้ง

แต่อยู่ ๆ กลับได้ยินเสียงอ้อแอ้ของเด็กน้อยสองคน

“อาหมิง กับหนิงหนิงของย่าหิวแล้วใช่ไหม เดี๋ยวย่าไปหาอะไรมาให้กินนะ ตอนนี้แม่เจียวเหมยยังหลับอยู่” หนิงหงชุนเอ่ยกับหลานตัวน้อยที่อยู่ในตักและมองไปยังหลานชายอีกคนที่อยู่กับลูกสาว

ทันทีที่รับรู้ว่าเสียงเด็กทั้งสองคนนั้นคือลูกของร่างนี้ นีรชาเกิดความรู้สึกประหลาดขึ้นมา แถมยังดูเป็นห่วงเด็กน้อยทั้งสองคนไม่น้อย

‘ฟางเจียวเหมย หากเธอยังอยู่แถวนี้ฉันขอสัญญาเลยว่าจะดูแลลูกของเธอทั้งสองคนให้เป็นอย่างดี รวมถึงคนที่เธอรักอีกด้วย และขอบใจมากที่ให้ฉันได้มาอาศัยร่างนี้เพื่อมีชีวิตอยู่ต่อ ขอบใจจริง ๆ’

หลังจากที่พูดจบ อยู่ ๆ ก็มีลมพัดจนบานหน้าต่างเกิดเสียงดัง

และนั่นหมายความว่า ฟางเจียวเหมยรับรู้คำพูดของนีรชาแล้ว และพร้อมจากไปอย่างสงบ

สุดท้ายแล้ว นีรชาก็ยอมและเต็มใจอยู่ในร่างนี้ เพื่อที่จะมีชีวิตต่อไป แต่ก็ต้องกลุ้มใจเมื่อรู้ว่า ฟางเจียวเหมยคนก่อนสร้างศัตรูไว้ทั่วทุกทิศ

‘ท่านพญายม ท่านรู้หรือไม่ว่าคนของท่านได้ทำผิดซ้ำซ้อนเหลือเกิน แทนที่จะส่งมาเกิดดี ๆ กลับมีความผิดพลาดอีกแล้วจนทำให้ฉันอยากจะตายอีกสักครั้ง แต่เพราะชะตากรรมของฟางเจียวเหมยคนนี้ที่ยังมีห่วงลูกน้อยทั้งสองคน ฉันยินดีที่จะมีชีวิตต่อในร่างนี้ก็แล้วกัน แต่หวังว่าท่านจะตรวจทานการทำงานของลูกน้องดี ๆ หน่อย จะได้ไม่เกิดความผิดพลาดแบบนี้อีก!!’

คิดในใจจบ หญิงสาวก็ลืมตาตื่นขึ้นมาทันที โดยไม่ได้ยินเสียงโมโหของยมทูตตนนั้น

“พี่สะใภ้ฟื้นแล้วค่ะแม่” หลี่เหว่ยเหลียนเอ่ยออกมา พร้อมกับมีรอยยิ้มเต็มใบหน้าเมื่อเห็นพี่สะใภ้ลืมตาขึ้นมา 

“เป็นอย่างไรบ้างเจียวเหมย ยังมีอาการอะไรหรือเปล่า” หนิงหงชุนเอ่ยถามลูกสะใภ้ด้วยความเป็นห่วง ทว่าใบหน้ากลับเปื้อนรอยยิ้มไม่ต่างจากลูกสาวตนเองที่เห็นลูกสะใภ้นั้นฟื้นแล้ว

“ฉันดีขึ้นแล้วค่ะ ส่งอาหมิงมาก่อนเถอะค่ะ ป่านนี้คงหิวนมแย่แล้ว” หญิงสาวตอบกลับเพียงเล็กน้อย ก่อนจะบอกให้แม่สามีนั้นส่งลูกชายคนโตมาให้ก่อน เพราะเวลานี้เขาเริ่มแผดเสียงร้องแล้ว

“ได้ ได้จ้ะ” แม้จะแปลกใจแต่นางก็ส่งหลานชายให้กับลูกสะใภ้โดยดี

ฟางเจียวเหมยเมื่อรับลูกชายมาแล้ว สายตาก็มองหาผ้าเพื่อเอามาบดบังไว้ จะให้เธอเปิดนมต่อหน้าคนอื่นมันดูขัดเขินอย่างไรไม่รู้ ต่อให้ทั้งสองคนจะเป็นแม่และน้องสามีก็ตาม

หนิงหงชุนและหลี่เหว่ยเหลียน สองแม่ลูกต่างก็มองหน้ากันที่เห็นฟางเจียวเหมยไม่มีทีท่าจะไปเอาเรื่องบ้านใหญ่ แต่ทั้งสองรู้ดีว่าต่อให้หญิงสาวจะร้ายกาจและเป็นอันตรายต่อคนอื่นมาแค่ไหน แต่ฟางเจียวเหมยนั้นรักลูกทั้งสองคนมาก รวมถึงสามีของเธอด้วย จึงไม่แปลกใจเมื่อเห็นหญิงสาวรีบเอาลูกเข้าเต้าเมื่อได้ยินเสียงตัวน้อยร้องไห้เพราะความหิว

แม้จะรู้สึกแปลก ๆ เมื่อมีเด็กคนหนึ่งมาดื่มนมจากเต้าตัวเอง แต่ก็มีความรู้สึกอบอุ่นและรักเด็กน้อยในอ้อมกอดคนนี้ “อาหมิงอิ่มแล้ว

ถ้าอย่างนั้นไปอยู่กับย่าก่อนนะลูก แม่จะให้น้องดื่มนมก่อน”

เมื่อลูกชายดื่มนมจนอิ่มแล้ว หญิงสาวจึงส่งลูกให้กับแม่สามีและรับลูกสาวมาเข้าเต้าต่อ

หลี่ลี่หนิงเมื่อเข้าเต้าได้ก็รีบดูดด้วยความหิว ไม่นานเด็กน้อยคนนี้ก็ผล็อยหลับ ในขณะที่ฟางเจียวเหมยกำลังวางลูกสาวลงนอนอย่างระมัดระวัง กลับได้ยินเสียงทุบประตูห้องจนเด็กน้อยทั้งสองสะดุ้งตื่น

ปัง ปัง ปัง

“สะใภ้สาม หล่อนมัวแต่ทำอะไรอยู่ วันนี้ไม่คิดจะทำงานหรือยังไง”

“ทำยังกับชีวิตใหม่มันจะดีอย่างนั้นแหละ เกิดมากว่าจะโตฉันต้องเสียเวลาไปอีกตั้งเท่าไหร่”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 31 รับเป็นน้องบุญธรรม

    บทที่ 31 รับเป็นน้องบุญธรรม“แล้วถ้าเป็นหยกล่ะ เธอมีราคาในใจหรือเปล่า” กงเฉินเสวียนพูดสวนขึ้นมา ‘ในเมื่อสิบสองก้อนล้วนแต่ผ่าออกมาเป็นหยกทั้งนั้น แล้วก้อนใหญ่จะไม่ใช่หยกได้อย่างไร และถ้าเป็นหยกจักรพรรดิขึ้นมา ราคาของมันจะอยู่ที่หลายสิบล้านหยวน ซึ่งถ้าเขาสามารถขอซื้อมาได้ นั่นก็หมายความว่า หญิงสาวคนนี้จะสร้างเม็ดเงินให้เขาได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว’ เขาคิดคำนวณในใจพร้อมกับรอคำตอบฟางเจียวเหมยนั้นยังไม่ตอบ แต่หันมาสบตากับสามีอีกครั้งเพื่อขอปรึกษา เนื่องจากเธอเองก็ไม่รู้ค่าของเงินในยุคนี้เท่าไรนัก ถ้าถามว่าเธออยากได้เงินมากหรือไม่นั้น ก็ตอบได้เลยว่าอยากได้ เนื่องจากเธอคิดจะทำธุรกิจมากมาย แต่สิ่งที่เธอขาดอย่างเดียวก็คือเงิน ต่อให้จะขายหยกก่อนหน้านี้ไปแล้ว มันก็ได้แค่ไม่กี่แสนหยวนเท่านั้น มันยังไม่เพียงพอตามที่เธอต้องการ“ราคาในใจฉันมีอยู่แล้วค่ะ อยู่ที่ว่านายท่านกงจะสู้ราคาฉันไว้หรือเปล่า” ฟางเจียวเหมยมองสบตากับสามีครู่หนึ่ง เมื่อเขายิ้มให้เธอจึงหันกลับมาตอบ นั่นจึงทำให้นายท่านกงอมยิ้มเล็กน้อยอย่างพึงพอใจ“ถ้าอย่างนั้นเธอให้เขาผ่าหินก้อนนี้เลยดีหรือไม่ เราจะได้มาดูกันว่าด้านในเป็นอะไร เมื่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 30 สร้างเม็ดเงินมหาศาล

    บทที่ 30 สร้างเม็ดเงินมหาศาลเจ้าของร้านมองก้อนหินที่หญิงสาวชี้แล้วได้แต่แปลกใจเนื่องจากหินก้อนนี้วางอยู่ที่ร้านมานานแล้วแต่ไม่เคยมีใครสนใจเลย ซึ่งเขาเองก็คิดว่าหินก้อนนี้มันเป็นเพียงหินธรรมดาเท่านั้น อีกทั้งมันยังดูเกะกะอีกด้วย แต่ก็ยังโก่งราคาตามแบบพ่อค่า“ฉันขายให้หนึ่งพันหยวน” พ่อค้าบอกราคาขึ้นมา“ตกลงฉันซื้อในราคาหนึ่งพันหยวน และเอาหินก้อนนี้ นี่ด้วย” ฟางเจียวเหมยตอบกลับอย่างไม่ลังเล ก่อนจะเลือกหินที่เธอต้องการ ซึ่งในก้อนเล็กพวกนี้มีหยกจักรพรรดิถึงสามก้อน ยังไม่รวมก้อนใหญ่ก้อนนั้น ส่วนก้อนอื่น ๆ เป็นหยกสีเขียวซึ่งราคาก็แพงอยู่พอสมควรนี่จึงทำให้เจ้าของร้านและคนที่ยืนอยู่บริเวณนี้ต่างก็หน้าเปลี่ยนสี ไม่คิดว่าหญิงสาวคนนี้จะบ้าถึงขนาดซื้อก้อนหินก้อนโตที่ดูอย่างไรก็ไม่น่าจะมีหยกอยู่ด้านใน แถมราคาที่เธอซื้อนั้นก็แพงมากด้วยเวลานี้ทั้งพ่อค้าและคนที่มาเสี่ยงโชคหาซื้อหยกต่างก็มารุมล้อมร้านนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนของนายท่านกงอยู่ด้วย เพราะต้องการมาดูสินค้าให้กับเจ้านาย ขนาดชายคนนี้อยู่วงการค้าหยกมานาน แต่ก็ไม่เคยเห็นใครตัดสินใจแบบนี้มาก่อน เขาจึงยืนมองดูสถานการณ์อย่างสนใจ“ทั้งหมดสองพันสอง

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 29 ตลาดค้าหยก

    บทที่ 29 ตลาดค้าหยกเมื่อได้รับคำที่สนับสนุนตนเองจากภรรยา หลี่อี้ข่ายจึงมีความมั่นใจมากขึ้นและจะตั้งใจทำทุกอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ภรรยาผิดหวัง“เรื่องราวเกิดขึ้นได้อย่างไรครับ แล้วเถ้าแก่เฉาเป็นหนี้คนพวกนั้นเท่าไร” ชายหนุ่มเอ่ยถามทันที“ฉันกู้ยืมเงินคนพวกนั้นหลายเดือนแล้ว ฉันเองก็จ่ายดอกเบี้ยตรงมาทุกเดือนแต่ไม่รู้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกนั้นถึงมาทวงโดยบอกว่าฉันไม่เคยจ่ายดอกเบี้ยเลย พอฉันโต้แย้งไปเขาก็ไม่พอใจและพังร้านจนเละไปหมด แล้วบอกว่าฉันต้องคืนเงินทั้งหมดภายในสามวัน ไม่อย่างนั้นจะไม่รับรองความปลอดภัยของคนในบ้าน เงินตั้งสี่หมื่นหยวน ฉันจะเอามาจากไหนมาคืนในเวลาแค่สามวัน ต่อให้ขายร้านก็ไม่พออยู่ดี” เถ้าแก่เฉาพูดขึ้นมาอย่างจนปัญญา ก่อนจะมองหลี่อี้ข่ายกับสหายอีกสามคนด้วยสายตาที่สงสัย ว่าทำไมอยู่ดี ๆ คนงานของร้านเถ้าแก่เฉินต่างก็ดูเปลี่ยนไป แถมยังใส่เสื้อผ้าใหม่ดูจะมีราคาอีกด้วยหลี่อี้ข่ายได้ฟังก็แปลกใจเหมือนกันว่า ทำไมเจ้าหนี้ของเถ้าแก่เฉาถึงได้มาทวงเงินเอาวันนี้ ซึ่งทุกคนก็คิดเหมือนกัน“หรือว่า...” ฉีฮุ่ยพูดขึ้น ก่อนจะหันมามองหน้าสหายอีกสามคน “ฉันคิดว่าใช่นะ อย่าลืมสิว่าฉันประกา

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 28 ช่วยเหลือร้านค้าที่ถูกกดขี่

    บทที่ 28 ช่วยเหลือร้านค้าที่ถูกกดขี่หลังจากฟังเรื่องราวทุกอย่างจากภรรยา หลี่อี้ข่ายจึงโน้มตัวคว้าร่างของภรรยาเข้ามากอดไว้แน่น เหมือนเขากลัวจะสูญเสียเธอไปจริงๆ ภายในใจนั้นรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่อาจปกป้องเธอและทุกคนในครอบครัวได้“พี่ขอโทษนะเจียวเหมย ที่ไม่อาจปกป้องน้องและทุกคนได้ เลยทำให้น้องและทุกคนต้องเจอกับความลำบากมากมายกับบ้านใหญ่ และขอบคุณน้องมากที่ดูแลแม่และทุกคนจนหลุดพ้นจากที่นั่นออกมาได้ ขอบคุณจริง ๆ”หลี่อี้ข่ายกอดภรรยาไว้แน่นแล้วเอ่ยขอโทษออกมาอย่างรู้สึกผิด“ไม่ต้องขอบคุณแล้วค่ะ แล้วก็อย่าคิดมากเลยนะคะ อย่างไรเราก็คือสามีภรรยาและครอบครัวเดียวกัน ตอนนี้ฉันซื้อบ้านและพาพี่ใหญ่ฉันมาอยู่ด้วยนะ พี่จะว่าอะไรไหม”ฟางเจียวเหมยบอกถึงเรื่องที่เธอซื้อบ้านและให้พี่ชายมาอยู่บ้านเดียวกันให้สามีฟัง“พี่ภรรยาก็คือครอบครัวเรา อย่าคิดมากเลยนะ” ชายหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลฟางเจียวเหมยยิ้มกว้าง ในใจนั้นคิดไม่ผิดที่บอกความลับแก่สามีและสาเหตุหลักที่เธอบอก เพราะหากเธอต้องส่งสินค้าให้คู่ค้าตอนอยู่ที่เมืองนี้ เธอจะได้ไม่ต้องหาข้ออ้างที่ชวนปวดหัวให้กับสามี การที่หลี่อี้ข่ายรับรู้เรื่องมิติของ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 27 ความจริงที่เล่าไม่หมด

    บทที่ 27 ความจริงที่เล่าไม่หมด“พี่อี้ข่าย พี่อี้ข่ายฟังฉันอยู่ไหมคะ” ฟางเจียวเหมยขยับตัวมาใกล้ ๆ แล้วเรียกพร้อมกับโบกมือไปตรงหน้าสามีที่ยังยืนตัวแข็งทื่ออยู่อย่างแปลกใจ“เอ่อ..คะ ครับ พี่จะไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้ครับ” หลี่อี้ข่ายได้เรียกสติตัวเองกลับมาก็ตอบอย่างตะกุกตะกัก ก่อนจะรีบเดินเข้าห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนู มีการผลักประตูห้องน้ำเข้าไปด้วย ทั้งที่หน้าห้องเขียนไว้ว่า ‘โปรดดึง’“น่ารักเหมือนกันแฮะ” ฟางเจียวเหมยมองภาพนั้นแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ในใจนั้นคิดว่าสามีคนนี้น่ารักน่าแกล้งดีเหมือนกัน แต่พอก้มมองชุดนอนที่ตัวเองใส่ก็เข้าใจทันทีว่าทำไมสามีถึงหน้าแดงและยืนตัวแข็งทื่อแบบนั้น จากนั้นก็ยักไหล่อย่างไม่แคร์ พร้อมกับพูดออกมาว่า “โป้แล้วไง ใส่ให้สามีมองนะไม่ใช่ใส่ให้คนอื่นมองสักหน่อย”แต่พอหลี่อี้ข่ายออกมาจากห้องน้ำเท่านั้น เธอถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นเพราะรูปร่างกำยำที่เย้ายวนใจของเขา“เอ่อ...พี่ไม่ใส่เสื้อผ้าหน่อยเหรอ” ฟางเจียวเหมยเอ่ยถามเสียงสั่น เมื่อเห็นว่าสามีเดินขึ้นมานอนบนเตียงด้วยร่างกายที่ไม่ต่างกับเปล่าเปลือย เพราะเขามีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบเอวไว้เท่านั้น“ใส่ทำไมล่ะ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 26 เจ้าของร้านหลี่ฟาง

    บทที่ 26 เจ้าของร้านหลี่ฟางฟางเจียวเหมยเห็นท่าทางของพนักงานคนหนึ่งก็เข้าใจทันทีว่าต่อให้เธอและสามีแจ้งความก็ไม่สามารถเอาผิดคุณหนูเฉินได้ แต่เธอเป็นแม่ค้าย่อมไม่ยอมเสียเปรียบแน่ อย่างนี้ต้องหาทางเอาคืนอย่างสาสม อย่าลืมสิว่าเธอคือโกดังเคลื่อนที่ การที่จะหาคู่ค้าจากเมืองนี้ไม่ใช่เรื่องยาก ก่อนจะเดินมากระซิบบางอย่างข้างหูสามี ซึ่งชายหนุ่มก็พยักหน้าตาม เขาเองก็ไม่อยากทำร้ายสหายในร้านเหมือนกัน เขาเชื่อเต็มร้อยว่าสหายไม่ใช่คนที่เอาพัสดุของเขาไป แต่อาจจะเป็นเพียงแพะรับบาปเท่านั้น“ว่าแต่พี่ลาออกได้เลยใช่ไหม เราจะได้ไปหาโรงแรมที่พักกัน ฉันลงรถไฟมาก็ตรงดิ่งมาที่นี่เลย ตอนนี้ฉันเหนื่อยมาก” ฟางเจียวเหมยพูดกับสามีด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน เรื่องเอาคืนผู้หญิงคนนี้นั้นเธอคิดในใจไว้แล้ว อย่างไรวันนี้ก็พักเอาแรงก่อนดีกว่า“ครับ พี่ลาออกได้เลย เดี๋ยวเราค่อยไปคุยกันนะ พี่ขอไปเก็บของก่อน” ชายหนุ่มตอบกลับภรรยาทันทีและเตรียมหมุนตัวออกไปจากร้านเพื่อจะไปที่พักเก็บของ แต่ทว่าฟางเจียวเหมยกลับห้ามไว้เสียก่อน“ไม่ต้องหรอกค่ะพี่อี้ข่าย ของที่พี่มีมันคงเก่าหมดแล้ว ฉันได้เตรียมเสื้อผ้ามาให้พี่แล้วล่ะ ของที่มีอยู่ที่นี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status