Home / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80) / บทที่ 12 ไม่ใช่ญาติก็ไม่ต้องมายุ่ง

Share

บทที่ 12 ไม่ใช่ญาติก็ไม่ต้องมายุ่ง

Author: sanvittayam
last update Last Updated: 2025-08-22 09:22:09

บทที่ 12 ไม่ใช่ญาติก็ไม่ต้องมายุ่ง

ฟางเจียวเหมยที่เวลานี้แต่งตัวให้ลูกน้อยเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้ตอบกลับมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “เสี่ยวเหลียนเห็นเครื่องบดมืออันนั้นไหมเล่า” หญิงสาวชี้ไปยังเครื่องบดมือที่เธอเอาออกมาจากมิติมาเตรียมไว้เพื่อบดข้าวให้ลูกกิน

“อันนี้ใช่ไหมคะ แล้วมันจะบดอาหารได้จริง ๆ เหรอคะ”

หลี่เหว่ยเหลียนหันมาตามที่พี่สะใภ้ชี้ให้ดูก่อนจะหยิบมันขึ้นมา เพราะน้ำหนักมันเบามากจึงแปลกใจว่าเจ้าเครื่องนี้มันสามารถบดอาหารให้ละเอียดได้ด้วยเหรอ

“ใช่แล้ว ส่วนบดได้จริงไหม เสี่ยวเหลียนมาช่วยฉันอุ้มสองแฝดหน่อย แม่ด้วยนะคะ เดี๋ยวฉันจะทำให้ดูว่าเครื่องนี้มีประสิทธิภาพอย่างไรบ้าง ช่วงกลางวันแม่จะได้ทำให้สองแฝดกินตอนฉันไม่อยู่” ฟางเจียวเหมยตอบกลับเมื่อทั้งสองมารับลูกไปแล้ว เธอก็สาธิตให้แม่และน้องสามีดูว่าเครื่องบดอาหารแบบนี้มีวิธีใช้อย่างไร

ทั้งสองแม่ลูกต่างมองด้วยความตื่นตาตื่นใจ เพราะไม่เคยเห็นเครื่องบดอาหารแบบนี้มาก่อน ถึงจะเครื่องเล็ก ๆ แต่บดได้ละเอียดในเวลาเพียงไม่นานเลย

หลังจากที่บดอาหารให้ลูกน้องทั้งสองคนเสร็จแล้ว เธอก็บอกแม่กับน้องสามีให้กินอาหารก่อน ส่วนของเจ้าสองแฝดเธอจะป้อนเอง แม้ว่าจะไม่มีเก้าอี้เด็กสำหรับป้อนอาหารเหมือนยุคปัจจุบัน แต่เพราะหลายเดือนก่อน ที่หลี่อี้ข่ายกลับมา ชายหนุ่มทำเก้าอี้ไว้ให้ลูกสองตัว หญิงสาวจึงเอาผ้ามาวางทับซ้อน ๆ กัน แล้วหาผ้าผืนยาว ๆ มาผูกลูกติดกับเก้าอี้ไว้หลวม ๆ เพราะกลัวว่าเด็กน้อยจะดิ้นจนตกมานั่นเอง

แม้จะไม่เคยมีลูกมาก่อน แต่ว่าเธอทำทุกอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลย อาจจะเพราะมีสัญชาตญาณความเป็นแม่จากร่างนี้ที่แม้จะร้ายกาจแค่ไหนแต่ก็รักลูกมาก

“เดี๋ยวแม่กับเสี่ยวเหลียนเช็ดคราบอาหารของอาหมิงและหนิงหนิงเอง เจียวเหมยรีบไปกินข้าวก่อนเถอะ วันนี้จะเข้าเมืองไม่ใช่เหรอ” หงหนิงชุนที่กินข้าวเสร็จแล้วก็เอ่ยกับลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ขอบคุณมากนะคะแม่” ฟางเจียวเหมยตอบกลับอย่างอ่อนโยนเช่นกัน ก่อนจะหันมายิ้มให้กับลูกน้อยทั้งสองแล้วเดินไปยังหน้าห้องเพื่อกินอาหารมื้อเช้าที่ได้ทำไว้ก่อนหน้านี้

 หลังจากกินอาหารมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ก่อนจะเดินออกมาจากบ้าน โดยไม่ลืมกำชับให้แม่และน้องสาวของสามีให้ใส่ชุดใหม่ด้วยเหมือนกัน

“ฉันไปในเมืองนะคะแม่ แล้วแม่กับเสี่ยวเหลียนอย่าลืมใส่เสื้อผ้าใหม่ ๆ ที่ฉันซื้อมาให้นะ และทำทุกอย่างตามที่ฉันเคยบอกไว้”

“จ้ะ แม่เข้าใจแล้ว ระวังตัวด้วยนะเจียวเหมย” หงหนิงชุนพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะบอกด้วยความเป็นห่วง

“ค่ะ ฉันไปนะคะ” พูดจบหญิงสาวก็เดินออกจากห้องไป

ส่วนทางด้านบ้านฟาง ฟางหลู่เฉินก็ใส่เสื้อผ้าใหม่ที่น้องสาวซื้อให้ด้วยเหมือนกัน แม้ว่าจะเสียดายและกลัวว่าจะเปื้อนตอนทำงานก็ตาม แต่เพราะชายหนุ่มทำงานแปลงเดียวกับลูกชายและหลานชายบ้านใหญ่หลี่ เขาจึงตัดสินใจใส่และเริ่มทำตามแผนของฟางเจียวเหมย

แต่ทว่ากลับโดนแม่เลี้ยงเอ่ยขัดอีกแล้ว

“เสื้อผ้าใหม่และสะอาดแบบนั้น ทำไมไม่เอามาให้พ่อใส่สักตัวหรือ ไม่ก็เอาไปขาย คงได้เงินไม่น้อย ดีกว่าเอามาใส่ลงแปลงนาแบบนี้เสียดายของแย่”

ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่สนใจ เพราะไม่อยากทะเลาะด้วย เลยเอ่ยบอกพ่อเพียงไม่กี่คำเท่านั้น “ผมไปทำงานก่อนนะครับพ่อ” พูดจบฟางหลู่เฉินก็เดินออกมาทันที โดยไม่สนใจพ่อและแม่เลี้ยงรวมถึงลู่อันเซียนลูกสาวของแม่เลี้ยงที่มองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ

เมื่อเดินออกมาจากบ้านก็เจอเข้ากับคำทักทายของชาวบ้าน ซึ่งมีทั้งยิ้มแย้มทักทายอย่างมีไมตรี มีทั้งจำพวกที่ขี้อิจฉาและชอบจิกกัดเมื่อเห็นชายหนุ่มใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ ชายหนุ่มเดินออกมาได้ไม่นานก็พบกับหลี่เหว่ยเหลียนที่อุ้มหลานสาวมาด้วยเรียกเขาเอาไว้

“พี่หลู่เฉิน แม่ให้มาตามไปกินมื้อเช้าน่ะ พี่สะใภ้ทำอาหารไว้แล้วก่อนเข้าเมือง” เด็กสาวบอกด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะก้มมองหลานสาวที่สอดส่องสายตามองไปทั่วเพราะเพิ่งได้มีโอกาสออกมาเที่ยวข้างนอกห้อง

“อ้าว เสี่ยวเหลียนเองเหรอ ขอบใจมาก แล้วนี่เจียวเหมยไปแล้วเหรอ” ชายหนุ่มแกล้งลืมว่าต้องไปกินมื้อเช้าที่บ้านสามหลี่ตามที่น้องสาวได้กำชับไว้เมื่อคืนเพราะความเกรงใจ แต่ไม่คิดว่าหลี่เหว่ยเหลียนจะมาตามคล้ายกับรู้ว่าเขาจะไม่ไป

“ไปแล้วค่ะ หนิงหนิงให้ลุงใหญ่อุ้มหน่อยไหม ลุงใหญ่ใส่ชุดใหม่แล้ว”

หลี่เหว่ยเหลียนตอบกลับชายหนุ่ม ก่อนจะเอ่ยบอกหลานสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เพราะเมื่อวานพี่ชายบ้านฟางไม่ยอมอุ้มหลานทั้งสองคนเพราะเห็นว่าชุดเปื้อนฝุ่นจากการทำงานและขึ้นเขามา วันนี้เมื่อเห็นอีกฝ่ายใส่ชุดใหม่ จึงเอ่ยขึ้นคล้ายกับกำลังพูดคุยกับหลานสาว เด็กน้อยก็เหมือนรู้เรื่องด้วยการยิ้มกว้างออกมาและยื่นมือน้อย ๆ ไปทางชายหนุ่มเป็นการตอบรับ

“ส่งหลานมาให้พี่เลย”

ชายหนุ่มรู้ความหมายของเด็กสาว จึงยื่นมือเข้ามาอุ้มหลี่หนิงตัวน้อยมาแนบอก “เป็นยังไงบ้าง หนิงหนิงของลุง” พอได้อุ้มหลานสาวเท่านั้น ชายหนุ่มก็เปลี่ยนแววตาเรียบนิ่งเป็นอบอุ่นและอ่อนโยนทันที ก่อนจะพยักหน้าให้หลี่เหว่ยเหลียนเพื่อพากันเดินไปยังบ้านสามหลี่

กลับมาทางด้านของฟางเจียวเหมย หลังจากเดินออกมาจากบ้าน ครั้งนี้หญิงสาวเลือกที่จะขึ้นเกวียนเข้าไปในเมืองเพราะกลัวว่าจะเจอชาวบ้าน เนื่องจากเวลานี้ยังเช้าอยู่มาก จึงไม่สะดวกที่จะหลบเอาจักรยานออกมา แต่เพราะเธอขึ้นชื่อว่าเป็นสะใภ้ร้ายกาจของบ้านหลี่และหญิงสาวร้ายกาจแห่งบ้านฟาง เลยทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครอยากจะเสวนาหรือคุยด้วย มีแต่เพียงนินทาและพูดกระทบกระทั่งมาตามลมเท่านั้น

“โอ๊ะ!! วันนี้สะใภ้บ้านสามหลี่เข้าเมืองอีกแล้วเหรอเนี่ย สงสารแต่อาข่ายที่ไปทำงานต่างเมืองเพื่อส่งเงินมาให้เมียถลุงเล่น”

นางหลันจีบปากจีบคอพูดขึ้นมาเพราะไม่ชอบฟางเจียวเหมย

เนื่อง จากหล่อนหวังจะให้ลูกสาวแต่งเข้าบ้านสามหลี่เพราะมั่นใจว่าหาก

ลูกของหล่อนแต่งเข้าไปแล้วจะสามารถทำให้หลี่อี้ข่ายแยกบ้านได้นั่นเอง แล้วเงินเดือนของเขาก็จะเป็นของลูกสาวหล่อน แต่ทุกอย่างก็พังลงมาไม่เป็นท่าเพราะหญิงร้ายกาจคนนี้มาสร้างเรื่องน่าอับอายจนหลี่อี้ข่ายต้องแต่งเข้าบ้านสามหลี่ ลูกสาวนางเลยยังไม่ได้แต่งจนถึงทุกวันนี้

“ต่อให้ฉันจะถลุงเงินที่สามีส่งมาให้จนหมด แล้วป้ามาเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ ญาติก็ไม่ใช่ คนรู้จักฉันก็ว่าไม่น่าจะใช่เหมือนกัน แบบนี้เขาเรียกว่า....” ฟางเจียวเหมยยังคงเชิดหน้าตอบตามแบบฉบับนางร้ายประจำหมู่บ้าน มือทั้งสองข้างกอดอกก่อนจะกวาดสายตามองอย่างเหยียด ๆ

“เอ๊ะนังนี่ ฉันแค่เตือนหล่อนเท่านั้น อาข่ายทำงานอย่างหนักกว่าจะได้เงินมา แทนที่หล่อนจะช่วยประหยัด แต่นี่อะไร วัน ๆ เอาแต่คอยถลุงเงินเล่น หรือว่าตกน้ำจนเกือบตายในวันนั้นไม่ทำให้คิดได้เลยหรืออย่างไร”

นางหลันไม่วายจะยกเรื่องที่ฟางเจียวเหมยตกน้ำในวันนั้นออกมาพูด เพราะเชื่อว่าวันนั้นไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ที่ลูกสาวตัวเองและหลี่เชี่ยนหยู่ลูกสาวคนเล็กของซ่งเจียฮุยวางแผนผลักลูกสะใภ้บ้านสามตกน้ำ หากวันนั้นไม่มีชาวบ้านที่มาซักผ้าที่ริมน้ำ ป่านนี้หญิงร้ายกาจคนนี้คงตายไปแล้ว

โดยไม่รู้เลยว่าหล่อนนั้นคาดการณ์ถูกต้อง เพราะฟางเจียวเหมยคนก่อนได้ตายไปแล้วจริง ๆ ซึ่งคนที่อยู่ตรงหน้าหล่อนในเวลานี้คือหญิงสาวที่มาจากอนาคตอย่างไรล่ะ

“ก็พูดอยู่นี่ไงว่าป้าเกี่ยวอะไรด้วย ต่อให้ฉันจะใช้เงินที่ ผ สระ อัว ผัว ฉันส่งมาให้จนหมด มันก็ไม่หนักหัวใคร เพราะนี่มันคือเรื่องของครอบครัวบ้านสามหลี่ แม่สามียังไม่พูด แล้วป้ายุ่งด้วยทำไม หรือว่ายังคิดที่จะให้พี่อี้ข่ายแต่งเข้าบ้านป้า” ฟางเจียวเหมยจีบปากจีบคอพูด พร้อมกับนึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ของหญิงวัยกลางคนตรงหน้าตามความทรงจำของร่างเดิม

เมื่อโดนเด็กรุ่นลูกเอาความจริงตอกหน้ากลับมาแบบนี้ นางหลันจึงเงียบปากตัวเองอย่างทันที ไม่นานเกวียนประจำหมู่บ้านก็มาถึง ชาวบ้านและเหล่าเด็กนักเรียนต่างก็ทยอยขึ้นเกวียนทันที

การที่ต้องนั่งเกวียนแบบนี้ ฟางเจียวเหมยนึกถึงรถประจำทางในยุคอนาคตที่เธอจากมา หากเธอสามารถหาทุนได้เยอะ การจะทำกิจการเดินรถก็น่าสนใจเหมือนกัน!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทส่งท้าย ครอบครัวอบอุ่น

    บทส่งท้าย ครอบครัวอบอุ่นหลี่อี้ข่ายเมื่อรู้เรื่องว่าภรรยาเหมือนจะคลอดแล้วจึงรีบตามไปที่โรงพยาบาลทันที พอมาถึงก็รู้ว่าภรรยาได้เข้าไปในห้องคลอดแล้ว เขาได้แต่เดินไปเดินมาที่หน้าห้องคลอด จนทุกคนเวียนหัวไปหมดแล้วในตอนนี้“อาข่ายหยุดเดินแล้วมานั่งก่อนเถอะ ตาเวียนหัวไปหมดแล้ว” นายท่านผู้เฒ่ากงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นเพราะเขาเวียนหัวไปหมดแล้วจากการเดินของหลานเขย“ครับ คุณตา”แต่ถึงแม้จะบอกอย่างนั้น หลี่อี้ข่ายก็ไม่ยอมนั่ง เขาเดินไปยืนเอาหน้าแนบประตูห้องคลอด เหมือนกับว่าจะมองให้ทะลุเข้าไปในห้องให้ได้ นั่นจึงทำให้ทุกคนส่ายหัวให้กับความตื่นเต้นของเขา ทั้ง ๆ ที่เคยมีลูกมาก่อนแล้วสองคนไม่นานประตูก็เปิดออกและมีคุณหมอก็ออกมาแจ้งข่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มว่า“ยินดีด้วยนะคะ คุณเจียวเหมยคลอดลูกแฝดชายหญิงค่ะ”“ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้างครับคุณหมอ” ชายหนุ่มรีบถามถึงอาการของภรรยาก่อนจนคุณหมอต้องอมยิ้ม เพราะเขาไม่ถามเลยว่าแฝดกี่คน‘ดูท่าว่าคนนี้จะรักภรรยามากจริง ๆ’ หมอคิดในใจ“ภรรยาคุณหลังจากที่คลอดลูกก็เพลียจนตอนนี้หลับไปแล้วค่ะ อาการปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกเลยค่ะ ว่าแต่คุณพ่อไม่ถามเหรอคะ ว่าคราวนี้ลูกแฝ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 74 รับปู่กับย่ามาอยู่ด้วย

    บทที่ 74 รับปู่กับย่ามาอยู่ด้วย“ฮือ ๆ ๆ ตาแก่นั่นตอนนี้ป่วยหนัก แต่ย่าไม่มีเงินพาไปหาหมอเพราะสะใภ้ใหญ่แอบเอาเงินที่มีไปให้บ้านเดิมยืม จนตอนนี้บ้านซ่งก็ยังไม่คืน แถมเมียอาจงพอเห็นสามีติดคุกก็หอบเงินที่มีหนีไปอีก ตอนนี้บ้านหลี่เราลำบากมาก แทบไม่มีอะไรกิน ตาแก่ทำงานหนักจนร่างกายไม่ไหวสะดุดล้มหน้าบ้าน จากนั้นก็เดินไม่ได้อีกและนอนป่วยอยู่ที่บ้าน กินน้ำต้มข้าวประทังชีวิตไปวัน ๆ ”ย่าหลี่พูดออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ นางเคยบากหน้าไปขอจากลูกคนรอง แต่บ้านนั้นแทบจะไม่เปิดประตูต้อนรับนางเช่นกันหลี่อี้ข่ายได้ฟังอย่างนั้นก็หันไปสบสายตากับฟางเจียวเหมย เมื่อเธอพยักหน้าให้ เขาก็ออกคำสั่งกับคนที่เป็นทั้งสหายและลูกน้องคนสนิทของตนเองทันที“เผิงหยู่ นายเอารถฉันพาย่าไปรับปู่แล้วรีบไปส่งโรงพยาบาล ค่ารักษาฉันจะจ่ายเองทั้งหมด อ้อ เอาอาหารแล้วก็ของใช้ไปให้เพียงพอสำหรับปู่กับย่าด้วยนะ คนอื่นไม่เกี่ยว” ชายหนุ่มไม่อยากคิดถึงความร้ายกาจที่บ้านใหญ่มีต่อบ้านสามของเขา ครั้งนี้เขาขอทำเพื่อพ่อที่จากไป อย่างน้อยก็ได้กตัญญูแทนท่าน และเขาทำให้ปู่กับย่าเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์“ครับเถ้าแก่” เผิงหยู่ขานรับทันที เขารู้สิ่

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 73 ความสุขที่ได้แบ่งปัน

    บทที่ 73 ความสุขที่ได้แบ่งปันข่าวเรื่องที่ร้านหลี่ฟางจะตั้งโรงทานเพื่อแจกอาหารและของใช้ให้ชาวบ้าน ต่างกระจายไปทั่ว ไม่ว่าหมู่บ้านนั้นจะอยู่ลึกและกันดารแค่ไหน สามล้อพุ่มพวงก็เดินทางไปส่งข่าวหลังจากขายของหมดแล้ว ชาวบ้านที่ได้ยินต่างก็ตื่นเต้นดีใจ ทุกคนได้แต่อวยพรให้ร้านหลี่ฟางขายดีและร่ำรวยยิ่งกว่าเดิม พอนายท่านกงและนายท่านผู้เฒ่ากงทราบเรื่อง ทั้งสองก็มาช่วยลงขันด้วย โดยการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ยากไร้ ไม่มีทุนทรัพย์ในการเรียนต่อเบื้องต้นจำนวน 50 ทุนและจะพิจารณาทุนให้เป็นการเฉพาะรายที่อยากเรียนถึงระดับมหาวิทยาลัย โดยจะคัดเลือกจากคนเรียนดีแต่ยากจนจริงๆ อีกครั้งในภายหลัง พอเรื่องนี้เข้าหูชาวบ้าน ทุกคนก็ยิ่งดีใจมาก เพราะหลายครอบครัวที่อยากส่งลูกหลานเรียนแต่ไม่มีเงิน“ขอบคุณตระกูลหลี่ ตระกูลฟาง และตระกูลกง นอกจากฉันจะไม่อดตายในหน้าหนาวปีนี้แล้ว หลานของฉันมีโอกาสได้เรียนต่อตามที่เขาตั้งใจไว้อีกด้วยขอบคุณจริงๆ”ยายเฒ่าคนหนึ่งหลั่งน้ำตาออกมา เมื่อได้ยินประกาศจากรถสามล้อพุ่มพวง เนื่องจากเธออาศัยอยู่กับหลานชายและลูกชาย ซึ่งตอนนี้หลานชายเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย เนื่องจากบ้านพวกเธอต่างยอม

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 72 คืนกำไรให้ชาวบ้าน

    บทที่ 72 คืนกำไรให้ชาวบ้าน“เป็นอย่างไรบ้าง อย่างที่คิดไหม” นายท่านผู้เฒ่ากงสอบถามทันทีด้วยสีหน้าร้อนรนปนตื่นเต้น เมื่อหลานทั้งสองคนกลับมาถึงบ้าน“เป็นอย่างที่คิดครับคุณตา เจียวเหมยตั้งท้องแล้วครับ แปดสัปดาห์แล้วครับคุณตา” หลี่อี้ข่ายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เพราะเวลานี้เขากำลังดีใจที่จะมีลูกเพิ่ม“จริงหรือ” หนิงหงชุนพอได้ยินว่าลูกสะใภ้ตั้งท้องอีกครั้งก็รีบวางหลานสาวเข้าคอกกั้น ก่อนจะวิ่งออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจส่วนนายท่านผู้เฒ่ากงปรากฏรอยยิ้มดีใจบนใบหน้าอย่างห้ามไม่อยู่“จริงครับแม่”หลี่อี้ข่ายตอบกลับผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มเช่นกัน เนื่องจากเวลานี้เขากำลังดีใจกว่าทุกคนในเรื่องนี้ ส่วนฟางเจียวเหมยนั้นไม่ต้องห่วง เธอนั้นมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทั้งอบอุ่นหัวใจและดีใจก่อนจะเดินไปหาลูกน้อยทั้งสองคนที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในคอก“อาหมิง หนิงหนิง เราสองคนกำลังมีน้องแล้วนะ ดีใจไหม” ความดีใจนี้เธออยากจะบอกให้ลูกทั้งสองคนรับรู้“น้อนเหยอ” หลี่ลี่หนิงละทิ้งของเล่นในมือพร้อมกับเอียงคอถามด้วยท่าทีที่น่ารัก“ค่ะลูก หนูกำลังจะมีน้องรู้ไหม” หญิงสาวตอบกลับพร้อมกับลูบหัวลูกสาวตัวน้อยด้วยความอ่อนโยน ส่วนหลี่ชุน

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 71 ตั้งท้องแล้ว

    บทที่ 71 ตั้งท้องแล้วหลังจากเปิดใจกันวันนั้นฟางหลู่เฉินและหลี่เหว่ยเหลียนก็ได้เปิดตัวกับทุกคน ซึ่งทั้งสองครอบครัวต่างก็ยินดีกับทั้งสองคนด้วย รวมถึงนายท่านผู้เฒ่ากงด้วย วันเวลาล่วงเลยจนอี้เสี่ยวม่านใกล้คลอดแล้ว ส่วนกงเฉิงเสวียนก็เดินทางไปกลับระหว่างสองเมืองเพื่อดูแลงานเองทุกที่ รวมถึงร้านรับซื้อหยกของเขาด้วย มีบางครั้งที่ฟางเจียวเหมยและสามีตามไปด้วยเพื่อหาซื้อหยกแล้วขายต่อให้พี่ชายอีกทั้งเวลานี้โรงแรมและอะพาร์ตเมนต์ก็คืบหน้าไปมาก เพราะฟางเจียวเหมยทุ่มเงินไปกับส่วนนี้ไม่น้อย แม้การก่อสร้างจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ประสิทธิภาพและความคงทนแข็งแรงนั้นไม่ด้อยไปกว่าใคร เพราะทรัพย์สินพวกนี้เป็นอะไรที่สามารถเก็บกินระยะยาวหลายสิบปีและเธอตั้งใจจะทำเพื่อมอบไว้ให้ลูก ๆฟางเจียวเหมยและหลี่อี้ข่าย ตอนนี้ทั้งสองคนมีอิทธิพลในเมืองแห่งนี้และเมืองใกล้ ๆ ไม่น้อย เพราะกิจการที่เจริญรุ่งเรืองไม่หยุดของทั้งคู่ ทำให้เป็นที่นับหน้าถือตาของกลุ่มนักธุรกิจด้วยกัน ไม่มีใครคาดคิดว่าชาวบ้านธรรมดา จะกลายเป็นผู้มีเงินได้มากขนาดนี้อีกทั้งคุณนายหลี่อย่างฟางเจียวเหมย ยังมีฐานะเป็นหลานสาวของตระกูลกงที่มั่งคั่งและร่ำรวยระ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 70 คำสารภาพของฟางหลู่เฉิน

    บทที่ 70 คำสารภาพของฟางหลู่เฉินหลังจากส่งนายท่านกงขึ้นรถแล้ว ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง รวมถึงกงเฉิงเสวียนที่เปิดกิจการใหม่ที่นี่ด้วยนั่นก็คือโรงแรมและอะพาร์ตเมนต์ตามคำแนะนำของน้องสาวอย่างฟางเจียวเหมย ซึ่งเธอก็สร้างด้วยเหมือนกัน เพราะกิจกรรมพวกนี้ มันไม่ได้แย่งชิงลูกค้ากันอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นที่ต้องการของคนที่อยากมีบ้านแต่ทุนน้อยและไม่มีที่ดินของตนเอง ซึ่งการที่ฟางเจียวเหมยให้พี่ชายคนนี้มาทำกิจการนี้ นั่นก็เพราะว่ากงเฉิงเสวียนมีเส้นสายในการขออนุญาตกับภาครัฐอย่างไรล่ะ หากเป็นตาสีตาสาเช่นเธอ ทุกอย่างคงจะยากน่าดูพอทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว นายท่านผู้เฒ่ากงก็หันมาเล่นกับสองแฝดด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าของชายชราปรากฏให้เห็นแล้วว่าเขานั้นมีความสุขที่จะอยู่ตรงนี้ ซึ่งเด็กน้อยแม้จะพูดไม่ค่อยชัดเพราะเริ่มหัดพูด แต่ก็พยายามโต้ตอบสื่อสารกับผู้เป็นทวดของทั้งสองคนอย่างร่าเริง“ฉันฝากสองแฝดหน่อยนะคะนายท่านผู้เฒ่า เดี๋ยวจะไปเตรียมอาหารไว้สำหรับมื้อเที่ยงของเด็กๆ วันนี้นายท่านต้องการรับประทานอาหารชนิดไหนคะ ฉันจะได้เตรียมไว้ให้” หนิงหงชุนพอเห็นว่าทุกคนไปหมดแล้ว เลยฝากหลานทั้งสองไว้ให้นายท่านผู้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status