INICIAR SESIÓNเหรินซินทุ่มเทให้เวลากับลูกในทุกช่วงวัยจนเมื่อพวกเขาอายุได้7ขวบ เธอถึงได้กลับมาเขียนนิยายอย่างจริงจังอีกครั้ง ส่วนจ้าวลู่เฉินนั้นทุกวันนี้ก็เป็นหนุ่มใหญ่วัยต้น40ที่มีแต่ความหล่อเหลาจนมีหลายครั้งที่เธอยังก้มมองตัวเองว่าทุกวันนี้โทรมจนไม่คู่ควรกับสามีไปแล้วกระมัง“คิดอะไรแบบนั้นกัน โทรมก็แค่ดูแลตัวเองใหม่ อย่าลืมสิ สามีของเธอมีเงินเยอะแยะ นอกจากเก็บเอาไว้ให้เจ้า2แฝด พี่ก็เก็บเอาไว้ใช้เธอใช้แก้ปัญหาตลอดนั่นแหละ”จ้าวลู่เฉินไม่ได้คิดมากกับเรื่องรูปร่างหน้าตาของเมียที่เปลี่ยนไป ไม่งดงามสดใสเช่นในอดีต เพราะเขารู้ดีว่าทุกสิ่งเกิดจากการที่เหรินซินยอมอุ้มท้องลูกของเขา ตอนที่ตั้งท้องเธอต้องยอมเสียสละตัวเองมากแล้วหลังคลอดกลับยิ่งมากกว่า ตลอด9ปีที่ผ่านมาเมียของเขาใส่ใจแค่ลูกกับผัวจนแทบไม่มีเวลาสนใจดูแลตัวเอง“พี่ไม่รังเกียจฉันใช่ไหม?”คืนหนึ่งในห้องนอนเหรินซินที่มองดูต้นขาของตนเองมีรอยแตกลายจางๆ ให้เห็น ไหนจะหน้าท้องที่ยังมีรอยให้เห็น หน้าก็เหมือนจะมีรอยร่องลึกที่หางตาแล้ว อยากจะกรี๊ดเสียจริง นี่เธอเพิ่งจะ30กว่า แต่โทรมเกินหน้าเกินตาสามีไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“รังเกียจอะไร สำหรับพี่เธอก็ยังคงเป็นเ
ส่วนเหรินซินเองเพราะนิยายเรื่องที่3ผลตอบรับไม่ดี แต่พอเธอส่งนิยายแนวพีเรียดแฟนตาซีทะลุมิตินางเอกย้อนเวลากลับไปแก้แค้นไปให้กับบก.ที่ดูแลเธอได้ลองอ่าน ก็เป็นที่ถูกอกถูกใจ และเกินจะคาด หลังจากเหรินซินใช้เวลาเขียนนิยายเรื่องนี้ถึง1ปีกว่าจะจบ เมื่อตีพิมพ์ออกไปกลับขายหมดเกลี้ยงยอด2พันกว่าเล่มหมดใน2วัน เรียกว่าพลิกหน้าวรรณกรรมของเยี่ยนจิ่งเลยก็ว่าได้ เหมือนกับหญิงสาวพบแนวนิยายที่ตัวเองถนัดและเขียนแล้วมีความสุขจนลืมวันลืมคืนเข้าแล้วนิยายเรื่องที่5และต่อๆ มาจึงมักเป็นแนวพีเรียดหรือไม่ก็แฟนตาซีดรามา จนนามปากกา ลมใต้ เป็นที่รู้จักของนักอ่าน สำนักพิมพ์ต่างแยกกันอยากซื้อลิขสิทธิ์ไปตีพิมพ์ ไม่นานก็ถูกซื้อไปผลิตเป็นซีรีส์ ซึ่งข่าวดีนี้มาพร้อมกับลูกคนแรกของเธอ5ปีเต็มที่หญิงสาวใช้ชีวิตคู่อย่างเต็มที่ อยู่กันเพียงสองคนกับแมวเป็นลูกชายแค่หนึ่งตัว จนเข้าปีที่6 เหรินซินจึงตัดสินใจปล่อยให้มีเด็กตัวน้อยมาเพิ่มในครอบครัว ไม่ใช่ว่าไม่พร้อม แต่คงเพราะหญิงสาวนั้นอยากใช้ชีวิตในช่วงวัยรุ่นให้เต็มที่จะไปท่องเที่ยวที่ไหนก็ไปกันสองคน อาจมีบ้างในบางครั้งที่พาเจ้าแมวฟาโรห์ไปด้วย“กว่าจะมีหลานคนแรก แม่ใหญ่ก็แก่จนเกือ
ตอนพิเศษหลังจากค่ำคืนเร่าร้อนผ่านไป ใครจะเชื่อว่าสุดท้ายเหรินซินก็คิดได้ว่าตัวเองจะเขียนออกมาแนวไหน เธอมันพวกถนัดซ่อนปมและหักมุม จะให้เปลี่ยนไปเขียนแนวอิโรติก อย่างไรก็ไม่ใช่แนวของเธอ ในเมื่อถนัดแนวไหนหญิงสาวก็จะไปให้สุดและให้ดี พล็อตนิยายเรื่องใหม่ของเธอคราวนี้จึงไม่ใช่แนวสืบสวนฆาตกรรม แต่เป็นแนวเกิดใหม่มาแก้แค้น ซึ่งในยุคนี้ยังไม่มีนักเขียนแนวนี้ออกมามากนัก พอวางพล็อตและเขียนรายนามตัวละครกับชื่อเมือง เพราะเป็นแนวพีเรียดย้อนยุค สงครามวังหลัง แก้แค้นซ่อนปมและแย่งชิง เรื่องวางผังตัวละครกับผังเมืองจึงสำคัญมาก การมีคู่ชีวิตที่คอยซัปพอร์ตกันนี่มันโคตรจะดีจริง ๆช่วงนี้ข่าวของจ้าวป๋อจิ้งก็มาเข้าหูว่าศาลตัดสินโทษออกมาแล้วว่าอีกฝ่ายต้องจำคุก15ปี โทษของคดีแบบที่จ้าวป๋อจิ้งโดนนี้ตัดสิน15ปีก็ต้องติดจริง15ปีไม่มีลดหย่อน ซึ่งเหรินซินค่อนข้างชอบกฎหมายนี้มาก ๆ ค้ายาเสพติด ค้าชีวิตมนุษย์ จะทำดีลดโทษได้อย่างไรส่วนทางด้านหม่าเจินจูกับจ้าวลู่คังนั้นก็ทำการซื้อคฤหาสน์สกุลจ้าวที่ถูกทางการยึดเป็นของรัฐบาลกลับมาเป็นทรัพย์สินของสกุลหม่าได้แล้ว นับว่าจ้าวลู่คังนั้นไม่ผิดต่อบรรพบุรุษของสกุลจ้าวแล้วทั้งที่คว
ชายหนุ่มเสียวซ่านไปตลอดลำเอ็น จนต้องแหงนหน้าขึ้นไปสูดหายใจเข้าปอดอยู่หลายครั้ง ยิ่งเรียวปากจิ้มลิ้มอ้าอมท่อนลำแข็งขืนของเขานั้นเข้าปาก แล้วขยับเป็นจังหวะเร็วแรงแต่ก็เก็บทุกรายละเอียด ทุกซอกทุกมุม จนเขาต้องกำหมัดกัดฟันเพราะเสียวซ่านตั้งแต่รากผมจนถึงปลายเท้า“โอ้ว...อา...อืม...ซี้ด...อา...เป่าเป้ยไม่ไหว อ๊า!”เวลาไม่นานเขาก็ปลดปล่อยน้ำขุ่นขาวมีกลิ่นคาวราคะออกมาจนล้นเรียวปากจิ้มลิ้ม ไหลย้อยลงมาถึงปลายคางน่ารัก ดวงตาใสกระจ่างมองขึ้นมาสบประสาน จ้าวลู่เฉินทั้งรักและหลงผู้หญิงคนนี้อย่างที่ชีวิตนี้ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน เขาดึงให้เธอขยับขึ้นมารับจูบเต็มอารมณ์วาบหวามของเขาอีกครั้ง ซึ่งเหรินซินก็ไม่ขัดขืน เธอยอมรับจุมพิตเร่าร้อนรุนแรงนี้จนบังเกิดเรียบ จ๊วบจ๊าบ ดังกึกก้องอยู่ภายในห้องแห่งนี้ เพราะอยากจะ ชิม เมียตลอดร่าง จ้าวลู่เฉินจึงอุ้มร่างเล็กในท่าลิงอุ้มแตงตรงไปยังเตียงขนาดเล็กที่เหรินซินเอาไว้เอนหลังช่วงที่ต้องการพักผ่อนแต่ยังไม่อยากกลับห้องนอนทันทีพอวางร่างเล็กลงบนเตียงก็ไม่รอช้าปลดเสื้อและกางเกงยางยืดสวมสบายออกไปจากเรือนกายอรชร แล้วก็ตามด้วยกางเกงของเขาเอง ก่อนจะผลักเบา ๆ ให้เหรินซินล้ม
ฝนด้านนอกตกพรำ ๆ พาให้ง่วงนอน ช่วงนี้นิยายเรื่องแรกกับเรื่องที่2ของเหรินซินตีพิมพ์แล้วและเป็นที่ยอมรับจากคนอ่านจนมีการตีพิมพ์ซ้ำ เรื่องที่3ของหญิงสาวก็กำลังอยู่ในช่วงแก้ไขให้เนื้อหาเข้มข้นขึ้นตามที่กองบก.ของสำนักพิมพ์แนะนำ กับเริ่มพูดคุยถึงนิยายเรื่องที่4 ที่ทางกองบก.อยากให้เหรินซินพัฒนาการงานเขียนขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเพิ่มฉาก NC ระหว่างพระเอกและนางเอกซึ่งเรื่องนี้เหรินซินจะเปลี่ยนไปเขียนแนวพีเรียดย้อนยุค แก้แค้นเข้มข้น ดังนั้นช่วงนี้หญิงสาวจึงมักมาจมอยู่ในห้องทำงานมากกว่าจะใส่ใจสามีเสียอีก“อุ้มหน่อย”วันนี้คิดไปคิดมา สมองก็ตัน คิดอะไรไม่ออกแล้ว ขอเติมพลังด้วยการเอาอกเอาใจสามีสักหน่อยก็คงจะดีไม่น้อย ดังนั้นเหรินซินจึงเริ่มต้นจากการออดอ้อนจ้าวลู่เฉินให้อุ้มตนเองกลับห้องเสียเลย“ทำไม? วันนี้ดูแปลก ๆ ไม่สบายใจหรือครับ”พอหลัง ๆ จ้าวลู่เฉินนั้นจับทางได้ว่าเหรินซินนั้น แพ้คำว่า ‘ครับ’ ของตนเองชายหนุ่มก็จะยิ่งชอบพูดจนติดปากไปแล้ว คู่อื่นเป็นอย่างไรเขากับเหรินซินไม่รู้ เขารู้แค่คู่ของตนเองมีแต่ปรับตัวมาเจอกันคนละครึ่งทาง ใช้ชีวิตคู่อย่างจริงจังก็เพิ่งครบ1ปีไป ถึงจะแต่งงานกันมาถึง4ปีเศษแล้วก็
ตอนจบเหตุการณ์ต่าง ๆ ผ่านไปแล้ว แต่ไม่ใช่ง่าย เพราะการจับคุมขบวนการค้ายาเสพติดและค้ามนุษย์กับอวัยวะคราวนี้เกี่ยวพันถึงหลายสกุลใหญ่ในหนานจิ้ง ไม่ว่าจะเป็นท่านนายพลจ้าว กับภรรยาคนที่สามของเขา กับนายท่านสกุลซู ยังมีท่านนายพลเจียง เรียกว่าครั้งนี้แทบจะล้างบางผู้มีอำนาจในหนานจิ้งและเยี่ยนจิ่งเลยก็ไม่ผิดสกุลจ้าว สกุลเจียง และสกุลซู ถูกทลายอำนาจจนไม่เหลือ แน่นอนว่า งานนี้ย่อมส่งผลถึงสกุลหม่า และหม่าฉางกรุ๊ป รวมถึงกลุ่มกิจการ หงส์เพลิงกรุ๊ปของคุณชายรองจ้าว แต่เพราะทั้งจ้าวลู่คังกับจ้าวลู่เฉินนั้นเตรียมรับมือกับแรงกระแทกมาสักพักหนึ่งแล้วจึงพอจะรับมือได้ ไหนจะยังมีหม่าเจินจูอยู่เป็นหลักให้กับลูกชายแท้และลูกเลี้ยง จึงไม่ทำให้เกิดเรื่องมากนักทุกคนที่ได้รับผลประทบจากเหตุการณ์คราวนี้ล้วนต้องปรับตัวและใช้เวลา แม้แต่จ้าวลู่เฉินเองก็ต้องยอมรับความจริงว่าบิดาของตนเองทำชั่วทำเลว เมื่อสุดท้ายถูกสอบสวนจากสาเหตุว่าเขาคือลูกชายแท้ ๆ ของท่านนายพลจ้าว สามีของเธอนั้นกลับรับมือได้โดยไม่หวั่นไหว สกุลซู สกุลเจียงถูกยึดทรัพย์ไม่เหลือ สกุลจ้าวเองก็เช่นกัน โชคยังดีที่ช่วง3ปีมานี้จ้าวลู่เฉินนั้นสร้างทรัพย์สินมาด้ว







