Home / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นเศรษฐีนีในยุคโบราณ / ตอนที่ 6 ภารกิจพิเศษกับเงินรางวัลใหญ่

Share

ตอนที่ 6 ภารกิจพิเศษกับเงินรางวัลใหญ่

last update Last Updated: 2025-01-05 13:25:18

ยามเฉินของเช้าวันที่สี่ หลังจากเก็บอุปกรณ์ทุกอย่างเสร็จ จ้าวจางหมิ่นและสาวใช้กำลังจะกลับจวนของตน ก็ได้ยินเสียงแสดงความยินดีกับอดีตเจ้าเมือง ที่ได้เลื่อนตำแหน่งเข้าทำงานในราชสำนัก ถึงจะไม่มีใครพูดชื่อตระกูลจ้าวจางหมิ่นย่อมรู้ดีว่าคือใคร

หนิงอวี่เห็นเจ้านายน้อยหยุดมองนิ่ง ๆ ก็ฉุกคิดได้และจะพานางกลับจวน แต่กลับได้รับคำปฏิเสธ นอกจากนี้จ้าวจางหมิ่นยังเดินเข้าไปใกล้อีกนิด เพื่อจดจำคนตระกูลฉู่นี้เอาไว้ให้ขึ้นใจ และมีคำอวยพรที่พึมพำออกมาเบา ๆ

หึ ขอให้พวกเจ้าตระกูลฉู่อยู่กับความสุขเหล่านี้มาก ๆ วันใดที่ถูกหลอกใช้จนหมดประโยชน์ ผู้มีอำนาจเฉดหัวทิ้งขึ้นมาจะได้รู้เสียทีว่าการถูกทอดทิ้งมันสิ้นหวังเพียงใด

“คุณหนูเจ้าคะ” ฮุยอินเรียกเพียงสั้น ๆ

จ้าวจางหมิ่นได้ยินเสียงสาวใช้ จึงดึงสติของตนกลับมา “พี่ฮุยอินไม่ต้องคิดมากเจ้าค่ะ ข้าแค่อยากยืนส่งพวกเขาเป็นครั้งสุดท้าย และรอคอยให้เวรกรรมตามสนองคนตระกูลนี้เท่านั้น”

หนิงอวี่ได้ยินคำนี้ของจ้าวจางหมิ่น ก็พยักหน้าเห็นด้วยอย่างแรง “คุณหนูพูดถูกสักวันหนึ่งสิ่งที่พวกเขาทำไว้กับท่าน ย่อมสนองกลับหลายร้อยหลายพันเท่า แต่ตอนนี้กลับจวนไปพักเถิดเจ้าค่ะ”

“อืม ไปกันเถิด พวกพี่สองคนคิดอย่างไร เมื่อเปิดร้านขายของครบสิบห้าวันข้าจะหยุดพักการค้าหนึ่งวัน และจะกำหนดให้เป็นเช่นนี้ทุกเดือน พวกท่านทำงานทุกวันสมควรมีวันหยุดพักผ่อน และกลับไปเยี่ยมครอบครัวบ้างนะเจ้าคะ” จ้าวจางหมิ่นคิดว่าตนเองเป็นคนขยันมากแล้ว แต่นางยังสู้บ่าวสองคนนี้ไม่ได้สักนิด

สองสาวใช้ไม่คิดว่าจ้าวจางหมิ่น จะมีวันหยุดและคิดเผื่อพวกนางสองคน เรื่องการกลับไปเยี่ยมครอบครัว

“คุณหนูพูดจริงหรือเจ้าคะ! ที่ว่าจะหยุดหนึ่งวันทุกเดือน”

“จริงสิ ใครจะแกล้งพูดให้ดีใจเก้อเล่าพี่ฮุยอิน”

“คุณหนูของบ่าวใจดีที่สุดเลย ขอบคุณมากนะเจ้าคะคุณหนู” หนิงอวี่แทบจะกระโดดโลดเต้น หากไม่ใช่ว่ายามนี้อยู่กลางตลาด

“บ่าวเองก็ขอบคุณเช่นกันเจ้าค่ะ ยังดีที่ครอบครัวของบ่าวสองคน อยู่หมู่บ้านที่ไม่ไกลจากเมืองเหอเฟยมากนัก” ฮุยอินไม่ได้กลับไปเยี่ยมครอบครัวอีกเลย ตั้งแต่คอยเลี้ยงดูจ้าวจางหมิ่น นางทำเพียงส่งเงินกลับบ้านเท่านั้น

“แต่ข้าอยากไปเที่ยวที่หมู่บ้านของพวกพี่ด้วย ตั้งแต่เล็กจนโตก็อุดอู้อยู่แต่ในเรือน ไม่เคยเห็นว่าโลกภายนอกเป็นเช่นไร ที่สำคัญข้าอยากเห็นภูเขาที่เขียวขจีใกล้ ๆ เผื่อจะมีอะไรที่สามารถนำมาขายได้” นี่เป็นความจริงของร่างนี้ ที่ถูกจำกัดให้อยู่แต่เรือนท้ายจวน

“ถ้าคุณหนูต้องการไปที่หมู่บ้านของบ่าว พวกเราต้องมีเกวียนวัวหรือรถม้านะเจ้าคะ ลำพังพวกบ่าวนั่งเกวียนรับจ้างได้ แต่บ่าวไม่อยากให้คุณหนูต้องลำบากไปนั่งเบียดเสียดกับคนอื่นเจ้าค่ะ” ฮุยอินเกรงว่าจ้าวจางหมิ่นจะทนไม่ไหว กับชาวบ้านที่มักจะนินทาผู้อื่นบนเกวียนวัว

“อ้อ เรื่องนี้นี่เอง เช่นนั้นพวกเรารีบกลับจวนกันเถิด ข้าจะได้ซื้อรถม้าสักหนึ่งคัน ว่าแต่พวกพี่สองคนมีใครบังคับรถม้าเป็นบ้างเจ้าคะ” เมื่อคำถามนี้จบลงจ้าวจางหมิ่นได้รับคำตอบคือการส่ายหน้า

“เอ่อ พวกบ่าวบังคับรถม้าไม่เป็นเจ้าค่ะ หรือคุณหนูจะไปหาซื้อทาส ที่เป็นบุรุษสักสองคนเจ้าคะ หากมีรถม้าต้องมีคนดูแลเรื่องทำความสะอาด และหาอาหารให้ม้ากิน ส่วนอีกคนก็ทำหน้าที่เป็นพ่อบ้าน คอยดูแลจวนยามคุณหนูไม่อยู่” หนิงอวี่เสนอความเห็นเรื่องการซื้อหาทาสมาทำงานเพิ่ม

“ข้าเห็นด้วยเจ้าค่ะที่พวกเราควรมีคนมาเพิ่ม เอาเป็นว่ากลับไปถึงจวนและซื้อรถม้าเสียก่อน จากนั้นค่อยไปซื้อทาสอย่างที่พี่หนิงอวี่เสนอ”

“เจ้าค่ะ/เจ้าค่ะ”

เมื่อได้ข้อสรุปทั้งสามคนจึงเข็นรถกลับจวน ไม่สนใจขบวนเดินทางอันยาวเหยียดอีกต่อไป ซึ่งข้อเสนอของหนิงอวี่ผู้เป็นเจ้านายมิได้คิดถาม แต่นางจะไม่ซื้อเพียงสองคน เพราะยังมีงานอื่น ๆ อีกมากให้ทำ ที่สำคัญจ้าวจางหมิ่นต้องทำบางอย่าง ก่อนที่จะมีบ่าวในเรือนเพิ่มขึ้นมา

นั่นคือการเจ้าระบบออนไลน์ขั้นเทพ สั่งซื้อเครื่องบดเนื้อหมูหม้อใบใหญ่ และอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการทำลูกชิ้น  เนื่องจากจ้าวจางหมิ่นไม่อาจเรียกใช้ระบบพร่ำเพรื่อได้อีก แต่มีสิ่งหนึ่งที่ระบบนำมาเสนอกับนางแลกกับเงินรางวัลก้อนโต หลังจากจ้าวจางหมิ่นกดซื้อสิ่งที่ต้องการครบแล้ว

[ติ๊ง ระบบมีข้อเสนอพิเศษ โดยมีเงินรางวัลหนึ่งหมื่นตำลึงทอง เมื่อท่านรับทำภารกิจและสามารถทำได้สำเร็จ หากสนใจกดหนึ่ง ไม่สนใจกดสอง]

ภารกิจพิเศษอันใดกัน ถึงมีเงินรางวัลตั้งหนึ่งหมื่นตำลึงทอง แต่ก็น่าสนใจไม่น้อยลองดูหน่อยก็แล้วกัน

ตื้ด

“ข้าสนใจรับทำภารกิจพิเศษนี้ ว่าแต่มันคือภารกิจอันใดเล่าระบบ เจ้าช่วยอธิบายให้มากกว่านี้ได้ไหม”

[ภารกิจคือช่วยเหลือบุตรชายขุนนางใหญ่ นำตัวมารักษาและส่งคนคืนครอบครัว]

“ห๋า!! นี่ระบบแล้วข้าจะรู้ได้อย่างไร ว่าคนไหนคือบุตรชายขุนนางใหญ่ ไหนจะบาดเจ็บมากหรือน้อย จากอาวุธของมีคมหรือถูกวางยาพิษ ข้าไม่มีตาวิเศษที่มองปราดเดียวก็รู้ได้หรอกนะ” จ้าวจางหมิ่นอึ้งตะลึงกับภารกิจพิเศษนี้ นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเงินรางวัลถึงสูงนัก

[ท่านลืมไปหรือไม่ว่าข้าคือระบบออนไลน์ขั้นเทพ ท่านอยากได้อุปกรณ์ช่วยเหลือแบบไหน สามารถเลือกซื้อได้มิใช่หรือ]

“ไอหยา นี่ข้าความจำเลอะเลือนหรืออย่างไร มีตัวช่วยระดับเทพแท้ ๆ ดันลืมเสียได้ เช่นนั้นเจ้าช่วยจัดยาถอนพิษ ยารักแผลชนิดต่าง ๆ ยากินยาทาเอามาให้หมด แล้วก็ยังมีเครื่องสแกนขนาดพกพา ที่ช่วยตามหาคุณชายท่านนี้ได้ พร้อมบอกข้อมูลจำเพาะให้รู้อัตโนมัติ เพราะข้าจะใช้มันคัดเลือกคนมาเป็นบ่าวเพิ่ม” จ้าวจางหมิ่นบอกสิ่งที่นางต้องการ เพื่อให้ระบบค้นหาและนำออกมาให้กับนาง

[ระบบกำลังทำการค้นหา ติ๊ง สิ่งที่ท่านต้องการวางอยู่ในช่องเก็บของแล้ว เนื่องจากเป็นภารกิจพิเศษสิ้นค้าที่เลือกซื้อ จึงมีส่วนลดให้ทั้งหมดเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ต้องการจ่ายเงินทันทีหรือหักจากเงินรางวัล]

“โอ้โห ลดตั้งเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ยังมีราคาเกือบห้าร้อยตำลึงทอง ข้ายอมให้หักจากเงินรางวัลก็แล้วกัน ถึงอย่างไรข้ามั่นใจว่าภารกิจนี้ทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน” เมื่อมีเครื่องมือที่นางต้องการ ภารกิจจะไม่สำเร็จได้อย่างไร

[ติ๊ง กรุณาสแกนลายนิ้วมือเพื่อลงนามในสัญญา]

ฟึบ ฟึบ

[การทำสัญญาเสร็จสมบูรณ์ พบกันอีกครั้งเมื่อท่านต้องการ ติ๊ง]

แหมมม ขายตรงเสร็จก็รีบไปเชียวนะ

หลังจากรับภารกิจเรียบร้อย จ้าวจางหมิ่นจึงสวมเสื้อคลุมอย่างมิดชิด และให้สาวใช้พาไปยังโรงค้าทาส ที่ตั้งอยู่ทางด้าน

ทิศตะวันตกของเมืองเหอเฟย โดยไม่ลืมอุปกรณ์พิเศษในการตามหาคน

โรงค้าทาสขนาดใหญ่ถูกล้อมด้วยกำแพงสูง ด้านในเต็มไปด้วยเสียงโซ่เหล็กที่เสียดสีกัน เสียงตะโกนจากเหล่าผู้คุม และเสียงร้องของทาสที่ถูกข่มขู่และทุบตี เมื่อไม่เชื่อฟังคำพูดของผู้คุม

ท่ามกลางความมืดที่ครอบคลุม โรงค้าทาสมีกลิ่นอับชื้นของเหงื่อและสิ่งสกปรก ร่างกายของทาสที่ถูกจับไว้แน่นในกรงเหล็ก ทำให้ภาพที่เห็นยิ่งน่าสะเทือนใจ ทาสเหล่านี้ส่วนมากเป็นบ่าวไพร่ที่ทำผิด และถูกเจ้านายขายออกมา หรือเป็นลูกหลานชาวบ้านที่ถูกล่อลวงมาขาย

ทั้งสามคนไม่เคยมาสถานที่เช่นนี้ เมื่อเห็นลูกจ้างหน้าตาดุร้ายด้านหน้า ก็ตัวสั่นแต่พยายามข่มความกลัวเอาไว้

“พวกเจ้าสามคนมาที่นี่ต้องการซื้อทาส ไถ่ตัวญาติพี่น้องหรือนำคนมาขายรึ”

“เอ่อ พี่ชายพวกข้ามาหาซื้อทาสบุรุษ ไปทำงานในจวนเพิ่มให้เจ้านายน่ะ พวกท่านพอจะพาเข้าไปเลือกดูได้หรือไม่” ฮุยอินเป็นคนเจรจากับลูกจ้างหน้าดุคนนี้

“โอ้ วันนี้เจ้าเป็นลูกค้าคนแรกของที่นี่ เจ้าอยากได้ทาสลักษณะเช่นไรพอจะบอกได้หรือไม่ ข้าจะได้พาเจ้าไปดูทาสที่เจ้าต้องการ”

“เอ่อ คุณหนูต้องการทาสเช่นใดเจ้าคะ บ่าวลืมถามไปเสียสนิทเจ้าค่ะ” ฮุยอินได้ยินคำถามที่เจาะจงลักษณะของทาส ก็หันไปถามกับจ้าวจางหมิ่น

“ข้าต้องการทาสบุรุษอายุไม่เกินสี่สิบปี ร่างกายแข็งแรงและมีวรยุทธ์จำนวนสิบคน คนที่ทำงานเป็นพ่อบ้านหนึ่งคน แม่ครัวและสาวใช้ที่รู้งานไม่ปากมากอีกห้าคน” จ้าวจางหมิ่นบอกคุณลักษณะของทาส ที่นางต้องการซื้อตัวกลับจวนกับผู้คุมของที่นี่

“เช่นนั้นเชิญตามข้าไปทางด้านหลัง ทาสเหล่านี้ถูกแยกจากทาสใช้แรงงาน” ลูกจ้างของที่นี่พาทั้งสามเดินอ้อมไปด้านหลังทันที

พอได้มาเห็นส่วนที่แยกไว้สำหรับทาสที่เป็นบุรุษ ทำเอาสามคนนายบ่าวถึงกับพูดไม่ออก เพราะพวกเขาถูกโซ่ตรวจที่หนามาก ล่ามที่ข้อเท้าไว้ทุกคนและดูจากสภาพร่างกาย เต็มไปด้วยบาดแผลถูกโบย รวมถึงท่าทางอ่อนเพลีย สาเหตุคงไม่พ้นการคิดหนีและอาหารที่ได้รับ

“เชิญลูกค้าเลือกดูก่อน หากท่านถูกใจทาสคนไหนให้บอกข้าทันที ลูกน้องที่ดูแลจะช่วยนำตัวออกมาให้ท่าน”

ฮุยอินรับหน้าที่เป็นคนพูดคุยกับลูกจ้างผู้นี้ “ขอบคุณพี่ชายมาก ขอพวกเราคัดเลือกคนสักประเดี๋ยวนะ”

“ตามสบายไม่ต้องรีบร้อน ทาสในส่วนนี้ล้วนมีฝีมือการต่อสู้ไม่เลว พวกท่านซื้อไปไม่ผิดหวังแน่นอน”

จ้าวจางหมิ่นไม่สนใจว่าลูกจ้างคนนี้ จะพูดข้อดีของทาสกลุ่มนี้ว่าอย่างไร เพราะตั้งแต่เดินตามมาถึงกรงขังทาส นางก็กดใช้เครื่องสแกนขนาดเล็กในมือ ซึ่งมันสามารถบอกชื่อ เพศ อายุ และความผิดที่ถูกจับมาขายที่นี่ จ้าวจางหมิ่นไม่ต้องการให้ผู้คุมคนนี้จับผิดนางได้

จึงแสร้งคัดเลือกทาสบุรุษอายุไม่เกินสี่สิบปีได้สิบคน อดีตพ่อบ้านจวนขุนนางอายุสี่สิบปี และแม่ครัวรวมสาวใช้ห้าคน ซึ่งทั้งสิบหกคนนี้มีเครื่องสแกนรับรองแล้วว่า เป็นคนดีที่ถูกใส่ร้ายและรับผิดแทนเจ้านาย ส่วนเรื่องความซื่อสัตย์พวกเขาย่อมมีให้นางเต็มสิบส่วน

จนกระทั่งเดินเลยมาอีกไม่ไกล ในกรงขังมีเด็กหนุ่มและคาดว่า จะหล่อเหลาไม่น้อยเมื่อถึงวัยสวมกวาน อีกสองคนมีอาการบาดเจ็บพอสมควร แม้ใบหน้าจะไม่หล่อเหลา แต่ก็ดูดีมากกว่าบุตรหลานชาวบ้านทั่วไป ที่สำคัญข้อมูลบนหน้าจอได้บอกจ้าวจางหมิ่นว่า เด็กหนุ่มที่ดวงตาแข็งกร้าวแฝงไปด้วยความเคียดแค้นผู้นี้ คือบุตรชายขุนนางใหญ่ในภารกิจพิเศษของนาง

“ชะ ช่วยคุณชายของข้าด้วยเถิด”

“ได้โปรดขอเพียงท่านช่วยคุณชายของข้า ชาติหน้าข้าจะขอเป็นทาสรับใช้คุณหนูจนวันตาย”

“หุบปาก! ใครอนุญาตให้พวกเจ้าพูด หากยังกล้าอ้าปากพ่นคำไร้สาระออกมา รับรองว่าบนตัวพวกเจ้าจะมีแผลเพิ่มทันที”

เมื่อเห็นเช่นนี้ผู้รับภารกิจพิเศษ จำต้องช่วยออกมาทั้งสามคน อย่างน้อยจ้าวจางหมิ่นก็ได้รู้ว่า อีกสองคนที่บาดเจ็บหนัก คงเป็นคนสนิทของคุณชายท่านนี้

ครั้งนี้จ้าวจางหมิ่นเป็นผู้เอ่ยถามด้วยตนเอง “ท่านอาไม่ทราบว่าสามคนในกรงนี้ ตั้งราคาขายไว้ที่เท่าใดหรือ”

“หืม ทาสสามคนนี้เช่นนั้นหรือ นายท่านของข้าตั้งราคาขายไว้ห้าร้อยตำลึงทอง”

“ห๋า!! ห้าร้อยตำลึงทอง!” ทั้งนายทั้งบ่าวตกใจกับราคาไม่แพ้กัน

“ไอหยา พวกท่านไม่รู้อะไร สามคนนี้ถูกส่งมาจากเมืองหลวงเชียวนะ ฉะนั้นจะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร”

“ท่านอาช่วยลดราคาอีกนิดเถิด ท่านดูสิพวกเขาบาดแผลเต็มตัว ไม่ว่าข้าหรือใครซื้อไปย่อมเสียตำลึงพาไปรักษานะ” จ้าวจางหมิ่นเริ่มต่อรองราคาตามประสาคนเป็นแม่ค้า

“เอ่อ แต่ว่า”

“นี่ท่านอา ไม่มีใครอยากได้ทาสที่บาดเจ็บ และต้องเสียเงินรักษาเช่นข้าแล้วล่ะ หากมิใช่ว่าข้าอยากมีองครักษ์ ที่อายุไม่ห่างจากข้าจนเกินไปก็คงไม่ตัดสินใจซื้อหรอก สามร้อยตำลึงทองขาดตัวว่าอย่างไร” พอราคาที่จ้าวจางหมิ่นพูดออกไป แต่ละคนมีสีหน้าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“โธ่ คุณหนูน้อยราคานี้คงขายไม่ได้จริง ๆ”

จ้าวจางหมิ่นเห็นผ่านหน้าจอเครื่องสแกนแล้ว ว่าราคาขายของทั้งสามคนไม่ถึงห้าร้อยตำลึงทอง เนื่องจากต้องการขายออกไปให้เร็วที่สุด ป้องกันคนที่กำลังคิดจะตามหาพวกเขามาเจอ หมับ!

“ท่านอา เห็นแก่เด็กอย่างข้าที่อยากมีเพื่อนเล่นเถิดนะ ๆ ๆ”

สิ่งที่ถูกยัดเข้ามาในมือหยาบหนา ทำให้การขายถูกตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

“ในเมื่อคุณหนูน้อยมีเมตตาเช่นนี้ สามร้อยตำลึงทองถือว่าเป็นราคาที่ถูกต้องแล้ว เชิญพวกท่านกลับไปรอที่ห้องโถงด้านหน้าเถิด ประเดี๋ยวข้าจะให้ลูกน้องนำตัวทาสทั้งหมดตามไป แล้วค่อยคิดเงินทั้งหมดพร้อมหนังสือสัญญาของทาสทุกคน”

“ขอบคุณท่านอาที่เข้าใจเจ้าค่ะ”

เข้าใจกับผีน่ะสิ ขอแค่มีเงินสินบนนิด ๆ หน่อย ๆ พวกเจ้าก็ยอมขายคนอย่างง่ายดายแล้ว ตายไปจะตกนรกอเวจีขุมไหนกัน

จ้าวจางหมิ่นเดินกลับมาที่ห้องโถงพร้อมสาวใช้ เพื่อรอจ่ายเงินค่าตัวทาสทั้งสิบหกคน ไม่นานทาสผู้อ่อนระโหยโรยแรง ก็เดินตามกันมาอย่างทุลักทุเล โดยเฉพาะเด็กหนุ่มสองคนที่บาดเจ็บ จึงมีทาสที่ยังพอมีแรงเข้าไปช่วยพยุงเอาไว้ ไม่ให้ล้มลงกลางทางเสียก่อน

“แหะ ๆ ๆ คุณหนูน้อย ทาสทั้งหมดของท่านอยู่ที่นี่แล้วขอรับ”

“เชิญท่านอาแจ้งราคามาเถิด ข้ายังมีงานอีกมากที่ต้องทำ จะรั้งอยู่ที่นี่นานไม่ได้” ใครมันจะอยากอยู่ในสถานที่อันน่าหดหู่แห่งนี้นาน ๆ

“ราคาของทาสที่คุณหนูน้อยได้ซื้อวันนี้ รวมทั้งหมดสามร้อยหกสิบสองตำลึงทอง และนี่เป็นหนังสือประจำตัวของทาสแต่ละคนขอรับ”

ปึก!

“นี่เป็นเงินสามร้อยหกสิบสองตำลึงทอง ไม่ขาดไม่เกินเมื่อจ่ายเงินแล้วข้าต้องขอตัวกลับก่อน” จ้าวจางหมิ่นวางเงินลงบนโต๊ะ และมองมันด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

“ขอบคุณคุณหนูน้อย ไว้มาอุดหนุนอีกนะค่อย ๆ เดินขอรับ”

จ้าวจางหมิ่นรีบเก็บหนังสือสัญญาทั้งหมด และเดินนำทุกคนออกมาด้านนอกทันที และนางไม่ลืมให้คนที่เป็นพ่อบ้าน กับบุรุษที่ยังมีแรงอีกสองสามคน นำเงินไปซื้อเสื้อผ้าใหม่สำหรับพวกเขาคนละสองชุด ส่วนคนที่เหลือตามนางกลับไปรอที่จวน

แม้จะรู้สึกได้ถึงสายตาของคนบางคน ที่มีข้อสงสัยในตัวนางมองตามอยู่ตลอดเวลา แต่จ้าวจางหมิ่นไม่ได้เก็บมาใส่ใจมากนัก นางรอให้พวกเขากลับไปถึงจวนเสียก่อน ค่อยพูดคุยทำความเข้าใจในสิ่งที่นางต้องการ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นเศรษฐีนีในยุคโบราณ   ตอนพิเศษ 2 ขอบคุณที่มีบุรุษเช่นท่าน

    จ้าวจางหมิ่นพาทุกคนออกเดินทางอีกครั้ง และมาถึงเมืองหลวงตอนกลางยามเหม่า จึงได้ปลุกทุกคนให้ตื่นเพื่อเตรียมตัวผ่านประตูเมือง ซึ่งเสิ่นหนิงเทียนใช้ป้ายประจำตำแหน่ง ในการเปิดทางให้จ้าวจางหมิ่น ขับพาหนะแปลกประหลาดเข้าเมืองหลวง โดยได้สร้างความประหลาดใจให้ผู้คนที่พบเห็นอีกครั้งเมื่อรถตู้สีดำสนิทหยุดลงที่หน้าจวนเสิ่นอันโหว บ่าวที่เฝ้าหน้าประตูจวนจึงรีบวิ่งไปตามพ่อบ้านมาทันที“ไหน ๆ สิ่งแปลกประหลาดที่วิ่งได้ พวกเจ้าอย่าได้โกหกข้าเชียว”“ท่านพ่อบ้านข้าจะโกหกไปทำไมกัน ก็เจ้านั่นมันหยุดอยู่หน้าจวนจริง ๆ นะขอรับ”พ่อบ้านเสิ่นเมื่อวิ่งตามบ่าวออกมา ก็พบเสิ่นหนิงเทียนยืนอยู่กับจ้าวจางหมิ่น “คารวะคุณชาย ๆ ที่แท้เป็นท่านเองหรือนี่ บ่าวคิดว่าเจ้าพวกนี้โกหกเสียอีก เอ่อ คุณหนูผู้นี้คือ?”“นางก็คือนายหญิงจ้าวคู่หมั้นของข้าเอง และเป็นเจ้าของสีทาบ้านที่งดงามอย่างไรเล่า”“โอ้ว คารวะนายหญิงจ้าวขอรับ เชิญคุณชายกับนายหญิงจ้าวที่โถงรับแขกเถิด ป่านนี้นายท่านกับฮูหยินคงรู้เรื่องนี้ จากพวกสาวใช้ในจวนแล้วขอรับ”“อืม หมิ่นเอ๋อร์เข้าไปพักด้านในก่อนเถิด เจ้าคงเหนื่อยไม่น้อยเพราะขับเจ้ารถนี่เพียงลำพัง”“เจ้าค่ะพี่ชายเสิ่

  • ทะลุมิติมาเป็นเศรษฐีนีในยุคโบราณ   ตอนพิเศษ 1 พาเสิ่นหนิงเทียนนั่งรถกลับเมืองหลวง

    ณ เมืองหลวงแคว้นเฉินภายหลังสินค้าจำนวนมากบนรถบรรทุก ที่สามารถมาถึงเมืองหลวงได้ในเวลาอันรวดเร็ว ก็ได้สร้างปรากฏการณ์แตกตื่นขึ้น เนื่องจากรถบรรทุกไม่สามารถเข้าประตูเมืองได้ จึงต้องจอดเรียงรายอย่างเป็นระเบียบอยู่ภายนอกกำแพงเมือง โดยหยางไห่รับหน้าที่เข้าไปรายงานต่อเสิ่นฮูหยินที่จวนเสิ่นอันโหวรู้สึกแปลกใจมากกับเรื่องนี้ เพราะไม่น่าเป็นไปได้ที่สินค้าจากเมืองชายแดน จะมาถึงเมืองหลวงได้รวดเร็วในเวลาไม่กี่วัน จึงได้ตามเสิ่นฮูหยินออกมาดูด้วยตาตนเอง ว่าที่หยางไห่บอกกับพวกเขานั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่เมื่อหยางไห่พาเสิ่นอันโหวและเสิ่นฮูหยิน ออกมาเจอกับรถบรรทุกขนาดใหญ่ ทำเอาทั้งสองคนตกตะลึงพูดอันใดไม่ออกไปชั่วขณะ แต่เป็นเสิ่นฮูหยินที่เรียกสติของตนกลับมาได้“หยางไห่เจ้าบอกว่าสินค้าที่อยู่บนรถ รถอะไรนะ?”“อ้อ นายหญิงเรียกมันว่ารถบรรทุกขอรับเสิ่นฮูหยิน” หยางไห่ตอบตามที่เขาจดจำมาจากคำพูดของจ้าวจางหมิ่น“ชะ ชะ ใช่เจ้ารถบรรทุก สินค้าที่ต้องส่งเข้าวังหลวงทั้งหมด อยู่บนหลังรถบรรทุกตรงหน้านี้ และนี่เป็นสิ่งที่หมิ่นเอ๋อร์จัดการด้วยตนเองงั้นรึ”หยางไห่ยืดอกตอบอย่างฉะฉาน “ถูกต้องแล้วขอรับเสิ่นฮูหยิน นายหญิงขอ

  • ทะลุมิติมาเป็นเศรษฐีนีในยุคโบราณ   ตอนที่ 49 รักแท้มีอยู่ในโลกแห่งนี้สินะ (จบ)

    คำสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากของเสิ่นฮูหยิน ถูกส่งผ่านนกพิราบสื่อสารของร้านอาหารหงอวิ้นไหล ซึ่งคำสั่งซื้อนี้มาถึงจวนตระกูลจ้าวแห่งเหอเฟย ขณะที่จ้าวจางหมิ่นกำลังสอนลูกจ้าง ฝึกทำปอเปี๊ยะทอดสำหรับเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย ที่จะทำขายเพิ่มในร้านอาหารของนางเซิ่งปินที่ดูแลความเรียบร้อยของเรือนใหญ่ เมื่อเห็นนกพิราบบินมาเกาะยังกิ่งไม้ต้นเดิม ก็เดินไปหยิบจดหมายจากกระบอกไม้เล็ก ๆ และนำมามอบให้จ้าวจางหมิ่นยังห้องครัว“นายหญิงขอรับ มีจดหมายจากเมืองหลวงเพิ่งมาถึงที่นี่ขอรับ”จ้าวจางหมิ่นรับมาเปิดอ่านด้วยท่าทางปกติ แต่เพียงชั่วพริบตาก็เริ่มตาโตจากข้อความในจดหมาย “โอ้ว! แม่เจ้า เงินทองไหลมาเทมาหาพวกเราได้ทุกวันสิน่า”คนที่ทนไม่ไหวมากที่สุดคงหนีไม่พ้นสาวใช้ทั้งสอง และฮุยอินจึงถามเพื่อคลายความสงสัยแทนทุกคน “นายหญิงเจ้าคะ ที่ท่านพูดมาหมายความว่าเช่นไรหรือเจ้าคะ ท่านถึงดูตกใจและดีใจในเวลาเดียวกันเช่นนี้”จ้าวจางหมิ่นเงยหน้ามองทุกคนในห้องครัว ที่เฝ้ารอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ “นี่เป็นจดหมายจากมารดาของพี่ชายเสิ่น บอกเอาไว้ว่าฮ่องเต้ทรงต้องการสีทาบ้านจำนวนหนึ่งหมื่นถังเจ้าค่ะ”“ห๋า!! หนึ่งหมื่นถัง!!”หย่างไห่ถึงกับละล่ำ

  • ทะลุมิติมาเป็นเศรษฐีนีในยุคโบราณ   ตอนที่ 48 ชื่อเสียงโด่งดังร่ำรวยเงินทอง

    การเปิดกิจการสีทาบ้านของจ้าวจางหมิ่นครั้งนี้ มิได้มีการจัดงานหรือจุดประทัดให้เสียงดังแต่อย่างใด นางเพียงอาศัยร้านอาหารเป็นตัวอย่างสินค้า และการตอบคำถามของเหล่าลูกจ้าง เมื่อมีลูกค้าในร้านอาหารสอบถามเท่านั้นเพียงเท่านี้ก็มีลูกค้ามาต่อแถวซื้อสีทาบ้าน จนพ่อบ้านห้าวต้องให้เหล่ยหง รวมถึงลูกจ้างอีกหลายคนในจวน ออกมาช่วยกันจัดระเบียบแถวของลูกค้า เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ในวันแรกที่เปิดขายสีทาบ้าน จ้าวจางหมิ่นได้กำไรถึงหลักพันตำลึงทองหนิงอวี่ที่ได้ช่วยนายหญิงของตนทำบัญชี ยังอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ “โอ้ว นายหญิงเจ้าคะบ่าวมิได้คิดเลขผิดใช่หรือไม่ เพียงแค่ท่านเปิดขายสีทาบ้านวันแรก จากการพูดปากต่อปาก ก็ได้กำไรมากมายเช่นนี้แล้วนะเจ้าคะ”ฮุยอินที่นับทั้งก้อนเงินและตั๋วเงิน เพื่อให้ตรงกับบัญชีรายรับในมือของสหาย ยังคงมีอาการตื่นเต้นดีใจไม่หาย “นั่นสิเจ้าคะนายหญิง นี่ท่านเพิ่งขายให้คนในเมืองเหอเฟยเท่านั้น ยังได้กำไรหลักพันตำลึงทองแล้ว บ่าวไม่อยากจะคิดเลยว่าเมื่อสีทาบ้านไปถึงเมืองหลวง เหล่าขุนนางหรือคนที่ฐานะร่ำรวยไม่มีทางที่จะไม่อยากได้นะเจ้าคะ คงมีคนสั่งซื้อสินค้าชนิดนี้จำ

  • ทะลุมิติมาเป็นเศรษฐีนีในยุคโบราณ   ตอนที่ 47 นายหญิงจ้าวเปิดกิจการเพิ่ม

    เรื่องการลงโทษสาวใช้ของเสิ่นหนิงเทียน บ่าวไพร่ในจวนปิดปากเงียบสนิท ไม่มีใครกล้าพูดหรือนำไปเล่าต่อแต่อย่างใด เนื่องจากพวกเขายังอยากมีชีวิต ทำงานแลกเงินส่งให้ครอบครัวและก่อนจะแยกย้ายกันเพื่อพักผ่อน จ้าวจางหมิ่นจึงบอกเสิ่นหนิงเทียนว่า นางมีเรื่องอยากพูดคุยกับเขาเล็กน้อย “พี่ชายเสิ่นเจ้าคะ รบกวนท่านอยู่พูดคุยกับข้าสักประเดี๋ยวเถิดเจ้าค่ะ”เมื่อเห็นว่ายังไม่ดึกมากเสิ่นหนิงเทียนจึงนั่งลงที่เดิม “ได้สิ ว่าแต่หมิ่นเอ๋อร์มีเรื่องอันใดจะคุยกับพี่งั้นหรือ”“ไม่มีอันใดมากหรอกเจ้าค่ะ ข้าแค่มีของมอบให้ท่านเล็กน้อย เพื่อขอบคุณที่ท่านอุตส่าห์ยกปิ่นปักผมให้ ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นของมีค่ากับท่านมาก ข้าจึงอยากตอบแทนสิ่งที่คล้ายกันกลับไปให้ท่านบ้างเจ้าค่ะ” จ้าวจางหมิ่นพูดจบก็หันไปรับกล่องไม้ ที่หนิงอวี่กลับไปหยิบจากในห้องพักมาให้นางเสิ่นหนิงเทียนมองกล่องไม้ในมือบาง พร้อมกับเลิกคิ้วเข้มด้วยความอยากรู้ ว่าสิ่งที่อยู่ด้านในนั้นคืออันใดกันแน่ “เจ้านำสิ่งใดมาให้พี่เช่นนั้นหรือ ความจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นสิ่งของชิ้นใด ล้วนไม่สำคัญเท่ากับเจ้าหรอกนะหมิ่นเอ๋อร์”“ท่านรับไว้เถิดเจ้าค่ะ เพราะข้าตั้งใจมอบให้ท่านจริง ๆ”

  • ทะลุมิติมาเป็นเศรษฐีนีในยุคโบราณ   ตอนที่ 46 มีสตรีอยากปีนเตียงท่านแม่ทัพ

    หลังจากเห็นว่าจ้าวจางหมิ่นนอนหลับสนิท เสิ่นหนิงเทียนย้อนกลับไปที่เดิมอีกครั้ง เพื่อจัดการกับพวกหมิงเฉียว แต่เขากลับพบกับความว่างเปล่า คนตั้งมากมายกลับหายไปอย่างไร้ร่อยรอย แม้แต่เลือดสักหยดยังไม่มีให้เห็น “เป็นไปได้อย่างไรกัน? คนหลายสิบคนหายไปพร้อมกัน ใครจะมีความสามารถจัดการได้รวดเร็วเช่นนี้”เสิ่นหนิงเทียนจึงเดินกลับด้วยความงุนงง และมีข้อสงสัยมากมายอยู่ในใจของเขา ว่าเหตุการณ์ประหลาดนี้ เป็นฝีมือของคนหรือภูตผีปีศาจกันแน่ เสิ่นหนิงเทียนรู้สึกเสียดายไม่น้อย ที่คนของตนกลับนอนหลับสนิท ไม่มีทีท่าจะตื่นขึ้นมาสักนิด มิเช่นนั้นเขาคงได้รู้ว่าเป็นฝีมือของผู้ใดเมื่อยามเช้ามาถึงภายหลังจัดการเรื่องอาหารมื้อเช้า ทุกคนช่วยกันเก็บของทั้งหมดเพื่อเดินทางต่อ โดยไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงอันใดอีก ครั้งนี้ใช้เวลาเดินทางกลับเร็วกว่าเล็กน้อย แต่พวกเขามาถึงเมืองฟู่ชิงในเขตชายแดนแคว้นเฉิน ก็เข้าสู่ปลายยามเซินแล้ว เสิ่นหนิงเทียนไม่อยากให้จ้าวจางหมิ่นเดินทางยามค่ำคืน จึงได้เชิญนางพักเสียที่จวนของตน“หมิ่นเอ๋อร์ตอนนี้ใกล้จะมืดค่ำเข้าไปทุกที เจ้ากับคนอื่น ๆ พักเสียที่จวนของพี่เถิด พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับเมืองเหอเฟยจะดีกว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status