หลังจากผ่านสนามรักอันร้อนระอุ ฮั่วเฉาซีได้เอนศีรษะพิงอกเขาอย่างเหนื่อยอ่อน ปลายนิ้วลูบวนบนแผงอกเขาอย่างเผลอไผล ชายหนุ่มกอดเธอไว้แน่นมือข้างหนึ่งลูบเรือนผมของเธอเบา ๆ“หากร้านขายดีเช่นนี้อีกไม่ถึงครึ่งเดือน ของที่มีอยู่คงหมดแน่” เขาพูดเสียงแผ่ว ดวงตาทอดมองเพดานไม้เหนือหัวอย่างครุ่นคิด“ข้าไม่มีความรู้ด้านการทำเครื่องประดับเลย จึงจำเป็นต้องเดินทางไปพบพ่อค้าในต่างเมือง ข้ารู้จักช่างฝีมือดีอยู่หลายคน หากเราได้ตัวพวกเขามาช่วยร้านเราจะต้องดีขึ้นเป็นแน่” เฉาซีเลื่อนสายตาขึ้นไปสบตาเขาช้า ๆ “ท่านจะออกเดินทางอีกหรือ” เขาหันมามองเธอแล้วยิ้มบาง ๆ ส่งให้ “ไปเพียงไม่นาน ข้าอยากให้ร้านนี้มีของดีมาขายอย่างต่อเนื่อง ข้าอยากเห็นเจ้ามีความสุขกับที่นี่” เฉาซีเงียบไปอึดใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบา“ซูอวี่.. หากข้าต้องการตัวอาเซี่ยท่านให้ข้าได้หรือไม่” เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถาม“อาเซี่ยงั้นหรือ เจ้าหมายถึงทาสผู้นั้นที่อยู่บนเรือใช่หรือไม่”“ใช่” เธอพยักหน้า “ในตอนที่อยู่ใต้ท้องเรือ ข้าเห็นแบบเครื่องประดับที่นางเคยวาด มันละเอียดและสวยงามมาก หากได้ฝึกอีกหน่อยนางจะสามารถเป็นนักออกแบบของเราได้” เขานิ่งไ
ตอนที่ 25สตรีสูงศักดิ์หลังจากผ่านมื้ออาหาร นางได้พาเด็ก ๆ ขึ้นไปชั้นบนปล่อยให้พวกเขาเข้านอนในห้องฝั่งขวา และหลังจากแน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อย เธอจึงส่งสัญญาณให้พี่เลี้ยงดูแลต่อสองเท้าเดินลงบันไดมาอย่างแผ่วเบา ภายใต้แสงจันทร์สลัวที่สาดผ่านหน้าต่าง เธอก้าวเข้ามาในโถงชั้นล่างที่เต็มไปด้วยหีบสินค้าต่างแคว้นกลิ่นหอมจากไม้หอมจาง ๆ ลอยมาแตะปลายจมูก ก่อนที่สองเท้าจะหยุดหน้าหีบใบหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้มุมผนัง เมื่อเปิดฝากล่องช้า ๆ แล้วแสงสีมุกก็สะท้อนแวววาวขึ้นมาทันทีไข่มุกจากแคว้นฉินที่ขาวนวลเหมือนหิมะ ก่อนจะเอื้อมไปเปิดหีบอีกใบที่ด้านในบรรจุมุกดำลึกจากทะเลทางใต้ ก่อนจะเปิดหีบอีกใบที่มีมุกสีชมพูอ่อนจากแคว้นเว่ย นางหยิบทุกอย่างมาวางเรียง ต่างหู สร้อย กำไล และปิ่นปักผมมาจัดเรียงแล้วพิจารณา“แม้จะดูแปลกตาไปหน่อย แต่เมื่ออยู่รวมกันกลับงดงามเพียงนี้เชียวหรือ” นางพิจารณาอยู่เพียงครู่ ก็นำสินค้าชุดนั่นไปวางลงบนชั้นโชว์สูงสุดตรงหน้าร้านแสงเทียนที่ส่องกระทบทำให้เครื่องประดับยิ่งดูโดดเด่น ขณะที่เธอกำลังถอยหลังดูผลงานอย่างพอใจนั้นก็สัมผัสได้ถึงอ้อมแขนอบอุ่นที่สวมกอดเธอจากด้านหลังโดยไม่ให้ตั้งตัวแต่เพ
ในช่วงเช้านั้นยังไม่มีใครกล้าเข้ามาในร้านเช่นเดิม รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มีใครเดินเข้ามา ชายหนุ่มมองเฉาซีที่พาเฟยเฟยเดินออกไปเรียกลูกค้าด้านนอก แต่เรียกอยู่นานก็ไม่มีใครสนใจ สองเท้าก้าวเดินตามนางออกไป ก่อนจะสบสายตากับหญิงชาวบ้านที่เดินผ่าน เขายกยิ้มพิมใจส่งให้พวกนางเล็กน้อย“สตรีที่งดงามเช่นพวกท่าน หากมีเครื่องประดับตกแต่งเสียหน่อยรับรองว่างดงามหาผู้ใดเปรียบ.. ท่านไม่สนใจเสี่ยงดวงเพื่อหาเครื่องประดับที่ถูกใจสักสองสามชิ้นหรือขอรับ” เฉาซีมองซูอวี่ที่เอ่ยคำหวานจนพวกนางนั้นเคลิ้มตัวบิด “เช่นนั้นข้าลองเสี่ยงสักกล่องก็ได้ ไหน ๆ ก็ผ่านมาแล้ว” “ข้าด้วย..”“ข้าก็เอาด้วย..” เธอมองใบหน้าของสามีตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เหตุใดท่านไม่ออกมาเรียกลูกค้าให้ไวกว่านี้กันเล่า!” นางกระซิบเบา ๆ ก่อนจะพาสตรีกลุ่มนั้นเดินเข้าไปในร้าน พวกนางเลือกกล่องเครื่องประดับก่อนจะจ่ายเงินแล้วเปิดกล่องออก“อุ๊ย! นี่มัน ๆ ปิ่นเงินฝังมุก! เจ้าดูสิ! แบบนี้ในร้านอื่นหลายตำลึงเลยนะ!”“จริงเหรอ” สตรีอีกคนหันไปมองด้วยตาลุกวาว ก่อนที่นางเองก็หันไปเลือกกล่องที่ต้องใจ “ของข้าได้ปิ่นเงินฝังทับทิม! เจ้าดูสิ สวยหรือไม่!”คนรอบข้างที
ตอนที่ 24กล่องบุญวาสนาเวลาผ่านไปอีกเกือบหนึ่งสัปดาห์ ร้านเจียงฮวายังคงเงียบไม่ต่างจากวันแรก แม้จะพยายามปรับราคาหรือเพิ่มของแถมมากแค่ไหนก็ตามลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาส่วนใหญ่เพียงแค่มอง แล้วก็จากไป ทำให้เถ้าแก่ร้านอย่างเฉาซีเริ่มเครียดกลางดึกคืนนี้แม้นางจะนอนอยู่ข้างสามี แต่ความกังวลก็ไหลวนในหัวไม่หยุด ในใจพึมพำซ้ำ ๆ ถ้าหากสามารถไลฟ์สดได้เหมือนปัจจุบันได้ก็คงดี“เฮ้อ~” นางถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า “เจ้าอย่าเครียดไปนักเลย.. คืนนี้พักผ่อนเสียหน่อย อย่าหักโหมมากนัก” ซูอวี่พูดราวกับกำลังปลอบใจ แต่หารู้ไม่ว่าน้ำเสียงของเขานั้นกลับดูตึงเครียดกว่านางเสียอีกฮั่วเฉาซีพยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนจะนอนกอดชายหนุ่มไว้แน่น และแล้วจู่ ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างออกมา‘กล่องสุ่ม!’ เฉาซีตาโตก่อนจะเด้งตัวขึ้นมานั่งกลางดึก เธอเหลือบสายตามองซูอวี่ที่แม้แต่นอนหลับสีหน้าก็ดูเคร่งเครียดตลอดเวลาเช้าวันต่อมานางรีบลากซูอวี่ขึ้นมานั่งที่โต๊ะในห้องโถง บนโต๊ะวางเครื่องประดับหลากหลายแบบเอาไว้เรียงกัน มีทั้งสร้อยคอ กำไล ต่างหู ปิ่นปักผม“ข้าคิดวิธีใหม่ได้แล้ว” เธอพูดตาเป็นประกายในขณะที่ซูอวี่นั้นขมวดคิ้วมุ่น“วิธีอะไรงั้นหรือ” เ
ตอนที่ 23การเริ่มต้นที่..“แล้วเสี่ยวซูชอบหรือไม่เล่า” เฉาซียิ้มพลางเอานิ้วจิ้มปลายจมูกเล็กของเด็กหญิง “ชอบมาก!”“ข้าก็ชอบ!” เสียงของไป๋จื้อและไป๋ฮวาแทบจะประสานกัน เฉาซีหัวเราะออกมาเบา ๆ ขณะนั้นเอง ซูอวี่และหลี่ซิวเจินก็ก้าวออกมาจากด้านในของเรือน เห็นภาพเด็ก ๆ กระโดดโลดเต้นกับเฉาซีก็พากันยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว“ต่อไปนี้ เรือนนี้จะเป็นของพวกเรา” ซูอวี่ที่เดินออกมาสมทบกับทุกคนเอ่ยออกมาเสียงนิ่ง แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกที่ดี“จริงหรือท่านพ่อ” ไป๋ฮวาแทบจะกระโจนใส่เฉาซีด้วยความดีใจไป๋จื้อเองก็หัวเราะร่า"จริงแน่นอน.. เรือนนี้จะเป็นของเจ้าทั้งสอง" และเป็นองค์ชายเจ็ดที่พูดเสริม เรียกเสียงหัวเราะดีใจให้กับพวกเขาเป็นอย่างมากหลังจากนั้นไม่นานซูอวี่ก็เริ่มสั่งช่างมาปรับปรุงเรือน ใช้เวลาเกือบหนึ่งเดือนเต็มจึงแล้วเสร็จ ตัวเรือนได้รับการขัดไม้ใหม่ เคลือบด้วยน้ำมันยางจนเงางาม ระเบียงชั้นบนตกแต่งด้วยม่านโปร่งสีอ่อน พื้นชั้นล่างแบ่งเป็นส่วน ส่วนหนึ่งเป็นโถงใหญ่สำหรับเปิดร้าน อีกส่วนตกแต่งเป็นมุมพักผ่อน ใช้เวลาย้ายข้าวจากเรือเข้ามาในร้านอยู่สองสามวันจนทุกอย่างเริ่มจะเข้าที่เข้าทางไม่น้อย“สวยมาก.. นี่ฝ
ตอนที่ 22หยางโจวหลังจากที่เฉาซียอมรับคำเชิญนั้น ชายผู้นี้ก็พาทุกคนเดินเลี้ยวไปตามตรอกซอกซอยที่ไม่ได้ห่างจากย่านการค้านัก แต่ตลอดเส้นทางนั้นก็ดูวังเวงเสียจนต้องระวังตัวขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ ยอดฝีมือสองคนที่ซูอวี่ส่งมาติดตามอยู่ห่าง ๆ ก็ถลึงตาแทบทะลุ มือของพวกเขากุมดาบแน่นเป็นการเตรียมพร้อมตลอดเวลาไม่นานนักชายผู้นั้นก็พามาหยุดที่เรือนไม้หลังหนึ่ง"ตรงนี้.." ชายหนุ่มว่าพลางพาเดินเข้าไปด้านในภาพที่ปรากฏเบื้องหน้ากลับไม่ใช่เพียงเรือนไม้โทรม ๆ แต่เมื่อเดินพ้นรั้วประตูมาแล้วพบว่าที่แห่งนี้มีลานกว้าง มีทั้งบ่อน้ำ ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น มีกำแพงสูงล้อมรอบ และตัวเรือนที่ถึงแม้จะทรุดโทรมไปบ้างแต่โครงสร้างยังแข็งแรง พื้นที่กว้างขวางกว่าที่เฉาซีคาดไว้มาก"ที่นี่.. คือที่ใดงั้นหรือ" นางพึมพำเบา ๆ ดวงตาเป็นประกาย"ที่แห่งนี้เป็นสมบัติของข้าเอง" ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ"แต่ข้านั้นไม่สะดวกดูแล จะปล่อยไว้ร้างก็น่าเสียดาย หากท่านต้องการเปิดร้านหรือที่อยู่อาศัยข้ายกให้ท่าน.. ขอเพียงน้ำใจเล็กน้อยช่วยข้าในภายภาคหน้า" เฉาซีเลิกคิ้วอย่างระแวงทันที "ช่วยเรื่องอะไรงั้นหรือ" ชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก"เรื่องนั้น.. เ