จากความรักกลายเป็นความเกลียด จากความเกลียดกลายเป็นความแค้น และก็เป็นเขาที่ฆ่าฮั่วเฉาซีให้ตายเองกับมือ "หากต้องมาใช้ชีวิตในโลกนี้แล้วต้องข้องเกี่ยวกับคนแบบนั้น.. เหยาเหยาคนนี้ไม่เอาด้วยหรอกนะ!"
ดูเพิ่มเติมตอนที่ 1
ฮั่วเฉาซี แสงเทียนในห้องนอนสลัวไหวในยามค่ำคืนที่เย็นจัด ข้างในห้องนอนนั้นเงียบงัน มีเพียงเสียงผ้าผืนบางที่ลากไปกับพื้นห้องที่เย็นเฉียบ ฮั่วเฉาซีค่อย ๆ ก้าวเข้ามาด้วยชุดนอนบางเฉียบที่แนบเนื้อทุกส่วน เธอแสร้งสะบัดแขนเสื้อราวกับเผลอ ทำให้เนินไหล่ขาวผ่องเผยออกมาเล็กน้อย "ท่านพี่.. คืนนี้ข้านอนไม่หลับเลยเจ้าค่ะ" เสียงของนางหวานจัดจนแทบเป็นยาพิษ ซูอวี่นั่งมองท่าทางของนางนิ่งอยู่บนเตียง ร่างกายกำยำเฉกเช่นบุรุษที่หาใดเปรียบในชุดคลุมสีเข้ม ผมยาวถูกรวบไว้หลวม ๆ ใบหน้าหล่อเหลาไร้ซึ่งแววใด ๆ ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีแม้แต่ความรำคาญ มีเพียงความว่างเปล่าที่น่าขนลุก เฉาซีค่อย ๆ คลานขึ้นเตียงอย่างเช่นเคย ก่อนจะโน้มร่างกายของตนเข้าไปแนบชิดกับแผงอก ยกมือเล็กขึ้นลูบแผ่นอกของเขาช้า ๆ อย่างยั่วยวน “ท่านพี่อย่าเงียบสิเจ้าคะ ท่านเงียบเช่นนี้หัวใจข้านั้นรู้สึกเหมือนกำลังถูกมีดกรีดเป็นชิ้น ๆ” เธอจงใจขยับเข้าไปให้ใกล้ขึ้น ทิ้งน้ำหนักลงบนอกเขาเหมือนแมวเจ้าเล่ห์ ซูอวี่เงยหน้ามองเธอช้า ๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วสุราบนโต๊ะมายื่นให้ “เฉาซี.. เจ้าดื่มเป็นเพื่อนข้าได้หรือไม่” ซูอวี่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก แต่นางกลับไม่ได้สังเกตน้ำเสียงนั้นเลยสักนิด "ท่านพี่อยากให้ข้าเมาเพื่อที่เรื่องบนเตียงของเราจะได้มีสีสันขึ้นอย่างนั้นหรือเจ้าคะ" เฉาซียังคงหัวเราะคิกคักราวกับว่ามันเป็นเพียงเรื่องตลก ก่อนจะคว้าแก้วในมือเขามาดื่มจนหมดโดยไม่ลังเล "หากเป็นความประสงค์ของท่านพี่ มีหรือข้าจะไม่ยินยอม" นางวางแก้วลงบนโต๊ะอย่างเบามือ สองแขนเรียวโอบรอบคอเขาไว้แน่น ทว่าไม่นานนักหลังจากที่นางโน้มตัวไปหวังจะจูบที่ริมฝีปากของเขา ทั่วทั้งร่างกายกลับชาวาบสลับร้อน ๆ หนาว ๆ เธอผละออกจากร่างของผู้เป็นสามีก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้น ดวงตาคู่สวยที่เขาเคยชื่นชอบบัดนี้กลับเบิกกว้าง ใบหน้าแสนสวยที่เหมือนกับอดีตภรรยาไม่มีผิดนั่นอีก บัดนี้กับดูซีดลงราวกับปลาขาดน้ำ มือเล็กค่อย ๆ ยื่นไปจับที่ขาของเขาเอาไว้อย่างตื่นตระหนก “ซูอวี่.. ช่วย.. ข้า..” ริมฝีปากที่รู้สึกว่าแค่จะอ้าปากยังหนักอึ้ง น้ำเสียงหวานที่เคยออดอ้อนแหบแห้งแทบจะไม่ได้ยิน เขานั่งมองเธอจากบนเตียง ใบหน้ายังคงไร้อารมณ์เช่นเดิม แต่ริมฝีปากที่เคยเรียบนิ่งกลับกำลังคลี่ยิ้มบาง ๆ ออกมา ราวกับกำลังดูคนทรยศที่ใกล้ตายโดยไร้ความรู้สึก “ยาพิษนั่นไม่ทำให้เจ้าทรมานนานนักหรอก ข้าเลือกวิธีที่จะจัดการกับเจ้าแบบที่ศพสวยที่สุด เพราะข้าไม่อยากให้ลูกข้าต้องเห็นเลือด” “เจ้ารู้หรือไม่ฮั่วเฉาซี..” ซูอวี่ก้มลงมาใกล้ร่างกายของนางที่หายใจโรยรินเล็กน้อย “ว่าเจ้านั้นสมควรตาย.. ตั้งแต่วันที่เจ้ากล้าลงมือกับพวกเขาแล้ว” ฮั่วเฉาซีดิ้นทุรนทุราย เล็บที่เคยดูแลอย่างดีบัดนี้กำลังข่วนพื้นพรมจนเลือดซึมอย่างน่าเวทนา แต่สุดท้ายร่างของเธอก็หยุดนิ่งเหลือเพียงซูอวี่ที่ยังนั่งอยู่บนเตียงมองร่างไร้ลมหายใจตรงหน้า แววตาคู่นั้นยังคงเยือกเย็นราวน้ำแข็งในเหมันต์ “นับจากนี้.. ข้าจะไม่เชื่อใจใครอีก” ///“เอาเด็ก ๆ ลงก่อน” ซูอวี่พูดเรียบ ๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำหว่างตันขึ้นมารับซูไป๋ฮวาไปก่อน แล้วกลับมาอุ้มซูไป๋จื้อไปอีกคน เด็กทั้งสองยังคงหลับตาพริ้มไม่รู้เรื่องรู้ราวใด ๆ เมื่อร่างเล็กทั้งสองหายลับไปแล้ว ซูอวี่จึงค่อย ๆ โน้มตัวลงไปอุ้มหญิงสาวที่ยังหลับอยู่ขึ้นมาในอ้อมแขนแทนการปลุกให้นางตื่นขึ้นมา“อือ..” เธอครางเล็กน้อยแต่ไม่ได้ตื่นขึ้นมา แสงไฟจากโคมหน้าประตูโรงเตี๊ยมสะท้อนใบหน้าของเขาในผ่านความมืด ขณะที่สายตากำลังจ้องมองใบหน้าของเธอที่แนบอกเขาอย่างลืมตัวริมฝีปากของเธอขยับเบา ๆ ราวกับละเมอ เขารู้สึกถึงลมหายใจอุ่นที่เป่ารดแผ่นอกตนผ่านเนื้อผ้าบาง ๆ หัวใจที่คิดว่าชาไปแล้วกลับกระตุกแปลบขึ้นมาอีกครั้ง“อย่าทำให้ข้ารักเจ้าไปมากกว่านี้ได้หรือไม่ เฉาซี..” เขาเคยพูดประโยคนี้กับเธอในคืนที่พายุฝนพัดผ่านราวกับโลกทั้งใบจะถล่ม และในคืนนั้นเธอก็หัวเราะเบา ๆ ออกมาราวกับคนที่กำลังสนุกก่อนจะซุกหน้าลงกับอกเขา“ไม่ได้หรอกท่านพี่.. ข้าชอบเวลาท่านรักข้า ยิ่งท่านรักข้ามากเท่าไหร่ ข้าก็ยิ่งชอบท่านมากเท่านั้น”ชายหนุ่มยืนมองใบหน้าของเฉาซีพร้อมความทรงจำในอดีต นึกถึงคืนนั้น คืนที่เธอครางชื่อเขาอย่างออดอ้อน ร่างก
ตอนที่ 6แม่เลี้ยงใจร้ายหลายชั่วยามผ่านไป ท้องฟ้าที่เคยสว่างจ้าเริ่มเปลี่ยนแสงแดดจัดให้กลายเป็นความอบอุ่นแบบอ่อนโยน คาราวานของตระกูลซูยังคงเคลื่อนตัวต่อไปอย่างต่อเนื่องภายในรถม้านั้น เด็กแฝดที่ตอนแรกยังจับกล่องขนมกันแน่น ตอนนี้กลับเริ่มนั่งเอนไปเอนมาเพราะความง่วงที่ครอบงำ“ท่านพี่.. ข้าอยากกินขนมถั่วเขียว” เสียงเล็ก ๆ ของเสี่ยวซูดังขึ้นเบา ๆ ในขณะที่เธอเอนหัวพิงไหล่พี่ชาย ต้าซูหรี่ตาลงแล้วเอียงคอนิด ๆ “ไว้ถึงบ้านแล้วพี่จะให้ท่านพ่อซื้อให้นะเสี่ยวซู”“ข้าขอสามชิ้นนะเจ้าคะ..” เสี่ยวซูพึมพำออกมาอีกครั้ง น้ำเสียงของเธอเริ่มแผ่วราวกับกำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทรา“ได้เลย” ต้าซูตอบเสียงเบาพร้อมกับหาวหวอดๆ ก่อนที่ร่างเล็กทั้งสองจะค่อย ๆ ทรุดตัวลงกับเบาะ มือน้อยยังคงจับกันไว้แน่น สลับกับเหลือบมองแม่เลี้ยงที่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จาอยู่ฝั่งตรงข้ามแม้จะยังไม่ไว้ใจ แต่ดูเหมือนท่านแม่ตอนนี้จะไม่ได้ทำอะไรน่ากลัวอย่างที่พวกเขาเคยเห็นมาก่อน ก่อนที่เปลือกตาเล็ก ๆ จะปิดลงจนสนิทซูอวี่และเฉาซีนั่งเงียบมาเกือบตลอดทาง ต่างฝ่ายต่างไม่เอ่ยคำใด มีเพียงสายลมที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่างรถม้ากับเสียงฝีเท้าม้าของคาราวานเท่
ตอนที่ 5เด็กแฝดตระกูลซูหว่างตันเดินตรงเข้ามาหาเหยาเหยา ท่าทางของเขานั้นดูเกรงใจปนลังเลอยู่ไม่น้อย แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้อ้าปากพูดอะไรออกมา หญิงสาวที่ได้ยินทุกถ้อยคำสนทนาเมื่อครู่ก็จ้องเข้าไปในรถม้านั้นแล้วย่นจมูกใส่เพราะความหมั่นไส้“ท่านให้ข้านั่งคันไหนงั้นหรือ” เธอถามเสียงขุ่น มุมปากกระตุกเล็กน้อยแต่ไม่ใช่รอยยิ้มที่มีไมตรีนักสุดท้ายเธอก็จำต้องก้าวขึ้นรถม้าขนงาอย่างหมดทางเลือก อายก็อาย ขมขื่นก็ขมขื่น แต่ยังดีกว่าให้เขามัดแขนมัดขาโยนขึ้นมาแบบผักแบบปลานั่นแหละนะทันทีที่เธอนั่งลงบนกองฟางแห้ง ๆ ที่เต็มไปด้วยฝุ่นและเศษเปลือกงา เสียงซูอวี่ก็ดังขึ้นสั่งการทันที“ออกเดินทางได้!”ล้อไม้ของรถม้าเริ่มหมุนส่งเสียงดังกึกกักไปตลอดทาง เหยาเหยานั่งกระเด้งกระดอนอยู่บนรถม้าคันนั้น หัวสั่นหัวคลอนแทบจะโขกขอบไม้ก็หลายรอบ ‘โอ๊ย! คนอย่างเหยาเหยาเกิดมาเคยนั่งแต่เบาะโซฟานิ่ม ๆ นี่ต้องมานั่งรถม้าขนงา พระเจ้า! ฉันจะกลิ้งลงข้างทางไหมเนี่ย!’ขบวนคาราวานยังคงเดินทางไปเรื่อย ๆ แสงแดดยามบ่ายสาดเปรี้ยงลงมาจนพื้นดินร้อนระอุ รถม้าหลายคันเคลื่อนไปตามถนนคดเคี้ยวท่ามกลางหุบเขา รถม้าของซูอวี่และเด็กแฝดเคลื่อนตัวอยู่
"อย่างคิดโป้ปลด เพราะข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะยั้งมือไม่ฆ่าเจ้าได้นานแค่ไหน" ซูอวี่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นก่อนจะปรายตามองเธอด้วยหางตา "ในเมื่อเจ้าหนีความตายมาได้หนึ่งครั้ง ข้าก็จะให้โอกาสเจ้าหนึ่งครั้ง เจ้าต้องกลับไปกับข้า ไปชดใช้ในสิ่งที่เจ้าเคยก่อไว้""ข้าไม่อยากกลับไป" เหยาเหยาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ดังฟังชัด แต่นอกจากที่เขาไม่รับฟังแล้ว เขายังไม่สนใจคำพูดนั้นของเธออีกด้วย"อ่อ.. ข้าเชื่อว่าอย่างไรเจ้าก็จะกลับไป เพราะข้ามีหลายร้อยพันวิธีที่จะพาสตรีน่ารังเกียจเช่นเจ้ากลับไป" ซูอวี่โน้มตัวลงไปเล็กน้อยก่อนจะอุ้มลูกแฝดทั้งสองขึ้นมาอุ้มเอาไว้"หรือเจ้าจะลองดูก็ได้นะเฉาซี.. ว่าข้าสามารถทำอะไรกับหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ที่ช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้ได้บ้าง"และสุดท้ายแล้วเหยาเหยาก็ต้องยอมรับชะตากรรม เพราะซูอวี่ข่มขู่ว่าหากเธอไม่กลับไปเขาจะทำให้หมู่บ้านนี้จะกลายเป็นทะเลเพลิง‘ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!’หลังจากนั้นเพียง 3 ชั่วยาม กองคาราวานพ่อค้าก็เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางกลับ ซูอวี่เข้าไปคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านและบอกกับเขาว่าความจริงแล้วสตรีที่พวกเขาช่วยชีวิตนั้น เป็นทาสที่เขาซื้อมาทำงานในเรือพ่อค้า แต่ก่อนนี้มีโจร
ตอนที่ 4ซูอวี่ชายหนุ่มเลิกคิ้วเพียงเล็กน้อยราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แต่เพียงชั่วพริบตามือแกร่งก็ยกขึ้นจับไหล่เธอทั้งสองข้าง ก่อนจะกระชากตัวเธอเข้ามาใกล้จนแทบจะชนกัน“กลิ่นเจ้า..” เสียงของเขานั้นแผ่วเบาราวตั้งใจจะกระซิบให้ได้ยินเพียงแค่สองคน “ข้าไม่มีทางจำกลิ่นกายของเจ้าผิดแน่นอน”เหยาเหยาชะงักอีกครั้ง รู้สึกได้เลยว่าตั้งแต่พบหน้ากับชายผู้นี้เธอแทบทำตัวไม่ถูก ใบหน้าหวานซีดเผือด ยังไม่ทันที่เธอจะได้หนีหรืออธิบายอะไรต่อมือของซูอวี่ก็เคลื่อนไหวเร็วกว่าความคิดแควก!~เขากระชากสาบเสื้อของเธอออกอย่างไม่ปรานี ทำให้เนื้อผ้านั้นขาดสะบั้นเผยผิวเนื้อขาวเนียนที่ยังมีรอยช้ำอยู่บางจุด ดวงตาคมกริบจ้องไปที่เหนือเนินอกข้างซ้ายและที่นั่นเองมันปรากฏรอยปานแดงรูปหัวใจดวงเล็ก ๆ ชัดเจน“หากเจ้าไม่ใช่เฉาซี.. แล้วนี่ละ” เขาจิ้มลงบนปานนั้นเบา ๆ นิ้วชี้ของเขาแตะเนื้อนิ่มราวกับทดสอบว่าของจริงหรือภาพลวงตา“จะให้ข้าเชื่ออย่างไรว่าเจ้าคือคนอื่น”เหยาเหยาสะดุ้งเฮือกตัวสั่นงันงก สายตาหวาดกลัวสลับสับสน ไม่รู้ว่าควรโกรธ กลัว หรืออับอายมากกว่ากัน แต่เขาที่เห็นท่าทางของเธอนั้นกลับยิ้มออกมาเยือกเย็น รอยยิ้มที่ไม่
มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกใช่ไหม แต่ว่านะ.. มาจากแคว้นโจว แถมยังเป็นตระกูลซู และยังเป็นพ่อค้านั่นอีก หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ“แล้ว.. รู้หรือไม่ว่าคนที่จะมาเป็นใคร” เสียงของเหยาเหยาอ่อนลงแต่ซ่อนไม่มิดเลยว่ากำลังเครียด“เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่รู้ขอรับ.. รู้แค่ว่าอีกสามวันเขาจะมารับของที่พวกเรารวบรวมไว้ ข้าตื่นเต้นจะแย่ ไม่เคยเห็นพ่อค้าใหญ่ตัวจริงมาก่อนเลยท่านพี่อาเหยา” เด็กหนุ่มยกมือทั้งสองข้างมาจับกันไว้แล้วแนบหน้าอก สีหน้าแสดงความพึงพอใจอย่างชายหนุ่มที่ฝันหวาน“ข้าว่าเขาน่าจะเป็นคนที่ใส่ชุดหรูขี่ม้าขาวมีข้ารับใช้เดินตามเป็นแถวแน่เลย”เหยาเหยาฝืนยิ้มบาง ๆ ในขณะที่ลมหายใจเธอเริ่มสั่นเครือ อีกสามวัน หากเป็นซูอวี่จริงเขาจะจำเธอได้หรือไม่ แล้วถ้าเขาจำได้เธอจะยังมีชีวิตอยู่ต่อหรือไม่ หรือว่าเขาจะฆ่าเธอซ้ำอีกครั้งด้วยมือของเขาเองหรือเปล่าสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็วในความรู้สึกของเธอ เหยาเหยาหลบอยู่ในห้องไม้ด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เธอแนบดวงตาไปกับรอยร้าวของไม้เก่า แอบมองขบวนพ่อค้าที่เดินเรียงแถวกันเข้ามาในหมู่บ้าน เสื้อผ้าเรียบหรูแต่ไม่เวอร์วัง ข้างหลังมีเกวียนบรรทุกของมากมายและแน่นอน ว
ความคิดเห็น