“ทุกคนต่างทราบดีว่าเป็นพวกเจ้าที่ใช้เล่ห์กล คิดหรือว่าจะยังใช้ชีวิตอยู่ในจวนสกุลหวงต่อได้อย่างสงบสุขอีก?” นางรู้ดีว่าสิ่งที่เหล่าอนุภรรยาทั้งหลายถนัดคือการประจบสอพลอ ทว่าสาเหตุก็เป็นเพราะพวกนางไม่ใช่ภรรยาเอก สิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากผู้อาวุโสล้วนมีเพียงวิธีการทำให้สามีพึงพอใจ และจะต้องทำเช่นไรถึงจะใช้ชีวิตในเรือนหลังได้ดียิ่งกว่าเดิมเท่านั้น เพราะเหตุนี้เอง พวกเขาจึงมักจะมองสถานการณ์ไม่กว้างขวางรอบคอบมากพอ ถูกล่อลวงด้วยผลประโยชน์เล็กน้อย จนทำให้สูญเสียประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ไป อุบายร้ายในคราวนี้ สำหรับนางแล้วมันก็เป็นแค่เรื่องน่าขัน หากว่ามีสมองสักนิด และรู้จักว่าสิ่งใดคือการใคร่ครวญเพื่อตนเองจริง ๆ ก็คงไม่มีทางทำเรื่องพรรค์นี้ออกมาแน่ “พระชายาฉู่อ๋อง บุตรชายของข้าเป็นผู้ถูกกระทำ บัดนี้เป็นตายมิอาจตัดสิน ควรจะคิดหาหนทางตามหาเขาให้เจอต่างหากถึงจะถูกต้อง” “พวกท่านยังไม่ทราบเรื่องราวอะไร ไยจึงรีบร้อนโยนโทษผิดมาให้พวกข้า?” “ต้องคอยให้ถึงคราวตายก่อนถึงจะหยุดดื้อด้านหรืออย่างไร!” แววตาของซ่งรั่วเจินเย็นเยียบ ‘คนที่น่าสงสารย่อมมีด้านน่าชัง’ ถ้อยคำนี้สมเหตุสมผลเสมอ “ข้าคำนวณได้แล้วว่
“ในหมู่พวกเจ้าพอจะรู้เรื่องของอวี้ซู่บ้างหรือไม่?”ใต้เท้าหวงมองไปทางบุตรชายหญิงคนอื่นๆ ของตนเอง เขารู้นิสัยของอวี้ซู่ ยามปกติในหมู่ลูกทั้งหลายเป็นคนที่ไร้ตัวตนที่สุดแล้วตอนเริ่มแรกก็ไม่ใช่ว่าใครๆ ล้วนอยากรังแกเขา แต่ถึงจะให้โอกาสเขา เขาก็ยังคงหลบๆ ซ่อนๆ ปิดบังอำพราง นิสัยไม่อาจออกหน้าออกตาได้เลยจริงๆเขาไม่ชอบบุตรชายคนนี้ของตนเองมากที่สุดเหมือนกัน แต่ผู้ใดใช้ให้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองเล่า ถึงไม่ชอบใจก็ต้องดูแลให้ดี“อวี้ซู่มักไปวิ่งวุ่นอยู่ข้างนอก ถามว่าเขาไปไหนก็ไม่บอก ถ้าพวกเราถามเสียงดังหน่อยก็ทำท่าเหมือนพวกเราพี่น้องตั้งใจรังแกเขาอย่างนั้น จะรู้ได้อย่างไรขอรับ?”“ในหมู่พวกเรามีแต่ซือถิงที่พูดจากับเขามากหน่อย ถ้าเจ้าสารเลวนี่กล้าลงมือกับซือถิง ข้าไม่ปล่อยเขาไปแน่!”หวงเจิ้งหาวคุณชายใหญ่สกุลหวงสีหน้าถมึงทึง ซือถิงจิตใจดีงามปานไหน พี่ใหญ่อย่างเขารู้ดีที่สุดแล้วเขาไม่เคยชอบหวงอวี้ซู่เลย รู้สึกว่าเจ้าหมอนี่ไม่เหมือนผู้ชายเลยสักนิด ถึงจะเป็นบุตรอนุ แต่ขอเพียงตนเองมีความสามารถก็สามารถได้รับความเคารพจากคนอื่นกล่าวถึงที่สุดแล้ว คนที่ชอบตำหนิตัวเองเดิมก็เป็นเพราะตัวเองไม่มี
“ทำไมจะไม่ได้? เจ้ามันเป็นเดรัจฉานที่ทั้งน่ารังเกียจและน่าเวทนาเช่นนี้แหละ!”หวงซือถิงสองตาแดงเรื่อ หากไม่ใช่เพราะตอนนี้มือทั้งสองถูกเชือกมัดไว้ นางก็อยากจะลากหวงอวี้ซู่ไปปรโลกด้วยกันเสียใจจะขาด!“คนอื่นล้วนสามารถพูดกับข้าแบบนี้ได้ มีแต่ท่านเท่านั้นที่ไม่ได้!”หวงอวี้ซู่พลันลุกพรวดขึ้นมา ความดื้อดึงวาวโรจน์ในดวงตา “ท่านช่วยข้ามาตั้งมากมาย ตอนนี้ช่วยข้าอีกสักครั้งไม่ดีตรงไหน?”“ข้าไม่ได้จะเอาชีวิตท่านเสียหน่อย ยังเลือกสามีดีๆ มาให้ท่านอีกด้วย!”“เจ้าทำให้ข้ารู้สึกสะอิดสะเอียนนัก!”หวงซือถิงเบือนสายตาหนี นางรู้สึกเหมือนมองเห็นหนอนเหม็นโฉ่น่าสะอิดสะเอียนตัวหนึ่ง ความรู้สึกนั้นทำให้นางคลื่นไส้อย่างอดไม่อยู่ เก่อเฮ่อเซวียนยังไม่ทำให้นางรู้สึกสะอิดสะเอียนขนาดนี้เก่อเฮ่อเซวียนเห็นท่าทางของคนทั้งคู่แล้ว ดวงตาก็ฉายแววขบขัน เขาตบไหล่หวงอวี้ซู่เบาๆ“ข้าถึงได้บอกว่าเจ้าเกิดมาก็ชวนให้คนรังเกียจ ตอนข้าเห็นเจ้าครั้งแรกก็รู้สึกว่าเจ้าไม่ใช่คนดีอันใดมาตั้งแต่เกิดแล้ว!”หวงอวี้ซู่กลับไม่ถือสาแม้แต่น้อย “ญาติผู้พี่ ต่อไปท่านคงไม่ทำให้ข้าลำบากใจอีกแล้วใช่ไหม? ข้าทำทุกอย่างตามที่ท่านบอกหมดแล้วนะ”
“พอเห็นว่าอวิ๋นเฉิงเจ๋อมีคนในดวงใจแล้ว พริบตาถัดมาเจ้าก็ไปชอบลั่วหวยหลี่ ผู้หญิงเช่นเจ้า...ก็ใจง่ายเหมือนกันไม่ใช่รึ?”เก่อเฮ่อเซวียนหลุดหัวเราะออกมา เดิมนั้นเขาเข้าใจว่าหวงซือถิงเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ แต่ครั้นเห็นพฤติกรรมต่างๆ ของนางในช่วงที่ผ่านมาก็รู้สึกว่าเขาเข้าใจผิดแล้ว หญิงผู้นี้หาได้เป็นเช่นนั้นเลยสักนิด!หญิงที่เขาชอบกลับต้องยกให้คนอื่นทั้งอย่างนี้ ออกจะน่าเสียดายไปแล้วด้วยเหตุนี้ เขาจึงคิดวิธีการหนึ่งขึ้นมา ให้หวงอวี้ซู่ไปหลอกคนมา ขอแค่พวกเขาอยู่ด้วยกันหนึ่งคืน ชื่อเสียงของหวงซือถิงก็นับว่าจบสิ้นแล้ว!ลั่วหวยหลี่ย่อมไม่ต้องการผู้หญิงแบบนี้ ส่วนสกุลหวงก็ทำได้เพียงขอร้องให้เขาแต่งงานกับหวงซือถิงถึงยามนั้น เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากมาย ในทางตรงกันข้าม สกุลหวงต่างหากที่ต้องคิดหาวิธีมาประจบเอาใจเขาเพื่อปกป้องชื่อเสียงของหวงซือถิง!“ข้าเปล่านะ!”หวงซือถิงหน้าเผือดสี ก่อนนี้นางก็เคยคิดเหมือนกันว่าตนเองไม่ควรเปลี่ยนใจรวดเร็วเช่นนี้ใช่หรือไม่ แต่นางชอบลั่วหวยหลี่จริงๆความรู้สึกที่มีต่ออวิ่นเฉิงเจ๋อคือความชื่นชมเลื่อมใส นางชื่นชมความสามารถของเขา แต่ความจริงพวกตนเคยพบหน้ากันแค่ส
ด้วยเหตุนี้ ในจวนนอกจากบุตรภรรยาเอกสองคนแล้ว ยังมีบุตรจากอนุอีกสามคน ปกตินับว่าอยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง“ผลการทำนายของข้าชี้ว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนผู้นี้”ลั่วหวยหลี่พลันหน้าเปลี่ยนสี เขาจำหวงอวี้ซู่ได้ ก่อนนี้เคยพบกันในจวนสกุลหวง ซือถิงยังเคยแนะนำกับเขา ดูออกว่าพี่สาวน้องชายคู่นี้มีความสัมพันธ์ไม่เลวหวงอวี้ซู่มีรูปร่างผอมบาง หากเทียบกับชายทั่วไปแล้วผอมเตี้ยกว่าเล็กน้อย ทั้งยังดูขี้ขลาดอยู่หลายส่วนยามนั้นเขาเห็นแล้วก็ค่อนข้างประหลาดใจ ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาบุตรอนุในจวนมักมีฐานะต่ำต้อย จะมีนิสัยเช่นนี้ก็ไม่แปลก แต่การหายตัวไปของซือถิงเกี่ยวข้องกับเขา เป็นเพราะเหตุใดกันเล่า?“ระหว่างข้ากับหวงอวี้ซู่ไม่มีความแค้นต่อกัน ซือถิงยังมีความสัมพันธ์อันดีกับเขา เหตุใดเรื่องนี้จึงเกี่ยวข้องกับเขาได้เล่า?”หวงฮูหยินก็แคลงใจมากเช่นกัน “ข้าจะกลับไปถามอวี้ซู่เดี๋ยวนี้!”อีกด้านหนึ่งหลังจากที่หวงซือถิงตระหนักว่าตนเองถูกคนลักพาตัวมา ดวงตาก็ฉายแววหวาดหวั่นเหลือแสน“อวี้ซู่ ข้าเป็นพี่สาวเจ้านะ เจ้าทำเช่นนี้กับข้าได้อย่างไร?”สองวันมานี้นางเก็บตัวอยู่ในจวนอย่างเชื่อฟังเพราะคำเตือนของพระชายาฉู่อ
เมื่อได้ยินข่าวการหายตัวไปของหวงซือถิง ดวงตาทุกคนก็ฉายแววตกตะลึงพวกเยี่ยนชิงอวี้ตั้งใจมาบ้านสกุลหวงในวันนี้ก็เพื่อมาหารือเรื่องมงคลระหว่างผู้เยาว์ทั้งสองถ้าสกุลหวงเห็นดีเห็นงามด้วยก็จะได้กำหนดเรื่องมงคลนี้ให้แน่นอนในเร็ววัน ใครเลยจะคาดว่าเพิ่งมาถึงก็ได้ยินข่าวนี้เข้าพอดี?“ก่อนนี้บอกไว้ว่าจะไม่ออกไปข้างนอกไม่ใช่หรือ? เหตุใดจู่ๆ จึงหายตัวไปได้เล่า?”ลั่วชิงอินมีสีหน้าตกใจ ก่อนนี้ทุกคนเคยเตือนไว้เป็นการเฉพาะเนื่องจากไม่สบายใจ เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน แต่ตอนนี้กลับหายตัวไป...มิเท่ากับว่ามีเคราะห์ภัยถึงชีวิตที่น้องหญิงห้าพูดไว้หรอกหรือ?“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันเจ้าค่ะ ซือถิงมีนิสัยอ่อนโยนรู้ความ ทั้งยังขวัญอ่อน”“หลังจากที่รู้เรื่องนี้ก็หวั่นกลัวเรื่อยมา สงบใจอยู่แต่ในห้องทุกวัน ไม่ได้ออกไปไหนเลย”“หลายวันมานี้ข้ายังมาเยี่ยมนางที่บ้านสกุลหวงทุกวัน ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเหตุใดคนจึงหายตัวไปเช่นนี้!”ลั่วหวยหลี่ร้อนใจแทบเสียสติ คนเป็นๆ ผู้หนึ่งจะหายตัวไปจากในจวนกะทันหันได้อย่างไร?หวงฮูหยินยิ่งร้อนใจเหลือประมาณ คนในจวนไม่มีใครรู้เรื่องนี้ น่าแปลกเกินไปแล้ว!“หวยหลี่ พวกเราไปขอร้องพระชาย