แชร์

บทที่ 1490  

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“พิธีสวดพระสูตรขอความสุขความเจริญเจ็ดวันนี้ หรือจะเป็นการสวดเพื่อปลดปล่อยวิญญาณของซากโครงกระดูกเหล่านี้?” เสนาบดีศาลต้าหลี่โพล่งขึ้นด้วยความตื่นตกใจ

ซ่งรั่วเจินมองซากโครงกระดูกที่ห่างออกไปไม่ไกล ก็ผงกศีรษะพลางเอ่ยว่า “มีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว”

“ข้าเพิ่งสังเกตเมื่อครู่ ซากศพเหล่านั้นมีทั้งชายและหญิง อายุราวสามขวบห้าขวบเห็นจะได้ และเท่าที่ข้าประเมินจำนวนด้วยสายตาเหมือนจะมีเป็นคู่ ๆ”

“ให้ดีที่สุดก็ควรให้ขุนนางชันสูตรมาจัดการต่อซากกระดูกเหล่านี้รวมเข้าด้วยกัน และตรวจสอบดูว่าจำนวนเท่ากันหรือไม่”

เมื่อสิ้นวาจาของซ่งรั่วเจิน ทั้งฉู่จวินถิงและเสนาบดีศาลต้าหลี่พลันหันหน้าสบตากันทันที ในใจมีข้อสันนิษฐานบางประการไว้แล้ว

เด็กช่วงวัยประมาณนี้ อีกทั้งยังเป็นคู่ชายหญิง เช่นนั้นความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือการบูชายัญ

ในบางหมู่บ้านห่างไกล เพื่อขอให้ฟ้าอากาศราบรื่นและมีฝนตกต้องตามฤดูกาล ก็จะมีคนไปเลือกเด็กชายเด็กหญิงมาทำพิธีกรรมบูชายัญ อธิษฐานขอพรให้วันรุ่งขึ้นได้ผลผลิตอุดมสมบูรณ์

และบ่อยครั้ง เรื่องพวกนี้แม้กระทั่งบุพการีของพวกเด็ก ๆ ก็ยังไม่มีอำนาจตัดสินใจเลยด้วยซ้ำ ทว่าในตอนนี้ราชสำนั
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1490  

    “พิธีสวดพระสูตรขอความสุขความเจริญเจ็ดวันนี้ หรือจะเป็นการสวดเพื่อปลดปล่อยวิญญาณของซากโครงกระดูกเหล่านี้?” เสนาบดีศาลต้าหลี่โพล่งขึ้นด้วยความตื่นตกใจ ซ่งรั่วเจินมองซากโครงกระดูกที่ห่างออกไปไม่ไกล ก็ผงกศีรษะพลางเอ่ยว่า “มีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว” “ข้าเพิ่งสังเกตเมื่อครู่ ซากศพเหล่านั้นมีทั้งชายและหญิง อายุราวสามขวบห้าขวบเห็นจะได้ และเท่าที่ข้าประเมินจำนวนด้วยสายตาเหมือนจะมีเป็นคู่ ๆ” “ให้ดีที่สุดก็ควรให้ขุนนางชันสูตรมาจัดการต่อซากกระดูกเหล่านี้รวมเข้าด้วยกัน และตรวจสอบดูว่าจำนวนเท่ากันหรือไม่” เมื่อสิ้นวาจาของซ่งรั่วเจิน ทั้งฉู่จวินถิงและเสนาบดีศาลต้าหลี่พลันหันหน้าสบตากันทันที ในใจมีข้อสันนิษฐานบางประการไว้แล้ว เด็กช่วงวัยประมาณนี้ อีกทั้งยังเป็นคู่ชายหญิง เช่นนั้นความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือการบูชายัญ ในบางหมู่บ้านห่างไกล เพื่อขอให้ฟ้าอากาศราบรื่นและมีฝนตกต้องตามฤดูกาล ก็จะมีคนไปเลือกเด็กชายเด็กหญิงมาทำพิธีกรรมบูชายัญ อธิษฐานขอพรให้วันรุ่งขึ้นได้ผลผลิตอุดมสมบูรณ์ และบ่อยครั้ง เรื่องพวกนี้แม้กระทั่งบุพการีของพวกเด็ก ๆ ก็ยังไม่มีอำนาจตัดสินใจเลยด้วยซ้ำ ทว่าในตอนนี้ราชสำนั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1489  

    หลังจากซ่งรั่วเจินพูดคุยกันไปได้ครู่หนึ่ง ก็รู้แน่ชัดแล้วว่าแม่ชีอายุน้อยเหล่านี้แทบไม่มีใครทราบเรื่องเหล่านี้กันเลยจริง ๆ ส่วนคนที่พอเป็นไปได้ว่าจะรู้เรื่องราวก็มีเพียงจิ้งอินซือไท่และจิ้งอวิ๋นซือไท่ผู้ซึ่งสนิทสนมกับจิ้งเฉินซือไท่มากที่สุดเท่านั้น นึกถึงตอนแรกธูปและตะเกียงของสำนักเทียนฉือก็หาได้รุ่งเรืองไม่ จิ้งเฉินซือไท่ในตอนแรกเข้ามาที่สำนักเทียนฉือด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง ซือไท่รูปก่อนเห็นนางน่าสงสาร จึงรับนางมาอยู่ในความดูแล ไม่เพียงเท่านี้ จิ้งเฉินซือไท่ในตอนแรกก็มีความมุ่งมั่นจะจบชีวิตอยู่ในใจ เพียงแต่ปลิดชีวิตตนเองไม่สำเร็จเพราะมีคนมาช่วยไว้ได้เสียก่อน สุดท้ายภายใต้การเตือนสติของซือไท่รูปก่อน นางจึงอุทิศตนเป็นซือไท่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจแทน ต่อมาเมื่อซือไท่รูปก่อนชราลง ก็ส่งมอบสำนักเทียนฉือไว้ในการดูแลของจิ้งเฉินซือไท่สืบไป “พวกเขาบอกว่าจิ้งอินซือไท่และจิ้งเฉินซือไท่มีที่มาจากจุดเดียวกันหรือ?” คิ้วเรียวรูปใบหลิวของซ่งรั่วเจินเลิกขึ้นเล็กน้อย พลางขบคิดถึงความนัยที่ซ่อนไว้ภายใต้คำพูดนี้ “จิ้งเฉินซือไท่ในตอนแรกก็สิ้นหวังหมดอาลัยตายอยาก สุดท้ายจึงได้มาที่สำนักเทียนฉือ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1488  

    พวกแม่ชีในสำนักเทียนฉือครั้นเห็นซ่งรั่วเจิน แววตาของทุกคนต่างเผยความหวาดกลัวออกมาอย่างเต็มเปี่ยม เมื่อครู่พวกเขาก็เห็นชัดแล้ว แม่นางผู้ซึ่งรูปงามดั่งเทพเซียนบนสวรรค์ท่านนี้เข้ามาพร้อมกับคนของเสนาบดีศาลต้าหลี่ เพียงแต่พวกเขาไม่ทราบว่ามีฐานะอะไร “พวกท่านไม่ต้องกังวลไป ข้าได้ยินมาว่าที่สำนักเทียนฉือแห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ถึงได้ลองแวะมาดู คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญเจอเหตุการณ์เช่นนี้เข้า” ซ่งรั่วเจินถอนหายใจอย่างอับจนหนทาง “เมื่อหลายปีก่อนข้ากับท่านแม่เคยพบท่านจิ้งเฉินซือไท่มาก่อน ตอนนั้นในเรือนข้าเกิดปัญหาขึ้น ทำให้มารดาของข้าเศร้าหมองกลัดกลุ้มอยู่ไม่เว้น หมอบอกว่าความกลัดกลุ้มอัดแน่นอยู่ในใจ เคราะห์ดีที่จิ้งเฉินซือไท่ช่วยมารดาคลายความกลัดกลุ้มเศร้าหมองในใจสำเร็จ” “เดิมทีแล้วข้ากับมารดาตั้งใจจะมาตอบแทนพระคุณจิ้งเฉินซือไท่ที่สำนักเทียนฉือ คิดไม่ถึงว่าจิ้งเฉินซือไท่จะ…นางจะ…” ซ่งรั่วเจินเอ่ยพลาง ขอบตารื้นแดง นั่นเรียกได้ว่าพรั่งพรูความรู้สึกออกมาจากหัวใจเลยทีเดียว เหล่าแม่ชีในสำนักเทียนฉือได้ฟังถ้อยคำของซ่งรั่วเจินแล้ว แต่ละคนต่างแสดงสีหน้าโศกเศร้าออกมาอย่างอดไม่ได้ บางคนยังถึงขั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1487  

    ทุกคนต่างสืบเท้าเข้าไปยังสำนักเทียนฉือพร้อมกัน ซ่งรั่วเจินกวาดสายตาพินิจพิจารณาสำนักเทียนฉือไปตลอดทาง จากบรรยากาศและทุกสิ่งในที่แห่งนี้สามารถมองออกได้ไม่ยากเลยว่าสำนักเทียนฉือแห่งนี้เป็นวัดที่ธูปเทียนและตะเกียงเจริญรุ่งเรือง มีศาสนิกชนหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสายในทุกวัน น่าจะครึกครื้นเป็นอย่างมาก ทว่า ในยามนี้กลับเงียบเหงาวังเวงยิ่งนัก แม่ชีภายในสำนักครั้นเห็นว่าพวกเขาเข้ามา แววตาของแต่ละคนล้วนสะท้อนความหวาดกลัวและเคร่งเครียดวิตกกังวลออกมา นั่นคือความคิดอยากหลบเลี่ยงที่เกิดขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ และเป็นการต่อต้านไม่อยากพบเจอผู้ใดจากศาลต้าหลี่ทั้งสิ้น “คนเหล่านี้พวกท่านทำการสอบสวนครบทุกคนแล้วหรือ?” ซ่งรั่วเจินกระซิบถามฉู่จวินถิงด้วยเสียงเบา ฉู่จวินถิงพยักหน้า “หลายวันที่ผ่านมาคนของศาลต้าหลี่ได้ทำการสอบสวนพวกนางทุกคนจนครบถ้วนแล้ว มีเพียงแม่ชีที่อายุน้อยที่ดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ” “ตอนที่ขุดศพออกมา สีหน้าตกใจของพวกนางดูไม่คล้ายเสแสร้งแกล้งทำขึ้นมาแม้แต่น้อย คงจะมีเพียงซือไท่อาวุโสไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้าใจเรื่องพวกนี้ เสียดายก็แต่พวกนางกลับปิดปากเงียบ”เซียวอ๋องในตอนนี้เองก็มอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1486  

    “ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่สำนักเทียนฉือขึ้นชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์มาตลอด บรรดาแม่ชีแต่ละคนในนั้นล้วนจิตใจดีมีเมตตา ยิ่งซือไท่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง คิดว่าไม่น่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอก!” “ข้าเองก็มักจะไปที่นั่นเดือนละครั้ง บัดนี้จู่ ๆ กลับไม่ให้เข้าไปเสียอย่างนั้น จิตใจรู้สึกกระวนกระวายไม่สบายใจเอาเสียเลย” ซ่งรั่วเจินได้ฟังเสียงวิจารณ์และถกเถียงของเหล่าชาวบ้านเรื่อยมาตลอดทาง ก็สัมผัสได้ว่าพวกเขามีความประทับใจต่อสำนักเทียนฉือไม่เลวเลยทีเดียว เห็นได้ชัดเจนเลยว่าทั้งซือไท่รวมถึงแม่ชีแต่ละคน ล้วนมิใช่คนที่เป็นพิษเป็นภัยกับใครอย่างแน่นอน ฉู่จวินถิงมองเห็นความสงสัยของซ่งรั่วเจิน จึงอธิบายมา “จากข้อมูลที่ข้าให้คนไปสืบทราบมา ชาวบ้านในละแวกนี้ล้วนชื่นชมและศรัทธาในสำนักเทียนฉือทั้งสิ้น โดยเฉพาะซือไท่คนที่เพิ่งปลิดชีวิตตนเองไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ที่ผ่านมาคอยหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ชาวบ้านไปไม่น้อย” “ว่ากันว่านางมีจิตใจดั่งโพธิสัตว์อย่างแท้จริง เมื่อปีที่เกิดทุพภิกขภัย สำนักเทียนฉือเคยรับเลี้ยงดูผู้ประสบภัยไว้จำนวนไม่น้อย เรื่องนี้จึงเป็นเหตุผลให้ชาวบ้านในละแวกนี้เคารพเลื่อมใสพวกเขามากเป็นพิเศ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1485  

    เซียวอ๋องเห็นฉู่จวินถิงและซ่งรั่วเจินเป็นคู่สามีภรรยาที่รักใคร่กลมเกลียว แววตาพลันฉายประกายซับซ้อนขึ้นมา เมื่อก่อนเขามิได้รู้สึกอะไร ทว่าบัดนี้เห็นฉู่อ๋องใช้ชีวิตแต่งงานมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ความรักความผูกพันที่มีให้ซ่งรั่วเจินก็มิได้จืดจาง กลับกันยังยิ่งแนบแน่นเหมือนตังเม ความรู้สึกภายในใจจึงยิ่งซับซ้อน คิดถึงตอนแรกที่ตนเองรีบร้อนแต่งงาน ในขณะที่ฉู่จวินถิงปฏิเสธการแต่งงานครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อตอนนั้นเสด็จพ่อและเสด็จแม่เอาแต่กลัดกลุ้มเป็นกังวลเรื่องการแต่งงานของฉู่จวินถิงไม่หยุด ทว่าฉู่จวินถิงกลับหมกมุ่นอยู่กับการยกทัพทำศึกท่าเดียว ตนเองยังเคยรู้สึกสะใจอยู่บ้าง คิดถึงตอนแรกที่เขารีบร้อนเข้าพิธีอภิเษก ยิ่งเห็นฉู่จวินถิงปฏิเสธการแต่งงานครั้งแล้วครั้งเล่า และเสด็จพ่อเสด็จแม่ก็ทรงกังวลเรื่องพิธีอภิเษกของเขาไม่หยุด ในขณะที่เขาเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการรบทัพจับศึก ในใจยังเคยนึกสะใจอยู่บ้าง ทว่าบัดนี้เรือนชั้นในของเขาวุ่นวายปั่นป่วนจนกลายเป็นสภาพนี้ไปแล้ว ทว่าฉู่จวินถิงในตอนนี้กลับเป็นที่ชื่นชมของทุกคนไม่ขาดปาก จริงดังคำกล่าวที่ว่าสามสิบปีแม่น้ำประจิม สามสิบปีแม่น้ำบูรพา ไม่ถึงตอนสุดท้าย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status