Share

บทที่ 16

Author: จี้เวยเวย
ไต้ซือเทียนสุ่ยรับคำสั่งจากฉินซวงซวง สายตาที่ทอดมองซ่งรั่วเจินเองก็เจือไอเย็น สตรีผู้นี้บังอาจมาทำลายช่องทางทำมาหากินของเขา เขาจะจัดการให้หนักเลยทีเดียว!

ครู่ถัดมา เขามองผีน้อยที่ตนเลี้ยงอย่างลำพองใจ เขาต้องเสียแรงไปมากถึงจะเลี้ยงออกมาได้ ยังได้รับคำชี้แนะจากผู้มีวิชาจึงมีความสามารถเช่นนี้

สายตาซ่งรั่วเจินเองก็ตกลงบนตัวผีน้อย ผีน้อยตัวนี้อายุราวหกถึงเจ็ดขวบเท่านั้น เพราะถูกเลี้ยงดูอย่างดี รูปร่างกลับไม่น่ากลัว เพียงแต่กลิ่นอายชั่วร้ายยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้ชัดว่าคือวิญญาณอาฆาตตนหนึ่ง

ตายอย่างไม่เป็นธรรม จึงสั่งสมไอแค้นไว้มาก

ในฐานะคนของสำนักวิชาเต๋า เผชิญหน้ากับวิญญาณอาฆาตเช่นนี้สมควรหาวิธีกำจัดความอาฆาตพยาบาท ช่วยเหลือเขาให้ไปเกิดใหม่ในเร็ววัน

ไต้ซือเทียนสุ่ยผู้นี้ ใช้ประโยชน์จากความอาฆาตพยาบาทเล็กน้อยนี้ ทำให้กลายเป็นกลวิธีหาเงิน

“ไต้ซือเทียนสุ่ย ชาตินี้ข้ายังมีหวังจะหาตัวลูกสาวของข้าพบอีกหรือไม่?” สวีฮูหยินเอ่ยถามอย่างร้อนใจ

ไต้ซือเทียนสุ่ยแสร้งหยิบกระดองเต่าออกมา ใส่แผ่นเหล็กสองชิ้นเข้าไปภายใน ปากบ่นงึมงำสวดคาถาขึ้นมา

สกุลสวีตามหาลูกสาวคนนี้มานานนับสิบกว่าปีแล้ว กลับหาไม่พบมาโดยตลอด หากไต้ซือเทียนสุ่ยสามารถหาคนพบได้จริง นั่นก็ไม่มีอันใดดีไปมากกว่านี้แล้ว

ไต้ซือเทียนสุ่ยฝึกฝนมาอย่างเชี่ยวชาญ จากนั้นพลังที่คุ้นชินกลับไม่แผ่ออกมา แผ่นเหล็กในกระดองเต่าก็ตกลงบนโต๊ะ

“เกิดอะไรขึ้น?”

ไต้ซือเทียนสุ่ยหันมองผีน้อยทางข้างหลังอย่างรวดเร็ว ผีน้อยมีพลังวิญญาณอยู่บ้าง ใช้งานผ่านวิธีนี้ย่อมมอบเบาะแสให้บางส่วน ทว่าบัดนี้ถึงขั้นไม่มีอันใดเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย

ถัดมา ยามเขาหันหน้ากลับมาก็พบว่าปากของผีน้อยที่ตนเลี้ยงคล้ายถูกผนึกไว้แล้ว ขณะเดียวกันกำลังดิ้นอย่างรุนแรง แต่กลับคล้ายมีพลังงานไร้รูปร่างสายหนึ่งควบคุมเอาไว้ทำให้เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลยแม้แต่น้อย

“นี่...เหตุใดเป็นเช่นนี้?”

ซ่งรั่วเจินยกมุมปากยิ้มเยาะ “ไต้ซือเทียนสุ่ย การแสดงเลี้ยงดูผีน้อยพรรค์นี้ ยามอยู่ต่อหน้าข้าไม่พอให้ชายตาแลหรอกนะ”

คำนี้พูดออกมา สีหน้าไต้ซือเทียนสุ่ยเปลี่ยนไป สายตาตื่นตะลึงอย่างหนักสะท้อนออกมาแวบหนึ่ง

ซ่งรั่วเจินถึงขั้นมองเห็น!

ครู่ถัดมา ซ่งรั่วเจินเหยียดนิ้วมือและงอทีหนึ่ง ผีน้อยตัวนั้นก็เดินไปหยุดข้างกายนางอย่างเชื่อฟัง

“ไต้สือเทียนสุ่ย นี่หมายความว่าอย่างไร?”

สวีฮูหยินเห็นท่าทีของไต้ซือเทียนสุ่ยเปลี่ยนเป็นตกตะลึงหวาดกลัวอย่างฉับพลัน ทันใดนั้นในใจก็ให้ตกตะลึงไปชั่วขณะ มิใช่ว่าบุตรสาวของนางตายไปแล้วกระมัง?

ไต้ซือเทียนสุ่ยยากจะลงจากหลังเสือแล้ว ทำได้เพียงแสร้งสุขุม “ฮูหยิน ลูกสาวของท่านวาสนาตื้นเขิน ถูกกำหนดให้ต้องอยู่ห่างไกลพันลี้ แต่ลูกสาวของท่านยังมีชีวิตอยู่บนโลก ด้วยวิชาเต๋าของข้าในตอนนี้ ทำนายได้เพียงลูกสาวของท่านอยู่ทางทิศอาคเนย์ หากต้องการตามหาก็สามารถไปหาทางทิศนี้ได้”

“มีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว ๆ ” สวีฮูหยินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง นี่ก็คือข่าวดีที่สุด

“ไต้ซือ สามารถบอกให้ชัดเจนยิ่งกว่านี้ได้หรือไม่? ขอเพียงสามารถหาลูกสาวของข้าพบ เงินมากน้อยเพียงใดข้าก็ยินดีมอบให้!”

“ความลับสวรรค์มิอาจเปิดเผย แม้ข้าสามารถคำนวณหาตำแหน่งของนางได้ แต่เรื่องของวาสนาก็คือสวรรค์กำหนด ผู้อื่นไม่สมควรเข้าไปยุ่ง มิเช่นนั้นภัยจะย้อนเข้าตัว”

ฉินซวงซวงมองเทียนสุ่ยอย่างไม่พอใจ นางรู้ความสามารถของคนผู้นี้ ขอเพียงคำนวณออกมาแม่นยำยิ่งกว่านี้ได้ คำพูดของซ่งรั่วเจินก็จะกลายเป็นแพ้ภัยตนเอง ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกแล้ว!

บัดนี้โอกาสอันดีก็วางอยู่ตรงหน้า เขาถึงขั้นคำนวณออกมาไม่ได้?

เทียนสุ่ยกระวนกระวายคุมสติไม่อยู่ ไฉนเลยยังจะสนใจฉินซวงซวงอีก?

เห็นดังนั้น สวีฮูหยินเผยสีหน้าผิดหวัง สาวใช้ข้างกายจึงพูดปลอบ “ฮูหยิน ขอเพียงคุณหนูยังมีชีวิตอยู่ จะต้องมีวันได้พบหน้ากันอีกเป็นแน่”

ซ่งรั่วเจินเองก็สำรวจหน้าตาของสวีฮูหยินเฉกเดียวกัน เห็นสามีภรรยามีดวงชะตาดี แม้ด้านลูกชายลูกสาวขาดหายไปบ้าง แต่ก็เริ่มสมบูรณ์แล้ว มิใช่สัญญาณของการพลัดพราก

“สวีฮูหยิน ข้าขอดูมือขวาของท่านได้หรือไม่?”

อันที่จริงสวีรั่วหลานไม่เชื่อซ่งรั่วเจิน กระนั้นเห็นนางเอ่ยปากพร้อมไปด้วยมารยาท ก็ยื่นมือออกไป

ซ่งรั่วเจินตรวจลวดลายบนฝ่ามือ มั่นใจในการตัดสินใจของตนแล้ว

“ลูกสาวท่านยังมีชีวิตอยู่จริงๆ”

ได้ยินแล้ว ซุนฮั่นเฟยก็หัวเราะออกมา “ข้าว่าญาติผู้น้อง เมื่อครู่ไต้ซือเทียนสุ่ยเองก็พูดคำนี้มาก่อนแล้ว เจ้าพูดเช่นนี้ยังมีความหมายอันใดอีก? มีความสามารถเจ้าก็หาคนออกมา นั่นต่างหากจึงจะยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง!”

“รั่วเจิน ข้ารู้เจ้ามีโทสะภายในใจ ต่อให้ไม่ชอบแม่นางฉินก็ไม่ควรพูดให้ร้ายไต้ซือเทียนสุ่ย ยังสร้างเรื่องต่อไปเช่นนี้ ที่ขายหน้าก็คือทั้งสกุลซ่งนะ”

หลิ่วเฟยเยี่ยนรีบถลันออกมา แม้คล้ายพูดเกลี้ยกล่อม แต่พูดไปพูดมากลับใส่ร้ายทำลายชื่อเสียงของซ่งรั่วเจิน

“ต่อให้ข้าทำให้สกุลซ่งเสียหน้าจริงก็ไม่เกี่ยวอันใดกับท่าน ตรงข้ามกันท่านน้ายังไม่รู้ผล ทุกถ้อยคำก็พูดว่าข้าใส่ร้าย ก่อนหน้านี้ข้ายังไม่เข้าใจเพราะเหตุใดญาติผู้พี่จึงยื่นแขนออกนอกบ้านเข้าข้างผู้อื่น ที่แท้ก็เรียนรู้มาจากท่านน้านี่เอง!”

สีหน้าหลิ่วเฟยเยี่ยนแข็งทื่อ นางก็คิดเช่นนี้จริง แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกซ่งรั่วเจินเปิดโปงอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้

“แม่นางซ่ง เจ้าไม่ชอบข้าก็ช่างเถอะ ซุนฮูหยินเป็นน้าของเจ้า เหตุใดเจ้าพูดเช่นนี้?” ฉินซวงซวงขมวดคิ้วพลางพูด

“แม่นางฉินช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก ก่อนหน้านี้ชี้แนะอดีตคู่หมั้นข้าให้มอบของขวัญ บัดนี้ก็มาสอนข้าให้เป็นคนดี เจ้ามีหลักการยิ่งใหญ่เพียงนี้ เหตุใดไม่มีใครสอนเจ้าว่าไม่ควรยั่วยวนชายมีคู่หมั้นแล้วกันเล่า?” ซ่งรั่วเจินเยาะหยันทีหนึ่ง สายตาสุกสกาวมองนางอย่างสงสัย

ฉินซวงซวงรู้สึกเก้อกระดากขึ้นมาในทันใด ครู่ถัดมาดึงมือหลินจือเยว่ ฝ่ายหลังเตรียมอ้าปาก ซ่งรั่วเจินก็เลิกคิ้ว “อะไรกัน? ท่านเองก็จะสอนข้าให้เป็นคนดีด้วยหรือ?”

คำพูดที่กำลังจะหลุดจากปากหลินจือเยว่กลืนกลับไปแล้ว

“ความหมายของแม่นางซ่งก็คือ สามารถหาตัวแม่นางสวีพบงั้นหรือ?” ฉินซวงซวงกำหมัดแน่น เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันภายในใจ ใบหน้าไม่เผยอารมณ์ใดออกมา

ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “แน่นอน!”

สวีฮูหยินจับมือนางอย่างตื่นเต้น “แม่นางซ่ง ที่เจ้าพูดเป็นความจริงกระนั้นหรือ? ขอเพียงเจ้าสามารถช่วยข้าหาลูกสาวพบ ข้าจะจดจำบุญคุณยิ่งใหญ่นี้เอาไว้ ภายภาคหน้าหากมีเรื่องใดต้องการให้สกุลสวีของพวกเราช่วยเหลือก็ขอให้พูดออกมาตามตรง”

“ลูกสาวของท่านก็อยู่ที่นี่แล้ว”

คำนี้พูดออกมา ทุกคนที่นี่ล้วนตะลึงงัน ถัดมาหันมองทุกทิศทาง ซ่งรั่วเจินกำลังพูดอะไร?

“เจ้าไม่รู้ตั้งแต่แรก ไฉนเลยพูดส่งเดชออกมาได้?” หลินจือเยว่ทนมองต่อไปไม่ไหวแล้ว “หรือเจ้าไม่รู้สวีฮูหยินเพื่อตามหาลูกสาวต้องลงแรงไปมากน้อยเพียงใด เพียงเพราะความเห็นแก่ตัวก็ทำให้ผู้อื่นเสียใจ เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ไร้เหตุผลจริงๆ!”

ฉินซวงซวงเองก็ไม่เข้าใจ “แม่นางซ่ง แม่นางสวีจะอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? เกรงว่าเจ้าพูดผิดไปแล้วกระมัง?”

“หลินโหว แม่นางซ่งยังไม่พูด เหตุใดเจ้าก็รู้ว่านางพูดไม่ถูก?”

ตอนนี้เอง เสียงเยียบเย็นห่างเหินพลันดังขึ้นเนิบๆ

ทุกคนหันไปมองโดยไม่รู้ตัว มองเห็นเงาร่างงดงามหล่อเหลาไม่ธรรมดาสายหนึ่ง ประหนึ่งเทพเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ก็มิปาน สง่างามน่าเกรงขาม รัศมีอยู่เหนือทุกคน

ฝ่ายชายสวมชุดสีดำ ปักลายดิ้นทองสะท้อนแสงประกายเรืองรอง ทั้งเรียบง่ายทั้งหรูหรา แต่กลับมิอาจบดบังรัศมีของใบหน้าหล่อเหลานั้นได้

สายตาลุ่มลึกดุจดวงดาวในมหาสมุทร คิ้วงามขับเน้นให้ดวงหน้าคมเข้มยิ่งขึ้น เลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ก็คล้ายกำลังเย้ยหยันอย่างไม่ใส่ใจ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (6)
goodnovel comment avatar
ภัทรภร ว่องไว
สมัครสมาชิกไปหลายวันแล้ว แต่จะใช้ได้ต้องรอ วันที่ 1 สิงหาคม เฮ้อ
goodnovel comment avatar
ปนัสยา ประสงค์เงิน
ทำไมกลับมาที่บทเดิมทั้งที่ทำตามและอ่านมาถึงบทที่ 27แล้วแต่กลัมาบที่ 17อีกเกิดอะไรหรือ
goodnovel comment avatar
Suthida Pornjamroen
อยากอ่านต่อ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1902

    เขายังไม่ตาย!“ขอบพระทัยรัชทายาท ขอบพระทัยพระชายารัชทายาทอย่างสูง! บุญคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้ครั้งนี้ จะขอจดจำไปชั่วชีวิต”เซียวเหวินยวนหมายจะหยัดกายขึ้นนั่ง แต่กลับพบว่าร่างกายของตนเองบัดนี้อ่อนแออย่างถึงที่สุด เพียงลุกขึ้นมานั่งได้ก็ล้มลงไปอีกครั้งทันทีซ่งรั่วเจินโบกมือ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ร่างกายของเจ้าอ่อนแอเกินไป เพราะหลายวันมานี้ไม่มีอาหารตกถึงท้อง เว้นเพียงดื่มน้ำไปเล็กน้อยเท่านั้น กอปรกับดวงวิญญาณเพิ่งคืนสู่ร่าง เจ้าควรจะพักผ่อนให้เต็มที่เสียก่อน”เซียวเหวินยวนเองก็เพิ่งเคยรู้สึกว่าตนเองอ่อนแอมากถึงเพียงนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน จึงได้แต่เอ่ยตอบกลับไปว่า“ต้องขออภัยจริง ๆ ไว้ข้าหายดีแล้วเมื่อใด จะต้องไปกล่าวขอบคุณถึงที่ด้วยตนเองแน่นอน”เขารู้ หากครั้งนี้ตนเองมิได้บังเอิญพบพระชายารัชทายาท ก็คงเหลือเพียงหนทางสู่ความตายเท่านั้นแล้ว“คุณชายใหญ่เซียว เจ้าเองก็ลำบากมากแล้ว ไม่สู้ลองคิดดูว่าหลังจากกลับไปแล้วจะแก้ไขปัญหาอย่างไรต่อไปดีกว่าหรือ เรื่องนี้จัดการไม่ได้ง่าย ๆ หรอก”ซ่งรั่วเจินจินตนาการถึงภาพตอนที่เซียวเหวินยวนกลับเรือนสกุลเซียว ละครนี้จะต้องยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ถึงใจแน่นอน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1901

    ฉู่จวินถิงปรายสายตามองอวิ๋นหยางปราดหนึ่ง คนหลังรีบหยิบเงินหนึ่งร้อยตำลึงใส่มือชายชราทันที“ข้ากับเซียวเหวินยวนเพียงรู้จักกันครั้งหนึ่ง หาใช่คนในครอบครัวของเขาไม่ เพียงแต่ได้ยินว่าเขาเกิดเรื่อง จึงลองมาหาละแวกนี้”“ไว้พวกข้ากลับไปแล้วจะแจ้งให้คนในครอบครัวของเขาทราบทันที ส่วนเงินจำนวนนี้ฝากให้พวกท่านใช้ดูแลเขาด้วย ไว้เขาฟื้นเมื่อใด จะขอบคุณพวกท่านอย่างดี”ฉู่จวินถิงแววตาเรียบเฉยเย็นชา เรื่องนี้สกุลเซียวเป็นคนก่อขึ้นมาเองหากมิได้ทำเพื่อเซี่ยจือหลาน พวกเขาเองก็คร้านจะวิ่งมาที่นี่ ส่วนเรื่องบุญคุณช่วยชีวิต ก็ให้เซียวเหวินยวนตัดสินด้วยตนเองเถิดเรื่องหนี้ดอกท้อแบบนี้ ต้องให้ตัวเขาจัดการเอง!ชายชรามองเงินหนึ่งร้อยตำลึงในมือ ความจริงแล้วเขาเชิญหมอมาก็จ่ายไปเพียงไม่กี่ตำลึงเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะให้มาถึงหนึ่งร้อยตำลึงในคราวเดียวเช่นนี้ คนพวกนี้ฟุ้งเฟ้อเกินไปแล้ว“คุณชายขอรับ เงินจำนวนนี้มากเกินไปหน่อยแล้ว…”ซิ่งเอ๋อร์รีบดึงมือบิดาตนเองกลับมาทันที “ท่านพ่อ ท่านรับเอาไว้เถิด พวกเขาไม่ใส่ใจกับหนึ่งร้อยตำลึงเงินนี้นักหรอก”นางตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่าเพื่อให้ตนเองได้มีชีวิตที่ดีขึ้นถึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1900

    “ลูกเอ๋ย หมอเองก็ดูอาการแล้ว บอกว่าไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมาได้ หนำซ้ำชีพจรของเขาก็ยิ่งอ่อนลงทุกที แม้แต่หมอยังบอกว่าน่ากลัวว่าจะไม่รอด พวกเราอย่าเปลืองเงินไปมากกว่านี้อีกเลย”ชายชราพูดอย่างจนใจ บ้านของพวกเขาเดิมทีก็อยู่กันอย่างลำบาก ค่าหมอที่ต้องจ่ายไปก็เกินกำลังจะรับได้ ลูกสาวคนนี้ก็ยังยืนกรานว่าต้องช่วยชายคนนี้ให้ได้ เขามีลูกสาวเพียงคนเดียว ต่อให้ไม่เต็มใจก็ยังต้องรับปากแต่ซิ่งเอ๋อร์ได้ยินคำพูดของบิดา กลับส่ายหน้าอย่างหนักแน่น“ท่านพ่อ ไม่ได้เจ้าค่ะ พวกเราต้องช่วยเขาให้ฟื้นให้ได้!”นางไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้าน ต้องออกเรือนไปแต่งกับชาวนาสามัญนับตั้งแต่ได้ไปเมืองหลวง นางก็ตัดสินไว้แล้วว่านางจะต้องหาทางมีชีวิตที่ดีขึ้นให้ได้!ในตอนนี้เอง นางกลับบังเอิญพบคุณชายผู้สูงศักดิ์ได้รับบาดเจ็บหนักอยู่เชิงเขาต่อให้เขาจะได้บาดเจ็บ แต่จากเสื้อผ้าที่สวมใส่ รวมถึงใบหน้าและรัศมี ก็เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางเป็นคนธรรมดาอย่างแน่นอนหากช่วยเขาไว้ได้ละก็ ด้วยบุญคุณช่วยชีวิตนี้ ไม่แน่ว่านางอาจได้กลายเป็นหงส์โบยบินขึ้นสู่ที่สูงก็เป็นได้!ในนิยายก็เขียนกันไว้แบบนั้น นางจึงเชื่อว่านี่คือโชคชะตาข

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1899

    อันที่จริงใช่ว่าฉู่จวินถิงไม่รู้จักเซียวเหวินเช่ออย่างไรเสียเขาก็คือสามีของเซี่ยจือหลาน ไทเฮาเองก็เมตตาเซี่ยจือหลานเป็นพิเศษ ดังนั้นในสายตาของเสด็จพ่อ หากเซียวเหวินเช่อเป็นคนมีความสามารถจริง ส่งเสริมสักหน่อยก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรเพราะเหตุนี้เอง แม้ในการสอบจอหงวนที่ผ่านมาเขาจะได้อันดับไม่สูงนัก แต่ตำแหน่งงานที่ได้รับกลับไม่เลวเลยยิ่งไปกว่านั้น ชื่อเสียงของเซียวเหวินเช่อภายนอกก็ดีอย่างยิ่ง มิตรสหายต่างก็ยกย่องเขารู้หน้าไม่รู้ใจ พอมาวันนี้เมื่อรู้ว่าเขากลับทำเรื่องเช่นนี้ได้ ช่างสวนทางกับภาพลักษณ์ที่เขาแสดงออกต่อคนนอกอย่างสิ้นเชิง“ก่อนอื่นต้องพาเซียวเหวินยวนกลับสู่ร่างให้ได้ ทุกอย่างจะกระจ่างเอง”ซ่งรั่วเจินเหลือบมองวิญญาณของเซียวเหวินยวนที่อยู่ภายนอก พูดไปแล้วก็น่าสนใจ นับตั้งแต่คนผู้นี้ออกจากจวนสกุลเซียว กลับถามนางบนรถม้าไม่น้อยแต่พอถึงจวนฉู่อ๋อง หลังฉู่จวินถิงขึ้นรถม้าแล้ว เซียวเหวินยวนก็ออกไปนั่งด้านนอกคู่กับอวิ๋นหยางแทนมองออกว่าทั้งตอนเป็นคนหรือเป็นวิญญาณ เซียวเหวินยวนก็ยังรักษามารยาทน่าชื่นชมเอาไว้อวิ๋นหยางไม่รู้เลยว่าขณะควบม้าอยู่นั้น มีวิญญาณนั่งข้าง ๆ เขาอยู่ เขาเพีย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1898

    ชิงเถิงเข้าใจในทันใด พูดยิ้ม ๆ ว่า “บ่าวจะเข้าไปถามเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ”ไม่นานนัก ฉู่จวินถิงก็ขึ้นมานั่งบนรถม้าด้วยเขาคุ้นชินกับการโอบนางไว้ในอ้อมแขน หนำซ้ำยังจับมือของนางเล่นพลางเอ่ยถาม “จะออกไปที่ใดหรือ?”“วันนี้จะไปช่วยคนคนหนึ่ง เรื่องนี้ช่างยุ่งเหยิงเหลือเกิน ท่านได้ฟังแล้วต้องตกใจแน่”ซ่งรั่วเจินกะพริบตาปริบ ๆ ใบหน้างดงามเปี่ยมความภาคภูมิใจ สายตาดุจม่านหมอกกลับเจือรอยยิ้มเจ้าเล่ห์หลายส่วนฉู่จวินถิงให้ความร่วมมืออย่างมาก เอ่ยปากอย่างตกตะลึง “เรื่องอะไรลึกลับเพียงนั้น? ฮูหยินบอกข้าทีเถิด”“เซี่ยจือหลาน ท่านรู้จักใช่หรือไม่?”ฉู่จวินถิงได้ยินชื่อคุ้นหู ก่อนจะพยักหน้าตอบ “บิดาของนางเคยเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องไทเฮาเมื่อหลายปีก่อน ไทเฮาทรงสำนึกในบุญคุณนั้นอยู่เสมอ จึงดูแลเซี่ยจือหลานเป็นพิเศษ”“วันนี้เจ้าคงได้เจอนางมาใช่หรือไม่? ข้าได้ยินว่าสามีของนางเสียชีวิต จึงสั่งคนไปเยี่ยมไว้แล้ว”ปกติเขางานยุ่ง เรื่องการไปปลอบขวัญผู้วายชนม์เช่นนี้ก็มักจะมอบให้ผู้อื่นไปแทน หรือวันนี้รั่วเจินได้ไปงานนั้นหรือ?“หม่อมฉันสงสัยว่าเซียวเหวินยวนถูกเซียวเหวินเช่อฆ่าตาย” ซ่งรั่วเจินเอ่ยฉู่จวิน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1897

    ซ่งรั่วเจินเข้าใจความกังวลของเซี่ยจือหลาน จึงยิ้มบาง ๆ แล้วกล่าวว่า“เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้เสด็จย่าหรือเสด็จแม่ออกหน้า ยังมีคนที่สามารถช่วยเจ้าได้อีกคน”“คนที่สามารถช่วยได้อีกคน?” เซี่ยจือหลานสงสัยซ่งรั่วเจินพยักหน้า “เซียวเหวินยวน”“พี่ใหญ่? แต่พี่ใหญ่ตายไปแล้วมิใช่หรือ? จะช่วยข้าได้อย่างไร?”ในสายตาของเซี่ยจือหลานเต็มไปด้วยความสงสัย ภายในใจคิดว่าพระชายารัชทายาทจะเชิญวิญญาณกลับมาช่วยอย่างนั้นหรือ? แต่ตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์อยู่ จะทำเรื่องเช่นนั้นได้จริงหรือ?“ในเมื่อแม่สามีของเจ้าแกล้งหมดสติไปแล้ว เจ้าก็ฉวยโอกาสนี้ตรวจนับสินเดิมของเจ้าทั้งหมด ทำบัญชีออกมาเป็นรายการให้ชัดเจน”“ให้คนของวังหลวงนับต่อหน้าพวกเขา ถึงตอนนั้น วังหลวงหนึ่งชุด และเจ้าถือไว้อีกหนึ่งชุด เช่นนี้สกุลเซียวย่อมไม่กล้าแตะต้องสินเดิมของเจ้าโดยพลการ”“เมื่อเป็นเช่นนี้ รอเซียวเหวินยวนกลับมา ไม่ว่าเจ้าจะเลือกออกจากสกุลเซียว หรือจะขอหย่า ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะสูญเสียอะไร”เดิมทีเซี่ยจือหลานรู้สึกว่าการจากไปเฉย ๆ ยังมีความแค้นติดค้างอยู่ในใจ ไม่คิดว่าจะยังอีกวิธีหนึ่ง นี่จึงรู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างสุดระงับต่อให้ต้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status