แชร์

บทที่ 16

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
ไต้ซือเทียนสุ่ยรับคำสั่งจากฉินซวงซวง สายตาที่ทอดมองซ่งรั่วเจินเองก็เจือไอเย็น สตรีผู้นี้บังอาจมาทำลายช่องทางทำมาหากินของเขา เขาจะจัดการให้หนักเลยทีเดียว!

ครู่ถัดมา เขามองผีน้อยที่ตนเลี้ยงอย่างลำพองใจ เขาต้องเสียแรงไปมากถึงจะเลี้ยงออกมาได้ ยังได้รับคำชี้แนะจากผู้มีวิชาจึงมีความสามารถเช่นนี้

สายตาซ่งรั่วเจินเองก็ตกลงบนตัวผีน้อย ผีน้อยตัวนี้อายุราวหกถึงเจ็ดขวบเท่านั้น เพราะถูกเลี้ยงดูอย่างดี รูปร่างกลับไม่น่ากลัว เพียงแต่กลิ่นอายชั่วร้ายยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้ชัดว่าคือวิญญาณอาฆาตตนหนึ่ง

ตายอย่างไม่เป็นธรรม จึงสั่งสมไอแค้นไว้มาก

ในฐานะคนของสำนักวิชาเต๋า เผชิญหน้ากับวิญญาณอาฆาตเช่นนี้สมควรหาวิธีกำจัดความอาฆาตพยาบาท ช่วยเหลือเขาให้ไปเกิดใหม่ในเร็ววัน

ไต้ซือเทียนสุ่ยผู้นี้ ใช้ประโยชน์จากความอาฆาตพยาบาทเล็กน้อยนี้ ทำให้กลายเป็นกลวิธีหาเงิน

“ไต้ซือเทียนสุ่ย ชาตินี้ข้ายังมีหวังจะหาตัวลูกสาวของข้าพบอีกหรือไม่?” สวีฮูหยินเอ่ยถามอย่างร้อนใจ

ไต้ซือเทียนสุ่ยแสร้งหยิบกระดองเต่าออกมา ใส่แผ่นเหล็กสองชิ้นเข้าไปภายใน ปากบ่นงึมงำสวดคาถาขึ้นมา

สกุลสวีตามหาลูกสาวคนนี้มานานนับสิบกว่าปีแล้ว กลับหาไม่พบมาโดยตลอด หากไต้ซือเทียนสุ่ยสามารถหาคนพบได้จริง นั่นก็ไม่มีอันใดดีไปมากกว่านี้แล้ว

ไต้ซือเทียนสุ่ยฝึกฝนมาอย่างเชี่ยวชาญ จากนั้นพลังที่คุ้นชินกลับไม่แผ่ออกมา แผ่นเหล็กในกระดองเต่าก็ตกลงบนโต๊ะ

“เกิดอะไรขึ้น?”

ไต้ซือเทียนสุ่ยหันมองผีน้อยทางข้างหลังอย่างรวดเร็ว ผีน้อยมีพลังวิญญาณอยู่บ้าง ใช้งานผ่านวิธีนี้ย่อมมอบเบาะแสให้บางส่วน ทว่าบัดนี้ถึงขั้นไม่มีอันใดเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย

ถัดมา ยามเขาหันหน้ากลับมาก็พบว่าปากของผีน้อยที่ตนเลี้ยงคล้ายถูกผนึกไว้แล้ว ขณะเดียวกันกำลังดิ้นอย่างรุนแรง แต่กลับคล้ายมีพลังงานไร้รูปร่างสายหนึ่งควบคุมเอาไว้ทำให้เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลยแม้แต่น้อย

“นี่...เหตุใดเป็นเช่นนี้?”

ซ่งรั่วเจินยกมุมปากยิ้มเยาะ “ไต้ซือเทียนสุ่ย การแสดงเลี้ยงดูผีน้อยพรรค์นี้ ยามอยู่ต่อหน้าข้าไม่พอให้ชายตาแลหรอกนะ”

คำนี้พูดออกมา สีหน้าไต้ซือเทียนสุ่ยเปลี่ยนไป สายตาตื่นตะลึงอย่างหนักสะท้อนออกมาแวบหนึ่ง

ซ่งรั่วเจินถึงขั้นมองเห็น!

ครู่ถัดมา ซ่งรั่วเจินเหยียดนิ้วมือและงอทีหนึ่ง ผีน้อยตัวนั้นก็เดินไปหยุดข้างกายนางอย่างเชื่อฟัง

“ไต้สือเทียนสุ่ย นี่หมายความว่าอย่างไร?”

สวีฮูหยินเห็นท่าทีของไต้ซือเทียนสุ่ยเปลี่ยนเป็นตกตะลึงหวาดกลัวอย่างฉับพลัน ทันใดนั้นในใจก็ให้ตกตะลึงไปชั่วขณะ มิใช่ว่าบุตรสาวของนางตายไปแล้วกระมัง?

ไต้ซือเทียนสุ่ยยากจะลงจากหลังเสือแล้ว ทำได้เพียงแสร้งสุขุม “ฮูหยิน ลูกสาวของท่านวาสนาตื้นเขิน ถูกกำหนดให้ต้องอยู่ห่างไกลพันลี้ แต่ลูกสาวของท่านยังมีชีวิตอยู่บนโลก ด้วยวิชาเต๋าของข้าในตอนนี้ ทำนายได้เพียงลูกสาวของท่านอยู่ทางทิศอาคเนย์ หากต้องการตามหาก็สามารถไปหาทางทิศนี้ได้”

“มีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว ๆ ” สวีฮูหยินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง นี่ก็คือข่าวดีที่สุด

“ไต้ซือ สามารถบอกให้ชัดเจนยิ่งกว่านี้ได้หรือไม่? ขอเพียงสามารถหาลูกสาวของข้าพบ เงินมากน้อยเพียงใดข้าก็ยินดีมอบให้!”

“ความลับสวรรค์มิอาจเปิดเผย แม้ข้าสามารถคำนวณหาตำแหน่งของนางได้ แต่เรื่องของวาสนาก็คือสวรรค์กำหนด ผู้อื่นไม่สมควรเข้าไปยุ่ง มิเช่นนั้นภัยจะย้อนเข้าตัว”

ฉินซวงซวงมองเทียนสุ่ยอย่างไม่พอใจ นางรู้ความสามารถของคนผู้นี้ ขอเพียงคำนวณออกมาแม่นยำยิ่งกว่านี้ได้ คำพูดของซ่งรั่วเจินก็จะกลายเป็นแพ้ภัยตนเอง ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกแล้ว!

บัดนี้โอกาสอันดีก็วางอยู่ตรงหน้า เขาถึงขั้นคำนวณออกมาไม่ได้?

เทียนสุ่ยกระวนกระวายคุมสติไม่อยู่ ไฉนเลยยังจะสนใจฉินซวงซวงอีก?

เห็นดังนั้น สวีฮูหยินเผยสีหน้าผิดหวัง สาวใช้ข้างกายจึงพูดปลอบ “ฮูหยิน ขอเพียงคุณหนูยังมีชีวิตอยู่ จะต้องมีวันได้พบหน้ากันอีกเป็นแน่”

ซ่งรั่วเจินเองก็สำรวจหน้าตาของสวีฮูหยินเฉกเดียวกัน เห็นสามีภรรยามีดวงชะตาดี แม้ด้านลูกชายลูกสาวขาดหายไปบ้าง แต่ก็เริ่มสมบูรณ์แล้ว มิใช่สัญญาณของการพลัดพราก

“สวีฮูหยิน ข้าขอดูมือขวาของท่านได้หรือไม่?”

อันที่จริงสวีรั่วหลานไม่เชื่อซ่งรั่วเจิน กระนั้นเห็นนางเอ่ยปากพร้อมไปด้วยมารยาท ก็ยื่นมือออกไป

ซ่งรั่วเจินตรวจลวดลายบนฝ่ามือ มั่นใจในการตัดสินใจของตนแล้ว

“ลูกสาวท่านยังมีชีวิตอยู่จริงๆ”

ได้ยินแล้ว ซุนฮั่นเฟยก็หัวเราะออกมา “ข้าว่าญาติผู้น้อง เมื่อครู่ไต้ซือเทียนสุ่ยเองก็พูดคำนี้มาก่อนแล้ว เจ้าพูดเช่นนี้ยังมีความหมายอันใดอีก? มีความสามารถเจ้าก็หาคนออกมา นั่นต่างหากจึงจะยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง!”

“รั่วเจิน ข้ารู้เจ้ามีโทสะภายในใจ ต่อให้ไม่ชอบแม่นางฉินก็ไม่ควรพูดให้ร้ายไต้ซือเทียนสุ่ย ยังสร้างเรื่องต่อไปเช่นนี้ ที่ขายหน้าก็คือทั้งสกุลซ่งนะ”

หลิ่วเฟยเยี่ยนรีบถลันออกมา แม้คล้ายพูดเกลี้ยกล่อม แต่พูดไปพูดมากลับใส่ร้ายทำลายชื่อเสียงของซ่งรั่วเจิน

“ต่อให้ข้าทำให้สกุลซ่งเสียหน้าจริงก็ไม่เกี่ยวอันใดกับท่าน ตรงข้ามกันท่านน้ายังไม่รู้ผล ทุกถ้อยคำก็พูดว่าข้าใส่ร้าย ก่อนหน้านี้ข้ายังไม่เข้าใจเพราะเหตุใดญาติผู้พี่จึงยื่นแขนออกนอกบ้านเข้าข้างผู้อื่น ที่แท้ก็เรียนรู้มาจากท่านน้านี่เอง!”

สีหน้าหลิ่วเฟยเยี่ยนแข็งทื่อ นางก็คิดเช่นนี้จริง แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกซ่งรั่วเจินเปิดโปงอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้

“แม่นางซ่ง เจ้าไม่ชอบข้าก็ช่างเถอะ ซุนฮูหยินเป็นน้าของเจ้า เหตุใดเจ้าพูดเช่นนี้?” ฉินซวงซวงขมวดคิ้วพลางพูด

“แม่นางฉินช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก ก่อนหน้านี้ชี้แนะอดีตคู่หมั้นข้าให้มอบของขวัญ บัดนี้ก็มาสอนข้าให้เป็นคนดี เจ้ามีหลักการยิ่งใหญ่เพียงนี้ เหตุใดไม่มีใครสอนเจ้าว่าไม่ควรยั่วยวนชายมีคู่หมั้นแล้วกันเล่า?” ซ่งรั่วเจินเยาะหยันทีหนึ่ง สายตาสุกสกาวมองนางอย่างสงสัย

ฉินซวงซวงรู้สึกเก้อกระดากขึ้นมาในทันใด ครู่ถัดมาดึงมือหลินจือเยว่ ฝ่ายหลังเตรียมอ้าปาก ซ่งรั่วเจินก็เลิกคิ้ว “อะไรกัน? ท่านเองก็จะสอนข้าให้เป็นคนดีด้วยหรือ?”

คำพูดที่กำลังจะหลุดจากปากหลินจือเยว่กลืนกลับไปแล้ว

“ความหมายของแม่นางซ่งก็คือ สามารถหาตัวแม่นางสวีพบงั้นหรือ?” ฉินซวงซวงกำหมัดแน่น เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันภายในใจ ใบหน้าไม่เผยอารมณ์ใดออกมา

ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “แน่นอน!”

สวีฮูหยินจับมือนางอย่างตื่นเต้น “แม่นางซ่ง ที่เจ้าพูดเป็นความจริงกระนั้นหรือ? ขอเพียงเจ้าสามารถช่วยข้าหาลูกสาวพบ ข้าจะจดจำบุญคุณยิ่งใหญ่นี้เอาไว้ ภายภาคหน้าหากมีเรื่องใดต้องการให้สกุลสวีของพวกเราช่วยเหลือก็ขอให้พูดออกมาตามตรง”

“ลูกสาวของท่านก็อยู่ที่นี่แล้ว”

คำนี้พูดออกมา ทุกคนที่นี่ล้วนตะลึงงัน ถัดมาหันมองทุกทิศทาง ซ่งรั่วเจินกำลังพูดอะไร?

“เจ้าไม่รู้ตั้งแต่แรก ไฉนเลยพูดส่งเดชออกมาได้?” หลินจือเยว่ทนมองต่อไปไม่ไหวแล้ว “หรือเจ้าไม่รู้สวีฮูหยินเพื่อตามหาลูกสาวต้องลงแรงไปมากน้อยเพียงใด เพียงเพราะความเห็นแก่ตัวก็ทำให้ผู้อื่นเสียใจ เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ไร้เหตุผลจริงๆ!”

ฉินซวงซวงเองก็ไม่เข้าใจ “แม่นางซ่ง แม่นางสวีจะอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? เกรงว่าเจ้าพูดผิดไปแล้วกระมัง?”

“หลินโหว แม่นางซ่งยังไม่พูด เหตุใดเจ้าก็รู้ว่านางพูดไม่ถูก?”

ตอนนี้เอง เสียงเยียบเย็นห่างเหินพลันดังขึ้นเนิบๆ

ทุกคนหันไปมองโดยไม่รู้ตัว มองเห็นเงาร่างงดงามหล่อเหลาไม่ธรรมดาสายหนึ่ง ประหนึ่งเทพเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ก็มิปาน สง่างามน่าเกรงขาม รัศมีอยู่เหนือทุกคน

ฝ่ายชายสวมชุดสีดำ ปักลายดิ้นทองสะท้อนแสงประกายเรืองรอง ทั้งเรียบง่ายทั้งหรูหรา แต่กลับมิอาจบดบังรัศมีของใบหน้าหล่อเหลานั้นได้

สายตาลุ่มลึกดุจดวงดาวในมหาสมุทร คิ้วงามขับเน้นให้ดวงหน้าคมเข้มยิ่งขึ้น เลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ก็คล้ายกำลังเย้ยหยันอย่างไม่ใส่ใจ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (5)
goodnovel comment avatar
ปนัสยา ประสงค์เงิน
ทำไมกลับมาที่บทเดิมทั้งที่ทำตามและอ่านมาถึงบทที่ 27แล้วแต่กลัมาบที่ 17อีกเกิดอะไรหรือ
goodnovel comment avatar
Suthida Pornjamroen
อยากอ่านต่อ
goodnovel comment avatar
ความทรงจำ ที่หายไป
ปลดล็อคยังไงค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 17

    “องค์ชายสาม?”ชั่วขณะหลินจือเยว่มองเห็นฉู่จวินถิง สีหน้าก็เข้มขึ้น เขายังจำได้ดี เมื่อสองปีก่อนซวงซวงปฏิเสธเขาก็เพราะฉู่จวินถิง!“ข้าได้ยินว่ามีไต้ซือวิชาล้ำเลิศของลัทธิเต๋าท่านหนึ่งเดินทางมาเมืองหลวงจึงมาดูสักหน่อย มองรูปลักษณ์ดูแล้วยอดเยี่ยมกว่าที่คิดไว้มากนัก”ใบหน้าฉู่จวินถิงประดับยิ้ม ท่วงท่าที่แสดงออกมากลับไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าเขาเพียงยืนอยู่ที่นั่น พูดคุยอย่างสนุกสนานแต่กลับสง่างามเจิดจรัส ทำให้คนไม่กล้าล่วงเกินชั่วขณะที่ฉินซวงซวงมองเห็นฉู่จวินถิง ก็ยังมิอาจควบคุมความหลงใหลที่สะท้อนภายในสายตาได้แม้กลับชาติมาเกิดอีกครั้ง ยามได้พบฉู่จวินถิงก็ยังรู้สึกโหยหาอย่างมิอาจอดกลั้น บุรุษเช่นนี้ถึงจะเป็นคนที่นางต้องการอย่างแท้จริง สูงศักดิ์ หล่อเหลา ลึกลับ นางอยากรู้เหลือเกินว่าบุรุษเช่นนี้ จะเป็นอย่างไรหากวันหนึ่งเกิดหลงใหลยอมจำนนขึ้นมา?ทว่าน่าเสียดายชาติก่อนนางเสียเวลาไปมากเพียงนั้น เดินทางผิดมากเพียงนั้น สุดท้ายก็ไม่สามารถทำให้เขาชายตาแลได้ ตรงกันข้ามกลับกลายเป็นตัวตลกในสายตาของทุกคนซ่งรั่วเจินเองก็คิดไม่ถึงว่าจะได้พบฉู่จวินถิงที่นี่ มองเห็นโชคชะตาสีแดงจนเริ่มม่วงนั้นของเขา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 18

    หลังไต้ซือเทียนสุ่ยได้ยินคำนี้หัวใจก็เต้นตึกตัก จ้าวเหวินเทากลับย้อนคิดอย่างไม่เข้าใจ “หลานชายข้าเริ่มร้องไห้ราวเมื่อเจ็ดวันก่อน ไม่ยอมกินอะไร แม้กินแล้วก็อาเจียนออกมาอย่างรวดเร็ว...”พูดไปๆ เขาคล้ายนึกบางอย่างออกอย่างฉับพลัน ดวงตากลมโตหันมองเทียนสุ่ย “ไต้ซือเทียนสุ่ยคล้ายมาถึงเมืองหลวงในตอนนี้!”“ก่อนหลานชายท่านร้องไห้ เคยมีคนส่งของอันใดให้หรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามอีกครั้ง“เมื่อนั้นมีคนส่งจี้หยกหนึ่งชิ้นให้หลานชายข้าจริงๆ จี้หยกนี้ปลุกเสกมาก่อนแล้ว เป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง เดิมทีข้าไม่อยากรับไว้ แต่เห็นหลานชายคล้ายชอบจนไม่ยอมปล่อยมือจึงสวมคอของเขาไว้แล้วเริ่มตั้งแต่วันที่สอง เด็กก็ร้องไห้ไม่หวาดไม่ไหว จนกระทั่งเมื่อสองวันก่อนข้าพาหลานชายมาพบไต้ซือเทียนสุ่ย ไต้ซือเทียนสุ่ยมอบหยกอีกหนึ่งชิ้นให้อาการจึงดีขึ้น แต่หยกชิ้นนั้นก่อนหน้านี้ไม่รู้หายไปที่ใดแล้ว”ใต้เท้าจ้าวเล่าถึงตรงนี้ ตอบสนองเชื่องช้าอย่างไรก็รู้ได้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้นแล้วเดิมทีนี่ก็ไม่ใช่วิธีขับไล่สิ่งสกปรกที่เกาะตัวเด็ก แต่เป็นได้รับภัยโดยไร้สาเหตุ!จี้หยกชิ้นก่อนทำร้ายเด็ก ถัดมาผ่านกลวิธีของไต้ซือเทียนสุ่ย อันที่จริงขอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 19

    “ซวงซวงมิได้ตั้งใจ เหตุใดเจ้าต้องบีบคั้นคนอื่นถึงเพียงนี้?” หลินจือเยว่ปกป้องฉินซวงซวงไว้ทางด้านหลัง สีหน้าบึ้งตึง“ข้าบีบคั้นคน? คนมากมายที่นี่ถูกทำร้าย หลานชายของใต้เท้าจ้าวได้รับภัยโดยไร้สาเหตุ พี่รองข้าต้องตาบอดเพราะสวมสร้อยข้อมือเส้นนี้ บัดนี้หลินโหวพูดหนึ่งประโยคว่ามิได้ตั้งใจก็ถือว่าจบกันไปแล้วกระนั้นรึ? ท่านมีสิทธิ์อะไรพูดคำนี้กัน?”ใบหน้างดงามมีเสน่ห์ของฝ่ายหญิงเจืออารมณ์โกรธขึ้ง ดวงตาดำดุจหมึกคู่งามทอประกายวาวโรจน์ ท่าทีดุดันชัดเจน ถึงขั้นทำให้หลินโหวตะลึงงัน“ไต้ซือชั่วคนนี้หลอกพวกเราหลายคนเพียงนี้ หากมิใช่เพราะฉินซวงซวงเชิญมา พวกเราจะถูกหลอกได้อย่างไร?”“ตนเองตาไม่ดีก็ช่างเถอะ ยังพาหายนะเช่นนี้มาด้วย โชคร้ายที่พวกเราแต่ละคนหลงเชื่อ ทำร้ายพวกเราอย่างรันทดถึงเพียงนี้!”“หลินโหวเองก็มิใช่ว่าถูกหญิงคนนี้ใช้เล่ห์เหลี่ยมอันใดจับไว้แล้วหรือ หาไม่แล้วไฉนเลยจะลุ่มหลงนาง ไม่ยอมแต่งงานกับแม่นางซ่งที่ดีเพียงนี้ ต้องแต่งกับหญิงผู้นี้เท่านั้น?”ได้ยินเสียงตำหนิเกินควร ประโยคแรกว่ารุนแรงแล้วประโยคถัดมากลับรุนแรงยิ่งกว่า สีหน้าฉินซวงซวงเผือดซีด คิดดูแล้วก็ไม่เข้าใจ ทั้งที่ชาติก่อนไต้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 20

    หลินจือเยว่คิดแล้วก็ไม่เข้าใจ เหตุใดฉู่อ๋องจึงให้ท้ายซ่งรั่วเจินฉู่อ๋องถึงวัยออกเรือนแล้ว แต่กลับยังไม่แต่งงาน คุณหนูในเมืองหลวงมากมายล้วนหลงใหล กลับไม่มีผู้ใดสามารถเข้าตาของเขาได้ เหตุใดบัดนี้กลับปกป้องซ่งรั่วเจิน?“เมื่อครู่เป็นข้าเข้าใจผิดไป ขออภัย”หลินจือเยว่พูดขอโทษอย่างฝืนๆ อึดอัดคับข้องใจเป็นที่สุด เขาเป็นขุนนางใหม่ในราชสำนัก เมื่อหลายวันก่อนทุกคนในราชสำนักล้วนชื่นชม ทุกคนที่ได้พบต่างเข้ามาผูกไมตรีกับเขา ทว่านับตั้งแต่เมื่อวานก็เริ่มขายหน้าอย่างต่อเนื่อง“หวังว่าท่านโหวจะจดจำไว้ อย่าเปิดปากขอโทษเพราะทำผิดบ่อยเกินไปนัก ข้าฟังแล้วเลี่ยนนัก” ซ่งรั่วเจินรับคำนิ่งๆ ไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อยสายตาฉู่จวินถิงกวาดมองบนตัวพวกซุนฮั่นเฟย “เมื่อครู่คนพูดจาส่งเดชคล้ายมิใช่เพียงหลินโหวคนเดียวกระมัง?”เห็นสถานการณ์แล้ว หลิ่วเฟยเยี่ยนที่กำลังวางแผนหลบหลีกเข้ากลุ่มคนพลันชะงักฝีเท้า ใบหน้าเผยรอยยิ้มประจบเอาใจ “รั่วเจิน ล้วนเป็นน้าไม่ดีเอง เข้าใจเจ้าผิดไปแล้ว น้าเองก็กังวลเจ้าพูดผิดไปจะสร้างปัญหาเอาได้ เจ้าไม่ถือสาน้าใช่หรือไม่?”“ญาติผู้น้อง พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน” ซุนฮั่นเฟยพูดยิ้ม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 21

    ซ่งรั่วเจินหัวเราะเยาะในใจ ตอนที่อ่านนิยายนางก็รู้สึกว่าตระกูลหลิ่วทั้งตระกูลไม่ใช่คนดี หลิ่วเฟยเยี่ยนกล้ากระทำการอย่างโจ่งแจ้งก็เพราะอาศัยการสนับสนุนจากตระกูลหลิ่วตอนแรกแม่ของนางก็เคยไม่พอใจ แต่ใครจะคิดว่าตระกูลนี้ลำเอียงมากนัก มักจะพูดตลอดว่าหลิ่วเฟยเยี่ยนเป็นน้องสาวแท้ ๆ ในฐานะพี่สาวควรดูแลน้องให้มาก ทั้ง ๆ ที่ผู้ที่ตกที่นั่งลำบากคือท่านแม่ของนาง ทว่าสุดท้ายกลับถูกตำหนิว่าจิตใจแคบหลายปีที่ผ่านมานี้ เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนเป็นปกติ เมื่อปิดประตูพูดคุยกัน ก็จะทำให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก ไม่แน่ว่าอาจจะถูกใส่ร้ายซ้ำอีกด้วย“จะเป็นการดูถูกได้อย่างไร? เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนมากมายเช่นนี้ ท่านน้าก็บอกแล้วว่านางโดนใส่ความ แน่นอนว่าต้องให้ทุกคนได้รับรู้ความจริงเพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด ข้าหวังดีต่อท่านน้าจริง ๆ นะเจ้าคะ!”ซ่งรั่วเจินมีสายตาใสบริสุทธิ์ ท่าทางจริงใจจนแม้แต่หลิ่วซวี่หยางก็ยังคล้อยตาม แต่ในใจเขารู้ดีว่าไม่มีการใส่ความอะไรทั้งนั้น“เจตนาดีของเจ้า ตารู้ดี เพียงแต่น้าของเจ้าเป็นสตรี หากมีข่าวลือออกไป...”“ข้าก็อยากฟังเหตุผลเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าตระก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 22

    ฉู่จวินถิงมองเห็นความหมายแฝงในสายตาของซ่งรั่วเจิน รอยยิ้มในดวงตาเขาลุ่มลึกขึ้น “แน่นอน”ช่วยแล้วก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด เขาก็อยากจะดูว่าเรื่องขับขันเรื่องนี้ ตระกูลหลิ่วและตระกูลฉินจะอธิบายอย่างไรเพ่ยหลานเดิมไม่เชื่อคำพูดของซ่งรั่วเจิน เพราะมีหลิ่วเฟยเยี่ยนและแม่นางฉินหนุนหลัง นางจึงไม่จำเป็นต้องกลัวซ่งรั่วเจินที่ดูอ่อนปวกเปียกแต่เมื่อเห็นท่านอ๋องพูด นางจึงตระหนักว่าเรื่องที่ตนจะถูกตีจนตายอาจเป็นเรื่องจริง ในใจให้หวาดกลัวอย่างถึงที่สุด“พูดมา ใครกันแน่ที่ซื้อตัวเจ้า?” ซ่งรั่วเจินถามอย่างเย็นชาเพ่ยหลานเห็นว่าหลิ่วเฟยเยี่ยนและฉินซวงซวงไม่สนใจนาง จึงกัดฟันพูดว่า “ไม่เกี่ยวกับฮูหยินและแม่นางฉิน ข้าไม่ได้ถูกพวกเขาซื้อตัว”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลิ่วเฟยเยี่ยนและฉินซวงซวงต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขอแค่นางไม่บอกว่าพวกเขาเป็นคนซื้อตัวก็พอทั้งสองคนมองซ่งรั่วเจินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความได้ใจ คิดว่านางจะไม่มีทางออกแล้ว!“ดี งั้นก็ลากออกไปตีจนตายเสีย!” สีหน้าของซ่งรั่วเจินไม่เปลี่ยน ดูเหมือนจะไม่แปลกใจเลย “หวังหลู่ เจ้าไปคุมเอง ห้ามใครยุ่งเกี่ยว ตีให้ตายแล้วนำไปโยนทิ้งที่หลุมฝังศพรว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 23

    “หยุดเดี๋ยวนี้!” ซ่งรั่วเจินยกมือขึ้นขัดจังหวะหลินจือเยว่“จวนโหวของเจ้าจะให้ใครแต่งเข้าก็เรื่องของเจ้า ข้าไม่สนใจและข้าก็หวังว่าเจ้าสองคนจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่าผมขาวโพลน แต่พวกเจ้ามาหาเรื่องข้าโดยไม่มีเหตุผล นั่นต่างหากที่เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง!”“ทำไมเล่า? ความรักของพวกเจ้าก็ดีอยู่แล้วยังต้องให้ข้าแต่งเข้าไปเพื่อเป็นสักขีพยานอีกหรือ? สมองมีปัญหาหรือไร?”“แม่นางฉินก็น่าขันแท้ นางคิดว่าตัวเองไม่มีความสามารถที่จะเป็นฮูหยินเอกหรือ? ข้าก็ถอนหมั้นแล้ว เจ้าก็ยังมาขอให้ข้ากลับไป ฮูหยินเอกที่ศักดิ์เท่าเทียมก็แค่ชื่อเรียกหรูหรา สุดท้ายก็เป็นแค่ฮูหยินรอง”“ใช้ชีวิตมาถึงเพียงนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นคนไม่อยากเป็นฮูหยินเอก แต่อยากเป็นฮูหยินรองใจแทบขาด!”ซ่งรั่วเจินเปลี่ยนทิศทางของคำพูด “หรือว่า... จวนหลินโหวขาดแคลนจนกระทั่งจ่ายเงินให้คนใช้ไม่ได้ แม่นางฉินไม่มีสินสอดมากพอที่จะเสริมให้ จึงหวังให้ข้าแต่งเข้าไปเพื่อให้พวกเจ้าสามารถใช้เงินข้าได้อย่างสุขสมหวังทั้งสองคน?”“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้! ก่อนหน้านี้ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมฉินซวงซวงถึงอยากให้ซ่งรั่วเจินกลับไป ที่แท้ก็เพราะเรื่องเงิน!”“ใครจะไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 24

    “ตึง!” หลานจือรีบคุกเข่าลงพลางร้องไห้คร่ำครวญ “ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของบ่าว ไม่เกี่ยวกับคุณหนูเลยเจ้าค่ะ!”“คุณหนูปฏิบัติต่อบ่าวอย่างดี บ่าวกลัวว่าคุณหนูแต่งงานกับหลินโหวไปแล้วแม่นางตระกูลซ่งจะไม่ดีด้วย ถึงได้ใช้ชื่อคุณหนูไปซื้อตัวเพ่ยหลาน ข้ามิได้วางแผนจะทำร้ายแม่นางซ่ง แค่อยากทราบข่าวบางอย่างเท่านั้นเองเจ้าค่ะ”“ขอให้แม่นางซ่งหายโกรธ เรื่องนี้คุณหนูของข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ นะเจ้าคะ”“หลานจือ เหตุใดเจ้าถึงโง่งมเช่นนี้?” ฉินซวงซวงน้ำตาเริ่มคลอ “ทำไมต้องทำเรื่องที่ไม่จำเป็นเช่นนี้ ทั้งยังทำให้แม่นางซ่งเข้าใจผิดอีก!”“คุณหนู บ่าวได้รับพระคุณจากท่านตั้งแต่เด็ก บ่าวแค่อยากตอบแทนคุณหนูจึงใช้วิธีโง่เขลาเช่นนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของบ่าวเองเจ้าค่ะ”หลานจือคุกเข่าอยู่บนพื้น ก้มโขกหัวไม่หยุด เลือดไหลนองหน้าผากในทันที “แม่นางซ่ง ทั้งหมดเป็นความผิดของบ่าวเอง จะลงโทษอย่างไรบ่าวก็ยอม ขอแค่อย่ากล่าวหาคุณหนูของบ่าวเลยเจ้าค่ะ”ฉินซวงซวงทำท่าเหมือนซาบซึ้งใจ เอาผ้าเช็ดน้ำตาที่หางตา “แม่นางซ่ง เรื่องนี้เป็นความผิดของพวกเรา หลานจือเป็นสาวใช้ใกล้ชิดของข้า หวังว่าเจ้าจะให้อภัย”ผู้คนมองฉากความผูกพันระ

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 990

    เพียงเอ่ยปาก โทสะทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาแล้วความเจ็บปวดและอึดอัดใจที่สั่งสมอยู่ภายในใจล้วนระเบิดออกมาในเวลานี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอวิ๋นเนี่ยนชูพูดเช่นนี้เป็นครั้งแรก มองนางตวาดถามไล่เรียงตนเอง ภายในใจเปี่ยมความรู้สึกผิด“ขอโทษ ล้วนเป็นความผิดของข้า”เห็นสายตาเปี่ยมความรู้สึกผิดของฝ่ายชาย อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เดิมทีทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของท่านอยู่แล้ว! เหตุใดท่านไม่บอกข้าเร็วสักหน่อย ท่านรู้ว่าหลายปีมานี้ข้าฝืนได้ลำบากมากเพียงใดหรือไม่?”“ในเมื่อท่านไม่พูดมาโดยตลอด เหตุใดไม่เก็บเอาไว้ชั่วชีวิตเล่า?”น้ำตานางไหลลงมา ตลอดหลายปีมานี้ไม่ตอบรับความรู้สึกนาง นี่ทุกข์ใจมากเพียงใด?นางอยากบริภาษเขาแรงๆ อยากทุบตีเขา ชนิดที่ว่าอยากไม่สนใจเขาอีก ทำให้เขาเสียใจภายหลังไปชั่วชีวิตเพียงแต่ ยามได้เห็นของเหล่านั้นที่เขาซ่อนไว้ภายในห้อง รวมถึงภาพเหมือนของนางที่วาดไว้นับไม่ถ้วนยามค่ำคืน นางก็อยากร้องให้อย่างอดไม่ได้...“เป็นความผิดของข้าเอง ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า เจ้าตีข้าด่าข้าโทษข้า ล้วนสมควรทั้งสิ้น”อวิ๋นเฉิงเจ๋อสืบเท้าขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ภายในสายตาเปี่ยมความเอ็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 989

    “อะไรนะ?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงัก ภายในสายตาสะท้อนความตกตะลึงทั้งๆ ที่ตลอดมาล้วนเป็นนางตอแยญาติผู้พี่หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้นางทำเช่นนี้มาโดยตลอด คาดว่าญาติผู้พี่ก็คงไม่ชอบนาง ทว่าได้ยินคำพูดของมารดาแล้ว เหตุใดญาติผู้พี่ถึงผลักทั้งหมดนี้ลงบนศีรษะของเขาเล่า?“เฉิงเจ๋อพูดว่าเขาพยายามสอบสร้างผลงานก็เพื่อจะได้คู่ควรกับเจ้า จะได้มีโอกาสสู่ขอเจ้า”“หากเปลี่ยนเป็นในอดีต ข้าจะต้องไม่เห็นด้วยที่พวกเจ้าคบหากัน บัดนี้ผ่านเรื่องมามากถึงเพียงนี้ ความคิดของแม่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย”“หากเจ้าชอบเฉิงเจ๋อจริง ข้าเองก็ไม่คัดค้าน แต่หากเจ้าไม่ชอบ...”สีหน้าจางเหวินสับสน ก่อนหน้านี้เคยเห็นท่าทางของเด็กทั้งสอง ไม่ว่ามองอย่างไรเนี่ยนชูก็ไม่คล้ายไม่ชอบเฉิงเจ๋อ“ข้าชอบญาติผู้พี่เจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าชอบญาติผู้พี่มาโดยตลอด”มองเห็นท่าทางมุ่งมั่นของลูกสาว จางเหวินรู้สึกเอือมระอาระคนโชคดีอยู่บ้าง “ช่างแล้วๆ น้ากู้ของเจ้าพูดถูกแล้ว ลูกหลานมีความสุขของลูกหลาน พวกเจ้าคบหากันก็เป็นพวกเจ้าสร้างขึ้น”“แม้ว่าปีนั้นเฉิงเจ๋อทำไม่ถูก ไม่สมควรเกิดความคิดต่อเจ้า แต่ข้าล้วนเห็นความพยายามของเขาตลอดหลา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 988

    ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงเขาพยายาม เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องมีอนาคตแน่ตระกูลตกต่ำ บิดามารดาจากไปก่อนวัยอันควร เดิมทีเขาก็เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจตายที่ข้างถนนตั้งนานแล้ว บัดนี้ไม่เพียงมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ ท่านน้ายังเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือเขา เขาไม่มีวันอกตัญญูเขาคิด...รออีกหน่อย รอจนเขามีความสามารถ รอจนเขาฉายแววโดดเด่น บางทีอาจมีโอกาสขอท่านน้าแต่งงานกับเนี่ยนชูทว่า ขณะเขากำลังตรากตรำร่ำเรียนอยู่นั้น ในที่สุดก็ได้รับคำชมจากอาจารย์ ได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง อาจารย์ของสำนักศึกษาหลวงเองก็ชื่นชมว่าเขาจะต้องมีโอกาสสอบผ่านขุนนางแน่ ตอนเขาคิดว่าตนเองอาจจะสามารถตอบรับความรู้สึกของเนี่ยนชูได้ กลับได้ยินท่านน้าและแม่นมพูดสนทนากันที่แท้...เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบิดามารดาลูกของมารดาตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนเขาคือเด็กที่วันนั้นถูกทิ้งไว้หน้าประตูเรือนด้านหลังของมารดาเดิมทีมารดาก็ยากจะยอมรับความเจ็บปวดได้ อีกทั้งยังสงสารเขา หมอพูดว่าร่างกายนางเสียหาย ภายภาคหน้ายากจะมีลูกได้อีก นี่ถึงรับอุปการะเขา ประกาศต่อโลกภายนอกว่าเขาเป็นลูกของตนเขาเป็นแค่เด็กถูกทิ้งคนหนึ่ง เศษสวะที่ไม่ยอมหนาว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 987

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ข้าเคยไม่สนับสนุนเจ้าตั้งแต่ยามใด? แต่ไหนแต่ไรมาข้าล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้า”ก่อนหน้านี้นางทำนายมาก่อนแล้ว ภายในเรื่องนี้มีเงื่อนงำซ่อนอยู่มากมาย อวิ๋นเฉิงเจ๋ออ่อนแอเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีความรับผิดชอบมากเพียงพอเพียงแต่ หากไม่เคยผ่านความทุกข์ของผู้อื่น ก็ไม่สามารถตัดสินตามใจได้อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลายเป็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาในช่วงหลายปีมานี้เรื่องเดียวกัน บางคนมีความรับผิดชอบที่แข็งแกร่งมาก ไม่ได้รับผลกระทบใด แต่บางคนคิดอ่านอย่างละเอียด ยากจะสามารถรับได้ใต้หล้ากว้างใหญ่ รวมทุกสรรพสิ่งไว้แล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะตนเอง นางย่อมไม่วู่วามสอดมือเข้าไปอวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มกว้าง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไรข้าก็ไม่ใส่ใจแล้ว หากไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ข้าจะต้องเสียใจภายหลังแน่”“ตอนนี้ท่านป้าจ้างกำลังอยู่กับท่านแม่ข้า รอกลับไปแล้วค่อยหาโอกาสพูดเถอะ”ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนาย ภายในสายตาเผยแววประหลาดใจ เปลี่ยนคำพูด “ดูท่าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกจากปากของตนแล้วล่ะ”อวิ๋นเนี่ยนชูสงสัย “หมายความว่าอะไร?”“ญาติผู้พี่เจ้าพูด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 985  

    เมื่อเห็นกู้ฮวนเอ๋อร์ภาคภูมิใจเช่นนี้ ซ่งรั่วเจินและคนอื่น ๆ ก็อดมิได้ที่จะสงสัยใคร่รู้ ว่าของล้ำค่าที่ว่าคือสิ่งใดกันแน่?     “ผ่าม!”    กู้ฮวนเอ๋อร์เปิดกล่องผ้าไหมออกด้วยความตื่นเต้นยิ่ง แต่ทว่าหลังจากที่ทุกคนในงานเห็นของในกล่องผ้าไหมแล้ว ล้วนนิ่งงันไปทันที    เนื่องด้วยในกล่องนั้นมีเจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรอยู่องค์หนึ่ง!    “แค่กๆ” ฉู่อวิ๋นกุยกระแอมครั้งหนึ่ง แต่ใบหน้ากลับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ สตรีที่เขาชอบนั้น ช่างเป็นคนที่ชาญฉลาดนัก!    ซ่งรั่วเจินพลันมองไปทางฉู่จวินถิงโดยไม่รู้ตัว ใบหน้ากลับเห่อแดงขึ้นมา    แววตาของฉู่จวินถิงปรากฏแววขบขันวาบผ่าน ของขวัญชิ้นนี้ช่างมีความหมายยิ่งนัก    กู้ฮวนเอ๋อร์เห็นว่าหลังจากที่ตนหยิบของขวัญออกมาแล้ว ทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบ จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น ”นี่มันสีหน้าอะไรของพวกเจ้ากัน? หรือว่าไม่ดีงั้นหรือ?“    “เจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรองค์นี้ ข้าไปกราบขอมาโดยเฉพาะ ผ่านพิธีปลุกเสก ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก!”    ซ่งรั่วเจิน “...”    หลายครั้งนางเองก็นับถือกู้ฮวนเอ๋อร์จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่อายุน้อยขนาดนี้ แต่ความคิดที่จะมอบของขวัญให้กลับเหมือนค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 984  

    ณ เวลาเดียวกันนั้น อวิ๋นเนี่ยนชูก็ได้มาหาซ่งรั่วเจินเช่นกัน    “รั่วเจิน ยินดีกับเจ้าด้วยนะ ข้าเองก็เห็นเหตุการณ์ในงานเทศกาลโคมไฟแล้ว เดิมทีอยากจะไปแสดงความยินดีกับเจ้าอยู่หรอก แต่หลังจากนั้นเกิดเรื่องบางอย่างทำให้ล่าช้าไป จึงต้องมามอบของขวัญแสดงความยินดีในวันนี้”    อวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มพลางยื่นของขวัญแสดงความยินดีไปให้ “นี่คือของสิ่งนี้ข้าเตรียมไว้แต่เนิ่น ๆ แล้ว ฉู่อ๋องเป็นคนดีจริง ๆ เมื่อพวกเจ้าได้แต่งงานกันแล้วจักต้องครองรักกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข จนผู้คนรอบข้างพากันริษยาแน่นอน”    ซ่งรั่วเจินมองดูอวิ๋นเนี่ยนชูเปิดกล่องผ้าไหมออก ภายในบรรจุเครื่องประดับศีรษะของสตรีครบชุด เครื่องตกแต่งอื่น ๆ ไปจนถึงเครื่องประทินโฉม ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจอย่างถึงที่สุด    “ของมากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ดูแล้วครบชุดเลย เจ้าให้จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะหรือ?”    “ใช่แล้ว!” อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้าพลางยิ้ม “แต่ก่อนข้าครุ่นคิดอยู่ตลอดว่าควรจะมอบสิ่งใดให้เจ้าเป็นของขวัญดี แต่คิดไปคิดมาก็ยังไม่มีสิ่งที่เหมาะสมที่สุดได้เลย”    “หลังจากนั้น ข้าก็คิดว่า สิ่งที่สตรีมักจะใช้บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันก็มิพ้นเคร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 983  

    เมื่อได้ฟังสิ่งที่จางเหวินพูด กู้หรูเยียนกับเยี่ยนชิงอวี้ต่างก็อดมิได้ที่จะตกตะลึง    ตั้งแต่เมื่อเริ่มรู้จักความรักครั้งแรกก็ชอบพอเฉิงเจ๋อ ถ้าอย่างนั้น ก็ชอบพอหลายปีจริง ๆ พวกเขากลับมิรู้มาโดยตลอด คิดดูแล้ว ในใจเด็กทั้งสองคงมีสิ่งที่เก็บกลั้นไว้อยู่    “จะว่าไป ก็ต้องโทษที่ก่อนหน้านี้ที่ข้ามิได้ใส่ใจให้ดีนัก เอาแต่ให้เฉิงเจ๋อคอยดูแลน้องสาวให้ดี”    “เนี่ยนชูชอบตามติดอยู่ข้างกายเฉิงเจ๋อมาตั้งแต่เล็ก ทุกครั้งที่เฉิงเจ๋อกลับจากสำนักศึกษา เป็นเวลาที่นางมักดีใจเป็นที่สุด ข้าก็นึกว่าเป็นเพียงความรักฉันพี่น้องมาโดยตลอด”    “มาตรองดูดี ๆ แล้ว ตอนนั้นข้าก็ควรพบความผิดแผกได้ หากเป็นเพียงพี่น้องธรรมดา เหตุใดเด็กทั้งสองจึงมิยอมแต่งงานจนถึงตอนนี้?”    จางเหวินยิ่งเอ่ยก็ยิ่งปวดใจ เมื่อนึกถึงคราวก่อนที่อนุอวิ๋นยังหมายจะยกอวิ๋นซีหว่านที่ยังไม่ได้แต่งงานให้แก่เฉิงเจ๋อ เกรงว่าตอนนั้น หัวใจของเด็กทั้งสองคงรวดร้าวมิใช่น้อย    ถึงขั้นที่ เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้นในตอนนั้น นางยังเคยกล่าวกับเฉิงเจ๋อด้วยว่า เรื่องนี้ช่างน่าขันเสียจริง    นางมองเขาเป็นดั่งบุตรชายแท้ ๆ มาโดยตลอด อนาคตจะต้องเลือกคู่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 982   

    “พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้ายังจะเกรงใจข้าอีกหรือ? ที่ข้ามานี้ มิใช่เพียงเพื่อช่วยรั่วเจินเตรียมงานแต่งเท่านั้น อีกทั้งยังได้เห็นหน้าชิงอินด้วย ช่างเป็นเรื่องดีเสียจริง”    ขณะที่กู้หรูเยียนและเยี่ยนชิงอวี้กำลังสนทนาหยอกเย้ากันอยู่นั้น ก็พลันสังเกตเห็นว่าจางเหวินราวกับเหม่อลอยอยู่ไม่น้อย    “หรือว่ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือ? เหตุใดเจ้าจึงมีท่าทีเหม่อลอยเช่นนี้?” กู้หรูเยียนเอ่ยถาม    จางเหวินจึงได้คืนสติ ในใจของนางล้วนมีแต่เรื่องของเนี่ยนชูกับเฉิงเจ๋อ จนเผลอใจลอยไปโดยไม่รู้ตัว    “ข้า...”    นางเหมือนจะเอื้อนเอ่ย แต่กลับชะงักไป    เยี่ยนชิงอวี้ขมวดคิ้ว “เจ้ามีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถบอกพวกเราได้งั้นหรือ? บอกมาตามตรงเถิด”    “ที่อนุอวิ๋นพูดมามิผิดเลย ระหว่างเนี่ยนชูและเฉิงเจ๋อต่างก็มีใจให้กัน”    จางเหวินทอดถอนใจครั้งหนี่ง เมื่อนึกถึงภาพที่นางได้เห็นเมื่อวานยามกลับจวน เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นเฉิงเจ๋อในสภาพเช่นนั้น บทสนทนาของทั้งสอง นางก็พลอยได้ยินไปด้วย    นางจึงได้รู้ว่าที่แท้เนียนชู่ชอบพอเฉิงเจ๋อมาหลายปีเพียงนี้ ในฐานะมารดาเช่นนาง นางคิดว่าตนใส่ใจบุตรเป็นอย่าง

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status