แชร์

บทที่ 359

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
ใบหน้าพระชายาเซียงอ๋องเองก็เปี่ยมรอยยิ้ม “ซ่งฮูหยินมีวาสนาโดยแท้ ทั้งลูกชายและลูกสาวล้วนมีความสามารถ จะต้องไปมาหาสู่กันบ่อยๆ”

หลิ่วหรูเยียนได้รับความโปรดปรานจนตกใจ “ขอบพระทัยเซียงอ๋อง ขอบพระทัยพระชายา”

“ซ่งฮูหยินไม่ต้องเกรงใจเพียงนี้ ภายภาคหน้าก็เป็นคนของตนแล้ว” พระชายาเซียงอ๋องเอ่ยปาก

หลิ่วหรูเยียนตกตะลึงอย่างสุดระงับ ครอบครัวเซียงอ๋องมิใช่ใครก็สามารถอาศัยได้ ครั้งนี้สามารถเชิญพวกเขามาได้นับเป็นความประหลาดใจที่คาดไม่ถึง ประโยคนี้ทำให้คนรู้สึกเหลือเชื่อ

ทว่าครู่ต่อมา นางก็เข้าใจความนัยแล้ว

มองเห็นพระชายาเซียงอ๋องจับมือซ่งรั่วเจิน มองนางแล้วซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภายในสายตาเปี่ยมความชื่นชอบ

“เจ้าก็คือแม่นางห้าสกุลซ่งกระมัง รูปโฉมงดงามจริงๆ คนเองก็ใจดีมีเมตตา เพียงข้าได้เห็นแวบเดียวก็รู้สึกชมชอบ”

“นับตั้งแต่จิ่นหวยกลับมาก็บอกพวกเราแล้ว เมื่อแรกเขาเกือบหิวตาย ต้องขอบคุณได้พบแม่นางซ่ง มอบเงินให้เขา นี่ถึงสามารถผ่านความลำบากมาได้”

พูดถึงเรื่องนี้ พระชายาเซียงอ๋องปวดใจอย่างอดไม่ได้ นางมีลูกเพียงคนเดียว เดิมทีสมควรเติบโตบนกองเงินกองทอง คิดไม่ถึงว่าต้องตกระกำลำบากเพียงนี้

เมื่อแรกนางได้ยินเรื
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1526

    จิ้งอินซือไท่ยืนนิ่งเงียบอยู่ทางด้านข้าง นางไม่ใส่ใจการเดิมพันครั้งนี้แม้แต่น้อย เพียงแต่ความมั่นใจที่พระชายาฉู่อ๋องแสดงออกมานั้นกลับทำให้ความคาดหวังในใจของนางยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นมากเรื่อย หากปราศจากความมั่นใจที่แน่วแน่ นางจะกล้าเอาเงินเดิมพันถึงหนึ่งแสนตำลึงมาเสี่ยงได้อย่างไร?ขอเพียงได้พบหน้าลูกสาวอีกสักครั้ง ไม่ว่านางต้องทำสิ่งใด นางก็ล้วนยินดีครู่ต่อมา ภายใต้สายตาของผู้คนที่เต็มไปด้วยความคาดหวังระคนเย้ยหยัน ซ่งรั่วเจินเขียนยันต์ขึ้นมาหนึ่งใบกลางอากาศเมื่อยันต์นั้นปรากฏขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง นางประสานมือทำมุทราแล้วเปล่งเสียงว่า “เบิกเนตร!”เดิมทีไต้ซือชิงเฟิงก็ไม่เคยเชื่อในฝีมือของซ่งรั่วเจิน เขาเพียงคิดว่าอีกฝ่ายก็คงเป็นพวกต้มตุ๋นไม่ต่างจากตนเอง เพราะพวกไต้ซือที่เขาเคยพบเห็นในแต่ละวันก็ล้วนเป็นเช่นนี้ เว้นเพียงแต่อาจารย์ของเขาเท่านั้นทว่าตอนนี้กลับได้เห็นซ่งรั่วเจินวาดยันต์ขึ้นกลางอากาศ ในขณะที่ยันต์เสร็จสมบูรณ์ ราวกับว่ามีแสงทองสายหนึ่งวาบขึ้นมา ใบหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทีละน้อย“นี่คือวาดยันต์ขึ้นมากลางอากาศจริงหรือ หนำซ้ำยันต์ยังสำเร็จอีกด้วย?”“เป็นไปได้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1525    

    ฉีชิงอีมองดูความเย่อหยิ่งเช่นนั้นของซ่งรั่วเจิน ท่าทีที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่เห็นพวกตนอยู่ในสายตา ใจก็พลันอึดอัดขึ้นมา นางใคร่ครวญว่าชาติกำเนิดตนก็ไม่ได้ต่ำต้อยกว่าซ่งรั่วเจิน สกุลซ่งเดิมทีก็เกือบพังพินาศไปแล้ว บัดนี้กลับกลายเป็นตระกูลใหญ่แห่งเมืองหลวง ที่สุดแล้วก็ล้วนอาศัยความช่วยเหลือจากฉู่อ๋องทั้งนั้น หากไม่มีฉู่อ๋อง ซ่งรั่วเจินจะมีสิทธิ์หยิ่งผยองเช่นนี้ได้อย่างไร! น่าเสียดาย เหลียงอ๋องหาได้มอบฐานะเช่นนั้นแก่นางไม่ แม้ในยามปกติจะดูแลนางดีไม่น้อย แต่เครื่องกินเครื่องนุ่งเครื่องใช้ของนางก็ไม่อาจเทียบกับซ่งรั่วเจินในตอนนี้ได้เลย “พระชายาเหลียงอ๋อง เจ้าจงคิดให้ถี่ถ้วน หากเจ้าควักออกมาไม่ได้…” ถังเสวี่ยหนิงเอ่ยกระซิบ นางก่อนหน้านี้ก็เคยเสียเปรียบซ่งรั่วเจินอยู่ไม่น้อย ตอนแจกจ่ายโจ๊ก นางคิดมาตลอดว่ารากฐานสกุลตน สกุลซ่งหาได้เทียบติดไม่ จึงทุ่มเงินไปไม่น้อย ใครจะคิดว่าสุดท้ายกลับทำให้เกิดปัญหาใหญ่ถึงเพียงนั้น นางรู้สึกว่าซ่งรั่วเจินช่างประหลาดคนนัก โดยเฉพาะเงินหนึ่งแสนตำลึงนี้ ก็ไม่รู้ว่าสำหรับพระชายาเหลียงอ๋องจะเป็นจำนวนที่มากหรือไม่ แต่ทว่า ฉีชิง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1524     

    “เมื่อได้พบกันครั้งนี้แล้ว นางก็ถึงคราวจะไปเกิดใหม่แล้ว” จิ้งอินซือไท่แสดงสีหน้าตกตะลึง “หม่อมฉันสามารถพบนางอีกคราได้จริงหรือ?” “แน่นอน” ฉีชิงอีกับถังเสวี่ยหนิงจับตามองซ่งรั่วเจินอยู่ตลอดเวลา เมื่อมาพักในหมู่บ้านนี้ พวกเขาก็ไม่เคยลำบากเช่นนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินหรือที่พักอาศัย ล้วนเทียบกับเมืองหลวงไม่ได้เลย เดิมทีคิดว่าสภาพสำนักเทียนฉือก็แย่มากพออยู่แล้ว ไม่คิดเลยว่าครั้นมาถึงหมู่บ้านหมิงเยว่กลับแย่ยิ่งกว่า เดิมทีฉีชิงอีคิดว่าครานี้จะสามารถทำให้ซ่งรั่วเจินไม่พอใจได้ แต่ไม่คิดเลยว่าสตรีนางนั้นยังคงมีท่าทีสูงส่ง ราวกับไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา ในตอนนั้น นางเพียงรู้สึกว่าตัวเองเหมือนตัวตลกอวดขวานต่อหน้าช่าง ไม่เพียงแต่ไร้ซึ่งความสะใจ กลับยิ่งขุ่นข้องมากกว่าเดิม “พระชายาฉู่อ๋อง พูดอะไรก็ควรมีขอบเขตบ้าง คนก็ตายไปหลายปีแล้ว ท่านยังจะสามารถทำให้จิ้งอินซือไท่มองเห็นได้อีก กำลังล้อเล่นอะไรอยู่หรือ?” ฉีชิงอีคิดว่าซ่งรั่วเจินคงจะคลุ้มคลั่งไปแล้ว เพื่อจะยึดเอาความดีความชอบไว้แต่ผู้เดียว ถึงกับเริ่มแต่งเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา ซ่งรั่วเจินมองฉีชิงอีที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1523     

    ครั้นพิธีเซ่นไหว้ของหมู่บ้านหมิงเยว่ถูกเปิดโปง ศาลต้าหลี่จึงส่งคนมาไม่น้อย เพื่อสืบสวนเหตุการณ์ในหมู่บ้านตลอดหลายปีให้ชัดแจ้ง ส่วนสถานการณ์ใต้ผาหิน ก็เป็นดั่งที่ซ่งรั่วเจินคาดไว้ คนที่ถูกส่งลงไปค้นด้านล่างอยู่นาน พบเพียงรอยเลือดของพิธีเซ่นไหว้เล็กน้อย ไม่ได้พบซากศพเลย “ท่านใต้เท้า จากสภาพการณ์ของที่เกิดเหตุ หลังจากบุรุษผู้นั้นพลัดตกจากผาหินแล้วก็บาดเจ็บสาหัส” “รอบทิศมีรอยเท้าของผู้อื่น เขาหาได้ออกไปเองไม่ หากแต่ถูกคนพาออกไป” เสนาบดีศาลต้าหลี่ขมวดคิ้ว “หากเป็นเช่นนี้แล้ว เขายังมีลูกน้องอยู่อีกหรือไม่?” “เรื่องนี้เกรงว่าจะไม่ง่ายดายนัก หากเป็นลูกน้องจริง ก็ควรอยู่เฝ้าใกล้พิธีเซ่นไหว้ เหตุใดจึงเลือกอยู่ใต้ผาหิน?” เซียวอ๋องส่ายหน้า “ราวกับมีคนคาดการณ์เหตุร้ายไว้นานแล้ว เพื่อทำลายศพลบร่องรอย…” เสนาบดีศาลต้าหลี่แววตาเคร่งขรึม รู้สึกแค่ว่าสิ่งที่เซียวอ๋องพูดทั้งหมดก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่หากเป็นเช่นนั้นจริง เบื้องหลังของคนผู้นั้นก็ยิ่งไม่ธรรมดา ครั้งนี้ที่พวกเขามาถือว่าค่อนข้างซ่อนเร้นนัก ตลอดทั้งทางหาได้บอกกล่าวแก่ผู้ใดไม่ แต่ความเร็วของคนเหล่านั้นก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1522

    ทว่าเพราะมียานอนหลับ ทุกคนจึงเข้าใจกันโดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ย นึกถึงตอนนั้นที่หมู่บ้านของพวกเขาห้ามไม่ให้คนนอกค้างแรม โดยเฉพาะยามใกล้ถึงพิธีเซ่นไหว้ แต่เพราะธรรมเนียมนี้ ตอนนั้นจึงเกือบถูกผู้อื่นจับได้ หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนมาใช้ยานอนหลับแทน ครั้นมียานอนหลับแล้ว ผลลัพธ์ก็ยิ่งดีนัก ไม่เคยเกิดความผิดพลาดขึ้นเลย “ข้าว่าแล้ว จ้าวต้าเลี่ยงจัดการอะไรไม่ได้เลย ถึงกับล่อคนของทางการมา นี่มันตัดทางรอดของทั้งหมู่บ้านเราแล้ว!” เสนาบดีศาลต้าหลี่มองชาวบ้านที่โง่เขลาเบาปัญญาเหล่านี้ แล้วเอ่ยเสียงขรึม “พิธีเซ่นไหว้ที่พวกเจ้ากล่าวอ้าง ก็แค่มีคนควบคุมอยู่เบื้องหลัง” “ใช้บุตรหลานหมู่บ้านพวกเจ้าฝึกฝนวิชาพิกลโหดร้าย แล้วโยนเงินให้เพียงเล็กน้อย เชื่อจริง ๆ หรือว่าเป็นเทพแห่งขุนเขาคุ้มครอง ช่างโง่เขลาเบาปัญญาแท้!” “หากเป็นเทพแห่งขุนเขาที่คุ้มครองพวกเจ้าจริง เหตุใดทุกปีจึงต้องใช้ชีวิตเด็กด้วย!” เสนาบดีศาลต้าหลี่ส่ายหน้าพลางทอดถอนใจ การสักการบูชา ทดสอบความจริงใจ แล้วบริจาคเงินค่าน้ำมันธูปตามกำลังของตนก็เพียงพอ แต่พวกเขากลับทำร้ายชีวิตผู้บริสุทธิ์มากมายถึงเพียงนี้! “เป็นไปไม่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1521

    “ไม่กล้าพูดหรือ?” ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว ระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความสงสัย ก่อนจะยื่นมือหยิบเอาฎีกามา เมื่อเห็นเนื้อหาด้านในชัดเจนแล้ว สีหน้าของเขาเผยแววขบขัน “พระชายาฉู่อ๋องเตือนข้าว่าวันนี้อย่าไปอุทยานหลวง?” ด้านในกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าอย่าไปอุทยานหลวง ไม่เช่นนั้นจะมีเคราะห์ “ฝ่าบาท ก่อนนี้พระองค์ทรงรับปากกุ้ยเฟยว่าจะเสด็จไปอุทยานหลวง…” ขันทีใหญ่อดที่จะตื่นตระหนกไม่ได้ พระชายาฉู่อ๋องบัดนี้หาได้อยู่ในเมืองหลวงไม่ แต่กลับสามารถทำนายได้ว่าวันนี้ฝ่าบาทจะเสด็จไปอุทยานหลวง ถึงขั้นเตือนมาตรง ๆ เรื่องนี้ช่างน่าพิศวงนัก “ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าหากไปอุทยานหลวงแล้วจะเกิดสิ่งใดขึ้น” ฮ่องเต้ตรัสด้วยความสนใจยิ่งนัก “ฝ่าบาท ไม่ได้เด็ดขาดนะพ่ะย่ะค่ะ!” ขันทีใหญ่คุกเข่าลงไปอย่างร้อนรน “ฝ่าบาทควรเชื่อไว้ก่อน ดีกว่าประมาท อีกอย่างความสามารถของพระชายาฉู่อ๋อง พวกเราต่างรับรู้ดี พระองค์ห้ามเสด็จไปอุทยานหลวงเป็นอันขาด!” “แม้กระหม่อมจะต้องสละชีวิตนี้ ก็ไม่อาจปล่อยให้พระองค์เสด็จไปได้!” ฮ่องเต้หัวเราะเบา “ข้ารับรู้ถึงความภักดีของเจ้า ใกล้จะได้เวลาแล้ว เดิมทีข้าก็คิดจะไปอุท

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status