LOGINชิงเถิงเข้าใจในทันใด พูดยิ้ม ๆ ว่า “บ่าวจะเข้าไปถามเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ”ไม่นานนัก ฉู่จวินถิงก็ขึ้นมานั่งบนรถม้าด้วยเขาคุ้นชินกับการโอบนางไว้ในอ้อมแขน หนำซ้ำยังจับมือของนางเล่นพลางเอ่ยถาม “จะออกไปที่ใดหรือ?”“วันนี้จะไปช่วยคนคนหนึ่ง เรื่องนี้ช่างยุ่งเหยิงเหลือเกิน ท่านได้ฟังแล้วต้องตกใจแน่”ซ่งรั่วเจินกะพริบตาปริบ ๆ ใบหน้างดงามเปี่ยมความภาคภูมิใจ สายตาดุจม่านหมอกกลับเจือรอยยิ้มเจ้าเล่ห์หลายส่วนฉู่จวินถิงให้ความร่วมมืออย่างมาก เอ่ยปากอย่างตกตะลึง “เรื่องอะไรลึกลับเพียงนั้น? ฮูหยินบอกข้าทีเถิด”“เซี่ยจือหลาน ท่านรู้จักใช่หรือไม่?”ฉู่จวินถิงได้ยินชื่อคุ้นหู ก่อนจะพยักหน้าตอบ “บิดาของนางเคยเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องไทเฮาเมื่อหลายปีก่อน ไทเฮาทรงสำนึกในบุญคุณนั้นอยู่เสมอ จึงดูแลเซี่ยจือหลานเป็นพิเศษ”“วันนี้เจ้าคงได้เจอนางมาใช่หรือไม่? ข้าได้ยินว่าสามีของนางเสียชีวิต จึงสั่งคนไปเยี่ยมไว้แล้ว”ปกติเขางานยุ่ง เรื่องการไปปลอบขวัญผู้วายชนม์เช่นนี้ก็มักจะมอบให้ผู้อื่นไปแทน หรือวันนี้รั่วเจินได้ไปงานนั้นหรือ?“หม่อมฉันสงสัยว่าเซียวเหวินยวนถูกเซียวเหวินเช่อฆ่าตาย” ซ่งรั่วเจินเอ่ยฉู่จวิน
ซ่งรั่วเจินเข้าใจความกังวลของเซี่ยจือหลาน จึงยิ้มบาง ๆ แล้วกล่าวว่า“เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้เสด็จย่าหรือเสด็จแม่ออกหน้า ยังมีคนที่สามารถช่วยเจ้าได้อีกคน”“คนที่สามารถช่วยได้อีกคน?” เซี่ยจือหลานสงสัยซ่งรั่วเจินพยักหน้า “เซียวเหวินยวน”“พี่ใหญ่? แต่พี่ใหญ่ตายไปแล้วมิใช่หรือ? จะช่วยข้าได้อย่างไร?”ในสายตาของเซี่ยจือหลานเต็มไปด้วยความสงสัย ภายในใจคิดว่าพระชายารัชทายาทจะเชิญวิญญาณกลับมาช่วยอย่างนั้นหรือ? แต่ตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์อยู่ จะทำเรื่องเช่นนั้นได้จริงหรือ?“ในเมื่อแม่สามีของเจ้าแกล้งหมดสติไปแล้ว เจ้าก็ฉวยโอกาสนี้ตรวจนับสินเดิมของเจ้าทั้งหมด ทำบัญชีออกมาเป็นรายการให้ชัดเจน”“ให้คนของวังหลวงนับต่อหน้าพวกเขา ถึงตอนนั้น วังหลวงหนึ่งชุด และเจ้าถือไว้อีกหนึ่งชุด เช่นนี้สกุลเซียวย่อมไม่กล้าแตะต้องสินเดิมของเจ้าโดยพลการ”“เมื่อเป็นเช่นนี้ รอเซียวเหวินยวนกลับมา ไม่ว่าเจ้าจะเลือกออกจากสกุลเซียว หรือจะขอหย่า ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะสูญเสียอะไร”เดิมทีเซี่ยจือหลานรู้สึกว่าการจากไปเฉย ๆ ยังมีความแค้นติดค้างอยู่ในใจ ไม่คิดว่าจะยังอีกวิธีหนึ่ง นี่จึงรู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างสุดระงับต่อให้ต้
“ขออภัย ข้าวู่วามเกินไปแล้ว….”ดวงตาของเซียวเหวินยวนฉายแววสิ้นหวัง เขาช่างเลอะเลือนจริง ๆ ที่คาดหวังสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เช่นนี้ซ่งรั่วเจินมองเห็นสีหน้าเปลี่ยนไปของเซียวเหวินยวน หัวเราะเบา ๆ แล้วเอ่ยว่า “ดังนั้นเรื่องนี้ เจ้าต้องเป็นคนจัดการเองจึงจะเหมาะสมที่สุด”ได้ฟังดังนั้น เซียวเหวินยวนถึงกับอึ้งงัน ไม่เข้าใจความหมายในทันที“พระชายารัชทายาท นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร?”“ถือว่าเจ้าโชคดีที่ได้พบข้า ร่างกายของเจ้ายังไม่ตาย หากเจ้าตามข้ามา ข้าจะช่วยเจ้าให้กลับเข้าร่างได้”ดวงตาเซียวเหวินยวนสะท้อนแววเหลือเชื่อวูบหนึ่ง ความดีใจใหญ่หลวงประดังเข้ามา ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ“จริง จริงหรือ?”“แน่นอน ข้าจะไปหลอกวิญญาณตนหนึ่งให้ได้อะไรเล่า?”ซ่งรั่วเจินยกมุมปาก เรื่องของสกุลเซียวช่างน่าสนใจ คาดว่าหลังเซียวเหวินยวนกลับเข้าร่างได้ เรื่องราวย่อมจะยิ่งอลหม่านขึ้นกว่าเดิมหากเป็นเขา แทนที่จะก่อเรื่องโวยวายใหญ่โต แต่จะสวมรอยเป็นตัวตนของน้องรองของเขาแทนเสียเลยอย่างไรเสีย ฮูหยินเดิมก็ไม่ควรค่าให้รักษาไว้ อีกทั้งเซียวเหวินเช่อก็เพิ่งสอบได้ตำแหน่ง เขาสวมรอยแทน ก็จะทำให้สองคนนั้นโมโหมากยิ่งขึ้น
“เป็นไปไม่ได้กระมัง?”ไป๋จื่อได้ยินคำตอบของชิงเถิง ก็หดคอลง นางฝึกยุทธ์มานาน เจอมือสังหารกลับไม่เคยหวาดหวั่นแต่พอพูดถึงสิ่งลี้ลับเย็นเยือกเช่นนี้ กลับรู้สึกแตกต่างกันออกไป“กลัวอะไร? เจ้าก็รู้ความสามารถของนายหญิงพวกเรา เหล่าภูตผีร้ายกาจได้เจอนายหญิงของพวกเรา ก็มีแต่จะหนีหัวซุกหัวซุน ไฉนเลยจะกล้ามาทำอันตรายต่อหน้าของนางได้เล่า?”ชิงเถิงกลับไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำนางได้เห็นท่าทางของพระชายารัชทายาทตน เห็นได้ชัดว่าไม่กริ่งเกรงเลยสักเศษเสี้ยว กลับดูสนใจมากกว่าตอนนี้เอง วิญญาณของเซียวเหวินยวนเองก็พบว่าซ่งรั่วเจินกำลังจับจ้องเขา ตกตะลึงขึ้นมาระลอกหนึ่ง“ท่านมองเห็นข้าด้วยหรือ?”หลังเขากลับมา เซียวเหวินยวนยากจะทำใจยอมรับว่าตนเองตายไปเช่นนี้แล้ว ยิ่งยากจะทำใจยอมรับว่าฮูหยินของเขาถึงขั้นสมคบคิดกับน้องรองตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยเอะใจเลยว่าคนที่เขาไว้ใจที่สุดกลับแทงข้างหลังเขามานานแล้วบัดนี้...เขาถึงขั้นเริ่มสงสัยว่าลูกในท้องของหลูเฟยไม่ใช่ของเขา!น่าขันที่สุดก็คือ เขาและเซียวเหวินเช่อเป็นฝาแฝดหน้าตาเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว ต่อให้เด็กคลอดออกมา คนทั้งจวนก็คงไม่มีวันสงสัยอย่
“เขาบอกข้าว่าเพราะมีไทเฮาทรงดูแล ชูเสวี่ยไปอยู่กับข้าย่อมมีชีวิตที่ดีกว่า ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเหวินเช่อ”“พวกท่านวางใจได้ ไม่ว่าอย่างไรชูเสวี่ยก็ยังสกุลเซียว ต่อให้ชูเสวี่ยติดตามข้าไป นางจะไม่ลืมฐานะของตน ข้าจะพานางกลับมาเยี่ยมที่นี่บ่อย ๆ”สีหน้าเซียวเหวินยวนเปลี่ยนไป “ข้า...เหวินเช่อไม่เคยพูดเช่นนี้กับเจ้า!”“พี่ใหญ่ นี่เป็นคำพูดที่เหวินเช่อพูดกับข้า ท่านย่อมไม่รู้ ข้าทั้งรักและซื่อสัตย์ต่อเขา วันนี้เขาจากไปแล้ว ท่านคิดหรือว่าข้าจะกุเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาหลอกพวกท่านอย่างนั้นหรือ?”“ข้าแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลเซียวหลายปี ทุกคนล้วนรู้อุปนิสัยใจคอข้าดี ไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสียต่อสกุลเซียว พี่ใหญ่จะปรักปรำข้าเช่นนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ” เซี่ยจือหลานเอ่ยคำพูดนั้นทำให้เซียวเหวินยวนสำลัก สีหน้าแดงก่ำ ภายในใจเขารู้ดีว่าตนไม่เคยพูดเช่นนี้มาก่อนเซี่ยจือหลานเป็นสตรีว่าง่ายมาโดยตลอด คิดไม่ถึงเลยว่าบัดนี้ถึงขั้นพูดจาเหลวไหล แต่ตนกลับไม่อาจโต้แย้งได้“ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น เพียงแต่คิดว่าเหวินเช่อคงพูดตามปากพาไป มิได้จริงจัง”“ชูเสวี่ยเป็นคนตระกูลเซียว พวกเราไม่ใช่ว่านา
เมื่อคิดถึงความจริงใจตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่กลับพบว่าตั้งแต่เริ่มจนจบอีกฝ่ายเพียงแค่หลอกใช้ตนมาตลอดในช่วงเวลาสั้น ๆ ภาพความทรงจำในอดีตวนกลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่นางจะตกใจเมื่อได้เห็นความจริงว่าที่ผ่านมาแทบไม่มีความจริงใจอยู่ในนั้นเลยสิ่งที่นางเคยเข้าใจว่าเซียวเหวินเช่อเป็นคนดี รักครอบครัว บัดนี้กลับกลายเป็นหลักฐานชัดเจนว่าเขากับหลูเฟยนั้นสมคบคิดกันมานานแล้วมันช่างน่าขันเหลือเกิน!นางคล้ายตัวโง่งมคนหนึ่งมาโดยตลอด“ก่อนหน้านี้เป็นเพราะข้าโง่เขลา ทั้งที่สามีข้าได้ตายจากไปแล้ว แต่ข้ากลับยังติดอยู่ในห้วงภวังค์แห่งความฝัน คิดไปเองว่าเขายังอยู่เคียงข้าง”“วันนี้หลังจากผ่านเรื่องนี้ไป ข้าเองก็เข้าใจแล้ว ดังนั้นข้าจึงอยากไปจากสกุลเซียว” เซี่ยจือหลานกล่าวอย่างหนักแน่นคำพูดนั้นทำให้สีหน้าทุกคนในตระกูลเซียวเปลี่ยนไปในทันใด“จือหลาน เจ้าอย่าเป็นเช่นนี้เลย เหวินเช่อตายจากพวกเราก็ล้วนเสียใจอย่างมาก แต่อย่างไรเสียเจ้าก็ยังเป็นคนในครอบครัวเดียวกับพวกเรา…”ฮูหยินผู้เฒ่าเซียวเห็นว่าเซี่ยจือหลานตัดสินใจจะไปจริง ๆ ก็ร้อนใจขึ้นมา พยายามรั้งไว้ พร้อมทั้งส่งสัญญาณทางสายตาไปยังเซียวเหวินยวนแล







