Share

บทที่ 235

Author: จี้เวยเวย
“ฉู่อ๋องเสด็จแล้ว!”

ไม่รู้ว่าเสียงผู้ใดตะโกนขึ้น ทุกคนจึงหันไปมองเป็นตาเดียว เห็นเพียงฉู่จวินถิงและคณะกรรมการคุมสอบในวันนี้เดินเข้ามาด้วยกัน

เขาสังเกตเห็นซ่งรั่วเจินได้แทบจะทันที

นางแต่งกายเรียบร้อยอย่างยิ่ง สวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน ปักแต่งด้วยสีเหลืองนวลในบางจุด ทำให้นางดูอ่อนหวานและน่าเอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง

คล้ายว่าจะมีเพียงเมื่อยืนอยู่ข้างกายพี่ชายเท่านั้น ที่จะดูเรียบร้อยและเชื่อฟังเสมอๆ แตกต่างจากท่าทีเฉียบคมดุดันที่นางแสดงออกยามต่อกรกับผู้อื่น เรียกได้ว่าเป็นหน้ากากสองด้าน ทว่าน่ารักอยู่ไม่น้อย

“อี้อัน นี่เจ้า...?”

อาจารย์เว่ยผู้เคร่งขรึมเมื่อมองเห็นซ่งอี้อันเข้าก็พลัน ดวงตาทอประกายแววประหลาดใจ

ต่อมาเหล่าบัณฑิตทั้งหลายของสำนักศึกษาหลวงก็ได้เห็นว่าอาจารย์เว่ยผู้ที่มักจะเคร่งขรึมและเข้มงวดอยู่เสมอ กลับเดินแล่นฉิวพุ่งตรงเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของซ่งอี้อันโดยฉับพลัน

“อี้อัน ดวงตาของเจ้าหายดีแล้วหรือ?”

อาจารย์เว่ยโบกมือไปมาที่ตรงหน้าของซ่งอี้อัน ตาเฒ่าหัวโบราณที่เคยเป็นคนเคร่งขรึม ยามนี้กลับเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความดีใจ

ซ่งอี้อันทำความเคารพอย่างนอบน้อม “คารวะท่านอาจาร
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1334

    “ใต้เท้าเมิ่งเกรงใจไปแล้ว ช่วยชีวิตคนประเสริฐกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น ข้าสามารถช่วยเหลือได้ก็เป็นเรื่องน่ายินดีมากเช่นกัน”ซ่งรั่วเจินยิ้มบาง ใต้เท้าเมิ่งเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ เดิมทีก็มีความสัมพันธ์อันดีกับจวินถิง มิหนำซ้ำนางกับเมิ่งชิ่นยังเป็นสหายสนิทกัน การยื่นมือช่วยเหลือย่อมควรทำอยู่แล้ว“ช่วยชีวิตฮูหยินน้อยกลับมาได้แล้ว แต่ตอนนี้ร่างกายนางอ่อนแออย่างยิ่ง ยังคงต้องดูแลอย่างเอาใจใส่”“ประเดี๋ยวข้าจะเขียนเทียบยาให้ใบหนึ่ง ต้มยาตามเทียบยานั้น กินติดต่อกันเจ็ดวัน อาการก็จะมั่นคงเอง”“พวกเราจะทำตามที่ท่านพูดมาอย่างแน่นอน”หลังช่วยเจิ้งซิ่วอิ๋งได้แล้ว ซ่งรั่วเจินก็มองทารกน้อยแล้วเขียนเทียบยาให้หนึ่งใบเช่นกันเด็กคนนี้ลมหายใจอ่อนยิ่ง ไม่ใช่ลักษณะที่จะอายุยืนเลยจริงๆ แต่ถ้าดูแลด้วยความเอาใจใส่ก็สามารถทำให้เด็กคนนี้เติบใหญ่อย่างปลอดภัยได้หลังจากทั้งหมดนั้นเสร็จสิ้นลง ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว สกุลเมิ่งรีบให้คนจัดเตรียมมื้อเย็น ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องให้ซ่งรั่วเจินอยู่รับประทานอาหารด้วยกันที่จวนให้ได้หลังจากที่ฉู่จวินถิงทราบว่าเวลานี้ภรรยาตนเองอยู่ที่บ้านสกุลเมิ่งยังไม่กลับมา คิ้วคมก็เลิกขึ้นเล็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1333

    ทุกคนได้ยินคำพูดของซ่งรั่วเจินแล้วก็หันหน้ามาขวับ ความหวังเสี้ยวหนึ่งจุดประกายขึ้นในแววตาได้ยินว่าพระชายาฉู่อ๋องมีวิชาแพทย์เป็นเลิศ แม้แต่โรคที่หมอหลวงในวังรักษาไม่หาย นางก็สามารถรักษาหายได้ ตอนนั้นขาของซ่งเยี่ยนโจวและดวงตาของซ่งอี้อันก็เป็นเช่นนี้ ไม่รู้ว่าครานี้จะมีหวังหรือไม่หมอหลวงเห็นว่ายามนี้สถานการณ์กลายเป็นเช่นนี้แล้ว พระชายาฉู่อ๋องยังต้องการลองดูก็อดจะตะลึงไม่ได้หากคนตรงหน้าเป็นแม่นางธรรมดาทั่วไป เขาจะต้องไม่เชื่อเด็ดขาด แต่คนที่อยู่ตรงหน้าคือพระชายาฉู่อ๋อง เขาไม่กล้าไม่เคารพแม้แต่น้อยคงต้องลองทุกวิถีทาง ถ้าสามารถช่วยชีวิตไว้ได้ ความสามารถของพระชายาฉู่อ๋องก็น่าตกใจเกินไปแล้ว!ซ่งรั่วเจินหยิบยาเม็ดหนึ่งออกมาให้เจิ้งซิ่วอิ๋งกินลงไป จากนั้นก็หยิบเข็มเงินออกมาเริ่มทำการรักษาสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือการห้ามเลือด มิฉะนั้นหากปล่อยให้ตกเลือดเช่นนี้ต่อไป แม้แต่เทพเซียนก็คงช่วยไม่ได้แล้วใต้เท้าเมิ่งและเมิ่งฮูหยินมองดูซ่งรั่วเจินที่กำลังสาละวนอยู่ตรงหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ ก่อนนี้พวกเขาได้ยินมาว่าเป็นเพราะได้ซ่งรั่วเจิน เมิ่งเจ๋อจึงไม่ถูกหลอกลวงนานไปกว่านี้ไม่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1332

    เมิ่งเจ๋อสองตาแดงเรื่อ เขาถอนหายใจยาว “ข้าไม่รู้เหมือนกัน พี่สะใภ้ใหญ่เจ้ากับคุณหนูรองสกุลลู่เป็นสหายกัน วันนี้ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงทะเลาะกันเสียได้ ผลปรากฏว่าคนกลิ้งตกบันไดกันทั้งคู่”“หา?” เมิ่งชิ่นตกตะลึง นางใคร่ครวญพลางกล่าว “เหตุใดข้าจึงจำได้ว่าคุณหนูรองสกุลลู่ก็เหมือนจะตั้งครรภ์เหมือนกันเล่า?”“ใช่แล้ว ตั้งครรภ์เหมือนกันนั่นละ!”เมิ่งฮูหยินมีสีหน้ากลัดกลุ้ม “ตอนนี้ไม่เพียงแต่ต้องเป็นห่วงพี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้า แต่ยังต้องเป็นห่วงลู่ฉิงเสวี่ยด้วย ถ้าเด็กคนนี้เป็นอันใดขึ้นมาก็ไม่รู้เลยว่าควรทำอย่างไรดี”เดิมทีทั้งสองล้วนแต่ตั้งครรภ์ เป็นช่วงเวลาที่แบ่งปันซึ่งกันและกันได้ ก่อนนี้ทั้งคู่เจอหน้ากันทีไรก็ล้วนแต่อารมณ์ดีมีความสุข ไม่รู้ว่าเหตุใดวันนี้จู่ๆ ก็มีปากมีเสียงกันขึ้นมาเสียได้ จนลงเอยเช่นนี้...“ลู่ฉิงเสวี่ย?”ซ่งรั่วเจินไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้ คิดดูแล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นสกุลลู่สายไหน?ครอบครัวตาของจวินถิงคือสกุลลู่แห่งเมืองหลวง ทว่าทั้งเมืองหลวงมีคนสกุลลู่อยู่ไม่น้อยขณะที่นางครุ่นคิด ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงตื่นเต้นของแม่นมดังมาจากภายในห้อง...“คลอดแล้ว! เด็กคลอดออกมาแล้ว!”ทุกคนได

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1331

    จวนฉู่อ๋อง“รั่วเจิน เจ้าไม่รู้หรอกว่าสหายของพี่ใหญ่ข้าโง่งมเพียงใด พวกเขาหลงกลกันเสียทุกคน!”“ถ้าพวกเขาเล่าเรื่องราวให้สหายฟังหลังจากหลงกล เพียงตรวจสอบด้วยกันสักหน่อยก็สามารถแน่ใจได้ว่าถูกหลอก”“แต่พวกเขาแต่ละคนดันรักหน้าตากันยิ่งชีพจึงไม่มีใครยอมพูดออกมา เจ้าว่าน่าขันหรือไม่?”เมิ่งชิ่นฟังพี่สะใภ้ของตนเองเล่าสถานการณ์ในที่ว่าการวันนั้นออกมาเสียจนเห็นภาพแล้วก็รู้สึกว่าน่าขัน น่าเสียดายที่วันนั้นไม่ได้ไปดูด้วยตัวเองซ่งรั่วเจินได้ยินว่ายังมีคนอื่นถูกหลอกด้วยเช่นกันก็อดจะสะท้อนใจไม่ได้สมกับเป็นกาเข้าฝูงกา หงส์เข้าฝูงหงส์จริงๆ สามารถอยู่ร่วมกันได้ถึงที่สุดแล้วย่อมมีเหตุผล“โชคดีที่เป็นแค่เรื่องเล็ก คลี่คลายได้ก็ดีแล้ว แต่ยันต์คุ้มภัยที่ข้าให้เจ้านำไปให้พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้า เจ้าได้ให้หรือยัง?”เมิ่งชิ่นอึ้งไปเล็กน้อย “ยันต์คุ้มภัยที่ขอมาก่อนหน้านี้ เป็นเพราะกลัวว่าพี่ใหญ่ข้าจะไปก่อเรื่องอยู่ข้างนอกไม่ใช่หรือ? ตอนนี้เรื่องราวคลี่คลายแล้ว ข้าจึงไม่ได้ให้แล้ว”ตอนนั้นนางยังเข้าใจว่าพี่ใหญ่มีคนอื่นอยู่ข้างนอก กลัวว่าหลังอนุภรรยาเข้าบ้านมาแล้วจะทำร้ายพี่สะใภ้ใหญ่ แต่ยามนี้ซุนเสี่ยวชุ่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1330

    ผ่านไปไม่นาน คนของทางการก็มาพาตัวคนไป“พระชายาฉู่อ๋อง วันนี้ขอบคุณท่านมาก หากไม่ใช่ท่าน น่ากลัวว่าข้าก็ไม่รู้จะถูกพวกเขาตอแยจนถึงยามใด”เมิ่งเจ๋อเผยสีหน้าเก้อกระดาก ก่อนหน้านี้ในหัวเขามีแต่ความคิดว่ามันเป็นปัญหายุ่งยากใหญ่โต เพื่อรักษาชื่อเสียงของตัวเอง และเพื่อไม่ให้ภรรยาไม่พอใจ เขาจึงคิดว่าไม่ว่าอย่างไรก็ต้องปกปิดเรื่องนี้ให้มิดที่สุดเท่าที่จะทำได้บัดนี้เข้าใจทุกอย่างแล้ว คิดว่าก่อนหน้านี้ตนเองโง่เขลาเกินไป เหตุใดเขาสามารถทำเรื่องโง่เขลาเบาปัญญาเพียงนี้ได้กันนะ?เล่าลือออกไปน่ากลัวว่าทุกคนจะต้องหัวเราะเขาโง่งมไร้สมอง แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาคิดว่าคนเหล่านี้จะต้องชดใช้!ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ “คุณชายเมิ่งเองก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจเกินไปนัก อันที่จริงพูดไปแล้ว นี่ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าท่านมีใจให้ฮูหยินเพียงผู้เดียว”เมิ่งเจ๋อชะงัก ทันใดนั้นเข้าใจความนัยในคำพูดแล้ว“หากเปลี่ยนเป็นชายหลายใจคนอื่น ในเมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น คาดว่าคงไม่คิดมากนัก เลวร้ายที่สุดก็รับเข้าบ้านเป็นอนุ”“เช่นนี้แล้ว พวกเขาก็ยากจะใช้แผนนี้ต่อไปได้” ซ่งรั่วเจินพูดเมิ่งเจ๋อลูบจมูก รู้สึกอึดอัดใจอยู่บ้างเมิ่งชิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1329

    ได้ฟังคำชี้แนะของซ่งรั่วเจิน ซุนต้าซานคล้ายตอบสนองแล้วเขาหันหน้าไป สายตาตรวจสอบซุนเสี่ยวชุ่ยและซุนเอ้อร์สือไปมา เกิดความสงสัยขึ้นภายในใจหรือว่า...เป็นความจริง?“พี่ใหญ่ ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของพวกเขาเป็นอันขาด พวกเขาแค้นใจต่อเรื่องที่พวกเราทำ จึงจงใจยุแยงความสัมพันธ์ หากท่านเชื่อจริงๆ นั่นยังไม่ติดกับอีกหรือ?” ซุนเอ้อร์สือรีบพูดซุนเสี่ยวชุ่ยพยักหน้า “พี่ใหญ่ ข้าอยู่ข้างกายท่านมาโดยตลอด ลูกเป็นของท่านหรือไม่ ท่านน่าจะรู้ดี!”ซุนต้าซานมองสีหน้าจริงจังของพวกเขาทั้งสองคน ความสงสัยภายในใจพลันมลายหายไป คิดว่าพวกเขาพูดถูกแล้ว ตนเองไม่สมควรสงสัยตามใจ“คำพูดของพระชายาฉู่อ๋องเจ้าไม่เชื่อ เช่นนั้นเจ้าก็โง่เขลาเบาปัญหาเหลือเกินจริงๆ”“คิดอยากเอาคืนพวกเจ้า ไปแจ้งทางการก็พอ พวกเจ้าไม่มีวันพบจุดจบที่ดี ยังจะต้องเสียเวลาพูดจาเหลวไหลกับพวกเจ้าอีกหรือ ก็ไม่รู้ว่าพวกเจ้าโง่หรือพวกเราโง่กันแน่!”เมิ่งชิ่นเผยสีหน้ารังเกียจ ต่อให้ไม่เข้าใจสถานการณ์ของสามคนนี้ แต่เพียงท่าทางร้อนตัวของซุนเอ้อร์สือก็สามารถเดาออกได้ไม่ยาก“จิ๊ๆ เจ้ายังเป็นพี่ใหญ่มาหลอกคนอีกนะ คิดไม่ถึงล่ะสิว่าจะกลายเป็นไอ้งั่งคนนั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status