แชร์

บทที่ 91

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“พี่ใหญ่ ท่านอย่าได้กังวลไปเลย น้องหญิงห้าของเรามีฝีมือการแพทย์ล้ำเลิศ ในเมื่อนางรักษาดวงตาข้าได้ ก็ย่อมสามารถทำให้ท่านกลับมายืนได้อีกครั้ง”

ซ่งอี้อันเบนสายตาไปด้านข้าง เขารู้ว่าพี่ใหญ่มีปมนี้อยู่ในใจมากที่สุด

เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาที่ดำขลับดุจหยกดำของซ่งเยี่ยนโจวก็ฉายแววแห่งความหวังขึ้นมา แต่ยังคงเจือด้วยความกังวลอยู่บ้าง

เขาผ่านความผิดหวังมามากเกินไป จนไม่กล้าคาดหวังต่อสิ่งใดอีกแล้ว

“พี่ใหญ่ เมื่อวานตอนที่ท่านหมดสติไป ข้าได้ตรวจดูขาท่านแล้ว ขาของท่านสามารถรักษาให้หายได้”

ซ่งรั่วเจินยืนยันคำตอบอย่างมั่นใจ

แววตาของซ่งเยี่ยนโจวฉายแววไม่เชื่อ “จริงหรือ?”

“พี่ใหญ่ ข้าไม่มีทางหลอกท่านแน่นอนเจ้าค่ะ”

ซ่งรั่วเจินยิ้มเบา ๆ “แต่ว่าพี่ใหญ่ สถานการณ์ของท่านร้ายแรงกว่าพี่รอง พี่รองสูญเสียการมองเห็นเพราะถูกกระแทกที่ศีรษะ ทำให้เกิดก้อนเลือดในสมอง”

“เมื่อข้าฝังเข็มละลายก้อนเลือดในสมองแล้ว สายตาของพี่รองก็กลับมามองเห็นได้”

“ส่วนขาของท่านได้รับบาดเจ็บสาหัสในสนามรบ กระดูกหัวเข่าบางส่วนแตกละเอียด ดังนั้นการรักษาจำเป็นต้องใช้เวลา ไม่อาจใจร้อนได้”

ซ่งเยี่ยนโจวรู้ถึงสภาพขาของตนเองดี เพราะหมอเก
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1514  

    “พวกเขารู้สึกว่าหากไปแล้ว จะเป็นการไม่เคารพต่อท่านเทพแห่งขุนเขา จะทำให้ท่านเทพแห่งขุนเขาพิโรธขอรับ” ได้ฟังดังนั้น ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงก็เข้าใจขึ้นมาเช่นกัน หมู่บ้านหมิงเยว่ให้ความเคารพต่อเทพแข่งขุนเขาอย่างหาใดเปรียบเทียบได้ บางทีอาจจะเป็นเพราะเหตุผลนี้ ที่ทำให้จิ้งเฉินและจิ้งอินสามารถพำนักที่สำนักเทียนฉือได้อย่างเบาใจ ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลงแล้ว พวกซ่งรั่วเจินกำลังเฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของห้องข้าง ๆ อยู่ตลอดเวลาจ้าวต้าเลี่ยงให้พวกเขาเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ พร้อมกำชับไม่ให้ออกไปเพ่นพ่านเถลไถลที่ไหน ยิ่งไปกว่านั้นยังห้ามแอบเอาสิ่งของในห้องของพวกเขาไปด้วย ขณะที่พวกเขาแกล้งทำเป็นหลับ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวเบา ๆ แว่วดังมาจากนอกประตู จากนั้นก็ค้นพบว่ามีกลิ่นของยาสลบรำเพยเข้ามา ทั้งสามคนต่างกลั้นหายใจอย่างพร้อมเพรียงกัน แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้นจ้าวต้าเลี่ยงรออยู่พักหนึ่ง กระทั่งเห็นไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จากด้านในห้องแล้ว จึงผลักประตูห้องออกและเดินเข้ามา“เจ้าคนพวกนี้ถึงจะแต่งตัวธรรมดา แต่ร้ายดีอย่างไรก็ต้องมีเงินติดตัวอยู่บ้าง ไหน ๆ ก็มาพำนักในเรือนของข้าแล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1513  

    ซ่งรั่วเจินหลังจากได้ฟังเรื่องราว ก็เข้าใจในทันที “เมื่อก่อนพิธีบูชายัญของหมู่บ้านหมิงเยว่ก็ทำขึ้นเพื่อขอให้ลมฝนตกต้องตามฤดูกาลเท่านั้น เทพแห่งขุนเขาที่พูดถึงอะไรนั่นก็ไม่ได้มีอยู่จริงตั้งแต่แรกแล้ว เพราะฉะนั้นเด็กที่ถูกจับไปบูชายัญก็แค่ถูกปล่อยให้อยู่บนภูเขาหนึ่งคืนเท่านั้น” “หากโชคดีไม่เจอสัตว์ป่าดุร้ายเข้าเสียก่อนและรู้ทางกลับบ้าน ก็ยังมีโอกาสรอดชีวิตกลับมาได้ อีกทั้งในตอนนั้นครอบครัวที่ถูกเลือกให้ส่งบุตรของตนเองไปเป็นเครื่องเซ่นในพิธีบูชายัญก็มิได้รับผลประโยชน์อะไรตอบแทนจากสิ่งนี้ด้วย” “แต่ในช่วงหลายสิบปีมานี้ ผลประโยชน์ชัดเจนเพียงนี้ ไม่มีทางเป็นพลังของเทพแห่งขุนเขาไปได้แน่ ต้องมีใครบางคนที่รู้จักธรรมเนียมของหมู่บ้านหมิงเยว่ และฉวยโอกาสจากจุดนี้ แสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเอง!” ฉู่จวินถิงผงกศีรษะ “เพียงแต่เด็กที่ถูกจับไปทำพิธีบูชายัญเหล่านี้กลายเป็นซากศพแห้งในวันที่สอง คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เอาโลหิตของพวกเด็ก ๆ ไปทำอะไร?” “ข้าเคยได้ยินว่ามีเคล็ดวิชาชั่วร้ายบางอย่างที่จะใช้วิธีเช่นนี้ เพียงแต่เคล็ดวิชาเหล่านี้ทยอยเลือนหายไปเกือบหมดแล้ว” “สำนักวิชาเต๋าเองก็มีพวกที่จิตใจช

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1512

    จ้าวเฉิงกังตบบ่าองครักษ์หยาง พลางโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูเขาอย่างสนิทสนม “นี่เป็นข่าวอื้อฉาวของหมู่บ้านเรา เห็นแก่ที่เจ้ากับข้าถูกคอกันตั้งแต่แรกพบ ข้าถึงเล่าให้เจ้าฟังนะเนี่ย!” องครักษ์หยางฝืนทนกลิ่นปากเหม็นคลุ้งของอีกฝ่าย แสร้งทำเป็นเอ่ยอย่างสงสัยใคร่รู้ “อยู่ดี ๆ เขาจะตายได้อย่างไร?” “ไม่ใช่แค่จ้าวต้าสือเท่านั้นนะที่ตาย แต่ครอบครัวของเขาตายกันยกครัวเลย!”“ใครจะคิดว่าเมียผอม ๆ ตัวเล็ก ๆ ของเขา ปกติก็อ่อนโยนเรียบร้อยเชื่อฟังดี ไม่กล้าแม้กระทั่งพูดเสียงดังด้วยซ้ำ สุดท้ายกลับกลายเป็นคนที่ลงมือสังหารพวกเขายกครัว?” หัวใจขององครักษ์หยางถึงกับกระตุกวูบ “ฆ่ายกครัว? แบบนั้นทางการไม่สั่นสะเทือนแย่เลยหรือ?” “ไม่เลย” จ้าวเฉิงกังโบกมือ “ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเรื่องนี้เรื่องอื้อฉาวน่าอับอายของหมู่บ้านพวกเรา หากแพร่งพรายออกไปจะไม่บรรลัยหมดหรือ?” “ข้ายอมเล่าให้เจ้าฟังแล้ว แต่เจ้าก็อย่าได้คิดจะเอาเรื่องนี้ไปแจ้งต่อทางการเด็ดขาดเชียวนะ ทั้งหมู่บ้านเราไม่มีใครยอมรับเรื่องนี้ได้สักคน บ้านของจ้าวต้าสือก็ถูกทุบทิ้งไปแล้ว แม้แต่ชื่อก็ยังถูกลบออกจากหมู่บ้านด้วยซ้ำไป” เห็นท่าทางนิ่งเฉยราว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1511

    องครักษ์หยางครั้นออกจากห้องไป ก็มิได้รีบร้อนหาคนสอบถามทันที หากแต่ออกไปเดินทอดน่องรอบหมู่บ้านหมิงเยว่หนึ่งรอบ เทียบกับหมู่บ้านกันดารทั่วไปแล้ว หมู่บ้านหมิงเยว่ใหญ่โตกว่าไม่น้อยทีเดียว มิหนำซ้ำในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีร้านรวงที่ขายสินค้าเบ็ดเตล็ดด้วย เขาอาศัยข้ออ้างเลือกซื้อของ เงี่ยหูฟังบทสนทนาของชาวบ้านรอบข้างไปด้วย ปกติแล้วการจะสืบเสาะหาข่าวและข้อมูล ข่าวคราวในสถานที่แบบนี้นี่แหละที่มักจะมีเยอะที่สุด “ผ่านคืนนี้ไปจ้าวต้าเลี่ยงก็คงจะร่ำรวยมั่งคั่งแล้ว วาสนาเช่นนี้แทบไม่เคยเห็นมาก่อนเลย” “เจ้าหมอนั่นวันทั้งวันเอาแต่เกียจคร้านงานการไม่ทำ ไม่รู้ว่าไปได้วาสนาดีเช่นนี้มาจากไหน!”“แบบนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้เมียคนนั้นของเขาด้วยมิใช่หรืออย่างไร? เดิมทีในหมู่บ้านนี้ไม่มีทางที่คนอย่างเขาจะหาผู้หญิงสักคนแต่งงานได้ด้วยซ้ำไป ตอนแรกคิดว่าเมียของเขาดูผอมแห้งแรงน้อย เกรงจะคลอดลูกสักคนหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ”“ใครเล่าจะคิดว่าตนเองจะตาไม่ถึง เมียของเขาไม่เพียงคลอดลูกสำเร็จราบรื่น แต่ยังคลอดออกมาเป็นคู่ฝาแฝดชายหญิงได้อีก!” เห็นสีหน้าอิจฉาเต็มประดาของคนพวกนั้นแล้ว บุรุษผู้หนึ่งซึ่งอยู่ด้านข้างถึง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1510

    หมู่บ้านใหญ่ถึงเพียงนี้ แต่พระชายาฉู่กลับไม่เลือกบ้านใดทั้งสิ้น กลับเลือกบ้านนี้เพียงหลังเดียว หรือว่านางรู้อยู่ก่อนแล้วว่าลูกชายของบ้านนี้ถูกเลือกเป็นผู้สังเวย?“พี่ใหญ่ พวกเราผ่านมาทางนี่ พอจะให้พวกเราพักสักคืนได้หรือไม่?” ฉู่จวินถิงเอ่ยพลางมองไปยังชายร่างใหญ่ในลานบ้าน“ไม่ได้ๆ” จ้าวต้าเลี่ยงปฏิเสธอย่างไม่ลังเล “บ้านข้าไม่มีที่ให้พัก พวกเจ้าไปบ้านอื่นเถอะ!”ฉู่จวินถิงหยิบเงินออกมา “ข้าได้ยินชาวบ้านเอ่ยชมว่าปีนี้พวกท่านดวงดีนัก ข้าเองก็อยากมาแบ่งบุญวาสนาด้วย”เมื่อจ้าวต้าเลี่ยงเห็นเงินแล้วดวงตาพลันทอประกาย รอยยิ้มบนหน้ามีแววลำพองใจขึ้นมา “ปีนี้ทั้งหมู่บ้าน ไม่มีใครจะโชคดีไปกว่าบ้านข้าอีกแล้ว!”“สายตาเจ้าแหลมคมจริงๆ อยากมาพักบ้านข้าชั่วคราวสักคืนไม่ใช่ว่าไม่ได้ แต่ถ้าอยากมาแบ่งโชค เงินแค่นี้ยังไม่พอหรอก”ฉู่จวินถิงเข้าใจทันที รีบหยิบเงินออกมาเพิ่มอีกหนึ่งตำลึง “เช่นนี้พอหรือไม่?”“ได้ๆๆ!” จ้าวต้าเลี่ยงรีบรับเงิน “แต่บ้านข้าเหลือห้องเดียวเท่านั้นนะ”“ไม่เป็นไร ข้านอนพื้นเองก็ได้” องครักษ์หยางรีบตอบ อิงตามที่พระชายาว่าไว้ คืนนี้ไม่มีใครในพวกเขาจะได้นอนจริงๆ คืนนี้ก็คือคืนที่บ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1509

    “แค่ส่งเจ้าไปตาย พวกเขาก็จะได้อยู่อย่างสุขสบายงั้นหรือ?”ซ่งรั่วเจินขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น “เรื่องเช่นนี้มีเหตุผลอันใดกันเล่า? คนทั้งหมู่บ้านเชื่ออย่างไรข้อกังขาเลยหรือ?”“ตอนที่ข้าถูกเลือก นอกจากท่านแม่ที่ร้องไห้อย่างหนัก ท่านพ่อและท่านย่ากลับดีใจมาก พวกเขาพูดว่า…ชีวิตที่ดีของครอบครัวกำลังจะมาถึงแล้ว”“เพราะท่านแม่ไม่ยอมมอบข้าออกไป พวกเขาถึงได้ทุบตีท่านแม่ กักขังไว้ในห้อง ไม่ให้ข้าวกิน ไม่ให้น้ำดื่ม”ดรุณีน้อยนึกถึงภาพในตอนนั้น แววตาสะท้อนแววหวาดกลัว“ตอนนั้นท่านแม่กอดข้าไว้ในอ้อมกอดแน่น ไม่ยอมให้ใครพาตัวข้าไป แต่ท้ายที่สุดข้าก็ถูกพาไปจนได้…”“สิ่งที่ข้าเล่าล้วนเป็นเรื่องจริง เด็กเหล่านั้นที่ถูกเลือก ครอบครัวของพวกเขาล้วนมีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ”“ก็เพราะอย่างนี้แหละ คนทั้งหมู่บ้านถึงเชื่อโดยไร้ข้อกังขา หลายครอบครัวกลับยังภาวนาให้บุตรหลานตนถูกเลือกเสียด้วย แต่คนที่ดีใจเหล่านั้น มักจะเป็นพวกท่านลุงท่านป้าสะใภ้”ดรุณีน้อยเล่าสถานการณ์ภายในหมู่บ้าน ซ่งรั่วเจินฟังแล้วหัวใจพลันเย็นยะเยือกมีเพียงผู้เป็นแม่ที่หวงแหนลูก พ่อและย่าไร้เมตตา เห็นเด็กเป็นเพียงต้นไม้เขย่าเงินตราบใดที่เด็กส

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status