แชร์

บทที่ 99

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“สหายฉิน ซ่งอี้อันเคยหยิ่งผยองในความสามารถของตนเอง พวกเราก็รู้กันดีอยู่แล้ว เจ้าจะเกรงใจเขาไปไย? คนตาบอดเช่นนี้ ไม่แน่ว่าเมื่อใดอาจจะสะดุดล้มตายไปเองก็เป็นได้!”

“ซ่งอี้อัน สหายฉินต่างหากที่เป็นคนถ่อมตนจริง ๆ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ทั้งเมืองหลวงกำลังชื่นชมเรียงความที่สหายฉินเขียน?”

ซ่งอี้อันแสร้งทำเป็นงุนงง “เรียงความอะไรหรือ?”

ฉินเซี่ยงเหิงกำลังจะห้ามเฉียนเหว่ย แต่แล้วก็ได้ยินเฉียนเหว่ยอ่านประโยคที่เป็นจุดสำคัญของเรียงความนั้นออกมา

สีหน้าของซ่งอี้อันเปลี่ยนไปเล็กน้อย “นี่มันเรียงความที่ข้าเขียนชัดๆ!”

เมื่อสิ้นประโยค ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“ซ่งอี้อัน เจ้ายังมียางอายอยู่หรือไม่? นี่เป็นเรียงความที่สหายฉินเขียนชัด ๆ พวกเราเห็นกับตาว่าสหายฉินเขียนขึ้นเอง เจ้าคิดจะมาทึกทักว่าเป็นของตัวเองหรือ?”

“ใช่แล้ว พวกเราทุกคนเห็นกันหมด หรือว่าสหายฉินท่องบทความของเจ้ามาแล้วค่อยเขียนใหม่อย่างนั้นหรือ?” เฉียนเหว่ยเย้ยหยัน

หัวใจของฉินเซี่ยงเหิงสะท้านขึ้นมา เขาอยากจะฉีกปากเฉียนเหว่ยให้ขาดเสียจริง

ไอ้โง่!

“ใช่แล้ว”

ซ่งอี้อันเผยใบหน้าสงบนิ่งและเ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1910

    เซี่ยจือหลานพยักหน้า สีหน้าฉายแววไม่เข้าใจและจนใจ“ก่อนข้าจะออกเรือน ร่างกายข้าแข็งแรงดีมาตลอด แต่หลังจากนั้นไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ร่างกายของยิ่งอ่อนแอลงทุกวัน”“ต้องลมนิดหน่อยก็เป็นหวัดแล้ว เดินไกลนิดหน่อยก็หอบเหนื่อย แผ่นหลังชุ่มเหงื่อเย็น ทั้งที่พบหมอแล้ว อีกทั้งยังบำรุงร่างกายตลอดไม่ขาด ทว่าจนตอนนี้อาการก็ไม่ดีขึ้นเลย”“หลังจากให้กำเนิดชูเสวี่ย ร่างกายก็ยิ่งแย่ลงถึงขีดสุด แม้แต่หมอยังชี้ขาดว่าร่างกายของข้า ต่อจากนี้ไม่สามารถตั้งครรภ์ให้กำเนิดบุตรได้อีกต่อไปแล้ว”เซี่ยจือหลานโศกเศร้าสุดดวงใจ แม้ว่าเงินที่นางถือในมือตอนนี้จะมากพอให้ใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วมันจะมีประโยชน์อันใดกันเล่า?ร่างกายแบบนี้ แม้แต่นางยังกลัวว่าตนเองจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกไม่นานด้วยซ้ำไป วันข้างหน้าคงดูแลชูเสวี่ยให้ดีไม่ได้แล้วเซียวเหวินยวนได้ยินคำพูดของเซี่ยจือหลานเช่นกัน ความจริงแล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา เขารู้สึกว่าน้องสะใภ้คนนี้ของตนเองบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเกินไป หลับหูหลับตาเชื่อฟังคำสั่งของมารดาและน้องรองอย่างไร้วิจารณญาณทั้งที่หลายเรื่องสามารถตัดสินใจด้วยตนเองได้แท้ ๆ แต่น

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1909

    ซ่งรั่วเจินมองกิริยาท่าทางของเซี่ยจือหลานและเซียวเหวินยวน ก่อนจะมองสายตาตื่นตะลึงของบรรดาชาวบ้านรอบ ๆ อีกครั้ง แววตาของนางพลันฉายประกายประหลาดใจออกมาจริงดังคาด คนที่สมองมัวแต่หมกมุ่นเรื่องความรักขอเพียงรักษาหายดี ก็จะฉลาดขึ้นมาทันทีทันตาเซี่ยจือหลานได้รับความกรุณาจากพวกเขา จึงอยากทำอะไรบางอย่างเพื่อพวกเขาบ้าง“รัชทายาทและพระชายารัชทายาทมีจิตใจเมตตาดั่งโพธิสัตว์จริงแท้ หากไม่ได้พวกท่าน เรือนรองสกุลเซียวคงพินาศย่อยยับไปแล้ว”“สกุลเซียวทำอะไรไม่เคยละเอียดรอบคอบเลยจริง ๆ ก่อนหน้านี้พลิกแผ่นดินหาอยู่นานก็ไม่เจอ เคราะห์ดีที่พระชายารัชทายาทตามตัวจนพบและกลับมาได้”ชื่อเสียงและความนิยมของฉู่จวินถิงในใจราษฎรดีมาตลอด นับแต่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาท ก็ไม่มีเสียงคัดค้านใดดังขึ้นอีกเลยและทุกอย่างที่ทำตอนนี้ ยิ่งกลายเป็นคุณูปการหนุนนำเขาทั้งสิ้น“รีบเชิญเข้าไปข้างในจวนเถิด” เซี่ยจือหลานเอ่ยอย่างกระตือรือร้นหลายวันมานี้นางเอาแต่เก็บตัวอยู่ในจวนบอกว่าต้องการพักฟื้นร่างกาย อย่าว่าแต่สามีใจทรามของนางกับหลูเฟยคนนั้นเลย แม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่าเซียวนางก็ไม่ยอมออกมาพบด้วยซ้ำไปบอกเพียงรู้สึกไม่สบาย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1908

    เซียวเหวินเช่อหน้าถอดสีในเสี้ยวพริบตา ไม่รอช้าก็รีบแก้ตัวทันใด “รัชทายาทเข้าใจผิดแล้ว กระหม่อมเพียงแค่รู้สึกตื่นตะลึงที่พระชายารัชทายาทมีความสามารถเก่งกาจปราดเปรื่องถึงเพียงนี้ จึงอดไม่ได้เผลอมองมากไปสองครา มิได้มีความหมายอื่นใดพ่ะย่ะค่ะ”“ก็ดีแล้วที่เจ้าเป็นเช่นนั้น” ฉู่จวินถิงแววตามืดครึ้ม ดวงหน้าหล่อเหลาคมคายไม่แฝงรอยยิ้มไว้แม้แต่น้อยซ่งรั่วเจินเหลือบสายตามองไปยังฉู่จวินถิงอย่างอดไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาถึงเพียงนี้ไม่มีปิดบังแม้แต่น้อยฮูหยินผู้เฒ่าเซียวที่อยู่ด้านข้างเองก็ลนลานไม่ต่างกัน รีบเข้าไปคุกเข่าลง พร้อมเอ่ยว่า“รัชทายาท พระชายารัชทายาทได้โปรดประทานอภัย!”“เหวินเช่อ…เหวินยวนเขาเพียงดีใจมากเกินไปที่ได้เห็นน้องชายแท้ ๆ กลับมา เขาเป็นคนที่มักทำหน้าเคร่งขรึมอยู่เป็นนิจ ต่อให้เขาไปกินดีหมีหัวใจเสือมาก็ไม่กล้าคิดร้ายต่อพระชายารัชทายาทหรอกเพคะ!”เอ่ยพลาง ฮูหยินผู้เฒ่าเซียวก็ยื่นมือออกไปดึงชายเสื้อของเซียวเหวินเช่อเบา ๆ แววตาสะท้อนแววตักเตือนออกมาก่อนหน้านี้ตอนเจ้าใหญ่ตาย นางไม่มีทางเลือก และในเมื่อเจ้ารองยืนกรานจะทำเช่นนี้แล้วนั้น ในฐานะมารดา นางเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1907

    เซียวเหวินเช่อเห็นเซี่ยจือหลานคอยถามไถ่พี่ใหญ่ของตนเองอย่างเอาอกเอาใจ มิหนำซ้ำยังหยิบยื่นของที่ตนเองโปรดปรานให้พี่ใหญ่จนหมด ในใจเขานั้นรู้สึกขุ่นเคืองอย่างบอกไม่ถูกยิ่งไปกว่านั้นหลังจากพี่ใหญ่คนนี้ของเขาความจำเสื่อม ก็ดูเหมือนจะยอมรับว่าตนเองคือเซียวเหวินเช่อ ไม่มีเคลือบแคลงสงสัยแม้แต่น้อยเขายอมรับมันราวกับสิ่งนั้นเป็นเรื่องถูกต้อง!ไม่เพียงยอมรับทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ยังยอมรับภรรยาและบุตรสาวของเขาด้วย!“บัดซบ เหตุใดจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้?”เซียวเหวินเช่อนึกเสียใจขึ้นมา ตอนแรกที่ยังหาศพของเซียวเหวินยวนไม่เจอสักที เขาก็รู้สึกร้อนรุ่มกระวนกระวายใจมากอยู่แล้วต่อมาหลังจากพบศพแม้เบาใจได้ไปเปลาะหนึ่ง แต่ก็ยังคงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติบัดนี้ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนกระจ่างแล้ว โอกาสงดงามเพียงนั้นเขากลับคว้ามันเอาไว้ไม่ได้ บัดนี้เซียวเหวินยวนกลับมาแล้ว โอกาสที่มีก็ยิ่งไม่เหลือสุดท้าย เซียวเหวินยวนก็รอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ไม่รู้ว่ามีสักกี่สายตาที่กำลังจับจ้องอยู่ หากอยู่ดี ๆ มาตายตอนนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องสงสัยว่ามีบางอย่างผิดปกติแน่ไม่เพียงเท่านี้ เซี่ยจือหลานยังเชิญรัชทายาทและพระชายา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1906

    “พวกเราอย่ามัวคุยกันข้างนอกเลย รีบเข้าไปข้างในเถิด”“ร่างกายท่านเพิ่งจะดีขึ้นเพียงเล็กน้อย หมอบอกว่าไม่ควรรับลม ด้านนอกนี้ลมแรงเกินไป”เซี่ยจือหลานรู้สึกปลาบปลื้มเต็มหัวใจ ทั้งตัวมีแต่ความพึงพอใจหาใดจะเปรียบเทียบได้ รอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมชัดเจนบนใบหน้า ใครเห็นก็มองออกว่ากำลังดีใจเพียงใด“ดีเลย ทุกอย่างทำตามที่ฮูหยินว่าเถิด”เซียวเหวินยวนยิ้มรับ นับแต่เขาได้พบกับเซี่ยจือหลาน ทั้งสองได้หารือกันเรียบร้อยดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบลักขื่อเปลี่ยนเสาสวมรอยเก่งกันนัก เช่นนั้นไม่สู้แสดงละครตามน้ำพวกเขาไปเลยเป็นอย่างไรเซียวเหวินเช่อกล้าทำแบบนี้ ก็เพราะมั่นใจว่าเซียวเหวินยวนตายไปแล้ว และผลประโยชน์ของทั้งเรือนใหญ่และเรือนรองจะต้องตกมาที่เขา ดังนั้นถึงได้เลือกสวมรอยเปลี่ยนตัวตนเป็นอีกคนแบบนี้ทว่าบัดนี้เขากลับมาแล้ว เช่นนั้นก็ถือโอกาสนี้ยึดตัวตนของเจ้าน้องรองแทนเลยแล้วกันเขาเองก็อยากจะรู้นัก คนที่มีบุญวาสนาแต่ไม่รู้จักบุญวาสนาอย่างเจ้าน้องรองจะรู้สึกเสียใจหรือไม่ หากตระหนักได้ว่าสิ่งของทั้งหมดที่ควรจะเป็นของเขามาตั้งแต่แรกและเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนพากันอิจฉาต้องถูกตนเองแย่งชิงไปภายหลังแบบนี้?แ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1905

    “ความจำเสื่อม?”ฮูหยินผู้เฒ่าสบตากับเซียวเหวินเช่อตัวจริงแวบหนึ่ง ก็ลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกในเมื่อความจำเสื่อมก็หมายความว่าตอนนี้จะไม่มาคุมเชิงพวกเขา และเรื่องโกหกของพวกเขาก็จะไม่ถูกเปิดโปง ซึ่งทำให้พวกเขาวางใจลงมาได้บ้างเพียงแต่ ตอนนี้ความจำเสื่อมก็จริง แต่ใครเล่าจะรู้ว่าหลังจากนี้ความทรงจำของเขาจะกลับคืนมาหรือไม่ สุดท้ายแล้วมันก็คือระเบิดเวลาลูกหนึ่ง!เซี่ยจือหลานพยักหน้า “ท่านพี่ลืมหลายอย่าง ทว่าตอนที่เขาเห็นข้า เขาบอกว่ารู้สึกคุ้นเคย ตอนนั้นข้าก็รู้ทันทีในใจของเขาจะต้องคิดถึงข้าอยู่อย่างแน่นอน”เอ่ยพลาง เซี่ยจือหลานก็เผยรอยยิ้มปลื้มปริ่มยินดีออกมาบนใบหน้า พลางกวักมือเรียกเซียวชูเสวี่ยเข้ามาใกล้ ๆ“ชูเสวี่ย ท่านพ่อเจ้ากลับมาแล้ว ยังไม่รีบเรียกท่านพ่ออีกหรือ?”เซียวชูเสวี่ยจ้องมองดวงหน้าซึ่งยังคงเหมือนเดิมทุกประการตรงหน้า ในใจครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ นางไม่มีความลังเลใจแม้เพียงเสี้ยวขณะ เปล่งเสียงเรียกคนตรงหน้าอย่างหวานใสว่า“ท่านพ่อ ท่านกลับมาแล้วช่างดีเหลือเกิน!”“ลูกกับท่านแม่คิดถึงท่านแทบแย่ เห็นท่านพ่อกลับมาแล้วแบบนี้ ลูกดีใจที่สุดเลยเจ้าค่ะ!”

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status