บทที่6
ฟางเหนียงกลับมาบ้านหลังจากเรียนที่มหาวิทยาลัยวันสุดท้าย ทุกอย่างผ่านไปด้วยความวุ่นวายกับการเรียนและพบปะเพื่อนฝูง ใจเธอยังมีความคิดเรื่องแผนการในอนาคตที่ต้องคุยกับไห่ฮวนอีกมากมาย เมื่อกลับถึงบ้าน เธอพบว่าไห่ฮวนกำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่ในครัว ชายหนุ่มหันมายิ้มเมื่อเห็นเธอเข้ามา
“เหนื่อยไหมครับ วันนี้ที่มหาวิทยาลัยเป็นยังไงบ้าง” เขาถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เหนื่อยเท่าไรค่ะ แค่ยุ่ง ๆ นิดหน่อย” ฟางเหนียงตอบพร้อมกับถอดเสื้อคลุมและวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ฟางเหนียงและไห่ฮวนนั่งลงที่ห้องนั่งเล่น ฟางเหนียงเริ่มต้นพูดถึงแผนการที่เธอคิดไว้
“ไห่ฮวนค่ะ ฉันคิดว่าเราน่าจะเริ่มต้นธุรกิจเล็ก ๆ ด้วยกันนะคะ เราสามารถใช้สิ่งที่เรามี เช่น การล่าสัตว์และการขายสินค้าท้องถิ่น เพื่อเริ่มต้น” ฟางเหนียงกล่าวด้วยความมุ่งมั่น
“จะขายอาหารป่าอย่างนั้นเหรอ” ไห่ฮวนย้อนคำพูดของภรรยา
ฟางเหนียงพยักหน้ารับ “ฉันมีสูตร”
ชายหนุ่มที่ไม่เคยปล่อยให้ภรรยาทำอะไรเลยแม้แต่งานบ้านก็ทำหน้าไม่แน่ใจ แต่เพราะเขาเป็นคนที่ยอมฟางเหนียงทุกอย่างจึงบอกว่าจะไปหาต้นทุนมาให้แต่ ภรรยาคนสวยกลับบอกว่าเธอมีต้นทุนอยู่แล้ว ที่อยากได้จากคนเป็นสามีก็แค่แรงงานมากกว่า
“คุณว่าหมูป่านั้นหากจะล่าให้ได้บ่อย ๆ ยากไหม แล้วยังสัตว์อื่น ๆ อีก”
และแน่นอนว่าถึงแม้จะยากหรือไม่ยาก ไห่ฮวนก็รับปากภรรยาแทบจะทันที
“ไม่ยากหรอก ผมจัดการให้คุณแค่บอกสิ่งที่อยากได้ หรือบางครั้งอาจจะได้ของที่ไม่ได้อยากได้”
“เราทุนน้อยควรเริ่มจากสิ่งที่เรามีก่อน”
ไห่ฮวนพยักหน้า “ผมเห็นด้วยครับ เราเริ่มจากสิ่งที่เรามีและค่อย ๆ ขยายต่อไปได้ ผมยินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อสนับสนุนคุณ”
“เราน่าจะเริ่มจากการหาข้อมูลตลาดในหมู่บ้านก่อนว่ามีความต้องการสินค้าอะไรบ้าง แล้วค่อยวางแผนการผลิตและการขายดีไหมคะ” ฟางเหนียงเสนอ
“ผมจะไปคุยกับชาวบ้านและหาข้อมูลให้มากที่สุด” ไห่ฮวนตอบกลับด้วยความตั้งใจ
ฟางเหนียงรู้สึกอุ่นใจที่มีไห่ฮวนเคียงข้าง เธอรู้ว่าการทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความร่วมมือและความตั้งใจ ทั้งสองจะสามารถประสบความสำเร็จได้
วันต่อมา ไห่ฮวนและฟางเหนียงเริ่มทำการสำรวจตลาดในหมู่บ้าน พวกเขาพบว่ามีความต้องการสินค้าอาหารท้องถิ่นที่สดใหม่และสินค้าหัตถกรรม ฟางเหนียงเริ่มคิดถึงการขยายธุรกิจไปยังหมู่บ้านใกล้เคียง
เมื่อกลับมาบ้าน ทั้งสองคนเริ่มวางแผนอย่างละเอียด ทั้งการจัดการผลิตภัณฑ์ การตลาด และการเงิน ไห่ฮวนใช้ความรู้และประสบการณ์ในการล่าสัตว์และการค้าขาย ฟางเหนียงใช้ความรู้จากการเรียนและการอ่านหนังสือเพื่อวางแผนธุรกิจ
“เราเริ่มจากเล็ก ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ ขยายไปยังตลาดที่ใหญ่ขึ้น” ฟางเหนียงสรุป
“ผมมั่นใจว่าเราจะทำได้” ไห่ฮวนกล่าวด้วยความมั่นใจ
ฟางเหนียงรู้สึกตื่นเต้นและมีความหวัง เธอรู้ว่าอนาคตของเธอและไห่ฮวนจะต้องสดใสและเต็มไปด้วยความสำเร็จ ทั้งสองคนเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับทุกความท้าทายที่เข้ามา ด้วยความมุ่งมั่นและความรักที่มีต่อกัน
ทั้งสองคนพร้อมที่จะเผชิญกับทุกความท้าทายและสร้างชีวิตที่ดีไปด้วยกัน ฟางเหนียงรู้สึกว่าตัวเองได้พบกับความสุขและความสมหวังในชีวิตใหม่ที่เธอสร้างขึ้นด้วยตัวเองและไห่ฮวน
บทที่31ฤดูเปลี่ยนครั้งแล้วครั้งเล่าจนตอนนี้ผมที่เคยยาวสลวยก็เริ่มมีสีขาวแซม ทั้ง ๆ ที่นี่เป็นการแก่อีกครั้งของฟางเหนียง แต่เธอกลับไม่ได้รู้สึกไม่ดีตรงไหนหญิงชราพิงไปที่ไหล่ของชายชราข้าง ๆ เธอ ““เมื่อยไหมคะ” เธอถาม “ไม่เมื่อยหรอกเพื่อคุณผมทำได้อยู่แล้ว” ลูก ชายคนโตพาภรรยาและหลานมาเยี่ยมพ่อแม่ก็ต้องเลี่ยนกับความรักที่หวานมาก ๆ ของทั้งคู่“อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้แล้วยังไม่เลิกหวานกันอีกเหรอครับ” ลูกชายคนโตถามอย่างสงสัย ““หันไปถามลูกสะใภ้สิว่าอีกสิบยี่สิบ หรือห้าสิบปีอยากอยู่กับเราแบบนี้ไหม” ไห่ฮวนถามลูฟางกชายฟางเหนียงหลุดหัวเราะไห่ฮวนในตอนนี้ช่างไม่คุ้นชินในความรู้สึกของเธอเลยแม้แต่น้อย ปกติแล้วอีกฝ่ายจะไม่ปากจัดแบบนี้ แต่พออายุมากขึ้นคงเป็นความกล้าที่จะพูดเรื่องที่อยู่ในใจมากขึ้นหรือเปล่าเจ้าตัวถึงได้ดูเหมือนจะขี้บ่นมากขึ้นแต่ไม่ใช่ว่าเธอไม่ชอบนะ “อย่าแกล้งลูกสิคะ” ฟางเหนียงห้ามสามี “ลูกก็แค่อิจฉาคุณเท่านั้นน่ะแหละ” และเพราะคำนั้นก็ทำให้ไห่ฮวนข่มลูกชายได้อีกครั้ง “เอาเถอะครับผมยอมแล้ว ว่าแต่น้องมาเมื่อกี้ไปไหนแล้วล่ะครับ” พี่ชายคนโตที่นาน ๆ จะได้กลับมาเจอกับน้องสาวเอ่ยถาม ““
บทที่30ฟางเหนียงถูกรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที เธอได้แต่คิดว่าถ้าเธอเข้าไปในนิยายยุคปัจจุบันสามีของเธอคงเข้ามาในห้องคลอดกับเธอด้วยได้ แต่ตอนนี้คงทำได้แต่เดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องคลอดเท่านั้น“อาไห่เป็นอย่างไรบ้าง” พ่อของฟางเหนียงได้ยินว่าลูกสาวจะคลอดก็เร่งลางานกลับมา ก่อนจะมาก็แวะรับคนเป็นแม่จากร้านอาหาร ซึ่งบรรดาลูกจ้างทุกคนก็ต่างตื่นเต้นกันใหญ่ที่รู้ว่าเจ้านายของพวกเธอและเขากำลังจะคลอดลูกไม่เว้นแม้แต่พ่อแม่ของไห่ฮวนที่มาถึงที่บ้านก็เจอกับป้าข้างบ้านบอกให้มาที่โรงพยาบาลทั้งสองกับหลานอีกคนก็เร่งมาที่โรงพยาบาลพอดี“อาฮวน ลูกสะใภ้แม่เป็นอย่างไรบ้าง” ไห่ฮวนส่ายหน้าเพราะเขาไม่รู้ “ยังอยู่ในห้องเลยครับ “เอาไว้ผมค่อยแนะนำทุกคนนะครับ ตอนนี้ผม...” ทุกคนตบไหล่ชายหนุ่ม นั่นก็เพราะความตื่นเต้นที่ไห่ฮวนมีทุกคนรู้ดีว่ามันเป็นอย่างไร ต่างก็เคยได้ท้องได้คลอดกันมาแล้ว ยกเว้นแต่หลานที่ถูกพามาด้วยที่ค่อนข้างจะตื่นตาตื่นใจกับทุกอย่างไปหมด“อุแว้ อุแว้” เสียงของเด็กที่ร้องดังลั่นห้องทำให้ไห่ฮวนหันมาบอกกับทุกคน “นั่นเสียงลูกผม เสียงลูกผมแน่ ๆ” ชายหนุ่มพูดอย่างยินดี เขาตื่นเต้นจนแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว ไม่นานน
บทที่29ตั้งแต่หญิงสาวเริ่มท้องไห่ฮวนก็ดูแลเธอดีมาก ๆ อีกฝ่ายแทบจะอุ้มเธอไปอาบน้ำและจัดการทุกอย่างให้เลยด้วยซ้ำ เล็บเท้าก็จัดการตัดให้ ทั้งยังนวดขาให้บ่อย ๆ เพราะรู้ว่าเธอเมื่อย ทุกอย่างที่ไห่ฮวนทำมันทำให้เธออดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบตอนที่คบอยู่กับเฟิ่งหลุน แม้ว่าอีกฝ่ายจะถูกตัดสินไปแล้ว เธอไม่ได้สนใจหรอกว่าตัดสินว่าอย่างไร แค่เฟิ่งหลุนได้รับผลของการกระทำนั่นก็ดีแล้ว ดีสำหรับทุกคนตอนที่เธอท้องชาติก่อน เธอมีแต่ความรู้สึกแย่ ๆ ต่างกับตอนนี้ที่มีแต่รอยยิ้มในทุกวัน กิจการดี พ่อแม่ก็มีความสุข แม้แต่คนของครอบครัวสามีก็มีความสุข“แม่บอกว่าถ้าคุณคลอดเธอจะมาที่นี่” ฟางเหนียงยอมรับว่าตกใจมาก ๆ ที่ได้ยินอย่างนั้น “แล้วคุณแม่ของคุณจะเดินทางคนเดียวได้เหรอ”“จะได้อย่างไรกันล่ะ พ่อไม่มีทางยอมหรอก ก็คงจะมาด้วย แล้วก็ให้หลานคนโตดูแล โชคดีที่พวกเขามีลูกก่อนหน้านี้ไม่ต้องถูกบังคับให้มีคนเดียว”ฟางเหนียงอยากบอกว่าอีกสิบกว่าปีเดี๋ยวพวกเราก็มีได้อีก ก็ดีเหมือนกันห่างจากคนแรกประมาณสิบปีแต่ไม่รู้ว่าถึงวันนั้นเธอจะยังสามารถมีลูกได้ไหม“สักวันอาจจะมีการเปลี่ยนกฎก็ได้นะคะ” ไห่ฮวนพยักหน้า“ก็อาจจะเป็นไปได้” เ
บทที่28ฟางเหนียงใช้เวลาที่นี่ส่วนใหญ่ในการสอนทุกคนที่อยากเรียนให้ทำเนื้อแห้งแล้วใส่ถุงที่จริงแค่เพียงทำลงไปขายในเมืองข้างล่างวันแรกก็ขายหมดในทันที“สูตรนี้อร่อยจริง ๆ และยังเก็บเอาไว้ทยอยกินได้ด้วย คิดเองเหรอ” ฟางเหนียงไม่เอาความดีเข้าตัว“ซื้อมาจากร้านที่เมื่อก่อน ไห่ฮวนเขาส่งเนื้อให้ค่ะ ร้านที่พวกเราเซ้งมา” คนเป็นพ่อสามีพยักหน้า“อย่างนี้ก็ดีเนอะ ขอบใจหนูมากนะ ลูกชายของพ่อมันซื่อบื้อ หากไม่มีหนูก็ไม่รู้จะมีวันนี้ได้หรือเปล่า” ฟางเหนียงส่ายหน้า “ที่จริงเขาเป็นคนมีความสามารถและนิสัยดีมากนะคะ” หญิงสาวชื่นชมสามีของตัวเองไห่ฮวนที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องก็ชะงักเพื่อแอบฟัง“เพียงแต่ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าสิ่งที่เขามีมันไม่มีค่าอะไร ทั้ง ๆ ที่มันหาค่าไม่ได้ ทั้งความสามารถที่เขามีหรือแม้แต่ของในบ้านรวมถึงครอบครัวที่นี่ด้วย” คนอื่น ๆ ที่ได้ฟังก็พยักหน้าตาม“จะว่าไปความคิดหนูนี่เป็นผู้ใหญ่ดีจังเลยนะ” ฟางเหนียงแอบยิ้มจะไม่เป็นผู้ใหญ่ได้อย่างไร เธอใช้ชีวิตที่แย่มาก่อนแล้ว แย่ตั้งแต่ต้นจนจบ และตอนนี้ได้ใช้ชีวิตอีกครั้ง แก่กว่าทุกคนในห้องอีกมั้งอายุความคิดของเธอเนี่ยแต่ไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ไม่
บทที่27“ผมเฝ้ามองคุณมานานขนาดนี้จะไม่รู้ได้อย่างไงว่าคุณเป็นคนยังไง เหนื่อยไหม ตรงด้านหลังมีน้ำตกนะได้ยินเสียงไหม ที่พ่ออยากให้พักที่นี่ก็คงเพราะน้ำตกนั่นแหละ” ทั้งสองเก็บของก่อนจะไปเล่นน้ำตกแม้ว่าจะบอกว่านี่คือการมาเยี่ยมบ้านของไห่ฮวน แต่แท้จริงแล้วเป็นการมาผ่อนคลายซะมากกว่า “แย่แล้วสิ อยากอยู่ที่นี่นาน ๆ เลย” ตอนแรกคิดอย่างนั้นแล้ว แต่ยิ่งอยู่ ๆ ไป ที่จริงก็ยังไม่ถึงวัน แต่ก็ไม่อยากกลับซะแล้ว“มนตร์เสน่ห์ของชนบทมั้ง มันไม่วุ่นวายเหมือนหมู่บ้านที่เราอยู่คุณว่าไหม” ฟางเหนียงเห็นด้วยกับคำของสามี “แต่ถ้ามีลูก อยู่ในเมืองก็จะมีโรงเรียนที่ดี”“ยังไม่มีสักคนเลยนะ คิดเรื่องนี้แล้วเหรอ” ฟางเหนียงหันมายิ้มอาย ๆ ให้กับสามี “ถ้าอย่างนั้นก็รีบ ๆ มีสิคะ” เธอไม่ได้อยากจะยั่วเขาหรอก แต่เธอกลัว กลัวว่าสักวันหากเขาจากไปก่อน หรือเธอจากไปก่อน เราคนใดคนหนึ่งจะเหงา ถ้ามีลูก พวกเขาก็คงจะอยู่เป็นเพื่อนพ่อแม่เขา คงไม่เหมือนตอนเธอที่ต้องตายเพียงลำพัง“ผมสัญญาเลยปีหนึ่งผมจะทำให้คุณท้องให้ได้” ฟางเหนียงตาโต ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวกลับเข้าไปในเรือน แน่นอนว่าไม่มีใครรบกวนพวกเขาน
บทที่26“อาฮวนแม่คิดถึงจังเลย หน้าตาเปลี่ยนไปหมดจนแม่จำแทบไม่ได้แล้ว หล่อกว่าพ่อของเราตอนหนุ่ม ๆ อีกนะเนี่ย” คนเป็นแม่เมื่อเห็นลูกชายที่ไม่ได้เจอกันนานก็ร้องไห้ออกมา “หนูคงเป็นภรรยาอาฮวนสินะ ฟางเหนียงใช่ไหมลูก น่ารักสวยจริง ๆ ตอนเด็กว่าสวยแล้วยิ่งโตยิ่งสวย”“เก่งด้วยนะครับแม่ แม่ครับลุงถังมาส่งพวกเราที่นี่”“พ่อลุงถังมาส่งลูกเอาข้าวสารให้เขาสักกระสอบสิ ค่ารถเท่าไรก็ไม่คุ้มหรอกกว่าจะมาถึงนี่ได้ มานี่มาลูกสะใภ้ของแม่ไปไหว้คุณปู่กับคุณย่าด้วยกันนะคะลูก” ไห่ฮวนกับพ่อของเขามองแม่ที่ดูจะดีใจเป็นพิเศษที่สะใภ้สวยก็เร่งพาทุกคนไปที่ห้องของปู่กับย่า“หลาน ๆ ทุกคนจำพี่ฮวนได้ไหม แล้วนี่น้าสะใภ้”“โหสวยอย่างกับเทพธิดา”“พูดอย่างนี้เคยเห็นหรือไง” ฟางเหนียงอดหัวเราะไม่ได้กับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น “เป็นอย่างนี้กันทุกวันไหมคะ” หญิงสาวอดถามไม่ได้ “ก็อย่างนี้นั่นแหละ อยู่กันหลายคน ต่างคนต่างแย่งกันพูด”“แต่แม่เราเขาพูดมากสุด” คนเป็นพ่อกระซิบเบา ๆ ซึ่งคิดว่าถ้าแม่ได้ยินจะต้องโดนดีเป็นแน่บรรยากาศทั้งหมดไม่เหมือนกับที่ฟางเหนียงคิดเอาไว้เลย เธอคิดว่าที่นี่จะต้องเหมือนกับชนบทหลาย ๆ ที่ที่เคยเห็นผ่านรูป แต